ชนบท168 ศูนย์รวมวัตถุมงคล พระป่ากรรมฐานและพระบ้านเกจิขลัง

พระผงผสมเกศา ปางปฐมเทศนา หลังพญาครุฑ พระอาจารย์วราห์" วัดโพธิ์ทอง กทม. ให้บูชา200บ.

หากพูดถึงพญาครุฑ ผู้ที่มีความสนใจในเรื่องสายมูเตลู ย่อมนึกถึง ความศีกดืสิทธิ์ทางด้านโภคทรัพย์ เดชอำนาจ และย่อมต้องนึกถึง เกจิอาจารย์ที่เรียกได้ว่า เป็นผู้ที่สร้างพญาครุฑ ที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคปัจจุบัน นั่นคือ พระครูวิศิษฏ์วิทยาคม หรือ พระอาจารย์วราห์ ปุญญวโร แห่ง วัดโพธิทอง ย่านพระราม 2 กรุงเทพฯ

ท่านพระอาจารย์วราห์ ได้สร้าง องค์ "พญาครุฑ" เพื่อให้ผู้มีความศรัทธาแรงกล้าได้บูชาวัตถุมงคลเพื่อเป็นเป็นสิริมงคลแด่ชีวิต ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดโพธิ์ทอง ทำให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และมีลูกศิษย์ที่ศรัทธาอย่างกว้างขวางอยู่ทั่วประเทศ ท่านจึงได้รับสมญานาม “ตำนานสร้างองค์พญาครุฑ ผู้ทรงอิทธิ์ แห่งวัดโพธิ์ทอง”

พญาครุฑของท่านมีการเล่นหากันตั้งแต่หลักพันถึงหลายๆแสนบาท สำหรับรุ่นนี้เอาไปบูชาแทนได้ครับ ราคาเบาหวิว

 

รูปเหมือนรุ่น"โตครเหล็กไหลมหาบารมี"หลวงพ่อบุญมา กตสาโร สำนักสงฆ์หนองตะเคียน จ.บุรีรัมย์ ปี๖๑ ปิดรายการครับ

มวลสารธาตุกายสิทธิ์เหล็กไหลพลังโลกธาตุมากกว่าร้อยชนิด ผสมบดลงเป็นเนื้อเดียวกันขึ้นชื่อว่ามวลสารเหล็กไหลพลังโลกธาตุสุดอัศจรรย์แห่งโคตรเหล็กไหล...ด้านหลังฝังธาตุศักดิ์สิทธิ์3ชนิด

๑.เหล็กไหลท้องปลาไหล ...เหล็กไหลท้องปลาไหล..เป็นความเชื่อกันว่าเป็นแร่ธาตุกายสิทธิ์..ที่มีคุณวิเศษเหมือนเหล็กใหล..มีอานุภาพปกป้องและป้องกันได้สารพัด..ไม่มีข้อห้ามใด ๆ ทั้งสิ้น..ไม่มีวันเสื่อม..ไม่มีอำนาจใด ๆ มาลบล้างได้..นอกจากอำนาจกฎแห่งกรรม..เชื่อว่าสามารถปกป้องและป้องกัน..สิ่งที่เป็นอัปมงคลต่าง ๆ..ไม่ให้เข้ามาถึงตัวกับผู้ที่พกพาได้...และยังมีความเชื่อกันว่า..เมื่อมีเหล็กไหลท้องปลาไหลแล้วผู้นั้น..จะเป็นผู้ที่เพิ่มโชค..เพิ่มลาภ..เพิ่มวาสนา..และที่สำคัญสุด ๆ..จะหนุนดวง..เสริมดวง..และจะพลิกดวง..จากร้ายกลับกลายเป็นดี..จากดีให้ดียิ่งขึ้น..สุด ๆ

๒.เหล็กไหลสุริยันต์ราชา ...เหล็กไหลสุริยันราชา เป็นเหล็กไหลที่มีธาตุไฟสูง มีพุทธคุณเด่นด้าน อำนาจ ตะบะเดชะบารมี เมตตามหานิยม เสน่ห์ค้าขาย โชคลาภ เเคล้วคลาด เสริมสมาธิ เพิ่มไฟกระตุ้นการทำงาน ปรับธาตุในร่างกายให้สมดุล ป้องกันมนต์ดำ 108 ประการ

๓.วัชระธาตุ-หยาดน้ำฟ้า ...หรือเหล็กนิพพาน จะเข้าไปบั่นทอนอาสวะกิเลสที่เกิดขึ้นของผู้ฅนที่อยู่รอบข้าง ผู้ที่อยู่ใกล้ตัว ให้สภาวะแห่งกิเลสนั้นค่อยๆดับลงไป ทำให้ปัญญาต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น ทั้งในหน้าที่การงาน และครอบครัว ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดหมดปัญหาลงไป พูดจากันเข้าใจ และทำให้จิตไม่คิดเกินใจ ไร้อารมณ์แห่งการย้ำคิดย้ำทำ ธาตุกายสิทธิ์ชนิดนี้ มีเมตตา ๑,๐๐๐ % คุ้มครอง ๑,๐๐๐ % โชคลาภ ๑,๐๐๐ % มีบารมีในทุกๆด้าน แล้วแต่ผู้ที่ครอบครองจะอธิษฐาน ธาตุนี้เป็นเพียงธาตุเดียวที่เป็นยอดแห่งแห่งพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เทวคุณ พรหมคุณ และอริยะคุณ แห่งสัมมาทิฏฐิบารมี ดูแลรักษาอริยะธาตุอยู่ตลอดเวลา เป็นสุดยอดแห่งธาตุที่มีอยู่ในจักรวาล ที่สามารถหลอมละลายธาตุได้

เลี่ยมพลาสติกกันน้ำพร้อมบูชาขึ้นคอได้เลยครับ

 

ขอจองครับ

 

พระสมเด็จสิริโลกนาถ พิมพ์ฐานแซม ลป.หมุน ร่วมเสก ผสมผงสมเด็จเก่าวัดระฆัง ปี2536 ปิดรายการครับ

วาจาสิทธิ์ของหลวงปู่หมุน ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ.. " ของๆฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะ หมุนโชคหมุนลาภ ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจน ประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง เจริญลาภยศสรรเสริญ จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย

พระสมเด็จสิริโลกนาถ สร้างโดยผสมผงพระสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักเป็นมวลสารหลัก และยังมีส่วนผสมนอกเหนือจากที่กล่าวไป คือ ผงหลวงพ่อเกษม เขมโก จ.ลำปาง , ผงหลวงพ่อดาบส สุมะโน จ.เชียงราย , ผงหลวงปู่ครูบาน้อย วัดบ้านปง จ.เชียงใหม่ , ผงหลวงปู่สิม พุทธาจาโร จ.เชียงใหม่ , ผงหลวงปู่ดวงดี วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ , ผงครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง จ.เชียงใหม่ , ผงหลวงปู่หล้าตาทิพย์ จ.เชียงใหม่ , ผงหลวงปู่แก้ว จ.เชียงใหม่ , ผงว่าน 108 ครูบาศรีวิชัย รุ่นสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ฯลฯ

พระรุ่นนี้ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก ถึงสองวัดใหญ่ เมื่อปี2536
โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2536 ณ วัดระฆังโฆสิตาราม พระราชาคณะสวดชินบัญชร 9 จบ
ครั้งที่2 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2536 ณ พระอุโบสถวัดสระเกศฯ พระเกจิร่วมเสกมากมาย รวมทั้งหลวงปู่หมุนด้วยครับ จัดว่าเป็นพระที่มวลสารดีมากๆ พิธีก็สุดยอดครับ พุทธาภิเษกครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2536 ณ พระวิหารสมเด็จพุฒาจารย์(โต) วัดระฆังโฆสิตาราม กทม.โดยพระราชาคณะได้สวดพระธรรมจักกัปวัตนสูตรแล้วสวดพระคาถาชินบัญชร 9 จบ
พุทธาภิเษกครั้งที่สองเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2536 ณ พระอุโบสถวัดสระเกศ กทม.มีพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณได้เมตตามาร่วมพิธีรวม 208 รูป สมเด็จพุฒาจารย์(เกี่ยว) วัดสระเกศ กทม.องค์ประธานจุดเทียนชัยและนั่งปรก มีรายนามพระเกจิอาจารย์บางรูป ดังนี้ :
- หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ
- หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม
- หลวงพ่อเพชร วัดสิงห์ทอง จ.อุบลราชธานี
- หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
- หลวงพ่อดี วัดพระรูป จ.สุพรรณบุรี
- หลวงพ่อทองหยด วัดชีสุขเกษม จ.สุพรรณบุรี
- หลวงพ่อทองเหมาะ วัดปราสาททอง จ.สุพรรณบุรี
- หลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย จ.สุพรรณบุรี
- หลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
- หลวงพ่อนะ วัดหนองบัว จ.ชัยนาท
- หลวงพ่อผล วัดดักคะนน จ.ชัยนาท
- หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ จ.สมุทรสงคราม
- หลวงพ่อแนม วัดเขาหน่อ จ.นครสวรรค์
- หลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู จ.นครสวรรค์
- หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ จ.นครสวรรค์
- หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
- หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม
- หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย จ.พระนครศรีอยุธยา
- หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา จ.พระนครศรีอยุธยา
- ครูบาแก้ว วัดปงสนุกใต้ จ.ลำปาง
- ครูบาสิงห์ วัดฟ้าฮ่าม จ.เชียงใหม่
- หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย
- ครูบาแสงหล้า วัดพระธาตุสายเมือง ประเทศพม่า
- พ่อท่านแก้ว วัดเขาปูน จ.นครศรีธรรมราช
- หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก จ.ประจวบคีรีขันธ์...ฯลฯ
นอกจากนี้หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา,หลวงพ่อดาบสสุมโน อาศรมไผ่มรกต เชียงราย,หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน จ.พิจิตร....ได้เมตตาเสกเดี่ยว

องค์ที่๑


องค์ที่๒

 

ลูกแก้วสารพัดนึก หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง จ.ชลบุรี ปิดรายการครับ

​

"ลูกแก้วสารพัดนึก"
แห่งสำนักเขาไม้แดง
วัตถุมงคลที่ทำได้ยากยิ่ง แตกด้วยวิชากสิน

"ลูกแก้วสารพัดนึก"(ชนิดมีรอยร้าว)อีกหนึ่งวัตถุมงคลที่หายากและเป็นที่ตามหาของศิษย์หลายๆคน หลวงพ่อบอกเสกยากยิ่ง...จากลูกแก้วใสๆแล้วอัดพุทธคุณลงไปจนเกิดรอยร้าวระยิบระยับจากกลางลูกแต่ไม่ทะลุถึงผิวนอกของลูกแก้ว

จากคำบอกเล่าของลูกศิษย์ ที่บวชและคอยปรนนิบัติหลวงพ่อเป็นเวลา10 กว่าปี เล่าให้ฟังว่าหลวงพ่อเคยได้ลูกแก้วของสมเด็จพุฒจารย์โตมาจากลูกศิษย์ท่านหนึ่งซึ่งนำมาถวายให้หลวงพ่อ ท่านจึงใช้พลังจิตของท่านตรวจดูพลังที่สมเด็จโตท่านเสกมาในลูกแก้วนั้น แล้วท่านก็จำพลังจิตการเสกนั้นไว้ วันหนึ่งได้มีลูกศิษย์ของหลวงพ่อที่อยู่ออสเตเรียได้นำลูกแก้วมาถวายให้หลวงพ่อเสก หลวงพ่อจึงน้อมพลังจากลูกแก้วที่สมเด็จโตท่านเสกเอาไว้ไปใส่ไว้ในลูกแก้วสารพัดนึกของท่าน
เพราะฉะนั้นแล้วใครที่มีลูกแก้วสารพัดนึกของท่านรักษาไว้ดีๆนะครับ ประหนึ่งเหมือนมีลูกแก้วของสมเด็จพุฒจารย์โตด้วย

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

พระสมเด็จพระพุทธเมตตา หลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข ปี2535

ผงที่สำคัญในการผสมสร้างพระผงหลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข ทุกรุ่นตั้งแต่ปี2522

1.ปี2520-2522หลวงปู่ลบผงวิเศษณ์ห้าประการ ปถมัง อิทธเจ มหาราช พุทธคุณ ตรีนิสิงเห+ขินปัญชร ไก่เถื่อน สัตตะนาเค สัมพุทเธ พุทธะเมตตา ฝนแสนห่า ผงยันต์ต่างๆอีกมาก
2.ผงชิ้นส่วนตั้งแต่อกลงมาขอบล่างสุด พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่แท้100%
3.ผงพระสมเด็จวัดสามปลื้ม3องค์ แตกหักละเอียดครบทั้งองค์ 3องค์ แท้100%
4.ผงหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง1/4ช้อนชา ลป.ทองสุข วัดสะพานสูง ผมไปรับมา
5.ผงหลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์1/4ช้อนชาหลวงพ่อแฟ้ม วัดป่าชลบุรี ผมไปรับมา
6.ผงเศกท่านเจ้าคุณนร วัดเทพศิรินทร์หลวงพ่อสนิท วัดศีลขันธ์ให้1แก้วใหญ่
7.ผงธูปกัมมัฏฐานหลวงปู่โต๊ะ1แก้วหลวงปู่โต๊ะให้มาปี2522
8.พระสมเด็จวัดไร่ขิงพิมพ์ใหญ่(ผงตำ)1พันกว่าองค์ตำเป็นผง ได้2บาตรพระ
9.ผงลบหลวงพ่อถิร วัดป่าเรไรย์ 1ช้อน
10.ผงหลวงพ่อเชื้อ วัดบำเพ็ญบุญ1แก้ว
11.ผงหลวงพ่อพริ้ง วัดโกร่งธนู 1ช้อน
12.ผงยาสูบแป้งหลวงปู่แหวน
13.ดินกากยายักษ์5ปี๊บ หลวงปู่สุระวัดสวนใหม่ยะลา เอามาให้ที่วัดดวงแข
14.ผงพวงมาลัยมหามงคลข้อพระกรพ่อหลวงร.9ได้จากวัดพระแก้ว
15.ผงจิตรลดา ได้จากวัดบวรนิเวศ
16.ผงสร้างพระทนต์พ่อหลวงร.9(จุฬา)ติดเครื่องบดมา ขูดเอาผงออกมาได้ประมาณ1ขัน ผงนี้เริ่มผสมในปี2533
17.ผงพวงมาลัย+ดอกบัว+ขี้ธูป วัดที่สำคัญทั่วประเทศ30วัดตั้งแต่ปี2520เก็บมาทุกปีถึงปี2536
18.ผงว่านเสน่ห์จันทร์ทั้ง3 หลวงปู่วิเวียรปลูกเองรดน้ำเองที่หน้ากุฏิ
19.ว่าน108อ.สัมฤทธิ์ อ.สอนสมุนไพร มจร.พระ เอามาถวายประมาณ50กิโล
20.ผงเศก คือดินสอพอง16บาตรพระเอามาบดให้ละเอียดได้10บาตรพระหลวงปู่เศก และเอาเข้าพิธีพุทธาภิเศก
21.ผงตำ คือรายการที่8.



๑.พิมพ์หลังรูปเหมือน ให้บูชา200บ.


๒.พิมพ์หยดน้ำ ให้บูชา200บ.

 

พระผงกลีบบัวพระพุทธ หลวงปู่พลอย วัดประสาท บางพรม ตลิ่งชัน ปี36

ทางวัดได้จัดสร้างเนื้อผงหยดน้ำ พร้อมเหรียญหล่อ (หลวงพ่อชาญณรงค์ ได้บอกให้ลูกศิษย์ของท่านบูชาเก็บไว้แจกลูกหลาน) การปลุกเสกมีการอัญเชิญท่านหลวงตาดำ เชิญครูบาอาจารย์ทั้งอดีตเจ้าอาวาสและดวงวิญญาณของหลวงปู่พลอย พรหมโชโตอย่างถูกต้องสมบูรณ์อีกทั้งยังนิมนต์พระคณาจารย์ผู้มีวิทยาคุณในสมัยนั้นมาทำการปลุกเสกอย่างเข้มขลัง

น่าบูชาครับเนื้อผงราคาไม่แพง เนื้อโลหะราคาหลักพันแล้ว..สายในดงไม่ควรพลาดครับ

องค์ที่๑ ให้บูชา200บ.


องค์ที่๒ ให้บูชา200บ.

 

พระสมเด็จปรกโพธิ์ พิมพ์ ร.๙(ร.ยันต์อุขึ้น) วัดมหาธาตุ ปี2508 จ.เพชรบุรี พิมพ์ใหญ่ ให้บูชา350บ.

พระสมเด็จ พิมพ์ ร.๙ วัดมหาธาตุ ปี08 จังหวัดเพชรบุรี จัดสร้างด้วยยอดมวลสารมงคลมากมาย อาทิเช่น ผงสมเด็จวัดบางขุนพรหม ผงพุทธคุณ ผงมหาราช ผงปถมัง ผงตรีนิสิงเห และที่สำคัญมีส่วนผสมของเส้นพระเจ้า(พระเกศา)ในหลวง ร.9 เป็นมวลสารด้วย

พิธีปลุกเสกใหญ่โดยยอดพระเกจิผู้ทรงคุณแห่งยุคมากมาย อาทิ
หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ
หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
หลวงพ่อทบ
หลวงปู่ฝั้น
หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล
หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
หลวงพ่อเขียว วัดทรงหลบน
หลวงพ่อแพ
หลวงพ่อมุ่ย
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
หลวงพ่อคูณ
หลวงพ่อผาง
หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค
หลวงปู่ดู่ วัดสะแก และอีกหลายองค์ จัดเป็นวัตถุมงคลที่น่าบูชาติดตัวมากครับ

พระสภาพสวยเดิมๆครับ

 

เหรียญปรกไพรีพินาศ รุ่นแรก หลวงปู่มีชัย กามฉินโท ถ้ำกระแซง จ.ยะลา ปี2548

พระนาคปรกไพรีพินาศ หลวงปู่มีชัย ปลุกเสกที่ วัดเขาบูเก็ะมาตาแจม รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย หลวงปู่ อนุญาตให้จัดสร้างเพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับชาวไทยพุทธ ใน3จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งในขณะนั้นเหตุการณ์รุนแรงมาก ชาวไทยพุทธถูกยิงตายรายวัน

โดยลูกศิษย์หลวงปู่ขับรถตระเวนไปตามหมู่บ้าน อำเภอ ต่างๆ ใน3จังหวัดชายแดนใต้ แล้วแจกไปเรื่อยๆ ในขณะนั้นเพื่อช่วยชีวิตชาวไทยพุทธ ประสบการณ์ต่างๆ ตามมาจากทุกๆที่ จนเป็นที่มาของชื่อ " ปรกกันปืน " นี่คือประสบการณ์ล้วนๆ ในอดีต กระสุนปืนหามิได้ถูกตัวผู้ที่มีเหรียญหลวงปู่มีชัย

สภาพสวยๆ มาในซองเดิมครับ

เหรียญที่๑ ให้บูชา550บ.




เหรียญที่๒ ให้บูชา550บ.

 

เหรียญหลวงพ่อเพชร หลวงพ่อมหาวิบูลย์ วัดโพธิคุณ จ.ตาก ปี๓๕ ปิดรายการครับ

ใครที่ไม่รู้จักพระอาจารย์มหาวิบูลย์ให้นึกถึงข่าว คุณสมประสงค์ ชาวนาไร่ ศิลปินผู้อุทิศตน ใช้เวลา 17 ปีสร้างอุโบสถอันวิจิตรหลังหนึ่งกลางป่าเมื่อหลายปีก่อนโน้น เป็นเรื่องราวน่าทึ่ง จนมีรายการโทรทัศน์ไปถ่ายทำและจัดทำเป็นหนังสือออกมาเผยแผ่กันทั่วไป วัดแห่งนั้นคือ วัดโพธิคุณ ซึ่งมีเจ้าอาวาสคือ พระอาจารย์มหาวิบูลย์ รูปนี้นั่นเอง

พระอาจารย์มหาวิบูลย์เป็นนักพระปฏิบัติ ท่านมีอายุ 76 ปี 56 พรรษา เพิ่งมรณภาพไปเมื่อปี 2555 แต่ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่นั้นท่านก็ได้สร้างประโยชน์ต่อพุทธศาสนาไว้มาก ไม่ว่าด้วยการเพียรปฏิบัติ จนมีลูกศิษย์ลูกหา ปฏิบัติตามหลักสัมมาทิฏฐิจำนวนมาก รวมทั้งการสร้างศาสนวัตถุและศาสนสมบัติสืบทอดไว้ในพุทธศาสนา

ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูง เป็นศิษย์หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ และศิษย์หลวงพ่อวิเชียรมุนี วัดอินทาราม ตลาดพลู วัตถุมงคลของท่านเด่นไปทางเย็นเป็นเมตตาแคล้วคลาดครับ

 

พระสมเด็จมหาลาภ หลวงพ่อพยุง วัดบัลลังก์ จ.สุพรรณบุรี ปี๒๕๑๒ ให้บูชา1,400บ.

พระสมเด็จมหาลาภ รุ่นนี้ สร้างในปี ๒๕๑๒ เป็นรุ่นที่มีศิษย์นิยมสะสมอีกรุ่นหนึ่ง เพราะพระสวยๆหาค่อนข้างยาก พบเห็นน้อย และที่สำคัญ พระรุ่นนี้วางอักขระยันต์ที่ไม่เหมือนรุ่นอื่นๆ เป็นรุ่นเดียวที่ใช้ยันต์ตัวนี้ หลวงพ่อท่านบอกไว้ว่า "พระรุ่นนี้เด่นทางโชคลาภ ใครมีไว้ไม่อดไม่อยาก"

 

พระสมเด็จเนื้อผงอิธิเจ หลวงปู่ปรง วัดธรรมเจดีย์ จ.สิงห์บุรี ให้บูชา200บ.

หลวงปู่ปรง วัดธรรมเจดีย์ เกจิเมืองสิงห์ ปลุกเสกของขลังมากด้วยพุทธคุณ​

​

พ.ศ.๒๕๐๔ หลวงปู่จำพรรษาที่วัดธรรมเจดีย์ โดยตัดทางโลกสิ้นเชิง สมัยนั้นทางกองปราบเคยส่งมือดีมาปราบท่าน เพราะท่านเคยมีรายชื่ออยู่ในบัญชีดำ ทางการส่งคนปลอมตัวมาแบบสามัญชน มาหลอกถามท่านว่า บวชทำไม จะสึกหรือไม่ หลวงปู่ตอบไปว่า บวชครั้งนี้ ขอบวชให้พระพุทธองค์ จะไม่ขอลาสิกขาอีกแล้ว จนกว่าจะถึงฝั่งพระนิพพาน คนที่ปลอมตัวมา เห็นหลวงปู่พูดจาจริงจังดังนั้นจึงไม่ทำอะไรท่าน และได้ลบชื่อหลวงปู่ออกจากรายชื่อบัญชีดำ หลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังดังที่ท่านได้กล่าวออกไป หลวงปู่ได้ออกธุดงค์ไปทางจังหวัดอุทัยธานี เข้าสู่ป่าใหญ่ ออกไปถึงประเทศเขมรเป็นเวลา ๓ ปี จึงกลับมายังวัดธรรมเจดีย์ได้บวชเรียนเเละศึกษาวิชาต่างๆกับ
หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ ๖ พรรษา
หลวงพ่อต้วม วัดสนามชัย ชัยนาท
หลวงพ่อคำ จ.อุทัยธานี
หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา
หมอเจียก จ.อุทัยธานี
อาจารย์รื่น อำเภอวิเชียร จ.เพชรบูรณ์
อาจารย์อ้วน วัดด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี

จากนั้นท่านก็ไปศึกษาตำราเก่าของหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ สมัยนั้นหลวงพ่อทอง เป็นเจ้าอาวาส เดินทางไปเรียนวิชากับหลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐที่อุทัยธานี หลวงปู่เก่งวิชาหลายอย่างที่เรียนจากหลวงพ่อศรี เช่น การทำแหวนแขน ลงตะกรุด เช่นตะกรุดสามกษัตริย์ ตะกรุดโทน ตะกรุดสามดอก นอกจากนี้ยังเก่งเรื่องทำผงวิเศษ ทำสีผึ้ง ลงมีดหมอได้ขลัง และเก่งวิชาตะกรุดกระดอนสะท้อน

 

หลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมเวฬุวัน จ.เชียงราย

“หลวงพ่อดาบส สุมโน​

” เดิมชื่อ “สง่า” นามสกุล “เจริญจิตต์”
เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ กัน ยายน ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ พ.ศ.๒๔๖๗ ปีชวด ตำบลบางกระไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
เป็นลูกคนที่ ๖ ในจำนวนทั้งหมด ๘ คน
บิดาชื่อ “นายเถียน” มารดาชื่อ “นางเวียง”
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๔ ขณะอายุได้ ๗ ปี มารดาก็ถึงแก่กรรมและต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๘ อายุได้ ๑๑ ปี “เด็กชายสง่า” ก็ต้องสูญเสียบิดาบังเกิดเกล้าไปอีกคน จึงอยู่ภายใต้การดูแลของ “คุณป้า” และเริ่มเรียนหนังสือชั้นประถมศึกษาที่ ๑ โรงเรียนวัดบางกระไชย จบชั้นประถมปีที่ ๔ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๘​

​

ครั้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๕ อายุได้ ๑๘ ปี “คุณป้า” ได้นำ “เด็กชายสง่า” ไปบรรพชาที่ “วัดจันทนาราม จังหวัดจันทบุรี” เพื่อเรียนปริยัติธรรมซึ่งต่อมาสามารถ สอบได้ทั้ง “นักธรรมตรี” และ “นักธรรมโท”

ในปี พ.ศ.๒๔๘๗ อายุครบ ๒๐ ปี “สามเณรสง่า” จึงอุปสมบทเป็น “พระภิกษุ” โดยมีท่าน “เจ้าคุณอมรโมลี” เป็นอุปัชฌาย์ได้ฉายาว่า “สุมโน” กระทั่งปี พ.ศ.๒๔๘๙ อันเป็นพรรษาที่ ๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” ได้กราบลา “พระอุปัชฌาย์” เพื่อเดินทางไปศึกษา “ภาษาบาลี” กับท่าน “เจ้าคุณรัชมงคลมุณี” วัดหนองบัว จังหวัดระยอง ต่อมาในปี

พ.ศ.๒๔๙๐ ด้วยจิตที่มุ่งมั่นจะปฏิบัติธรรม แสวงหาธรรม จึงออกเดินธุดงค์ไป “จังหวัดเชียงใหม่” ตามเส้นทาง “อำเภอดอยสะเก็ด” สู่ “ถ้ำเชียงดาว” อำเภอเชียงดาวได้ธุดงค์พลัดเข้ามาสู่เขตพื้นที่ของ “อำเภอพร้าว” ในปี ๒๔๙๐ ถึง ๒๔๙๔ จึงพำนักและปฏิบัติธรรมใน “ป่าช้า” ของตำบลเวียง อำเภอพร้าว หรือ “วัดป่าเลไลย์” เป็นเวลาถึง ๔ ปี

ปี พ.ศ.๒๔๙๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” เดินทางมาพำนักที่ “วัดเจดีย์หลวง” จัง หวัดเชียงใหม่ โดยปฏิบัติธรรมกับ “เจ้าคุณวินัยโกศล” (จันทร์ กุสโล) หรือ “พระพุทธพจนวราภรณ์” แล้วจึงออกจาก “วัดเจดีย์หลวง” ธุดงค์ไปตามเส้นทางสู่ “อำเภอดอยสะเก็ด” อีกครั้งพร้อมลัดเลาะไปตามป่าเขาถึง “ดอยพระเจ้าหล่าย” วันนั้นเป็น วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๔ ตรงกับแรม ๖ ค่ำ เดือนยี่เวลา ๑๗.๐๐ น. “พระภิกษุสง่า สุมโน” จึงตั้งสัจจะอธิษฐาน ณ ดอยพระเจ้าหล่าย ขอสละเพศบรรพชิตขอลาสิกขาบทจากการเป็น “พระภิกษุสงฆ์” โดยหันมาถือการครองเพศเป็น “ดาบส” ที่มีเพียง ผ้าอังสะและผ้าสบง เพียงสองผืนหุ้มห่อร่างกายไว ้จากนั้นจึงครองเพศเป็น “ดาบส” และปฏิบัติธรรมอยู่บน “ดอยพระเจ้าหล่าย” โดยมิได้ฉันทั้งอาหาร และน้ำถึง “๓ วัน ๓ คืน” จากนั้นจึงเดินทางลงจากดอยเพื่อธุดงค์ไปจังหวัด ต่างๆ ทั้ง แพร่ ลำปาง น่าน ยะลา ชุมพร และท้ายสุดปฏิบัติธรรมที่ “อาศรมไผ่มรกต” ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย จนมรณภาพ เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๓๔ สิริอายุได้ ๗๖ ปี

“หลวงพ่อดาบส สุมโน” นับเป็น “ผู้บำเพ็ญเพียร” ด้วยศีลาจารวัตร บริสุทธิ์ผุดผ่องจนได้พบแสงสว่างแห่งธรรมเจิดจ้า และธรรม ที่ท่านแสดงให้บรรดาศิษย์ได้ยังความสุข ความสงบ ความร่มเย็น ให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้ที่เคยฟังธรรมจากท่านจึงนับได้ว่าท่านเป็น “ประทีปธรรม” แห่งภาคเหนือที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ และในจิตใจ ของประชาชนตลอดไป

หลวงพ่อดาบส สุมโน เป็นพระลึกลับ นัยว่าท่านสำเร็จพระอริยะขั้นหนึ่ง ถึงขนาดที่ว่ามรณภาพไปแล้วหลังจากเผาสังขารท่านยังพบว่าหัวใจท่านไม่ไหม้ไฟเป็นที่อัศจรรย์อย่างยิ่ง หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยกล่าวกับหลวงตาวัชรชัย วัดเขาถ้ำนารายณ์ว่าพระรูปนี้เป็นพระอรหันต์มา 20 ปีแล้ว (ตอนนั้นน่าจะราวๆ พศ.252_)

พิมพ์พระแก้วมรกตเนื้อผง ให้บูชา250บ.


พิมพ์นางพญาเนื้อดิน ให้บูชา250บ.

 

เหรียญพระนิรันตราย ศูนย์การศึกษาคณะสงฆ์ปราจีนบุรี ปี2513 ให้บูชา150บ.

เหรียญพระนิรันตราย ที่ระลึกในหลวงเสด็จฯทรงวางศิลาฤกษ์ ศูนย์การศึกษาคณะสงฆ์ปราจีนบุรี ปี2513 หลวงพ่อเอียวัดบ้านด่านและเกจิหลายท่านปลุกเสก การสร้างเป็นพระนิรันตรายก็เนื่องจากพบพระนิรันตรายองค์เดิมที่จังหวัดปราจีนบุรีนั่นเอง
หลวงพ่อเอียเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งจริง พระรุ่นนี้ท่านตั้งใจเสกปัจจุบันตกสำรวจเซียนพระ ราคาไม่แพงครับ

 

เหรียญหยดน้ำอายุ 92ปี ลป.สาม วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์ ปี2533 ให้บูชา150บ.

หลวงปู่สาม อกิญฺจโน วัดป่าไตรวิเวก ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ ท่านเป็นพระกรรมฐานศิษย์สายหลวงปู่มั่น จัดได้ว่าเป็นศิษย์อาวุโส รุ่นราวคราวเดียวกับ หลวงปู่ชอบ หลวงปู่ฝั้น หลวงพ่อจวน หลวงพ่อวัน เป็นต้น ท่านชอบการธุดงค์เผยแผ่ธรรมะ จนได้รับคำชมจากหลวงปู่มั่น "เป็นผู้เจริญด้วยธุดงควัตรและเป็นผู้เคร่งครัดในธุดงควัตร" นอกจากหลวงปู่มั่น จะให้คำแนะนำด้านกรรมฐานแล้ว หลวงปู่สาม ยังได้รับการชี้แนะจากหลวงปู่ดูลย์ และ หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม

หลวงปู่สาม มีนามเดิมว่า สาม เกษแก้วสี เกิดเมื่อวันอาทิตย์ เดือน 10 ตรงกับเดือนกันยายน พ.ศ.2443 ณ บ้านนาสาม ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ เมื่ออายุ 19 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร สายมหานิกาย ณ วัดบ้านนาสาม อันเป็นวัดใกล้บ้านเกิดของท่าน จนกระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีพระครูวิมลศีลพรต เป็นพระอุปัชฌาย์ ภายหลังอุปสมบท ท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระธรรมวินัย ต่อมาใน พ.ศ.2467

หลวงปู่สาม มีความสนใจในการปฏิบัติกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ได้ไปกราบตัวเป็นศิษย์ของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ที่วัดป่าหนองเสม็ด ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน ต่อมาหลวงปู่ดูลย์ ได้แนะนำให้หลวงปู่สาม ไปศึกษาธรรมเพิ่มเติมจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่จังหวัดสกลนคร ได้พักปฏิบัติธรรมอยู่กับหลวงปู่มั่น 3 เดือน ภายหลังจากสามเดือนผ่านไป หลวงปู่มั่นได้แนะนำให้หลวงปู่สาม ไปพบกับหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม เพื่อเป็นพระผู้ฝึกฝนอบรมสั่งสอนต่อไป

ท่านเป็นพระที่ชอบปฏิบัติธุดงควัตร ท่านไม่ชอบอยู่จำพรรษาที่ใดที่หนึ่งถาวร ท่านเดินธุดงค์ไปทั่วประเทศ จนกระทั่งประมาณปี 2512 ได้ริเริ่มสร้างวัดป่าไตรวิเวก จากที่ดินที่ชาวบ้านถวาย โดยเริ่มตั้งเป็นสำนักสงฆ์ จนเจริญรุ่งเรืองมาเป็นลำดับ หลวงปู่สาม ได้มรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2534 สิริอายุรวม 91 ปี พรรษา 71 หลวงปู่สาม เมื่อมรณภาพแล้วอัฏฐิก็แปรสภาพเป็นพระธาตุดั่งพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย

 

ผงรูปเหมือนหลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน มีนบุรี กรุงเทพฯ ปิดรายการครับ

​

หลวงปู่ได้ศึกษาสมถวิปัสสนากัมมัฎฐาน ตลอดจนพุทธาคมต่างๆ รวมไปถึงการศึกษาตำรายาแผนโบราณ จากหลวงพ่อนิตย์ วัดตะพาน และยังได้ศึกษาเกี่ยวกับตำรายาต่างๆ จากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา

ในการทำวัตถุมงคลของท่านแต่ละครั้ง จะอาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือเป็นครูบาอาจารย์ด้วยทุกครั้ง ได้แก่ พ่อท่านขลิก และ หลวงพ่อเหลือ แห่งวัดสาวชะโงก หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่อลี วัดอโศการาม หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า สมเด็จโต วัดระฆัง หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อนิตย์ วัดตะพาน สมเด็จในกรมหลวงชุมพร จึงสำเร็จ
หลวงปู่เมฆ ท่านคอยรักษาช่วยเหลือชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณไสย หรือการรักษาโรคต่างๆ จากตำรายาแผนโบราณที่ได้ร่ำเรียนมาแถวบริเวณซอยรางน้ำ แขวงถนนพญาไทย เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร บริเวณอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิในปัจจุบันนั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นที่รู้จักดีในนามหมอเมฆจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปถึงฝั่งพระโขนง

หลวงปู่สั่งไว้ว่า ถ้าจะนึกถึงกูให้จุดธูป 5 ดอก ถ้าจะบนให้จุดธูป 9 ดอก แค่มึงนึกถึงกูเรียก ปู่ ก็จะสำเร็จ รูปของกู ของๆ กูไม่ต้องเสกไม่ต้องทำก็สำเร็จแล้ว

มีเกศา นานๆจะเจอสักองค์ครับ

 

พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ วัดบางกุ้ง จ.สมุทรสงคราม ให้บูชา350บ.

วัดบางกุ้ง สมุทรสงคราม พิกัดสายมู ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้!​

​

บรรยากาศที่ วัดบางกุ้ง ต.บางกุ้ง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางตั้งแต่ช่วงกลางคืน เดินทางมาโดยรถยนต์มาจอดรถริมถนนอัมพวา-บางคนที เป็นแถวยาวหลายกิโลเมตร และเดินเท้าเข้าไป ต่อคิวเพื่อรอเข้ากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อพุทธนิลมณี ภายใน โบสถ์ปรกโพธิ์ อันซีนไทยแลนด์ กันเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องวนแถวไปรอบวัดยาวกว่า 1 กิโลเมตร บางรายต้องยืนรอนานกว่า 4 ชั่วโมง บางส่วนต้องรีบไม่สะดวกจะยืนรอต่อแถว ก็จะยืนไหว้ขอพรรอบๆโบสถ์ด้านนอก และมีประชาชนนำข้าวต้มมัดมาแก้บนบริเวณภายนอกหน้าโบสถ์มหาอุด เป็นจำนวนมาก โดย ร้อยเอกเอนก แจ่มกระจ่าง ไวยาวัจกร วัดบางกุ้ง(ข้าราชการบำนาญ) ได้นำเจ้าหน้าที่คอยให้บริการอำนวยความสะดวก

ร้อยเอกเอนก กล่าวว่า เหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวสายมูเตลูแห่มาที่วัดบางกุ้งมากมายขนาดนี้มีมาประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว โดยเฉพาะตั้งแต่เวลา 18 นาฬิกา ถึง ตี 4 มีประชาชนล้นหลาม สาเหตุเกิดจากมีคนมาบนแล้วสมความปรารถนาและนำข้าวต้มมัดมาแก้บน โดยมีคนไปลงในโลกโซเชียล อีกทั้ง มีคนมาขอโชคลาภ และได้เลข 903 ไปถูกรางวัลที่ 1 เลข 132903 งวด ประจำวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 ทำให้มีประชาชนแห่มาขอโชคลาภกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องต่อแถววนไปรอบวัดยาวกว่า 1 กิโลเมตร บางคนรอกว่า 4 ชั่วโมงจึงได้เข้าสักการะหลวงพ่อพุทธนิลมณี ภายในโบสถ์ปรกโพธิ์ อัลซีนไทยแลนด์ แห่งนี้

สำหรับท่านที่เป็นสายเสี่ยงโชค เลขของที่นี่แม่นจริงๆนะครับผมเคยไปได้มา(แต่ไม่ได้ซื้อ...!)

 

พระปิดตาเนื้อผงใบลานยุคแรก ลป.ม่น วัดเนินตามาก จ.ชลบุรี ปี๓๖ ให้บูชา650บ.

ประสบการณ์บางส่วนจากเวปพลังจิต​

ประสบการณ์ของผมที่ทำให้ผมตามเก็บพระหลวงปู่ม่นคือว่าเคยไปหาเพื่อนที่งานก่อสร้างแห่งหนึ่งครับพอดีเพื่อนผมคุมงานก่อสร้างทาวน์เฮ้าส์ กำลังอยู่ชั้น3ของทาวน์เฮ้าส์หลังหนึ่งซึ่งมีแต่โครงสร้างแต่ยังไม่มีกำแพงเพื่อนผมกำลังให้คนงานใช้เชือกที่มีผงสีแดงวัดเพื่อเตรียมให้วิศวกรโครงการมาตรวจเพื่อเตรียมก่อกำแพงกั้นห้องชั้น3

คนงานเป็นเด็กวัยรุ่นชายหญิงผมเข้าใจว่าคู่นี้คงกำลังจีบกันอยู่เพราะดูท่าทางกระหนุงกระหนิงกันอยู่ผู้ชายเลยไม่ค่อยระวัง ทำให้ตอนวัดเขตเตรียมกั้นห้องผู้ชายเดินถอยหลังจนพลาดหล่นจากชั้น3ลงไปกระแทกกลับตอเสาเข็มที่เขาเอาไว้กั้นเขตบ้าน แต่ถูกตัดออกไปเหลือแต่เหล็กเส้นยาวๆประมาณ1ฟุตประมาณ6เส้นนะถ้าจำไม่ผิด เด็กคนนี้หล่นไปจากชั้น3นะครับเอาหลังกระแทกกับตอเสาเข็มที่มีเหล็กอยู่
ผมคิดว่าเด็กคนนี้ตายแน่นอนครับเพราะเหล็กต้องแทงทะลุแน่นอนครับผมวิ่งลงจากชั้น3ลงไปชั้น1เห็นเด็กคนนี้นอนร้องแบบดังทั้งโครงการเลยครับ แต่ไม่มีเลือด เห็นแต่เสื้อขาดติดเหล็กตรงตอเสาเข็มอยู่เลยเดินไปดูที่หลังน้องเค้ามีรูใหญ่ๆประมาณ4รู แต่ไม่มีเลือดซักหยดเพื่อนผมเลยขอดูพระเครื่องในคอน้องห้อยเหรียญหลวงปู่ม่นครับ

หายากมากครับ พระยุคแรก หลายๆปีจะเจอสักองค์