จุดนัดพบศิษย์กรรมฐานแพงสายเลือดที่ ๔ สายตรง "ผู้ครอบครูรับดวงธรรม"

ในห้อง 'ธรรมทาน - วิทยาทาน' ตั้งกระทู้โดย DevilBitch, 25 สิงหาคม 2009.

  1. ใจหม่น

    ใจหม่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2008
    โพสต์:
    362
    ค่าพลัง:
    +1,926
    ผัวเมียกัน ถ้าตกลงร่วมเรียงเคียงหมอนกันแล้ว ต้องทำใจหากมันไม่ได้ดั่งใจ

    คิดเสียว่า ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ต้องช่วยกันพาย ถ้าพายไม่เป็น ให้อีกคนที่พายเป็นเป็นผู้ชาย เรานั่งทรงตัวดีๆ ไม่ต้องโยกโคลงตัวให้เรือส่าย ไม่ต้องโวยวายหรือตัดทอนกำลังฝีพาย ช่วยเป็นคนบอกทิศ หรือร้องเพลงกล่อมให้กำลังใจฝีพายก็ได้นะคะ


    **** ฮ้า..ไฮ้..เชี๊ยบ..เชี๊ยบ
    ใช่ป่าว..ยาย..อิอิ
     
  2. หมูเล็ก

    หมูเล็ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2008
    โพสต์:
    914
    ค่าพลัง:
    +2,144
    แหม วันนี้พี่ใจหม่นมาแปลกนะจ๊ะ มาแบบมีมุขมาด้วย แบบว่าจะไปพายเรือที่ไหนจ๊ะ
    ..............
    อนุโมทนาล่วงหน้ากับน้องนัทนะจ๊ะ...สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2009
  3. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ดอกไม้ที่จะเป็นดอกไหว้พระไหว้ครูนั้น ไม่ควรเป็นดอกแคนะคะ ดอกสีอื่นๆ ก็ไม่เอา เน้าเอาดอกแก้ว ดอกรัก ดอกพุท ดอกมหาหงส์ก็ได้เจ้าค่ะ
     
  4. ใจหม่น

    ใจหม่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2008
    โพสต์:
    362
    ค่าพลัง:
    +1,926
    ช่วยกันจัดเรทหน่อยจ้า.. อาร์ หรือ เอ๊กซ์ ดี ...พี่น้อง...

    เฮ้อ..รักที่สุด แล้วก็ ..ที่สุดแห่งรัก..

    ใช่มั้ยคะ..คุณหมอ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Rate-X.jpg
      Rate-X.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.8 KB
      เปิดดู:
      39
  5. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ดอกไม้ที่จะเป็นดอกไหว้พระไหว้ครูนั้น ไม่ควรเป็นดอกแคนะคะ ดอกสีอื่นๆ ก็ไม่เอา เขาเอาดอกแก้ว ดอกรัก ดอกพุท ดอกมหาหงส์ก็ได้เจ้าค่ะ
     
  6. ใจหม่น

    ใจหม่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2008
    โพสต์:
    362
    ค่าพลัง:
    +1,926
    ส่วนรูปนี้..งดงามมั้ยคะ

    ความรักของพ่อ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    ภาพ หล่อสมเด็จองค์ปฐมทองคำหน้าตัก 10 นิ้ว ที่วัดทุ่งแสงสว่าง กาญจนบุรี 7 พย. ครับ ( ผม นอนหลับ ในเวลา นั้น ครับ ส่งจิตตามบุญ แฮะๆๆ )
    อ้างอิง: <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD width="100%">ภัยพิบัติและการเตรียมการ </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] พระเจ้าองค์แสน </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นาคา [​IMG]
    ขอรบกวนทุกท่านครับ

    ไม่ทราบ วัน เวลา ในการร่วมหล่อองค์หลวงพ่อองค์แสน เมื่อไหร่ ครับ ผม จะใด้มีโอกาส จองวันลา งานใว้ก่อนครับ จะใด้สะดวก และรับบุญใหญ่

    โมทนาในกองบุญทุกท่านครับ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    kananun ;
    มีข่าวดีในการแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการจัดสร้าง"พระเจ้าองค์แสน" พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์

    พระครูปลัดอนันต์ ท่านเจ้าอาวาสวัดท่าซุง อุทัยธานี ท่านได้เมตตาอนุญาต ให้จัดงานหล่อ พระพุทธรูปพระเจ้าองค์แสน ในงานปฏิบัติธุดงค์ประจำปี 2552

    โดย กำหนดหล่อพระพุทธรูปพระเจ้าองค์แสน พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ นั้น จะดำเนินการใน วันเสาร์ ที่ 12 ธันวาคม 2552 เวลา 20.00 น. ที่วัดท่าซุง ครับ

    วันดังกล่าวเป็นวันที่ทางวัดจัดฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลังอีกด้วย

    ดังนั้น ผู้ไปร่วมในงานได้ทรงกำลังใจ ในสมาธิ ในกรรมฐานเต็มกำลังซึ่งย่อมทำให้อานิสงค์ที่เราจะร่วมกันน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด้จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ยิ่งทวีคูณยิ่งขึ้นไปอีกมากมายครับ

    และข่าวดียิ่งไปกว่านั้นก็คือ

    เมื่อได้นำเรื่องไปกราบเรียนขออนุญาตท่านเจ้าอาวาส บังเอิญ (หรือไม่) ที่ท่านมีเจ้าภาพจากประเทศอังกฤษมีจิตศรัทธาจะสร้างพระพทธรูปสมเด็จทรงเครื่องเช่นกัน ดังนั้น จะปรากฏอานิสงค์การจัดสร้าง ทวีคูณขึ้น ในงานหล่อพระพุทธรูป เป็นสองพระองค์ครับ

    ขอให้เจตนาจิตอันเป็นมหากุศลของพสกนิกรชาวไทย ชาวธรรมทุกคน ที่ตั้งจิตอธิฐานด้วย ความเสียสละเพื่อ ชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ นั้น จงแผ่ไพศาล เป็นธรรมปิติในอานิสงค์ด้วยครับ


    ก่อนที่ผมจะขึ้นไป บ้านยาย เมื่อ ตุลา ที่ผ่านมานี้ นาคา ตั้งใจ จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ที่ส่วนหนึ่งใด้รับจาก กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ น้อม อัญเชิญ องค์ท่านปู่พญานาคา ย่าพญานาคี และ น้องนาคี ในถ้ำ เพื่อ น้อมพลังบุญกุศล ให้ ท่าน เราใด้กล่าวกะเธอ แล้ว พลังบุญจะส่งให้เธอ ขึ้นสู่ ดาวดึงส์ ก่อนที่จะให้ เธอ เข้าบำเพ็ญต่อยอด ให้สู่กระแส แห่งพระนิพพาน

    วันข้างหน้า นาคา จะอัญเชิญ ... ถวายพระอาจารย์ ที่ถ้ำเขาทะลุ

    วันออกพรรษา เดินทางแสวงบุญ อุดร,หนองคาย ,เวียงจันทร์ ในเวียงจันทร์นั้น อัญเชิญ ให้ ท่านเอกอัคราชฑูต ไทย ในเวียงจันทร์ ถวายพระบรม สารีริกธาตุ พร้อมเพื่อนกลุ่มห้องภับพิบัติครับ

    ( ไปบ้านยาย วันก่อน ผมขึ้นไป เตรียมช่วยงานกฐิน วัดคอนสวรค์ สกลนคร มาตุภูมิ หลวงปู่สุภา จึง ไม่ใด้ จัดเตรียม พระบรมสารีริกธาตุ เพื่อถวาย ที่ ถ้ำเขาทะลุ )
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ภาพวิสาขบูชา ปี2552 วันสระเกศ

    หวัดดีครับทุกท่าน ชมภาพ ใด้ตาม link ที่แปะ ครับ ขออนุญาติยาย ด้วยจ๊ะ..

    http://palungjit.org/threads/ทริปหล่อพระพุทธรูปทองคำ-วัดทุ่งแสงสว่างเจริญธรรม-7-พย.208736/page-9
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2009
  8. banjerdw

    banjerdw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +1,110
    ผมมารายงานตัวครับ ที่ผ่านมาก็ได้ติดตามความคืบหน้าของเพื่อนๆ อยู่เป็นระยะ ในขณะที่ผมเองก็ยังคงปฏิบัติตามปกติ คือจะสวดมนต์ตามสายหลวงปู่ดู่และนั่งสมาธิในเวลา สองทุ่มครึ่งทุกวัน แต่ก็ยังไม่มีประสบการณือะไรแปลกใหม่ เคยไปสนทนากับอาจารย์แม่ชีณัฐทิพย์ สอบถามว่าเราจะทราบถึงความก้าวหน้าของการปฏิบัติได้จากอะไร ท่านตอบว่าปฏิบัติจนไม่มีอะไรถือว่าก้าวหน้า ดังนั้นจึงไม่คาดหวังอะไร วันที่ครอบครูและมีการฝึกซ้อมอีกห้องหนึ่งข้างห้องพระ อาจารย์ที่คุมซ้อมบอกผมว่า ในขณะที่ภาวนาเหมอนมีพลังงานบางอย่างมากันตัวผม และได้ให้ผมไปจุดธูปบอกกล่าวครูบาอาจารย์ที่เคยไปครอบมา ให้ท่านอนุญาตในการปฏิบัติเพิ่มเติมซึ่งผมก็ได้ดำเนินการแล้ว ไม่ทราบว่ายาย หรือท่านอื่นๆ มีสิ่งใดจะแนะนำเพิ่มเติมหรือไม่ครับ
     
  9. หมูเล็ก

    หมูเล็ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2008
    โพสต์:
    914
    ค่าพลัง:
    +2,144
    อันนี้ไม่ใช่การบ้านนะคะแต่ของคำปรึกษายายหน่อยค่ะ เมื่อหลายปีก่อนเคยมีอาการนอนหลับไปแล้ว แต่เหมือนมองตัวเองหลับอยู่เป็นบ่อยมากจนคิดว่าเราหลับหรือเปล่าหรือนอนไม่หลับหรือฝันไป ไม่แน่ใจเลย ตื่นตอนเช้าก็ไม่ง่วงนะ เพื่อนคนหนึ่งบอกว่าถอดจิตได้ ให้กำหนดไปที่ที่ต้องการจะไป ก็ไม่แน่ใจว่าจะเชื่อเพื่อนดีไหม
     
  10. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    การครอบครูครั้งนี้ ถือเอาครูทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์มาน้อมนำเพื่อความสุขความเจริญ ดังนั้นครูที่เราครอบเจาะจง จึงเป็นหนึ่งในทั้งหมดแล้ว ท่านจะจูนให้เราเอง แต่ถ้าหากว่าไปเอาของทางผิดๆ มาเช่น เน้นทางไสย์ลัทธินอกรีต หรือเทียบเคียง ท่านครูในความเป็นทิพย์ท่านจะแก้ไขให้นะคะ

    ครูจะรู้ว่านักเรียนแต่ละคนนั้นจะสอนแนวไหนก่อน เคยเรียนมาด้านไหนมากที่สุด คล่องที่สุด ก็จะเอามาสอนให้ก่อนทำนองนี้นะคะ อย่างบางท่านปฏิบัติแนวสุขวิปัสโกมาบ่อยๆ ก็จะเน้นทรงอารมณ์ที่ณาณ ๔

    .............................

    มีคนถามยายผีป่าตอนก่อนจะมีการครอบครู เรื่องหนึ่งที่ยายผีป่าทำได้ดี เขาถามว่า ยายผีป่าทำอย่างนี้มาได้นานหรือยัง ตอบว่า ตั้งแต่ตั้งใจปฏบิัติมาตั้งแต่เด็กนี่(ครอบครูจริงจังตอน ๘ ขวบ) เพิ่งทำได้ตอนนี้แหละ ฮ่าฮ่า...ดังนั้นอย่าท้อ อย่าถอย อย่าเบื่อนะคะ ครูท่านสงเคราะห์ต่างกัน แต่ถ้าตั้งใจมากๆ สักวัน เท่ากันหมดจ้า

    เป็นกำลังใจให้นะคะ ขนาดน้องลาล่าเอง ยังสัมผัสได้เลย

    คือที่อาจารย์ท่านไม่ได้มาแสดงอะไรนัก เพราะท่านเห็นว่าเรามีสุขกับการกระทำที่ต่อเนื่อง ที่ถนัดแล้ว แต่ถ้าอยากติดเทอร์โบก็สะกิดท่านหน่อย ว่า ณ เพลานี้เป็นปัจจัยเหมาะสมต่อการบำเพ็ญเพียรแล้ว ลูกขอนิมนต์.....เราน้อมจิตถึงครูเลยเนาะ แล้วก็สมาทานหรือถ้าจิตอยากจะภาวนาหรือสวดมนต์บทไหนก็ปล่อยไปเลยนะคะ

    ตอนนี้น้องใบตองกำลังสอนภาษาพี่เอิร์ทค่ะ วันนี้เขาจะพูดภาษาแปลกๆ พี่เอิร์ทถามว่า แปลได้ไหมคะ น้องใบตองตอบดังนี้ค่่ะ (เขาตอบเองโดยไม่มีการบังคับหรือกล่าวสื่อนำ)


    ....................................

    ครูใบตองคะ สวัสดี ออกเสียงว่าอย่างไรคะ "ซูเอมลอย"

    สวัสดีค่ะ

    ซูเอมไบ แปลว่า ลอยกระทง
    ลอยเก๊ก แปลว่า ต่อคน
    ซิเจมไค แปลว่า ทุกคน
    ซุ๊โมง แปลว่า พิมพ์
    ซูเอง แปลว่า วงกลม โดนัทไง๊

    จำไบ แปลว่า คุณ หรือท่าน (เขาพูดเองนะ แปลให้ด้วย เด็กแค่นี้เข้าใจได้ยังไงว่าคุณ กับท่านคำเดียวกัน)

    ซุน แปลว่า จันทร์

    ยาดา แปลว่า เรือ

    โกงเฉ๊อะ แปลว่า รอหน่อยเถ๊อะ

    ชีจาง แปลว่า พี่จอ -จระเข้ไง๊

    โกนัต แปลว่า สื่อ

    .........................

    เซียล แปลว่า ตา

    แล้วพี่เอิร์ทถามว่า จิ๋ม แปลว่าอะไรคะครู

    จิ๋ม เขาเรียกว่า ล๋องโทง

    อ้าว...ใครจะเรียนภาษาเด็กทะลุมิติกับครูใบตอง เชิญนะคะ

    ...............................
     
  11. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ตอบไม่ได้แล้ว หิวข้าว ลูกๆ มาเจี้ยวจ้าวรอบตัว ขอตัวไปให้น้องเอิร์ททำอาหารง่ายๆ ให้ทานก่อนนะคะ

    บอกลูกว่า แม่ทานอะไรง่าย

    ลูกไปตำพริกใส่เกลือแล้วบีบมะนาวหน่อย

    ลูกบอกว่า แม่เดี๋ยวเอิร์ทจะทำอะไรที่แร่อยมากๆ ให้แม่ดีกว่า

    โถลูก แม่อยากกินของง่ายๆ ก็แค่ตำน้ำพริกเกลือมะนาว จิ้มกับไก่อบหอมๆ แค่นั้นเองจ้า

    ..............
     
  12. banjerdw

    banjerdw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +1,110
    [​IMG]

    ยายครับ ไม่ทราบว่ารูปพระอาจารย์ที่มีผ้าโพกศรีษะองค์นี้ใช่หรือไม่ครับ ที่ยายบอกผมในขณะที่ท่านนาคาเข้าพิธีครอบครู
     
  13. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    คนเราเวลานอนนี่เขาเรียกว่าตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง คือจิตมันเป็นอิสระ มันล่องลอยไปนั่นนี่โดยที่เราไม่รู้ตัว บางทีพอเริ่มจะรู้ตัว จิตมันก็แจ้นกลับมาที่ร่าง จึงทำให้เหมือนคนฝันไปว่า ไปเที่ยวที่นั่นที่โน่นมา เจอใครมาบ้าง แต่ฝันบางอย่างก็ยังไม่ใช่การท่องของจิต คือมันแค่การทำงานของระบบสมองล้างโปรแกรม เพื่อรองรับข้อมูลเพิ่มเติม ถ้าไม่ฝันเลย จะทำให้สมองโอเวอร์โหลด จิตใจจะห่อเ******่ยว นะคะ แต่พวกฝันว่าผัวนอกใจนี่สิ มันเอาจริงเอาจังกันเกินเหตุ หงุดหงิดยิ่งขึ้น ระวังนะคะ อย่าคิดมากไป อิอิ

    ทีนี้ในอาการที่บอกนั้น คือเป็นสภาวะที่เรานอนอย่างสบายใจ อารมณ์สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน จิตเป็นกุศลทันที มีพลังสามารถออกไปข้างนอกโดยไม่ตั้งใจ (กายทิพย์ออกไปโดยไม่รู้ตัว) ดังนั้นกายทิพย์ที่ไปแบบไม่รู้ตัวจึงเกิดพระอาการงง สงสัยว่า นี่เรามายืนดูตัวเองได้อย่างไร นี่เป็นอาการไม่ต่างจากคนตายนะคะ จำไว้ถ้าเราไปโดยไม่รู้ตัว อย่างน้อยพอรู้ให้กำหนดจิตขอบารมีครูเบื้องบนทุกภพภูมิคุมให้เรารู้สภาวะตามจริง และหากยังไม่ตาย ขอให้ท่านนำท่องไปตามเวลาที่เหมาะสมแล้วจึงกลับ แต่ถ้าถึงวาระตายแล้ว ขอให้ท่านนำดวงจิตเราขึ้นกราบพระพุทธเจ้าก่อนเป็นอันดับแรก (กันพลาด ยายผีป่าเคยใช้วิธีนี้ยืดอายุเจ้าค่ะ คือขึ้นไปกราบพระแล้วบอกท่านว่า ถ้ายังไม่ถึงนิพพานจริง ขออย่าเพิ่งให้ตายเลย ขอไปแก้ตัวได้ไหมเจ้าคะ)

    .....................................

    ทีนี้ถ้าเราตั้งใจถอดจิตหรือกายทิพย์ ส่วนมากมันไม่ได้ จงปฏิบัติแบบไปได้แค่ไหน เอาแค่นั้น อย่าจดจ้องจะเห็น จะรู้ จงไปแบบเด็กเชื่อฟังผู้ใหญ่ ตามมือที่ท่านจูงไป ปลอดภัยที่สุดนะคะ

    ....................................
     
  14. หมูเล็ก

    หมูเล็ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2008
    โพสต์:
    914
    ค่าพลัง:
    +2,144
    ขอบพระคุณค่ะยายสำหรับคำแนะนำที่ดี จะตั้งใจปฏิบัติและเชื่อฟังครูทิพย์ ครูศีล ครูธรรมทุกท่านค่ะ
     
  15. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ความไว้วางใจ (เชื่อง) ย่อมนำภัยมาสู่ตน

    ขอเล่าเรื่องสดๆ ร้อนๆ

    ......................................

    เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวาน (๙ พ.ย. ปีนี้เองละ) เวลาประมาณช่วงไปรับลูกตอนเย็น

    .......................................

    เมื่อวานมีสายเพื่อนร่วมชั้นเรียนจากอเมริกากริ๊งกร๊างมาสนทนา สอบถามและบอกเล่าหลากหลายเรื่องราว รวมทั้งถามเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมของยายผีป่าว่าก้าวหน้าถึงระดับไหนแล้ว ฝึกเน้นสายไหน

    ก็ตอบว่า สายพระพุทธเจ้า

    ก็เผลอคุยกันนาน ลืมไปว่าผู้ช่วยเก๋ (ยังไม่เป็นผู้ใหญ่นะคะ คิดว่าคงเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้หรอก!) เขาเอารถฟีโน่ไป (รถคันนี้ได้จากการที่น้องใบตองบอกหวยแม่นทั้งบนและล่างตรงๆ กับกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง ส่งมาสดๆ ซื้อสดๆ เลย อนุโมทนาจ้า) เด็กๆ เลยไม่มีรถกลับบ้านด้วยตัวเอง พอนึกได้ก็ได้เวลาลูกๆ เลิกเรียน เพื่อนๆ คงกลับแล้ว และวันนี้น้องเอิร์ทไปแข่งขันตอบกระทู้ธรรมที่วัดหินดาด โดยเจ้าคณะอำเภอเป็นผ้ดำเนินการ (คิดว่าไม่ผ่านเพราะลูกเก่งปฏิบัติ ไม่ใช่ปริยัติ)

    น้องใบตองนอนหลับข้างๆ แม่ ช่วงรอแม่คุยน๊านนานกว่าชั่วโมง ด้วยความคิดถึงกันนั่นเอง

    ก็อุ้มลูกทั้งหลับไปที่รถยนต์ เดินมาปิดประตูบ้าน เดินมาที่รถอีกครั้ง ลืมกระเป๋าเงิน (เผื่อฉุกเฉิน ลืมมือถือ คนสมัยนี้ไปไหนขาดมือถือไม่ได้ ไม่เหมือนสมัยก่อนตอนที่ไม่มี สบ๊ายสบายไม่ภะวง)

    เดินมาที่รถอีกครั้ง เดินกลับเข้าบ้านอีกรอบ เพราะคิดได้ว่า น่าจะล๊อคประตูบ้านด้วยกุญแจเสียที เดี๋ยววันไหนไม่ดี แผนกเฝ้าบ้านที่ไม่มีสังขารเกิดแทคทีมกันลากิจไปเที่ยวละแย่เลย โจรสมัยนี้กลัวพระเครื่องเสียที่ไหน (แต่ยายผีป่าประกาศไปทั่วหละว่า ของบ้านฉันปลอมทั้งนั้น เอาไปขายไม่ได้เงินหรอก แต่ก็ยังมีคนเอาไป พอมันรู้ว่าไม่ปลอมก็มี เลยใช้หลักการใหม่ คือ ปล่อยข่าวว่าเคยมีคนมาเอาไปนะ จำได้ไหม ตายโหงรถแหกโค้ง!)

    การเดินเข้าเดินออกหลายรอบทำให้ตัดสินใจไปรับลูกเสียที เมื่อไปถึงก็พบรถฟีโน่จอดหน้าโรงเรียน มีลูกเพื่อนผู้ช่วยเก๋ตัวอ้วนแต่เรียนห้องเดียวกับเกรซยืนรอกัน รวมน้องออม แต่ไม่มีเอิร์ท เพราะกำลังนั่งรถที่ต่อท้ายกลับมาจากสอบปริยัติ ถามเด็กได้ความว่า พ่อเก๋เพิ่งเอารถมาทิ้งไว้ แล้วไปต่อกับพ่อเข้าตัวอ้วนเมื่อตะกี้นี้ ยายผีป่าก็เลยบ่นด่าตามหลังผัว เพราะวันๆ จนมืดค่ำ ก็ไม่เคยเห็นหัว พอเห็นหัวก็ไม่เคยพูดกัน ถ้าพูดกันนี่ยิ่งอึดอัด! เลยไม่พูดไม่คุยถ้าไม่จำเป็นเนาะ

    .....................

    กลับมาจะเอารถเข้าลานจอด ด้วยความสายตาไม่ดี เลยไม่ได้สังเกตว่ามีแม่ไก่นอนไว้แตกตรงข้างหน้า แต่คิดว่าเป็นเปลือกมะพร้าวที่ย่าเอามาปอกทิ้งไว้จรงจุดที่เราเคยจอดรถก่อนออกไปรับลูก เลยจอดห่างหน่อย ให้ลูกเกรซวิ่งไปดูว่าเป็นมะพร้าวทั้งลูกหรือแค่เปลือก ให้เอาออกจะเทียบรถตรงนั้น

    ..............................

    แต่ลูกเกรซบอกว่า แม่ๆ..ใครมาทำไก่ตาย ดูสิไส้ทะลัก ยายผีป่าลงไปดูด้วยตาตัวเอง ก็คิดว่า มันคงเพิ่งตายไม่นาน น้องออมบอกว่า "ปอบมาควักไส้ไก่กระมังแม่ ห้อยมาทั้งพวงเลย แต่น้องเกรซบอกว่า สงสัยแม่ขับรถเหยียบไก่ ออมเถียง จะเหยียบตอนไหน แม่จอดห่างตรงนี้ดูสิ ยังไม่ถึงเล๊ย เกรซเถียงกลับด้วยการถามแม่ว่า ตอนไปรับพวกหนูแม่จอดรถตรงนี้ใช่ไหม ยายผีป่าตอบว่าใช่ เกรซเลยยืนยันว่า นั่นแหละคือตอนที่ไก่โดนเหยียบแบน

    แล้วเราทั้งสามคนแม่ลูก (พี่เอริทขับฟีโน่กลับเอง) ก็ขอโทษไก่ แผ่เมตตาไก่ ก่อนจะยกไก่ไปให้คนมอญเขาทำกิน ตอนแรกจะให้เขาเอาไปฝัง แต่เขาบอกว่า "กิงได๊นา"

    .......................................

    สมัยเด็กๆ นั้น หลวงปู่ดูลย์ท่านจะอบรมเด็กๆ ว่า จงมีสัณชาตญาณเยี่ยงไก่ป่า มันมีตัวรู้ตื่นตัวและระวังตลอดเวลามันไม่เคยย่อท้อด้วย และมีบางคนบอกว่า ไก่ป่านี่คนธรรมดาเลี้ยงไม่เชื่อง มันโตนิดหน่อยก็บินเข้าป่า ขนาดคนเลี้ยงยังเข้าใกล้ไม่ได้เลย อีกหลวงปู่ท่านก็สอนว่า เลี้ยงสัตว์ป่าเชื่อง เท่ากับว่าพลังจิตเราดีเยี่ยม เราสังเกตดูสิ วัดป่าส่วนใหญ่ พระรูปไหนพลังเมตตาสูง สัตว์ป่ามัมาหา เชื่องเข้าใกล้ได้ ยายผีป่าจึงรักที่จะเลี้ยงสัตว์ที่เขามีตัวตื่นตลอด และไม่เชื่อมั่นในคน คือไปเอาไก่ป่ามาเลี้ยง มีทั้งไปเอาไข่มาฟักเอง และเอาตัวที่เล็กแล้ว โตเป็นรุ่นสักหน่อยมาเลี้ยง เอามาจากชายแดนเขมร ตอนไปแถวนั้น ชาวบ้านบอกว่า หลวงปู่ท่านมรณะภาพชาวบ้านจับมาจะขายหรือไม่ก็เอาไปแกง ขายไปคนวื้อก็เอาไปแกง เลยขอซื้อเขามา ส่วนไข่ก็ไปเก็บในป่าช้าข้างบ้านมาฟักเอง ชาวบ้านชายแดนเขมรบอกว่า เลี้ยงไม่ได้หรอก มันนอนยอดไม้ในป่า ไม่ใกล้คน หนีคน อย่าเลี้ยงเลยเสียเวลา

    ยายผีป่าบอกว่า ไม่เป็นไร จะเอาไปเลี้ยงเพาะพันธุ์ บ้านใกล้ป่าช้า ถ้ามันจะหนีเข้าป่าก็ไปเพาะขยายพันธุ์ต่อในป่านั่นแหละ

    เลยได้มาเลี้ยงหลายตัว หูขาว (หลวงปู่สรวงท่านชอบเลี้ยงพันธุ์หูขาว)

    เมื่อได้มาก็บอกบรรดาไก่ว่า "อยู่ด้วยกันที่นี่นะ ปลอดภัย ไม่ให้ใครยิงไปกินหรอก" ตอนแรกทำความคุ้นเคยด้วยการทำเล้ามีลวดตะแกรงล้อมให้รู้ว่านี่คือบ้านที่มีขอบเขตนะ แล้วเอาอาหารไปให้ในเล้าทุกวัน ทำความคุ้นเคย เลี้ยงแรกๆ ก็ตื่น เราขยันคุยกับเขา(ยายผีป่าบ้าคุยกับสัตว์แม้กระทั่งตะขาบ กิ้งกือ) พอเลี้ยงได้หนึ่งสัปดาห์ ก็บอกเขาว่า จะเปิดประตูหให้ออกไปหากินในป่านะ แต่ต้องเข้ามานอนในนี้ ทิดเก๋บอกว่า บ้า...มันไม่กลับมากันหรอก ชาวบ้านขนาดพรานมือหนึ่งยังขำเมียทิดเก๋ จะเลี้ยงไก่ป่าให้เชื่อง แต่ผลปรากฎว่า มันกลับมานอนทั้งหมด อีกทั้งนำไก่ป่าในป่ามาเป็นพวกอีกสิบกว่าตัว มากินอาหารในเล้าเข้าออกสบาย ก็ทักทายไก่ป่าก๊วนท้องถิ่นว่า อยากมาก็มานะ ชาวบ้านถ้าเขารู้ว่าเป็นไก่ของเมียผู้ช่วยเก๋ เขาไม่กล้ายิงหรอก สั่งไว้หมดแล้ว (ถ้ารู้โดนแช่งแน่นอน)

    .............................

    เมื่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ ออกลูกฟักออกมามากมาย มีคนขอไปเลี้ยงด้วย เชื่อไหมว่า มีแม่ไก่ตัวหนึ่งออกลูกมาแล้วลูกตกน้ำหน้าบ้าน ลูกมันแข็งแรงมาก ว่ายน้ำเข้าฝั่งได้โดยปลอดภัย ไม่เหมือนลูกไก่ชน ตกน้ำทีช่วยตัวเองไม่ได้ ไก่ชนนี่มันชอบตีกัน(ทะเลาะหรือออกกำลังกายไม่ทราบ) แต่เวลาตัวเองมีภัยกลับไม่กล้าสู้อุปสรรค ไม่รู้วิธีการช่วยตัวเอง แต่ไก่ป่าตัวเล็กใจใหญ่ ฮึดจริงๆ

    ก็กลายเป็นว่าไก่ป่าบ้านยายผีป่านี่นอนในเล้าบ้าง บนต้นไม้ในรั้วบ้านบ้าง เดินไปใกล้ๆ ก็ไม่ตื่น เรียกมากินอาหารแจ้นมากันง่ายดาย ไม่ต้องซุ่มมากินเหมือนสัตว์ป่าอื่นๆ ที่ตื่นคน จะมากินตอนไม่มีคน ทำให้ติดกับดักพรานได้ง่ายดาย เวลาเขาเอาเหยื่อล่อให้ติดกับ (เขาเรียกได้ว่า มีสัณชาตณาณระวังภัยแต่ขาดความรอบคอบ)

    .....................................

    จึงไม่แปลกใจที่แม่ไก่ป่าตัวนี้ต้องมาตายเพราะโดนรถคนเลี้ยงด้วยรักเผลอทับตาย


    "แม่ไก่ตายเพราะความเชื่อง เพราะความคุ้นเคย เพราะคิดว่าตอนใต้ล้อรถสบายดี มีร่มเงา (คงนอนนานแล้วเพราะรถจอดตั้งแต่เช้า) และแม้จะได้ยินเสียงเปิดประตู คนเดินกลับไปมา เสียงสตาร์ทรถ แต่ด้วยความคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวของคนที่ดูแลจึงไม่คิดว่ามันคือพญามัจจุราชบังตาไว้"


    ไปดีนะแม่ไก่ เมื่อคืนก็บอกไปด้วยความสำนึกผิด แม้จะเป็นการทำร้ายที่ไม่ตั้งใจก็หาใช่เหตุผลที่จะทำให้รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรเกี่ยวเนื่องหรอก แต่คิดว่าเขาคงถึงวาระเช่นกัน เหมือนมีอะไรมาบังไม่ให้ตัวรู้ ตัวสติของเขาเตือนตนให้รู้เท่าทัน ให้ระวัง ให้หนี

    ...........................

    ตัวอย่างข้างต้น ท่านพิจารณาเถิด มีข้อธรรมอะไรให้ท่านนำมาใช้ได้หรือไม่

    ปล. ยายผีป่าเห็นธรรมในธรรมชาติเสียส่วนมาก เพราะพระพุทธเจ้าท่านใช้กฎธรรมชาติ ความเป็นธรรมชาติธรรมดามาเป็นธรรมเพื่อการพิจารณษหนทางหลุดพ้นนะคะ

    .................................
     
  16. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    [​IMG]

    ในภาพที่เห็นด้วยตาในตอนนั้นคือลักษณะนี้ค่ะ

    และขอเล่าว่าเมื่อประมาณ ๓ ปีก่อนนะคะ

    ตื่นเช้ามา เจอนักบวชแต่งกายเช่นนี้แต่ผ้าพันคอท่านทิ้งยาวไม่ได้พันรอบเช่นนี้ แต่เต้มหน้าผากและโพกผ้าเช่นเดียวกับภาพ สีผ้าจีวรก็เช่นเดียวกัน ท่านเดินผ่านหน้าบ้าน เดินไม่เร็ว เพราะว่าเวลานั้นประมาณหกโมงเช้าเศษๆ ละอองหมอกยังลอยกระจายให้ชุ่มชื้น แล้วท่านเดินไปที่ต้นพุทธาตรงที่ปัจจุบันนั้นเป็นที่ตั้งแท้งค์น้ำประปาหมู่บ้านข้างบ้านยายผีป่า จึงเรียกให้ผู้ช่วยเก๋ออกมาดู เขาก็บอกว่า ไม่เห็น ให้เดินตามไปดู ก็ไม่เห็น เขาจึงบอกว่า "พระเดินบิณฑบาตรเช้ากระมัง หลวงตากุยเพ้งแกเดินไว" ยายผีป่าบอกว่าไม่ใช่ หลวงตากุยเพ้งจำได้ว่าจีวรสีอะไร หน้าตาอย่างไร แกคงไม่มาแต้มหน้าผากหรอก ต่อให้หนาวคงไม่ถึงกับแต่งแบบแขกหรอกนะ

    ....................

    คือที่เห็นนั้นแน่ใจว่าเห็นด้วยตาเนื้อ เพราะเพิ่งตื่นมา แต่จะว่าไป ยายผีป่าชอบเห็นอะไรที่คนอื่นไม่เห็นอยู่แล้ว จึงเริ่มคิดอีกว่า เราเห็นคนเดียวกระมัง

    .................................ต่อมาสายๆ ขับรถไปที่ว่าการอำเภอ (เคยเล่าไว้ที่อีกกระทู้) พอใกล้จะถึงที่ว่าการ ก็เห็นอีกแล้วค๊า ท่านเดินถือกาน้ำข้างหนึ่ง อีกข้างสพายย่ามสัมภาระกระมัง เดินเท้าเปล่า ผอมโปร่ง ยายผีป่าก็รีบบอกทิดเก๋ว่า นั่นไงพระแขกเดินสวนมา เธอชะลอรถแล้วถอยไปเร็ว ฉันจะไปนมัสการท่าน แต่ทิศเก๋มองผ่านกระจกหลัง ก็ไม่เห็นมีพระที่บอก

    ยายผีป่าก็บอกว่า ตรงต้นไม้นั่นไง ท่านเดินถึงตรงนั้นแหละ ถอยเร็ว!

    ทิดเก็จำต้องถอย แต่ไม่พบพระรูปนั้นเลย เอ...ท่านคงเดินจากบ้านเรามา คงเดินเลาะป่ามา แต่ถ้าท่านเดินจากบ้านเราท่านต้องเดินขึ้นทางเขื่อนเขาแหลม ไม่ใช่สวนทางจะกลับมาทางบ้านเรา หรือว่าท่านย้อนกลับ

    ก็ไปทำธุระต่อ จนบ่ายก็กลับ ทีนี้ขับมาเลยสะพานใกล้วัดพุทธบริษัท ก่อนจะถึงโค้มด่านตำรวจท่าขนุน เห็นท่านเดินนำหน้าเราซ้ายมือ มุ่งหน้าทิศที่เราจะไป จึงบอกทิศเก๋ว่า จอดๆ พระแขกอยู่ตรงนั้น ท่านเดินอยู่หน้าเรา

    ทิศเก๋มองไปก็ไม่เห็น จึงโมโห บ่นว่า

    "เธอนั่งสมาธิจนเพี้ยน ตาเพี้ยน อย่างนี้แย่นะ"
     
  17. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    เมื่อคืนไปดูสลัมแห่งหนึ่งในนิมิต ตรงนั้นเคยเป็นสุสานหรือป่าช้าเก่า เจอสัมภะเวสีร่างสูง สวมชุดขาว หน้าตายาวแปลกประหลาด (ผีไม่ให้ประหลาดได้อย่างไร) คือเราไปดู เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยกันเคลียร์พื้นที่ และมีการคุยกันว่า ที่นี่อาถรรพ์ไฟไหม้ประจำ เพราะเคยรู้มาว่าเป็นสุสานเก่า ไม่ล้างป่าช้าก่อนมาปลูกทับไป เลยไหม้ประจำ

    ยายผีป่ามองดูพวกเขาทำงานท่ามกลางซากศพและซากปรักหักพังจากเพลิงผลาญของบ้านคนสลัม แล้วจึงตั้งจิตขอบารมีครูมาสงเคราะห์เหล่าดวงวิญญาณทุกดวงที่ทุกข์ทรมาน ณ สถานที่แห่งนี้ ว่าแล้วก็รู้สึกว่าได้ยินเสียงสวดมนต์ก้องเป็นเสียงแบบคนเสียงใหญ่ทุ้ม บทชินบัญชรเป็นหลักก่อนจะกรวดน้ำ ยายผีป่าก็สวดตาม

    หันจะกลับก็มาปะหน้าเจ้าสัมภะเวสีที่ว่านะคะ ตอนแรกๆ คิดว่าเป็นหน่วยกู้ภัย แต่จิตบอกว่าไม่ใช่ เลยถามเขาว่า สบายดีขึ้นหรือยัง เขาตอบว่า ดีขึ้นขอบคุณ แล้วก็เดินไป เราก็กลับมา ระหว่างทางที่กลับเจอปอบ เลยถามว่าตามฉันมาหรือ เธอใช่ไหมที่มาหาเรื่องกินไก่ฉัน เธอทำให้ฉันคิดว่าไก่ฉันตายเพราะฉันขับรถทับ เธอใช่ไหมที่คุมไก่ฉันไม่ให้หนี เจ้าปอบอายุประมาณ ๔๕-๕๓ ปี ก็เริ่มอึกอัก แล้วบอกว่า "ช่วยด้วย ไม่อยากเป็นปอบ" ยายผีป่าก็ถามว่า เกาะแมวมาใช่ไหม แมวตายแล้วใช่ไหม หล่อนตอบว่าใช่ กินแมวมาตั้งแต่ที่โคราชแล้ว และจะมากินหมา แต่กินไม่ได้ เลยกินไก่" ยายผีป่าเลยบอกว่า "ไม่อยากเป็นปอบตลอดชีวิต ให้ไปกราบพ่อใหญ่นะ (หมายถึงหลวงปู่โลกอุดร) ขอศีลครูธรรมสงเคราะห์ด้วย ว่าแล้วปอบก็หายไป

    ..............................

    เช้านี้ตื่นไปดูเจ้าหมาสองตัว มันยังคงร่าเริงและกินไม่บันยะบันยัง นึกถึงคำน้องตองกับน้องออมที่ว่า ปอบมากินไก่ และบอกแม่ว่า "แม่อย่าให้หมาเลียไส้ไก่นะ ปอบจะเข้าหมา"

    ...............................
     
  18. หมูเล็ก

    หมูเล็ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2008
    โพสต์:
    914
    ค่าพลัง:
    +2,144
    การบ้าน แม่หมู

    วันนี้นั่งปฏิบัติตามเดิม อาการเป็นเหมือนเมื่อวานเคลื่อนตามแสงเข้าไป

    บางสภาวะที่ผ่านไปนั้นมืดบ้างสว่างบ้างแต่มองไม่เห็นอะไร วันนี้หมา

    ข้างบ้านมันไม่เห่าเหมือนเมื่อวาน สักพักจิตนั้นได้สัมผัสอาจารย์ท่าน

    หนึ่งจำได้ว่าท่านสอนนักเรียนชั้น ป.4 ท่านชอบสอนให้นักเรียนนั่งสมาธิ

    และก็เป็นครั้งแรกที่เราได้นั่งสมาธิ ยังจำชื่อท่านได้ รณชัย มโนรัศมี

    พอระลึกได้ก็เกิดปิติ น้ำตาคลอ วันนี้นั่งได้นานพอสมควรก็ออกจากสมาธิ
    ยายค่ะครูในความเป็นทิพย์ท่านช่วยให้เรานั่งได้นานและปวดเมื่อยน้อย

    ลงใช่ไหมค่ะ
     
  19. ta2498

    ta2498 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +3,417
    สวัสดีครับคุณยาย และเพื่อน ๆ พี่น้องลูกศีลลูกธรรมทุกท่าน
    ตั้งแต่กลับมาก็ยุ่งกับการทำงานตลอด แวะเข้ามาอ่านบ้าง แต่เนื่องจากเป็นคนไม่ชอบเขียนและไม่รู้จะเขียนอะไรส่ง จึงชอบอ่านเรื่องของคนอื่นมากกว่า ขอรายงานบ้างแล้วกัน เน่ืองจากงานหนักมาก ช่วงนี้จึงชอบนั่งสมาธิแบบเฉย ๆ ไม่อยากภาวนาอะไรทั้งนั้น เพราะอาศัยช่วงที่ทำสมาธิ เป็นการชาร์จแบตให้กับตัวเอง จะได้มีแรงทำงาน เพราะคิดว่าการทำสมาธิเป็นยาอายุวัฒนะที่ดีมาก ๆ แต่ถึงกระนั้นร่างกายก็ยังมีอาการเจ็บป่วย (ตามธรรมดาของขันธ์) แต่่ขณะที่สวดมนต์ ไม่ได้เปลี่ยนเป็นภาษาแปลก ๆ แต่น้ำเสียงที่ใช้ในการสวดจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ก็รับรู้ว่าครูบาอาจารย์ท่านมาสงเคราะห์อยู่ ใช่ไหมครับยาย ขอถามยายอีกข้อครับ ตอนนี้มีอาการปวดเหนือหัวเข่าด้านขวา และปวดร้าวตลอดเส้นทางด้านขวาของลำตัว ทำให้ลุกลามปวดถึงศรีษะเหมือนไมเกรน จะแก้ไขอย่างไรดีครับยาย
     
  20. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    เมื่อจิตของเราเคลื่อนสู่สภาวะของความเป็นทิพย์ หรือที่เรียกว่าทรงณาณละเอียดได้นั้น (ไม่ต้องสนใจระดับณาณว่า หนึ่ง สอง สาม สี่ นักปฏิบัติไม่ใส่ใจนิยามนะคะ ไม่ใช่ปริยัติ) ในความเป็นทิพย์ตั้งแต่แบบอ่อน หรือแกร่งขึ้นเรื่อยๆ นี่ จะเริ่มตัดนิวรณ์ต่างๆ ไม่ใส่ใจในสิ่งที่เราเคยห่วง กังวล

    สิ่งที่ได้สัมผัสอาจารย์นั้น ครูท่านต้องการสอนให้รู้ว่า อย่ามองข้ามครูที่ไม่ใช่พระสงฆ์องค์เจ้า อย่างที่ยายผีป่าบอกตอนไปที่บ้านว่า ลูกยายผีป่าเองก็เป็นครูให้ยายผีป่า อะไรที่สอนหรือโน้มนำให้เราเข้าสู่ความรู้ ตื่น เบิกบานได้ นั้นต้องเรียกและศรัทธาว่าเป็นครูเท่าเทียมกันนะคะ พ่อแม่เรานี่ลืมไม่ได้เลย ตั้งจิตไปกราบขอขมาท่านก่อนเลย บอกท่านในสิ่งที่เราไม่กล้าบอกท่าน เดี๋ยวท่านจะรับรู้แล้วเวลาเจอเรา อะไรที่ตึงก็จะคลาย เหมือนตอนที่ยายแนะนำการสื่อพลังจิต โดยให้มีคนสาธิตสองหนุ่ม นั่งจับมือ จ้องขี้ตา ดมลมหายใจกัน นั่นคือการฝึกเบสิคนะคะ เวลาลูกยายผีป่าทะเลาะกัน จะให้เขายืนตากแดดกันสองคน จับมือกัน หันหน้าเข้าหากัน มองตากัน

    ...................

    แรกๆ เขาก็แอ็นตี้ พอสักพักก็เริ่มมีอาการ ยายผีป่าต้องกำชับว่าให้ทำตามที่บอก เขาก็ต้องทำ สุดท้ายใช้เวลาประมาณ ๕ นาที ก็น้ำตาไหล กอดกันกลม

    เขาก็ขอโทษกัน

    ถามว่า ขอโทษกันทำไม ร้อนหรือเหนื่อยหรือถึงยอมขอโทษกันเพื่อจะได้เข้ามาพัก กลัวแม่ตีใช่ไหม เขาตอบว่า ไม่ใช่ เขาเข้าใจกันแล้ว

    ถามว่าเข้าใจกันอย่างไร ในเมื่อแม่ไม่ได้ให้พูดกัน

    เขาก็บอกว่า เข้าใจทางใจไงแม่ โง่จังแม่นี่! (น้านดูมันย้อนแม่)
     

แชร์หน้านี้

Loading...