คำสอนหลวงพ่อจรัญ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย สันโดษ, 10 ธันวาคม 2008.

  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <TABLE cellPadding=15 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD class=white borderColor=#ffffcc align=middle width="88%" bgColor=#ffff99 height=125 rowSpan=3>สาเหตุที่นั่งกรรมฐานไม่ได้

    คนไหนมีศรัทธา แต่ทำยังไม่ได้ มันเป็นกฎแห่งกรรมหรือไม่ ทำไมทำไม่ได้ สภาพชีวิตเป็นอย่างไร สอบอารมณ์แล้วจะรู้เลยว่า คนนี้มีกรรม เคยด่าพ่อ ด่าแม่มา จะได้จับจุดให้ไปอโหสิกรรมกับพ่อแม่ เจริญกรรมฐานต่อไปจะรุ่งโรจน์แน่
    บางคนด่าสามีทุกวัน มานั่งกรรมฐานไม่ได้เลยนะ บางคนลักสตางค์ของสามีมาทำบุญ มานั่งกรรมฐานก็ไม่ได้ โยมผู้ชายลักสตางค์ของภรรยาใหญ่ ไปให้ภรรยาน้อย รับรองนั่งกรรมฐานไม่ได้เลย
    </TD></TR><TR></TR><TR></TR><TR><TD class=white borderColor=#ffffcc align=middle width="88%" bgColor=#ffff99 height=126>
    เมื่อ ๓๐ ปีมาแล้ว มีอยู่คนหนึ่ง ทำอย่างไรก็ไม่ได้ กำหนดพองหนอ ยุบหนอ เป็นลมไปเลย เดินกำหนด ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ เป็นลมล้มลงไปเลย อายุแค่ ๔๐ ปีเท่านั้น อาตมาสอบอารมณ์ดู ได้ความว่า โยมคนนี้มีอกุศลกรรม มีโทสจริตติดอยู่ในหัวใจ
    อาตมาถามว่า
     
  2. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <TABLE cellPadding=15 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD class=white borderColor=#ffffcc align=middle width="88%" bgColor=#ffff99 height=125 rowSpan=3>ดูว่าทำได้หรือทำไม่ได้

    อาจารย์จูรี่ ยืนหนอ ๕ ครั้ง พอสติอยู่กับจิต เห็นตัวเองเป็นโครงกระดูก กำหนดยืนหนอ กลับไปกลับมาอีกเห็นหนอนกินเนื้อหนังหลุดหมดในตัวของเขาเอง อย่างนี้เรียกว่ากายทิพยอำนาจอยู่ในจิต มองเห็นร่างกายของตัวเองเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นี่เป็นวิปัสสนา ขันธ์ห้า รูปนาม เป็นอารมณ์ เมื่อทำได้เกิดเทพเจ้ามารำอวยพร บอกลักษณะการแต่งกายได้ถูกต้อง ฝรั่งไม่เคยรู้ ก็รู้ได้ บอกได้ ถ้าคนไหนทำได้เข้าขั้น ๖๐ เปอร์เซ็นต์ เทพเทวดาที่อารักขาจะมาอวยพร และจะรู้กฎแห่งกรรมในระยะต่อมา
    อาจารย์จูรี่ระลึกกฎแห่งกรรมได้ที่วัดนี้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เขาลืมไปแล้วเมื่อสมัยอายุยังไม่ถึง ๕๐ ปี ได้เดินทางท่องเที่ยวไปคนเดียว ที่ประเทศเลบานอน เขาถูกชาวเลบานอนคนหนึ่งจี้จะข่มขืน แต่เขามีสติบอกว่า “ข้าพเจ้ายอมตาย ยินดีรับใช้กรรม ถ้าท่านกับเรามีเวรกรรมมาแต่ชาติปางก่อน ขอให้ท่านฆ่าข้าพเจ้าก่อน จะข่มขืนข้าพเจ้าไม่เป็นไร ขอให้ข้าพเจ้าตายก่อน ถ้าข้าพเจ้ายังไม่ตาย ข้าพเจ้าจะไม่ยอม เป็นตายร้ายดีต้องสู้กัน” แล้วแผ่เมตตาให้ ชาวเลบานอนคนนั้นวางปืน ยกมือไหว้ ขอจับมือและขอขมา พาไปปฏิญาณต่อพระเยซูในโบสถ์
    </TD></TR><TR></TR><TR></TR><TR><TD class=white borderColor=#ffffcc align=middle width="88%" bgColor=#ffff99 height=126>ยืนหนอ ๕ ครั้งเท่านั้น สามารถรู้กฎแห่งกรรมได้ เป็นการทบทวนชีวิต โยมรู้ตัวของโยมเอง หลับตาเห็นตัวเอง ลืมตาเห็นข้างนอก เห็นหนอ… ปลายเท้าถึงศีรษะ จากศีรษะลงปลายเท้า จะได้ความว่า คนนี้นิสัยไม่ดี อย่าไปคบค้าสมาคม เป็นความจริงของกฎแห่งกรรม ขอให้ทำให้ได้ทุกคน

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    การให้ที่มีคุณมากยิ่งคือ

    (๑) ให้เกียรติ
    (๒) ให้อภัย

    ฝังอยู่ในจิตใจตลอดนิตยกาล การเห็นใจผู้ที่ทำผิด จะทำให้สามารถลดคนทำผิด และลดปริมาณความผิดลงได้
     
  4. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    กรรมฐานแก้ไขปัญหาได้ ไม่ใช่กรรมฐานแก้กรรมได้

    กรรมฐานแก้ไขปัญหาได้ ไม่ใช่กรรมฐานแก้กรรมได้ มันแก้กรรมไม่ได้หรอก ต้องกระทำ ต้องใช้หนี้กรรมทั้งนั้น ถ้าเรารู้จริงต้องยอมรับกรรมไม่ปฏิเสธทุกข้อหา เพราะเราทำกรรมมาก็ต้องรับใช้ อย่าย้อนว่าต้องแก้ได้ เหมือนเขาบอกพอใจกันแล้วไม่ต้องใช้หนี้ นั่นเป็นอโหสิกรรมอีกประการหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องนี้ กรรมฐานจึงเป็นเรื่องการแก้ปัญหาชีวิต ซึงเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นเฉพาะหน้าในปัจจุบัน
     
  5. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    การใช้ชีวิต

    เราใช้ชีวิตอยู่ในสังคมด้วยไร้สาระมากมาย ไม่ใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและสังคม เราควรหยุดสร้างความไม่ดี เราเป็นคนดีด้วยกันทุกคน มีทุนมาเท่ากันทั้งนั้น แต่ใช้ทุนไม่เหมือนกัน คนเราถึงแตกต่างกันด้วยกฎแห่งกรรมจากการกระทำของตน
    การกระทำของแต่ละบุคคลนั้นไม่เหมือนกัน มีทั้งสุข มีทั้งทุกข์ มีทั้งชั่ว มีทั้งดี ไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจากทุกคนใช้ทุนไม่เท่ากัน ปฏิบัติหน้าที่ไม่เหมือนกัน บางคนก็ใช้ทุนได้เลิศประเสริฐแท้ ได้กำไรชีวิตตลอดกระทั่งตาย บางคนใช้ทุนขาดทุนตลอดชีวิตกระทั่งตาย ไม่มีประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ตลอดกระทั่งครองครัวก็หาความสุขไม่ได้


     
  6. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    สิ่งที่ท่านจะได้บุญมาก

    เดินไปห้องน้ำก็เดินจงกรมไป เอากำไรไปด้วย ถ่ายอุจจาระปัสสาวะกำหนดจิตด้วย ท่านจะได้บุญมาก ท่านจะมีสติสัมปชัญญะ มีพละกำลังกาย ๕ ประการ หมายถึง มีศรัทธา มีความเพียร มีความอดทน มีสมาธิ และเกิดปัญญา
    มีสมาธิ หมายถึง จับงานอย่าทิ้งงาน จับงานพระกรรมฐาน คือ แก้ปัญหาไว้ มีสติควบคุมจิตเป็นสมาธิภาวนา เรียกว่า สติสัมปชัญญะ ไม่ลดละภาวนา ปลูกศรัทธาให้มั่นคง ถ้ามีศรัทธามาก ก็มีวิริยะมาก มีความเพียรให้หนัก ถ้ามีความเพียรเท่ากับศรัทธา เสมอต้นเสมอปลายแล้ว ท่านจะมีสมาธิจับงานและแก้ไข สมาธิต้องอยู่กับสติสัมปชัญญะ ถ้าท่านมีแต่สมาธิดิ่งไป แต่ไม่มีสติ ไม่มีสัมปชัญญะ ท่านจะมีสมาธิด้วยเรื่องอะไร ก็ไม่ทำให้เกิดปัญญาที่มีประโยชน์แต่ประการใด
     
  7. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ไปรักใครอย่าไปสาบาน

    เป็นเรื่องเกิดขึ้นที่หน้าวัด มีต้นมะขามใหญ่แต่ตายไปแล้ว อยู่ตรงปากตรอก เมื่อก่อนเป็นทางควาย ตอนนั้นอาตมายังไม่ได้บวช ลุงคำ เล่าตั้งแต่อาตมายังเป็นเด็ก มาที่แถวนี้
    มีคนสองคน คนหนึ่งอยู่บ้านใกล้วัดอัมพวัน อีกคนหนึ่งอยู่บ้านเหนือขึ้นไป เขาติดต่อชอบพอกัน อย่าไปออกชื่อเลย เขาตายไปตั้ง ๖๐ ปีแล้ว เขาก็รักใคร่กันดี เขาได้สัญญาสาบานต่อกันว่า จะรักเดียวใจเดียว จะไม่รักคนอื่นต่อไป พูดถึงตอนนี้ขอฝากโยมไว้ ไปรักใครอย่าไปสาบานนะ สบถก็ไม่ได้ ผู้หญิงก็สาบานให้กับผู้ชาย ผู้ชายก็สาบานให้กับผู้หญิง ว่าจะแต่งงานกัน
    ต่อมาผู้หญิงเกิดมาเป็นไข้ทับระดูตาย ตายแล้วยังห่วง ด้วยอำนาจรัก ยังห่วงผู้ชายคนนี้ตลอด พยายามจะเอาเป็นสามีให้ได้ ถึงตายไปแล้วก็ปรารถนาเหมือนเดิม เพราะสาบานกันไว้ ผู้ชายคนนี้เกิดนอกใจ เพราะแฟนเก่าตายไปแล้ว จะไปแต่งได้อย่างไร ได้เกิดชอบพอกับลูกสาวคนข้างวัดอัมพวัน ได้ไปสู่ขอ พ่อแม่ฝ่ายหญิงเขาไม่ยกให้ เพราะผู้ชายจน แต่เขารักกันแล้ว เมื่อขอไม่ให้ก็ต้องตามกันไป หน้านั้นเป็นหน้าเกี่ยวข้าว เขาไปเกี่ยวข้าวที่บางชันด้วยกัน ก็นัดกันว่า ๒ ทุ่มให้มาคอยที่ต้นมะขามหน้าวัด ผู้ชายจะมารับ ฝ่ายหญิงก็ตกลง
    เกี่ยวข้าวกลับมา ผู้หญิงแต่งตัวมาคอยก่อนสองทุ่ม เมื่อถึงเวลาสองทุ่ม ผู้ชายก็มา ปรากฏว่าแฟนเก่ามาคอยบอกว่า พี่ทำไมมาช้าจัง ผู้ชายก็บอกว่ามาตามเวลาสองทุ่ม แล้วก็รีบไป นี่แฟนเก่าปลอมเป็นผู้หญิงที่จะต้องพากันไป เขาอาฆาตจะต้องมาเอาผู้ชายคนนี้ไปเป็นสามีให้ได้
    ผลสุดท้าย ผู้ชายก็บอกว่า น้องออกหน้าไป ผู้หญิงก็บอกว่า ออกไม่ได้ ให้น้องอยู่ข้างหลังเถอะ เพราะว่าถ้าพี่ออกหน้าไป หากเขาตามมายิง ฉันอยู่ข้างหลังจะได้ตายก่อน ผู้ชายเสียรู้ผีก็ออกหน้าไป สมัยนั้นสองข้างทางก็เป็นป่าดงพงไพร ก็พากันวิ่งไป วิ่งไปถึงป่าทึบที่วัดพระแก้ว มีพระประธานอยู่ในวิหาร อยู่เหนือวัดอัมพวัน วิ่ง ๆ ไปผู้ชายก็ได้ยินเสียง หนุม ๆ นิ่ม ๆ ก็บอกว่า
     
  8. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <TABLE cellPadding=15 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD class=white borderColor=#ffffcc align=middle bgColor=#ffff99 height=61>จิตล่องลอยไปเกิด หรือจิตท่องเที่ยวไปตามกรรม เป็นความเห็นที่ผิด

    คนเราจะมีชีวิตอยู่หรือจะตายก็ตาม จิตย่อมเกิดดับสืบต่อกันไปอยู่เช่นนี้ตามธรรมชาติ ข้อที่แปลกสักหน่อยก็อยู่ที่จุติเกิดขึ้น คือ จิตดับลงแล้วก็พ้นจากชาติเก่าร่างเก่าเท่านั้น ในทันทีนั้นก็ปฏิสนธิเลย ได้แก่การเกิดขึ้นติดต่อกันด้วยความรวดเร็วมาก โดยมิให้มีอะไรมาคั่นกลางเหมือนกับจิตที่เกิดดับอยู่ตามธรรมดานั้นเอง ด้วยเหตุนี้ คำว่าจิตล่องลอยไปเกิดก็ดี หรือจิตท่องเที่ยวไปตามอำนาจของกรรมที่ดี จึงได้ชื่อว่าเป็นความเห็นผิด
    การที่ผู้ตายไปสู่สุคติหรือทุคตินั้นก็แล้วแต่กรรม แล้วแต่อารมณ์ที่เกิดขึ้นในขณะใกล้จะตาย ดังนั้น ผู้ดูแลคนไข้ที่ฉลาดในเรื่องของชีวิต และมีเมตตากรุณาจึงยอมเสียเวลา สละประโยชน์อันจะพึงได้อื่น ๆ มาช่วยเหลือให้สติแก่คนไข้ด้วยความระมัดระวัง
    ถ้าคนไข้ได้เคยศึกษาธรรมะ ได้เคยพูดเรื่องตายมาเสมอ ๆ โดยความไม่ประมาทแล้ว การให้สติแก่คนไข้ก็ง่ายมาก แต่ถ้าคนไข้ไม่เข้าใจธรรมะเลยแล้ว การมีเจตนาให้สติด้วยความหวังดีจะกลับเป็นร้ายไป คนไข้บางคนพูดเรื่องตายไม่ได้ ใจไม่สบายทันที เราก็จำเป็นต้องหาเรื่องอันเป็นกุศลอื่น ๆ ที่คนไข้ชอบ
    </TD></TR><TR><TD class=white borderColor=#ffffcc align=middle bgColor=#ffff99 height=62>
    คนไข้บางคนได้ยินการให้สติก็ทราบว่าตัวนั้นใกล้จะตาย ก็เกิดมีความเสียใจเสียดายชีวิตเป็นกำลัง มีความหวาดหวั่นต่อความตายอย่างสุดแสน หรือคนไข้บางคนได้ยินคำว่าให้ระลึกถึงพระอรหันต์ไว้ก็มีความโกรธแค้น โดยคิดว่าลูกหลานจะมาแช่งให้ตาย เพราะจะได้แบ่งทรัพย์สมบัติเหล่านี้นับว่าเป็นทางนำไปสู่อบายทั้งนั้น ขณะที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้จะต้องระมัดระวังให้จงหนัก
    การให้อารมณ์ที่ดีแก่คนไข้ก็มีมากมายแล้วแต่จะคิด เช่น นิมนต์พระมาสวด หาพระพุทธรูปมาตั้งให้คนไข้เห็น เล่าธรรมะหรือเรื่องอันเป็นกุศลต่าง ๆ สำหรับผู้ที่ศึกษาพระอภิธรรมมาดีแล้วก็เป็นการง่ายดาย เขาจะหาอารมณ์ที่ดีที่สุดของเขาเองได้เป็นส่วนมากมาตั้งแต่ต้น เพราะเขาย่อมรู้ว่าขณะนั้นสำคัญอย่างไร และรู้ว่า ความตายนั้นเป็นเรื่องสมมุติกันเท่านั้นเอง จิต เจตสิก รูป ก็สืบต่อไปยังภพใหม่ชาติใหม่ ไม่เห็นจะแปลกประหลาดพิสดาร น่าหวาดหวั่นอะไรสักกี่มากน้อย

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ขณะมรณสันนกาล

    ในขณะมรณาสันนกาลนั้น คนไข้ยังมีความรู้สึกตัวอยู่นอกจากจะอยู่ในวิสัญญี คือสลบ แต่แม้ว่าจะมีความรู้สึกทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย อยู่ก็ดี แต่มีกำลังอ่อนมาก การที่มีกำลังอ่อนมากนั้น ก็เพราะว่ากัมมชรูปคือ รูปอันเกิดจากกรรมเป็นผู้สร้าง ได้แก่รูปอันเป็นที่ตั้งของจิตนั่นเอง และเมื่อรูปอันเป็นที่ตั้งของจิตมีกำลังน้อย การแสดงออกของจิตก็อ่อนกำลังลงไป แต่เมื่อถึงมรณาสันนวิถี วิถีสุดท้ายที่ติดกับความตายแล้วคนไข้จะไม่รู้สึกจากทวารทั้ง ๕ เลย ไม่ว่าจะทุบตีหรือเอาไฟไปเผา แต่อย่างไรก็ดี การให้สติแก่คนไข้ก็ต้องเริ่มให้กันตั้งแต่ตอนต้น ๆ ของมรณาสันนกาลก็ยิ่งดี ในขณะที่สติของคนไข้ยังดีอยู่ อารมณ์นั้นจะได้สืบต่อไปจนถึงจุติ
    ทันที่ที่จุติ (ตาย) เกิดขึ้น ปฏิสนธิก็สืบต่อกันไม่ขาดสายเหมือนน้ำที่ไหลติดต่อกันในลำธาร ไม่มีอะไรมาคั่นกลางเลย แม้ว่าจะตายที่นี่แล้วไปเกิดที่เชียงใหม่ เพราะจิตเกิดดับรวดเร็วยิ่งนัก ลัดนิ้วมือเดียวถึงแสนโกฏิขณะ ฉะนั้นทันทีที่จุติเกิดขึ้น จิตที่สืบติดต่อกันนั้นก็ต้องพ้นปฏิสนธิจิตด้วยอำนาจของกรรมเป็นตัวส่ง


    ที่มา เวปหนังสือกฎแห่งกรรมหลวงพ่อจรัญ (www.jarun.org)
     

แชร์หน้านี้

Loading...