ความสำคัญของหัวใจพระพุทธศาสนา

ถือว่าเป็๋นหนังบู้ เลือดพล่าน สาดกระเซ็น ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ อิอิ (kiss)

 

อ้อ ยังเอาความโง่ มาโชว์ได้อีก แน่ะ

กลัวคนอื่นเห็นความสถุล แต่ไม่ยักกลัวว่า คนอื่นจะเห็นความง่าว เน๊าะ

พูดไม่ได้ อธิบายไม่ได้ มันก็อ้างว่า มันเคยพูดมาเยอะแล้ว แม่ง หากันเอาเอง โถ ไอ้ สถุล ไอ้ควายห้าร้อย ทำไปได้(เวลาอ่าน กรุณาทำเสียงหล่อๆ เหมือน ทีมพากษ์หนังเลยนะครับ)

 

[ แนะนำเรื่องเด่น ]
วงกลมจุด, telwada(ไอ้จ๊าดง่าว), ggg107

 

ข้าพเจ้านำขึ้นมาเพื่อให้คุณได้อ่่าน จะได้อ่านง่าย เพราะไม่ต้องการให้คุณผู้ถามไปเห็นหรืออ่าน ความสถุลของพวกสัตว์...ขอรับ
.....................

ขอบคุณในคำชม ขอรับ
พูดออกมาแบบนี้ได้ แสดงว่า เริ่ม ดีขึ้นมาแล้วขอรับ ถ้าจะให้ดี ช่วยยกสามัญสำนึก ของท่าน ให้มันสูงส่งกว่าผม และ ลอยให้สูงจาก ความสถุลที่ผมเป็นอยู่นะขอรับ

ขอให้คุณ ฉลาดขึ้นด้วยนะขอรับ เพราะผมเหนื่อย ที่จะด่าคนที่สถุลเหมือนผมน่ะขอรับ ขอให้คุณ เป็นมนุษย์ที่ดีนะขอรับ อย่ามาบ้า อย่ามาสถุลเหมือนที่ผมเป็น นะขอรับ

ให้ผม สถุลและบ้า คนเดียวก็พอแล้ว ขอรับ
ขอบคุณ ขอรับ

 

พึ่งอ่านเห็นน่ะ เลย พึ่งเอามาตอบ ไม่ว่ากันนะครับ

พิจารณาน่ะ มีเอาไว้ใช้ เวลาคุยกัน แลกเปลี่ยน ความคิดเห็น เวลาทำงานร่วมกันกับคนอื่นครับ หรือ อ่านหนังสือ อ่านตำรา

เอามาใช้ร่วมกับ วิปัสสนา ไม่ได้ครับ เวลาปฏิบัติ สติปัฏฐานสี่นั้น ถึงเรียก วิปัสสนาครับ คือ ไม่คิด แต่ดู ด้วยสติ (ไม่ต้องคิด ดูอย่างเดียว)ดูกายใจทั้งหมดนะครับ โดยรวม ถึงเรียก สติปัฏฐานสี่ ถ้าดูฐานเดียว อย่างเดียวก็ ไม่เรียกสติปัฏฐานสี่แล้วครับ

 

เคยดูอย่างเดียวโดยใช้สติในการเห็นเวลานั่งสมาธิ ตัวนอกสังขารปรุงแต่งวจีกรรมเดี๋ยวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ในหลายๆ เรื่อง ตัวในการทำงานที่มีการเคลื่อนไหว ตัวดู หรือ สติ ก็รู้อยู่ แต่ก็เห็นว่ามันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่เที่ยง ทำไมละวางไม่ได้ ขณะที่เห็น

แต่ถ้าขณะที่กำลังกระทบสิ่งเร้าที่ทำให้เกิดอารมณ์พอใจไม่พอใจ ดูอารมณ์ที่เกิด เห็นว่ามันไหวกระเพื่อมอยู่ หาไม่มีสติยับยั้งไว้ จะต้องออกทางกาย หรือ วาจา แน่นอน จึงหาสิ่งที่เป็นเหตุผล หรือ เหตุที่เราไม่อดทนอดกลั้นระงับอารมณ์เอาไว้ จะต้องทำให้เราเกิดผลเสียต่อตัวเอง และทำลายความรู้สึกคนอื่น พอได้เหตุผลประกอบหลาย ๆ อย่าง สักพัก อารมณ์ก็สงบราบคาบ และ สามารถทำกุศลเพิ่มได้อีกด้วยนะคะ

อยากทราบว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น และ ถ้ามีสติก็ทำได้สบายมาก ถ้าไม่มีสติ ก็เป็นเหมือนเดิม แต่การแสดงออกดีกว่าเดิม ไม่รุนแรงเท่าเดิม และ ละอารมณ์ได้เร็วกว่าเท่านั้นเอง

หรือว่า ขนาดใดที่เรายังไม่เชื่้ออยู่ ก็ต้องคอยพยายามที่จะกำจัดอยู่ตลอดเวลาใช่ไหมค่ะ

 

ตัวที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา นั้นคือ มันทำงาน มันคิด คือใจกำลังทำงาน กำลังคิด มันพุ่งไปพุ่งมาอยู่แล้ว ทีนี้ตัวรู้ ที่ รู้อยู่ดูอยู่นั้น ตามทันมั้ยล่ะ ถ้าตามทัน ถึงจะเรียกว่า สติมีความสงบ และรู้ทันรวดเร็วแค่ รู้ทัน ตามทัน ความคิด เท่านั้นครับ ต้อง ดูด้วยความสงบต่อไปอีกครับ ว่า จุดเกิดความคิดนั้น มันเกิดตรงจุดไหนครับ คือ ต้องฝึกดูให้สงบกว่านี้ เพื่อ จะได้รู้ทันกว่านี้ คือ รู้การเกิดให้ทัน ไม่ไช่แค่รู้ทันความคิดเท่านั้น (รู้ทันความคิดคือยังช้าอยู่ เพระาความคิดเกิดมาแล้วเราแค่รู้ทัน) แต่ที่คุณ บอกคุณแค่เห็นมันคิดไปคิดมา แต่คุณ ยังตามรู้ไม่ทันเลยนะ

ส่วนเรื่อง อารมณ์วูบวาบ ที่รู้ ว่ากระเพื่อมนั้น มันแค่ อารมณ์ ที่ มัน แสดงกิริยา ให้รับรู้เท่านั้น ตัวจริงคือ ตัวสติรู้ทันรู้ไม่ทัน 1 ตัวความคิด 2 และตัวที่คิด 3

ถ้าเราฝึกสติรู้ทันความคิดจนเห็นจุดเกิด และ รู้ว่าความคิดเกิดจาก อะไร เราจะเห็น ตัวคิด เมื่อเราเห็นตัวคิด ตัวรู้หรือสติก็จะไม่ไปวิ่งไล่ตามความคิดอีก แต่จะ จดจ้อง ดู ตัวที่คิด เท่านั้น(ตัวนี้คือใจ)

 

โอ่.....นึกว่าเลิกเถียงกันแล้วนะนี่...เวรกั้ม...เวรกรรม

 

โธ่เอ๋ย ไอ้ผู้ใช้ชื่อว่า วงกลมจุด เอ็งมันก็แค่ " ไอ้พวกมารศาสนา 500 จำพวกเท่านั้น ทำเป็นอวดรู้อวดฉลาด ทำเป็นโอ่ว่า รู้จักปล่อยวาง อวดอุตริฯ แถมยังหน้าด้าน เถียงว่า รู้เรื่องคลื่นไฟฟ้า คลื่นไฟฟ้า...บ้านมึงซิ มีขั้วลบขั้วบวก ที่แท้มันก็สถุล ...เด...ฉาน นั่นแหละว้า