งานบุญพระพุทธศาสนา

ขอเชิญร่วมเป็น เจ้าภาพทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีวัดป่ากัมมัฏฐาน ๑๓ วัด ณ ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ถ.รามอินทรา กม.๑๐ เขตคันนายาว กทม.ในวันเสาร์ที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๓ เวลา ๑๐.๐๐ น.

ใน โอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ.๒๕๕๓ ศูนย์การค้าแฟชั่นไอแลนด์ ได้กราบนิมนต์พระกัมมัฏฐานมาฉันเช้าและรับผ้าป่าสามัคคีวัดป่ากัมมัฏฐาน ๑๓ วัด เพื่อที่ท่านจะนำปัจจัยไปสร้างโบสถ์ ๒ แห่ง ศาลาเอนกประสงค์, พิพิธภัณฑ์ฯ, กุฏิสงฆ์, ฝายทดน้ำ, ถนน, ห้องน้ำสุขาและบำรุงวัดวาอาราม เป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองและมีความมั่นคงสืบต่อ ไป เพื่อให้ผู้มีบุญและมีจิตศรัทธาได้มีโอกาสสร้างกุศลผลบุญทำบุญสร้างบารมีกับ พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ พระผู้เป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ ยังผลให้บังเกิด พลานิสงส์มากมายเป็นเอนกอนันต์หลายประการ เป็นอริยทรัพย์ติดตามท่านไปตราบจนบรรลุพระนิพพาน

ทอดผ้าป่าสามัคคีวัดป่ากัมมัฏฐาน ๑๓ วัด มีดังต่อไปนี้
๑.พระราชญาณวิสุทธิโสภณ ( หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ) วัดป่าศรีอภัยวัน จ.เลย ( ผ้าป่าฯบำรุงวัด )

๒.หลวงปู่เจริญ ราหุโร วัดพระธาตุเขาน้อย อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ( ผ้าป่าฯบำรุงวัด )

๓.พระราชวรคุณ ( หลวงปู่สมศักดิ์ บัณฑิโต ) วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ ( ผ้าป่าฯสร้างพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ดุลย์ อตุโล )

๔.หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ( ผ้าป่าฯสร้างกุฏิหลวงปู่คำบ่อ )

๕.หลวงปู่คำสุข ญาณสุขโข วัดป่าซับคำกอง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ( ผ้าป่าฯสร้างศาลาเอนกประสงค์ )

๖.หลวงพ่อคูณ สุเมโธ วัดป่าภูทอง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ( ผ้าป่าฯบำรุงวัด )

๗.หลวงปู่วง สุภาจาโร วัดป่าคำพระองค์ อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ( ผ้าป่าฯสร้างโบสถ์ที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ )

๘.หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี ( ผ้าป่าฯสร้างถนนในวัด )

๙.หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ( ผ้าป่าฯสร้างโบสถ์จัตุรมุข หลวงพ่อวิชัย เขมิโย )

๑๐.หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล วัดเขาศาลาอตุลฐานะโร อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ( ผ้าป่าฯสร้างศาลาเอนกประสงค์ )

๑๑.หลวงพ่อคำสด อรุโณ วัดป่าบ้านเพิ่ม ต.นาแค อ.นายูง จ.อุดรธานี ( ผ้าป่าฯสร้างฝายทดน้ำป้องกันไฟป่า )

๑๒ หลวงพ่อฉลวย อชิโต วัดป่าโนนหินเสื่อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ( ผ้าป่าฯสร้างห้องน้ำผู้ปฏิบัติธรรม ๑๐ ห้อง )

๑๓.หลวงพ่อไชยา อภิชโย วัดป่าบ้านค้อ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ( ผ้าป่าฯบำรุงพระมหาธาตุเจดีย์ฯ )

ขอบารมีคุณพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรม พระสงฆ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกได้โปรดดลบันดาลให้ผู้มีจิตศรัทธาและ ครอบครัวในการทำบุญทอดผ้าป่าวัดป่ากัมมัฏฐาน ๑๓ วัดนี้ จงประสบแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรืองด้วยจตุรพิธพรชัย คือ อายุ วรรณ สุขะ พละ ธนสารสมบัติอันพึงปรารถนาในปัจจุบันชาติและในทุกภพทุกชาติด้วยความเจริญทั้ง ทางโลกและทางธรรมทุกประการเทอญ

ผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญทอดผ้าป่าวัดป่ากัมมัฏฐาน ๑๓ วัด หรือร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธาได้ที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอแลนด์หรือบริจาคโอน เงินไปที่ชื่อบัญชี “ ผ้าป่า ๑๓ วัด ” ธนาคารไทยพานิชย์ สาขา แฟชั่นไอส์แลนด์ เลขที่บัญชีออมทรัพย์ ๑๗๑-๒-๓๗๗๐๐๘

ผู้ประสานงาน
๑.คุณกิตติ วิเศษศักดากร โทร.๐๘๑-๔๔๑๕๒๒๓
๒.รศ.มานพ ตันตระบัณฑิตย์ โทร.๐๘๙-๐๖๓๓๘๘๖
๓.คุณสิริภา ลิขิตศรัณย์ โทร.๐๒-๙๔๗๕๐๐๐

กำหนดการ
- เวลา ๐๖.๔๕ น.พระกัมมัฏฐานเดินทางมาถึงสถานที่จัดงาน
- เวลา ๐๗.๑๕ น.ร่วมตักบาตรพระกัมมัฏฐานจำนวน ๑๓ รูป และพระติดตาม ๘ รูป รวม ๒๑ รูป
- เวลา ๐๘.๐๐ น.ประธานจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัยพระภิกษุสงฆ์เจริญพุทธมนต์
- เวลา ๐๘.๓๐ น.ร่วมถวายภัตตาหารเช้า พระภิกษุสงฆ์ฉันภัตตาหารเช้า
- เวลา ๑๐.๐๐ น.ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี ถวายจตุปัจจัย เครื่องไทยทานแด่พระภิกษุสงฆ์และแสดงพระธรรมเทศนา

ในพิธีการครั้งนี้ คุณธนู หนูเปลี่ยน และคุณปราโมช ประสพสุขโชคมณี ได้มีส่วนร่วมจัดการเรื่องเจดีย์แก้วบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ ธาตุ ถวายแด่พ่อแม่ครูอาจารย์สายกัมมัฏฐานที่กราบนิมนต์มาในพิธีการครั้งนี้ เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดและพระมหาเจดีย์ทั้ง ๑๓ วัด

อนุโมทนา...สาธุ

เปลี่ยนขนาดเป็น 84% (was 840 x 597) - กดที่รูปภาพเพื่อขยายขนาด


ขอขอบคุณที่มา
http://www.baanruent...6&thread_id=730



"ส่ง เสริมเขาไป เดินทางก้าวไม่หยุด ก็ถึงจุดหมายได้" ล.ป.เลี่ยม ฐิตธัมโม วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี มอบให้ ณ ชมรมพุทธ ทีโอที ในมหามงคลวโรกาส ครบรอบ79-80พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ธันวาคม2549

"พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
"เมื่อ รู้แล้ว จักช่วยผู้อื่นรู้ด้วย เมื่อพ้นทุกข์แล้ว จักช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อข้ามโอฆะแล้ว จักช่วยผู้อื่นข้ามโอฆะด้วย"

"เมื่อได้พุทธภูมิ อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิ อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณด้วย"

ติดตามพระกรรมฐาน ปี ๒๕๕๒ เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม - ลานธรรมเสวนา - หน้า 9

 

ขออนุญาตคุณมุ่งเต็มใจแจ้งข่าวค่ะ ...

เปลี่ยนขนาดเป็น 100% (was 709 x 999) - กดที่รูปภาพเพื่อขยายขนาด

<!--cached-Tue, 15 Dec 2009 11:05:10 +0000-->
๑. ทุกสิ่งทีผ่านเข้ามาในชีวิต ให้ถือซะว่าเป็นแบบทดสอบจิตทดสอบใจ
ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป มันก็เท่านั้น ไม่มีอะไร

พระอาจารย์ครรชิต สุทธิจิตโต วัดป่าภูไม้ฮาว

**********************************************************************************

๒. สิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำไปแล้วในวันนี้นั้น นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก
เพราะข้าพเจ้าได้ยอมสละชีวิตในหนึ่งวัน เป็นค่าตอบแทนสิ่งเหล่านั้นไปแล้ว

คุณเล็ก วิริยะพันธุ์

ติดตามพระกรรมฐาน ปี ๒๕๕๒ เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม - ลานธรรมเสวนา - หน้า 9

 

กำหนดการมอบทองคำเข้าคลังหลวงครั้งที่ ๑๕ โดยหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน
วันเสาร์ที่ ๙ เดือนมกราคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๑.๐๐ น.

โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณวลัยลักษณ์ เสด็จเป็นองค์ประธาน

ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาค ได้หลายวิธีดังนี้
http://www.luangta.c...elp/contact.php

ที่มา : http://larndham.org/..._0&#entry678791


การโพสต์นี้ได้ถูกแก้ไขโดย saranyac: 15/12/2009 - 20:55
<!--cached-Tue, 15 Dec 2009 11:05:10 +0000-->
๑. ทุกสิ่งทีผ่านเข้ามาในชีวิต ให้ถือซะว่าเป็นแบบทดสอบจิตทดสอบใจ
ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป มันก็เท่านั้น ไม่มีอะไร

พระอาจารย์ครรชิต สุทธิจิตโต วัดป่าภูไม้ฮาว

**********************************************************************************

๒. สิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำไปแล้วในวันนี้นั้น นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก
เพราะข้าพเจ้าได้ยอมสละชีวิตในหนึ่งวัน เป็นค่าตอบแทนสิ่งเหล่านั้นไปแล้ว

คุณเล็ก วิริยะพันธุ์

ติดตามพระกรรมฐาน ปี ๒๕๕๒ เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม - ลานธรรมเสวนา - หน้า 9

 

วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร

ถนนพระราม4 ซอย.15 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330



วัด บรมนิวาสราชวรวิหารเป็นวัดโบราณ ท่านเจ้าของวัดเมื่อแรกเริ่มบูรณะปฏิสังขรณ์ได้ถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวขณะที่ทรงผนวชอยู่ ให้เป็นวัดข้าหลวงเดิม ( ผู้รับใช้สอยใกล้ชิดมาก่อนที่จะครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ) ดังความปรากฏในพระราชพงศาวดาร ของพระยาทิพากรวงศ์ ระบุว่า

“ วัด พระราชรินทรอาศน์สร้างไว้ค้างอยู่ ถวายเป็นวัดข้าหลวงเดิม โปรดให้ทำการเพิ่มเติมขึ้นอีกหลายสิ่ง และก่อพระเจดีย์องค์ใหญ่ไว้หลังพระอุโบสถพระราชทานชื่อว่า วัดบรมนิวาส ”

พระ บาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชประสงค์สถาปนาพระอารามนี้เพื่อ เป็นที่ประทับสำราญอิริยาบถครั้นถวายเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามว่า วัดบรมนิวาส การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ เมื่อทรงลาผนวชเสด็จเถลิงถวัลราชสมบัติใน พ.ศ.๒๓๙๔ จึงทรงจัดการก่อสร้างต่อมาจนแล้วเสร็จ

วัด บรมนิวาสในครั้งนั้นชื่อว่าวัดบรมสุข แต่เรียกว่าวัดนอก เช่นเดียวกับการเรียกวัดบวรนิเวศวิหาร ว่าวัดบน เดิมที่เรียกว่าวัดนอก คงเพราะตั้งอยู่บริเวณนอกกำแพง ส่วนที่เรียกวัดบวรนิเวศวิหารว่าวัดบนนั้นเป็นการเรียกให้เสมือนเป็นการ ประกาศให้ทราบว่าพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเทียบพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไว้ในฐานะกรมพระราชวังบวรสถานมงคล โดยเปรียบที่วัดบวรนิเวศเทียบได้กับบวรสถาน ส่วนที่เรียกว่าวัดบน ก็เสมือนวังบน ซึ่งหมายถึงพระราชวังบวรสถานมงคลเช่นกัน ดังปรากฏความที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงนิพนธ์ว่า

“ วัด นี้ชื่อว่าวัดบวรนิเวศ เทียบได้กับบวรสถานน่าจะได้พระราชทานในครั้งนี้เมื่อปีเถาะ จ.ศ. ๑๑๙๓ ( พ.ศ. ๒๓๗๔ ) ในหมายรับสั่งยังเรียกว่าวัดใหม่ ครั้นปีมะโรง จ.ศ ๑๒๐๖ ( พ.ศ. ๒๓๘๗ ) เรียกวัดบวรนิเวศ แล้วอีกอย่างหนึ่งโวหารสั้นเรียกว่าวัดบน เทียบกันได้กับวังบนฯ ”

วัดบรมนิวาสนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คงจะทรงมีพระราชประสงค์ให้คู่กันกับวัดบวรนิเวศวิหาร กล่าวคือ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นวัดของคณะสงฆ์ฝ่ายคามวาสีของธรรมยุติกนิกาย เป็นศูนย์กลางปริยัติธรรมของธรรมยุติ ส่วนวัดบรมนิวาสเป็นวัดคณะสงฆ์ฝ่ายอรัญวาสีของธรรมยุติกนิกาย และอีกนัยหนึ่ง กล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงปรึกษากับกรมสมเด็จพระปรมานุ ชิตฯ ถึงสถานะของทั้งสองพระองค์ หากสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตเสียก่อนโดยราชสมบัติและแผ่น ดินต้องตกอยู่กับเจ้านายบางพระองค์ เสถียรภาพแห่งความมั่นคงของพระองค์ทั้งคู่อาจจะตกอยู่ในภาวะเดือดร้อน ดังนั้นจึงทรงดำริร่วมกันในการจัดสร้างวัดเล็กๆ ให้ห่างไกลเมืองเพื่อว่าจะได้ใช้สำหรับเป็นที่หลบภัยในคราวจำเป็น กรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ จึงทรงสร้างวัดชิโนรสริมคลองมอญขึ้น ส่วนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาวัดบรมนิวาสขึ้นใหม่สำหรับ พระองค์เช่นกัน

ขอเชิญฆราวาสญาติโยมทุกท่าน ร่วมใส่บาตรทำบุญและฟังพระธรรมเทศนาพ่อแม่ครูอาจารย์สายกัมมัฏฐาน วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร ประจำปีพ.ศ.2552



ณ ศาลาสนิทวงศ์ - ชยางกูร ถนนพระราม 6 อุรุพงษ์ซอย 15 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 เริ่มตั้งแต่เวลา 7.00 - 12.00 น. จัดเป็นประจำทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน จะนิมนต์พ่อแม่ครูอาจารย์สายกรรมฐานมาประมาณ 15 รูป

ปฏิทินกำหนดการทำบุญใส่บาตรและฟังพระธรรมเทศนาพ่อแม่ครูอาจารย์สายกัมมัฏฐานตลอดปีพ.ศ.2552
1. วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ.2552
2. วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552
3. วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2552
4. วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ.2552
5. วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2552
6. วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2552
7. วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฏาคม พ.ศ.2552
8. วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2552
9. วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ.2552
10. วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2552
11. วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2552
12. วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2552


ขอขอบคุณที่มา
http://www.baanruent...6&thread_id=730

 

<table id="post2748968" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">Falkman<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2748968", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jul 2006
สถานที่: Falkland
ข้อความ: 5,938
พลังการให้คะแนน: 3718


</td> <td class="alt1" id="td_post_2748968" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->มาจากฟอร์เวิร์ดเมลล์<!-- google_ad_section_end -->

</center>
<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->อ่าานกี่ครั้งก็ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ไม่ว่าเวลาจะล่วงเลยมานานแค่ไหน
<table width="100%"> <tbody> <tr valign="top"> <td width="100%"> <table width="100%"> <tbody> <tr valign="top"> <td width="100%">ยายซุบ สามร้อยยอด เป็นหญิงชาวบ้านวัย 70 แห่งบ้านคุ้งโตนด อำเภอกุยบุรี จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ยากจนมาตังแต่ยังสาวจวบจนวันนี้ หากแต่เธอกลับยืนยันว่า เธอมีอดีตที่มีความหมายต่อชีวิตของแก อดีตที่หมายถึงชีวิตใหม่ ไม่ว่าแกจะยังจนต้องขอเงินลูก ๆ 9 คนใช้ดังเช่นทุกวันนี้หรือจะมั่งมีศรีสุข ถูกหวยรวยเบอร์อย่างไรก็ตาม แกไม่เคยลืมเหตุการณ์ครั้งนั้น เหตุการณ์ที่ล่วงเลยมานานกว่า 40 ปี การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฏรบ้านคุ้งโตนด อำเภอกุยบุรี ไม่เพียงทำให้หมู่บ้านที่ยากจน ล้าหลัง ไม่มีแม้ถนนที่จะติดต่อกับโลกภายนอก ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หากแต่การเสด็จพระราชดำเนินในครานั้นได้ทำให้หญิงคนหนึ่งมีชีวิตยืนยาวต่อมา จนถึงวันนี้
สมัยยังสาวยายเคยไปรับเสด็จในหลวงใช่ไหม ?

ยาย-ใช่ ตอนนั้นไปรับเสด็จที่ตีนถ้ำไทรในหมู่บ้านเรานี่แหละ ท่านเสด็จฯ มาทางเหนือ ไอ้เราป่วยเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องมาครึ่งเดือนแล้ว แต่ไม่รู้หรอกนะตอนนั้นว่าเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องนอนซม คนในบ้านบอกในหลวงจะมา เราก็อยากเห็น อยากไปรับเสด็จ แต่ปวดท้องจนเดินไม่ไหว
เดินไม่ไหว แล้วไปยังไง ?

ยาย-ก็ให้คนหามไป ใส่เกวียนไปเลย
ทำไมถึงเลือกไปเฝ้าในหลวง ไม่ไปหาหมอ ?

ยาย-ไม่ รู้สิ คืออยากเห็นตัวจริง ๆ ใกล้ ๆ นะ คิดในใจว่ายอมตายได้ แต่ขอไปรับเสด็จก่อน แลกตัวแลกชีวิตกันเลย พูดง่าย ๆ ว่าวัดดวงเอาเลย อีกอย่างตอนนั้นถ้าเราไปหาหมอก็ลำบาก เพราะน้ำแห้ง เรือเครื่องก็ไม่มี ถ้าไปก็คงไปไม่ถึง มันคงจะตายก่อน
แล้วตอนนั้นได้ถวายอะไรท่านบ้างไหม ?
ยาย-ยกมือพนมยังจะไม่ไหวเลย จะให้ถวายอะไรอีก (หัวเราะเสียงดัง)
แล้วได้เห็นท่านไหม ?

ยาย-ก็ ได้เห็นท่านอยู่ แต่ก็เห็นห่าง ๆ แล้วก็เห็นไม่นานเพราะว่าพระองค์ท่านต้องเสด็จฯ ไปที่ตีนเขาอีกลูกคนละฟาก ทรงไปดูเรื่องที่จะระเบิดเขาทำทางเข้าออกหมู่บ้าน
ไส้ติ่งเรากำลังจะแตก แล้วรอดมาได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้น ?

ยาย-ตอน นั้นไส้ติ่งกำลังจะแตก เงินสักบาทก็ไม่มีติดตัว พอดีว่าพระราชินีท่านทรงเยี่ยมเยียนราษฏร แล้วทอดพระเนตรเห็นเรานั่งหน้าซีด พิงเพื่อน คือได้ตอนนั้นมันไม่ไหวจริง ๆ ท่านทอดพระเนตรเห็นก็คงสังเกตได้ว่าอาการเราไม่ดี พระองค์ก็ถามว่า เป็นอะไร ? ท่านบอกให้พูดธรรมดาก็ได้ เราบอกว่าเจ็บท้อง พระองค์ท่านตรัสถามต่อว่า เจ็บมากี่วันแล้ว ? เราก็บอกว่า เจ็บมาครึ่งเดือนเห็นจะได้ ท่านก็เลยบอกให้หมอที่มาด้วยตรวจดู
แล้วหมอว่ายังไง ?

ยาย-หมอบอกว่าไส้ติ่งกำลังจะแตก พอหมอบอกอยางนั้น พระองค์ท่านก็ทรงติดต่อไปที่ในหลวงซึ่ง ทรงอยู่ที่ตีนเขาอีกลูก

รู้ได้ยังไงว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงติดต่อไปที่ในหลวง ?

ยาย-รู้สิ เพราะเห็นในหลวง พระองค์ท่านทรงวิ่งจากตีนเขาลูกโน้นมาเลย ห่างกันถึง 1 กิโล ( แค่นี้ก็ตื้นตันแทนคุณยายแล้ว)
รู้สึกอย่างไรบ้างในตอนนั้น ?

ยาย-ดีใจ แล้วก็ปลื้มใจแบบมาก ๆ ไอ้ตอนแรกคิดว่ากำลังจะตายนี่ คิดว่าตัวเองรอดแน่ มันมีกำลังใจ คิดว่าขนาดพระเจ้าแผ่นดินยังเอาใจใส่เราขนาดนี้ เราจะตายไม่ได้

พอในหลวงเสด็จมาถึง ทรงตรัสว่าอย่างไรหรือไม่ ?

ยาย-ท่านให้เอา ฮ. มารับ ท่านตรัสว่า เดี๋ยวเราจะกลับทางเรือเอง ให้เอาคนไข้ไปส่งก่อน พอ พระองค์ท่านตรัส หมอสองคนก็หิ้วปีกเราไป ในหลวงท่านทรงเมตตาเราไปจนถึงเครื่อง พอเราขึ้นไป ก่อนที่ประตู ฮ. จะปิด เราก็มองลงมาเห็นในหลวง ท่านทรงโบกพระหัตถ์ เราซาบซึ้งมาก ยิ่งบอกตัวของเราเลยว่าเราจะตายไม่ได้

ถ้าไม่มีในหลวงในวันนั้น ก็ต้องตายแน่ ?

ยาย-แน่ นอน ไม่ต้องอะไรหรอก หมอบอกว่า มาช้ากว่านี้แค่ 2-3 นาที ก็ไม่รอดแล้ว แล้ววันนั้นอย่างที่บอกว่าเรือเครื่องก็ไม่มี น้ำก็แห้ง ไม่รู้ใช้เวลาครึ่งวันจะเดินทางไปถึงโรงพยาบาลหรือเปล่า ถ้าในหลวงไม่เสด็จมาที่นี่ วันนั้นก็ตายแน่ ตายทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นอะไรตาย
เหมือนกับได้ชีวิตใหม่ ?

ยาย-ใช่ ชีวิตทุกวันนี้ถึงฉันแก่แล้ว แต่เมื่อนึกถึงวันนั้นทีไรรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ทุกที ตอนนั่งดูโทรทัศน์ เวลาเห็นท่าน เราก็จะพนมมือไหว้ตลอด รู้สึกว่าท่านได้มอบชีวิตใหม่ให้กับเรา
ตอนนั้นอยู่บน ฮ. เป็นอย่างไรบ้าง ?

ยาย-จำ ไม่ค่อยได้ รู้แต่ว่าพอบินขึ้นไปพักใหญ่หมอก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง เราพูดไม่ค่อยไหว แต่ก็บอกไปว่าปวดท้อง บน ฮ. นอกจากเรา ก็มีหมออีก 2 คน แ้วก็คนขับอีก 2 คน จำได้แค่นี้ล่ะ
ฮ. พาไปที่โรงพยาบาลไหน ?

ยาย-โรงพยาบาลพระมงกุฏฯ เพชรบุรี
แล้วพักอยู่กี่วัน ?

ยาย-ปกติ คนเป็นไส้ติ่งทั่วไปเขาพักกัน 3-4 วันก็ออกได้แล้ว แต่เราเป็นหนักต้องพักถึง 24 วัน ถ้าในหลวงไม่ช่วยก็ตายแน่ แล้วถ้าเราตาย ลูกเต้าก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง ในหลวงท่านทรงเมตตา ทรงดูแลเราอย่างดี ห้องที่เราพักอยู่นี่ดีมาก เป็นห้องพิเศษเลย พูดตรง ๆ ว่า ดีกว่าบ้านที่ฉันอยู่อีก หมอก็นิสัยดี พูดจากับเราเพราะแล้วก็ใจดี

** ในหลวงท่านทรงห่วงใยเรามากมีคนมาเยี่ยม ถามอาการ ถามสารทุกข์สุขดิบทุกวัน คนใกล้ชิดพระองค์ท่านก็ถามเรานะว่า จะฝากอะไรถึงท่านไหม เราบอกให้ พระองค์ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ พูดได้แค่นั้น มันตื้นตันจนนึกไม่ออก**

หลังจากวันนั้นแล้วเป็นอย่างไร ?

ยาย-ไม่ มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่านอีกเลย ถ้าเรามีโอกาส จะขอเข้าไปกราบแทบพระบาทเลย สิ่งที่พระองค์ท่านทรงช่วยเหลือเราไว้ เป็นความซาบซึ้งที่สุดในชีวิตแล้ว

** คิดูสิโลกนี้จะหากษัตริย์อย่างท่านได้ที่ไหน เราเป็นแค่ชาวบ้านจน ๆ แต่ ท่านห่วงเราเหมือนเราเป็นลูกพระองค์ท่าน ทรงห่วงเราเหมือนที่เราห่วงลูก ท่านทรงเสียสละแม้กระทั่งของส่วนพระองค์ ทรงยอมลำบากกลับทางเรือเพื่อคนอย่างเรา พูดตรง ๆ ว่าสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้ฉันตายแล้วเกิดใหม่อีกสิบชาติก็ทดแทนไม่หมด**
กลับมาบ้านแล้ว เป็นอย่างไร ?

ยาย-ตอน ที่ออกจากโรงพยาบาลใหม่ ๆ พระองค์ท่านก็ส่งเงินมาให้อยู่ถึง 1 ปี ครั้งละ 3-5 พันบาท ส่งมาหลายครั้งอยู่ เรารู้เพระว่าใส่ซองสีขาวประทับตราสำนักพระราชวัง จากเหตุการณ์นั้นทำให้เรารักในหลวงของเรามาก

แล้วทุกวันนี้ก็ ยังน้อยใจตัวเองอยู่ว่า เวลาที่ท่านป่วย เราก็ไม่มีเงินไปเฝ้า ไปแสดงความจงรักภักดีกับท่าน ได้แต่ร้องไห้อยู่กับบ้าน นั่งร้องไห้ทุกวัน ดูข่าวทุกวัันไม่เคยเว้นเลย ** ฉันอายตัวเองว่า ในขณะที่ท่านให้ชีวิตใหม่กับเรา แต่เราช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย**

การเสียสละของในหลวงคราวนั้น ได้เอามาปฏิบัติตามหรือไม่ ?

ยาย-มี ส่วนมากเลย เวลาคนในหมู่บ้านเขาป่วยเป็นอะไร ฉันก็ไปเยี่ยมเขาทั่ว ไปไหนไปกัน มีใครเจ็บในหมู่บ้านนี่ฉันจะไปเยี่ยมหมด บางทีถึงไม่ใช่หมอ ไม่ใช่ญาติเขา แต่เราก็ไป ไปนั่งพูดคุยให้กำลังใจ บางทีก็ไปบีบให้นวดให้ นี่คือสิ่งที่ในหลวงให้เรา และเราให้คนอื่นต่อ

** เมืองไทยเราโชคดีที่มีในหลวง โชคดีมาก ๆ ไม่มีกษัตริย์ที่ไหนในโลกอีกแล้วที่จะเป็นห่วงชาวบ้านอยางฉันเท่ากับท่าน คนอยางเราเปรียบไปก็เหมือนมดปลวก แต่ท่านก็ยังใส่ใจ ท่านใส่ใจจริง ๆ เหมือนกับว่าคนไทย คือ ลูกของท่านทั้งแผ่นดิน**
</td></tr></tbody></table>
</td></tr></tbody></table>

เรื่องดีที่ควรส่งต่อ...<!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->

มี "สติ" รู้กาย รู้ใจ อย่างเนืองๆ​

"1784" ศูนย์บรรเทาภัยภิบัติ กระทรวงมหาดไทย
</td></tr></tbody> </table>
http://palungjit.org/threads/ร่วมกั...องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.216806/page-14

 

วันที่ 25 มีเททองหล่อพระ ที่สนามหลวง ถวายในหลวงด้วย




พระโสภณธรรมวงศ์ (วศก ปญญาอกฺโข) วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมพิธีเททองหล่อ "พระพุทธอสีติวัสสามหาบพิตร" (สมเด็จพระร่วงเจ้า) ประจำพระชนมวารน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระรชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขนาดสูง 32 เมตร กว้าง 8.9 เมตร 9ส่วน 9วาระ ตามโครงการเฉลิมพระเกียรติ"สร้างพระถวายเจ้าพ่อหลวงของแผ่นดิน" (มติมหาเถรสมาคม)


ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 25-27/12/52 เวลา 09.00 น.,เวลา 17.00 น.,เวลา 19.00 น.



พิธีนี้เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมจารึก ชื่อ-นามสกุล วัน เดือน ปี เกิด ลงในแผ่นเงิน แผ่นทอง เพื่อร่วมหล่อพระเป็นมหากุศลโดยทั่วกัน



ขอรับแผ่นเงิน แผ่นทอง ได้ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง และร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ สอบถามโทร.0-2711-7600 (ตลอด 24 ชม.) หรือในวันงาน ณ ท้องสนามหลวง สอบถามโทร.0-2282-3173,0-2282-2921,0-2628-7360 หรือที่


http://palungjit.org/threads/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%97-%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8.205692/page-119

 

ได้ไปทำบุญที่ สำนักสงฆ์ กม.27 แถวซอยพหลโยธิน64 สองวัน มีโรงทานด้วย อาหารและน้ำปานะ กล่องตั้งรับบริจาค แจกภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ค่ำวันเสาร์19ธันวาได้ทันฟังหลวงปู่ท่อนท่านให้พร ครูบาอาจารญ์หลวงปู่หลอด นาถกโร เทศน์ ถวายพระเครื่องครูบาอาจารย์รูปต่างๆ ได้ไหว้เคารพ หลวงปู่เจริญ วัดถ้ำปากเปียง หลวงปู่สรวง ฯลฯ
ตอนเช้าวันอาทิตย์20ธันวาคม ได้ทำบุญอีกรอบ ครูบาอาจารย์ท่านเทศน์ ได้กราบเท้าหลวงปู่บุญเพ็ง ท่านนั่งรถเข็นออกมานั่งรอพาหนะหน้าสำนักสงฆ์สงบเย็นเป็นที่น่าเคารพกราบ ไหว้อย่างยิ่งครับ
ถวายพระเครื่องพระพุทธรูปครูบาอาจารย์ รูปหนึ่งท่านจะนำไปแจกแถวนราธิวาสที่ท่านดูแลอยู่
หลวงปู่บุญเพ็ง หลวงปู่อุทัย พระอาจารย์ประสงค์ พระอาจารย์ตุ๊ พระอาจารย์ป๊อก ฯลฯ อธิษฐานจิตพระเครื่องฯลฯ
ผมก็ได้ตั้งสัจจาธิษฐานปรารถนาพุทธภูมิไปตามลำดับ ในการบุญครั้งนี้
ได้พาอาจารย์ยุวดี ไปแจกแผ่นประกาศงานซอยจรัญ57เดือนกุมภาพันธ์ด้วยกับคุณ oreo1234 หลายที่

เช้าวันอาทิตย์คุณปูโทรมาสวัสดีอนุโมทนาด้วยครับ ไม่ว่าคุณปูจะอยู่อเมริกาหรือที่ไหนก็ขออนุโมทนาสาธุในการบุญกุศลด้วยครับ

พระอาจารย์อุทัยพูดคุยหลายเรื่อง ผมก็มาสรุปในส่วนของผมว่า ให้รัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กันครับ
ท่านสอนเน้นหลายครั้ง พอจะมาสรุปตามปัญญาจำกัดของผมว่า
ให้รู้สึกสัมผัสภาษาใจให้ดี ตีความถอดรหัสให้ได้

 

เสาร์อาทิตย์ได้ถวายพระพุทธรูป หนังสือธรรมะแก้วสารพัดนึก ฯลฯ
วันเสาร์
ไปทำบุญพระกรรมฐานองค์การเภสัช พระท่านเทศน์ข้อธรรมดีๆ
หล่อพระร่วงองค์ใหญ่ที่สนามหลวง
วันอาทิตย์ไปไหว้พระเก้าวัด
ได้คาถาบูชาและเรื่องราวพระกริ่งมากมาย
ได้สร้างวัดกับท่านเจ้าคุณที่วัดบวรนิเวศน์ทำบุญสารพัดบุญถวายหนังสือธรรมะและแก้วสารพัดนึก
ได้เห็นไม้เท้าพระราหุลอายุมากกว่า2500ปี กระดานชนวนสมเด็จพระสังฆราชสุก
แจกจ่ายผ้ายันตร์สมเด็จพระนเรศวร มีภาษาล้านนาด้วยครับ
ไปรับพระกริ่ง5พันองค์มาภาวนา
เช้าวันรุ่งขึ้นหลวงปู่บัณฑิตโทรมาคุยพอดีหลังตื่นจากฝันดีเกี่ยวกับพระ กริ่ง แต่ยังขาดเงินบริจาคอีกเยอะเลยครับ ใครสนใจมาร่วมบุญด้วยก็เชิญครับ มีแผนแจกพระกริ่งพุทธภูมิกรรมการ(ผสมผงแร่บางไผ่ เหล็กน้ำพี้ ชนวนพระโลหะนานาชนิด) สำหรับผู้ร่วมบริจาคสร้างพระกริ่งพุทธภูมิในโครงการ5ร้อยบาท

 

เสาร์อาทิตย์26-27ธันวา ทำบุญสารพัดบุญได้ถวายพระพุทธรูป หนังสือธรรมะ แก้วสารพัดนึก ฯลฯ
วันเสาร์
ไปทำบุญพระกรรมฐานองค์การเภสัช พระท่านเทศน์ข้อธรรมดีๆ พระอาจารย์สวาทท่านเทศน์เรื่อง นโม น้ำและดิน พอเทศน์เสร็จนำพระพุทธรูปดินเผาจะไปถวายพอดีบังเอิญท่านเจ้าภาพ ท่านมอบให้ผมเป็นผู้ประเคนถวายน้ำเย็นด้วย ผมเลยเรียนท่านว่าได้ถวายน้ำและดินกับท่าน(พอดีด้วย)รู้สึกว่าท่านกรุณาผม มากครับ และหลวงพ่อวิชัย เขมิโย ท่านก็ได้เทศน์ต่อมา เป็นงานที่ใหญ่มากอีกงานหลวงปู่ครูบาอาจารย์ท่านมาประมาณไม่ต่ำกว่า50รูป ครับ
ทางท่านเจ้าภาพไม่คาดคิดว่าผู้คนจะมามากขนาดนี้ คงเป็นเพราะตรงกับวันหยุดครับ (แบงก์ย่อยที่เตรียมแลกไว้เป็นแสนไม่พอแลกครับ ต้องนับเก็บยอดแล้วนำมาแลกแบงก์อีกครับ)
ไปหล่อพระร่วงองค์ใหญ่ที่สนามหลวงต่อครับ

วันอาทิตย์ไปไหว้พระเก้าวัดเกาะรัตนโกสินทร์ ทำบุญสารพัดบุญถวายหนังสือธรรมะและแก้วสารพัดนึก
ได้คาถาบูชาและเรื่องราวพระกริ่งมากมาย
พอดีได้สร้างวัด(วิหารทาน)กับท่านเจ้าคุณรูปหนึ่งที่วัดบวรนิเวศน์ด้วยแก้ว สารพัดนึกครับ ท่านเป็นผู้แทนองค์สมเด็จพระสังฆราชมอบพระบรมสารีริกธาตุให้อัญเชิญไปบรรจุ ยังพระพุทธโสธรหน้าตัก50นิ้วที่คณะผมดำเนินการหล่อประมาณปี2546ครับ ท่านคงจะจำผมไม่ได้ ในอุโบสถซึ่งงานบวชพึ่งเสร็จครับ สาธุๆๆ อิ่มภูมิใจมากครับ รู้สึกว่าท่านพลิกแพลงลูกแก้วเล็กๆลูกเดียวได้ด้วยปัญญาปฏิภาณไหวพริบที่ดี มากครับ(อาจจะกลายเป็น5ล้านบาทและอื่นๆครับ ) ธรรมบันเทิงมากครับ

ได้ถวายมุทิตาพระอาจารย์วีระ คณะ5 วัดราชสิทธาราม

แจกจ่ายผ้ายันตร์สมเด็จพระนเรศวรฯ มีภาษาล้านนาด้วยครับ
ไปรับพระกริ่ง5พันองค์มาภาวนา รู้สึกว่าดีมากครับ
เช้าวันรุ่งขึ้นหลวงปู่บัณฑิต วัดพระธาตุศรีสามรักษ์โทรมาคุยพอดีหลังตื่นจากฝันดีเกี่ยวกับพระกริ่งพุทธ ภูมิพระราชทานข้าราชการทหารตำรวจชายแดนใต้ครับ แต่ยังขาดเงินบริจาคอีกเยอะเลยครับ ใครสนใจมาร่วมบุญด้วยก็เชิญครับ มีแผนแจกพระกริ่งพุทธภูมิกรรมการ(ผสมผงแร่บางไผ่ เหล็กน้ำพี้ ชนวนพระโลหะนานาชนิด) สำหรับผู้ร่วมบริจาคสร้างพระกริ่งพุทธภูมิติดต่อหลังไมค์ได้ครับ
ได้เห็นไม้เท้าพระราหุลอายุมากกว่า2500ปี กระดานชนวนสมเด็จพระสังฆราชสุก ฯลฯ

ขอเชิญอนุโมทนาบุญกุศลบารมีกันนะครับ
ขอให้เป็นสรรพพลวปัจจัยให้งานสร้างพระกริ่งพุทธภูมิและพระกริ่งแม่สอนลูก บำเพ็ญบารมีในพระพุทธศาสนาและสรรพชีวิตสำเร็จเรียบร้อยโดยดีงามด้วยเทอญ

 

สืบชะตาฯ..สวดมนต์ข้ามปีเสริมมงคล..ถวายในหลวง

http://palungjit.org/threads/%E0%B8...87.220132/

กาลแห่งช่วงเวลา....ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ทุกคนต่าง มุ่งหวังให้อยู่ในห้วงแห่งมงคล เพื่อให้กระแสของสิ่งที่ดีงามไหลเข้ามาแทรกคลื่นแห่งชีวิต เพื่อสร้างพลังอำนาจวาสนาให้อยู่เย็นเป็นสุขตามศรัทธาและเลื่อมใส....ส่วนจะ เป็นวิธีหรือพิธีกรรมใดนั้น ขึ้นอยู่กับ ความเชื่อและประเพณีนิยม

วัดป่าเจริญราช เลขที่ 12/19 คลอง 11 ตำบลบึงทองหลาง อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ก็เป็นหนึ่งในศรัทธา จึงได้จัดพิธีกรรมทางศาสนา สวดมนต์ข้ามปี และ สืบชะตาหลวง...ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

O O O



พระครูปลัดวีระนนท์ วีรนันโท เจ้าอาวาส ได้จัดกิจกรรมครั้งนี้ถือว่าเป็นพิเศษ โดยมี สงฆ์ระดับราชาคณะ และเป็นกรรมการมหาเถรสมาคมหลายรูปร่วม เจริญพระพุทธมนต์พระปริตรถวายฯ อาทิ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (วัดปากน้ำ) สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วัดสัมพันธวงศาราม) สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม) สมเด็จพระวันรัต (วัดบวรนิเวศวิหาร) ฯลฯ...ในช่วงส่งท้ายปี

พอเริ่มศักราชใหม่ 00.00 น. ก็เข้าสู่การสืบชะตาหลวง อันเป็นประเพณีของล้านนาที่สืบสานกันอย่างยาวนาน มีการสวดสะเดาะเคราะห์ 12 ราศี

เชื่อว่า เป็นการต่ออายุ ขจัดภัยอันตรายต่างๆที่จะเกิดขึ้น ให้กลับ ได้รับพลังในทางที่ดี ส่งผลให้ ทั้งบ้านเมือง และ ผู้ที่เข้าร่วมในพิธีให้มีชีวิตที่ยืนยาว ด้วยความขลังในพลังดั่งที่อีสานเรียกพิธีกรรมแบบเดียวกันว่า พลิกชะตา

หลังเสร็จพิธีจะ ปล่อยประทีปโคมลอย เปิดฟ้าคืนวันรุ่งปีใหม่ให้สว่างไสว จากนั้นจะร่วมกัน สวดส่งนพเคราะห์ จนถึงสว่าง แล้วทำวัตรเช้า ตักบาตรและ ถวายผ้าป่ามหากุศล



O O O

วัดป่าเจริญราช ก่อหวอดเป็น ศาสนสถาน ขึ้นเมื่อปี 2544 เนื่องด้วย พระครูฯวีระนนท์ เดินทางพา หลวงปู่พิมพา สงฆ์สายหลวงปู่มั่น ซึ่งอาพาธมารักษาตัวในกรุงเทพฯ ตอนนั้นได้ไปขอจำวัดเพื่อรอหลายแห่งปฏิเสธ เลยต้องนั่งเฝ้าไข้จนสว่าง

จึงเกิดแนวคิดอยาก สร้างสถานที่ เพื่อให้สงฆ์ ซึ่งไม่มีญาติเดินทางมาได้มีที่พัก และได้อธิษฐานจิตว่า หากตนเองมีบารมีพอขอให้ความปรารถนาบรรลุเถิด แล้วแสงสว่างแห่ง ความสำเร็จก็ฉายแสง คหบดี ท่านหนึ่ง (ต่างศาสนา) ได้บริจาคที่ดินโครงการเกษียณเกษตร อำเภอลำลูกกา ให้ 2 ไร่

ระยะเริ่มต้นก็ได้เพียงแค่ปรับพื้นที่ ขุดบ่อน้ำ ปลูก ต้นไม้ (ไม่มีไฟฟ้า) เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมชั่วคราว ชื่อ ธรรมสถานวิมลธรรม ก็มีผู้สนใจเข้ามาปฏิบัติธรรมมากพอสมควร และ ได้รับอนุญาตให้เป็นที่พักสงฆ์ อย่างถูกต้องจากเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี

O O O



ธรรมสถานวิมลธรรม ได้รับทุนโดยพระกรุณาธิคุณจาก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า สิริภาจุฑาภรณ์ พร้อมด้วยพระสหายมาถวายผ้าป่าสมทบทุน ในการปรับปรุงศาลาปฏิบัติธรรม และ ใช้เป็นทุนนำร่องในการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล...เป็น มูลนิธิวิมลธรรม

จากนั้นจึงได้ขยับขึ้นเป็น สำนักสงฆ์ ต่อมาในปี 2551 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ประกาศให้เป็น วัดป่าเจริญราช พร้อมทั้งแต่งตั้งพระครูฯวีระนนท์ เป็นเจ้าอาวาสในปีเดียวกัน

ปัจจุบันวัดป่าเจริญราชได้เสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับศาสนาให้กับญาติธรรม เป็นกิจสม่ำเสมอ มีผู้เข้าปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็น คนไทย และ คนต่างชาติ รวมแล้ว ปีหนึ่งไม่น้อยกว่า 15,000 คน

O O O

เพื่อให้สมบูรณ์ในศาสนสถาน จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างโบสถ์ โดยเป็นแบบ อีสานโบราณ เพื่อให้เกิดความงามจากรูปทรงและรูปอากาศ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า สิมโปร่ง (อุโบสถไม่มีฝาผนัง) ไม่มีการปิดกั้นทั้งผู้ที่อยู่ในและนอกพระอุโบสถ.....เปิดโล่งตลอด 24 ชั่วโมง

...พระครูฯวีระนนท์ ก็ได้ออกติดตามเพื่อหาซื้อไม้แทบทั่วทุกทิศตามประสงค์ เพื่อให้ได้ไม้ชนิดเดียวกันทั้งหลัง โดยการยึดเหนี่ยวด้วยสลักเดือย (ไม่ใช้ตะปู)

ในบ้านเรามีไม้สัก แต่ก็ราคาแพง และ หายากมาก จึงได้ข้ามฝั่งแม่น้ำโขงไปหา ไม้ตะเคียนหิน ตามลุ่มแม่น้ำงึม ประเทศลาว ก็ไม่ได้อีกเช่นกัน จนแทบจะหมดหวัง บังเอิญไปพบกับพ่อค้าไม้ชัก ชวนไปที่วังเวียง ทางตอนเหนือของลาว มีไม้ชนิดหนึ่งลาวเรียก เกล็ดลิ้น ก็ถูกใจ แต่เขากำลังจะส่งมอบให้กับญี่ปุ่น ด้วยซื้อขายจ่ายเงินกันแล้ว จึงผิดหวังอีกเช่นเคย เลยเดินทางกลับไทย

O O O

แล้ว พระเจ้าก็เข้าข้าง....หลังจากนั้นประมาณเดือนกว่าๆ กลุ่มพ่อค้าที่ลาวก็ติดต่อมาว่าจะเอาไม้จำนวนนั้นหรือไม่ ด้วยถูกทางราชการลาวงดและสั่งห้าม ไม่สามารถส่งไปญี่ปุ่นได้...

...ก็เลย OK....ได้ไม้มาสร้างพระอุโบสถได้อย่างสมใจ (แต่ก็ยังขาดทุนทรัพย์ที่ซื้อ จึงขอต๊ะไว้ก่อน)

และ....เมื่อขนท่อนซุงใช้รถพ่วง ขณะผ่านด่านเจ้าหน้าที่ได้เปิดทางฉลุย แถมยังตามมาถาม พระครูฯวีระนนท์ ว่า.....พระอาจารย์จะพานางรำไปแสดงที่ไหนมากันเต็มรถ ซึ่งท่านไม่ได้ตอบอะไร เพราะ ความรู้สึกกับสัมผัสตอนนั้นแต่ละท่านอาจไม่ตรงกัน...!!!

O O O

การสร้างพระอุโบสถก็ค่อยเป็นค่อยไป ด้วยไม่มีทุนทรัพย์ที่มากมาย ช่วงนั้นได้ สร้างพระสิวลี เพื่อหาทุน โดยทำทีเดียว 3 ปางเลยคือ ปางอิทธิฤทธิ์ เดินธุดงค์และจกบาตร จ่ายแจกกันไป โดยไม่กำหนดราคาค่างวดแต่อย่างใด ค่อยได้ปัจจัยกลับมาจ่ายค่าไม้ ที่ยังคั่งค้าง

ซึ่ง...ก็เหมือนกับว่าได้โชคทับซ้อน ใน ตอนที่เททองหล่อก็เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่ใครๆเห็นก็ว่าปาฏิหาริย์ คนจึงแย่งกันมาเช่า

แถมมี รายหนึ่งที่ค้าขายขาดทุน จนไม่มีเงินจะเช่า ไปขอ พระครูฯ ก็ให้ตามที่อยากได้ แล้วก็ไป เจอลาภลอยถูกรางวัลเข้าได้เงินไปใช้หนี้ จนหมดภาระ จากทาสเป็นไท มันเลยเป็นข่าวฮือฮา...ให้ฟังหูไว้หู ถ้ายังไม่ได้พิสูจน์อย่าเชื่อ จนเกินร้อย...!!!

ก้อง กังฟูสืบชะตาฯ..สวดมนต์ข้ามปีเสริมมงคล..ถวายในหลวง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ขอเชิญร่วมงานประเพณีวันขึ้นปีใหม่
วันศุกร์ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๓ ณ บริเวณลานองค์พระประธานพุทธมณฑล
เวลา ๐๗.๓๐ น. ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน ๑๐๐ รูป
เวลา ๐๘.๒๐ น. ร่วมพิธีถวายสังฆทานพระสงฆ์ ๙ รูป ณ ศาลาบำเพ็ญกุศล ด้านซ้ายองค์พระฯ
ติดต่อสอบถาม โทร ๐๒ ๔๔๑๙๐๑๓ , ๐๒ ๔๔๑๐๙๐๒

ตักบาตรพระ100รูปในวันปีใหม่ที่พุทธมณฑล - ลานธรรมเสวนา

 

http://palungjit.org/threads/ติดตามกิจกรรมพระกรรมฐาน.69773/page-11

http://larndham.org/index.php?/topic...9&#entry682489

เนื่องในโอกาสทำบุญสถานที่รับ-ส่งมรดกธรรมพระโพธิญาณเถร(หลวงปู่ชา สุภทฺโท)
ซอยลาดพร้าว 58

ขอเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมสวดมนต์ทำวัตรเย็น
ในวันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ.2553 เวลา 19.00 น.

และถวายภัตตาหารพระเถระจากวัดหนองป่าพงและวัดสาขา
ในวันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ.2553 เวลา 8.30 น.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่
โทร. 02-933-7995 - 6

 

​

 

รวมพลเทอดไท สมเด็จพระนเรสวรราชาธิราชเจ้า มหาราชจอมราชันย์ แห่งสยามประเทศ - หน้า 141 - PaLungJit.com

วันนี้วันพระคงมีคนทำบุญรักษาศีลเจริญพระพุทธมนตร์ภาวนากันเยอะก็ขออนุโมทนาด้วยครับ

งานตรียัมปวายโล้ชิงช้าเพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่5-6มกราคม มาเล่าเรื่องเสาชิงช้าด้วยคน
มีอยู่ปีหนึ่ง ผมไปงานตรียัมปวายโล้ชิงช้าที่โบสถ์พราหมณ์ ผมก็รู้สึกสนใจ และคิดว่าเป็นงานที่ดี และเกิดความคิดขึ้นมาว่าเป็นอีกงานมงคลหนึ่งที่ทำให้ประเทศชาติอยู่เย็นเป็น สุข ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ พอถึงปลายพิธี ไม่รู้อะไรทำให้ผมคิดว่าจะมีการโล้ชิงช้าจริงๆ ที่เสาชิงช้าจริงๆหน้าวัดสุทัศน์ แล้วผมก็ดันหลุดปากบอกกับท่านพราหมณ์ท่านหนึ่ง (แต่คงไม่ใช่ระดับครูบาอาจารย์) ท่านก็ทำสีหน้าแปลกๆคล้ายๆขำ แล้วไม่เชื่อ(ก็ทำไมจะไม่เล่าครับ เพราะว่าเขาไม่มีการโล้ชิงช้าข้างนอกมานานมากแล้วหลายสิบปีแล้วจะถึงร้อยปี หรือเปล่าก็ไม่ทราบ ท่านผู้รู้ช่วยหาข้อมูลมาบอกด้วยก็จะดีมากเลยครับ)ไม่ทราบว่าท่านจะคิดว่าผม เป็นคนอย่างไรก็ไม่ทราบครับ แต่ผมก็ยังรู้สึกมั่นใจของผม(ยังไงก็ไม่รู้ครับ)เองต่อไป

ปรากฏว่าประมาณปีนั้น มีการส่งเสริมการท่องเที่ยว แล้วก็มีการโล้ชิงช้าขึ้นจริงๆอย่างน่าแปลกใจครับ แต่ผมไม่ได้ไปร่วมงาน เพราะติดภารกิจอะไรจำไม่ได้ครับ
ปีถัดไปผมไปร่วมงานตรียัมปวายโล้ชิงช้าอีก ท่านพราหมณ์ ท่านนั้นจำผมได้ด้วยครับ แล้วเรียกผมว่า น้าหรือคุณพี่นี่แหละครับ และทึ่งผมมากครับ

 

สาธุ ดีใจครับ ที่ผมมีส่วนในการอันเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมของกระทู้นี้ไม่มากก็น้อย

อยากไปดู ไปมีส่วน กับหนังสมเด็จพระนเรศวรด้วยครับ สนุกดี บางทีดูแล้วขนลุกขนพอง(เช่น ตอนที่มีการกล่าวถึงการบ่มบารมี) พ่อผมเคยเป็นผู้กำกับฝ่ายศิลป์ของละโว้ภาพยนตร์ รู้สึกว่าคุณกบเซอร์เคยบอกว่ามีแค่2คนเท่านั้น คือท่านกูฏ อาจารย์ไพบูลย์ สุวรรณกูฏ และ อาจารย์อุไร ศิริสมบัติ ตอนไปดูโรงถ่ายที่กาญจนบุรี ทำให้คิดถึงว่าสมัยก่อนพ่อผมคงได้ทำงานในลักษณะนี้มาก่อน น่าภาคภูมิใจ ตอนนี้ก็มีอาจารย์สมถวิล สุวรรณกูฏ ญาติอีกท่านหนึ่งครับ ที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับท่านเป็นระยะ

คล้ายๆว่าท่านมุ้ย ท่านจำพ่อผมได้ครับ ตอนไปงานสวดอภิธรรมศพงานหนึ่ง ท่านมุ้ย ท่านให้เกียรติคุณแม่ผมเป็นประธานจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัยครับ ท่านมุ้ย ตอนงานเปิดตัว สมเด็จพระนเรศวร ไปขอลายเซนต์ท่านท่ามกลางหมู่นักข่าว คล้ายๆท่านแสดงว่าท่านจำผมได้แต่ผมไม่ค่อยแน่ใจครับ แล้วก็ไม่อยากไปกวนท่านกำลังทำงานอยู่ครับ การได้ไปงานเปิดตัวที่กระทรวงวัฒนธรรมจัดขึ้นในวันนั้นคงเป็นธรรมและโชคจัด สรรอย่างยิ่งครับ