จุดนัดพบศิษย์กรรมฐานแพงสายเลือดที่ ๔ สายตรง "ผู้ครอบครูรับดวงธรรม"

ตั้งธาตุ รวมธาตุ ชีวิตอมตะ

เจริญธรรม เจริญสุขพี่น้องทุกท่าน

ยังคงอยู่ที่สุรินทร์เจ้าค่ะ


วิชาที่เราครอบครูนั้น และคำภาวนาที่คุณนาคายกมาจากเพชรฉลูกันนั้นนะคะ เขาเรียกว่า การเดินธาตุ รวมธาตุ ตั้งธาตุ

ยายผีป่าถามหลวงปู่ละมัยถึงวิชาที่เราครอบครูและเกาะที่คำภาวนา นะ หรือ โธ นั้น เป็นอย่างไร

ท่านก็ตอบว่า ตั้งธาตุ แล้วท่านก็ขยายความต่อว่า คำภาวนาใดบ้างที่เป็นการตั้งธาตุ (เดินธาตุ รวมธาตุ) ท่านว่าถ้าคล่องแล้วจะอยู่นานเท่าไรก็อยู่ได้ แต่ถ้าอยู่แล้วต้องกินนะ ไม่กินก็ตาย


...................................................


ขอขอบคุณทุกๆ คำอวยพรทั้งผ่านทางกระแสจิต และหน้าบอร์ด และทางมือถือ

ขออภัยมิได้ตอบกลับเป็นรูปธรรม เพราะภาวนาทั้งคืน

หวังว่าท่านๆ คงปีติ มีสุข ตามวาระนะเจ้าคะ


........................................................


เห็นทีว่า ยายผีป่าคงมีงานเข้าอีกมากมาย เกินเขตรับผิดชอบหน้าเว็บพลังจิต.คอม และทองผาภูมิ (โครงการที่ทำไว้เพื่อช่วยเหลือคนและรองรับกัลยาณมิตรนะจ้า) คงต้องเดินสายสาธยายความจริงตามสภาวะที่รู้ถึงตามสถานที่ต่าง ๆ อันนี้คงแล้วแต่เบื้องบนท่านสั่ง

ถ้าเดินสาย คงไม่ต่างจากอาจารย์ ไก่ คนเมืองบัวกระมัง ไม่มีหยุดเลย เอ..หรือว่าท่านมาแตะมือ บอกว่า "ผมไม่อยู่ รับช่วงแทนหน่อย เดินสายต่อยอดหน่อย"

แต่ว่าถ้ายายผีป่าต้องเดินสายจริง ๆ นะคะ คงไม่มีการสอนมโนมยิทธิแบบอาจารย์ไก่ เพราะสอนไม่เป็น คงเป็นรูปแบบที่เราถนัดกระมัง


.............................................

เพื่อน ๆ พี่น ๆ น้อง ๆ ที่สุรินทร์ แม้กระทั่งน้าสาวแท้ ๆ ของยายผีป่าที่ไม่เจอกันานกว่า ยี่สิบปี เพิ่งมาทราบว่า "เราคือยายผีป่า" อิอิ


แหม...เว็บพลังจิต.คอม เป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างจริง ๆ ค่ะ

และได้ทราบว่า บางบริษัทนะคะ อนุญาติให้พนักงานเปิดเว็บพลังจิต.คอม ได้เว็บเดียวนอกเหนือจากงานที่สั่ง เวลาพักเที่ยง หรือทีเบรคค่ะ

................................................


ที่งานหลวงตานะคะ

ยายผีป่านำเพื่อน ๆ ที่ร่วมเรียนด้วยกันมาสมัยเด็ก ให้จุดธูปหน้าศพ ๓ ดอก เพื่อนๆ ก็งง

ขออธิบายเพิ่มเติมคือ


การจุดธูป ๓ ดอก นี้คือ ให้เราระลึกถึง พระรัตนตรัย โดยเฉพาะเห็นแจ้งตามธรรมที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้มาจริงแล้วว่า "ความตาย ย่อมเกิดแก่ทุกผู้ทุกนาม เราล้วนหนีความตายไม่พ้น" ธรรมข้อนี้เตือนเราให้ไม่ตกอยู่ในความประมาท สาธุกับสิ่งที่พระพุทธองค์แจ้งแล้วตามจริง ขอขอบพระคุณครู(ผู้ตาย) ที่ตายให้เราเห็นเป็นตัวอย่าง นี่หลวงตาอยู่มานาน ท่านอยู่จนลูกหลานตายไปก่อนหน้าหลายราย แต่ไม่ว่าท่านจะอายุยืนเพียงไร สุดท้ายท่านก็ตายอยู่ดี และท่านตายในสภาวะที่ถึงพร้อมแล้วตามกำลังจิตกำลังใจของท่าน ตามบุญว่างั้นเหอะ ท่านไปอย่างไม่ประมาท แต่เราละ ประมาทมากน้อยเพียงไร ขอให้นำมาตริตรอง และการไหว้หน้าศพนั้น ให้เราพึงพิจารณาตนมาขึ้น ให้เห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

...................................................

ขอตัวไปวัดนะคะ ขอให้ทุกท่านพ้นทุกข์ หลุดพ้นเร็ว ๆ นะจ้ะ

 

สวัสดีปีใหม่ พี่น้องธรรมทุกท่านค่ะ
ปีใหม่นี้ขอให้กิจการของทุกท่านรับเงินล้านกอง..ทองล้านกิโล นะเจ้าคะ

ขอโทษคุณนัทด้วยค่ะ นัดเจอที่พัทยาแล้วไม่ได้ไป
ขออภัยทุกท่านที่โทร.เข้ามาแล้วไม่ได้รับสายค่ะ
พ่อหมู..หายไวไวนะจ๊ะ อย่าเพิ่งแกะเฝือก รอพี่ไปเซ็นชื่อเป็นที่ระลึกก่อน



ได้เจอกับพี่สาวท่านหนึ่ง(เมื่อคราวไปทำบุญที่ กม.27) ซึ่งจะคอยดูแลจัดน้ำปานะและปรมัตถ์ถวายพระเถระผู้ใหญ่เวลามาพักที่ ที่พักสงฆ์ กม.27 พี่สาวท่านนี้เมตตามากๆ โทร.มาตามให้ไปกราบพระเถระ ที่มาพักช่วงส่งท้ายปีเก่า
วันที่ 3 ก็ไปร่วมทอดผ้าป่า รับปีใหม่ ที่วัดป่ากกกะบาก อำเภอภูไท จังหวัดพิษณุโลก
ก่อนกลับท่านอาจารย์เจ้าอาวาส แจกเพชรพญานาค ให้ข้าเจ้าและญาติคนละองค์ ขนาดประมาณที่คุณนาคาเคยนำมาให้ชม อาจารย์ก็จะถามว่าใครเกิดวันอะไร แล้วก็ให้สีตามวันเกิด ก็มีเรื่องที่ได้เห็นด้วยตัวเอง คือลูกชายของข้าเจ้าเกิดวันอังคาร ก็ได้สีชมพู กลับถึงกรุงเทพประมาณ 3 ทุ่ม แวะทานอาหารกันก่อนเข้าบ้าน ระหว่างนั้นก็คุยกันเรื่องเพชรพญานาค และต่างก็หยิบของตัวเองมาให้ดูกัน เพราะของพี่สาวกับพี่เขยที่เป็นประธานผ้าป่าได้มา องค์ใหญ่และงามมาก แต่ปรากฏว่าองค์ที่ลูกชายข้าเจ้าได้มาเปลี่ยนจากสีชมพู เป็นสีขาวใส ทุกคนตื่นเต้นกันมากเลย นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ได้พบกับตัวเองจริงๆ
ก็เลยอยากทราบว่าเราจะต้องบูชาอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ มีบทสวดอะไรที่ใช้สวดบูชาบ้าง
พี่น้องท่านใดที่มีประสบการณ์ ช่วยบอกด้วยค่ะ

 

คงไม่ช้าเกินไปที่จะสวัสดีปีใหม่ ขอให้ญาติธรรม ลูกศีลลูกธรรมมีความเป็นอยู่ที่คล่องตัว มีความปรารถนาที่สมหวังทุกประการ

 

ค่ำคืน แห่งวันพระ ครับ

ทราบข่าวเบื้องต้น

- รับยันต์เกราะเพชร เสาร์ 5 วันเสาร์ ที่ 20 มีนา
- งานบุญกราบ ท่านตา ประมาณ มีนา -เมษา

ทราบข่าวเบื้องต้น ว่า คนงาน สร้างเรือนโลกอุดร บ้าน ยาย เจอ พระ หลวงปู่
ต้อง รอ ยาย ขยายความ ครับ

กล่าวว่า หวัดดี ปีใหม่ ทุกท่าน ครับ

เจ้จิ๋ม ร่มบุญ ครับ เท่าที่ทราบจาก หลายท่าน ที่ใด้รับ มณีนาคราช บางท่านเจอปฏิหาร คือ ดวงแก้ว นั่น เธอเปลี่ยนสี ขยายขนาดใด้ ครับ เป็นอาการปกติ ครับ ในการ ผสมผสาน กับ ดวงเทพเทวา ที่ท่าน ดูแล อัญมณีนั้นครับ
หมั่น แช่น้ำ บ้างตาม โอกาส น้ำสายนที จะประสาน มิติ ใด้ดี ตามวาระ ครับ ( ขอชมภาพ ดวงมณี แบ่งให้เพื่อนๆใด้ ชมบ้างครับ อิอิอิ )

บทสวด นาคา เองจะ แผ่เมตตา และ บอกกล่าวว่า บุญ ที่เราสร้างสมแต่ละวันตามวาระ ให้เทพเทวา ที่ดูแล รักษา ในดวงมณี นั่นๆ ครับ

เจ้ดาว ;ดวงแก้วงดงามมากเลยค่ะ อยากมีบุญวาสนาได้มาบูชาบ้างจังเจ้าค่ะ :'(

แวะเยือน เรือน นาคา คงใด้ ;;; อย่างอื่น ;;; เตรียมใว้ แล้ว จ้า..ตามวาระ อิอิอิ...
คุณ นัท เป็นอย่างไร บ้างครับ การปฏิบัติธรรม ทราบข่าว ก้าวหน้า
หมอสัญญา เตรียมการ แต่งงาน เมื่อไหร่
คุณ wสุรพล ปีใหม่ กิจการ ก้าวหน้า รุ่งเรือง น่ะครับ
แม่หมู / พ่อหมู โคราช...ทราบข่าว หัดขับรถ...
หลายๆท่าน....แจ้งข่าว ตาม ข่าว บ้างครับ

กระทู้เงียบไป....

 

สวัสดี ปีนี้ ทุกท่านครับ
ไม่รู้ว่า นัท ที่ คุณ นาคา เอ่ยถึง นี่ผมหรือปล่าว แต่ถ้าเป้นผมแล้ว การปฏิบัติ ก็ยังคงเท่าเก่า...

ขอส่งความปราถนา ดี ถึงคุณยายและครอบครัว คุณหมูเล็กใหญ๋และลูกๆ ครอบครัวคุณ สุรพล คุณหมอสัญญา น้องชื่นจิตร คุณหยกแดง คุณนาคา พี่จิ๋มกับหวานจั๋ย และลูกธรรม ร่วมสำนักทุกท่าน
ขอให้กระแส พุทธบารมี บังเกิดทุกลมหายใจเข้าออก สาธุ

 

คิดทึ้ง..คิดถึง

เมื่อวานเกือบพลาด วันพระ ทั้งที่คุยกับคุณนัทตอนเย็นแล้วเชียว ว่าจะรีบกลับบ้านหาดอกไม้บูชาครู ดูทีวีเพลินจนหลับ สะดุ้งตื่นตอนห้าทุ่มครึ่ง รีบจัดพานครูตั้งขันธ์ ๕ แล้วสวดมนต์ กับบทสวดบูชาพญานาคราชและพลอยพญานาค ได้มาจากกระทู้ของคุณน้ำใส เคยผ่านตาในกระทู้ของยายด้วยแต่หาไม่เจอ นี่ก็ยังติดเรื่องวิธีการขอพบหลวงปู่ใหญ่ ที่ยายเคยโพสต์ไว้ ยังค้นให้คุณนัทไม่เจอเหมือนกัน ได้อ่านเรื่องราวความลึกลับเกี่ยวกับตระกูลนาค เพชรนาคราช แก้วจันทกานต์(คุณนาคาเพิ่งได้มา)ในกระทู้คุณน้ำใส เป็นความรู้มากๆ เดิมก็เคยติดตามเรื่องราวอยู่บ้างเหมือนกันแต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นของจริง แต่พอได้เจอกับตัวเอง ตอนนี้เลยอยากได้ไว้บูชาบ้าง เค้าบอกว่าผู้ที่จะได้ครอบครองต้องเป็นผู้มีศีล มีธรรม หมั่นปฏิบัติ ไอ้เราก็ศีลกระพร่องกระแพร่ง แต่ก็เร่งอยู่เผื่อจะมีวาสนากับเค้าบ้าง

คุณนาคา...มาแว้ว..รออยู่จ้ะ..เฮ้อยกตำแหน่งเจ้ให้เราซะแล้ว..รับค่ะยังไงก็รับ นี่จะเตือนกันทางอ้อมให้พี่เร่งปฏิบัติด้วยเวลาเหลือน้อยใช่ อ๊ะปล่าว ถ้ายังไงส่งสานส์เตือนบ่อยๆนะคะ ข้าเจ้ามักจะหลงทางเสมอด้วยใจยังมืดอยู่ ถ้าคลำทางเองคงอีกนาน ช่วยสงเคราะห์เป็นแสงส่องทางให้ข้าเจ้าด้วยเต๊อะ..นะจ๊ะคุณนาคา...นะจ๊ะยาย...ก็เกรงใจเนาะจึงไม่โทรคุย ช่วงนี้คงไม่ค่อยมีเวลากัน ทั้งยายและคุณนาคาคงเร่งสร้างเรือนโลกอุดร และเรือนนาคาให้แล้วสร็จเร็ววัน ข้าเจ้าเองก็ทำให้งานทางโลกมันยุ่งเหยิงซะงั้น ทางธรรมเลยไม่เจริญเท่าไหร่ อ้อ..ดีแต่นั่งภาวนาได้นานขึ้นหน่อยจ้ะ

เอ้า..แม่หมู หัดขับรถเป็นยังไงบ้างหนอ พ่อหมูหุ่นสมาร์ทหรือยังจ๊ะ

คุณดาว..หยกแดง และเพื่อนธรรมที่อยู่ทางแถบยุโรป รักษาสุขภาพด้วยนะจ๊ะ มีข่าวสภาวะอากาศแปรปรวน ดูแลตัวเองกันด้วยค่ะ

คิดถึงทุกคน..คิดถึงยาย..(f)

 

ระหว่างหาข้อมูลให้คุณนัท ...เจออันนี้อ่ะ
ทายซิ..ใครเอ่ย -Happy Smile_

 

แม่หมูมาแล้วเจ้าค่ะ สวัสดีพี่น้องร่วมสำนักทุกท่านค่ะ ตอนนี้งานหนักมากดูแลพ่อหมูและูลูกหมูแถมหัดขับรถมา 4 วันแล้วยังเกร็งอยู่เลย พรุ่งนี้จะไปสอบใบขับขี่แล้วขอแรงใจจากพี่น้องด้วยนะคะ และขอส่งความคิดถึงยายและครอบครัว ยายคุมงานก่อสร้างรักษาสุขภาพด้วยค่ะ พี่นาคา พี่ร่มบุญ พี่นัท ณ พัทยาและครอบครัว คุณหยกแดง น้องนัทหญิง และพี่น้องร่วมสำนักทุกท่านค่ะ

 

หลวงปู่สมเด็จลุน

มุทิตา ท่านหลวงปู่

ขออนุญาติ นำข้อมูล ที่น่าสนใจ ในพ่อแม่ครูบา อาจารย์ ครับ



หลวงปู่สมเด็จลุน ได้ถือกำเนิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๖ ที่บ้านหนองไฮท่า ตำบลเวินไซ เมืองโพนทอง แขวง จำปาศักดิ์ ประเทศลาว โดยเป็นบุตรของ พ่อบุญเลิศ แม่กองศรี สว่างวงศ์ และท่านมีลักษณะพิเศษ จากคนทั่วไปคือท่านอยู่ในครรภ์ของมารดาสิบเดือนเศษ และเวลาคลอดก็คลอดง่ายไม่เจ็บปวดเหมือนคลอดลูก คนทั่วไป พ่อแม่จึงตั้งชื่อให้ว่า “ท้าวลุน” เมื่อเป็นเด็กนั้นท้าวลุนมีอุปนิสัยเป็นคนเจ้าระเบียบ มาตั้งแต่เด็ก เป็นคน ละเอียดรอบคอบ เมื่อเจริญวัยขึ้นมาก็ได้ศึกษาเล่าเรียนและช่วยเหลือครอบครัว

พอมาอายุได้ ๑๒ ปี บิดามารดาพิจารณาเห็นว่าท้าวลุนมีอุปนิสัยน้อมไปในบรรพชา จึงได้พาไปบรรพชา เป็นสามเณรที่วัดบ้านหนองไฮท่า เมื่อบวชเป็นสามเณรแล้วสาม เณรลุนก็มีลักษณะต่างจากสามเณรทั่ว ๆ ไป กล่าว คือท่านมีความจำเป็นเลิศทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยอ่านหนังสือแต่ก็สามารถท่องจำบทสวดมนต์ต่าง ๆ ได้ สามเณรลุน ได้ไปร่วมงานศพของพ่อท่านนาโหล่ง ซึ่งเป็นพระที่มีอภิญญาโด่งดังมากในสมัยนั้น แล้วท่านก็ไปดูศพของพ่อ ท่านนาโหล่ง จึงมองเห็นคัมภีร์ก้อม (หนังสือใบลานผูกเล็ก ๆ) หนีบอยู่ที่รักแร้ สามเณรลุนมีความรู้สึกว่า พ่อท่าน นาโหล่งยิ้มให้แล้วบอกให้ท่านหยิบเอาหนังสือไป ท่านก็ยกมือขึ้นไหว้แล้วรีบดึงเอาหนังสือนั้นไป จากนั้นสามเณร ลุนก็หายตัวไปโดยไม่มีใครทราบ ช่วงที่หายไปนั่นเองท่านได้ไปศึกษาวิชาจากฤาษีพระยาจักรสรวง

จนสำเร็จวิชา แล้วจึงกลับมาที่วัดบ้านเวินไซ อีกครั้ง จากนั้นท่านก็อยู่ประจำที่นั้นตลอดมา จนอายุครบอุปสมบทจึงได้ อุปสมบทเมื่อ อายุ ๒๐ ปี ที่วัดนาคนิมิต หลวงพระบางโดยมี พ่อถ่านจันที อคฺคมโน เป็นพระอุปัชฌาย์ พ่อถ่าน หลวง ปุณฺณวงฺโส เป็นพระกรรมวาจา พ่อถ่านก้อม โสคมโน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว ก็ประจำอยู่ที่วัดเวินไซ หลวงปู่เคร่งครัดต่อพระธรรมวินัยมาก มีความรู้แตก ฉานในพระธรรมวินัยเป็นอย่างดี มุ่งเน้นไปในทางปฏิบัติเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากหลวงปู่มีความแตกฉานในทุก ๆ ศาสตร์ จึงได้แต่งตำราเกี่ยวกับวิชาอาคม ตำรายาสมุนไพร และตำราอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก ส่วนเรื่อง อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่นั้นมีการกล่าวถึงกันมากมาย มีตำนานเรื่องเล่าของท่านสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้

หลวงปู่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ที่สมเด็จพระมหาญาณเถระ กตปุญฺโญ และอยู่เป็นที่พึ่งของลูกหลาน รวมสิริอายุได้ ๑๐๘ ปี จึงได้มรณภาพ ยังความเศร้าโศกเสียใจให้เกิดขึ้นแก่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย คณะศิษยา นุศิษย์ได้จัดสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิของหลวงปู่ไว้ ที่วัดบ้านเวินไซ เมืองโพนทอง แขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว ส่วน ที่ตั้งเมรุเผาศพของท่านนั้นได้เกิดเป็นต้นโพธิ์ใหญ่ขึ้น ๕ ต้น ระยะหลังได้จัดตั้งวัดขึ้นอีกชื่อว่า วัดโพธิ์เวินไซ มาจนกระทั่งทุกวันนี้

ประวัติ
หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล



หลวงปู่ละมัย , หลวงปู่นะ ,หลวงปู่สุภา ณ.วัดสีลสุภาราม ภูเก็ต เมื่อ พค.2550


หินพระธาตุ รอยพระพุทธบาทจำลอง
​

หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ท่านได้ถือกำเนิด ที่บ้านคำบ่อ ตำบลคำบ่อ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2439 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปีวอก โยมบิดาชื่อขุนพลภักดี ผู้ใหญ่บ้านคำบ่อ ชื่อเดิม นายพล วงศ์ภาคำ โยมมารดาชื่อ นางสอ วงศ์ภาคำ มีพี่น้องทั้งหมด 8 คน คือ
1. นางสี วงศ์ภาคำ (ถึงแก่กรรม)
2. นายเสน วงศ์ภาคำ (ถึงแก่กรรม)
3. นามผม วงศ์ภาคำ (ถึงแก่กรรม)
4. นางเกตุ วงศ์ภาคำ (ถึงแก่กรรม)
5. นายจันทร์เพ็ง วงศ์ภาคำ (ถึงแก่กรรม)
6. หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล
7. นางมาลีจันทร์ วงศ์ภาคำ (ถึงแก่กรรม)
8. นางกา วงศ์ภาคำ
เมื่อหลวงปู่สุภามีอายุได้ 9 ขวบ บิดามารดาได้นำท่านบวชเป็นสามเณร โดยมีพระอาจารย์สอน เป็นพระอุปัชฌาย์ สามเณรสุภาได้ศึกษาพระธรรมวินัยกับพระอาจารย์สอน เป็นเวลา 1 ปี หลังจากนั้นท่านได้เดินทางไปเรียนมูลกัจจายน์ที่วัดไพรใหญ่ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีพระอาจารย์มหาหล้า และฆราวาสชื่อ อาจารย์ลุย เป็นผู้สอน สามเณรสุภาได้ใช้เวลาศึกษามูลกัจจายน์อยู่ที่วัดไพรใหญ่ เป็นเวลาหลายปี เมื่อเรียนจบแล้วได้กราบลาอาจารย์เพื่อหาความรู้เพิ่มเติม จึงได้ออกเดินทางมานมัสการ หลวงปู่สีทัตต์ ที่วัดท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม หลวงปู่สีทัตต์ ท่านเป็นพระป่า มีชื่อเสียงทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน และทรงวิทยาคม ทางด้านคาถาอาคมไสยเวท ซึ่งท่านได้ศึกษาวิชาอาคมด้านต่างๆ มาจากสมเด็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ ประเทศลาว สมเด็จลุน ท่านเป็นสุดยอดปรมาจารย์ของประเทศลาว พระเกจิอาจารย์ทางภาคอีสาน แถบลุ่มแม่น้ำโขง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังล้วนฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่านทั้งสิ้น สมเด็จลุนท่านมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มากมาย เหลือจะบรรยายเป็นตัวอักษรได้ จะขอกล่าวไว้พอเป็นสังเขป สมเด็จลุนท่านสามารถเดินข้ามแม่น้ำโขงด้วยเท้าเปล่า และบางครั้งท่านจะไปนั่งสรงน้ำกลางแม่น้ำโขง นี่คืออิทธิปาฏิหาริย์ของท่าน
และในบรรดาลูกศิษย์ของสมเด็จลุน หลวงปู่สีทัตต์ ถือเป็นศิษย์เอกที่ได้รับการถ่ายทอดตำราวิทยาคม จากสมเด็จลุนจนหมดสิ้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ลูกไม้จะหล่นไกลต้น

เมื่อสามเณรสุภา ได้กราบนมัสการหลวงปู่สีทัตต์แล้ว ได้ขอฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่สีทัตต์ได้รับสามเณรสุภาเป็นศิษย์ด้วยความยินดี นับว่าหลวงปู่สีทัตต์เป็นพระอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานองค์แรก ของสามเณรสุภา

สามเณรสุภาได้เริ่มฝึกรรมฐาน และออกธุดงค์กับหลวงปู่สีทัตต์ ซึ่งท่านได้พาสามเณรสุภาธุดงค์ข้ามไปฝั่งลาว หลวงปู่สีทัตต์ได้พาไปที่ถ้ำภูเขาควาย เป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีความสวยงามน่าอยู่ ในถ้ำแห่งนี้มีพระสงฆ์ไปปฏิบัติธรรมรวมกันมาก ถ้ำภูเขาควายเปรียบเสมือนถ้ำสำนักตักศิลา ที่มีพระสงฆ์ลาวและไทย ไปจำพรรษาและแลกเปลี่ยนวิชาอาคม หนทางที่จะไปถ้ำถูเขาควายลำบากมาก เต็มไปด้วยสิ่งเร้นลับ พระธุดงค์ที่เดินทางไปถ้ำภูเขาควาย ถ้ามีวิชาอาคมไม่แก่กล้าพอ มักจะเอาชีวิตไปทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก

สามเณรสุภา ได้ติดตามหลวงปู่สีทัตต์ไปธุดงค์จนอายุครบอุปสมบทในปี พ.ศ. 2459 หลวงปู่สีทัตต์จึงได้อุปสมบทให้สามเณรสุภา ภายในถ้ำภูเขาควาย โดยมีหลวงปู่สีทัตต์เป็นพระอุปัชฌาย์ พระเถระที่ไปปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดถ้ำภูเขาควายเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “กนฺตสีโล”
หลังจากอุปสมบทแล้ว หลวงปู่สุภา ได้อยู่ปฏิบัติธรรมต่อไปอีกระยะหนึ่ง จากนั้นได้ติดตามหลวงปู่สีทัตต์กลับมาจำพรรษาที่ วัดท่าอุเทน เพื่อดำเนินการก่อสร้างพระธาตุท่าอุเทน เมื่อมีเวลาว่างท่านจะพา หลวงปู่สุภา และลูกศิษย์ออกธุดงค์แล้วกลับมาจำพรรษาที่วัดท่าอุเทน จนกระทั่งสร้างพระธาตุท่าอุเทนเสร็จเรียบร้อย หลวงปู่สุภา ได้อยู่ศึกษาพระปริยัติธรรม และปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับ หลวงปู่สีทัตต์ เป็นเวลานานถึง 8 ปี

เมื่อปี พ.ศ. 2463 หลวงปู่สุภา ได้กราบลา หลวงปู่สีทัตต์ เพื่อเดินทางธุดงค์วัตร และออกจากถ้ำภูเขาควาย เดินทางกลับตามที่หลวงปู่สีทัตต์ แนะนำ และ หลวงปู่สีทัตต์ ท่านยังได้บอกว่าท่านจะได้พบกับอาจารย์ที่เก่งมากองค์หนึ่ง
หลวงปู่สุภา ออกเดินทางไปตามเส้นทางที่ หลวงปู่สีทัตต์ แนะนำ เมื่อถึงจังหวัดหนองคายก็ออกธุดงค์เข้ากรุงเทพฯ เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ ท่านได้สอบถามพระเกจิอาจารย์ ที่เก่งทางด้านวิปัสสนากรรมฐานด้านพุทธาคม มีคนเล่าลือว่า

อาจารย์ศุข (หลวงปู่ศุข) อยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ท่านจึงได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ จนมาถึงอำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท เมื่อมาถึงวัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านได้คลานเข้าไปกราบหลวงปู่ศุข ซึ่งขณะนั้น หลวงปู่ศุข ท่านทราบแล้วว่า จะมีพระภิกษุมาจากประเทศลาว หลวงปู่ศุขจึงถามท่านว่ามาจากประเทศลาวใช่หรือไม่? ท่านจึงตอบและกราบเรียน หลวงปู่ศุข ว่า ท่านมีความประสงค์ที่จะมาศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคม หลวงปู่ศุข จึงรับไว้เป็นศิษย์ หลวงปู่สุภา ได้ศึกษาวิชาต่างๆ จาก หลวงปู่ศุข เป็นเวลา 3 ปี หลวงปู่ศุข ได้ถ่ายทอดวิชาด้วยความเมตตาต่อลูกศิษย์เป็นอย่างมาก ถึงแม้ หลวงปู่สุภา จะบวชเป็นพระภิกษุนานถึง 4 พรรษาแล้วก็ตาม แต่ หลวงปู่ศุข ก็ยังเรียกท่านว่า “เณรน้อย” ในขณะที่ หลวงปู่สุภา ได้มอบตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่ศุข ท่านมีอายุมากแล้ว แต่ท่านยังปฏิบัติธรรม และนั่งสมาธิเป็นเวลานานๆ ทุกวัน

​

หลวงปู่สุภา ให้ความเคารพนับถือ หลวงปู่ศุข เป็นอย่างยิ่ง หลวงปู่ศุขจึงนับเป็นพระอาจารย์องค์ที่สองของท่าน ต่อจาก หลวงปู่สีทัตต์
ในเรื่องเกี่ยวกับวิทยาคม หลวงปู่ศุข ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาต่างๆ ให้กับ หลวงปู่สุภา เมื่อ หลวงปู่ศุข นั่งกรรมฐาน หลวงปู่สุภา ท่านก็นั่งด้วย หากติดขัดปัญหาธรรม ก็ไปกราบเรียนถามท่าน ก็เมตตาแนะนำให้ทุกครั้ง ท่านจะปฏิบัติให้ดูเป็นตัวอย่าง แล้วให้ลูกศิษย์ศึกษาทำความเข้าใจ หลวงปู่สุภา ท่านค่อยๆ ศึกษาดูว่า หลวงปู่ศุข ทำอย่างไร?
ในเวลาที่ท่านปลุกเสกวัตถุมงคลก็ไปคอยสังเกต พระคาถาต่างๆ หลวงปู่ศุข ก็สอนให้บ้าง จดจำเองบ้าง และไปขอท่านบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีลูกศิษย์คนใดจะปฏิบัติจนบรรลุได้เหมือน หลวงปู่ศุข บางครั้งเวลาลงยันต์ทำตระกุด ต้องลงไปทำในใต้น้ำไม่มีใครเห็น จะเห็นก็ต่อเมื่อตอนท่านขึ้นจากน้ำแล้ว

​

หลวงปู่สุภา ท่านศึกษาวิทยาคม จากการอ่านตำราที่ท่านจดเขียนไว้บ้าง ดูจากกรรมวิธีที่ หลวงปู่ศุข ทำให้ดูบ้าง เรียนถามท่านบ้างท่านก็แนะนำให้พอสมควร ใครสนใจมากก็ได้มาก ใครไม่สนใจก็ไม่ได้เลย แต่ส่วนใหญ่ หลวงปู่ศุข ท่านจะเน้นเรื่องการรักษาศีล และการกฏิบัติมากกว่า เพราะท่านสอนว่า ถ้าศีลบริสุทธิ์ คุณวิเศษจะมีมาเอง หลวงปู่สุภา ได้ศึกษาธรรม และวิทยาคมต่างๆ มากมายโดยเฉพาะความรู้ในทางธรรม และวิทยาคมต่างๆ ในครั้งนั้นมีพระภิกษุไปปฏิบัติธรรม และเรียนวิชาอยู่กับหลวงปู่ศุข ด้วยกันหลายสิบรูป ซึ่งปัจจุบันมรณภาพกันไปหมดแล้ว เท่าที่ทราบในเวลานี้ มีเพียง หลวงปู่สุภา เพียงรูปเดียวในบรรดาศิษย์รุ่นเดียวกัน ที่ยังมีชีวิตอยู่นับถึงปัจจุบันนี้ หลวงปู่สุภา ท่านมีอายุยืนยาวถึง 115 ปี ( 17 กันยา 2552 )
ควร มิควร ประการใด ลูกขอขมากรรม ด้วยครับ...

 

สวัสดีค่ะพี่ๆๆทั้งหลาย ยายด้วยจ้า นัทห่างหายไปนานเลย จากบ้านหลังนี้ พักนี้มีเรื่องหนักใจมากๆๆ อาจจะต้องขอร่วมวงสนทนารับดูดวงจากยายช่วยเว็บด้วยคนล่ะงานนี้ ขอบ่นแกมระบายหน่อยนะค่ะ ตอนนี้มารดาของนัทเนี่ยเหมือนจะอยู่ในช่วงที่กรรมเล่นงานถูกคนพาลที่ไม่ยอมเจ็บตัวคนเดียว ลากเข้าไปร่วมวงปวดหัวกับเขาด้วย เรื่องของเรื่องคือฝ่ายบัญชี(ซึ่งมีอยู่คนเดียว) โกงเงินบริษัท โกงมานานละ แม่นัทก็เตือนเขา ก็เตือนผู้จัดการก็ไม่มีใครฟัง ก็เลยวางเฉยเสีย เมื่อเรื่องมันแดงตอนรับปีใหม่ เหอะๆๆ เขาที่โกงก็ถูกดำเนินคดีมีการนำที่ดินมาต่อรอง และยังคงลอยหน้าทำงานที่เดิมด้วยเหตุผลที่ว่าถ้าตกงานก็ไม่มีเงินคืน ทำงานให้คุณก็หักไปสิ แล้วความซวยมันมาเคาะหน้าบ้านมารดาได้อย่างไรพี่ๆอาจจะงง เพราะเขาโยนคำพูด "ควายๆ" มาว่า "แม่นัทรู้เห็นเรื่องการโกงเพราะเขาเอาเงินที่โกงมาคืนแม่ เพราะเขายืมเงินแม่ไป" ดูมันพูด เงินยืมก็ต้องคืนจิ แต่มึงไปเอาเงินใครเขามาคืนเนี่ย ยังๆๆ ยังไม่พอ ระลอก 2 ถูกเพื่อนร่วมงานแทงข้างหลัง เหอะๆๆ ไปแอบฟ้องผู้จัดการว่าแม่นัท ขายของให้คนงาน พวกของกินอ่ะค่ะ ที่ทำงานไม่มีโรงอาหาร ไม่มีสวัสดิการมากมาย ขายเงินเชื่อ สารพัดที่ฟ้อง แล้วไอ้คนที่โกงก็ไปบอกเจ้าของบริษัทว่าแม่นัทปล่อยเงินกู้หักเงินหน้าซองหมด พนักงานไม่มีกิน เหอๆๆทุกท่านค่ะ แม่นัทน่ะค่ะ ช่วยออกค่าเทอม ค่าเช่าบ้าน ค่ารักษาพยาบาล ให้กับพนักงานทำราวกับเป็นเจ้าของบริษัท และที่แม่หักเงินจนหมดเพื่อที่จะไม่ต้องเสียดอกต่อไป และก็ให้ยืมเท่าที่จำเป็น นัทโมโหมากถึงขั้นแค้น และจะล้างแค้น แต่ก็ยั้งใจไว้ว่าอาจจะเป็นช่วงวิบากกรรมของแม่ แต่ว่าแม่เรานะคะ เราก็รู้ๆกันอยู่ว่าช่วยเหลืองู ชัดๆๆ ให้มันมาแวงกัดได้ แม่นัททำงานมีฝีมือ แต่ไม่เคยได้ค่าตอบแทนที่ดีเพียงเพราะไม่มีวุฒิ ทนรับใช้คนที่กดขี่ ทนให้เพื่อนร่วมงานจิกกัดลับหลัง แม่ไม่เคยเหยียบเพื่อน ฟ้องนาย แต่การกระทำที่ไม่เป็นธรรมเนี่ยกำลังทำให้แม่เปลี่ยนไป จากคนที่เคยเมตตาต่อเพื่อนร่วมงาน คนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการโกงของใครนอกเหนือจากตักเตือน กำลังจะต้องต่อสู้ค่ะ นัทเองก็กำลังจะต่อสู้ เจ้าของบริษัทเขาไม่เรียกแม่ไปเจรจาหรือชี้แจงใดๆๆเลย ไม่มองหน้า ไม่ทัก แต่เขาไม่กล้าไล่ออก เพราะบริษัทเนี่ยมีแม่คนเดียวที่ทำงานในตำแหน่งนี้ได้ (งานแม่คล้ายๆๆพวกวิศวะออกแบบพวกงานเหล็กรูปพรรณตามสั่งค่ะ)งานมันต้องอาศัยประสบการณ์ พวกเด็กจบมาเกรดดีๆๆก็ทำไม่ได้หรอกค่ะ เขาเลยยังไม่กล้าไล่ออก แต่รอเวลาริดรอนอำนาจเพราะแม่ใช้พระเดชและพระคุณในการคุมงาน แม่เคยคิดลาออกด้วย(นัทยุเอง) แต่แม่ไม่ออกให้เหตุผลว่า "แม่ลาออกไม่ลำบากมากยังพอหากินได้ แต่คนงานที่แม่ดูแลครอบครัวเขาจะลำบาก" นัทไม่เคยคิดถึงเลย แต่ก็แค้นใจว่าแม่เราทำคุณคนไม่ขึ้น เป็นพวกปิดทองหลังพระ นัทได้แต่ให้คำปรึกษาในแง่ของกฎหมาย ในแง่ของจิตใจให้แม่สวดมนต์ แผ่เมตตา พี่ๆๆค่ะ นัทจะปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้จะดีหรือค่ะ นัทนะอยากจะกำจัดมันทั้งหลายที่ทำร้าย ใส่ร้ายแม่ นัทเห็นแม่เหนื่อยใจแล้วนัทเสียใจมากเลยค่ะ ไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่อีกใจก็คิดว่าอาจเป็นการชดใช้กันไปจะได้จบสิ้นไม่ต้องต่อเวรกันไปอีก นัทอยากให้แม่ได้พิสูนจ์ตัวเอง นัทไม่ชอบที่จะให้ใครมาว่า เพราะตั้งแต่เด็กนัทเห็นมาตลอดว่าแม่เห็นคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ ทำงานให้จนเขาร่ำรวย ไม่คิดเผื่อให้แม่ แต่แม่ก็ทำให้ มันไม่ยุติธรรมเสียเลย

ปล ขอโทษนะค่ะเล่าสะยาวเลย คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าแค้นใจตัวเองและกดให้มันหายไป

ปล 2 หวังว่าพี่ๆและยายจะสบายดีค่ะ

 

เดี๋ยวมาตอบ น้อง ชื่น

มาตอบแระ

พี่เคยเจอข้างบ้าน เขาจ้องหาเรื่อง เขาหาว่าพี่ขโมยต้นไม้ เดินเข้ามาใน้บ้านพี่ และค้นหาต้นไม้ของเขาที่หายไป เข้ามาโวยวาย ว้าต้นไม้หายไปไหน บ้านพี่ปลูกแต่ ไม้แดก ไม่ค่อยมีไม้ดอก มีไม้สูงค่า (เมื่อก่อน)ก็ โป๊ยเซียน (ไม่รู้ว่า น้องชื่นเกิดทันไหม )

พี่กะแฟนก็ไม่พอใจ ก็เลยไม่พูดด้วย พอเราไม่พูดด้วย ทีนี้ก้หาทางแกล้งตลอด พี่หาคนมาช่วยทำงานบ้าน พองานเสร็จ เดินออกนอกบ้าน ก้เข้ามาไซโคเลย ว่าจะหางานที่อื่นทำให้ ที่นี่เงินน้อยอย่าไปทำเลย มีคนงานบางคนอยู่ก็ ก้ทำโกรธกะแฟน พี่แบบไม่มีเหตุผล พอช่วงหลัง มี ยายคนหนึ่งมา ช่วยงานที่บ้าน แกมาเล่าให้ฟัง ว่า พอออกนอกบ้านพี่ไป เขาก็เข้ามาพูดเลย ทำบ้านนี้ได้เท่าไร จะไปหาที่อื่นให้ ได้มากกว่า

ยายแก เป้นคนใช้ได้ แกตอกกลับไปว่า บ้างนี้เขาให้ตังน้อยก็จริง แต่เขาก็ดีกับฉัน มีอะไรก็แบ่งกันกิน ฉันมาช่วยเขาไม่ได้หวังเงินมากมาย พอแกมาเล่าให้ฟังเลยเข้าใจว่า อ้อ .... เรื่องมันเป็นแบบนี้เอง

พี่พยายามไม่คิดอะไร แต่ถ้าให้ปลงหมดก็ทำลำบาก เพราะมันชอบมาหาเรื่องกะแฟน ซึ่งเขาจะเป้นคนคิดมาก

เวลากรวดน้ำ บางทีก็ว่า ผีป่า ผีบ้านผีเรือน เจ้าที่เจ้าทาง ที่เคยมาโมทนาบุญกับเรา ให้ช่วยไปสั่งสอน มันหน่อย เอาแค่ เบาะๆ ให้เข็ดหลาบ อย่าให้ถึงตาย

คนมันกวน เกินห้ามใจครั้งแล้วครั้งเล่า

ลองเอาคาถาหลวงพี่เล็กไป น้อง ถ้า พุธโทแล้ว ไม่ลง ก้ ลองดู

อานุภาพของพระคาถา "สัมปจิตฉามิ"

ถาม : (คุยเรื่องความไม่พยาบาท)

ตอบ : มันมีคาถาอยู่บทหนึ่ง ซึ่งผลของมันรุนแรงมากเลย คือ สัมปจิตฉามิ ผู้ที่ได้กลั่นแกล้งเรานะ เราไม่ต้องไปตอบโต้ ไม่ต้องไปอะไรเขา ให้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ โดยมีพระพุทธเจ้า ผู้มีนามว่า เรวัตตะ เป็นที่สุด ขอให้ท่านช่วยสงเคราะห์ให้เราพ้นจากเรื่องเดือดร้อนนี้ อันนี้แหละคนทำซวยเอง ถ้าเขาทำดีกับเรา เขาก็รับดีไปหลายเท่า ถ้าเขาทำไม่ดีกับเราก็เละเอง เราไม่ได้ทำอะไรเขาหรอก กฎแห่งกรรมสนองเขาเอง

ถาม : ................................

ตอบ : อันนี้เป็นงานของท่านโดยตรง สมเด็จพระพุทธเรวัตตะ นี้ สมัยของท่านเขาแกล้งกันซึ่งๆ หน้า ท่านเทศน์อยู่มันก็แกล้งดิ้นๆ พราดๆ อยู่กลางศาลาอย่างนี้ คือจะให้คนเสื่อมศรัทธาท่านให้ได้ เพราะว่าศาสนาอื่นๆ เขาเสียลาภไปเยอะเมื่อท่านตั้งศาสนาพุทธขึ้นมา ก็พยายามจะแกล้งท่านทุกวิถีทาง

เพราะฉะนั้นองค์ นี้ถนัดที่สุดกับการรับมือพวกช่างแกล้ง ท่านเคยให้พรไว้เลยว่า ถึงเวลาถ้าเดือดร้อนขึ้นมาแล้วให้บอกท่าน จุดธูป ภาวนา คาถาบทนี้เดี๋ยวมันเจ๊งไปเองเราไม่ได้ทำเขาหรอก

ถาม : แล้วคาถา สัมปฏิจฉามิ ?

ตอบ : อันนั้นก็ใช้ได้อยู่ อันนั้นเรียกว่าสารพัดนึกจ้ะ แต่อันนี้โดนประเภทโดนตรงเลย อันนั้นเหมือนเอาขวานไปถากไม้ มันก็ถากได้เหมือนกันแต่มันไม่ถนัด




สนทนากับพระเล็ก สุธมฺปญฺโญ
เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๕
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

สาธุ

ปราบในโปรด .... โปรดในปราบ
​

 

อานุภาพของพระคาถา "สัมปจิตฉามิ"

โดยปกติก็จะสวดคาถาเงินล้านของหลวงพ่อฤษีลิงดำทุกวัน โดยขึ้นต้นบทด้วย สัมปจิตฉามิ นี่แหละค่ะ เพิ่งได้ทราบนะคะเนี้ยว่าคาถานี้ครอบคุมไปถึงเรื่องนี้ด้วย มิน่าล่ะ คนที่ทำงานที่ทำตัวไม่น่ารักชอบทำท่าจะกัดเราอยู่เรื่อย เราก็ไม่อยากโกรธ พยายามเย็นสงบใจ และสวดคาถาของหลวงพ่อไปเรื่อยๆ ในยามที่ใจขุ่น
นี่ขนาดไม่ได้ขึ้นธูปเทียนบอกกล่าวท่านนะคะ แต่ดูเหมือนว่านอกจากทำให้ใจเราสงบแล้ว ตัวของเขาผู้นั้นเองตอนนี้ก็กลายเป็นเหมือนหมาหัวเน่าไปเลย ไม่ค่อยมีใครอยากคุยด้วย เห็นผลจริงๆนะคะ ที่ว่าให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว
ต้องขอบคุณคุณนัทมากๆนะคะที่หาข้อแนะนำดีๆจากหลวงพี่เล็กท่านมาให้ได้รู้โดยทั่วกัน คุณนัทลองให้คุณแม่ทำดูนะคะ เราให้กรรมเป็นคนลงโทษเขาดีกว่า อย่าเอาตัวเองไปก่อกรรมเพิ่มเพราะเขาเลยค่ะ คนดียังไงพระท่านก็คุ้มครองนะคะ

 

แวะเยือน เรือน นาคา คงใด้ ;;; อย่างอื่น ;;; เตรียมใว้ แล้ว จ้า..ตามวาระ อิอิอิ...


ฮ่าๆๆๆๆๆ อย่างนี้คราวหน้ากลับไทยต้องได้ไปเยือนเรือนท่านพี่แน่ๆเจ้าค่ะ ใครจะไปด้วยยกมือขึ้น .....
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยไปเที่ยวทางใต้เลย สงสัยคราวหน้านี่ไม่พลาดแน่ๆ
.....................

คิดถึงพี่ๆเพื่อนๆทุกท่านมากค่ะ คิดถึงคุณยายและเด็กๆ ทั้งครอบครัวคุณหมูเล็กและลูกๆด้วยพรุ่งนี้สอบใบขับขี่ขอให้ทุกอย่างผ่านสะดวกนะคะ คุณพี่สุรพลพี่หญิงสบายกันดีใช่มั้ยคะ และขอโมทนาบุญกับพี่เจ๊จิ๋มด้วยจ้า ที่ได้ของมงคลมาบูชา เรื่องของปฏิหารก็เคยได้ประสบมาบ้างค่ะพี่จากองค์เพรชพญานาคที่ได้รับมา วันหลังจะเล่าสู่กันฟังนะจ๊ะ เอ....มีใครได้ยินข่าวคราวคุณพี่จีรติศักดิ์บ้างมั้ยคะ พี่เขาหายเงียบไปเลย คิดถึงค่ะ คุณนัทและครอบครัวถ้ามีโอกาสจะแวะไปเยี่ยมหาถึงบ้านเลยค่ะ ลูกชายและลูกสาวคนสวยสบายดีนะคะ ทั้งคุณนัทชื่นจิตเองยังไงก็อดทนใจเย็นนะคะ เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดีเองล่ะค่ะ สู้ๆนะคะ

ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพนะคะ ฝากทานอาหารอร่อยๆกันด้วยเจ้าคะ คิดถึงอาหารบ้านเฮา ฮือๆๆๆ

 

คุณหยกแดง...
ฮ่าๆๆๆๆๆ อย่างนี้คราวหน้ากลับไทยต้องได้ไปเยือนเรือนท่านพี่แน่ๆเจ้าค่ะ ใครจะไปด้วยยกมือขึ้น .....
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยไปเที่ยวทางใต้เลย สงสัยคราวหน้านี่ไม่พลาดแน่ๆ....

เจ้..ไปด้วยยยยย...


ส่งรูปภาพมณีนาคราชที่ได้มาจากหลวงพี่เมื่อคราวไปทอดผ้าป่ามาให้ดูค่ะ ท่านบอกว่าเก็บไว้กว่า ๑๐ ปีแล้ว ถามท่านเหมือนกันค่ะว่าได้มาอย่างไร แต่ตอนที่ท่านเล่า ..ไม่ได้ฟัง...แหะ มัวแต่แย่งกันดู แว่วๆว่าท่านไปธุดงค์ทาง...แล้วไปพบ...
องค์ใหญ่ ๒ องค์ที่เป็นรูปหยดน้ำกับทรงกลมสีเหลืองอำพัน เป็นของพี่สาวกับพี่เขย ขนาดซัก 2-3.5 ซม.ได้ องค์เล็กเป็นของหลานกับแม่
ส่วนองค์ที่เปลี่ยนจากสีชมพูเข้ม เป็นสีขาวใสคือองค์ใหญ่ที่อยู่ในจานเบญจรงค์ในรูปที่สองค่ะ ตั้งใจถ่ายคู่กับองค์เล็กซึ่งเป็นสีชมพูเข้มเพื่อเปรียบเทียบสี แต่หงัยออกมาเป็นสีนี้ก็ม่ายรู้...คงต้องไปหัดถ่ายรูปใหม่จัดมุมกล้องยังไม่เก่ง
ส่วนของเจ้ที่ได้มาเป็นรูปหยดน้ำสีแดงเข้มขนาดซักปลายนิ้วก้อยได้ คิดว่าถ่ายมาแล้วแต่ทำไมไม่มีในกล้อง..สงสัยเผลอลบทิ้ง..ตั้งใจว่าจะเอาไว้ประดับที่พระนลาฎของพระพุทธรูป เพราะองค์งามกำลังพอดี


....คุณนัท ทั้งสอง...ใจเย็น...เย็น...เย็น..เด้อค่ะ...
ตอนนี้ยายไม่วางมาคุย...
:love: คุณนาคา...คุณหยกจักรพรรดิ์จ๊า...มาช่วยนำทางพี่น้องร่วมสำนักหน่อยเร้ว.....(i)

พวกเราส่งใจช่วยแม่หมูหน่อยจ้า... หัดขับรถได้ ๔ วัน วันนี้ไปสอบใบขับขี่ อาทิตย์หน้าจะเป็นสารถีให้พ่อหมู ไปติดต่องานต่างจังหวัด..ที่ไหนหนอ..ลืมละ..อัลไซเม่อร์ซะแหล่ว..จำได้ว่าไกลโขอยู่ เอาลูกน้อยสองคน..ลาล่ากับเจ้าหมูจิ๋วไปด้วย เพราะไม่มีใครดู..สู้..สู้..จ้า(good)

 

5555 ขอบพระคุณพี่ๆๆมากเลยค่ะที่ช่วยดึงสติ พี่นัทเองก็โดนมาเยอะเหมือนกันหนอ อย่างนี้เขาเรียกว่ามารผจญ เพราะเราคิดจะสร้างกุศลตัดภพชาติ หรือเปล่าหนอ ตอนนี้ก็เริ่มๆๆจะให้แม่ค่อยๆๆหาหลักฐานมาเก็บไว้เผื่อยามที่เจียนตัวถูกแกล้งในแง่ของกฎหมายเราจะได้รับมือทัน ส่วนในด้านจิตใจคงต้องยอมรับว่าแม่นัทเย็นมานานจนถึงที่สุดเขาก็เริ่มจะเย็นไม่ไหวแล้ว ก็จะพยายามให้แม่เขาคิดเสียว่าชดใช้กันไป แผ่เมตตาให้ไม่ต้องเจอกันอีก เพราะเราไม่อยากเกิดแล้วมันทุกข์ นัทที่กังวลแค่เรื่องที่เจ้าของบริษัทเขาไม่ให้แม่ชี้แจงฟังแต่คนโกงพูด ไม่ถามแม่สักคำ เราไม่พอใจตรงที่เขามาเข้าใจเราผิด เพราะนัทเองเคยถูกกล่าวหาว่าขโมยเงินบริษัทด้วย แต่เราไม่ได้ทำ ก็ผ่านมาโดยดี สำหรับเรื่องแม่นัทก็หวังให้เป็นเช่นนั้น เขาจะได้เห็นว่าแม่เราไม่ได้ทำผิดอย่างที่คนมันใส่ไฟ

อย่างไรจะให้แม่ลองสวดมนต์บทนี้ดูค่ะ

 

5555 ขอบพระคุณพี่ๆๆมากเลยค่ะที่ช่วยดึงสติ พี่นัทเองก็โดนมาเยอะเหมือนกันหนอ อย่างนี้เขาเรียกว่ามารผจญ เพราะเราคิดจะสร้างกุศลตัดภพชาติ หรือเปล่าหนอ ตอนนี้ก็เริ่มๆๆจะให้แม่ค่อยๆๆหาหลักฐานมาเก็บไว้เผื่อยามที่เจียนตัวถูกแกล้งในแง่ของกฎหมายเราจะได้รับมือทัน ส่วนในด้านจิตใจคงต้องยอมรับว่าแม่นัทเย็นมานานจนถึงที่สุดเขาก็เริ่มจะเย็นไม่ไหวแล้ว ก็จะพยายามให้แม่เขาคิดเสียว่าชดใช้กันไป แผ่เมตตาให้ไม่ต้องเจอกันอีก เพราะเราไม่อยากเกิดแล้วมันทุกข์ นัทที่กังวลแค่เรื่องที่เจ้าของบริษัทเขาไม่ให้แม่ชี้แจงฟังแต่คนโกงพูด ไม่ถามแม่สักคำ เราไม่พอใจตรงที่เขามาเข้าใจเราผิด เพราะนัทเองเคยถูกกล่าวหาว่าขโมยเงินบริษัทด้วย แต่เราไม่ได้ทำ ก็ผ่านมาโดยดี สำหรับเรื่องแม่นัทก็หวังให้เป็นเช่นนั้น เขาจะได้เห็นว่าแม่เราไม่ได้ทำผิดอย่างที่คนมันใส่ไฟ

อย่างไรจะให้แม่ลองสวดมนต์บทนี้ดูค่ะ

 

แม่หมู ตะลุยกองทะเบียนผ่านฉลุยม้วนเดียวจบ แบบชิวๆ

แน่มาก....
​

 

วันนี้ 12มค53 บ่ายแก่ๆ โทรไป สวัสดีปีใหม่คุณยาย เจอพอดี เลยบอกไปว่า แฟนคลับลูกธรรม และแฟนคลับ เลขเด็ดถามหา

คุณยายเล่าว่า ช่วงนี้ งานรัดตัว เป็นเกลียวหัวเป้นน๊อต อีกทั้ง มีคนโทรมาดูดวงมาก

เลยฝากบอกมาว่าคืนนี้อาจจะเข้ามา ครับ

 

เย้ๆๆๆๆๆๆๆ.......;ปรบมือ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความดีใจกับแม่หมูน้อยด้วยนะจ๊ะ ที่ทุกอย่างผ่านฉลุยได้ใบขับขี่มากอดให้ชื่นจั๋ย เก่งจริงๆเลย คราวนี้พ่อหมูน้อยก็มีผู้ช่วยคอยเปลี่ยนมือแล้วเนอะ สบายไป pig_ballet