จิตคือพุทธะ (ถอดจากเสียงหลวงปู่ดูลย์)

ครับ เหมือนเสียงหลวงปู่มากครับ

 

ผมไม่รู้ ผมไม่เคยฟัง..แต่ถ้าเป็นไปได้ถ้าได้ถามความเห็นจากพระสุปฏิปันโน อย่างเช่นหลวงตามหาบัว คงกระจ่างที่สุด (แต่คงยากที่จะได้ถามจากหลวงตา..)

ไม่อย่างนั้นก็ถามจากศิษของหลวงตาที่หลวงตารับรองก็น่าจะเอามาประกอบการพิจารณาได้(แต่ก็คงไม่ง่ายอีกหละที่จะได้คุย)

สรุป ถ้าใครได้ทราบความเห็นเรื่องนี้จากพระที่น่าเชื่อถือได้ก็เอามาบอกกันบ้างนะ

 

ยืนยันครับ ไม่ใช่แน่นอนครับ
มีการจงใจให้เข้าใจผิด

;aa24

 

ถ้า พุทธะ แปลว่า ผู้รู้
จิต ก็คือ ผู้รู้

จิต คือ พุทธะ ก็ไม่ผิด

ความจริงในภาคปฏิบัติ
เพียงแค่ขั้นสมาธิก็รู้จัก จิต รู้จัก ผู้รู้ แล้ว

แต่ในที่นี้ผู้ปฏิบัติถึงไม่มีน่ะสิ
หรือมี ท่านก็ไม่พูด

นี่ภาคปฏิบัิติตอบได้หมดเลยนะ
พอถึงตัวจริงเท่านั้นล่ะ อ๋อ ทันที

ไม่ได้มาเถียงกันตาดำ ตาแดง อย่างนี้หรอก

 

ยังไม่ได้อ่าน ที่คุณเก่งเอามาไห้อ่านหรอกนะครับ แพ้ทางยาวหนะ ..ไว้ค่อยอ่าน

แต่เห็นข้อความสั้นๆแบบนี้ว่า
ถ้า พุทธะ แปลว่า ผู้รู้
จิต ก็คือ ผู้รู้
จิต คือ พุทธะ ก็ไม่ผิด
---------------------------------------
ถ้าพุทธะ แปลว่า ผู้รู้อย่างเดียว ทุกคนทุกสัตว์ จิตก็เป็นพุทธะทั้งหมด ไม่ต้องทำอะไรอีก..

มีความเห็นว่า ถ้าจะว่าจิต เป็นพุทธะ น่าจะหมายถึงจิตที่เป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น(จิตไม่ตื่นไม่นับ)

 

ความไม่รู้..นี้มันทำให้ยุ่งจริง ๆ เน๊าะ

โมทนาสาธุ กับคุณ ธรรมภูต ด้วยคนครับ

 

คำปรารภถึงหลวงปู่ดูลย์ จากหนังสือหลวงปู่ฝากไว้
โดย พระโพธินันทมุนี

หลวงปู่ดุลย์ อตุโล เป็นพระอริยเจ้าที่มีคุณธรรมล้ำลึก ท่านเน้นการปฏิบัติภาวนามากกว่าการเทศนาสั่งสอน สำหรับพระสงฆ์และญาติโยมที่เข้าไปกราบนมัสการและขอฟังธรรมะ หลวงปู่มักจะให้ธรรมะสั้นๆ แต่มีความล้ำลึกสูงชั้นเสมอ ท่านจะเทศน์เรื่องจิตเพียงอย่างเดียว โดยจะย้ำให้เรา พิจารณาจิตในจิต อยู่เสมอ

ฯลฯ

หลายท่านได้เรียกร้องถามหา ถึงพระธรรมเทศนาของหลวงปู่ ใคร่อยากจะได้ฟังได้อ่าน อาตมาภาพขอสารภาพตามความเป็นจริงว่า ธรรมเทศนาหรือโอวาทของหลวงปู่นั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง ทั้งนี้เนื่องจากท่านไม่เคยเทศน์เป็นกัณฑ์ๆ หรือแสดงเป็นเรื่องราวยาวๆ เพียงแต่เมื่อสอนภาวนาหรือกล่าวตักเตือนลูกศิษย์ หรือตอบคำถาม ตลอดถึงสนทนากับพระเถระอื่นๆ หลวงปู่ก็จะกล่าวอย่างสั้นๆ ด้วยความระมัดระวัง ยกข้อธรรมะมากล่าวอย่างย่อๆ เท่านั้นเอง นอกจากนี้ ท่านไม่เคยแสดงในพิธีการงานใดอีกเลย

ฯลฯ

สิ่งที่น่าสังเกตและน่าอัศจรรย์อย่างหนึ่งคือ หลวงปู่มีปกติเป็นผู้ไม่พูด หรือพูดน้อยที่สุด แต่มีปฏิภาณไหวพริบเร็วฉับไวมาก และไม่มีผิดพลาด พูดสั้นย่อ แต่อมความหมายไว้อย่างสมบูรณ์ คำพูดของท่านแต่ละประโยคมีความหมายและเนื้อหาจบลงโดยสิ้นเชิง เหมือนหนึ่งสะกดจิตผู้ฟังหรือผู้ถามให้ฉุกคิดอยู่เป็นเวลานาน แล้วก็ต้องใช้ความตริตรองด้วยปัญญาอย่างลึกซึ้ง

พระโพธินันทมุนี (สมศักดิ์ ปณฺฑิโต)
๒๓ ตุลาคม ๒๕๔๑

;aa24
​

 

โมทนาสาธุ กับการบวชของท่านพันเลิศ ไม่รู้เรียกถูกป่าว

ให้รับผ้ากาสวพัตร ทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน

ถึงพระนิพพานชาตินี้เลยนะครับ สาธุ สาธุ

สิ่งใดเคยล่วงเกินต่อกันขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น บุญกุศลบารมีอันใดที่กระผมบำเพ็ญไว้ดีแล้วขอให้สำเร็จแก่ท่านเช่นกันและเป็นปัจจัยให้ท่านเข้าถึงซึ่งนิพพานชาติปัจจุบันนี้เทอญ

 

บวชที่ไหน-จำวัดที่ไหนPMมาบอกหน่อยนะ
แล้วก็ขอเบอร์โทรไห้ไว้ด้วยนะ ไม่โทรไปรบกวนหรอก(ถ้าไม่จำเป็น)
เผื่อว่าเมื่อไรได้ไปหาจะได้ติดต่อไปก่อน ว่ายังอยู่ดีหรือไม่นะ 5 5

ยินดีด้วยนะ แล้วก็ขอไห้เอ็งได้ดีได้ครูบาอาจารณ์ดี ถ้าดีได้ขนาดครูบาอาจารณ์อย่างหลวงตามหาบัว รับรองไห้ แบบหลวงพ่อสงบ ก็จะน่ายินดีมาก
อนุโมทนานะ

อ่อ นี้เบอร์โทรเรานะโว้ย 084009808(ตัวสุดท้ายเดาเอานะ)
(เผื่อเอ็งต้องการไห้ช่วยชี้แนะไง 5 5 5 หรือเป็นพระแล้วมีอะไรขาดเหลือขัดข้องก็บอกมาได้ เดี๋ยวประชาสัมพันไห้นะหุหุ)

(อิจฉาเหมือนกัน ที่ได้บวช ของเรานี้ไม่รู้ชาตินี้จะได้บวชไหม แล้วแต่กรรมหวะ)

ส่งpmไม่ได้ลงมันตรงนี้เลย. .

 

เอามาฝากจาก youtube เปิดไฟล์ไม่เป็น เอาชื่อไฟล์ไปค้นที่เว็บยูทูบละกัน ถ้าอยากฟัง
เราว่าเสียงเหมือนหลวงปู่นะ แต่อันนี้มีแค่ 4 นาที เคยได้ยินมาว่า เสียงเทศน์ชุดนี้มีถึง 30นาที

Movie จิตหนึ่งคือพุทธะ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล aj mv


ชื่อไฟล์ตามนี้เลยนะ

 

โอ้ว...ทำไมจึงเหมือนในหนังสือ เปี๊ยบเลยละ..เป็นไปได้งัย..?

รายการแหกตาประชาชน..แหง่ ๆ งานนี้

ถ้าไม่ใช่หนังสือแหกตา..ก็เป็นเสียง..ที่แหกตา

ถ้าอย่างหนึ่งจริง..อีกอย่างหนึ่งก็ต้องโกหก

 

โอ้!มนุษย์ผู้กินแล้วถ่ายนี้หนอ จะหาเหตุและผลที่เป็นสัจจะหาได้ไม่
....ยามใดที่เหตุเข้าทางตนก็จะเอาสิ่งนั้นมาฟาดฟันผู้อื่น
แต่เมื่อกลับไปเป็นผลแค่ฝ่ายตรงกันข้าม ก็จะบอกเหตุและผลที่ผู้อื่น
นำมาแสดง แหกตาเชื่อถือไม่ได้ หลักฐานปลอมหลักฐานเท็จ
.....มันน่าขำมั้ยครับพี่น้อง
.....ใช่มั้ยใช่ครับพี่น้อง

......ที่กล่าวมาไม่เกี่ยวกับเรื่องในนี้ เพียงแต่จะชี้ให้เห็นถึงการกระทำของ
มนุษย์ เท่านั้นแล

 

<o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype> [FONT=&quot]การโต้เถียงการด้วยสัญญา ความคิด ความจำ[/FONT]
[FONT=&quot]จากการฟังการอ่าน เถียงกันไปก็ไม่ได้ข้อสรุปหรอกครับ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เพราะผู้มาถกมาเถียงไม่ได้ รู้เองเห็นเอง[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ก็เลยด้นเดาไปตามความคิดตน[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]หากรู้ หากเห็น เอง ก็จบ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เรื่องที่ว่าคนนั้นเห็นอย่างนั้น เห็นอย่างนี้ก็จบ[/FONT]
[FONT=&quot]เพราะสิ่งที่รู้สิ่งที่เห็นนั้นประจักษ์กับใจตนเองแล้ว[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]หมดสงสัย ที่เถียงกันนี่เพราะสงสัย ไม่รู้ไม่เห็นจริง[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]การปฏิบัติเบื้องแรกครูอาจารย์ท่านสอนให้มีหลักมีเกณฑ์ในการปฏิบัติ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เช่น การเอาอารมณ์กรรมฐาน 40 ห้องมาเป็นอารมณ์ของใจ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เช่น บริกรรม พุทโธ ธัมโม หรือ อานาปานสติ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]หรือการจะพิจารณา กายคตาสติ อะไรก็ตามในกรรมฐาน 40<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ให้ทำอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา เว้นในเวลาหลับ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ส่วนท่านที่ไม่นอน ก็เข้าพักในฌาน ก็ได้ในท่านที่ทำได้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อนำเอาอารมณ์กรรมฐานมาเป็นอารมณ์ ของใจตลอดเวลา[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]จิตใจก็จะสงบลง มีอาการต่าง ๆ จากการทำสมาธิ ซึ่งแตกต่างไปแต่ละราย[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อจิตสงบบ่อยครั้งขึ้น จะพบว่า สติ เด่นขึ้น[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]จะต่างจากสติที่เราดำรงชีวิตประจำวัน[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]แต่สตินี้จะเด่น จะมีกำลัง เรียกได้ว่าเป็นสติธรรม [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]จะกำหนดหรือตั้งสติธรรม นี้เมื่อไหร่ก็ได้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ซึ่งก็เป็นสติตัวเดิม และ ตัวเดียวกับสติในชีวิตประจำวัน[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]แต่เป็นสติที่เด่น และมีกำลังมากขึ้น จากสติที่เคยมี[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อมีสติธรรม แล้วการทำสมาธิ จะสามารถทำให้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]จิตเป็นเอกคตาได้ดังต้องการ ด้วย การบริกรรมพุทโธ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]หรือ ดูลมหายใจ ด้วยความมีสติ อย่างสืบเนื่อง[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]จิตจะเป็นเอกคตาได้ ด้วยการมีสติที่สืบเนื่องเท่านั้น[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อทำสมาธิจิตสงบได้บ่อยขึ้น ด้วยความชำนาญในสติ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ให้กำหนดสติธรรม ตามลมหายใจ หรือพุทโธว่า[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ใครเป็นผู้รู้ ลมหายใจ ใครเป็นผู้รู้พุทโธ ด้วยความมีสติที่สืบเนื่อง<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อมีสติตามรู้ ก็จะรู้ว่า อ๋อ จุดของผู้รู้เป็นอย่างนี้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]จิต ที่ ท่านเรียกว่าผู้รู้เป็นอย่างนี้ จิตที่แท้เป็นอย่างนี้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วต่อไปจิต หรือ จุดของความรู้ หรือ ผู้รู้จะเด่นชัดขึ้น เป็นลำดับ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
จิต หรือ ผู้รู้ อยู่ท่ามกลางอกนะ
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]นี่คือการรู้จิตผู้รู้ จะรู้ได้ด้วยการปฏิบัติตามวิธีนี้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ครูบาอาจารย์<st1>กรรมฐาน ท่านสอนอย่างนี้</st1>[/FONT]
[FONT=&quot]ท่านสอนอย่างมีหลัก มีเกณฑ์[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่ใช่สอนแบบเด้น ๆ ด้าน ๆ จะรู้จักความจริงไม่ได้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เห็นมั้ยถ้าใครรู้จริงตอบได้ ตอบได้ทั้งเหตุ และผล[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เหตุที่มาเป็นยังไง ต้องทำยังไง ผลก็ได้ประจักษ์[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]หายสงสัย[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เถียงกันไปก็ตาดำ ตาแดง เฉย ๆ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ที่รู้จริง เห็นจริง ไม่ได้เพราะปฏิบัติไม่ถูกทาง<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]คนที่ไม่รู้จริง แต่มีความสำคัญ ในสัญญา ของตนมาก[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ก็เถียงไป เพราะยึดมั่นในความจำความคิด ของตนมาก[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เถียงไปทั้ง ๆ ที่ตัวเองตาบอดนั่นล่ะ แต่มันไม่รู้ตัว[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ผู้รู้จริง เห็นจริงท่านมาบอกก็ไม่เชื่อ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]อย่างถ้าผมบอกว่า พระพุทธองค์ ทรงเสด็จมาสอนธรรมผม[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่ได้เสด็จ มาด้วย ความฝันหรือนิมิตอะไรด้วย [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วจะมีคนเชื่อผมมั้ย<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ก็คนไม่รู้ไม่เห็นเค้าก็ต้องคัดค้านแน่นอน เพราะเค้าไม่เคยรู้เคยเห็น[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]แต่คนเคยรู้เคยเห็น รู้อย่างเดียวกันเห็นอย่างเดียวกัน ก็ไม่ค้านกัน[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]รสของธรรมก็รสเดียวกันนั่นล่ะ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ตอนนี้ก็เป็นแค่[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เรื่องของคนตาบอดคุยกันเท่านั้นเอง[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]จะไปแล้วขอเอาธรรมมาเปิดซะหน่อยเถอะ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ทีกิเลสมันยัง มาเปิด มาเผยตัวเอง ได้นี่นา<o></o>[/FONT]

 

คุณบุญพิชิต..แล้วคุณว่า..อะไรละที่แหกตา..เสียงหรือหนังสือ..:boo:

dannce_

อย่าให้ความหลง..ทำให้ใจ..มืดบอด..ละกัน

 

อะไรแหกมั้ยแหกมันเป็นเรื่องของคนอื่นครับ ผมสนใจแต่เนื้อหาข้างในว่า
เราสามารถปฏิบัติได้มั้ยอย่างไร การปฏิบัติของผมคือการพิจารณาธรรมครับ
ไม่ใช่มาพิจารณาชาวบ้านหรือครูบาอาจารย์

........ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ความหลงของท่าน มันหมายถึงอะไร
กับผมซึ่งดูแต่เนื้อหาธรรมมะ และกับอีกคนที่คอยแต่จะจ้องว่า ใครพูด
ใครแต่ง ของแท้ของปลอมแหกตา ฉะนั้นท่านก็สำรวจตัวเองดูว่า
ใครกำลังใจมืดบอด เป็นท่านหรือผม

.......ผมใคร่แนะนำท่านนะครับว่า ถ้าไม่มีปัญญาอธิบายความยาวๆ
เพื่อให้คนอื่นเข้าใจ ผมว่าท่านพิมพ์คำว่า อนุโมทนา อย่างเดียวก็พอ
มันจะได้เป็นกุศลกับตัวท่านเอง

 

ท่านครับก็เพราะสนใจแต่เนื้อหานี่เอง จึงทำเห็นความบกพร่องโดยตั้งใจ
ไม่มีตรงไหนที่ท่านพระอาจารย์หลวงปู่ดูลย์กล่าวไว้ว่า
จิตเป็นวิญญาณขันธ์ อันจัดอยู่ในกองทุกข์...ฯลฯ...

มีการกล่าวหาว่าหลวงปู่บัญญัติคำขึ้นใช้เองตามสภาวะที่ท่านรู้เห็น
ซึ่งเป็นไปไม่ได้ แต่คนที่เขียนหนังสืออ้างอิงชื่อหลวงปู่นั่นแหละ
กลับเอาอภิธรรมมาอ้างเพื่อให้เข้ากับจริตตนเอง แล้วเอาหลวงปู่มาบังหน้า

ในการที่นำเอาธรรมของท่านพระอาจารย์หลวงปู่ดูลย์มาสอนนั้น
ได้มีการเพิ่มเติมเสริมแต่งเข้าไป จนกระทั่งคนอ่านไม่รู้ว่า
อันไหนของหลวงปู่ อันไหนเพิ่มเติมเข้าไปด้วยความชอบใจของตนเอง

การทำเช่นนี้เป็นการไม่เหมาะสม ทำให้คนรุ่นหลังสับสน
ไม่รู้ได้ว่า ส่วนไหนเป็นของหลวงปู่กล่าวไว้
ส่วนไหนเพิ่มเติมเสริมแต่งเข้าไปตามชอบใจ
แบบนี้ไม่เรียกว่า แหกตา แล้วจะเรียกว่าอะไร???

;aa24

 

ฟังฉบับเต็มได้ที่นี่
http://d.igetweb.com/index.php?mo=3&art=73279

เป็นเสียงหลวงปู่หรือไม่ไม่ทราบครับ แต่ฟังแล้วเป็นจังหวะการอ่านหนังสือนะครับ ไม่น่าจะเ้ป็นการเทศน์

 

ใช้วิจารณญาณดีๆครับ ต้องระวังด้วยเพราะการก้าวล่วงพระอรหันต์นั้นเป็นกรรมหนักครับ

 

ฮิ..ฮิ..ฮิ..

คุณบุญพิชิตกล่าวได้ถูกต้องจริง ๆ ครับ..ผมไม่มีปัญญาอธิบายความยาว ๆ เพื่อให้คนที่เข้าใจว่า..อาการของจิตคือจิต..กลับมาเข้าใจจิตอย่างที่พระอริยะเจ้าท่านสอนซึ่งหลวงปู่ดุลย์ก็ไม่ได้สอนอย่างนี้..มั่นใจครับว่าท่านไม่ได้สอนอย่างนี้

ส่วนคุณบุญพิชิต..จะสัทธาเชื่อมั่นและยึดถือคำสอนดังกล่าว..ก็เป็นสิทธิ์ของคุณบุญพิชิตครับ..แต่อย่าได้กล่าวว่าเป็นคำสอนของหลวงปู่..ก็แล้วกัน

สาธุ..คุณธรรมภูต..ครับ..เพราะคุณทำให้ผมได้เอ๋ะใจกลับมาคิด.

และก็นับว่าผมยังพอมีบุญอยู่บ้าง..ที่วันนี้..วันที่ 11 ธันวาคม 2552

ผมได้เปิดวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน..เวลาประมาณ 8:00 ถึง 9:25

ทางสถานีได้นำเทปหลวงปู่ดุลย์เทศน์มาเปิด..ชื่อกัณท์เทศน์ว่า..ปัญญา

ยอมรับครับว่า.เสียงใน.Link ที่คุณเก่งนำมา..คล้ายมากครับ..จะเรียกว่าเป็นเสียงเดียวกันยังได้เลยครับ..

เสียงเหมือน..ครับ..แต่ใจความสำคัญ..คนละทวีปเลย

ตัวอย่างสั้น ๆ นะครับ..

....ใช้จิตดูอาการของจิต....

....รูปนาม อยู่ในกฏไตรลักษณ์..แต่จิตเหนือกว่านั้น..เหนือกฏไตรลักษณ์...

ฟังแล้ว..ถึงใจจริง ๆ ครับ..ขอกราบเท้าหลวงปู่ดุลย์ด้วยใจที่ไร้ความเคลือบแคลงสังสัยใด ๆ นับว่าเป็นบุญของกระผมที่ได้ฟังเทศน์ชุดนี้ครับ..สาธุ

เสียดาย..ไม่รู้จะนำมาให้กัลยาณมิตรได้ฟังกันได้ยังงัย..ใครทำได้..ก็ลองดูนะครับ..ตามวันเวลาที่ผมว่าใว้นั้นแหละ

ขอให้ผู้ใฝ่ธรรม..เห็นธรรมกันทุกคนครับ..สาธุ

 

จะแสดงความเห็น ผมว่าท่านควรใช้วิจารณญาณก่อนว่า ผมแสดงความ
เห็นไว้ว่าอย่างไร ถ้ายังไม่รู้ก็ไปดูอ้างอิงของผม แล้วที่สำคัญดูที่ตัว
ใหญ่แดงๆด้วย
......ก่อนอื่นผมขอบอกไว้เลยนะครับว่า ตัวผมเองไม่เคยที่จะไปเถียงกับใคร
เรื่องธรรมใดเป็นของใครเลย สิ่งที่ผมเถียงด้วยคือเนื้อหาการปฏิบัติ
ผมไม่ไปงมโข่งเถียงเรื่องตัวบุคคลหรอกครับ ธรรมใดๆที่เป็นของ
ครูบาอาจารย์ แล้วเกิดแย้งกัน นั้นมันเรื่องของครูบาอาจารย์ มันไม่เกี่ยว
กับผม มันอยู่ที่ผมจะเลือกธรรมอันใดมาใช้ เพราะว่า ผมเป็นผู้
ปฏิบัติเอง ไม่ใช่ว่า ครูบาอาจารย์มาบังคับให้ผมปฏิบัติครับ
.......อีกอย่างนะครับ ไม่ว่าจะเป็นธรรมของใคร ของอริยะองค์ใด ถ้า
ไม่ใช่ธรรมของพระพุทธเจ้าผมไม่สนใจหรอกครับ
.......แล้วเรื่องที่ชอบอ้างว่าคนนั้นเป็น อรหันต์แล้วนำท่านมาเข้าข้างตนเอง
ผมว่าเลิกทำเสียที่เถอะ ถ้าอีกฝ่ายเขาขาดสติ เดี่ยวมันเกิดการปรามาสพระที่
ท่านบอกว่าเป็น อรหันต์ ผมขอถามหน่อยท่านรับกรรมนั้นไหวมั้ยครับ
เพราะสาเหตุมันเกิดจากการอ้างของพวกท่าน หรือท่านรู้ว่า อีกฝ่ายไม่กล้า
ปรามาสพระรัตนไตร แต่พวกท่านกล้า
.......ผมแนะนำนะครับ วันหลังจะอ้างถึงครูบาอาจารย์ ท่านต้อง
โพสท์ข้อความไว้ด้วยว่า กรรมใดที่เกิดหลังจากนี้ท่านจะรับไว้แต่
เพียงผู้เดียว

ท่านจะสื่ออะไรอยู่ครับ ผมก็ได้กล่าวไว้แล้วว่าไม่อยากยุ่งเรื่องคำสอนของใคร
เอาเป็นว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นการวิจารย์ การกระทำและปัญญาของท่านก็แล้วกัน
ผมอยากถามท่านหน่อยว่า

.....เสียงเหมือนกัน คล้ายกัน ก็แสดงว่าเป็นคนๆเดียวกัน อันนี้ผ่านไป
ประเด็นหนึ่งนะครับ

.....แต่สิ่งสำคัญหรือประเด็นใหญ่มันอยู่ที่ คำที่ออกมาทั้งสองแตกต่าง
กัน ดังตัวอย่างที่ท่านนำมา
ผมเลยอยากให้ท่าน อธิบายว่า คำกล่าวทั้งสองที่เกิดจากบุคคลคน
เดียวกัน ทำไมมันแตกต่างกันครับ?

.....แล้วอย่าบอกเหมือนใครบางคนที่ว่า มีคนเอาไปใส่ปาก
ครูบาอาจารย์ มันเป็นการดูหมิ่น บุคคลที่ท่านว่าเป็นอรหันต์ครับ


........อย่าลืมตอบมานะครับ เราจะได้สนทนาให้เป็นกิจลักษณะ
ไม่ใช่ทำตัวเป็นอีแอบ ดักตีหัวที แล้ววิ่งหนีเข้าบ้าน
แอะๆ ... เกือบลืม แล้วโพสท์คำที่ผมบอกด้วยว่า จะรับผิดชอบกับ
สิ่งหรือบุคคลที่ท่านเอามาอ้าง