ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. khongbeng

    khongbeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +657

    สวยมากครับ น่าศรัทธา

    ใครยังไม่มีก็รีบหามาบูชา รีบๆ นะครับ

    มีจำนวนจำกัด สาธุ....
     
  2. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886

    รับทราบครับ ไว้จะpmไปบอกเลขที่บัญชี คงหลังสงกรานต์จึงเริ่มส่งพระให้นะครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  3. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886

    น้องkhongbeng เมื่อวันอาทิตย์ได้ของวิเศษสุดของท่านเจ้าคุณนรฯ เก็บไว้ให้ดีนะครับ แถมยังมีความสัมผัสส่วนตัวเมื่อแรกรับด้วย ยิ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันว่ามีวาสนาเก่ากับท่านเจ้าคุณนรฯ นับว่าเป็นโชคดีมาก กระซิบให้ฟังอีกเรื่องว่าตรวจแล้วนอกจากเป็นของเจ้าคุณนรฯ ยังมีกระแสของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เจริญด้วย



     
  4. khongbeng

    khongbeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +657

    ยอดเยี่ยมครับผม ขณะรับจากพี่... ขนลุกซู่เลยครับ

    ผมจะรีบไปเลี่ยมและติดตัวไว้เลยครับ...สาธุ...
     
  5. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    พระกรุโลกอุดรที่จะแจกพิมพ์ต่อไป คือพิมพ์สังฆฏิ (พิมพ์นี้มีสองแบบ เสนอมาแล้วหนึ่งแบบ) ขนาดประมาณ ฐาน 1.5ซ.ม สูงประมาณ2ซ.ม

    [​IMG]
     
  6. 16

    16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +419
    ร่วมทำบุญสงเคราะห์พระสงฆ์อาพาธ 1000 บาทครับ โอนเงินทำบุญแล้ววันนี้ เวลา ประมาณ 14.40 ครับ

    โมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  7. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097

    พิมพ์นี้ล่ะ อธิษฐานลบสายรุ้งยังกะเอายางลบๆ ดินสอเลยบนสมุดเลยล่ะ สนใจม๊ะ
     
  8. kratium

    kratium เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +3,670
    เมื่อวันที่ 4/04/51 เวลา 17:02:15 น. โอนเงินทำบุญสงเคราะห์ พระภิกษุ สงฆ์อาพาธ จำนวน 500 บาทค่ะ
    อนุโมทนา สาธุค่ะ
     
  9. ลุงจิ๋ว

    ลุงจิ๋ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +990
    คุณโสระครับ ไม่ทราบผมเข้าข่ายที่จะได้รับแจกหรือไม่ครับ
     
  10. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097

    อู้ฮู คุณ 16 เล่นทำบุญมาเยอะ เดี๋ยวคนอื่นไม่กล้าทำเข้ามา จริงๆ แล้ว ทำมากทำน้อย หากอยู่ในกติกา ก็ได้พระแล้ว แต่ถ้าอยากได้บุญมากพ่วงไปด้วยก็ไม่ว่ากัน นี่แสดงว่า พอไปเห็นกับตา แล้วประเคนท่านด้วยมือ คราวที่แล้ว เกิดศรัทธามาก ถ้างั้น คราวนี้ขอเชิญอีกน๊ะครับ เพราะจะพาขึ้นไปกราบพระที่ไม่มาเกิดอีกครับ จะได้มีบุญกันหลายต่อ

    พันวฤทธิ์
     
  11. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ขอประชาสัมพันธ์เบื้องต้นให้ทราบล่วงหน้าครับ

    งานบุญในเดือนนี้ กำหนดที่จะถวายสังฆทานภัตตาหารเช้า แด่พระสงฆ์อาพาธ พร้อมบริจาคเงิน เข้า รพ.สงฆ์เป็นครั้งที่ 5 ในวันอาทิตย์ที่ 27 เม.ย. 51 โดยมีงบประมาณขั้นต้นที่เตรียมไว้ 15,000.- บาท ถึง 20,000.- บาท และที่พิเศษก็คือ ท่าน อ.ประถม อาจสาคร ประธานที่ปรึกษาทุนนิธิฯ นี้ หากไม่ติดขัดอะไร ท่านก็จะมาร่วมงานกับเราด้วยครับ และหากใครไปร่วมในงานครั้งนี้ ไปเลือกเอาเลยว่าจะเอาพระพิมพ์บรมครูเทพโลกอุดร พิมพ์ใดที่เหมาะกันตนเอง ได้คนละ 1 องค์ครับ (ได้รับพระแล้ว ห้ามขอมาทาง pm อีก ผิดเจตนาผู้ให้ครับ) สถานที่นัดพบที่เดิมคือ ร้านอาหารของทาง รพ. ด้านทางเข้าขวามือ เวลา 7.00 - 7.30 น.ครับ

    พันวฤทธิ์
    8/4/51

     
  12. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097

    คุณลุงจิ๋ว

    ผมขอตอบแทนคุณโสระครับ เห็นบอกว่าจะพาครอบครัวไปที่ รพ.สงฆ์ด้วยไม่ไช่หรือครับ ถ้าไปก็ได้คนละองค์ ถ้าขอพระทาง pm.ก็ได้ 1 องค์ คนอื่นอดครับ แถมเสียค่าส่งด้วย ส่วนกติกาก็คือทำบุญมา 2 ครั้งหรือยัง ถ้ายังก็ต้องรอครับ เพราะตามเจตานาของผู้บริจาคคือให้เฉพาะคนทำบุญกับทุนนิธิฯ ส่วนกติกาที่ 2 จากรองประธานทุนนิธิฯ คือ ทำบุญ 2 ครั้งขึ้นไป แจก 1 องค์ เพราะกลัวพวกเห็นแก่พระที่แจกแฝงตัวเข้ามาครับ ซึ่งกรณีที่ 2 นี้ คณะกรรมการฯ เราไม่ชอบเอามากๆ เลยครับ แต่เราก็ป้องกันไว้แล้ว โดยดูจากรายชื่อทั้งหมดของผู้ที่เคยบริจาคที่อยู่ในมือเราคอยตรวจสอบก่อนส่งพระครับ

    พันวฤทธิ์
     
  13. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    <SIZE=7>


    <CENTER>ศาสนพิธี</CENTER>




    พิธีี คือ แบบอย่าง แบบแผน หรือรูปแบบต่างๆ ที่พึงปฏิบัติในทางศาสนา โดยเฉพาะพระพุทธศาสนาเรียกว่า ศาสนพิธีี

    ความจริงเรื่อง ศาสนพิธี เป็นเรื่องที่มีด้วยกันทุกศาสนา และเป็นเรื่องเกิดขึ้นทีหลังศาสนา หมายความว่า มีศาสนาเกิดขึ้นก่อนแล้วจึงมีพิธีต่างๆ เกิดตามมาภายหลัง แม้ศาสนพิธีในพระพุทธศาสนาก็เช่นกัน เกิดขึ้นภายหลังทั้งสิ้นเหตุเกิดศาสนพิธีในพระพุทธศาสนานี้ ก็เนื่องจากมีหลักการของพระพุทธศาสนา ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงวางไว้แต่ในปีที่ตรัสรู้ เพื่อสาวกจะได้ถือเป็นหลักในการออกไปประกาศพระศาสนา อันเรียกว่า "โอวาทปาติโมกข์" ในโอวาทนั้น มีหลักการสำคัญที่ทรงวางไว้เป็นหลักทั่วๆไป ๓ ประการคือ

    ๑. สอนไม่ให้ทำความชั่วทั้งปวง
    ๒. สอนให้อบรมกุศลให้พร้อม
    ๓. สอนให้ทำจิตใจของตนให้ผ่องแผ้ว

    โดยหลักการทั้ง ๓ นี้ เป็นอันว่าพุทธบริษัทต้องพยายามเลิกละความประพฤติชั่วทุกอย่าง จนเต็มความสามารถ และพยายามสร้างกุศลสำหรับตนให้พร้อมเท่าที่จะสร้างได้ กับพยายามชำระจิตใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ ด้วยการพยายามทำตามคำสอนในหลักการการนี้ เป็นการพยายามทำดี เรียกว่า "ทำบุญ" และการทำบุญนี้แหละพระพุทธเจ้าทรงแสดงวัตถุ คือที่ตั้งอันเป็นทางไว้โดยย่อ ๆ ๓ ประการ เรียกว่า "บุญกิริยาวัตถุ" คือ

    ๑. ทาน การบริจาคสิ่งของของตนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
    ๒. ศีล การรักษากายวาจาให้สงบเรียบร้อยไม่ล่วงพุทธบัญญัติ
    ๓. ภาวนา การอบรมจิตใจให้ผ่องใสในทางกุศล

    บุญกิริยานี้เอง เป็นแนวให้พุทธบริษัทปฏิบัติตามหลักการดังกล่าวข้างต้น และเป็นเค้าให้เกิดศาสนพิธีต่างๆ ขึ้นโดยนิยม คือ ในกาลต่อ ๆ มา พุทธบริษัทนิยมทำบุญ ไม่ว่าจะปรารภเหตุใดๆ ก็ให้เข้าหลักบุญกิริยาวัตถุ ๓ นี้ โดยเริ่มต้นมีการรับศีล ต่อไปภาวนาด้วยการสวดมนต์เองหรือฟังพระสวดแล้วส่งใจไปตาม จบลงด้วยการบริจาคทานตามสมควร เพราะนิยมทำบุญเป็นการบำเพ็ญความดีดังกล่าวนี้ และทำในกรณีต่าง ๆ กันตามเหตุที่ปรารภ จึงเกิดพิธีกรรมขึ้นมากประการ เมื่อพิธีกรรมใด เป็นที่นิยมและรับรองปฏิบัติสืบ ๆ มาจนเป็นประเพณี พิธีกรรมนั้นก็กลายเป็นศาสนพิธีขึ้น ฉะนั้น ศาสนพิธีจึงมีมากมาย เมื่อแยกเป็นหมวดก็สงเคราะห์ได้ ๔ หมวด คือ

    ๑. หมวดกุศลพิธี ว่าด้วยพิธีบำเพ็ญกุศล
    ๒. หมวดบุญพิธี ว่าด้วยพิธีทำบุญ
    ๓. หมวดทานพิธี ว่าด้วยพิธีถวายทาน
    ๔. หมวดปกิณกพิธี ว่าด้วยพิธีเบ็ดเตล็ด
    อ้างอิง : เว็บไซด์ธรรมะไทย


    ขอขอบคุณ

    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=icyiceberg&month=06-04-2008&group=6&gblog=29
     
  14. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    มาทบทวนความจำกันอีกครั้ง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านแสดงธรรมอะไร และมีกี่หมวด


    โพธิปักขิยธรรม 37
    <!-- Main -->[SIZE=-1]ตลอดระยะเวลา 45 พรรษา ที่พระองค์ทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนา พระธรรมเทศนาที่ทรงแสดงไว้ 84000 พระธรรมขันธ์นั้น ธรรมอันเป็นกุศลซึ่งเป็นภาคปฏิบัติที่ต้องเจริญได้รวบรวมไว้ใน โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ หมายถึงธรรมอันเป็นฝ่ายกุศลและเป็นองค์แห่งการตรัสรู้ ซึ่งมีสติเป็นธรรมเอกและเป็นธรรมที่เป็นฐานของหมวดธรรมต่างๆ ในโพธิปักขิยธรรม ทั้ง 37 ข้อ แบ่งออกเป็น 7 หมวด คือ
    - สติปัฏฐาน 4
    - สัมมัปธาน 4
    - อิทธิบาท 4
    - อินทรีย์ 5
    - พละ 5
    - โพชฌงค์ 7
    - อริยมรรคมีองค์ 8

    สติปัฏฐาน 4
    สติปัฏฐาน 4 คือการเจริญสติระลึกรู้ธรรมะ 4 หมวด คือ
    1. กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
    2. เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน
    3. จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน
    4. ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน

    เป็นข้อปฏิบัติที่มีสติเป็นประธาน เป็นสัมมาสติในอริยมรรคมีองค์ 8 เพื่อละสังโยชน์ เข้าถึงอริยมรรค อริยผล และพระนิพพาน สติที่ระลึกรู้อารมณ์ในสติปัฏฐาน 4 ได้แก่ สติที่ระลึกรู้ตามความเป็นจริงว่า
    กายเป็นสักแต่ว่ากาย
    เวทนาเป็นสักแต่ว่าเวทนา
    จิตเป็นสักแต่ว่าจิต
    ธรรมเป็นสักแต่ว่าธรรม
    ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา ไม่ใช่ตัวตน เป็นอนัตตา หากหลงไปยึดมั่นถือมั่นเมื่อใดก็เกิดเป็นอัตตาตัวตน เกิดเห็นแก่ตัว เป็นทุกข์เมื่อนั้น

    สังมัปปธาน 4
    คือความเพียรพยายามอย่างยิ่งยวด และต้องเป็นไปในธรรม 4 ประการ ซึ่งจะสัมฤทธิ์ผลได้ก็ต้องอาศัยสติเป็นตัวกำกับได้แก่
    1. เพียรพยายามระวังอกุศลที่ยังไม่เกิด มิให้เกิดขึ้น เช่น ไม่คิดโกรธ
    2. เพียรพยายามละอกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้หมดไป เช่น ระงับอารมณ์โกรธ
    3. เพียรพยายามสร้างกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ให้บังเกิดขึ้น เช่น พยายามฝึกใจให้มีเมตตา กรุณา
    4. เพียรพยายามทำให้กุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ให้เจริญยิ่งขึ้น เช่น รักษาเมตตากรุณาในจิตใจเอาไว้ในทุกสถานการณ์ แม้เมื่อต้องประสบกับความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ ก็ยังพยายามทำจิตใจให้มีเมตตา กรุณา

    อิทธิบาท 4
    คือ ทางแห่งความสำเร็จในกิจอันเป็นกุศล มีองค์ประกอบ 4 ประการ คือ
    1. ฉันทะ ความพอใจและเต็มใจ
    2. วิริยะ ความเพียรพยายาม
    3. จิตตะ ความเอาใจใส่ จิตใจจดจ่อ
    4. วิมังสา ปัญญาที่พิจารณาใคร่ครวญ หาเหตุผล เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

    จิตตะ ในอิทธิบาท 4 คือ ธรรมอันเดียวกันกับสตินั่นเอง

    อินทรีย์ 5หมายถึง ธรรมที่ทำหน้าที่เป็นใหญ่ และต้องเป็นไปตามสภาวธรรมที่เป็นกุศล มี 5 ประการ คือ
    1. สันธินทรีย์ คือ ความศรัทธาเป็นใหญ่ในอารมณ์ เป็นศรัทธาอันแรงกล้าในจิตใจ ซึ่งอกุศลไม่อาจทำให้ศรัทธานั้นเสื่อมคลายได้
    2. วิริยินทรีย์ มีความเพียรเป็นใหญ่ และต้องเป็นความเพียรที่บริบูรณ์ด้วยองค์ 4 แห่งสัมมัปปธาน
    3. สตินทรีย์ สติที่ระลึกรู้ในอารมณ์ปัจจุบัน อันเกิดจากสติปัฏฐาน 4
    4. สมาธินทรีย์ การทำจิตให้เป็นสมาธิตั้งมั่นจดจ่ออยู่ในอารมณ์กรรมฐาน ไม่ฟุ้งซ่าน
    5. ปัญญินทรีย์ ปัญญาทำหน้าที่เป็นใหญ่ด้วยการรู้แจ้งเห็นจริงว่าขันธ์ 5 เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    สตินทรีย์เป็นธรรมที่เป็นตัวกลาง กำกับและเชื่อมให้สัทธินทรีย์กับปัญญินทรีย์ และวิริยินทรีย์กับสมาธินทรีย์ทำงานประสานกันอย่างสมดุล ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่งที่ทำให้เกิดผลเสียได้

    พละ 5
    หมายถึง ธรรมอันเป็นกำลังที่เกื้อหนุนแก่อริยมรรค จะเกิดพละ 5 ได้ เมื่ออินทรีย์ 5 สมบรูณ์ มีความมั่นคงเกิดเป็นกำลังที่ทำให้อดทนไม่หวั่นไหว และทำให้เข้มแข็งเอาชนะธรรมที่เป็นข้าศึกได้ พละ 5 ประกอบด้วย
    1. สัทธาพละ ความเชื่อ เลื่อมใส ศรัทธาที่เป็นกำลังให้อดทน และเอาชนะธรรมอันเป็นข้าศึก เช่น ตันหา เป็นต้น
    2. วิริยะพละ ความเพียรพยายาม เป็นกำลังให้ต่อสู้กับความขี้เกียจ
    3. สติพละ มีความระลึกได้ในอารมณ์สติปัฏฐาน อันจะเป็นกำลังให้ต้านทานความประมาทพลั้งเผลอ
    4. สมาธิพละ ความตั้งมั่นจดจ่ออยู่ในอารมณ์กรรมฐาน ทำให้เกิดกำลังต่อสู้เอาชนะความฟุ้งซ่าน
    5. ปัญญาพละ เป็นกำลังปัญญาที่เข้มแข็ง ซึ่งทำให้เอาชนะโมหะ คือความโง่ ความหลงได้

    เช่นเดียวกับสติในอินทรีย์ 5 สติในพละ 5 เป็นตัวเชื่อมให้ศรัทธากับปัญญา และวิริยะกับสมาธิ ทำงานประสานกันได้อย่างสมดุล คือมีกำลังที่เกื้อหนุนกันพอดีๆ เพื่อให้เกิดสติปัฏฐาน 4 ได้สมบูรณ์

    โพชฌงค์ 7
    คือองค์ธรรมสำคัญที่ทำให้การตรัสรู้ โพธิจิต หรือการบรรลุธรรมเกิดขึ้นได้ มีสติเป็นบาทฐาน ประกอบด้วยองค์ธรรม 7 ประการ คือ
    1. สติ ความระลึกได้
    2. ธัมมวิจยะ การวิจัยธรรม ความรู้จักลักษณะแท้จริงของสภาวะธรรม ซึ่งเป็นตัวปัญญา ไม่ใช่การคิดเอา3. วิริยะ ความพากเพียร
    4. ปีติ ความอิ่มใจ สุขใจในการปฏิบัติธรรม
    5. ปัสสัทธิ ความสงบกาย สงบใจ ความผ่อนคลายกายใจ
    6. สมาธิ ความตั้งใจมั่นของจิตที่มีอารมณ์เดียว ไม่ซัดส่ายไปในอารมณ์ต่างๆ
    7. อุเบกขา ความที่จิตมีความสงบระงับอย่างยิ่ง ไม่กระเพื่อมไหวไปตามสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความสุข ทุกข์ ดีใจ เสียใจ รัก ชัง กล้า กลัว ยินดี ยินร้าย ฯลฯ ซึ่งจะเป็นจิตที่มีความประณีตละเอียดอ่อน ปลอดโปร่ง เบาสบาย

    อริยมรรคมีองค์ 8
    หมายถึง หนทางปฏิบัติที่นำไปสู่การบรรลุมรรคผลนิพพาน มีสัมมาสติเป็นตัวกำกับ และเป็นพื้นฐานของอริยมรรคทุกข้อ ประกอบด้วยองค์ธรรม 8 ประการ คือ
    1. สัมมาทิฏฐิ ปัญญาอันเห็นชอบ คือเห็นอริยสัจ 4
    2. สัมมาสังกัปปะ ความดำริชอบ คือคิดออกจากกาม ไม่คิดพยาบาท และคิดที่จะไม่เบียดเบียน
    3. สัมมาวาจา วาจาชอบ คือ ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ
    4. สัมมากัมมันตะ กระทำชอบ คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการลักทรัพย์ เวนจากการประพฤติผิดในกาม
    5. สัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีวิตชอบ คือ การประกอบอาชีพแต่ในทางสุจริต ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ผิดจากหน้าที่อันควร
    6. สัมมาวายามะ ความเพียรชอบ คือ เพียรในสัมมัปปธาน 4
    7. สัมมาสติ ระลึกชอบ คือ ระลึกในสติปัฏฐาน 4
    8. สัมมาสมาธิ สมาธิชอบ ความตั้งใจมั่นชอบ หมายถึง การเข้าสมาธิที่เป็นไปเพื่อละนิวรณ์โดยตรง

    หากพิจารณาข้อธรรมในโพธิปักขิยธรรมแล้ว ในทางปฏิบัติจะเห็นว่าธรรมที่เป็นเอกและเป็นฐานสำหรับการปฏิบัติธรรมทุกข้อก็คือ สตินั่นเอง สติจึงเปรียบเหมือนรอยเท้าช้างที่สามารถรวมรอยเท้าสัตว์ต่างๆ ลงไว้ได้หมด สติรวมธรรมอื่นๆ ไว้หมดในตัวเช่นเดียวกัน

    หากกล่าวถึงหลักธรรมที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงเป็นปฐมเทศนา ว่าด้วยหลักมัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลาง ซึ่งหมายถึงหนทางปฏิบัติที่นำไปสู่การบรรลุมรรคผลนิพพาน อันมีองค์ประกอบ 8 ประการ รวมเรียกว่า อริยมรรคมีองค์ 8 จะเห็นว่าสัมมาสติ ซึ่งเป็นข้อที่ 7 ในอริยมรรคนั้น เมื่อปฏิบัติจริงๆ แล้ว สัมมาสติจะต้องเป็นพื้นฐานของอริยมรรคทุกข้อ เรียกได้ว่าอริยมรรคข้ออื่นๆ ต้องมีสัมมาสติ เป็นตัวกำกับในทุกระดับ ทุกกรณี และอริยมรรคข้อที่ 7 ซึ่งเป็นตัวสัมมาสติ โดยตรงนั้น ก็หมายถึง สติระลึกในสติปัฏฐาน 4 นั่นเอง

    อริยมรรคมีองค์ 8 ที่จัดหมวดหมู่และอธิบายในอีกรูปแบบหนึ่งเพื่อให้สะดวกต่อการปฏิบัติ เป็นลำดับขั้นตอน คือ ไตรสิกขา ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติตามหลักพระพุทธศาสนาที่ต้องศึกษา 3 ประการ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
    1. ศีล เป็นข้อปฏิบัติเพื่อฝึกอบรมกาย วาจา เพื่อให้มีความประพฤติดีงาม
    2. สมาธิ คือ ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมใจ เพื่อให้จิตใจสงบตั้งมั่น เหมาะสมกับการใช้ปัญญาอย่างลึกซึ้ง
    3. ปัญญา คือ ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมปัญญาเพื่อให้เกิดความรู้แจ้ง เข้าใจสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง

    ธรรมะแต่ละข้อในไตรสิกขานี้ ต่างก็มีความสัมพันธ์กัน กล่าวคือ ศีล เป็นพื้นฐานให้เกิดสมาธิ และสมาธิ เป็นพื้นฐานในเกิดปัญญา เมื่อเกิดปัญญาที่รู้แจ้ง เห็นตามความเป็นจริงแล้ว ก็เรียกว่าเป็นปัญญาขั้นสมบูรณ์ หมายถึงสมบูรณ์พร้อมด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งเท่ากับอริยมรรคมีองค์ 8 สมบูรณ์ สติปัฏฐาน 4 สมบูรณ์ โพธิปักขิยธรรม 37 สมบูรณ์ นั่นเอง

    ดังนั้น ไม่ว่าจะจัดหมวดหมู่ธรรมอย่างไร อธิบายหลักธรรมในรูปแบบไหน ก็สรุปลงที่หลักสติปัฏฐาน 4 ซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า

    เอกายะโน อะยัง มัคโค
     
  15. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE borderColor=white cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=2><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><!--Last Update : 18 มกราคม 2551 13:16:50 น.-->
    <!-- Main -->บุญกลั่นเป็นบารมี


    บารมี คือ คุณความดีที่บำเพ็ญอย่างยิ่งยวด เพื่อบรรลุ จุดหมายอันสูงยิ่ง

    ในแง่ของการปฏิบัติ บารมี คือ บุญที่มีคุณภาพพิเศษอันเกิดจากการทุ่มเทเอาชีวิตเป็นเดิมพันไปสร้างบุญนั้นมา


    บารมีเป็นธรรมอันเลิศ ที่พระบรมโพธิสัตว์ต้องบำเพ็ญสั่งสมโดยลำดับ เพื่อจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


    บารมี มี ๑๐ ประการ หรือที่เรียกว่า บารมี ๑๐ ทัศ คือ

    ทานบารมี
    ศีลบารมี
    เนกขัมบารมี
    ปัญญาบารมี
    วิริยบารมี
    ขันติบารมี
    สัจจบารมี
    อธิษฐานบารมี
    เมตตาบารมี
    อุเบกขาบารมี



    ซึ่งสรุปย่อๆ อยู่ในรูปของบุญกิริยาวัตถุ ๓ คือ ทาน ศีล ภาวนา ที่กระทำอย่างยิ่งยวด


    บุญที่เกิดจากการทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนานี้ เมื่อตั้งใจทำมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัย ก็จะกลั่นตัวกลายเป็น "บารมี" ซึ่งมีอานุภาพมหาศาลยิ่งกว่าบุญ และจะคอยสนับสนุนเราให้ประสบความสุข และความสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา ดังที่พระเดชพระคุณ พระมงคลเทพมุณี (สด จนฺทสโร) เคยกล่าวไว้ว่า

    "...บุญ ที่เกิดจากการบริจาคทานนั้น เมื่อบริจาคบ่อยครั้งเข้ารวมกันได้ขนาดโตวัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ ๑ คืบ หรือขนาด เท่าดวงจันทร์แล้ว ดวงบุญนั้นจะกลั่นตัวเองเป็น บารมี ที่เรียกว่า ทานบารมี ...."


    ดังนั้น การทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ก็คือ กาสร้างบารมีนั่นเอง และผลบุญจากการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนานี่แหละ ที่เรานำมาใช้ออกแบบชีวิตของเราเองได้




    ขอขอบคุณ

    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jaisai&month=18-01-2008&group=3&gblog=6
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. onimaru_u

    onimaru_u เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +854
    วันนั้นถ้าผมไม่ติดขัดงานอะไรผมก็จะขอไปด้วยครับ
     
  17. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    เอาล่ะน๊ะ ก่อนสงกรานต์นี้ 3-4 วันที่เหลือ จะเสนอบทความของบุพการีทุกวันๆ ละ 1 บทความ เพื่อเตือนใจกัน สงกรานต์นี้จะได้ไปกราบพ่อและแม่กันให้สมกับที่เป็น "ลูกกตัญญู"




    <CENTER>อยู่ที่ไหน จึงมีค่าที่สุด</CENTER>
    ในบรรดาดอกไม้หอมทั้งหลาย
    มะลิ เป็นราชินีของดอกไม้หอม
    เป็นแชมป์ของดอกไม้หอมทั้งหมด กลิ่น ก็หอมชื่นใจ
    นอกจากกลิ่นหอมแล้ว สียังขาวบริสุทธิ์
    ขาวบริสุทธิ์ น่ารัก น่าชื่นใจ

    วันนี้ ลูก ๆ ทุกคน เป็นดอกมะลิ
    ไม่ว่าลูกจะอยู่ไหน ในสังคม ลูกจะมีกลิ่นหอม
    ดีกว่าน้ำหอมยี่ห้อใด ๆ ในโลก ที่ลูกใช้

    คนที่เห็น จะรัก มองด้วยความชื่นชม
    จิตใจของลูก ปราศจากความขุ่นข้องหมองใจ
    โกรธ โมโห อาฆาต พยาบาท
    ใจของลูก ขาวบริสุทธิ์เหมือนดอกมะลิ
    ทำให้ลูก มีเสน่ห์มากขึ้น ผู้ใหญ่เมตตา เพื่อน ๆ ก็รัก
    ลูกก็จะมีแต่ความสุข
    ตอนนี้ ลูกจะเป็นพวงมะลิ
    พวงมะลิ เอาไปใช้ที่ไหน จึงจะมีค่าที่สุด
    เอาไปบูชา พ่อพระแม่พระของลูก เอาไปวางไว้แทบเท้าของท่านทั้งสอง
    ไปกราบเท่าท่าน ไม่ต้องอาย ไม่ต้องเขินใด ๆ
    ถ้าลูกอยากจะเขิน โปรดเขินกับการทำชั่ว
    เวลาทำความดีต่อคุณพ่อคุณแม่ ไม่ต้องเขิน
    การทำความดีนั้น ต้องกล้าหาญ และเด็ดเดี่ยว
    หมอบลงไป ยกเท้าของแม่ วางบนเศียรเกล้าของลูก
    ลูกคนไหน ทำได้อย่างนี้ ยอด
    เอาสิ่งที่สูงที่สุดของเรา สัมผัสกับสิ่งที่ต่ำที่สุดในตัวท่าน เขินทำไม
    ตอนเด็ก ๆ แม่เคยอุ้มเราขี่คือ
    เอาเราเทินไว้บนศีรษะ เคยเห็นไหม
    เอาก้นลูกที่เปื้อนอุจจาระ ไปไว้บนหัว ท่านยังทำได้
    จูบฝ่าเท้าลูก เอาฝ่าเท้าลูกมาคลึงหน้า ท่านก็ทำบ่อย
    แล้วทำไมลูก จะเอาฝ่าเท้าท่าน
    ซึ่งล้างสะอาดแล้ว มาวางไว้บนศีรษะ ให้เป็นสิริมงคล ไม่ได้

    สำหรับลูก ที่เป็นมุสลิม ในคัมภีร์ ท่านบอกไว้ว่า
    สวรรค์ อยู่แทบเท้าของมารดา
    เจ้าจงไปสัมผัสเท้าแม่ ไปกราบเท้าแม่
    แล้วเจ้าจะขึ้นสวรรค์

    พวงมะลิที่อาจารย์มอบให้ในวันนี้ เอาไปวางแทบเท้าคุณพ่อคุณแม่
    แล้วก้มลงกราบ
    ให้สมภาคภูมิกับที่เราเป็น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2008
  18. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    พระกรุโลกอุดร พิมพ์สังกัจจายน์ใหญ่ ขนาดฐานประมาณ 2.3ซ.ม สูงประมาณ4ซ.ม เด่นด้านเมตตาโชคลาภมากเป็นพิเศษ
    [​IMG]
     
  19. kratium

    kratium เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +3,670
    <TABLE class=MsoNormalTable style="BACKGROUND: white; WIDTH: 100%; mso-cellspacing: .7pt; mso-padding-alt: 2.25pt 2.25pt 2.25pt 2.25pt" cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 2.25pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 2.25pt; PADDING-BOTTOM: 2.25pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 2.25pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top>อ่านบทความแล้วรู้สึกชอบ จึงนำมาแบ่งปันกันค่ะ ขออภัยไม่ทราบชื่อเจ้าของบทความ

    ฤดูกาลของชีวิต
    ในช่วงที่ผ่านมา ฉันใช้เวลาอยู่กลางแจ้ง อยู่กับธรรมชาติปลูกดูแลต้นไม้จนได้เห็นว่าธรรมชาติแสดงธรรมให้เราฟังตลอดเวลา แต่เราไม่เคยฟัง <O:pตอนหน้าแล้ง ขาดน้ำ ต้นไม้จะทิ้งใบหมด รักษาความชุ่มชื้นไว้ในตัว รักษาแก่นรักษาราก ให้รอดผ่านวิกฤติไปได้ เหมือนคน ถ้าในยามเกิดวิกฤตการณ์สำคัญในชีวิตสามารถปล่อยสิ่งต่างๆ ที่ไม่จำเป็นรอบตัว สงบนิ่ง ทำในสิ่งที่รู้ว่าถูกต้องมีศรัทธาในตัวเอง ในความดีที่ทำมาในอดีต ในเป้าหมายที่ดีงามของชีวิตก็สามารถรักษาใจให้มีความสุข มีพลัง สามารถเรียนรู้จากสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเข้าใจโลก เข้าใจมนุษย์ จนพัฒนาจิตใจตัวเองให้มีคุณภาพมากขึ้น <O:p
    ฤดูกาลในชีวิตมนุษย์ ก็เหมือนฤดูกาลของต้นไม้ ต้นไม้อ่อนน้อมต่อธรรมชาติยอมรับความจริงทุกอย่างที่เกิดขึ้น แล้วปรับตัวมันเอง รักษารากไว้พอฤดูแล้งผ่านไปมันก็ผลิดอกออกผล เบ่งบานอย่างก้าวกระโดดทุกปีเพียงเราเรียนรู้จากต้นไม้ อ่อนน้อมต่อความจริงในชีวิต ว่าทุกบทเรียนทุกฤดูกาลมีเหตุผล แต่ที่สำคัญที่สุด คือมีเมล็ดพันธุ์ของโอกาสแทรกอยู่ในทุกสถานการณ์ ไม่มีสถานการณ์ใดที่ไม่มีโอกาสแห่งการเรียนรู้ พัฒนา อย่าเสียเวลา เสียพลังชีวิต ในการคร่ำครวญว่าทำไม...ทำไม ถึงเกิดกับเรา <O:pการยอมรับอย่างรวดเร็วที่สุด แล้วสร้างชีวิตที่งดงาม ต่อไปจากจุดที่มันเป็นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ต้องใช้ใจที่มีคุณภาพ มีกำลัง ให้โอกาสใจเราได้หยั่งรากด้วยการภาวนา ด้วยการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติด้วยการทำแต่ละอย่างในชีวิตอย่างตื่นรู้ตั้งใจให้แต่ละอย่างที่เราทำอยู่ตรงหน้าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในแต่ละขณะแล้วเราจะพบว่าการทำทุกอย่าง อย่างตื่นรู้ ทำให้เรามีเวลาพออิ่มเต็มกับแต่ละสิ่งที่เราทำ ใจจะได้เห็นว่าปาฏิหาริย์แห่งความสุขของชีวิตมีอยู่ในทุกลมหายใจ ทุกย่างเท้าที่ก้าวเดิน <O:p
    แล้วทุกฤดูกาลจะเป็นฤดูกาลแห่งความสุขสำหรับคุณ <O:p


    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 1; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 2.25pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 2.25pt; PADDING-BOTTOM: 2.25pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 2.25pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top>นิตยสาร Health & Cuisine ปีที่ : 8 ฉบับที่ : 86 เดือน : มีนาคม 2551<O:p



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    วันนี้เวลา 13.09น. ผมได้ฝากเงินจำนวน 400บาท เข้าบัญชีทุนนิธิสงฆ์อาพาธ ผ่าน bay zuric house 3481232459 แล้วครับ
    เพื่อผม ภรรยา และบุตร ได้ร่วมกันทำบุญครับ
    หมายเหตุ ผมไม่ขอรับพระพิมพ์ใดๆครับ
    ขอบคุณและโมทนาสาธุครับ
    nongnooo...
     

แชร์หน้านี้

Loading...