ขาดบารมีจะซื่อตรงต่อธรรมได้อย่างไร??

“ดูกรอานนท์ เมื่ออยากรู้จักนรกเเลสวรรค์เเลพระนิพพาน ก็ควรให้รู้เสียในเวลาก่อนที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่ออยากพ้นทุกข์ในนรก ก็รีบออกให้พ้นเสียเเต่เมื่อยังไม่ตาย เมื่ออยากได้สุขในมนุษย์หรือในสวรรค์หรือในนิพพาน ก็ให้รีบขวนขวายหาสุขเหล่านั้นไว้เเต่เมื่อยังไม่ตาย จะถือว่าตายแล้วจึงจักพ้นทุกข์ในนรก ตายแล้วจักไปสวรรค์ไปพระนิพพานดังนี้ เป็นอันใช้ไม่ได้ เสียประโยชน์เปล่า อย่าเข้าใจว่า เมื่อมีชีวิตอยู่สุขอย่างหนึ่ง เมื่อตายไปแล้วมีสุขมีอย่างหนึ่ง เช่นนี้เป็นความที่เข้าใจผิดโดยแท้เพราะจิตมีดวงเดียว เมื่อมีชีวิตอยู่ก็จิตดวงนี้ เมื่อตายไปแล้วก็จิตดวงนี้ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ได้รับทุกข์ฉันใด แม้เมื่อตายไปแล้วก็ได้รับทุกข์ฉันนั้น เมื่อยังมีชีวิตอยู่มีความสุขฉันใด เมื่อตายไปแล้วก็ได้รับความสุขฉันนั้น ไม่ต้องสงสัย เมื่อยังมีชีวิตอยู่ยังไม่รู้ไม่เห็นซึ่งความทุกข์แลความสุขมีสภาวะปานดังนี้ เมื่อตายไปแล้วยิ่งจะซ้ำร้าย จะมีทางรู้ทางเห็นด้วยอาการอย่างไร”


ที่มา: พุทธโอวาทคิริมานนทสูตร

 

ทำมะหัวกรวย!!!

สิ่งที่พระสมณโคดมไม่ได้บัญญัติ ส ส ก ว่าทรงบัญญัติ

ศาสดาของ มะอึงชื่ออะไร ...แหม่ม ชิง มหา เกิด

 

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ ถ้าเธอพึงเข้าไปหาแล้วกล่าวสัญญา๑๐ ประการ

แก่คิริมานันทภิกษุไซร้ ข้อที่อาพาธของคิริมานันทภิกษุจะพึงสงบระงับโดยพลัน เพราะได้ฟัง

สัญญา ๑๐ ประการนั้น เป็นฐานะที่จะมีได้ สัญญา ๑๐ประการเป็นไฉน คือ อนิจจสัญญา ๑

อนัตตสัญญา ๑ อสุภสัญญา ๑ อาทีนวสัญญา ๑ ปหานสัญญา ๑ วิราคสัญญา ๑ นิโรธสัญญา ๑

สัพพโลเกอนภิรตสัญญา ๑ สัพพสังขาเรสุอนิจจสัญญา ๑ อนาปานัสสติ ๑ ฯ
บ่แม่นอันนี้บ่คริมานนท์สูตร
อากู๋ของเจ้าคือมั่วแท้

 

สมมุติ บัญญัติ ปรมัตถ์ ดีกันทั่วไป
จังว่าเรียนเรียนกะผี
คิดว่าผีเก่งกว่าพระอยู่เหรอ

 

เวงกรำ...

 

คนเราคนควรเรียนจากของที่มีอยู่แล้ว
ละค่อยขยายความให้ละเอียดลึกซึ้ง
รูปร่างหน้าตากะมีอยู่แล้ว
มันลึกซึ้งพอที่จะเห็นเป็นของสมมุติบ่
เค้าเรียนกันที่ละเรื่องให้ลึกซึ้ง
จะพอใจเหรอไม่พอใจกะไม่หวั่นไหว
ดูมันไปเรื่อยๆ
วันไหนกิเลสเบาบาง
จิตเหมาะควรกะการงาน
กะเห็นเอง

 

ดูก่อนท่านทั้งหลาย....

 

ปัจจุบันนี้ดำเนินมาถึงช่วงที่3 ในการฝึกแล้วสินะ..

เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา..

ถึงอุเบกขาเมื่อไหร่ ก็ เฉยๆสบายๆ อัพยากฤต เท่านั้นแล..

 

พูดถึงการให้ทาน แล้วเกี่ยวอะไรกับการตรึก..

ทุกสรรพสิ่งเป็น "อนัตตา" แล้วการให้ทาน ก็ต้องเว้นจากการเป็นผู้ให้ ขาดจากการเป็นผู้รับ สิ..

จิต ถึง จะ บริสุทธิ์..


ดูก่อนท่านทั้งหลาย..

 

ดูก่อนท่านผู้มีปัญญาทั้งหลาย..

ชี้ตรงไปที่ "อนัตตา" ชี้ตรงไปที่ "สุญญตา" ทีเดียวเลย..

ไม่เสียเวลามาสั่งสมบารมี..

คนที่เห็นว่าบารมีต้องเท่านั้นเท่านี้ ถึงจะไปนิพพานได้ แล้วต้องเท่าไหร่ล่ะ..

ในเมื่อมนุษย์ มีขันธ์๕ เท่ากันทุกคน รู้แจ้งในขันธ์๕ ได้ทุกคนอยู่แล้ว เพียงแค่ต้องฝึกเท่านั้นแล..

 

สุญญตา ของ ศาสดาสมณโคดม กล่าวอย่างไร

กล่าวว่า เพราะ สิ้นตัณหา จึง ประจักษ์ รสสุญญตา
เป็นปัจจุบันธรรม เป็นปัจจัยให้ จิตแปรปรวนไป(ไม่เที่ยง อนัตตา)

ไม่ใช่ การเรียนเพื่อ ตีความ แต่งใหม่


ตกลง ศาสดาของ มะอึง ชื่ออะไร

อุปปัชจารย์ของ มะอึง ชื่ออะไร

แหม่ม ชิง มหา เกิด!!!

 

มีอยู่แล้ว แต่คนเข้าไปเรียน เข้าไปศึกษายังโง่อยู่ ก็ยากจะเห็นตามจริงได้..

อย่างท่านนี่ไง ยังโง่อยู่มาก..

พิจารณาอย่างไรก็ไม่เห็นเหตุ เพราะยังหลงอยู่มาก แนวทางการฝึกพระพุทธองค์ก็วางไว้เป็นแแบบแผนหมดแล้ว ท่านยังลูบคลำอยู่เลย..

"ดูก่อนอานนท์ ธรรมและวินัยนี้แลจะเป็นศาสดาแทนเรา"

แล้วท่านเห็นว่าอะไรเป็นธรรม อะไรเป็นวินัย..

ศีลนี้ใช่วินัยหรือเปล่าล่ะ..

ชำระศีลตนเองให้บริสุทธิ์ ได้หรือยังล่ะ..

ถ้ายังทำไม่ได้ แล้วอะไรคือการดำเนินตามคำสอนศาสดา..

 

มีเป้าหมายเป็นของดี
แต่เป้าที่ดีควรเป็นเป้าที่เรารู้จัก
ทุกข์นะรู้จักบ่
ถ้าบ่รู้จักมาๆยืม2000
เดียวจะบ่คืนซิได้รู้จักทุกข์
55

 

การให้ทานโดย ขาดจากการเป็นผู้ให้ ขาดจากการเป็นผู้รับ..

แล้วมันเป็นสภาวะ "สิ้นตัณหา" หรือเปล่าล่ะ..

 

เค้าบอกนกสีเดียวกันอยู่นำกัน
คุยกะเค้าบอกตัวเองวิิิิิิิเศษกว่าเค้า
พุ้นนะพ่อเณร

 

พอดีว่าเราไม่มีเงินมากอะไร มีไว้ซื้อยาเส้นดูด ก็พอ..

ไม่ดิ้นรน อะไร..

ความสุขตั้งอยู่ที่คำว่า "พอ"

เรา พอ แล้ว เรามี พอแล้ว..

 

คำว่า "วิเศษ" เรายังไม่เคยพิมพ์ว่าเราเป็นอย่างนั้นเลย..

พวกท่านต่างหาก ที่คิดอย่างนั้น..

เราแค่เคยบอกว่า "เราไม่ใช่ผู้วิเศษ แต่เราสามารถสั่งผู้วิเศษได้" ก็เท่านั้น..


ก๊าก กั๊กๆๆๆๆๆๆ

 

ความทุกข์หมด....สุขกะเกิดมาเอง
ทุกข์ไหนถ้าดับถูกวิธีจะไม่กลับมาเกิดทุกข์อีก

 

ข่อยเขียนธรรม เตือนสติ ชี้แนะแนวทางให้..

แต่กะแล้วแต่ไผสิเห็นบ่เห็นถ่อนั่นล่ะ..

ถ้าจิตใจยังมีอคติอยู่ กะยากสิเห็นคำแนะนำจากข่อย..


แกก แก๊กๆๆๆๆๆๆๆ

 

กะบอกความโง่อยู่มากงัย
ผมกะสงสัยฉลาดมาจากไหน
เค้าเรียกผู้ไม่รู้ของแค่นี้ยังไม่รู้
ละจะสอนคนอื่นงงหลาย