ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451

    สวัสดีค่ะ คุณ rescuelp


    ประสบการณ์ที่พบเจอน่าสนใจมากทีเดียว ซึ่งบางสิ่งบางอย่าง ถึงจะฟังจากการเล่าประสบการณ์ของบุคคลอื่น จากการรับทราบจากหนังสือ หรือจากแหล่งอื่น ๆ ก็ตาม อาจจะเข้าใจได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น

    แต่หากสิ่งนี้ได้เกิดขึ้นกับตนเองจริง ๆ ได้อยู่ในสถานการณ์นั้นจริง ๆ และถึงขั้นทำให้โมโหได้จริงนั้น นั่นหมายถึงสิ่งที่ตามองเห็น หูได้ยินเสียง และการสัมผัสที่สั่นสะเทือนจากการชนนั้น เป็นเรื่องจริง ที่คุณสัมผัสได้

    แต่ว่า ทุกอย่างที่เห็น กับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่กลับไม่จริง

    หากขณะนั้น ผู้ที่พบเจอเหตุการณ์นั้น ไม่ใช่ตัวคุณเอง ถึงใครบอก ใครเล่า ก็ยากจะเชื่อได้

    แต่เมื่อเราพบเจอ เราสัมผัส และเราเป็นผู้รับรู้เอง ความรู้สึกที่รับรู้ว่า สิ่งที่พี่สุดใจเคยเล่าไว้ในหลาย ๆ เรื่องนั้น พอที่จะมีน้ำหนักมากขึ้น มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และน่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เพียงแต่เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อได้นั่นเอง

    พี่สุดใจจึงต้องเล่าให้ฟัง เพื่อเพียง แจ้งให้รับรู้ไว้เท่านั้น หากวันใด ท่านใด ได้พบเจอกับบางสิ่งบางอย่าง ประสบการณ์ที่ยากอธิบาย อย่างที่คุณ rescuelp พบเจอมาด้วยตนเอง ก็จะได้ลองนำข้อมูลที่เคยอ่านผ่าน ๆ ไป จากกระทู้นี้มาพิจารณาอีกครั้ง เพราะหากไม่มีการนำมาเล่าไว้ก่อน ผู้ที่พบเจอเหตุการณ์แปลก ๆ เหล่านี้ ก็จะไม่มีข้อมูลในการพิจารณาเทียบเคียง อย่างที่คุณ rescuelp สามารถนำไปใช้เทียบเคียงได้ทันท่วงทีนั่นเอง

    ระบบ ได้เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า คุณ rescuelp ก็เป็นบุคคลหนึ่งที่ร่วมงานในระบบเดียวกันกับพี่สุดใจ ดังนั้น การพบเจอ การสัมผัสกับเรื่องของอุปกรณ์ เรื่องของมิติ เรื่องเหตุการณ์ที่ยากอธิบาย ก็ต้องมีให้เห็นคล้ายกัน

    และในช่วงนี้ ก็อยู่ในบทฝึกที่ต้องพบเจอกับเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวเพื่อทำความคุ้นเคยไว้ก่อนไปเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับการมีสติ ปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า คือได้ประโยชน์ตนไปพร้อมๆ กันด้วย

    เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย
    อะไรก็เกิดขึ้นได้
    อย่าตีกรอบ

    ยังใช้ได้อยู่เสมอในปัจจุบัน ทั้ง ๆ ที่ระบบได้กล่าวข้อความนี้ไว้หลายปีแล้ว

    พี่สุดใจขออนุโมทนากับคุณ rescuelp ด้วยนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2008
  2. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    สวัสดีครับพี่สุดใจ
    (มารออ่านต่อ)
    ผมกลับมาจาก หิมาลัย แล้วครับ
     
  3. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    กลับมาแล้ว..
    ไม่เล่าเสียเองละคะ

    คุณปาฏิหาริย์จะโพสต์รูปทริปไหมเอ่ย แฟนคลับอยากชมค่ะ
     
  4. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    แปลกดีครับ
    แบบนี้ทํางานหลายๆอย่างได้พร้อมๆกันสบายเลย
     
  5. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    เมื่อวันงานฉลองสมโภชน์เสาชิงช้า กรุงรัตนโกสินทร์ ใหม่ มีภาพที่ถ่ายได้และสงสัยมาก แต่ โพสต์รูปลงไม่เป็น ผู้รู้ช่วยแนะนำวิธีลงรูป ด้วยครับ
     
  6. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    สวัสดีครับพี่ vijit_j ผมว่าจะเข้ามาคุยด้วยตั้งแต่เห็นข้อความเมื่อคืนวันเดียวกันกับที่พี่โพสต์แล้ว แต่ผมหาข้อความเก่าที่พี่สุดใจเคยโพสต์ไว้นานแล้วที่เป็นเรื่องคล้ายๆ กันไม่เจอ ผมหามา 2 วันเพิ่งเจอครับ อยู่หน้า 31 ข้อความที่ 604

    เรื่องแปลก คือเรื่องปกติของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)ครับ ส่วนใหญ่ในแต่ละเรื่องที่แต่ละท่านได้เข้ามาอ่านก็จะดูว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ ก็ได้แต่อ่านบ้างไม่อ่านบ้างผ่านๆ ไป แต่ก็อย่างที่ทั้งพี่สุดใจและผมได้เรียนแล้วว่าเป็นการแจ้งเพื่อทราบไว้ก่อน และหลังจากนั้นในแต่ละท่านที่เป็นคนระบบไม่ว่าจะรู้ตัว หรือไม่รู้ตัวก็ตาม ก็จะทยอยกันเจอะเจอกับประสบการณ์ในทำนองคล้ายๆ กับเรื่องแปลกๆ ที่เคยลงไว้ในกระทู้นี้ ก็พอจะนำไปเทียบเคียงได้

    ที่พี่สุดใจ ต้องนำมาเล่าไว้ก่อนล่วงหน้านั้น ก็เพื่อให้ทุกท่านได้ทราบไว้ก่อนน่ะครับ เพราะหากพบเจอเหตุการณ์อย่างที่พี่vijit_j พบเจอ หรือท่านอื่นๆ ที่ไปประสบพบเจอเรื่องราวแปลกๆ ซึ่งจะมีปรากฏขึ้นตามมาในภายหลังนั้น ก็พอจะเป็นการยืนยันว่าเรื่องต่างๆ ที่พี่สุดใจเคยเล่าไว้นั้นมีขึ้นได้จริงๆ ซึ่งท่านที่พบเจอประสบการณ์นั้นๆ ด้วยตนเองเท่านั้นที่จะมั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง

    เรื่องที่ผมCopyมาลงข้างล่างนี้พี่vijit_j คงเคยอ่านแล้ว แต่ผมขออนุญาตนำมาลงเพื่อให้เพื่อนที่ยังไม่เคยอ่านได้ลองมาเทียบเคียงกันดูครับ บางท่านอาจจะเรียกว่า เดจาวู หรืออะไรประมาณนั้นนะครับ แต่ทางกลุ่มฯ ให้มองเรื่องแปลกๆ ทั้งที่เคยเจอมาแล้วและที่ยังไม่เคยเจอ ด้วยการปล่อยวางว่า "อ๋ออย่างนี้ก็มี" ครับผม



    <TABLE class=tborder id=post829451 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] 24-11-2007, 12:01 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#604 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>สุดใจเขากะลา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_829451", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 01:15 PM
    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 50 ปี
    ข้อความ: 464 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 149 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 9,974 ครั้ง ใน 474 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 958 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]








    </TD><TD class=alt1 id=td_post_829451 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อีกเรื่องก็น่าสนใจพอกัน และมีหลักฐานอ้างอิงเช่นกัน

    คุณโสภา ผู้รับผิดชอบแผนกประชาสัมพันธ์ 60 บุคคล ได้เดินทางกลับบ้านที่ลำพูน และในช่วงที่พักอยู่ที่ลำพูนนั้น ก็มีการพบเจอเพื่อน ๆ ที่นั่นด้วย
    ในวันหนึ่ง ได้มีโทรศัพท์จากเพื่อนท่านหนึ่ง เป็นปลัดอยู่ที่ลำพูนนั่นเอง โทรศัพท์มาคุยด้วยหลายเรื่อง และปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับครอบครัว เรื่องงาน และเรื่องอื่น ๆ หลายเรื่อง ซึ่งคุณโสภาก็ให้คำแนะนำไปในช่วงนั้น คุยกันนานมาก ประมาณ 1 ชั่วโมงทีเดียว
    คุยกันตอนเช้า ตอนบ่ายคุณโสภาก็โทรมาหาคุณวาสนา เล่าเรื่องที่เขามาปรึกษาให้ฟัง ซึ่งคุณวาสนา ก็ได้บอกว่า ให้แนะนำอย่างนี้ดีกว่า เพราะเขาจะเข้าใจได้มากกว่าที่คุณโสภาแนะนำไป ซึ่งพี่สุดใจก็อยู่ด้วยในตอนที่คุณโสภาโทรมาบอกตอนนั้น

    แต่พอวันรุ่งขึ้น คุณโสภาก็ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนที่เป็นปลัดท่านนี้โทรมาหา และเริ่มต้นสนทนาเหมือนเมื่อวานนี้ ก็สงสัยว่า เอะ เมื่อวานก็บอกเรื่องนี้แล้ว ทำไมมาพูดอีกเหมือนยังไม่เคยบอกมาก่อน แต่ก็ฟังต่อไป ยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนสิ่งที่พูดเมื่อวานนี้ และก็เลยคิดว่า ถ้าพูดเรื่องนี้เสร็จ ต้องพูดประโยคนี้ต่อแน่ ๆ ก็ปรากฏว่าพูดประโยคนั้นขึ้นมาจริง ๆ และสุดท้ายก็ถามคำถาม ที่เคยถามเมื่อวานและขอคำปรึกษา
    ในครั้งนี้ คุณโสภา จึงให้คำปรึกษาแบบใหม่ที่คุณวาสนาแนะนำมาเมื่อวานไปแทน และหลังจากนั้น ก่อนจบการสนทนา ก็พูดแบบเดิมทุกคำเลย คุณโสภาก็ยังงง ๆ เพราะเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก

    หลังจากวางสายไปแล้ว ก็โทรมาเล่าให้คุณวาสนาฟังเลย เพราะว่างงมาก ซึ่งในตอนนั้น ต่างคนต่างก็ยังไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน

    แต่เมื่อมีการประชุมในเวลาต่อมา ระบบได้เฉลยให้ฟังว่า มีการก๊อปปี้สิ่งที่จะเกิดในวันข้างหน้ามาไว้ให้ทราบก่อน เพื่อเป็นตัวอย่างว่า เขาสามารถที่จะรู้ว่าจะเกิดอะไร ที่ไหน เมื่อไร แต่ที่ทำนี้ก็เพื่อการฝึกฯ และเป็นตัวอย่างในการเรียนเท่านั้น

    และมีการอธิบายเพิ่มเติมว่า บางครั้ง มีบางคนมองเห็นภาพ ที่เป็นสถานที่ต่าง ๆ หรือบุคคลต่าง ๆ ล่วงหน้านั้น อาจสงสัยว่าเขาเห็นได้อย่างไร?

    สำหรับผู้ที่ฝึกสมาธิ หรือมีการปฏิบัติจนจิตละเอียดจนมีความเบา ก็สามารถเชื่อมต่อกับธรรมชาติได้ ก็จะเห็นได้ตามกฏธรรมชาติ แต่สำหรับคนที่ระบบได้วางไว้ ก็จะมีการทำภาพให้เห็น เป็นการเชื่อมโยงเข้าสู่ระบบ

    วิธีการทำก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขา เขายกตัวอย่างว่า เหมือนเรามีกล้องถ่ายรูป ก็ไปถ่ายรูปวัดใดวัดหนึ่งมา เมื่อเราอัดภาพออกมา มันก็เป็นภาพวัดที่เราไปถ่ายมานั่นเอง เป็นเรื่องปกติ เพราะเราถ่ายภาพวัดนี้มาก่อน แล้วเมื่อเห็นภาพวัดนี้อีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเคยไปมาแล้ว และถ่ายรูปมาแล้วนั่นเอง

    แต่ของมนุษย์ต่างดาว ออกไปถ่ายภาพวัดนั้นในอนาคตมาให้บุคคลนั้นเห็นก่อนล่วงหน้าสามเดือน จะจากสมาธิ หรือจากการฝัน หรือจากช่องทางใด ๆ ก็ตาม พอสามเดือนต่อมา บุคคลนั้นได้มีไปที่วัดนี้ จะรู้สึกว่า เหมือนเราเห็นวัดนี้มาก่อน ก่อนที่จะมาไหว้ในวันนี้เสียอีก ก็จะประทับใจ และรู้สึกคุ้นเคยกว่าวัดอื่น ๆ น่ะเอง

    เรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกของมนุษย์ต่างดาว ดังนั้น การเห็นภาพล่วงหน้า แล้วเกิดขึ้นจริงในเวลาต่อมา เป็นสิ่งที่เขาทำขึ้นมาจนเป็นปกติ ในการเชื่อมต่อกับความคิดของมนุษย์ เพื่อทำความคุ้นเคยไว้ก่อน และเป็นการผ่านอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งของเขานั่นเอง

    ดังนั้น เสียงโทรศัพท์ที่เข้ามาคุยเป็นชั่วโมงล่วงหน้าที่คุณโสภาเจอ ก็ไม่มีใครโทร ไม่มีใครเสียค่าโทรศัพท์ในช่วงนั้น แต่เป็นการ อัดเสียงล่วงหน้ามาให้ฟังก่อน แล้วช่วงเวลานั้น ก็จะมีการโทรเข้ามาจริง ทุกคำพูด ทุกคำถาม จะเหมือนจากเสียงที่อัดมาให้ฟังล่วงหน้าทุกอย่าง

    อ้อ แถมอีกนิด วันนั้นอยู่กัน 3 คนในห้อง มีโทรศัพท์มาหาคุณโสภา เดินไปรับไม่ทันวางไปก่อน คุณโสภาดูเบอร์แล้วก็บอกไม่เคยเห็นเบอร์นี้มาก่อน ก็เลยไม่ได้โทรกลับไป พออีกสักสองชั่วโมงก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก คุณโสภาก็เดินมาจะรับสาย แต่ก็วางไปอีก เบอร์เดิม และช่วงบ่าย โทรมาเป็นครั้งที่สาม คุณโสภารีบรับเลย ก็ปรากฏว่าป็นเพื่อนสนิทที่เปลี่ยนหมายเลขใหม่ เลยไม่ได้บันทึกชื่อไว้ ก็เลยถาม

    อ้าว เบอร์เธอหรือนี่ ไม่รู้เลยไม่ได้โทรกลับไป
    เธอจะไม่รู้ได้ยังไง ก็เราโทรมาคุยกับเธอเมื่อเช้าตั้งสองครั้งแล้ว เธอจะไม่รู้ได้ยังไง
    อ๋อ เราคุยกับเธอไปแล้วเหรอ ?
    เพื่อนก็หัวเราะคุณโสภา บอกว่า เธอจะบ้าเหรอ ก็คุยกันอยู่ตั้งนาน ทั้งสองครั้ง
    คุณโสภาก็เลยถามว่า คุยอะไรไปบ้างล่ะ?
    เพื่อนก็บอกว่า ก็คุยเรื่อง( เรื่องเพื่อนคนอื่น ๆ บ้าง เรื่องทั่วไปบ้าง.......). ไงล่ะ
    อ๋อ..เหรอ เราชักจะลืม ๆ ช่วงนี้ (ต้องบอกไปอย่างนี้ เพราะรู้ว่ามีการก๊อปปี้เสียงไปคุยแทนแล้ว)

    จริง ๆ แล้ว เพราะพี่สุดใจ คุณวาสนา คุณโสภา อยู่รวมกันเหตุการณ์นี้ทั้งสามคน และเป็นพยานว่าไม่ได้มีการรับโทรศัพท์หมายเลขนี้เลย ทั้งสองครั้ง แต่มีคนคุยแทนเสร็จเรียบร้อย

    เรื่องราวเกี่ยวกับโทรศัพท์มีอีกหลายตัวอย่าง สำหรับพี่สุดใจ ก็มีบ่อยมาก เดี๋ยวคนโน้นโทรมา บอกว่าพี่สุดใจโทรไปหา ก็โทรกลับมา พี่สุดใจก็เลยเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ติดต่อคนนี้มานานแล้ว บางครั้งก็มีการโทรไปฝากข้อความไว้ และอีกหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับเรื่องโทรศัพท์ จนเดี๋ยวนี้ รู้ว่า ใครที่ติดต่อเข้ามา และพี่สุดใจไม่ได้เป็นผู้โทรไป ก็แสดงว่าระบบติดต่อแทน และเขาจะต้องได้รับรู้ข้อมูลอะไรบ้างนั้น ระบบจะเป็นผู้ส่งข้อความลงมาเอง เมื่อมีตัวอย่างมากขึ้น พี่สุดใจก็ไม่ต้องกังวลเรื่องใด ๆ อีก

    เป็นบางตัวอย่างที่เล่าให้ฟังเพื่อเทียบเคียง หลาย ๆ ท่านอาจเจอเรื่องราวแปลก ๆ ก็มาคุยให้ฟังบ้างนะคะ จะได้นำตัวอย่างที่เคยพบมาแล้ว มาเพิ่มเติมเพื่อเทียบเคียงค่ะ
    <!-- / message --><!-- edit note -->
    <!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุดใจเขากะลา : 26-11-2007 เมื่อ 08:49 PM.
    <!-- / edit note -->





    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 เมษายน 2008
  7. Aspn

    Aspn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +5,303
    ธรรมะทำให้คนเราใจเย็นขึ้น...เรื่องอุบัติเหตุเกิดจากความประมาทของคน ก็คงไม่มีใครตั้งใจอยากให้เกิดขึ้นหรอกครับ ร้อยพ่อพันแม่คนเรามีนิสัยไม่เหมือนกัน จะให้ทุกคนเป็นไปตามที่เราคิดหมดก็คงไม่ได้ ในเมื่อเราต้องอยู่ในยุคสังคมแบบปัจจุบันนี้ก็ต้องพยายามปรับตัว เลี่ยงได้ก็เลี่ยงซะ ยอมได้ก็ยอม ก็ถือซะว่าเป็นการบำเพ็ญขันติบารมีไปซะก็แล้วกัน โมโหไปแรงไปก็เท่านั้น จะทำให้เรื่องมันแย่ลงเปล่าๆ

    เหตุการณ์ของคุณ rescuelp ยังดีครับยังน้อย อยากจะเล่าเหตุการณ์เกิดอุบัติเหตุเรื่องรถเมื่อปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาให้ฟัง ผมนั่งรถมากับบ้านแฟนจะไปธุระเยี่ยมญาติกัน ยังไม่ทันถึงถนนแยกใหญ่ดี ช่วงไฟเขียวเห็นมาแต่ไกลพอดี ทีนี้แต่ละคัน รถที่ตามมาข้างหลังก็เร่งขึ้นไปเพื่อที่จะให้ทันไฟเขียวกัน จังหวะมีรถกระบะแคปเจ้ากรรมปาดจากซ้ายเข้ามาข้างหน้าอย่างกระทันหัน และเป็นจังหวะเปลี่ยนไฟแดงพอดี จึงทำให้รถกระบะแคปที่ปาดเข้ามาไม่สามารถไปต่อให้พ้นไฟแดงได้และเบรคกระทันหัน เลยทำให้คันเราก็ต้องเบรคกระทันหันด้วยเหมือนกัน ยังไม่ทันจะเบรคดีได้ยินเสียงเอี๊ยด.สั้นๆแล้วก็โคร้มมตามมา..รถเราถูกชนหลังกระแทกอย่างแรง..ทำให้รถเรากระเด็นไปจิ้มกระบะคันข้างหน้าที่ปาดมานิดนึง ใจนึกเป็นเรื่องแล้วไงล่ะ ไม่อยากจะหันไปดูเลย คงจะยุบเยอะเรื่องใหญ่แน่ พอลงไปดู..ที่ไหนได้ รถเรากลับไม่เป็นอะไรมาก(CRV)ฝาครอบล้อเสริมด้านหลังเป็นรอยถลอกนิดหน่อย และใต้ตรงพลาสติกสะท้อนแสงบุบเข้าไปติ๊ดนึง เรียกได้ว่าแทบไม่เป็นอะไรเลย ..แต่รถที่ชนหลังเราเป็นแท๊กซี่มิเตอร์(..อันติ๊ดๆ) ..กระโปรงหน้ายุบเข้าไปทางด้านขวา หม้อน้ำแตก หลังก็โดนชนต่อกันมาอีก เรียกได้ว่าหมดซะภาพไปต่อไม่ได้แล้ว คันท้ายสุดที่ชนก็เป็นกระบะรถคนงานหน้ายุบหม้อน้ำแตกเหมือนกัน ..แต่กระบะแคปที่ปาดคันหน้าเราที่คันเรากระเด็นไปชนก็ไม่เป็นไรแค่เหล็กกันชนหลังบุบติ๊ดเดียว แต่พอดูหน้ารถเราก็ไม่เป็นอะไร ..ทางเราก็เลยเคลียร์กันแยกย้ายกันไปเสียเวลาเปล่าเพราะไม่ได้เป็นอะไรกันมาก เลยไว้ให้คันที่หนักๆสองคันหลังอยู่รอประกันเคลียร์กันเองต่อไป..

    จากเหตุการณ์ของผมนี้ อยากจะถามว่าแล้วอะไรเป็นสาเหตุทำให้รถชนกันละ

    -ถ้ากระบะคันหน้าไม่ปาดมารถมันจะชนไหม
    -ถึงจะปาดมาแต่ถ้าเราและคันอื่นขับมากันช้าๆแต่ละคันเบรครถทันรถจะชนไหม
    -ถึงรถจะปาดมา แต่ถ้าไฟจราจรยังเขียวอยู่ไม่เปลี่ยนเป็นไฟแดงซะก่อน รถเรา รถที่ตามมา วิ่งไปได้เรื่อยๆ รถจะชนกันไหม
    -ถ้าออกจากบ้านมาช้าหรือเร็วกว่านั้นจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นไหม
    -หรือว่าถ้าไม่ออกไปทำธุระละจะเกิดเหตุการณ์ไหม
    ฯลฯ(อีกเยอะแยะตาแปะ..)

    คำตอบที่ได้คือ
    ไม่มีข้อไหนถูกและผิดทั้งหมด อย่าตีกรอบ..อย่าไปนั่งคิดให้ปวดหัวเลยครับไม่มีประโยชน์ เรื่องมันเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัยของแต่และสิ่งที่ลงตัวกันพอดี ให้คิดซะแค่ว่า "อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด"เพราะว่ามันต้องเกิด มันเป็นเช่นนั้นเองครับ

    และถ้าถามว่าทำไมรถเราถึงไม่ค่อยเป็นอะไรมากล่ะ

    - เกิดปาฏิหารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องดูแล
    - เป็นเพราะระบบทำหรือเปล่าน๊า...
    - รถเราแข็งแรง และแถมมีล้อเสริมข้างหลังที่แข็งคอยป้องกันไว้ชั้นนึงเลยไม่เป็นอะไร
    - รถแท็กซี่(อันติ๊ดๆ)ที่ชนเราค่อนข้างบางเลยทำให้รถเขาเกิดความเสียหายมากกว่าดูรุนแรงเยอะมากกว่า
    - เกิดจากแรงปะทะที่ถ่ายเทจากคันหลังมาผ่อนแรงจึงทำให้แรงปะทะเบาลง(มั้ง)จึงทำให้รถเราเสียหายน้อยกว่าหรือไม่แทบไม่เป็นอะไรเลย (ดูสิคันหน้าเรากันชนยังบุ๋มไป นิ๊..เดีย..)
    - ฯลฯ

    คำตอบคือ
    ก็อาจจะเกิดจากสาเหตุที่กล่าวมาได้หมด...เพราะอย่าตีกรอบ ช๊ะ..ม๊า..(แต่สำหรับตัวผมเอง จะขอไล่เรียงยึดตามหลักเหตุผลที่จับต้องได้เป็นรูปธรรมก่อน เดี๋ยวจะกลายเป็นอุปทานไปซะก่อน ..ถ้าหากสิ่งไหนดูท่าแล้วไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง มีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น ถึงจะค่อยๆว่ากันในสเต็ปต่อไป )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 เมษายน 2008
  8. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    ขออนุโมทนาครับ

    อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีตัวอย่างจากคุณO.A.T.นี้ โดยปกติก็อาจเป็นได้หลายสาเหตุ แต่ผู้ที่อยู่ในระบบก็จะต้องมีสติคอยดูอยู่ตลอดเวลา ระบบมุ่งเน้นไม่ให้คิดปรุงแต่งต่อเนื่อง ไม่ให้เห็นเป็นปาฏิหาริย์ ชนนิดเดียวรถอาจจะพังเยอะ หรือชนเยอะอาจจะบุบนิดเดียวก็ได้ ไม่ว่าตามธรรมชาติชนแล้วต้องเป็นอย่างนี้ หรือระบบทำต้องเป็นอย่างนี้ อุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมันก็ต้องเป็นเช่นนั้นเองอยู่แล้ว หรือถ้าเป็นเรื่องที่ระบบสร้างสถานการณ์ขึ้นมันก็เป็นเช่นนั้นเองเหมือนกัน

    สำหรับผู้ที่ฝึกกับระบบ ให้คิดว่าทุกอย่างที่เจอนั้นคือการฝึกการกระทบจิต เป็นการฝึกการปล่อยวาง ถ้ามองเห็นได้ว่าเป็นรูปแบบการฝึกในสถานการณ์จริงแล้ว การที่รถชนกันแล้วบุบไม่ว่าจะมากหรือน้อย แต่มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว จะย้อนกลับมาไม่ให้มันไม่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ แต่คนที่ขับรถนั้นอาจจะทุกข์ก็ได้ ไม่ทุกข์ก็ได้ แล้วแต่การคิดของแต่ละคนในขณะนั้น

    เหมือนกับรถที่มีประกันถ้าไปชนมาประกันรับผิดชอบเราก็ไม่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องค่าซ่อมค่าใช้จ่ายต่างๆ ผู้ที่ขับไปชนนั้น ก็ย่อมจะทุกข์น้อยกว่า ผู้ที่ไม่ได้มีการประกันไว้ เพราะต้องหาเงินมาซ่อมทั้งของตนเอง และของผู้ที่เราไปชนด้วย ความทุกข์จึงต้องมากกว่าผู้ที่ไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะมีผู้รับผิดชอบแทนอยู่แล้ว

    ดังนั้น ผู้ที่รู้ตัวว่าทำงานกับระบบ จึงถูกสอนให้ปล่อยวางความคิด ไม่ปรุงแต่งต่อ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรที่มันแปลกๆ ขึ้นมา ก็จะไม่คิดไปในทางเป็นความอัศจรรย์ เป็นปาฏิหาริย์ แต่จะคิดซะว่าระบบทำอีกแล้ว จากนั้นก็จัดการไปตามส่วนที่มันควรจะเป็น จิตก็จะไม่หวั่นไหว ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์น่าหวาดหวั่น นั่นก็คือการปล่อยวางได้เลยในขณะนั้น

    ซึ่งเหตุการณ์ที่ต้องกระทบกระทั่งกับผู้อื่นเช่นกรณีรถชนกันนี้ สำหรับคนที่ปฏิบัติธรรมก็อาจจะคิดเป็นกุศโลบายให้กับตัวเองว่า เป็นเพราะวิบากกรรมของเราบ้าง หรือถึงคราวเคราะห์ของเราบ้าง ก็จะไม่ทุกข์มาก หรือไม่ต้องเอาเรื่องกันหากเสียหายแค่เล็กน้อย ก็จะเห็นว่า การคิดเช่นนี้ก็เป็นการปล่อยวางในทางธรรมะ โดยเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นวิบากเก่าไปเสีย ความโมโห ความโกรธแค้นก็จะไม่มี ความทุกข์ก็จะไม่มีตามไปด้วย

    จะเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์เดียวกัน แต่ว่าความคิดต่างกัน ทั้งนี้ระบบก็จะมุ่งเน้นให้ปล่อยวางให้ได้ในขณะนั้นเลย คือคิดยังไงให้ทุกข์น้อยที่สุด

    ส่วนเรื่องบุบมากบุบน้อย ถ้ามันผิดจากปกติธรรมชาติที่น่าจะเป็น พอเรารู้ว่าสงสัยระบบทำเราเข้าอีกแล้ว ก็ให้คิดว่าไม่ใช่เรื่องปาฎิหาริย์อะไรที่ต้องคิดปรุงแต่งต่อหรอกนะครับ ให้มองด้วยความเข้าใจว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 เมษายน 2008
  9. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    UFO ร่วมงานสมโภชน์เสาชิงช้ากรุงรัตนโกสินทร์?????
    รูปวันงานฉลองเสาชิงช้าใหม่
    เปรียบเทียบ ปกติ และไม่ปกติ
    มีจุดขาวๆที่ไม่ใช่จันทร์ ดาวและอาคารใด ลอยอยู่เหนือ ศาลาว่าการ กทม.
    ณ วันงานไม่เห็นจุดนี้ มาเห็นภายหลังจากนำรูปมาลงคอมฯ งง?มากครับ
    ช่วยวิเคราะห์ทีครับ??? ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
    DSC03041.jpg
    รูปปกติ ไม่มีอะไร
    UFO1.jpg
    UFO2.JPG
    จะเห็นว่าจุดขาวนั้น เปลี่ยนตำแหน่ง มาอยู่ข้างธงชาติ
    (คนในรูปคือเพื่อน เป็น ผอ.รพ.อ.คำชะอี ที่มีวัดหลวงปู่จาม)
    ส่งรูปให้เขาดู ก็งงเหมือนกัน ว่ามันคืออะไร???
    DSC03064.jpg
    รูปปกติ
    UFO3.JPG
    UFO4.jpg
    จุดขาว เปลี่ยนตำแหน่ง อีกแล้ว
    สรุป มันคืออะไร???????????


    ขออนุญาตนอกเรื่องนิดนะครับ
    ภาพเมื่อครั้งไปร่วมทำบุญบริจาคสร้าง ศูนย์การแพทย์แผนไทย รพ.อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
    จึงถือโอกาส ไปกราบนมัสการ หลวงปู่จาม และ เจดีย์แม่ชีแก้วเสียงใส อยู่ใกล้กัน

    หลวงปู่จาม1.JPG
    หลวงปู่จาม2.JPG
    DSC01634.JPG
    DSC01658.JPG

    หลวงปู่จาม ท่านได้ บุพเพนิวาสานุสสติญาณ แล้วครับ ทราบเพราะท่านเล่าให้ฟังถึงชาติภพทั้งหลายของท่านที่ผ่านๆมานับไม่ถ้วน(ปล.ท่านไม่ได้ยินแล้ว จะถามต้องเขียนเอาครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2008
  10. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    มาช่วยขยายความ ที่ผ่านมาบทเรียนเข้มข้นมาก เมื่อสอนในฝันแล้วไม่เข้าใจ ก็มาให้เห็นในชีวิตจริง ๆ เลย จินตวดีก็เลยทั้งซาบและซึ้ง
    ที่เขามาบอกในฝันว่า "ให้ปล่อยวางอย่ายึดติด" เมื่อไม่เข้าใจถ่องแท้ ก็ริบความสามารถคืน เมื่อมีได้ เห็นได้ ก็สูญได้เช่นเดียวกัน
    ที่เขาบอกในฝันว่า "ให้รู้ว่าเป็นเช่นนั้นเอง" เมื่อไม่เข้าใจ ก็มีประสบการณ์จริง ๆมาให้ซาบซึ้งกับคำนี้โดยเฉพาะ เพราะที่สุดแล้ว ก็จะอยู่ที่ "มันต้องเป็นเช่นนั้นเอง"

    พอเห็นว่าเราซาบซึ้งและเข้าใจพอจะเริ่มปล่อยวางได้แล้ว ความสามารถก็คืนกล้บมาเหมือนเดิม แต่คราวนี้ไม่ได้รู้สึกว่ามันวิเศษวิโสอะไรอีกแล้วเพราะเรารู้และซาบซึ้งแล้วว่า ไม่มีอะไรจีรัง การเกิดดับเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีได้ ก็ย่อมสูญได้เช่นกัน ต้องปล่อยวาง เมื่อรู้เห็นแล้ว ก็ต้องปล่อยไป ให้รู้ว่ามันเป็นเหตุเป็นผล มันต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว และต้องตั้งอยู่กับความไม่ประมาท ไม่ให้ตื่นเต้น
    จริงเรียนรู้ที่จะอยู่นิ่ง ๆแล้ว แต่มาเล่านี่เพราะอยากเสริมให้เข้าใจคำที่คุณสุดใจ และ คุณ NO. 9 พยายามอธิบาย
     
  11. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451

    ขอขอบคุณ คุณ no.9 ค่ะ ที่ได้ไปค้นหาข้อมูลเก่ามาประกอบเพื่อเทียบเคียงกับสิ่งที่คุณ vijit_j ได้พบเจอมา

    สำหรับประสบการณ์ใกล้เคียงกันนี้ พี่สุดใจเคยพบเจอ มี 2 ครั้ง แต่นั่นหลายปีมาแล้วนะคะ และพี่สุดใจก็ลืมไปแล้วด้วย หากไม่ได้มาอ่านประสบการณ์ของคุณ vijit_ j ที่ได้นำมาเล่าให้เพื่อน ๆ สมาชิกฟัง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อย่างที่พี่สุดใจเคยบอกไว้ว่า มีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น นั่นเมื่อช่วงฝึกก่อนเข้าสู่ระบบทำงาน ประมาณปี 2545
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2008
  12. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451

    สวัสดีค่ะ คุณจินตวดี<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ได้อ่านข้อความของคุณผ่านทางโพสในกระทู้นี้ และบางส่วนจากข้อความที่ส่งมาถึงพี่สุดใจโดยตรงนั้น ทำให้ทราบว่า คุณจินตวดี ก็ได้รับการฝึกแบบเดี่ยว มาไม่น้อยเลย และรูปแบบการฝึกนั้น ก็ฝึกมุ่งเน้นเพื่อการปล่อยวางโดยตรงเช่นกัน โดยรูปแบบการสอนก็จะคล้ายกัน คือการดึงเอาการยึดติดในแต่ละเรื่อง แต่ละรูปแบบ ของแต่ละคนออกมาสอน คือใครยึดติดเรื่องไหน ก็สอนเรื่องนั้น คือสอนตามจริตแบบตัวต่อตัวเลยทีเดียว <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    วิธีการส่วนมากที่จะคล้ายกันก็คือ มีกระบวนการล่อหลอกให้กิเลสที่มีอยู่โชว์ออกมา แล้วระบบก็จะปล่อยให้ใหลไปตามความอยาก ความชอบสักพัก แล้วหักมุมกลับทันที ก็จะทุกข์กันไปพักใหญ่ แล้วก็จะเอาเหตุแห่งทุกข์นั่นแหละมาสอน ให้เห็นสัจธรรม ความเป็นเช่นนั้นเองของทุกสรรพสิ่ง ที่มันไม่ได้เป็นตัวใครของใคร ถ้ายังยึดอยู่ก็ทุกข์ไป ถ้าปล่อยวางได้ก็สบายไป เรียกว่าสอนตามจริตของแต่ละคนนั่นเอง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    พี่สุดใจได้เคยกล่าวไว้ก่อนแล้วว่า เรื่องของภัยพิบัติ จะมีหลายกลุ่มแยกย่อยกันไป และแต่ละกลุ่ม การสื่อสารกับเทพฯก็มี กับพรหมก็มี กับเทวดา หรืออาจารย์ต่าง ๆ ก็มี หรือพระปฏิบัติที่ละสังขารไปแล้ว หรือแม้แต่กับมนุษย์ต่างดาวก็ตามที มีแยกย่อยออกไปมากมายหลายกลุ่ม ดังนั้น ทุกกลุ่ม หรือในรายบุคคล ก็จะมีการรับข้อมูลกันลงมาจากแต่ละจุดที่สื่อสารด้วย ดังนั้น วิธีการสอน วิธีการปฏิบัติของแต่ละกลุ่มจึงไม่เหมือนกัน หลากหลายรูปแบบ แต่โดยรวมทุกกลุ่มก็จะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือมุ่งเน้นการปฏิบัติทางจิตเป็นส่วนใหญ่ เพื่อเตรียมการรับมือกับเรื่องของภัยพิบัตินั่นเอง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ก็ขออนุโมทนากับคุณจินตวดีด้วยนะคะ เพราะการฝึกในรูปแบบที่คุณกำลังพบเจอนี้ เรียกว่า อัดความทุกข์มาให้ แล้วเอาความทุกข์นั้นมาสอน เช่นถ้าห่วงอะไร เขาก็จะเพิ่มความห่วงให้มากขึ้น กังวลเรื่องอะไร เขาจะเพิ่มความกังวลให้มากขึ้นเป็น 2
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2008
  13. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    คุณพี่สุดใจ ช่วยอธิบายรูปที่ผมลงด้วยครับ คาใจมากๆๆๆๆๆ
     
  14. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    สวัสดีค่ะ คุณ yutkanlaya

    ขอขอบคุณนะคะที่กรุณานำภาพที่บันทึกได้มาโพสให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้รับชมกัน

    ค่ะ ก็คงต้องขอความเห็นจากหลาย ๆ ท่านในเวปไซด์นี้ช่วยกันวิเคราะห์ภาพนี้ด้วยนะคะ อาจจะมีหลายความเห็น หลายมุมมองแตกต่างกัน


    ในการทำพิธีใหญ่ ในงานใหญ่ที่จัดขึ้นตามสถานที่สำคัญ ๆ ต่าง ๆ มักจะมีการพบเห็นวัตถุแปลก ๆ เสมอ

    ดังนั้น จึงขอนำภาพวัตถุแปลก ๆ ที่ปรากฏขึ้นที่สนามหลวง เมื่อคืนวันที่ 4 ธันวาคม 2550 มาให้ชมกัน ซึ่งคุณ ukrin ได้ไปถ่ายมา จากบูธของ ดร.เทพนม เมืองแมน ในการจัดแสดงนิทรรศการ UFO ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 12

    เป็นภาพการจุดพลุเทิดพระเกียรติที่สนามหลวง คืนวันที่ 4 ธันวาคม 2550 และมีผู้บันทึกภาพวัตถุบินทรงกลมที่ลอยอยู่ และพุ่งเข้าหาพลุนั้นไว้ได้

    เนื่องจากพี่สุดใจไม่ได้ไปร่วมงานในวันนั้น จึงทราบรายละเอียดเพียงเล็กน้อย จากคุณ ukrin เท่านั้น แต่หากท่านใดทราบรายละเอียดมากกว่านี้ หรือข้อมูลคลาดเคลื่อนประการใด ก็เพิ่มเติมได้นะคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMGA0893.JPG
      IMGA0893.JPG
      ขนาดไฟล์:
      111 KB
      เปิดดู:
      61
    • IMGA0894.JPG
      IMGA0894.JPG
      ขนาดไฟล์:
      109.4 KB
      เปิดดู:
      48
    • IMGA0895.JPG
      IMGA0895.JPG
      ขนาดไฟล์:
      111.7 KB
      เปิดดู:
      49
    • IMGA0896.JPG
      IMGA0896.JPG
      ขนาดไฟล์:
      113.2 KB
      เปิดดู:
      44
    • IMGA0897.JPG
      IMGA0897.JPG
      ขนาดไฟล์:
      111.4 KB
      เปิดดู:
      48
    • IMGA0898.JPG
      IMGA0898.JPG
      ขนาดไฟล์:
      111.1 KB
      เปิดดู:
      43
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2008
  15. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ตอนแรกคิดว่าจะยังไม่เข้ามาโพส เพราะมีธุระต่อเนื่องในวันนี้ แต่ตลอด 3 วันมานี้ ได้มีการเรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 29 , 30 เมษายน และ 1 พฤษภาคม 2551 ก็คือวันนี้ ที่เพิ่งพบเจอสักครู่ที่ผ่านมา จึงต้องนำเหตุการณ์ที่พบเจอจริงเหล่านั้นมาเล่าไว้ ณ ที่นี้

    เพราะตั้งแต่เข้าสู่ระบบทำงานปีที่ 5 เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2551 รู้สึกว่าระบบจะมีการสอนด้วยอุปกรณ์ถี่ขึ้น มากขึ้น และเข้มข้นยิ่งขึ้น เหมือนเร่งให้มีการปล่อยวางให้เร็วขึ้น ดังนั้น แต่ละเหตุการณ์ที่พบเจอ ไม่ว่าจะแปลกยังไง ก็ต้องมีสติมาให้ทัน รู้ เข้าใจ ปล่อยวาง ให้ได้ในขณะนั้นเลย

    ค่ะ ก็คงต้องขอลัดคิวเรื่องอื่น ๆ ที่ติดค้างไว้ก่อนนะคะ มาฟังเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นในวันสองวันนี้ก่อนนะคะ

    พบกันในโพสถัดไปค่ะ ในช่วงบ่าย
     
  16. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    <TABLE class=tborder id=post1162038 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 09:59 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1480 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>สุดใจเขากะลา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1162038", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 10:00 AM
    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 50 ปี
    ข้อความ: 468 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 159 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 10,000 ครั้ง ใน 477 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 958 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1162038 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ตอนแรกคิดว่าจะยังไม่เข้ามาโพส เพราะมีธุระต่อเนื่องในวันนี้ แต่ตลอด 3 วันมานี้ ได้มีการเรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 29 , 30 เมษายน และ 1 พฤษภาคม 2551 ก็คือวันนี้ ที่เพิ่งพบเจอสักครู่ที่ผ่านมา จึงต้องนำเหตุการณ์ที่พบเจอจริงเหล่านั้นมาเล่าไว้ ณ ที่นี้

    เพราะตั้งแต่เข้าสู่ระบบทำงานปีที่ 5 เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2551 รู้สึกว่าระบบจะมีการสอนด้วยอุปกรณ์ถี่ขึ้น มากขึ้น และเข้มข้นยิ่งขึ้น เหมือนเร่งให้มีการปล่อยวางให้เร็วขึ้น ดังนั้น แต่ละเหตุการณ์ที่พบเจอ ไม่ว่าจะแปลกยังไง ก็ต้องมีสติมาให้ทัน รู้ เข้าใจ ปล่อยวาง ให้ได้ในขณะนั้นเลย

    ค่ะ ก็คงต้องขอลัดคิวเรื่องอื่น ๆ ที่ติดค้างไว้ก่อนนะคะ มาฟังเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นในวันสองวันนี้ก่อนนะคะ

    พบกันในโพสถัดไปค่ะ ในช่วงบ่าย
    <!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --><TABLE id=table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left><!-- Start Post Groan Hack -->[​IMG] <!-- End Post Groan Hack --></TD><TD><!-- Start Post Thank You Hack -->[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้ความสนใจ ติดตามอ่านข้อมูลและอนุโมทนา กับพี่สุดใจมาโดยตลอด

    ซึ่งในโพสที่ผ่านมา มีผู้อนุโมทนาถึง 10,000 ครั้ง ใน 477 โพสของพี่สุดใจ

    ก็ขอขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะ และถือเป็นกำลังใจให้กับพี่สุดใจ ในการที่จะนำข้อมูลมาลงต่อเนื่องต่อไป

    ขออนุโมทนา คืนกลับไปยังทุก ๆ ท่าน ในทุก ๆ การอนุโมทนาค่ะ
     
  17. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ขอย้ำอีกที ข้างบนมีระบบจริง ๆ ตามที่คุณสุดใจกล่าว ถึงแม้จินตวดีไม่เคยพบ หรือรู้จักคุณสุดใจมาก่อนนอกจากอ่านในห้องนี้ แต่ก็ขอช่วยยืนยัน
    หลังจากโพสต์ข้อความเมื่อวานเกี่ยวกับบทเรียนการปล่อยวาง เมื่อเช้าได้รับภาพเข้ามา เป็นแผ่นกระดาษมีตัวอักษรเล็ก 2 ประโยค เมื่อพิจารณา ข้อความปรากฏใหญ่ขึ้น เป็นคำดังข้างล่างนี้

    ปล่อยวาง
    ขอบคุณนะ

    จินตวดีแค่มาช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปล่อยวาง แต่ไม่ได้ยึดติด เพราะยังซาบซี้งกับบทเรียนอยู่
     
  18. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ที่ได้เล่ามาส่วนมาก จะเป็นประสบการณ์ที่พบเจอมา และเวลาผ่านมาค่อนข้างนานแล้ว ตอนนี้พี่สุดใจคงขอเล่าเรื่องใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 2 วันที่ผ่านมานี้ ( 29 เมษายน 2551 ) เพราะเพิ่งเจอมาสด ๆ ร้อน ๆ
    <O:p</O:p
    วันนั้นตอนเย็น ก็นั่งทานข้าวอยู่ที่ร้านขายอาหาร ขณะที่กำลังก้มหน้าก้มตาทานข้าวอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีภาพเข้ามาในหัว เป็นภาพผู้หญิงผมสีทองไว้ผมม้าด้านหน้า ผมเหมือนฝรั่งแต่เป็นคนไทย แต่งหน้าเข้ม เราก็ทานข้าวไปเรื่อย ๆ ในหัวก็เห็นภาพไป จะมีภาพใครก็มีไป ไม่ได้สนใจยังคงทานข้าวเป็นปกติ แต่สักพัก จากภาพนิ่งคมชัดภาพนั้น ก็กลายเป็นภาพเคลื่อนไหว เป็นภาพวีดีโอ เป็นการสัมภาษณ์ผู้หญิงท่านนี้อยู่ มีทั้งภาพและเสียงพูดคุยสนทนากับพิธีกร ก็ไม่สนใจอีก

    แต่พอดีคนที่ทานข้าวโต๊ะข้าง ๆ ลุกออกไปและมีหนังสือพิมพ์วางอยู่ที่โต๊ะนั้น พี่สุดใจก็เลยเดินไปหยิบมาเพื่อจะอ่าน เป็นหน้าข่าวกีฬาของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เพื่ออ่านแข่งกับภาพในหัวตัวเอง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    พอหยิบมาที่โต๊ะเสร็จก็เปิดออก <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เอ๊ะ!..... ภาพที่เห็นทันทีที่กางหนังสือพิมพ์ออกมา คือภาพของผู้หญิงท่านนั้นที่เห็นภาพอยู่ในหัวเราเมื่อกี้นี้ ปรากฏอยู่ในหนังสือพิมพ์ที่กำลังถืออยู่

    เอาแล้ว ระบบเล่นอะไรอีกล่ะ ก็เลยเหลือบไปดูนาฬิกา 17.21 นาฬิกา จำเวลาที่เห็นเอาไว้
    จากนั้นก็ดูว่าหนังสือพิมพ์อะไร - ไทยรัฐ ฉบับวันอังคารที่ 29 เมษายน 2551 <O:p</O:p
    หน้าอะไร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • hiso2.jpg
      hiso2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      137.7 KB
      เปิดดู:
      49
    • hiso1.jpg
      hiso1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      106.2 KB
      เปิดดู:
      57
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2008
  19. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    และหลังจากทานข้าวเสร็จ ก็เดินมาร้านขายของ ซื้อของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งหมด 81 บาท ให้ไป 100 บาท และเขาหยิบเงินทอนให้ 19 บาท ขณะที่เขาทอน เขาก็นับให้เราก็แบมือรับ เป็นเหรียญ 10 - 1 เหรียญ เหรียญ 5
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2008
  20. นิพพิทา2008

    นิพพิทา2008 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +55
    เรื่องเงินหายไปแบบนี้แปลกมากครับ..ขออย่าเกิดกับผมเลย..เงินยิ่งไม่ค่อยพอใช้อยู่ครับ..
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...