ความหายนะอย่างถึงที่สุด10ข้อ ของการปรามาสพระรัตนตรัย

สาธุ สาธุ สาธุ ขอให้ผู้ที่ไม่รู้ มีดวงตาเห็นธรรมด้วยเทอญ

 

น่ากลัวครับ มิกล้าทำหรือคิด โมทนากับบทความดีๆด้วยครับ

 

แหม ๆ ผมทึ่งคุณจริงๆ อุส่าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ผมเคยโพสไว้มารวมๆเป็นข้อความนี้ได้
สงสัยจะหมั่นใส้ผมมาหลายกระทู้หละสิ จำไว้หมด
----------------------------------------------------
คนส่วนไหญ่มักเอา ตนเองเป็น-บัน-ทัด-ถาน-เอาตนเองเป็นที่ตั้ง สิ่งใดๆที่ตนเองทำไม่ได้ เห็นไม่ได้ รู้ไม่ได้ คนเหล่านั้นจะบอกว่า ไม่มีจริง และเมื่อเขาทำไม่ได้เขาก็คิดว่าคนอื่นก็ทำไม่ได้เช่นกัน
เมื่อเขาสัมผัสไม่ได้เขาก็ว่า คนอื่นก็สัมผัสไม่ได้เหมือนเขา
------------------------------------------------------
มารวมๆจากกระทู้ที่ผมเคยโพสไว้แน่นอน ก็อปมาทั้งดุ้น
และเรื่องที่คุณว่า
-------------------------------------------------------------
หรือแม้แต่เทวดาเอง ท่านก็มีความดีของท่าน
เราเคยปรามาสเทวดาหรือไม่ครับ
------------------------------------------------
อันนี้ก็ตั้งใจจะมาพูดเรื่องที่ผมตั้งกระทู้ถามเรื่องว่าถ้าหากมีเทวดามาชวนไปอยู่ไปอยู่จะว่ายังไงใช่ไหมละ
เฮ้อ.กระทู้นี้ผมตั้งไว้ก็ได้แสดงความเห็นไว้ว่า
แม้นเทวดา ก็ไม่ไช่ว่าจะดีไปเสียหมด ไม่ได้ดีไปกว่ามนุษย์สักเท่าไร
การที่เทวดามาชวนไปอยู่ก็ไม่ได้หมายความว่าหวังดีไปหมด
และเราก็ไม่รู้ด้วยว่าที่มาชวนนั้นไช่เทวดาหรือไม่
เป็นผมผมไม่ไป และท่านที่มาร่วมตอบในกระทู้นนั้นส่วนไหญ่ก็ไม่ไป
แต่ที่ไปมีอยู่2ท่าน ท่านหนึ่งก็ท่านเจ้าของกระทู้นี้เนี่ยหละ
Xorce ท่านไห้เหตุผลที่ท่านไปไว้ประมาณว่า ไปสิถ้ามีเทวดามาชวนเพราะเขาทราบมาว่า หากเทวดามาชวนไปส่วนมากจะไปสบาย คือนอนหลับตาย
ผมเห็นท่านตอบแล้วก็ชัดเจนในปัญญาของท่านเลยครับว่ามีมากขนาดไหน
เดี๋ยวหากระทู้นั้นมาไห้อ่าน ก็ไม่รู้นะว่า ข้อความที่คุณXorceโพสไว้ แก้ไขหรือยัง หรือลบไปแล้วหรือยัง

ออ ผมก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่า ถ้าเราพูดถึงเทวดาไม่ดีนี้เป็นการปรามาสเทวดา
เพราะอันที่จริงการพูดถึงเทวดาก็ไม่ได้เอ่ยชื่อว่าเทวดาท่านไหน
มันก็เหมือนกับการพูดถึงคน แต่ไม่ได้เอ่ยว่าเป็นคนท่านไหน
ต่อไห้เป็นการพูดไม่ดีว่า คนทั้งหลายในปัจจุบันนี้ โง่ ก็ไม่ผิดต่อไห้มีคนโง่ไปฟ้องศาลว่าผม ว่าคนโง่ศาลก็คงไม่ว่าว่าผมผิดหรอก
เอ แต่อาจจะมีก็ได้นะศาลยุคนี้นี่นะ (อันนี้ก็ไม่ได้เอ่ยว่าศาลไหน)
มันก็เหมือนพูดถึงเทวดาหนะนะ ไม่รู้ว่าXorceจะพอเข้าใจไหมหนอ . . .

 

http://palungjit.org/showthread.php?t=168248
ใครสนใจก็ไปอ่านดูละกัน ว่าคนที่อยากไปอยู่กับเทวดาแสดงความคิดเห็นไว้แบบไหน

ที่จริง ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับไครในเว็ปนี้หรอกครับ ก็เหมือน หลายๆท่านที่หายๆหน้าไปนั้นหละ ในเว็ปนี้ ที่พอจะน่านับถือจริงๆมีน้อยยิ่งกว่าน้อย ซ้ำร้าย ท่านเหล่านั้น ก็ไม่ค่อยจะแสดงความเห็นหรือแนะนำอะไรไครด้วย เพราะอะไรนั้นผมก็รู้ . . .
ต่อไปนี้ จขกท จะต่อความยังไงต่อก็เชิญ ผมพอละ

 

ขอแสดงความคิดเห็นครับ ผมเดาว่าท่านเจ้าของกระทู้ คงมีเจตนาเมตตาสงสารเป็นสำคัญ
จึงแนะนำธรรมทานนี้มา ให้ท่านที่เคยลบหลู่ดูหมิ่น ไม่ยอมรับนับถือคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตลอดจนคุณเทวดา ได้ฉุกใจคิดว่า ท่านเหล่านี้มีคุณอย่างไร และเป็นการฉลาดหรือไม่ที่จะเคยมีมโนกรรม วจีกรรม กายกรรม ในทางอกุศลกับท่านผู้มีคุณเหล่านี้

อันเทวดานั้น ท่านเองก็มีคุณแห่งเทวดาคือ คุณธรรมหิริ โอตตัปปะ เป็นสำคัญ พุทธองค์จึงทรงบัญญัติ เทวตานุสสติกรรมฐาน ไว้ให้ท่านผู้ปรารถนาความสุขความเจริญ ได้หวนระลึกนึกถึงคุณธรรมความดีที่เทวดาท่านมีเป็นพื้นฐาน เพื่อยังปฏิปทาของเราท่าน ให้ดำเนินรอยตามคุณธรรมเหล่านี้ เราจะได้เช้าถึงความดีเหล่านี้ได้โดยง่าย

อนึ่ง การที่เรากล่าวโทษ คนทั้งหลาย เทวดาทั้งหลาย แม้จะไม่ระบุชื่อก็ตาม ในทางโลกคงไม่มีใครไปฟ้องเอาผิดเราได้ก็จริง แต่ถือเป็นการขาดปัญญาบารมีในบารมีสิบ ที่ไม่รู้จักเพ่งโทษโจทย์ตนเอง ทั้งที่เราเองก็มีความไม่ดีอยู่มากพอแล้ว ที่ต้องระวังปัดเป่า อีกทั้งยังขาดปัญญาบารมี ในการแยกแยะดีชั่ว เพราะกล่าวโดยรวมว่า เทวดาไม่ดี โดยไม่ระบุจำเพาะเหมารวมไปนั้น ว่าใคร กลุ่มใดที่ไม่ดี

สาธุชนจึงไม่ควรทำกรรมอันเป็นโทษ โดยหว่านแหตำหนิ ให้ศึกษาปฏิปทาครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสุปัฏปันโนด้วยว่า เวลาท่านว่ากล่าวใคร ท่านจะแยกแยะเสมอโดยกล่าวว่า คนไม่ดีก็มีอยู่ แต่คนดีก็มีมาก

 

น่าเวทนา . . . ไม่รู้เรื่อง ไม่กล้าคิด สงสัยไม่กล้า สักกะว่าเชื่อ
ไม่กล้าติ หรือยกตัวอย่างความไม่ดีใดๆ ของสงฆ์ หรือเทวดา
จนขี้ขึ้นไปอยู่บนหัว
พอมีคนสงสัยก็หาว่าเขาปรามาส อนาถเก่งๆทั้งนั้น
ชอบติชอบเตือนคนอื่น ก็ควรจะรู้จริงสิ ไม่ไช่พอถูกคนที่ตนเองเตือนถามว่าเขาปรามาสตรงไหน ก็ตอบไม่ได้ ก็ได้เหมือนกันนะ แต่ตอบแบบ กำปั้นทุบดิน คือ ปรามาสที่ใจของเขา โธ่ถังๆผู้วิ เสด . .

 

เคยคิดปรามาสต่อพระรัตนตรัยประจำ เพราะจิตฟุ้งซ่าน รู้สึกผิดมาก T_T
เหมือนขนบาปเข้าวัด

เป็นแบบนี้ไม่ไปจะดีกว่าไหม

ขอคำแนะนำด้วยค่ะ มีใครแก้ปัญหานี้ได้บ้างคะ แบบว่าไม่ตั้งใจนะคะ แต่เหมือนยิ่งห้ามก็ยิ่งไปกันใหญ่

 

สาธุ ขอขมาด้วยคน แต่ขอขมาไว้ก่อนก็ดีค่ะ เพราะไม่รู้เผลอปรามาสเมื่อไหร่เหมือนกัน

หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ
พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้
ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จ-
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย
และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่
พระนิพพานด้วยเทอญ ฯ

<!-- / message -->

 

ถึงคุณ sugarefree ครับ
เราก็หมั่นขอขมาเสมอๆครับ
จริงๆ วิบากน่ะ ต้องการล่อหลอกให้เราห่างจากวัด
ดังนั้นให้เราไปวัดเหมือนเดิมแต่ ให้เอาชนะมันให้ได้ครับ
ถ้าชนะไม่ได้ ก็ต้องสู้ไปเรื่อยๆครับ
ทำใจสบายๆครับ เดี้ยวก็ผ่านไปเองครับ

 

ดีมากๆๆเลยคับ

 

ขอบคุณมากครับ จขกท เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

 

อนุโมทนาด้วยครับ
เมื่อก่อนผมเองไม่เคยสนใจเรื่องนี้เลย เคยพบบทสวดเพื่อขอขมาพระรัตนตรัยในหนังสือสวดมนต์หลายๆเล่ม ก็อ่านผ่านๆ ไม่เคยสงสัยด้วยซ้ำว่าเราจะสวดไปเพื่ออะไร
ตอนนี้ เข้าใจแล้วครับ โทษของการปรามาสพระรัตนตรัย สาหัสเพียงใด
อย่างน้อยที่สุด การขอขมาก็แสดงออกถึงการรู้สำนึก ผิดชอบชั่วดี และจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
เห็นด้วยครับกับความเห็นที่ท่านบอกว่า สติคือสิ่งที่จะช่วยให้เรารู้ทันความคิดตนเอง

 

ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานกับท่านจขกท.ค่ะ

ขออนุญาตเล่าถึงประสบการณ์ของตนเองเกี่ยวกับการขอขมาพระรัตนตรัยค่ะ เดิมทีดิฉันก็ปฏิบัติธรรมมาประมาณ 10 กว่าปี (มิได้เป็นการอวดอ้างนะคะ เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่าง) และได้ผลการปฏิบัติเป็นไปอย่างช้า ๆ ได้ในระดับหนึ่ง

แต่ไม่เคยนึกถึงเรื่องของการขอขมาพระรัตนตรัย จนกระทั่งได้มีโอกาสฝึกมโนมยิทธิ ที่บ้านสายลมเมื่อปี 2549 ซึ่งมีการขอขมาพระรัตนตรัย และสมาทานพระกรรมฐานก่อนทุกครั้ง ที่นั่งเจริญพระกรรมฐาน ปรากฏว่า ผลการปฏิบัติดีขึ้นกว่าเดิมมากค่ะ

นอกจากจะขอขมาพระรัตนตรัยแล้ว สิ่งที่ทำคู่กันคือ การน้อมถวายบุญกุศลที่ทำ และการอนุโมทนาบุญ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยเจ้า และครูบาอาจารย์ทุกท่าน เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชาค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai
;aa35

 

ขอให้คุณNumsai เกาะพระนิพพานเอาไว้ และเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนะครับ
ถ้าตั้งใจจริงไปได้แน่นอนครับ

 

บางครั้งก็เผลอนะครับ หลวงพ่อนี่หน้าตาตลกจัง พระสร้างไม่ค่อยสวยเลยนะ พระวัดนู้นสวย กว่า อะใรประมาณนี้ แต่ไม่ได้ตั้งใจ พระท่านคงไม่ว่า แต่ "กรรม"มานคงเอาเราแน่ฮะๆ

 

ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

เพราะเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยที่เราอาจไม่ได้ตั้งใจค่ะ เป็นไปได้อยู่แล้ว
จิตที่มีความไว และหากปราศจากการฝึกจิตแล้ว อาจเผลอคิดนั่นคิดนี่ ปรามาสไปได้โดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะจากภาพที่เห็น สัมผัสได้ทางตา อาจทำให้เกิดความคิดปรามาสขึ้นได้ เคยเกิดขึ้นกับตัวเองแบบไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน ระดับอริยะสงฆ์ด้วยค่ะ ท่านก็รับรู้วาระจิต(รู้เลยค่ะ) ก็ต้องขอขมาพระรัตนตรัยเรื่อยๆ อย่างที่คุณ ชัชบอก

แต่ทีนี้ จากประสบการณ์ ถ้ามีการฝึกจิตมาบ้างแล้ว ต่อๆ ไป เมื่อความคิดที่จะปรามาสเริ่มจะเกิด ถ้าเรารู้เท่าทันจิต รู้เท่าทันความคิดของเรา ก้อเพียงแต่หยุดความคิดไว้แค่นั้น และหมั่นขอขมาต่อไป

แต่ว่าการนึกถึงเรื่องที่เราเคยปรามาส แบบนี้ก็ไม่ดี คือเหมือนกับเราปรามาส ซ้ำๆ ใช่ไหมคะคุณชัช เพราะเหมือนกับเรา ปรามาสแล้ว ปรามาสอีก ว่าจะไม่พูดถึงหรือคิดถึงอีกแล้วค่ะ แต่ขอพูดนิดนึง สำหรับบางท่านที่อาจมีประสบการณ์ มีปัญหาคล้ายๆ กัน

 

บทขอขมาที่ท่องประจำค่ะ

อุกาสะ อัจจะโย โนภันเต อัจจัคคะมา ยะถาพาเล ยะถามุละเห
ยะถาอะกุสะเล เย มะยัง กะรัมหา เอวัง ภันเต
มะยัง อัจจะโย โน ปฏิคันหะถะ อายะติง สังวะเรยยามิ

 

จริงค่ะ ปัจจุบันมีผู้ที่จิตใจเสื่อมอยู่มากมาย แต่จะด้วยตั้งใจหรือไม่ก็ถือว่าปรามาสเช่นกัน เราจะรู้ได้ด้วยตัวเองเลย เพราะกรรมเก่าเรายังไม่หมด แต่ก็สร้างกรรมใหม่ซะแล้ว จิตใจจะเศร้าหมองอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้ายังไม่สายเกินไปการขอขมาก็เป็นสิ่งที่พึงจะต้องกระทำมากที่สุดค่ะ โมทนาสาธุ นะคะ

 

ที่เคยสวดขอขมาอยู่ขณะนี้

**วันทามิ พุทธัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต

วันทามิ ธัมมัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต

วันทามิ สังฆัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต**

** นิพพานัง ปัจจะโย โหนตุ**