จุดสูงสุด แห่งพุทธศาสนา นิพพาน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ชุนชิว, 11 กรกฎาคม 2013.

  1. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    จิต1 นิพพาน1 จิตธาตุ1
    เป็นเรื่องของ"นามธรรม"ทั้งหมดจับต้องได้สัมผัสได้ด้วยจิตเท่านั้น
    ที่เอาออกเเสดงโชว์กันเป็นผลพลอยได้จากการปฏิบัติไม่ใช่มรรคผล
    ที่เป็นเป้าหมายของศาสนาพุทธ

    การทำให้จิตเป็นนิพพานธาตุ ที่บ่นว่าทำกันไม่ได้เพราะไม่ได้
    ลงมือทำหรือทำผิดมรรค หรือมัวเเต่ฟังเทศน์ หรือเทศน์สอนแต่คนอื่น??

    มรรคมีองค์ ๘
    พระธัมม์ที่จะนำให้เข้าสู่กระเเสพระนิพพาน!!(เดินตามอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตาม
    ธัมมจักรกัปปวัตตนสูตร)
     
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ถ้ายังไม่ถึงขั้นหนึ่งในการปฏิบัติ จะยังไม่เข้าใจครับ ว่า "ของจริงนิ่งเป็นใบ้" หมายถึงอะไร ทำให้ธรรมะที่จิตตนรับรู้ ยังมาจาก "ของพูดได้" อยู่ครับ
     
  3. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    แล้วเมื่อไร "ของจริงนิ่งเป็นใบ้" ของท่านจะออกมาป้องกันแก้ไขภัยพิบัติละครับ

    ขออนุญาตครับ

    แล้วเมื่อไร "ของจริงนิ่งเป็นใบ้" ของท่านจะออกมาป้องกันแก้ไขภัยพิบัติละครับ
    แล้วเมื่อไร "ของจริงนิ่งเป็นใบ้" ของท่านจะออกมาบอกว่า พุทธศาสนาต่อไปจะเป็นอย่างไรละครับ

    ได้ข่าวเมื่อไรบอกด้วยนะครับ ผมรอโมทนาบุญอยู่

    ลุงมหา
     
  4. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    "ของจริงนิ่งเป็นใบ้" นั้น ไม่ใช่ตัวตน คน สัตว์ ใดๆ จึงไม่มีหน้าที่ใด
    แต่ถ้าลุงมหา ยังหา "ของจริงนิ่งเป็นใบ้" ไม่เจอ การเดินทางของลุงมหา ก็ยังไม่ถึงเวลาสิ้นสุด

    ลุงมหา เป็นผู้ปรารถนาพุทธภูมิหรือไม่?

    ลุงมหา รู้หรือไม่ ว่าการปรารถนาให้สัตว์โลกพ้นทุกข์ ต้องการให้สัตว์โลกพ้นทุกข์แบบไหน?
     
  5. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    cs,86I แหมคุณ ขนาดอะบายขนาดนี้แล้ว ยังหาคนเข้าใจได้ยากเลย แล้วมัน จะมีประโยชน์ อะไร เล่าครับ นี่ก็มากพอแล้วครับ ขนาดผมเอาของจริงมาพูด ยังมีใคร ยอมรับเลย ครับ ผมพูด พอสมควรเมื่อไหร่ ก้คงต้องหยุดครับแหละครับ
     
  6. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814





    ผมดูมา ๒ -๓ ปีแล้ว ในเว็ปนี้ มีคน เยอะแยะ ที่บอก ทุกอย่าง มากมาย ทั้งจริง ทั้งปลอม มีทั้งผู้ บรรลุธรรม มีทั้งพระโพธิสัตว์มากมาย ทั้งจริง และปลอม จะจริงหรือ ปลอม ก็ช่าง หันมาช่วย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตย์ ให้ดำดงค์ ถาวร จะเพียงผู้ใด ผู้หนึ่ง หาสำเร็จ ไม่ ให้ดำรงค์ อยู่คู่ประเทศ ไทย ไปครบ ๕,๐๐๐ปี ห้าพันปี ให้มีฤทธิ์ ขนาดไหน พระพุทธเจ้า ยังมิอาจ พาคนไปนิพพานได้หมด และพระโพธิสัตว์ บารมีเต็ม เป็นแสนๆพระองค์ ยังช่วยใครได้หมด ในเมื่อพระพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ ในอนาคตกาล เบื้องหน้าโน้น จนนับไม่ถ้วน ทุกท่าน ก็ต้องช่วยกันอยู่ แล้ว แล้วแต่ กำลังของท่าน แค่ไหนต่างหาก พระโพธิสัตว์ ไม่มีท่านเพียงองค์เดียวนะ จะบอกให้



    ท่านสำคัญผิดไปหรือเปล่า และบารมีต้น บารมี กลางอีก จนนับไม่ถ้วน ท่านเอง พูดมาไม่ใช่หรือ พระโพธิสัตว์ ไปเป็นมารเยอะแยะ มันจริง ดังท่านว่ามานั่นแหละ ผมไม่ค้าน จนกว่าท่าน จะรู้ผิด ถูกชั่วดี กับมาทาง ฝ่ายถูกฝ่ายเดียว และผมเอง ก็โดนมาทั้ง ๒ แบบ ทั้งฝ่ายมาร หาว่าเราได้อย่างนั้นอย่างนี้ เป็นนั่นเป็นนี่ สอนชั่วทุกอย่าง ส่วน ฝ่ายดี มันก็สอนเรา ทำอย่างนี้ ดี อย่างโน้น ดี อย่างนั้นดี ฉนั้น เราต้องใช้ ปัญญา กัมกับ ดูอีกที ว่ามันจริงขนาดไหน ถ้าตามทัน ก็ดีไป ตามไม่ทัน ก็หลงไปกับมาร


    ผมของใครของมัน ใครมีกำลังแค่ไหน ทำได้แค่นั้น มันเกินกำลัง ไม่ได้หรอก ท่าน ตั้งแต่ ปี ๔๐ เป็นต้นมา ผมสังเกตุ มาตลอด ว่าภัยต่างๆ มันพลิกแพง แปรปรวนไปเรื่อยๆ หนักขึ้นๆ แหมขนาด พระโมคคัลลานะ จะม้วนแผ่นดิน ไว้ในมือ และเอา ม้วนดิน มาเลี้ยง ชาวโลก พระพุทธองค์ยังไม่ทรงอนุญาติ แล้วเราเป็นใคร จะใหญ่กว่า พระพุทธองค์หรือ พระโพธิสัตว์ จะใหญ่ กว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ เพราะท่านยังมิใช่ พระพุทธเจ้า ผมน่ะ เคารพในธรรม ของทุกท่าน แต่ใครจะรู้ มากรู้น้อย ก็อยู่ ที่แต่ละ ท่าน สั่งสมอบรมมา ตราบใด ที่ยังบารมี ยังไม่ถึง ระดับ แบบพระศรีอารย์ หลวงปู่ปาน หลวงปู่ทวด พระรามเจ้า และที่มีบารมีเต็ม จะมาตรัสรู้ ในกัปนี้ สามารถ ต่อลองอะไรๆก็ได้ แต่ถ้าเกินกำลังของท่านๆจะไม่ทำ


    พระโพธิสัตว์ ถ้าทำหน้าที่ของท่านไม่ทัน พระโพธิสัตว์ องค์อื่นๆ จะทำหน้าที่แทนน่ะครับ หรือเทวดา พรหม องค์อื่นๆจะทำแทน ผมพอเข้าใจ เพราะว่าน่ะ สำผัส ของจริงมาแล้ว ทั้งพระโพธิสัตว์ พระ ฆราวาส ผู้หญิงผู้ ชาย เถรเณรชี แม้แต่บางท่านที่เสวยพระชาติ เป็นสัตว์เดรัชฉาน หลายท่าน ยังตาม หาความรู้ มิทันเลยท่าน ยังโง่เขลาเบา ปัญญาอยู่ จึงเอ่ยได้เต็มปาก เต็มคำครับ ( ขอเอ่ยเอาคำพระราชดำรัส) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ออกข่าว มาหลายปีแล้ว ท่านบอกว่า เราไม่สามารถ จะทำให้ ทุกคนเป็นคนดีได้ ทุกคน ฉนั้น เราต้องช่วยกัน ต่างคนต่างช่วยกัน แม้ทำอะไรก็ตาม เราไม่สามารถ ทำคนเดียวได้ ให้สำเร็จลงได้ ด้วยเราคนเดียว เราหลายๆฝ่าย ต้องช่วยกัน


    คนที่ปกครองบ้านเมือง เราก็อย่าเอาคนไม่ดี มาปกครอง บ้านปกครองเมือง หรือเลือกมา จะงานการอะไรก็ตาม ควรช่วยกัน คนละไม้ละมือ ช่วยกันทำ งานนั้นจึงจะสำเร็จผลทุกประการ ถ้าผิดพาดประการใดก็ขออภัยครับ คงผิด ไปบ้างถูกบ้าง จำได้มาไม่หมด แต่ผมก็ได้ทำหน้าที่แล้ว ตามกำลัง ของตัวเอง ทั้งทางโลก และทางธรรม ตามธรรม สมควรแก่ธรรม สวัสดี
     
  7. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814





    มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ทำบ่อยๆเดี๋ยวก็ถึงเอง พระพุทธเจ้า ทั้งหลาย พระองค์ท่านเดินมาเหมือนเราก่อน พระอริสงฆ์ทั้งหลาย ก็เช่นเดียวกัน จึงนำพระธรรมมาสั่งสอนเวไนยสัตว์
     
  8. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    คำบอกเล่าของใครเอ่ย?

    ขออนุญาตครับ

    คำบอกเล่าของใครเอ่ย?

    คำบอกเล่าข้างล่างไม่ทราบว่าเป็นของท่านผู้ใด ช่างครบถ้วนดีแท้




    ขอให้ข้อคิดเพิ่มเติม แก่ญาติธรรมทุกๆท่าน

    "ข้อคิดข้อเขียนของใครก็ตาม จะบอกภูมิรู้ ภูมิธรรม บอกสติ บอกปัญญาของท่านเอง"

    "แต่กุศลผลบุญกลับแตกต่าง ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร ท่านก็สามารถสร้างกุศลผลบุญได้อย่างเท่าเทียมกัน"

    "แม้แต่ การโมทนาบุญ การอนุโมทนาบุญ ก็สามารถบอกอะไรบางอย่างได้"

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ ในคำบอกเล่าที่ครบถ้วนสมบูรณ์อันนี้
    ขอบคุณครับ
    ลุงมหา
     
  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สาธุครับท่านลุงมหา ๑ ที่นำมากล่าว ทั้งคำสอนของครูบาอาจารย์ ที่ท่านนำมาลง ทั้งประสบการณ์จริง ที่ประสบมา และคูรบาอาจารย์ต่างๆ ที่ไปกราบท่านมา ความรู้ภูมิธรรม ที่ทำมา ได้เสแสร้ง แกล้งทำไม่ จึงบอกกว่าว มาเพื่อเป็นธรรมดังนี้แลขออนุโมทนาสาธุ เคารพในธรรม ท่านผู้เจริญ
     
  10. ดำฤษณา

    ดำฤษณา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +205
    โมทนาสาธุกับการรู้ธรรมเห็นธรรมและทรงธรรมของท่านลุงมหา
    พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต น้อยคนนักจักเข้าใจ
    ส่วนเรื่องภัยพิบัติท่านลุงรู้เห็นเป็นอย่างไรพอจะบอกกล่าวเล่าขานเป็นธรรมทานได้หรือไม่ มิได้มีเจตนาล่วงเกินหรือทดสอบประการใด ใครเล่ามีหน้าที่ยับยั้งภัยพิบัติเหล่านี้
    เพราะท่านเปิดประเด็นไว้น่าสนใจ จึงอยากร่วมศึกษา
    หากผิดพลาดประการใดขออภัยครับ
    ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม
     
  11. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154


    อยากฟังเหมือนกันครับ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ.
     
  12. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    จากนี้ไป ในข้อความที่ ๔ ท่านมหา ๑ เขาได้นำมาแจงและยอมรับ ได้ตอบไปแล้วครับ ท่านอภิมาร ถ้าอ่านตอนนั้นเข้าใจ ก้เข้าใจหมดแหละครับ หรือ ท่านอภิมารให้ ลุงมหาตอบ ให้แจ้งแดงแหจกว่าอีกก็ไม่ว่ากันครับ
     
  13. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154



    ขอบพระคุณครับพี่..เรียกอภิมารเฉยๆก็ได้ครับ

    เขินครับ เอาแบบธรรมดาก็พอครับ.
     
  14. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ครูบาอาจารย์ท่านจะบอกอะไรหรือ?

    ขออนุญาตครับ

    ผมเข้ามาในเว็บนี้ตั้งนานแล้ว
    แต่ที่เห็นก็คือ ท่านสมาชิก หลายๆกลุ่ม หลายๆพวก ไม่สามารถมองข้ามไปในธรรมที่ครูบาอาจารย์ของตนสอนได้

    ไม่สามารถสรุปได้ว่าที่ครูบาอาจารย์ของตนเองสอนธรรมนั้น

    ท่านสอนอะไร?
    ท่านสอนทำไม?
    ท่านมีจุดมุ่งหมายอะไร?

    และยังไม่เข้าใจว่า

    ธรรมที่เกินเลย ที่ครูบาอาจารย์ของตนสอนนั้น คืออะไร?

    เพราะว่าเรื่องของธรรมนั้นมันเข้าใจยาก
    ทำไมผมถึงได้บอกว่ามันเข้าใจยาก ก็เพราะว่า

    "ธรรมนั้นมันอยู่ในจิต"
    "แม้ตัวผมเองก็ไม่รู้ว่า ผมรู้ธรรมนั้นๆ"
    "จนเมื่อได้พิจารนาธรรมนั้นๆแล้ว"
    "ผมจึงได้รู้ว่า ผมก็รู้ธรรมนั้นๆ ผมก็เข้าใจธรรมนั้นๆ"

    และสิ่งที่ผิดแผกแตกต่างจากคนทั่วๆไปก็คือว่า

    "ผมสามารถ มองทะลุ มองเห็นธรรมในส่วนที่เกินเลย จากธรรมนั้นๆออกไปอีกได้"

    เมื่อท่านยกคำบอก คำสอนของครูบาอาจารย์ของท่านมา
    ผมก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ต้องไปบอก ไปอธิบาย ธรรมในส่วนที่เกินเลยไปจากธรรมนั้นๆ

    เพราะเป็นเรื่องที่พวกท่าน ต้องช่วยกันคิด ต้องช่วยกันพิจารนาเอาเองว่า ครูบาอาจารย์ของท่านนั้น

    ท่านสอนอะไร?
    ท่านสอนทำไม?
    ท่านมีจุดมุ่งหมายอะไร?

    และพวกท่านก็ต้องหาเอาเองว่า

    ธรรมที่เกินเลย ที่ครูบาอาจารย์ของตนสอนนั้น คืออะไร?

    ผมจะยกแค่ คำสอนของครูบาอาจารย์ฝ่ายธรรมยุติมาเป็นตัวอย่างคือว่า

    องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านสอนว่า


    "พระโพธิ์สัตว์ เป็นผู้มีบุญบารมีมาก"
    "เป็นผู้ที่จะไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต"
    "ต้องให้ความเคารพท่านด้วย"


    และองค์ท่านยังบอกอีกด้วยว่า

    "เมื่อเฮาตายไปแล้ว จะมีช้างเผือกหนุ่มเกิดขึ้น"

    ความหมายขององค์ท่านคือ พระโพธิ์สัตว์แม้ว่าท่านกำลังสร้างบุญบารมีอยู่
    แต่ศักดิ์ ของท่าน ก็ยังสูงส่งกว่า พระ เณร ทั่วๆไป

    แม้ว่าองค์ท่านจะทราบว่า
    "เมื่อเฮาตายไปแล้ว จะมีช้างเผือกหนุ่มเกิดขึ้น"

    องค์ท่านก็ไม่ได้สั่งเสียว่า ให้หมู่คณะ ให้พระเณร ให้ญาติธรรม ต้องทำอย่างไร

    จึงจะถูกต้อง จึงจะเหมาะสม จึงจะเกิดผลดีที่สุด ต่อพระศาสนาโดยรวม

    องค์ท่านก็คงคิดว่า เมื่อองค์ท่าน แม้ยังไม่ได้สะสมบุญบารมีจนถึงขั้น การได้รับพุทธพยากร
    แต่องค์ท่านก็รู้ธรรม องค์ท่านก็เห็นธรรม มากมายขนาดนี้

    แม้แต่องค์ท่านก็ลืมพิจารนาว่า

    พระโพธิ์สัตว์ที่ท่านได้รับพุทธพยากรแล้ว(ช้างเผือกหนุ่ม)เมื่อท่านเกิดมาท่านย่อมมีบุญบารมีมากพอ ที่จะทำให้ชาวพุทธ รู้ได้ เข้าใจได้เอง

    แม้แต่องค์ท่านก็ลืมพิจารนาว่า

    ชาวพุทธ ต่างก็มีฏรรมดี มีกรรมชั่ว ติดตัวมากันทุกๆคน
    การจะมองเห็นอย่างเด่นชัด ก็ต้องมีครูบาอาจารย์เป็นผู้บอกทางให้
    แต่เมื่อครูบาอาจารย์ท่านบอกเพียงแค่นี้ ก็เป็นเรื่องที่เราต้องพิจารนาเอาเองต่อไป

    พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์เป็นผู้มีบุญบารมีสูงที่สุดของฝ่ายธรรมขาว
    ธรรมขาว ก็คือ เรื่องของ คุณงามความดี กุศลผลบุญ
    เช่น ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ หลุดพ้น

    พญามารแต่ละท่านเป็นผู้มีบุญบารมีสูงที่สุดของฝ่ายธรรมดำ
    ธรรมดำ ก็คือ เรื่องของ การชดใช้กรรมชั่ว ที่ได้เคยทำเอาไว้แล้ว
    เช่น การรับผลกรรมชั่วที่ได้เคยทำเอาไว้แล้ว การระดมเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ให้มาเช็คบิลพร้อมๆกัน

    ส่วนที่อยู่ระหว่างทั้งธรรมขาว และ ธรรมดำ ก็คือ

    การขออโหสิกรรม การสร้างกุศลผลบุญที่ยิ่งใหญ่จนเหล่าเจ้ากรรมนายเวรส่วนมาก ยอมรับในกุศลผลบุญนั้น
    ยอมอโหสิกรรมให้ ยอมรับกุศลผลบุญที่ได้อุทิศให้ และเลิกแล้วต่อกัน

    แม้มีเจ้ากรรมนายเวรบางส่วน ที่มีความอาฆาตมาดร้ายสูง ไม่ยอมอโหสิกรรมให้
    แต่ก็ไม่อาจจะสามารถทำอะไรได้
    เพราะคู่เวร คู่กรรม เขาได้สร้างกุศลผลบุญอันยิ่งใหญ่ และกุศลผลบุญนั้น ได้ให้ผลก่อน และให้ผลอย่างยาวนาน
    จนแม้เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่อาจทนรอเห็นกรรมชั่วนั้นๆให้ผลได้
    ผลสุดท้ายก็ต้องยอมรับกุศลผลบุญที่เขาอุทิศให้แล้ว ก็อโหสิกรรม เลิกแล้วต่อกัน

    ส่วนที่อยู่ระหว่างทั้งธรรมขาว และ ธรรมดำ ก็คือ การมองเห็น กรรมของแตละบุคคลอย่างชัดเจน
    และยังสามารถ หาอุบาย ให้ผู้มีจิตเป็นบุญ เป็นกุศลทั้งหลาย ได้สามารถร่วมบุญ สร้างกุศลผลบุญ อันยิ่งใหญ่ได้
    และนำกุศลผลบุญเหล่านั้น ไปอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ให้พวกเขายอมเว้นโทษให้ ยอมเลิกแล้วต่อกัน

    เมื่อพญามารระดมกำลังเจ้ากรรมนายเวรได้มากพอ เมื่อพญามารมีกำลังไพร่พลมากพอ
    ก็ถึงเวลาแห่งการเอาคืน ก็ถึงเวลาแห่งกรรมชั่วตามสนอง

    ซึ่งก็คือ ภัยพิบัติสารพัดรูปแบบ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ อย่างไรละท่าน

    แต่หนึ่งเดียวที่ต้านภัยพิบัติได้ก็คือ พระพุทธเจ้าในแต่ละยุคแต่ละสมัย เท่านั้นเอง

    เวลาที่เหมาะที่สุด ที่พญามารเลือกก็คือ ยุคที่พระพุทธศาสนาอ่อนแอมากที่สุด
    ก็คือยุคหลังกึ่งพุทธกาลอย่างไรละท่าน

    เพราะยุคค่อนไปทางปลายพุทธกาลนั้น เป็นยุคของพญามาร ยุคของภูตผีปีศาจ อยู่แล้ว(ยุคของปู่ฤๅษีสายไสย์เวทมนต์ดำ)

    และเพียงหนึ่งเดียวที่จะสามารถรวบรวมชาวพุทธ สร้างกุศลผลบุญที่ยิ่งใหญ่
    เพื่ออุทิศกุศลผลบุญ ให้เล่าเจ้ากรรมนายเวรได้ ก็คือ

    พระโพธิ์สัตว์ อย่างไรละท่าน และพระโพธิ์สัตว์องค์นั้นๆ
    ท่านต้องได้รับพุทธพยากรแล้วเท่านั้น เพราะ

    ท่านต้องมีบุญบารมีมากพอ ที่จะรวบรวมชาวพุทธหมู่ใหญ่ได้
    ท่านต้องมีฤทธิ์มากพอ ที่บุกบ่าฝ่าฟัน ให้ตลอดลอดฝั่งได้

    ดังนั้น ชาวพุทธทั้งหลาย ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะพิจารนาว่า

    เส้นทางที่ท่านเดินนั้น สร้างกุศลผลบุญได้ ยิ่งใหญ่เพียงพอ หรือไม่
    เส้นทางที่ท่านเดินนั้น จะช่วยต้านภัยพิบัติ ได้สมน้ำสมเนื้อ กับที่ท่านได้ลงทุนลงแรงไปหรือไม่
    เส้นทางที่ท่านเดินนั้น จะช่วยตัวท่านเองให้รอดได้หรือไม่
    เส้นทางที่ท่านเดินนั้น จะช่วยให้ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของท่านเองให้รอดได้หรือไม่
    เส้นทางที่ท่านเดินนั้น จะช่วยให้หมู่คณะของท่านเองให้รอดได้หรือไม่
    เส้นทางที่ท่านเดินนั้น จะช่วยให้ชาวพุทธส่วนใหญ่ให้รอดได้หรือไม่

    ถ้าท่านมองแต่ธรรมขาว ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ หลุดพ้น
    ท่านไม่มีวันรอดจากภัยพิบัติแน่ๆ
    เพราะที่ท่านจะทำได้ก็แค่ สยบข่าวภัยพิบัติเท่านั้นเอง

    และถ้าท่านมองว่า

    "กรรมเป็นของๆตน กรรมเป็นผู้ให้ผล กรรมเป็นแดนเกิด"
    "กรรมเป็นผู้ติดตาม กรรมเป็นที่พึ่งอาศัย"
    "เราจะทำกรรมใดๆไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาป"
    "เราจะต้องได้รับผลของกรรมนั้นสืบไป"

    ท่านไม่มีวันรอดจากภัยพิบัติแน่ๆ

    ท่านต้องสอดส่องมองหาว่า

    "เราจะสร้างกุศลผลบุญอันยิ่งใหญ่ได้อย่างไร"
    "เราจะขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวรได้อย่างไร"
    "เราจะสร้างกุศลผลบุญอันยิ่งใหญ่ จนเวรกรรมไล่ไม่มีวันทันได้อย่างไร"

    ท่านต้องคิดอย่างนี้ ท่านจึงจะรอดจากภัยพิบัติได้
    ท่านต้องคิดอย่างนี้ ท่านจึงจะสร้างกุศลผลบุญอันยิ่งใหญ่ได้

    ท่านต้องคิดเอาเอง ท่านต้องพิจารนาเอาเองว่า

    ครูบาอาจารย์ของท่านสอนอะไรไว้
    แท้ที่จริงท่านอยากให้เราทำอะไร
    แท้ที่จริงมีธรรมที่สูงส่งกว่าที่ครูบาอาจารย์ท่านบอก ท่านสอนเอาไว้หรือไม่

    จะสู้กับภัยพิบัติ ต้องสู้ด้วยธรรมที่สามารถต้าน สามารถสลายภัยพิบัติที่ต้นเหตุได้เท่านั้น

    ไม่อย่างนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับ การยอมรับชะตากรรม
    ยอมให้ภัยพิบัติมันเกิด ยอมล้มหายตายจากไป โดยไม่ได้ร่วมต่อต้านขัดขืนใดๆเลย

    พระโพธิ์สัตว์ที่ท่านนำ ที่ท่านพา สร้างกุศลผลบุญระดับที่จะต้าน ที่จะป้องกัน ที่จะแก้ไข ภัยพิบัตินั้น

    ท่านต้องมีฤทธิ์ ท่านต้องมีฌาณบารมี ที่จะนำพาผู้คน
    สร้างกุศลผลบุญที่จะต้าน ที่จะป้องกัน ที่จะแก้ไขภัยพิบัติได้อยู่แล้ว

    เพียงแต่ชาวพุทธทั้งหลาย ถึงเวลาที่ท่านต้องคิด ต้องพิจารนา ต้องตัดสินใจด้วยตัวท่านเองว่า

    ท่านจะสร้างกุศลผลบุญมากน้อยเท่าไร
    ท่านจะรอให้เขามาช่วย
    หรือท่านจะเป็นผู้ที่ช่วยผู้อื่น

    มันขึ้นกับตัวท่านเองจริงๆ

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ ร่วมกับผู้มีบุญบารมีทุกๆท่าน
    ขอบคุณครับ
    ลุงมหา
     
  15. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814






    ที่ท่านลุงมหา ๑ พูดมาก็มีเหตุผลนะครับ แต่ผมก้ได้มองดุแล้ว ว่า ทุกที่ของประเทศไทยเรานั้น ผมพูดแบบที่ผมเห็น หรือมองแบบ ปัญญา ปุถุชน เพราะไม่มีญาณหยั่งรู้ แบบคนอื่นเขา ในหลวง ร ๙ ท่านได้พูดมาอย่างชัดเจน ไม่มีผู้ใดผู้หนึ่ง ทำได้เพียงผู้เดียว ต้องช่วยกัน ไม่สามารถ ทำให้ใครเป็นคนดีได้หมด ต้องช่วยกันทุกจุด เฉพาะ พระโพธิสัตว์ ที่มีบารมี เต็ม คล้ายพระศรีอารย์ ความเข้าใจของผม ถ้าในขั้น บารมีเต็ม มันต้องได้รับ พุทธพยากรมาแล้ว เหมือนองคืสมเด็จพระบรมครู องค์ปัจจุบันของเรา ตอนที่ท่าน ทำความปราถนา เป็นพระพุทธเจ้า ตอนเกิดเป้น พระสุเมรดาบส ในสมัย พระพุทธเจ้า ชื่อว่า พระพุทธทีปังกรพระพุทธเจ้า ย้อนหลังไปเมื่อ ๔ อสงไขยกำไลยอีกแสน มหากัป


    แล้วในบรรดา ที่ ท่านทำความปราถนา ในด้าน ศรัทธาธิกะ ในด้าน ที่บำเพ็ญ วิริยาธิกะ อีกเล่าครับ ผมว่านะ พระโพธิสัตว์ทั้งหลายท่านคงช่วยกันอยู่แล้วครับ ทั้งพระฆราวาส เถร เณร ชี ผู้หยิงผู้ชาย จริงๆก็ไม่อยากพูด แต่มันเสือกคันปาก น่ะครับท่านมหา ๑ ต้องให้อภัยผมด้วยนะ ก็เห็นมีเยอะแยะ บอกนำบุญ ภัยภิบัติ มากมายก่ายกอง ทั่วประเทศ เห็นแข่งกัน เป็นว่าเล่น หลายรูปแบบ หรือท่านจะแสดง ให้ใครได้ได้เห็นว่า อ๋อไม่มีเราคนเดียวโว๊ย ยังมีเพือนอีกเยอะ ฮ่าๆๆฮ้าๆๆๆ ขอแหย่หน่อยนะ อย่าได้ถือสาเอาความ


    ไม่เห็นมันยากเลย บุญไม่มี บารมีไม่มี ก้สร้างกันใหม่ได้ เขาสร้างพระ กันที่ไหน สร้างโบสถ วิหาร ศาลา การเปรียญ ส้วมกุกิ เมรุเผาศพ สร้างโรงบาล ที่สาะรณประโยชนื ก็ทำเข้าไปสิ นั่น มันมีบารมีแล้ว เอาแค่ รักษาให้ทาน สิล เจริญภาวนา นี่ไม่ต้องลงทุนมาก ออกแค่แรงกายแรงใจ ก็บุญ ใหย๋เกิดแล้ว น่ะท่าน ถ้าขี้เกียจก้ แค่ยกมือ อนุโมทนาสาธุ บุญคนอื่นก็ได้ ยินดีในการร่วมทำบุญกับเขา นี่ท่านบุญใหญ่ๆทั้งนั้น แต่ว่าผมว่าไม่ดี เดียวไม่มีวิมารเป็นของตัวเอง ทำเอาเองดีกว่านะท่าน จะได้เป็นอเกลักษ์ เหมือนของผมของท่านไง เช่นลุงมหา ๑ นี่ก้เป็นเอกลักษ์แล้วครับ แหมท่านก็


    พระพุทธองค์ ทรงพยากร เอาไว้แล้ว พันปีที่ ๑ จะมากไปด้วยพระอรหันตื ปฏิสัมภิทาญาณ พันปีที่ ๒ จะมากไปด้วย พระหรหันต์ อภิญญาหก พันปีที่ ๓ จะมากไปด้วยพระอรหันตื วิชชาสาม พันปีที่ ๔ จะมากไปด้วยพระอรหันตื สุกขวิปัสโก พันปีที่ ๕ จะมากไปด้วยพระอนาคามี ที่กว่าวมาทั้งหมด พันปีนั้นๆ จะมาก อย่างนั้นๆ พันปีสุดท้าย ตั้งแต่ ๑ ถึงที่ ๔ จะลดน้อยถอยลง มีน้อยมาก จะมาก ไปด้วย อย่างที่ว่ามาครับผม


    อนุโมทนาสาธุ ขอท่านเจริญในธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2013
  16. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    คิดมาก จินตนาการมาก มันก็หลงอยู่ในวังวนของความคิด
     
  17. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154


    ขอบพระคุณครับที่ให้ความรู้..จะเก็บไว้เป็นมุมมองครับ

    ขออภัยครับ..ตามหนังสือตัวแดงด้านบน..สุดแล้วแต่ท่านจะตรวจ

    สอบใหม่ครับ..แต่ข้อความทั้งหมดดูแล้วไม่ขาดตกบกพร่องเลยครับ.
     
  18. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    หยุดเป็นตัวสำเร็จ หยุดเป็นตัวสำเร็จ
     
  19. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    น้อง ๔ สำเร็จอะไรหรือ สำเร็จจากมามีเมีย หรือ สำเร็จ ฆฤหัสตผลทุกแบบ จะเอาแบบไหนล่ะน้อง ๔
     
  20. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    หยุดจากอวิชชาทั้งหลาย จึงสำเร็จมรรคผล

    ผู้ใดยังไม่หยุดในอวิชชา ย่อมไม่สำเร็จมรรคผล
     

แชร์หน้านี้

Loading...