ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. thanyaka

    thanyaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +2,497
    วันนี้ตอนเที่ยงกว่า โอนเงินทำบุญ 269 บาท ขอบุญนี้จงสมเจตนาที่ข้าพเจ้าได้ตั้งจิตด้วยเถิด...สาธุ..สาธุ
     
  2. นายเหมียวๆ

    นายเหมียวๆ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2008
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +61
    วันนี้ผมได้โอนเงินร่วมทำบุญจำนวน 300 บาท เวลาประมาณเที่ยงกว่า

    ขอบคุณครับ
     
  3. jirautes

    jirautes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +575
    พี่โสระครับวันนี้ผมได้ใอนเงินจำนวน 200 บาท เป็นค่าจัดส่งพระครับ
    ส่วนเกินผมขอร่วมทำบุญกับพี่ครับ *08/04/08 เวลา 18.22 น.*
     
  4. 16

    16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +419
    (smile)

    เดือนนี้ทางครอบครัวผม ร่วมทำบุญเพิ่มเติมมาน่ะครับ เงินทำบุญเลยเพิ่มขึ้น

    ส่วนวันที่ 27 นี้ ทางครอบครัวผมจะร่วมไปทำบุญที่ รพ.สงฆ์ด้วยครับ และจะซื้อของไปถวายเพิ่มเติมด้วยครับ อาจเป็นผลไม้หรือน้ำผลไม้น่ะครับ ( ส่วนผมอาจไม่ได้เข้าร่วมครับ เสียดายมากๆ )

    โมทนาบุญด้วยครับ สาธุ

    16
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2008
  5. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    บทความสำหรับวันที่สองเรื่อง "แม่"

    <CENTER>ความหวัง ของแม่</CENTER>
    พ่อแม่ทุกคน ที่เลี้ยงลูกมา ไม่เคยต้องการอะไรจากลูก
    ขอเพียงให้ลูกเป็นคนดี ประสบความสำเร็จในชีวิต
    พ่อแม่ ก็มีความสุขแล้ว
    พ่อแม่เลี้ยงลูกมา ไม่เคยต้องการอะไรจากลูก
    ไม่เคยอยากได้จากลูก เป็นหัวใจที่บริสุทธิ์ เสียสละ และมีแต่ให้
    ต้องการเห็นลูกได้ดี มีคุณภาพ มีความสุข เท่านั้น พอใจแล้ว

    เมื่อลูก ๆ เติบโตกันหมดแล้ว พ่อแม่ ก็เริ่มแก่ชรา
    ในช่วงนี้ พ่อแม่ แอบหวังลึก ๆ ไว้ในใจ 3 ประการ
    ลองคิดดูซิว่า จริงหรือไม่จริง
    3 ประการที่ว่านี้ มีอะไรบ้างครับ

    1. ยามแก่เฒ่า หวังเจ้า เฝ้ารับใช้
    ตอนที่ท่านยังหนุ่ม ยังสาว
    สามารถทำงานได้ ช่วยเหลือตัวเองได้

    แต่พอแก่
    เคยพายเรือขายขนม เคยหาบขนมขาย ทำไม่ไหวแล้ว
    แขนขา ก็อ่อนกำลัง ใช้งานไม่ค่อยได้
    ขึ้นบันได ก็ตกบันได
    อาบน้ำ ก็ล้มในห้องน้ำ
    เดิน ก็เซ ช่วยตัวเองไม่ได้
    พอหมดเรี่ยวหมดแรงแล้วนี่ จะพึ่งใคร
    หวังพึ่ง ลูก
    ลูก คนที่เราเคยเลี้ยง เคยทะนุถนอม
    เคยเหน็ดเหนื่อย หล่อหลอมมาด้วย 2 มือของเรา
    จนได้ดิบได้ดีในวันนี้
    หวังให้ลูก มาช่วยประคับประคอง ดูแล
    หาอาหาร ให้กิน เตรียมที่ ให้นอน ประคอง ขึ้นบันได

    คนอื่น เขาเป็นคนไกล ใคร เขาจะดูแลให้
    ก็หวังแต่ลูกในไส้ จะแทนคุณ
    รอ ลูกยอดกตัญญู มาดูแล
    มีลูก 5 คน มีแค่คนเดียว ก็ชื่นใจแล้ว
    อีก 4 คนไม่มา ก็ช่าง ไม่เป็นไร
    คนเดียว ก็พอแล้ว

    แต่ที่พวกเราเจอ ส่วนใหญ่ เป็นยังไง
    ลูก 5 คน ไม่มีสักคน ที่กตัญญู
    ซื้อลอตเตอรี่ 5 ใบ ไม่ถูกสักใบ

    ไปดูที่บ้านพักคนชราบางแคซิ เห็นภาพชัดเจน
    ทิ้งยายแก่ ตาแก่ เต็มไปหมด
    มีลูก 4 คน 5 คน แต่ลูกไม่เลี้ยง
    เขามีครอบครัว มีลูกมีเต้า เขาก็ดูแลครอบครัวของเขา
    เรา ก็เลยต้องมาอยู่ที่นี่
    แต่ถึงจะไม่ค่อยมีความหวัง
    วันปีใหม่ วันสงกรานต์ วันพ่อวันแม่ ก็อดหวังไม่ได้
    แอบชะเง้อ ชะเง้อ ดูว่า จะมีลูกมาเยี่ยมสักคนหนึ่งไหม
    ปีหนึ่ง มาครั้งเดียว ก็ชื่นใจแล้ว

    แต่ตาแก่ยายแก่ที่ชะเง้อรอ ส่วนใหญ่ ชะเง้อแล้ว
    ผิดหวัง
    5 คน ไม่มาสักคน
    หัวใจห่อเหี่ยว ใจแฟบ แบนเป็นกระดาษ
    น่าสงสาร



    สงกรานต์นี้อย่าลืมกลับไปหาแม่ ไปเยี่ยมแม่ หรือปรนนิบัติแม่ให้ดีเน้อ...ยามแม่ไม่อยู่ดุจขุนเขาที่ทลายลง หากใครดูแดจังกึม จะเห็นบทที่นางเอกทายปัญหากับแม่ของพระราชา ก็จะรู้ซึ้งดีครับ
     
  6. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    <TABLE border=0 width="80%" align=center><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 align=center><TBODY><TR><TD borderColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width="80%" align=center><TBODY><TR><TD>ธรรมเพื่อความสวัสดี

    </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD>
    พระนิพนธ์

    สมเด็จพระญาณสังวร
    สมเด็จพระสังฆราช สกลสังฆปริณายก


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    <TABLE border=1 borderColor=#f7f7f7 width="82%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#f7f7f7 vAlign=top borderColor=#ffffff><TABLE border=0 width="100%" height=22><TBODY><TR><TD>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 width="94%" bgColor=#f7f7f7 align=center><TBODY><TR><TD height=618 vAlign=top>พ ร ะ ร า ช นิ พ น ธ์ เ พื่ อ ค ว า ม ส วั ส ดี แ ห่ ง ชี วิ ต
    แ ล ะ พ ร ะ ค ติ ธ ร ร ม เ พื่ อ เ ป็ น แ ส ง ส่ อ ง ใ จ
    สมเด็จพระญาณสังวร
    สมเด็จพระสังฆราช สกลสังฆปริณายก ​

    พระคติธรรม
    อันธรรมที่พระพุทธองค์ทรงประกาศมีมากมายพ้นประมาณและทั้งหมดเป็นเครื่องดับทุกข์ได้จริง ตั้งแต่ทุกข์เล็กน้อย จนถึงทุกข์ใหญ่ยิ่ง ดับได้บ้างชั่วครั้งชั่วคราว ได้มีความสุขบ้าง ทุกข์บ้าง จนถึงดับทุกข์ได้ตลอดสายสิ้นเชิงตลอดไปนิรันดร
    ความสำคัญอยู่ที่ต้องรับปฏิบัติตามที่ทรงสอน ปฏิบัติได้จริงเพียงไร ก็จะได้รับผลจริงเพียงนั้น พระพุทธศาสนาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งจริงแท้ สำหรับผู้ปรารถนาดับทุกข์และพ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิง และพระพุทธศาสนามุ่งจิตใจเป็นสำคัญ มุ่งให้รักษาจิตใจให้ผ่องใส
    หัวใจพระพุทธศาสนา ๓ ประการมีดังนี้
    ๑. ความไม่ทำชั่วทั้งหมด
    ๒. ความทำดีให้ถึงพร้อม
    ๓. ความรักษาใจให้ผ่องใส
    ความไม่ทำชั่วทั้งปวงและความทำดีทั้งหหมด นั้นคือทางสะดวกไปสู่การปฏิบัติรักษาใจให้ผ่องใส
    สมเด็จพระญาณสังวร
    สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
    ที่มา >>ClickHere<<
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    [​IMG]


    อย่าหลงฤทธิ์ของใจ

    จิตเบา ทำให้กายเบา
    จิตหนัก ทำให้กายหนัก

    ท่านอาจารย์ตื้อ (อจลธมฺโม) ฝึกหัด
    จนจิตเบากายเบาซาน (เหาะ) ไปได้ท่ามกลางอากาศ

    เพิ่นครูอาจารย์มั่น (ภูริทตฺโต) ห้ามไว้
     
  8. ลุงจิ๋ว

    ลุงจิ๋ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +990
    กิจกรรมวันที่ 27 เม.ย. 51 ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งวัตถุมงคลของหลวงปู่ใหญ่ อย่างนี้ไม่ไป ไม่ได้แล้ว...อ้อ! ถามหน่อย ต้องเตรียมอะไรไปบ้างครับ
     
  9. 16

    16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +419
    <!-- / message -->
    ขออนุญาตช่วยตอบน่ะครับ คำถามนี้ผมเคยถาม คุณโสระไปเช่นกัน ได้รับคำตอบมาอย่างนี้ครับ

    คุณลุงจิ๋วอาจจัดเตรียมไว้สัก 150-200 ชุดก็ได้ คราวก่อนผมเตรียมส้มเกือบ 200 ลูก หมดพอดีครับ วันที่ 27 นี้ ก็นำของที่เตรียมจะถวาย ไปเจอกันที่โรงอาหารโรงพยาบาลสงฆ์ อยู่สุดกำแพง เลยประตูทางออกไปจนสุดครับ ช่วง 7.30 -8.00 จะเห็นกล่องอาหารเยอะๆ นั้นแหละครับ เอาของที่เตรียมมาใส่ถุงรวมไปกับกล่องข้าวที่จะถวายพระสงฆ์ท่านได้เลยครับ

    โมทนาบุญด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2008
  10. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    พระหลวงปู่โลกอุดรพิมพ์ที่ทางทุนนิธิฯจะแจกให้กับผู้ที่เคยร่วมทำบุญสงเคราะห์สงฆ์อาพาธกับทุนนิธิฯพิมพ์ต่อไปคือ พิมพ์สังกัจจายน์เล็ก ขนาดฐานประมาณ 2 ซ.ม สูงประมาณ 2.2 ซ.ม
    [​IMG]
     
  11. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    [​IMG]
    หลวงปู่จาม มหาปุญโญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม

    แก้บ้า

    คนที่ภาวนาแล้วเป็นบ้า
    บ้าเพราะหลงอารมณ์หลงจิตหลงนิมิต
    เรียกบ้ามันเกิดเพราะสมาธิอีกทั้ง

    มีบุปพกรรมแต่ปางหลังส่งผลด้วย
    ไม่ใช่ว่าภาวนาแล้วบ้าทุกคนไป


    ให้เลิกวิตก วิจาร
    ทำใจให้เป็นอุเบกขา
    ดีก็ช่าง
    ร้ายก็ช่าง

    อะไรก็ช่าง
    อุเบกขารู้ตัวอยู่


    เจตนาแรงกล้าเป็นตัวอยาก
    อยากเป็นกิเลส เป็นวิปัสสนู


    เพราะทำจิตให้ผิดปกติเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง
    แก้บ้าต้องละวิตก ละวิจาร ละอยาก.


    ขอขอบคุณที่มาบทความ : คุรุธรรมล้ำเลิศวิศาล ( หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ) วัดป่าวิเวกวัฒนาราม บ้านห้วยทราย คำชะอี จ.มุกดาหาร
     
  12. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    ขอขอบคุณ น้อง16 มากครับ ที่ช่วยทางคณะกรรมการตอบกระทู้ อยากได้แบบนี้อยู่ คือช่วยๆกัน ทำส่วนไหนได้ ก็ช่วยกันไป เป็นบุญทั้งนั้นครับ ไม่ได้ต้องการปิดกั้นแต่กลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง ครับ

    ทางทุนนิธิจะเตรียมอาหารคาวอย่างเดียวเหลือส่วนที่เป็น น้ำ อาหารหวาน หรือ ผลไม้ ไว้สำหรับท่านที่จะมาร่วมได้ทำเพิ่มตามศรัทธาครับ ไว้ใกล้ๆจะมาแจ้งว่ามีพระอยู่กี่รูป ที่คณะเราจะไปถวายอาหาร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 เมษายน 2008
  13. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097

    นอกเหนือสิ่งใด เตรียมใจมาจากบ้านด้วย ว่าวันนี้ฉันและครอบครัวจะไปทำบุญ ๆ ที่เกิดนี้ ขออุทิศให้พ่อแม่ที่เป็นเนื้อนาบุญของลูก แม่ท่านจะอยู่แห่งใดก็ตาม ชวนเจ้าที่ ชวนเทวดา ชวนผีบ้านผีเรือนชวน...ให้มาทำบุญ โมทนาบุญกับเราด้วย นึกถึงใครชวนมาให้หมดคราวนี้ล่ะ มากันจนรถยางแบนแน่...ก็มาทีไร ไม่ชวนท่านๆ ก็มองกันตาปริบๆ ทำหน้าเศร้าครับ
     
  14. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    หลังจากเขียนพุทธประวัติแบบย่อๆมาซักครึ่งทางเกิดข้อสงสัยว่าทำไมเวลา พระพุทธเจ้าจะแสดงเหตุการณ์พิเศษ เช่น ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพพาน แม้นกระทั้งแสดงยมกปาฏิหารย์ โปรดพุทธมารดา และ เสด็จลงจากสวรรค์ดาวดึงส์ ฯลฯ พระองค์ท่านจะเลือกแสดงในวันเพ็ญ หรือ วันพระจันทร์เต็มดวง ใครมีความสามารถตอบผมหน่อยได้ไหม? เห็นพลังจิตมีผู้รู้อยู่มาก บางกระทู้รู้ไปถึงสวรรค์ ถึงนรก น่าทึ่งมาก จะรอนะครับผู้รู้ ไม่ได้ลองภูมิใครนะครับ อยากรู้จริงๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 เมษายน 2008
  15. เทพารักษ์

    เทพารักษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +980
    ร่วมทำบุญเพิ่มค่ะ

    เดือนนี้ร่วมทำบุญเพิ่มจำนวน 500 บาท นะคะ

    :) ขอบคุณมากนะคะ :)



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 500.jpg
      500.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101.3 KB
      เปิดดู:
      39
  16. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097

    คุณเทพารักษ์

    ยังนึกถึงคุณอยู่เลย ว่าหายไปไหน อย่าลืม pm. มาแสดงความจำนงเรื่องพระด้วย เก็บไว้ให้ดี ของคุณน่าจะเป็นสังกัจจายเล็กน่าจะดี กระปุ๊กลุกน่ารัก แถมเมตตา โชคลาภ นำหน้าด้วย แจ้งความจำนง ไปที่คุณโสระได้เลย แล้วอย่าลืมเที่ยวสงกรานต์เผื่อด้วยล่ะ

    ท่านอื่นก็เหมือนกันคิดถึงอยู่หลายคน แปลกดี คิดถึงใคร ไม่กี่วันก็โพสท์เข้ามาแล้ว กระแสความเย็น คงไหลไปถึงเน๊อะ....
     
  17. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    บทความสำหรับบุพการีวันที่ 3 ลูกที่เป็นดัง "เพชร" เป็นยังไง



    คนอื่น เขายังได้คุยกับลูก ได้ชื่นใจ
    ของเรา 5 คน พึ่งไม่ได้เลยสักคน
     
  18. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ตัวอย่างจากบทความวันที่ 3 นี้ เคยไปกราบท่าน อ.ณรงค์แห่งวัดบ้านเพ ท่านได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า ท่านสมเด็จ กรมพระยาดำรงฯ ก่อนที่ท่านจะไปทำงานราชการในแต่ละวัน ท่านจะต้องนั่งกินข้าวกับแม่ก่อนทุกวัน และสิ่งที่ท่านทำทุกวันเสมอ ก่อนกินข้าวกับแม่คือ ท่านจะต้องยกชามข้าวแม่ด้วยมือของท่านเองให้แม่ มีคนเคยถามท่านว่า คนรับใช้บ้านท่านมีตั้งเยอะแยะทำไมไม่ให้คนรับใช้ทำ ท่านบอกว่า แม่ของเรา ท่านเป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ หากเราไม่ปรนนิบัติท่านเป็นเบื้องต้น กับไปรับใช้คนอื่น จะใช้ได้อย่างไร เนื้อนาบุญนี้ เราทำ เราก็ได้บุญ คนอื่นทำก็ไม่ได้บุญเท่าเรา หลายคนไม่เคยไปเยี่ยมพ่อแม่ ไม่เคยไปรับใช้พ่อแม่ แต่พอเจ้านายเรียกหา พระสงฆ์องค์เจ้าดังๆ เรียกหา กลับกุลีกุจอทำให้ ทีพระอรหันต์ที่บ้านไม่เคยใส่ใจ นี่ละน้อใกล้เกลือกินด่าง...

    สงกรานต์นี้ หาผ้านุ่งสักตัว ผ้าขาวม้าสักผืน ติดตัวไปด้วยล่ะ ปู่ต่อหน้าพ่อหน้าแม่ แล้วกราบให้พ่อให้แม่อวยพร แล้วค่อยมาทำดีกันในวันที่ 27 เมษายน นี้ กับทุนนิธิฯ เท่านี้คณะกรรมการฯ ก็พอใจแล้ว

    พันวฤทธิ์
    10/4/51
     
  19. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    <TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>วันสงกรานต์ ความหมายที่ หายไป </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=left><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สงกรานต์คืออะไร? ความหมายที่ ´หายไป´ กับสงครามสาดน้ำ

    เทศกาลสงกรานต์ถือเป็นประเพณีวันขึ้นปีใหม่ไทยแต่โบราณ คนรุ่นใหม่ทุกคนรู้กันดี แต่ถ้าจะถามลึกลงไปว่า ...เหตุใดคนโบราณจึงยึดเอาวันที่ปีเก่าผ่านไปและนับเป็นวันปีใหม่


    คือ วันที่ 13 เมษายน หรือ ทำไมเรียกวันที่ 14 เมษายน ว่า "วันเนา" คำตอบเหล่านี้ถามคนรุ่นหลังสิบคนอาจได้สิบคำตอบ?!!

    เพื่อไม่ให้ประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามหลายอย่างของไทยเราถูกกลืนหายไปกับสภาพการเปลี่ยนแปลงทางสังคม กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงเป็นแม่งานจัดทำหนังสือ "สงกรานต์คืออะไร?" แจกจ่ายไปตามสำนักวัฒนธรรมประจำจังหวัดทั่วประเทศ สนใจไปขอรับหนังสือเล่มกะทัดรัดฟรี! ภายในเล่มมีรูปวาดการ์ตูนประกอบน่ารัก ฝีมือ โอม รัชเวทย์ เนื้อหาอ่านง่ายๆ เต็มไปด้วยความรู้เกี่ยวกับวันสงกรานต์ที่คนไทยเราควรรู้ ดังนี้


    ในปี 2432 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้กำหนดให้ วันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งเป็นการนับทางสุริยคติแทน จวบจนกระทั่งปี 2483 รัฐบาลไทยสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ได้ประกาศให้ วันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ อันเป็นการนับปีใหม่แบบสากลนิยม ดังนั้น ตั้งแต่ ปี 2484 เป็นต้นมาเราจึงมีวันขึ้นปีใหม่ตรงกับวันที่ 1 มกราคม และใช้กันมาจนปัจจุบัน




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สงกรานต์ปีใหม่แบบไทย

    แม้เราจะนับวันที่ 1 มกราคมของทุกปีเป็นวันขึ้นปีใหม่แบบสากลนิยม แต่ด้วยลักษณะพิเศษและกิจกรรมที่คนในชุมชนได้ถือปฏิบัติสืบเนื่องมาแต่โบราณ ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญสุนทาน การอุทิศส่วนกุศลแด่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ การสรงน้ำพระ การรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ การเล่นสาดน้ำ และการละเล่นรื่นเริงต่างๆ ล้วนทำให้ชาวไทยส่วนใหญ่ยังถือประเพณีสงกรานต์เป็นปีใหม่แบบไทยๆ ที่เป็นเทศกาลแห่งความเอื้ออาทร เกื้อกูลผูกพันซึ่งกันและกัน




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ประกาศสงกรานต์มีไว้ทำไม

    ประกาศสงกรานต์นี้ ถือเป็นการประกาศพระราชกฤษฎีกาเรื่องหนึ่งตามประเพณีราชการแต่สมัยโบราณ กล่าวคือ เมื่อสิ้นสุดปีหนึ่งๆ จะเปลี่ยนปีนักษัตรเริ่มศักราชใหม่ ทางราชการก็จะประกาศสงกรานต์ให้ราษฎรได้ทราบทั่วกันเกี่ยวกับวัน เดือน ข้างขึ้น ข้างแรมในปีต่อไป ปัจจุบันจะมีปรากฏในหนังสือราชกิจจานุเบกษาและปฏิทินหลวงที่พระราชทานเนื่องในวันปีใหม่ของทุกปี




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สงกรานต์ในแต่ละภูมิภาค

    ปัจจุบันแม้ประเพณีสงกรานต์ในหลายท้องที่จะมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันมากขึ้น โดยเฉพาะตามจังหวัดใหญ่ๆ อย่างไรก็ดี ในแต่ละภูมิภาคก็ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นที่น่าสนใจ คือ


    ภาคเหนือ หรือที่เรียกว่า ล้านนา เขาจะเรียกวันที่ 13 เมษายน ว่า "วันสังกรานต์ล่อง" (อ่านว่าสังขานล่อง) หมายถึง วันที่ปีเก่าผ่านไป หรือวันที่สังขารร่างกายแก่ไปอีกปี วันนี้ตอนเช้าจะมีการยิงปืนหรือจุดประทัดเพื่อขับไล่เสนียดจัญไร จากนั้นก็จะมีการทำความสะอาดบ้านเรือน ชำระล้างร่างกายรวมทั้งแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าใหม่เพื่อต้อนรับปีใหม่



    วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า "วันเนา" หรือ "วันดา" จะเป็นวันเตรียมงานต่างๆ เช่น เครื่องสังฆทาน อาหารที่จะไปทำบุญและแจกญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน วันนี้บางทีก็เรียกว่า "วันเนา" เพราะถือว่าเป็นวันห้ามพูดจาหยาบคาย เพราะเชื่อว่าจะทำให้ปากเน่าและไม่เจริญ



    วันที่ 15 เมษายน เรียกว่า "วันพญาวัน" หรือ "วันเถลิงศก" ถือเป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ เป็นวันที่ชาวบ้านจะทำบุญประกอบกุศล เลี้ยงพระฟังธรรม อุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ สรงน้ำพระพุทธรูปและพระสงฆ์ นำไม้ไปค้ำต้นโพธิ์ รดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่



    คำว่า "ดำหัว" ปกติแปลว่า "สระผม" แต่ ในทางประเพณีสงกรานต์หมายถึงการไปแสดงความเคารพ ขออโหสิกรรมที่อาจจะล่วงเกินในเวลาที่ผ่านมา และขอพรจากท่าน โดยมีดอกไม้ธูปเทียน และน้ำหอมที่เรียกว่า "น้ำขมิ้นส้มป่อย" (ประกอบด้วยน้ำสะอาดผสมดอกไม้แห้ง เช่น สารภี หรือดอกคำฝอยและฝักส้มป่อยเผาไฟ) พร้อมทั้งนำของไปมอบให้ผู้ใหญ่ เช่น ผลไม้ เสื้อผ้า อาหาร ฯลฯ เมื่อผู้ใหญ่กล่าวอโหสิกรรม และอวยพรแล้ว ท่านจะใช้มือจุ่มน้ำขมิ้นส้มป่อยลูบศีรษะตนเอง



    ถัดจากวันพญาวันเรียกว่า วันปากปี จะมีการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ พิธีสืบชะตา และการทำบุญขึ้นท้าวทั้งสี่ (คือการไหว้เทวดาประจำทิศ) รวมถึงการจุดเทียนต่ออายุชะตาภายในบ้าน)



    นอกจากนี้หลายท้องที่ยังจัดการละเล่นรื่นเริงสนุกสนาน มีมหรสพการแสดง หรือมีการจัดประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นเสริมไปด้วย เช่น การประกวดกลองมองเซิง กีฬาพื้นเมือง เป็นต้น



    ภาคอีสานหรือตะวันออกเฉียงเหนือ ประเพณีสงกรานต์จะจัดกิจกรรม 3 วันบ้าง 5 วันบ้าง หรืออาจจะ 7 วัน ก็แล้วแต่ท้องถิ่นกำหนด โดยวันแรกจะตรงกับวันที่ 13 เมษายนเป็นต้นไป กิจกรรมที่จัดจะคล้ายกับทางเหนือ กิจกรรมหลักๆ คือ สรงน้ำพระพุทธรูป ซึ่งส่วนใหญ่จะทำอยู่วันเดียว โดยมากจังหวัดจะจัดขบวนแห่ขึ้น ประกอบด้วยพระพุทธรูปและบริวารอื่นๆ เมื่อแห่เสร็จก็จะมีการสรงน้ำพระพุทธรูปและพระสงฆ์ตามลำดับ



    จากนั้นก็มักมีการ ทำบุญอัฐิบรรพบุรุษ ที่เรียกว่า สักอนิจจา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้คนอีสานที่ไปทำมาหากินหรือตั้งถิ่นฐานอยู่ต่างถิ่น มักจะเดินทางกลับภูมิลำเนาในวันสงกรานต์เพื่อรวมญาติ และทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพชนผู้ล่วงลับไปแล้ว



    นอกจากนี้ก็มีการปล่อยสัตว์ ปล่อยนก ปล่อยปลา ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ก็มีการรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ การแสดง และการละเล่นต่างๆ ตามประเพณีท้องถิ่น ด้านคนหนุ่มคนสาวและเด็กๆ ก็จะเล่นสาดน้ำกันด้วยความสนุกสนานเชื่อมสัมพันธ์กันและกัน โดยก่อนวันสงกรานต์จะมีการทำความสะอาดบ้าน การเตรียมอาหารและทุกสิ่งไว้ให้พร้อม เพื่อจะได้งดการทำภารกิจต่างๆ ในช่วงสงกรานต์ซึ่งถือเป็นวันเฉลิมฉลองปีใหม่ที่ทุกคนรอคอย



    ภาคใต้ จะเรียกว่า "วันสงกรานต์" ว่า "ประเพณีวันว่าง" ถือว่าเป็น วันละวางทั้งกายและใจ จากภารกิจปกติ ซึ่งตามประเพณีจะจัดกิจกรรม 3 วันคือวันที่ 13, 14 และ 15 เมษายนของทุกปี



    วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า "วันเจ้าเมืองเก่า" หรือ "วันส่งเจ้าเมืองเก่า" เพราะเชื่อว่าเทวดารักษาบ้านเมืองกลับไปชุมนุมกันบนสวรรค์ ในวันนี้มักจะเป็นวันทำความสะอาดบ้านเรือน และเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ รวมทั้งทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ที่เรียกว่า ลอยเคราะห์ หรือ ลอยแพ เพื่อให้เคราะห์กรรมต่างๆ ลอยตามไปกับเจ้าเมืองเก่าไป และมักจะมีสรงน้ำพระพุทธรูปสำคัญในวันนี้



    ส่วนวันที่ 14 เมษายน เรียกว่า "วันว่าง" คือวันที่ปราศจากเทวดาที่รักษาเมือง ดังนั้น ชาวบ้านก็จะงดงานอาชีพต่างๆ แล้วไปทำบุญที่วัด และรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ ส่วนวันที่ 15 เมษายน เรียกว่า "วันรับเจ้าเมืองใหม่" คือวันรับเทวดาองค์ใหม่ที่ได้รับมอบหมายให้มาดูแลเมืองแทนองค์เดิม วันนี้ชาวเมืองมักจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้า เครื่องประดับใหม่แล้วนำอาหารไปทำบุญที่วัด



    นอกจากกิจกรรมดังกล่าวแล้ว ชาวใต้ยังมีการปล่อยนกปล่อยปลา การก่อเจดีย์ทรายและการเล่นสาดน้ำเช่นเดียวกับภาคอื่นๆ และในสมัยก่อนแต่ละหมู่บ้านจะมีคณะเพลงบอกออกไปตระเวนร้องตามชุมชนหรือหมู่บ้าน โดยจะมีการร้องเป็นตำนานสงกรานต์ หรือเพลงอื่นๆ ตามที่เจ้าของบ้านร้องขอด้วย



    ภาคกลาง ประเพณีสงกรานต์ในภาคกลางจะมีกิจกรรมหลักๆ คล้ายภาคอื่นๆ เช่นกันคือ การทำความสะอาดบ้านเรือน เครื่องใช้ต่างๆ ก่อนวันสงกรานต์ ครั้นถึงวันสุกดิบ (ก่อนสงกรานต์หนึ่งวัน) ก็จะเป็นการเตรียมทำอาหารคาวหวานไปทำบุญตักบาตร หรือนำไปถวายพระที่วัด ซึ่งอาหาร/ขนมที่นิยมทำในเทศกาลนี้ได้แก่ ข้าวแช่ ข้าวเหนียวแดง กะละแม ลอดช่อง เป็นต้น



    นอกจากนี้ก็ยังมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษ การสรงน้ำพระพุทธรูปและพระสงฆ์ การรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ การละเล่นพื้นบ้าน การจัดประกวดเทพีสงกรานต์ การจัดขบวนแห่ การขนทรายเข้าวัดและก่อพระเจดีย์ทราย เป็นต้น


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
    โดย :ข้าวหอม <!-- Post_By_Member -->โพสเมื่อ [ วันเสาร์ ที่ 8 เมษายน 2549 เวลา 23:54 น.] [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ทีมา >>ClickHere<<
     
  20. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    พระหลวงปู่โลกอุดร พิมพ์หลวงปู่ใหญ่ เป็นพิมพ์สุดท้ายที่จะนำมาให้ชมกัน ขนาดฐานประมาณ2ซม สูงประมาณ2.2ซม
    [​IMG]
    พระทั้งหมดนี้ จะเริ่มแจกหลังสงกรานต์ครับ ท่านใดที่เคยทำบุญต่อเนื่องกับทุนนิธิฯ สองครั้งขึ้นไป หรือเคยช่วยงานถวายอาหารพระ pmมาหาผมเพื่อบอกที่อยู่ในการจัดส่งและเลขที่บัญชีค่าส่ง50บาท ส่วนท่านใดทำบุญมาในเดือนนี้เป็นครั้งแรกเราขออนุญาตยังไม่แจกครับ แต่ไม่ต้องน้อยใจ เราจะเก็บไว้ให้เมื่อท่านทำบุญต่อเนื่อง น้อยๆก็ไม่เป็นไร เราจะส่งให้เช่นกัน ที่ออกกฏเกณฑ์เช่นนี้ เพราะต้องการให้ท่านได้บุญมากๆ ไม่เหมือนขายพระแลกบุญ เงินที่ท่านทำบุญทุกบาทสตางค์ ทางทุนนิธิฯไม่ได้ผลประโยชน์อะไรด้วย ได้แต่บุญของท่านเอง ด้วยความหวังว่าจิตจะจับที่บุญเป็นหลัก ไม่ใช่ซื้อพระครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...