ความหมายของหลวงปู่เทพโลกอุดร ก็คือ บรรลุอรหันต์แล้วไม่ละสังขารเกินอายุขัยได้

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย โปเย, 17 มีนาคม 2012.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    อย่าอ้างพระธรรมเหมือนสองกระทู้ที่โดนย้ายก็แล้วกัน จะเล่านิทานเล่านิยายก็ว่าไป โปเยเขาก็พูดถูกอยู่หลายอย่างครับ
     
  2. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    สดับด้วยดีย่อมมีปัญญา
    สดับด้วยมารยาปัญหามากมี
    แสดงดีมีคนชมนิยมรัก
    แสดงผิดหลักคนรักไม่มี
    อยู่ที่ศรัทธา ปัญญา เหตุผล ดลจริต ลิขิตกรรม!
     
  3. tee666

    tee666 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +14
    คำว่าอิจฉามันห่างไกลสำหรับเรา แต่ตอนนี้กุกำลังจะเห็นคนบ้าเท่านั้นเอง คนอาร้ายย เสือกรู้ไปเสียทุกเรื่อง มันรู้ว่าพระอริยะเป็นยังไง อธิบายได้เป็นคุ้งเป็นแคว แบบโง่ๆๆ ก็แค่สุนัขรับใช้บร๊ะเจ้าเท่านั้นเอง บิดเบือน แถแหลก ในโลกนี้ไม่มีใครรู้เท่ากุ รู้มากกว่านี้ก็แค่ไอ้บ้าเท่านั้นเอง ก็ให้มันสร้างโลกในแบบของมันไป เดี๋ยวบร๊ะเจ้าก็รับมันไปอยู่ด้วย มันก็คงไปแถกับบร๊ะเจ้าของมันอีกนั่นแหละ
     
  4. เด็กแวนซ์

    เด็กแวนซ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +35
    คำว่าบรรลุแล้วต้อง อรหันต์เท่านั้น ก็ขัดกับการบรรลุรู้แจ้งทั้งฟวง อันที่จริง มันขึ้นอยู่กับปณิธาน ภารกิจ ความเมตตาเพื่อสรรพสัตว์

    ภารกิจนี้ไม่ได้ทำด้วยกิเลสแต่อย่างใด แต่เป็นสภาวะธรรมคือ ทำเหมือนไม่ได้ทำ
    สภาวะนั้นเรียกว่า โพธิจิต
     
  5. เด็กแวนซ์

    เด็กแวนซ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +35
    เพ้อ........................นู้นๆกลุ่ม อนุตรธรรม รอคุณอยู่
     
  6. DekNoii

    DekNoii สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +0
    กรรมเกิดแต่กรรม ...
     
  7. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    ผมไม่ได้คิดสร้างศาสนาใหม่นะครับ
    จะใช้ภาษามนุษย์ธรรมดาเหมือนกับ
    บทความของคุณ ชยุตต์ ก็ได้ ก็ดีนะ
    แต่บางคนเป็นพุทธ บางคนเป็นคริสตร์
    เลยยืมสมมุติบัญญัติมาใช้บ้างเท่านั้นครับ
     
  8. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    เมื่อยืมบัญญัติมาบัญญัติใหม่ก็เท่ากับกระทำกิจที่ไม่ควรทำ ไม่มีความยำเกรงต่อพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า เมื่อกระทำกิจที่ไม่สมควรทำ ไม่เหมาะสม ก็ต้องยอมรับผลแห่งกรรมนั้น
     
  9. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    ไม่ใช่การบัญญัติใหม่ครับ
    เป็นการแสดงความคิดเห็น
    ตามหลักประชาธิปไตยครับ


    ซึ่งคนเราคิดเห็นแตกต่างกันได้
    ไม่จำเป็นว่าทุกคนจะต้องคิดถูก
    หรือคิดตรงกันหมด แบบนั้นเขา
    เรียกว่า "เผด็จการทางความคิด"
    ครับ (พวกวางแบบให้คนคิดตาม)
     
  10. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    ประชาชนจะเลือกนับถือศาสนาใดก็ได้ ที่ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย ของบ้านเมือง


    มาตรา 38 บุคคลย่อมมีเสรีภาพสมบรูณ์ ในการนับถือศาสนา นิกายของศาสนา หรือลัทธินิยมในศาสนา และย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติ ตามศาสนบัญญัติ หรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อของตน เมื่อไม่เป็นปฏิปักษ์ ต่อหน้าที่ของพลเมือง และไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน


    การใช้เสรีภาพดังกล่าวตามวรรคหนึ่ง บุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง มิให้รัฐกระทำการ ใดๆ อันเป็นการรอนสิทธิ หรือเสียประโยชน์อันควรมี ควรได้ เพราะเหตุที่นับถือศาสนา นิกายของศาสนา ลัทธินิยมในศาสนา
    หรือปฏิบัติตามศาสนบัญญัติ หรือปฏัติพิธีกรรมตามความเชื่อ แตกต่างจากบุคคลอื่น
     
  11. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระธรรมเป็นจริงตลอดกาล ผู้ศึกษาพึงรู้ได้เฉพาะตน การแสดงความคิดเห็นควรอยู่ในขอบเขต เห็นต่างกันได้ ตีความหมายพระธรรมต่างกันได้ ควรศึกษาพระธรรมให้รู้แจ้งก่อนแสดงความคิดเห็น เช่น "พาหิยทารุจีริยะ"
     
  12. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    ไม่จำเป็นเลยสักนิด


    กรรมของสัตว์ ไม่มีอะไรขวางได้
    คนเราคิดถูกบ้างผิดบ้าง ไม่มีใครรู้
    ทุกคนก็ต้องลองผิดลองถูกกันไปทั้งนั้น


    ไม่มีใครถูกแต่ต้น หรือรอให้ถูกก่อน หรือรอ
    ให้ใครมา "ตัดสินพิพากษา" ได้ ชีวิตมนุษย์
    ก็ต้องดำเนินไปเช่นนั้น คือ ลองผิด-ลองถูก
     
  13. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    เอิ่ม...คือว่าทุกคนถูกหมดครับ..ทุกคนมีสิทธิ์ สิทธิ์อยู่ในตัวทุกคน ทำไรก็รับผิดรับชอบกันตามสิทธิ์ที่ใช้.
    .กรรมเกิดแต่กรรม..(ขอยืมมาใช้หน่อย)..
     
  14. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    อย่าไปอ้างกฏหมายเลยครับ กฏของเว็บบอร์ดนี้ท่านยังทำไม่ได้ โดนลบหรือโดนย้ายไปกี่กระทู้แล้วทำไมไม่คิดทบทวนดูว่า การกระทำที่ผ่านมาผิดกฏข้อไหนของเว็บบอร์ด เมื่อท่านทำผิดแล้วยังไม่รู้และยังทำผิดซ้ำกัน หยุดคิดกลับไปตั้งสติและทบทวนการกระทำที่ผ่านมาดูครับ
     
  15. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    ท่านโปเย พูดถูกต้อง..(ในความคิดของกระผม)..โมทนาๆ ต้องคิดให้ได้แบบนี้ครับ ถึงจะเรียกว่า"ผู้ตื่น"..(ผมไม่ใช่พวกใคร ไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัว ทุกอย่างที่ออกมา ก็ทำตามที่รู้สึก เท่านั้นเอง)
     
  16. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ท่านไม่รู้จริงๆ คำของพระพุทธเจ้าถูกต้องเป็นความจริงตลอดกาล แม้แต่ "กรรม" พระพุทธเจ้าก็ขวางได้ กรรมนั้นมีทั้งกรรมดำและกรรมขาว เมื่อบรรลุธรรมแล้วกรรมนั้นมีอยู่ แต่กรรมหาผู้กระทำไม่เจอ
     
  17. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ศาสนาแต่ละศาสนามีบัญญัติและข้อห้ามที่ต่างกัน การยืมบัญญัติของศาสนาหนึ่งไปใช้กับอีกศาสนาหนึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สมควร ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่นับถือศาสนานั้น หรือนิกายนั้น ๆ
     
  18. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    กฎกติกาของเว็บบอร์ดพลังจิต

    ขอความกรุณาช่วยกันรักษากฎกติกามารยาทที่ให้ไว้ข้างล่างเพื่อความสงบสุขของตัวเองและสังคม

    ขอให้สมาชิก ตกลงที่จะทำตามกฎกติกามารยาท

    1) ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดปด ไม่หลอกลวง ไม่พูดวาจาทำให้แตกร้าวกัน ไม่พูดวาจาไร้ประโยชน์
    2) ไม่โพส ใส่ร้ายป้ายสี เสียดสี ในสิ่งไม่เป็นความจริง บิดเบือน ตำหนิติเตียน จาบจ้วงพระรัตนตรัย หรือ บุคคลใดๆ ในทางเสียหาย
    3) ไม่โพสหรือสื่ออะไรต่างๆที่ ละเมิดต่อ กฎหมายบ้านเมือง ศีลธรรม ประเพณี
    4) ไม่โพส รูปไม่เหมาะสม วิดีโอคลิปโป๊ ล่อแหลม ขัดต่อศีลธรรม ลงในกระทู้และในรูปแทนตัว
    5) ไม่ก่อกวนสมาชิกและ ไม่ก่อกวนระบบของเว็บพลังจิต
    6) ไม่เผยแผ่สิ่งที่เป็นมิจฉาทิฐิ
    7) ถ้ามีการกระทู้ของต่างศาสนาเข้ามาเผยแผ่ในเว็บพลังจิต ทางเว็บพลังจิตจะพิจารณาเป็นกรณีๆไป
    ถ้ามีกระทู้ใดๆหรือแนวสอนใดๆ ที่เข้ามาเผยแผ่ในเว็บพลังจิต อันมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คนออกจากพุทธศาสนา ทางเราจะพิจารณาและย้ายกระทู้ดังกล่าวไปในห้องที่เหมาะสมหรือลบออก


    ทีมงานผู้ดูแล palungjit.org ขอสงวนสิทธิ์
    ที่จะ ลบ แก้ไข เคลื่อนย้าย หรือปิดกระทู้ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม โดยเหตุผลใดๆก็ตาม โดยมิต้องบอกกล่าวแก่สมาชิกก่อน

    ถึงแม้ว่าผู้ดูแลระบบและผู้คุมห้องของ palungjit.org จะพยายามไม่ให้มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมอยู่ในบอร์ดนี้
    เป็นไปไม่ได้ที่เราจะดูแลได้อย่างทั่วถึงทั้งหมด


    ข้อความในเว็บบอร์ดเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียนและไม่ใช่ของผู้ดูแล palungjit.org ทั้งหมดและบางส่วนเป็นของทีมงาน
    และผู้จัดทำเว็บบอร์ดแห่งนี้จะไม่มีการรับผิดชอบต่อเนื้อหาใดๆ

    สมาชิกสามารถร่วมดูแลเว็บบอร์ดได้ ถ้าเห็นอะไรไม่สมควร กรุณาการกดปุ่มแจ้ง เพื่อทางทีมงานจะได้นำไปพิจารณาต่อไป


    จุดมุ่งหมายของเว็บพลังจิต คือการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพื่อนำไปสู่ความหลุดพ้น
    อันมีมีพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
    คำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่เหมือนกัน ซึ่งเป็น หัวใจคำสอนในพุทธศาสนา


    1.ละชั่วทั้งปวง ทาง กาย วาจา ใจ
    2.ทำดี ทางกาย วาจา ใจ การทำดีย่อแล้วมี 3 อย่างคือ ทาน ศีล และภาวนา(สมถะและวิปัสนา)
    3.ทำจิตใจให้ผ่องใสจากกิเลศ เพื่อความพ้นทุกข์หรือหลุดพ้นสู่นิพพาน
     
  19. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวติเรา ติพระธรรม
    ติพระสงฆ์ ในคำที่เขากล่าวตินั้น คำที่ไม่จริง เธอทั้งหลายควรแก้ให้เห็นโดยความไม่เป็นจริงว่า
    นั่นไม่จริง แม้เพราะเหตุนี้ นั่นไม่แท้ แม้เพราะเหตุนี้ แม้นั่นก็ไม่มีในเราทั้งหลาย และคำนั้น
    จะหาไม่ได้ในเราทั้งหลาย
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม
    ชมพระสงฆ์ เธอทั้งหลายไม่ควรเบิกบานใจ ไม่ควรดีใจ ไม่ควรกระเหิมใจในคำชมนั้น
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม ชมพระสงฆ์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    ถ้าเธอทั้งหลายจักเบิกบานใจ จักดีใจ จักกระเหิมใจในคำชมนั้น อันตรายจะพึงมีแก่เธอทั้งหลาย
    เพราะเหตุนั้นเป็นแน่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม หรือ
    ชมพระสงฆ์ ในคำชมนั้น คำที่จริง เธอทั้งหลายควรปฏิญาณให้เห็นโดยความเป็นจริงว่า นั่นจริง
    แม้เพราะเหตุนี้ นั่นแท้ แม้เพราะเหตุนี้ แม้คำนั้นก็มีในเราทั้งหลาย และคำนั้นจะหาได้ใน
    เราทั้งหลาย.
     
  20. romanof3

    romanof3 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +68
    ไม่จริงครับ ที่พระอรหันต์ ถ้าไม่บวชใน 7 วันต้องตาย หรือ 1 วันต้องตาย
    แต่จริงครับ ที่พระอรหันต์ในเพศฆาราวาส ถ้าไม่บวชใน 7 วันต้องตาย หรือ 1 วันต้องตาย

    อธิบายดังนี้
    - เพศฆาราวาส แปลว่าการครองเรือน มีแค่ ศีล 5 เป็นเครื่องอยู่ จึงต้องตายเพราะ สภาวะธรรมไม่เข้ากับขันธ์ซึ่งมีแค่ฐานของศีล 5 จึงต้องละสังขาร
    - เพศนักบวช การบวชคือการรักษาศีล ศีล 5 ละกิเลศได้น้อยเพราะศีล 5 เป็นศีลสำหรับการครองเรือน ศีล 8 เพิ่มขึ้นมาอีก คือ อพรหมจริยา เปลี่ยนจากการเสพกามในข้อ3 เป็นอพรหมจริยา และเพิ่มข้อห้ามอีก 3 ข้อเพื่อกันไม่ให้เกี่ยวข้องกับกาม ดังนั้นผู้ที่บำเพ็ญศีล 8 คือผู้ที่มีกำลังใจจะละออกจากกาม คือ กำลังใจในเนกขัมมะบารมี ( ดำริออกจากกาม ) ดังนั้น ศีล 8 จึงเป็นเพศนักบวช และเมื่อบรรลุธรรมเปนอรหันตบุคคลแล้วย่อมไม่ตาย เพราะเนกขัมมะบารมีหรือกำลังใจที่จะออกจากกามเต็มแล้วนั้นเอง ตัวอย่างเช่น อุบาสิกา แม่ชีบุญเรือน และแม่ชีแก้ว เสียงลำ เป็นต้น ครับ

    จากประสบการณ์ของผมเอง ซึ่งรักษาศีล 8 ด้วยชีวิตและ ยังคงอยู่กับโลกได้ปกติสุขคับ
    การอธิบายของผม หากผิดประการใดขออภัยด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...