ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    วันนี้ผมได้มอบพระที่ได้จากวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2551

    ให้พี่ที่บริษัท ทั้ง 2 ท่านเรียบร้อยแล้วครับ และพระที่ผมมอบเพิ่มให้อีก 2 องค์
    เพราะหลานๆ เยอะ และผมเองก็ไม่ได้ชักชวนว่า
    ถ้าอยากได้เพิ่ม ก็เพิ่มปัจจัย ให้ด้วยประสงค์ให้ครับ

    ท่านว่า ท่านจะมาร่วมบุญกุศล ในเดือนพฤษภาคม 2551 นี้
    ไม่จำเพาะ 2 ท่านนี้
    แต่ตอนนี้มีหลายๆ ท่านที่ผมชักชวนมา ก็จะมาร่วมด้วยช่วยกันครับ


    นอกจากทำบุญแล้ว
    ก็เป็นเรื่องการปฏิบัติ การทำและทรงอารมณ์ใจ ให้เป็นสุข
    พี่ๆ เขาอยากมากันครับ ว่าทำอย่างไร เขาอยากรู้ และนำไปปฏิบัติ
    ก็จะได้อธิบายกันไปครับ และเรื่องอื่นๆ ที่จะไต่ถามกันเพื่อความรู้

    ก็ขอพี่ๆ โปรดแนะนำให้ทีครับ ถือว่าสงเคราะห์ แก่พี่ๆ ท่าน
    อายุก็มากกว่าผม

    อยู่ คิด ทำอย่างไรให้ใจสุข และมีความสุข
    ก็จะเป็นคุณแก่คนทั้งหลาย เกิดประโยชน์แก่มวลหมู่ชน
    สงบสุขแก่สังคมโดยมวลรวม


    (ตอนนี้ก็เครียดกันทั่วหน้า น้ำมันแพง การงานบีบรัดหัวใจ ภาวะสังคม การข่าว)

    ขอกราบเรียน และพึ่งบารมีครับ

    สาธุ สาธุ สาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2008
  2. thanyaka

    thanyaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +2,497
    ได้รับพระแล้วค่ะ ขอบพระคุณและอนุโมทนากับบุญทั้งหลายที่ได้ทำมาค่ะ
     
  3. jirautes

    jirautes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +575
    สวัสดีครับพี่โสระเดือน พ.ค นี้ผมและครอบครัวจะส่งเงินไปร่วมทำบุญอีกครับ
    (ส่งเงินไปแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ) *ผมยังไม่ได้รับพระเลยนะครับ*
     
  4. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    รับทราบครับ แต่พิมพ์อรหันต์ใหญ่และอรหันต์เล็กหมดแล้ว น้องjirautes เลือกพิมพ์ใหม่มาพี่จะรีบจัดส่งให้เลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 เมษายน 2008
  5. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ทำกันหรือยังพวกเรา

    <!-- Main -->[SIZE=-1]<STYLE>body{background-image:url("http://i230.photobucket.com/albums/ee137/planoy/planoy1/B2.gif");}</STYLE>
    วิธีใช้หนี้พ่อแม่ โดยหลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี



    [FONT=verdana,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]

    [FONT=verdana,arial,helvetica,sans-serif]วิธีใช้หนี้พ่อแม่ไม่ยากเลย จงสร้างความดีให้กับตัวเอง และนี่ก็เป็นการใช้หนี้ตัวเอง ตัวเราพ่อให้หัวใจ แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองอยู่ในต<WBR>ัวแล้ว[/FONT][FONT=verdana,arial,helvetica,sans-serif] จะไปแสวงหาพ่อที่ไหน จะไปแสวงหาแม่ที่ไหน บางคนรังเกียจแม่ ว่าแก่เฒ่าไม่สวยไม่งาม พอตัวเองแก่ก็เลยถูกลูกหลานรัง<WBR>เกียจ จึงเป็นกงกรรมกงเกวียนยืดเยื้อก<WBR>ันต่อไปอีก

    ใครที่คุณแม่ล่วงลับไปแล้ว ก็ให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนก<WBR>ุศลไปให้ท่าน และถ้าจะทำบุญด้วยการเจริญกรรมฐาน แล้วอุทิศส่วนกุศลไป การทำเช่นนี้ ถือว่าได้บุญมากที่สุด ทั้งฝ่ายผู้ให้และผู้รับ

    ผู้ใดก็ตาม ที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้กลับไปหาแม่ ไปกราบเท้าขอพรจากท่าน จะได้มั่งมีศรีสุข ส่วนคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับท่าน ก็นำเทียนแพไปกราบขออโหสิกรรม ล้างเท้าให้ท่านด้วย เป็นการขอขมาลาโทษ ฯ
    [/FONT][FONT=verdana,arial,helvetica,sans-serif]

    ขอฝากท่านไว้ไปสอนลูกหลาน อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่เลย ไม่ต้องถึงกับฆ่าหรอก แค่คิดว่าพ่อแม่เราไม่ดี จะทำมาหากินไม่ขึ้น เจ๊ง ท่านต้องแก้ปัญหาก่อนคือ ถอนคำพูด ไปขอสมาลาโทษเสีย แล้วมาเจริญกรรมฐาน รับรองสำเร็จแน่ มรรคผลเกิดแน่ ฯ

    บางคนลืมพ่อลืมแม่ อย่าลืมนะการเถียงพ่อเถียงแม่ไม<WBR>่ดี ขอบิณฑบาต สอนลูกหลานอย่าเถียงพ่อเถียงแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อกับแม่ ไม่อย่างนั้นจะก้าวหน้าได้อย<WBR>่างไร ก้าวถอยหลังดำน้ำไม่โผล่ ฯ
    บ้านหนึ่งพ่อมีเมีย ๔ คน เมียหลวงบอกลูกว่าพ่อเจ้าไม่ดี ลูกก็ไปด่าพ่อว่าพ่อ แล้วมาบวชวัดนี้ บวชแล้วเดี๋ยวเป็นโน่นเป็นนี่ จนจะกลายเป็นโรคประสาท นี่แหละบวชก็ไม่ได้ผล หลวงพ่อก็ให้ไปถอนคำพูด และขอสมาลาโทษกับพ่อเขาก่อน แล้วกลับมานั่งกรรมฐานจึงได้ผล ( case นี้ หลวงพ่อจะเตือนผู้เป็นลูกบ<WBR>่อยๆไม่ให้ว่าพ่อ แต่ให้เป็นเรื่องของแม่ที่จะแก<WBR>้ปัญหานี้ ซึ่งหลวงพ่อสอนไว้แล้ว : ผู้รวบรวม ) ฯ

    เมื่อเร็วๆนี้ฆ่าพ่อตาย แม่สงสารพามาเจริญกรรมฐาน พอเข้าวัดมันร้อนไปหมด ปวดหัวเข้าไม่ได้นี่เวรกรรมตามสน<WBR>อง ปิตุฆาต มาตุฆาต ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน ทำกรรมฐานไม่ได้แน่นอน ต้องหันรถกลับ นี่เรื่องจริงในวัดนี้ ฯ

    คนที่มีบุญวาสนา จะกตัญญูกับพ่อแม่ คนเถียงพ่อเถียงแม่เอาดีไม่ได้
     
  6. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    สมาธิที่มีโดยธรรมชาติ,ไม่มี

    กล่าวตามสภาวธรรมแล้ว
    จิตนี้มีความปราดเปรียว ว่องไวต่อการรับอารมณ์มาก
    เพราะได้รับการสั่งสมอบรมมาในอดีต
    รับอารมณ์อย่างหนึ่งแล้วก็เปลี่ยนไปรับอารมณ์อื่นต่อไปตามลำดับ
    เพื่อแสวงหาอารมณ์ที่ดีกว่ามาครอบครอง
    ครั้นได้รับอารมณ์ที่ดีกว่ามาแล้ว ก็ต้องการเปลี่ยนไปรับอารมณ์ที่ประณีตอื่นอีก
    จึงไม่อาจรับอารมณ์อันเก่าไว้ตลอดกาล จิตจึงซัดส่ายไปตามอารมณ์โดยธรรมชาติ.

    ดังนั้น ผู้ที่กล่าวว่า สมาธิมีอยู่แล้วโดยธรรมชาติ จึงเข้าใจผิดพลาดทีเดียว.

    มีพระบาลีในจิตตวรรค แห่งพระธรรมบท รับรองไว้ดังนี้


     
  7. jirautes

    jirautes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +575
    สวัสดีครับพี่โสระผมขอรับพระพิมพ์อธิฐานฤทธิ์ใหญ่นะครับถ้าหมดก็ขอ
    องค์เล็กครับ
     
  8. pisit22

    pisit22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +262
    เมื่อวานนี้ผมได้โอนเงินมา 500 บาท เพื่อร่วมทำบุญสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ
    ขอโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วยครับ
    (เดิมผมใช้ชื่อ เสรีพิสิษฐ์ แต่จำพาสเวิร์ดเก่าไม่ได้ก็เลยสมัครใช้ชื่อใหม่นี้)
     
  9. cococo

    cococo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +229
    วันนี้ได้ทำการโอนเงินร่วมทำบุญประจำเดือนเมษายนมาค่ะ จำนวน 100 บาท เมื่อเวลา 16.09 น.
    โมทนาค่ะ
     
  10. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ข้อคิดวันกรรมกร (วันผู้ใช้แรงงานแห่งชาติ)

    เราคิดอะไร.


    <!-- #BeginEditable "%E3%CA%E8%A2%E9%CD%A4%C7%D2%C1%E0%C3%D2%A4%D4%B4%CD%D0%E4%C3" --><TABLE width=700 align=center><TBODY><TR><TD>สีสันชีวิต
    สมณะกรรมกร กุสโล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2008
  11. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ศาสนาในเชิงปรัชญา (เปรียบเทียบ) ผมเห็นว่าอย่างน้อยพวกเราเป็นชาวพุทธ แต่ก็ควรเรียนรู้หลักศาสนาอื่นในเชิงปรัชญาบ้าง อย่างน้อยก็เพื่อประดับความรู้ หรือสร้างความเข้าใจบางประการในหลักปฏิบัติบางอย่าง ซึ่งอย่างน้อยที่เหมือนกันก็คือ ทุกศาสนามุ่งให้ศาสนิกชนของตนเองเป็นคนดีครับ ส่วนที่ผิดเพี้ยน หรือบิดเบือนไป ก็เป็นข้อปลีกย่อย แยกตามลัทธิ หรือตามเจ้าลัทธิที่จะบัญญัติขึ้นมาเอง ไม่เกี่ยวกับองค์ศาสดาเอก


    <B><BIG><BIG>ศาสนาพุทธ</BIG></BIG></B>
    <B><BIG><BIG></BIG></BIG></B>
    พระพุทธศาสนา
    <SMALL><SMALL><SMALL>
    พระพุทศาสนาเกิดขึ้นในประเทศอินเดีย เมื่อประมาณ 2,600 ปีมาแล้วโดยมีพระพุทธเจ้าเป็นศาสดา </SMALL></SMALL></SMALL><SMALL><SMALL><SMALL>พระพุทธศาสนาได้เผยแผ่ไปยังดินแดนต่าง ๆ อย่างกว้างขวางในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช</SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL></SMALL>ประวัติพระพุทธเจ้า
    <SMALL><SMALL><SMALL>พระพุทธเจ้ามีนามเดิมว่า สิทธัตถะ เป็นโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ กับพระนางสิริมหามายา แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ </SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL><SMALL>แคว้นสักกะ ปัจจุบันอยู่ในประเทศเนปาล เสด็จออกบวชเมื่อพระชนมายุได้ 29 พรรษา พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่า </SMALL></SMALL></SMALL><SMALL><SMALL><SMALL>ชีวิตคนเรามีแต่ความทุกข์ เช่น มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ต้องการหาทางดับทุกข์ </SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL><SMALL></SMALL></SMALL></SMALL>
    วิธีปฏิบัติในการแสวงหาสัจธรรมของพระพุทธเจ้า คือ

    <SMALL><SMALL><SMALL>1. ศึกษาจากสำนักอาจารย์ที่มีชื่อเสียง
    2. บำเพ็ญทุกรกิริยา
    3. บำเพ็ญเพียรทางจิตใจด้วยการภาวนา
    </SMALL>สังเวชนียสถาน คือ สถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธได้แก่
    <SMALL>
    - สถานที่ประสูติ ลุมพินีวัน </SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL><SMALL>- สถานที่ปฐมเทศนา ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
    - สถานที่ตรัสรู้ ตำบลพุทธคยา </SMALL></SMALL></SMALL><SMALL><SMALL><SMALL></SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL><SMALL>- สถานที่ปรินิพพาน &nbbsp; กรุงกุสินารา</SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL><SMALL>
    นิกายสำคัญในพระพุทธศาสนา มี 2 นิกายใหญ่ ๆ คือ</SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL><SMALL><SMALL>
    1. นิกายเถรวาท หรือ หินยาน เป็นนิกายเก่าแก่ที่สุด ยึดถือพระธรรมวินัยเดิมอย่างเคร่งครัดนับถือมากในไทย พม่า เขมร ลาว
    2. นิกายอาจริยวาท หรือ มหายาน เปลี่ยนแปลงพระธรรมวินัยให้เหมาะสมกับกาลเวลา นับถือมากในจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ทิเบต
    </SMALL>หลักธรรมที่สำคัญ ได้แก่</SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL><SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL></SMALL></SMALL><SMALL><SMALL><SMALL><SMALL>อริยสัจ 4 คือ ความจริงอันประเสริฐ ได้แก่
    1. ทุกข์ คือ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ได้แก่ ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย
    2. สมุทัย คือ ต้นเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ได้แก่ ตัณหา 3 ประการ
    3. นิโรธ คือ ความดับทุกข์ ได้แก่ การหมดกิเลส คือ นิพพาน
    4. มรรค คือ ทางดับทุกข์ ได้แก่ อริยมรรค มีองค์ 8
    </SMALL></SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL><SMALL>พระไตรปิฎก<SMALL> คือ คัมภีร์คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แบ่งเป็น 3 หมวด คือ</SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL></SMALL></SMALL><SMALL><SMALL><SMALL><SMALL>1. พระสุตตันตปิฎก รวมคำสอนของพระพุทธเจ้า และพระสาวก
    2. พระวินัยปิฎก ศีลของพระภิกษุ และพิธีกรรมทางศาสนา
    3. พระอภิธรรมปิฎก รวมหลักธรรมชั้นสูง
    พระไตรปิฎกฝ่ายเถรวาทเป็นภาษามคธ ฝ่ายมหายานเป็นภาษาสันสกฤต
    การบวช ได้แก</SMALL>พิธีกรรมที่สำคัญทางพุทธศาสนา
    <SMALL> ได้แก่
    -่ บวชเณร เรียกว่า บรรพชา กับบวชพระ เรียกว่า อุปสมบท
    - การเวียนเทียน ในวันสำคัญ คือ วันวิสาขบูชา วันอัฏฐมีบูชา วันมาฆบูชา วันอาสาฬหบูชา</SMALL></SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL><SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL></SMALL></SMALL><BIG>
    </BIG><BIG><BIG></BIG>ศาสนาคริสต์</BIG>
    <BIG></BIG>
    ศาสนาคริสต์ <SMALL><SMALL><SMALL><SMALL>
    ศาสนาคริสต์ เกิดขึ้นในดินแดนปาเลสไตน์ ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ศาสดาของศาสนาคริสต์ คือ พระเยซู </SMALL></SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL><SMALL><SMALL>เป็นชาวยิว ประสูติเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 543 (ค.ศ.1) เป็นบุตรของนายโยเซฟกับนางมาเรีย
    </SMALL></SMALL></SMALL></SMALL><SMALL><SMALL><SMALL>คัมภีร์ของศาสนาคริสต์<SMALL> เรียกว่า คัมภีร์ไบเบิล แบ่งเป็น 2 ภาค คือ
    1. พระธรรมเดิม หรือ พันธสัญญาเดิม กล่าวถึง กฎหมายต่างๆ สาวก บทสวด บทสดุดี สุภาษิต บทเพลง ฯลฯ
    2. พระธรรมใหม่ หรือ พันธสัญญาใหม่ เกี่ยวกับชีวิตและคำสอน</SMALL></SMALL>ของพระเยซู<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL></SMALL></SMALL>
    หลักคำสอนที่สำคัญ
    บัญญัติ 10 ประการ<SMALL><SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL></SMALL><SMALL><SMALL><SMALL>1. จงมนัสการพระเจ้าแต่เพียงพระองค์เดียว<SMALL><SMALL>
    2.</SMALL> อย่าออกนามพระเจ้าโดยไม่สมเหตุ<SMALL>
    </SMALL>3<SMALL>. </SMALL></SMALL>จงนับถือวันพระเจ้าเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ <SMALL><SMALL>
    4.</SMALL></SMALL> จงนับถือบิดามารดา<SMALL><SMALL>
    5. </SMALL></SMALL>อย่าฆ่าคน<SMALL><SMALL>
    6. </SMALL></SMALL>อย่าผิดประเวณี<SMALL><SMALL>
    7. </SMALL></SMALL>อย่าลักทรัพย์<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>8. อย่าใส่ความนินทา<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>9. อย่าคิดมิชอบ<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>10. อย่าโลภสิ่งของผู้อื่น<SMALL>
    </SMALL></SMALL>- หลักตรีเอกานุภาพ เชื่อมีพระเจ้าองค์เดียว แต่มี 3 บุคคล คือ พระบิดา พระบุตร และพระจิต<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>- หลักความรัก "จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง" เป็นกฎทองของศาสนาคริสต์ ซึ่งเน้นเรื่องความรัก ว่ามนุษย์<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>ทุกคนเป็นบุตรของพระเจ้า จึงควรรักกันเหมือนพี่น้อง<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL></SMALL></SMALL><BIG>
    </BIG>พิธีกรรมและวันสำคัญทางศาสนา ได้แก่<SMALL><SMALL><SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>1. ศีลล้างบาป เป็นพิธีแรกที่ชาวคริสต์ศาสนิกชนจะต้องรับ<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>2. ศีลกำลัง เพื่อยืนยันการยอมรับนับถือศาสนาคริสต์<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>3. ศีลมหาสนิท ทำที่โบสถ์ทุกวันอาทิตย์<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>4. ศีลแก้บาป พิธีที่ชาวคริสต์ไปสารภาพบาปกับบาทหลวง<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>5. ศีลเจิมคนไข้ พิธีกรรมที่บาทหลวงเจิมนํ้ามันให้แก่คนไข้ เพื่อรักษาโรค<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>6. ศีลบวช คือ พิธีบวชพระ<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>7. ศีลสมรส คือ พิธีสมรสที่ต้องกระทำต่อหน้าบาทหลวง<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL></SMALL>
    <SMALL></SMALL><B><BIG>ศาสนาอิสลาม</BIG></B>
    <B><BIG></BIG></B>
    ศาสนาอิสลาม<SMALL><SMALL><SMALL>
    ศาสนาอิสลามเกิดขึ้นที่เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย คำว่า "อิสลาม" แปลว่า สันติ นับถือพระเจ้าองค์เดียว<SMALL>
    </SMALL></SMALL>คือ พระอัลเลาะห์ ศาสดา คือ พระนบีมุฮัมหมัด คัมภีร์ทางศาสนา เรียกว่า "อัล - กุรอาน" ภาษาที่ใช้บันทึก<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>คือ ภาษาอาหรับ<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>- ศาสนาฮินดู เชื่อว่าปฐมวิญญาณของสรรพสิ่งในโลก คือ พระพรหม<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>- จุดมุ่งหมายสูงสุดของศาสนาพราหมณหลักคำสอนที่สำคัญ ได้แก่<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>- หลักศรัทธา มี 6 ประการ คือ<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>1. ศรัทธาในพระอัลเลาะห์<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>2. ศรัทธาในบรรดามลาอีกะฮ์ (เทวทูต)<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>3. ศรัทธาในบรรดาคัมภีร์<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>4. ศรัทธาในศาสนทูต<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>5. ศรัทธาในวันพิพากษา<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>6. ศรัทธาในกฎสภาวะของพระเจ้า<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>- หลักปฏิบัติ มี 5 ประการ คือ<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>1. การปฏิบัติตนต่อพระอัลเลาะห์<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>2. การทำพิธีละหมาด<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>3. การถือศีลอดในเดือนรอมาฎอน<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>4. การบริจาคซะกาต<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>5. การไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ เมืองเมกกะ</SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL></SMALL></SMALL>

    <SMALL></SMALL><B><BIG>ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู</BIG></B>
    <B><BIG></BIG></B>
    ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู<SMALL><SMALL><SMALL>
    ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูเกิดขึ้นในประเทศอินเดีย ประมาณ 1,000 ปีก่อนพุทธศักราช เป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุด<SMALL>
    </SMALL></SMALL>เกิดขึ้นในกลุ่มชาวอารยันทางเหนือของอินเดีย ซึ่งมีความเชื่อเกี่ยวกับวิญญาณบรรพบุรุษผสมกับการนับถือเทพเจ้า<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>ในธรรมชาติ<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>- สังคมชาวอินเดียดั้งเดิม มีการเเบ่งชนชั้นวรรณะของคนเป็น 4 พวก ได้แก่<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>1. พราหมณ์ - นักบวช<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>2. กษัตริย์ - นักรบ<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>3. แพศย์ - พ่อค้า<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>4. ศูทร - กรรมกร<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>- คัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์ เรียกว่า คัมภีร์พระเวท แบ่งออกเป็น 3 หมวด ได้แก่ ฤคเวท ยชุรเวท สามเวท<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>- ตรีมูรติ หมายถึง เทพเจ้าสูงสุดของศาสนาพราหมณ์ ได้แก่<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>1. พระพรหม ผู้สร้างโลก<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>2. พระนารายณ์ หรือ พระวิษณุ ผู้รักษา<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>3. พระศิวะ หรือ พระอิศวร ผู้ทำลาย<SMALL><SMALL>
    </SMALL></SMALL>4. ศาสนาฮินดู เชื่อว่าวิญญาณของสรรพสิ่งในโลก คือ พระพรหม</SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL>ขอขอบคุณ</SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL></SMALL></SMALL>
    <SMALL><SMALL>http://www.geocities.com/nlearning/geograh/sungkom1.htm</SMALL></SMALL>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2008
  12. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    วันนี้ก็ได้เดินทางไปไปมอบพระให้พี่เขา 17 องค์
    (ตอนไปก็ไม่ได้นับครับ ก็ว่าจะให้เขาไปต่อบุญ ก็แล้วแต่เขา)

    แต่ขากลับนี่ซิได้คิดแฮะ ไม่ใช่เรื่องพระที่มอบให้

    แต่เป็นเรื่อง กาย เรานี่แหละ
    กาย เราที่สมบูรณ์ ก็ยังกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างที่ใจต้องการ
    (กายนั้น ก็ต้องการอากาศ น้ำ อาหาร ยา เสื้อผ้า และที่อยู่)

    กลับมาที่อนุสาวรีย์นี่ซิ เห็นคนพิการ คุณลุงผ่าตัดไตร้องเพลงขอตังค์
    ทั้งขาไปผมก็ให้ตังค์คนพิการ ขากลับให้ตังค์คุณลุง

    จุดที่ได้คิดก็ คือ กายสมบูรณ์นี่ก็เจ็บได้ จริงไหม (คุณลุง)
    กายไม่สมบูรณ์ก็เจ็บได้เช่นกัน (คนพิการ)


    นั่นก็หมายความว่า ในช่วงชีวิตของคนเรานี่ ประมาทไม่ได้

    มันแปรเปลี่ยนซะ เราจะหลงเหตุ หลงกาล กันนะ

    แล้ววันหนึ่ง ทุกข์บังเกิด เราเริ่มแย่ หากไม่ได้คิด หยุดคิด

    เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และทำซะ

    ผลใหม่ๆ ที่เราต้องการก็ไม่บังเกิด (ผลที่ต้องการมาจาก สัมมาทิฏฐิด้วย)


    เห็นหนังสือธรรมะ เล่มหนึ่งชื่อ "ทุกข์เพราะคิดผิด"

    แหมย้อนคิดเลยครับ ถ้าเรายังหลงกับเหตุการณ์วันเวลา

    ผมคงจะแย่ครับ เดี๋ยวนี้ถ้าไม่ออกกำลังกาย

    ไม่เดินไปตลาด มันเหมือนร่างกายมันยึดๆ

    นอนมากๆ สมองมันล้าๆ

    กาย หนอ กาย

    ไม่กินก็ไม่ได้ กินมากก็ไม่ดี

    นั่นแหละ กาย

    สาธุครับ
     
  13. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    วันนี้มีกระทู้หรือเวบต่างๆ ที่แนะนำให้ผู้ปฏิบัติเข้าไปดูเพื่อเป็นกำลังใจ และเป็นที่บันเทิงใจตามนี้ครับ

    อัตตชีวประวัติของท่าน หลวงปู่ชอบ ต้องอ่านทีละหน้าครับ ลป.ชอบท่านเป็นพระอภิญญา และพระอรหันต์ที่เป็นที่ยอมรับครับ ได้มีโอกาสได้ไปกราบแทบเท้าท่านตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ ได้ถวายนวดเท้าท่านนิดนึงนับว่าเป็นบุญโขแล้วครับ

    http://ecurriculum.mv.ac.th/dhamma/...nk/monk_biography/lp-chob/lp-chob-hist-01.htm

    ภูทอก สวรรค์ 7 ชั้น ของท่าน อ.จวน มีภาพภูทอกที่สวยมากๆ ครับ
    http://palungjit.org//showthread.php?t=51886


    สุดท้าย อยากให้ศึกษาคุณธรรมและหลักปฏิปทาของท่านหลวงพ่อพุธ ฐานิโย จากกระทู้นี้ครับ
    http://palungjit.org//showthread.php?t=97839
     
  14. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ธรรมชาติกาย ย่อมมีความเสื่อมเป็นธรรมดา
    ที่นี้มาเรื่องอาหาร ซึ่งเป็นที่พึ่ง ของกาย

    อาหาร ก็จะมาจาก ข้าว พืช (พระแม่โพสพ) และอื่นๆ
    ซึ่งก็ต้องมีแผ่นดิน (พระแม่ธรณี) เป็นที่เพาะปลูก
    มีน้ำ แม่น้ำ (พระแม่คงคา) มีฝน (พระพิรุณ)
    มีลม (พระพาย) และอื่นๆ ซึ่งก็เป็นพระธรรมชาติ

    มาในคราวนี้ ข้าวยากหมากแพง
    ประชาชนคนทั่วไป มีรายได้คงตัว
    ไม่สามารถซื้ออาหารที่มีคุณภาพดีๆ ได้ตลอด

    โดยเฉพาะคนที่มีรายได้น้อย และต้องเลี้ยงคนในครอบครัว
    ก็ต้องทานอาหารที่ด้อยคุณภาพ เพราะราคาถูก เห็นได้ทั่วไป

    เมื่อทานอาหารราคาถูก สิ่งที่ตามก็คือ การเจ็บไข้ได้ป่วย
    เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องหายา และเครื่องรักษาต่างๆ ซึ่งทำให้รัฐ ฯ
    ต้องใส่งบประมาณจำนวนมากมารักษาประชาชน

    มาถึงตอนนี้คงเห็นว่า วงจรเริ่มเป็นวงๆ

    การที่ร่วมทำบุญกันที่โรงพยาบาลสงฆ์ ก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีมาก
    ช่วยเหลือพระ บรรเทาความเจ็บป่วย ที่สร้างสรรสังคมให้อยู่ดีมีสุข
    และก็เป็นการช่วยเหลือรัฐ ฯ ทางอ้อมๆ กันด้วยทางหนึ่ง


    จุดก็คือ พืชพันธุ์ธัญญาหาร ก็มาจากพระธรรมชาติ + การกระทำของคน

    เช่น คนทำนา ก็อาศัยน้ำ จากฟ้า


    ผมเองก็เลยมองว่า ในเมื่อเราทำบุญ

    แล้วก็ขอส่งบุญ ให้พระธรรมชาติ
    (พระแม่โพสพ พระแม่คงคา พระแม่ธรณี และท่านอื่นๆ) ด้วยครับ

    เพราะท่านมีส่วนอย่างมาก ที่ช่วยเหลือมนุษยชาติ

    จริงไหมครับ

    สาธุครับ
     
  15. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>[​IMG]<!-- END WEBSTAT CODE -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE height="95%" width="99%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="75%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE borderColor=white cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=2><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><!--Last Update : 2 พฤษภาคม 2551 7:33:56 น.-->ศิลปแห่งความสงบ - สุข
    <!-- Main -->​


    [SIZE=-1][​IMG][/SIZE]​


    [SIZE=-1]ศิลปะแห่งความสงบ[/SIZE][SIZE=-1]​

    คนที่เข้าใจว่าได้อะไรแล้วจะมีความสุขนั้น
    ยังเข้าใจไขว้เขวอยู่สักหน่อย
    ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง
    จิตใจที่สงบนั่นแหละคือความสุขที่แท้
    แต่ส่วนมากไม่ค่อยเข้าใจในแง่นี้
    เพราะสิ่งยั่วยวนในโลกนี้มีมากเหลือเกิน


    คอยหลอกให้เราหลงอยู่ตลอดเวลา
    หลอกให้เราพลั้งเผลออยู่ในอารมณ์นั้นตลอดเวลา
    ปัญญารอบรู้จึงไม่เกิดขึ้น
    เราต้องทำจิตใจของเราให้มั่นคง
    ไม่ให้ง่อนแง่นคลอนแคลน
    เราก็จะพบความสงบที่แท้จริงได้


    ศิลปะแห่งความสุข

    เมื่อเราต้องการจะอยู่อย่างสงบสุขแล้ว
    ทำไมเราจึงไปคิดเรื่องให้มันมีความทุกข์ใจ
    คิดเรื่องให้เกิดความร้อนอกร้อนใจ
    นั่งกลุ้มใจอยู่ด้วยเรื่องปัญหาเล็กๆน้อยๆ
    ซึ่งมันเกิดขึ้นในชีวิตของเรา

    อย่างนี้ก็เรียกว่า...
    คิดเรื่องให้ตนเกิดความทุกข์นั่นเอง
    ไม่มีใครมาทำให้แก่เรา แต่เราทำให้แก่ตัวเราเอง
    การทำให้แก่ตัวเราเองก็คือว่า
    คิดเรื่องนั้นขึ้นมาในแง่ที่ไม่ถูกต้อง
    มองไม่ตรงตามสภาพที่เป็นจริง
    เลยเกิดปัญหา...




    จาก "ศิลปแห่งความเป็นมนุษย์"
    โดย พระธรรมโกศาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ[/SIZE]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขอขอบคุณ
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=loongadd&month=02-05-2008&group=2&gblog=22


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  16. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ปิติและสุข

    <!-- Main -->[SIZE=-1]ปีติและสุข เป็นนามธรรมที่เกิดทางใจของบุคคลต่างๆได้ ๒ กรณี คือ[/SIZE]

    [SIZE=-1]๑. เกิดขึ้นแก่บุคคล ที่รับรู้อารมณ์ฝ่ายกุศลอันประทับใจ[/SIZE]
    [SIZE=-1]ที่เข้ามาทางตา หู จมูก ลิ้น และกายสัมผัส
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2008
  17. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ถ้าจะให้วิจารณ์ปิติและสุขข้างต้น จากการปฏิบัติจริง ก็จะพบว่า เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับงานเขียนข้างต้น หากเรานั่งปฏิบัติใหม่ๆ เราจะนั่งลำดับตามรูปแบบที่เคยอ่านเจอในหนังสือ หรือสื่อต่างๆ จนแยกได้ว่า นี่คือปิติ นี่คือสุข แต่เมื่อทำไปนานๆ จิตจะข้ามขั้น จนละ ทั้งปิติและสุข บางคนพอเข้าที่ จิตก็ทิ้งดิ่งขึงพืดเลยก็มี ท่านจึงให้ค่อยๆ ถอนมาที่ปิติคอยเลี้ยงจิตไว้ไม่ให้เกิดความห่อเหี่ยวท้อแท้ เมื่อทำไปชำนาญอีกนิดพอจิตอยู่ตัว ก็ค่อยเลื่อนจิตมาพิจารณา ซึ่งจะเห็นว่า จะสอดคล้องกับที่หลวงปู่เทสก์ท่านรจนาไว้ ว่าให้เพ่งจนจิตสงบถึงฐาน อย่าเพิ่งพิจารณาอะไร พอจิตทรงตัวแล้วค่อยพิจารณา เสมือนหนึ่ง น้ำยังขุ่นอยู่ รอให้น้ำใสตกตะกอนให้สนิท ก็จะแลเห็นโคลนตม และตัวปลาชัดเจน....
     
  18. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    [​IMG]


    เกือบลืมไป ในงานที่ไปเยี่ยมท่าน อ.ประถมฯ ที่ผ่านมา ท่าน อ.ประถมฯ ในฐานะประธานที่ปรึกษาทุนนิธิฯ หลังจากได้ฟังรายงานสรุปในช่วง 6 เดือนแรกของทุนนิธิฯ รวมถึงให้คำปรึกษาด้านแนวทางการดำเนินกิจกรรมและให้สติในการแก้ไขปัญหาในอนาคต ท่านก็ได้มอบความไว้วางใจ โดยได้บริจาคเงินเข้าทุนนิธิฯ ประจำเดือน พฤษภาคม 2551 มาด้วย 500.-บาท พร้อมกับสำทับว่า ใครนินทาว่าเราก็ช่างมัน ใครให้ร้ายเราก็ช่างมัน มารไม่มีบารมีก็ไม่เกิด เดี่ยวเค้าก็รับกรรมของเค้าเอง เดิมทีคิดจะอธิบายหรือชี้แจงข้อขัดข้องบางอย่างผ่านกระทู้ แต่พอเห็นจำนวนคนที่มาร่วมทำบุญทำกุศลกับทุนนิธิฯ และนึกถึงคำเตือนของ อ.ประถมฯ และพี่ใหญ่ ที่บอกว่าวิถีทางแห่งการเป็นพรหมหรือไม่นั้นมี 2 ทาง คือพรหมวิหาร 4 ซึ่งจะก้าวขึ้นสู่พรหมได้ กับตาต่อตาฟันต่อฟันซึ่งผลก็คือลงเหวทั้งคู่ ไม่เกิดมรรคผลแก่ผู้ใด ให้เลือกเอา คณะกรรมการฯ จึงตกลงใจที่จะเลือกทางสายแรก ผลก็คือยิ่งไม่คิดยิ่งสบาย ยิ่งคิดให้เป็นก็ยิ่งเย็นสบาย....สาธุ ครูอาจารย์ทั้ง 2 ท่าน (ในภาพท่าน อ.ประถมฯ กำลังโมทนาบุญให้กับรายชื่อผู้ทำบุญในสมุดบัญชีที่อยู่ในมือท่าน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2008
  19. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    <TABLE class=tborder id=post1160905 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1160905", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:12 PM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 21,570 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 4,661 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 129,631 ครั้ง ใน 17,674 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 13740 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1160905 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->http://palungjit.org/showthread.php?t=126206

    <TABLE class=tborder id=post1158422 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 09:04 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>yokusta<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1158422", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:04 AM
    วันที่สมัคร: Oct 2007
    สถานที่: สมุทรสาคร
    ข้อความ: 237 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 537 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 1,410 ครั้ง ใน 224 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 114 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1158422 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->[​IMG] ใครใช้ DTAC เข้ามาดูหน่อยนะ....
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ตั้งกระทู้ไว้ที่ห้อง ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์แล้วค่ะ แต่กลัวว่าจะเข้าไปดูกันน้อย เลยขออนุญาตเว็ปมาสเตอร์ มาตั้งกระทู้ในห้องนี้ด้วยนะคะ
    [​IMG]
    <!-- / message --><!-- sig -->
    ____________________________________________________________</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    พอดีใช้ DTAC และได้ส่ง message ไปแล้วเช่นกันครับ

    ได้ข้อความกลับมา

    ขอขอบคุณที่ร่วมสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กไทย จากใจ FM 102.25 MHz.

    โมทนาบุญกับทุกท่านครับ
     
  20. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    ภายหลังที่ท่านพระอาจารย์ เสาร์ กนฺสีโล ไปอยู่ดงอยู่ป่า เป็นเวลาอันควรแล้ว ท่านได้กลับออกมาและเปิดสำนักปฏิบัติธรรม ณ วัดเลียบ อำเภอเมืองอุบลฯ เมื่อ พ.ศ. 2435
    ในชีวิตพระอาจารย์เสาร์ ท่านได้ฝากจิตใจไว้กับพระพุทธเจ้ามาโดยตลอด ท่านพยายามรวบรวมเขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่งชื่อว่า "จตุรารักข" เป็นหนังสือที่พระอาจารย์เสาร์ กนฺสีโล
    ได้บรรจงแต่งไว้เพื่อพวกเรา ที่เป็นพุทธบริษัทควรได้ศึกษา โดยท่านได้แสดงไว้ดังนี้


    1. ให้มนุษย์เราทุกคนรู้จักระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า คือให้เจริญ พุทธานุสสติ
    2. ให้มนุษย์เราทุกคน เมื่อเกิดมาแล้วเข้าใจตนเองว่านับถือพระพุทธศาสนาแล้ว จงให้เจริญเมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา เป็นนุสติ
    3. ให้มนุษย์เราทุกคน จงรู้ว่าเมื่อเกิดมาแล้วจงรู้กฎของ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ซึ่งหนีสิ่งเหล่านี้ไปไม่ได้ คือ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย
    จึง ให้เจริญความไม่เที่ยง มีความทุกข์ และไม่ใช่ตัวตนของเรา ฉะนั้นจงเจริญอสุภานุสติ
    4. มนุษย์เราทุกคน จงพิจารณากองทุกข์นับตั้งแต่เกิดมาจนวาระสุดท้าย คือ ความตาย เพราะเราหนีความตายไปไม่ได้จงให้เจริญมรณานุสติ

    ท่านได้ย้ำไว้ในหนังสืออีกว่า " เรื่องของกรรมคนเรานี้ย่อมมีกรรมเป็นของๆตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นผู้ติดตาม
    มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมใดไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาป เมื่อยังมีชีวิตอยู่กรรมนั้นจักเป็นทายาท ให้เราได้รับผลของกรรมนั้นสืบต่อๆไป "
    นี่เป็นความหมายที่ท่านพระอาจารย์เสาร์ กล่าวเป็นนัยสืบมา

    ขอขอบคุณ http://www.geocities.com/bhuthaphum/history.htm


    หมายเหตุ จากอีกแหล่งหนึ่งกล่าวว่า จตุรารักข์ นี้ได้รจนาโดย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...