ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายทุนนิธิประจำเดือนมกราคม 2556 ตอนที่ 1

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 กุมภาพันธ์ 2013
  2. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายทุนนิธิประจำเดือนมกราคม 2556 ตอนที่ 2

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 กุมภาพันธ์ 2013
  3. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายทุนนิธิประจำเดือนมกราคม 2556 ตอนที่ 3

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 กุมภาพันธ์ 2013
  4. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายทุนนิธิประจำเดือนมกราคม 2556 ตอนที่ 4

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     
  5. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายทุนนิธิประจำเดือนมกราคม 2556 ตอนที่ 5

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 กุมภาพันธ์ 2013
  6. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายทุนนิธิประจำเดือนมกราคม 2556 ตอนที่ 6

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 กุมภาพันธ์ 2013
  7. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายทุนนิธิประจำเดือนมกราคม 2556 ตอนที่ 7

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 กุมภาพันธ์ 2013
  8. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายทุนนิธิประจำเดือนมกราคม 2556 ตอนที่ 8

    [​IMG]

    พบกันในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 นี้นะครับ

    [​IMG]

    สาธุค่ะ

    [​IMG]

    มาทำบุญกันนะเจ้าค่ะ ... สาธุ ...
     
  9. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    สืบหาพระเครื่องดีวันนี้ ขอแนะนำพระเครื่องในคอคนดังนิดนึง ลองอ่านดูกันครับ

    รู้ไหม? ′เลขาฯ อ้วน′ "ภูมิธรรม เวชยชัย" ห้อยพระประจำตัวอะไร

    คอลัมน์พระเครื่องคนดัง/ข่าวสดรายวัน 29 ม.ค.56





    หากเอ่ยชื่อ ′ภูมิธรรม เวชยชัย′ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และอดีต รมช.คมนาคม ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือที่เพื่อนพ้องน้องพี่ในแวดวงการเมืองต่างเรียกขานด้วยความสนิมสนมว่า "เลขาฯ อ้วน"


    คนในวงการการเมืองต่างยกนิ้วให้ในความมีน้ำใจไมตรี


    เลขาฯ อ้วนยังเป็นคนหนึ่งที่ศึกษาธรรมะ รู้ซึ้งในพุทธคุณ ศึกษาหลักธรรมยามที่มีเวลาว่าง โดยสิ่งหนึ่งที่ได้บอกน้องๆ มาอย่างต่อเนื่อง คือ การรู้จักบุญคุณ การรู้จักบาปบุญคุณโทษ


    ′ภูมิธรรม′ เริ่มเข้าสู่งานการเมืองด้วยการเป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กทบ.) และเป็นเลขานุการ รมว.มหาดไทย ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี


    แม้จะเป็นคนดังในวงการการเมือง แต่อีกมุมหนึ่งสำหรับ ′เลขาฯ อ้วน′ ก็มีมุมมองในเรื่องความชื่นชอบในการเก็บสะสมพระเครื่องวัตถุมงคล รวมไปถึงเครื่องรางของขลังได้อย่างน่าสนใจ


    อาจจะไม่ถึงขั้นเป็นเซียนพระหรือนักสะสมวัตถุมงคลระดับมืออาชีพ แต่ก็มีพระเครื่องวัตถุมงคลไว้ในครอบครองเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งพระเครื่องที่มีอยู่นั้นส่วนหนึ่งเป็นของคุณแม่และผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือมอบให้มาทั้งสิ้น


    เลขาฯ อ้วนบอกเล่าย้อนถึงความหลังเกี่ยวกับความผูกพันด้านพระเครื่อง ว่า "ในตอนเด็ก เป็นคนซุกซนตามประสาเด็กผู้ชาย คุณแม่ท่านเห็นว่าเป็นเด็กที่ซนมาก กลัวว่าจะประสบอุบัติเหตุเจ็บตัว จึงมักให้พระเครื่องมาแขวนคอ ซึ่งเป็นความเชื่อว่าจะได้คุ้มครองไม่ให้เกิดอันตราย แคล้วคลาดปลอดภัย ซึ่งพระที่คุณแม่ให้มาห้อย ด้วยความซนมากทำให้พระหลุดหายไปถึง 2 องค์ มารู้ทีหลังว่าเป็นพระสมเด็จวัดระฆังฯ เพราะคุณแม่บอกเล่าให้ฟัง ซึ่งสมัยก่อนบ้านคุณตา-คุณยายอยู่แถววัดระฆังโฆสิตาราม ทำให้ทุกวันนี้ก็รู้สึกเสียดายเหมือนกัน"


    "พระที่ผมได้จากคุณแม่มีอยู่ไม่กี่องค์ มีพระรอดลำพูน สมเด็จ 100 ปี 25 พุทธศตวรรษ และหลวงปู่ทวด แต่เราไม่รู้เลยว่าเป็นพระจากวัดไหน ใครสร้างอันนี้จะไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่าผู้ใหญ่ท่านให้มาเป็นของที่เคารพนับถือ ซึ่งสร้อยคอชุดใหญ่ผมมีแต่ไม่ค่อยใส่ เพราะมีถึง 5 องค์ ดูแล้วใหญ่เกินไป การที่คนที่เรารักและเคารพมอบสิ่งดีๆ และเป็นมงคลมาให้ ทำให้เรารักและระลึกถึงผู้ใหญ่ทุกท่านที่มอบมาให้ คนที่รักเราให้เรามา แล้วทำให้นึกถึงผู้ที่ให้มา แล้วรู้สึกผูกพันกัน" เลขาฯ อ้วนกล่าว


    สำหรับพระเครื่องที่เลขาธิการพรรคเพื่อไทยคนปัจจุบันห้อยแขวนติดตัวไว้ตลอด คือ พระผงสุพรรณ ด้านหลังเป็นรูปสมเด็จพระนเรศวร มีโค้ดตัวเลขกำกับด้านหลังเพียงองค์เดียว เป็นพระที่ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือมอบให้มาหลายปีแล้ว ไม่ทราบว่าออกจากวัดแห่งใด เพียงแต่รู้ว่าเป็นสิ่งดี ก็คุ้มครองให้เราอยู่เย็นเป็นสุข เวลาที่ตนไม่สบายใจจะใช้มือจับไปที่องค์พระ ท่องนะโม 3 จบ และตั้งสมาธิคิดแต่ในสิ่งที่ดีๆ ทำสมาธิประมาณ 5-10 นาที จะทำให้สบายใจขึ้น


    เลขาฯ อ้วนกล่าวด้วยว่า ทุกวันจะต้องสวดมนต์ก่อนออกจากบ้านและก่อนนอน รวมทั้งเลือกการปฏิบัติธรรม ปกติแล้วตนและครอบครัวก็เป็นคนเข้าวัดทำบุญ ถวายสังฆทานอยู่เป็นประจำ ในวันหยุดและวันสำคัญๆ ทางพระพุทธศาสนาในวาระต่างๆ


    สิ่งสำคัญคือ "การที่เราห้อยพระให้ดีขนาดไหน แต่ถ้าเราประพฤติปฏิบัติตนไม่ให้อยู่ในศีลในธรรม ตนว่าพระท่านก็ไม่คุ้มครอง แต่หากเราประพฤติปฏิบัติตนดี ก็จะเป็นการเสริมสิริมงคลกับตัวเองให้เจริญรุ่งเรือง"


    นี่เป็นหลักปฏิบัติของ "ภูมิธรรม เวชยชัย"

    ในนี้ไม่ได้บอกว่าเป็นพระผงสุพรรณสร้างตั้งแต่เมื่อใด แต่ผมมีลิงค์เปรียบเทียบให้ ลองดูก็แล้วกัน ว่าเหมือนกันมั๊ย (โปรดสังเกตุที่ใต้พระอุระขององค์พระด้านซ้าย จะมีจุดโค๊ตเหมือนกัน จึงทำให้แน่ใจได้ว่า น่าจะใช่รุ่น 400 ปี ยุทธหัตถีครับ ลองขยายภาพเล็กข้างล่าง แล้วเปรียบเทียบกับภาพจากลิงค์)


    ลิงค์ตามนี้

    http://www.prapantip.com/memshopview.php?postid=122292&keyid=101322
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pongsuphan.jpg
      pongsuphan.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.8 KB
      เปิดดู:
      35
  10. rung847

    rung847 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    819
    ค่าพลัง:
    +3,420
    วันนี้ ผมและครอบครัวร่วมโอนทำบุญ 199 บาทครับ
    ขอบคุณครับ
    โมทนาบุญด้วยครับ
     
  11. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    911
    ค่าพลัง:
    +4,285
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2013
  12. sirimanod

    sirimanod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +912
    ผมขอร่วมทำบุญประจำเดือน ก.พ.56ด้วยนะครับ

    ผมนายศิริมาโนชญ์ จันทรคุปต์ (ต๊อง) ขอร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ โดยผมจะทำเป็นประจำในทุกๆเดือน เดือนละ100 บาท ผมได้โอนเงินประจำเดือนก.พ.56 เข้าบัญชีของทุนนิธิฯเป็นจำนวน 100 บาทเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 56 และผมขออนุโมทนากับทุกๆท่านที่ได้มีส่วนร่วมในการรักษาพระภิกษุสงฆ์อาพาธด้วยครับ
     
  13. คนแซ่อาว

    คนแซ่อาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2013
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +232
    ร่วมทำบุญ

    วันนี้ ได้โอนเงินร่วมอนุโมทนาบุญ ๓๐๐ บาท จากธนาคารกรุงศรีฯ สาขาสระแก้ว ก่อนหน้าก็ได้โอนมาร่วมบุญ แต่ไม่ได้เข้ามาโพสต์แจ้งให้ทราบ และตั้งใจว่า จะร่วมบุญทุกวันพระ หรือโอกาสที่สะดวก
     
  14. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    สืบหาพระเครื่องดีสัปดาห์นี้ขอยกยอดไปสัปดาห์หน้าครับ เนื่องจากข้อมูลที่นำมาลง ขาดรายละเอียดอีกนิดนึงในเรื่องวัตถุมงคลขององค์ผู้เสก แต่รับรองวัตถุมงคลของท่าน สำหรับผู้ที่ชอบความขลังแบบกันปืน กันระเบิด น่าเสาะหามาไว้ครับ

    พันวฤทธิ์
    10/2/56


    ส่วนภาพด้านล่างนำมาฝากกัน พระในตำนานนอกมาตรฐานวงการพระเครื่อง พระพิมพ์สมเด็จ "ปีระกาป่วงใหญ่" หรือ "สมเด็จเขียว"หรือ "สมเด็จวัดบางน้ำชน" พิมพ์ปรกโพธิ์เม็ดคู่แฝดของพิมพ์ปรกโพธิ์ใบ หรือปรกโพธิ์บาย สำเร็จโดยการอธิษฐานจิตจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ (โต) พรหมรังสี และครูอาจารย์ของท่านคือหลวงปู่ใหญ่ เป็นพระพิมพ์ที่สร้างมาชนะมารโดยเฉพาะ โดยคำว่า "มาร" นี้ หมายรวมถึง โรคภัยไข้เจ็บด้วย พระพิมพ์สกุลนี้ จึงนำมาทำน้ำมนต์แก้โรคห่า ใน "ปีระกาป่วงใหญ่" ในปี พ.ศ.2416 ตามความฝันของคนในสมัยนั้น โดยในปัจจุบันยังพบหาได้ตามร้านพระที่ท่าพระจันทร์บางร้านแต่ไม่บ่อยครับ นานๆ จึงจะเจอสักองค์นึง ได้ความว่า ส่วนใหญ่เหมาพระมาจาก นครปฐม อยุธยา และอ่างทอง (น่าสังเกตุว่า เป็นเส้นทางค้าขายทางเรือทั้งหมด) นำมาลงให้ดูเผื่อเจอกันในสนามครับ ส่วนการตรวจกำลังภายในนั้นว่าเป็นอย่างที่ผมบอกหรือไม่ ต้องหาฌาณลาภีบุคคล หรือพระสงฆ์ที่สำเร็จฌาณท่านตรวจกันเอาเองครับ ของจริงเนื้ออาจจะเขียวกว่านี้นิดนึง แต่คราบกรุเป็นอย่างนี้จริงๆ ในบางองค์ มีคราบกรุน้อย หรือแทบไม่มีก็มี พบเห็นอย่าให้หลุดมือ จำให้ดีก็แล้วกัน แต่ีที่โดนมากับตัวคือ เอากาวหนังทาแล้วคลุกทรายทำให้เหมือนคราบกรุ ยังไงๆ ดมกลิ่นด้วย ถ้ามีกลิ่นกาว ลืมไปเลย

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2013
  15. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    พรหมวิหาร กับการวางใจไว้ให้ถูกที่ ให้สวยงาม

    การใช้พรหมวิหารธรรม เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ในที่นี้ย่อมเหมาะสมยิ่ง ผู้ได้รับกรรมถึงเป็นถึงตาย หรือได้รับความทรมานบาดเจ็บมากน้อยหนักเบา สูญเสียต่างๆ ก็ตาม ในฐานะผู้ดูเราต้องปลงใจลงว่า นั่นเขาได้รับผลแห่งกรรมที่เขาเองต้องเคยทำมาแล้ว

    ส่วนผู้ทำกรรม ก่อความทุกข์ความทรมานเสียชีวิตเสียเลือดเนื้อ หรือทรัพย์สินเงินทองแก่ผู้อื่นนั้น ในฐานะผู้ดูเราต้องพยายามคิดให้พอเข้าใจว่า เขาตามกันมาเพื่อทวงหนี้กรรม จิตใจของทั้งสองฝ่ายทุกข์ร้อนด้วยกัน ไม่มีฝ่ายใดเป็นสุขได้เลย

    เราต้องไม่เข้าไปร่วมความร้อนรนนั้นด้วย ถ้าเราไปมองผู้ทำกรรมอย่างโกรธแค้นเกลียดชังในความร้ายกาจโหดเหี้ยมอำมหิตของเขา เราก็จะทำร้ายตนเอง ไม่ใช่ใครที่ไหนทำ พึงใช้เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ในคู่กรณีทั้งสองฝ่าย เมตตาที่เขาต้องทุกข์ด้วยกัน

    เราทำบุญกุศลใดไว้ ก็ตั้งความกรุณาอุทิศให้ผู้เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเขาทั้งสองฝ่าย ให้ตัวของเขาด้วย เพื่อให้พอมีความสงบเย็นแม้เท่าที่กำลังจิตของเราสามารถช่วยได้ ขณะเดียวกันมีมุทิตายินดีกับตัวเองกับใครทั้งหลายอื่น ที่ไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นคู่กรณี

    ไม่ต้องมีจิตใจที่เร่าร้อนทนทุกข์ทรมาน และมีอุเบกขาคือ พยายามวางใจเป็นกลาง ไม่เอียงไปเมตตากรุณาฝ่ายหนึ่งจนทำให้คิดไม่ดีในอีกฝ่ายหนึ่ง ให้ใจตั้งอยู่ในเมตตาทั้งสองฝ่าย

    ที่สำคัญการวางใจนี้ต้องให้เป็นไปอย่างจริงใจ เมตตาอย่างจริงใจ กรุณาอย่างจริงใจอุเบกขาอย่างจริงใจ นั่นแหละจึงจะเป็นกรรมดีที่สมบูรณ์จริง อันจักให้ผลดีได้จริง

    : ธรรมเพื่อความสวัสดี
    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


    ::
     
  16. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    [​IMG]



    บุญนั้นมีหลายอย่าง คือทำบุญอย่างหนึ่ง ทำทานอย่างหนึ่ง ทำกุศลอย่างหนึ่ง

    ทำทาน คือ การที่เราให้เรียกว่า ทาน ทานํเทติ คือ วัตถุสิ่งของที่เราให้เรียกว่า ทาน ไม่ต้องเลือกว่าจะเป็นสิ่งอะไร มนุษย์สัตว์ให้ไปได้ทั้งนั้น ข้าวของอะไรก็ให้ได้ เรียกว่า ให้ทาน จะเกิดศรัทธาหรือไม่เกิดศรัทธาก็เอาเถอะ ให้ทั้งนั้น อย่างคำว่า เรี่ยไรอย่างนี้ไม่คิดถึงบุญถึงกุศล ให้ไปเสียแก้รำคาญ อันนั้นละเรียกว่า ทาน

    ทำบุญ ทำบุญนั้นเกิดศรัทธาเลื่อมใส ตั้งเจตนาว่า ทำบุญแล้วจะได้บุญ ได้อานิสงส์ จะไปเกิดบนสวรรค์ชั้นฟ้า จะได้ความสุขในมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ การทำบุญนั้นปรารถนาผลตอบแทนเรียกว่า ทำบุญ

    ทำกุศล คือจิตที่คิดจะทำสิ่งที่ดีที่ชอบ
    ถ้านึกถึงความดีความชอบต่างๆ เป็นกามาวจรกุศล
    ถ้าคิดพิจารณากัมมัฏฐาน สังขารร่างกายของเราเรียกว่า รูปาวจรกุศล
    จิตที่พิจารณาอยู่ในอรูปณาน ๔ เป็นอรูปาวจรกุศล
    โลกุตรกุศล หมายถึงการบำเพ็ญกุศลที่ปราศจากความอยากกังวลทั้งหมด แต่ว่าทำเพื่อประดับใจของตนเท่านั้น

    ไม่ได้ปรารถนาอะไรเลย คือผู้ที่ถึงมรรคผลนิพพานสูงสุดแล้ว ท่านไม่มีบาปมีบุญอะไรหรอก แต่ว่าทำไปเพื่อประดับในเมื่อยังมีชีวิตอยู่เหตุนั้น เราทำทานแล้ว ทำบุญแล้ว แล้วทำกุศลอีก คือนั่งภาวนานี่แหละ เป็นของสูงโดยลำดับ

    : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี



    ธรรมจักรบอร์ด::
     
  17. channarong_wo

    channarong_wo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +1,510
    ร่วมบุญประจำเดือนครับ

    วันนี้ 16.35 น. ผมและเพื่อนๆ ร่วมบุญกันมา 1900 บาท สำหรับสงฆ์อาพาธและกิจกรรมอื่นใดที่เป็นบุญตามแต่เห็นสมควรครับ
     
  18. tiger-k007

    tiger-k007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,204
    ค่าพลัง:
    +1,597
    ผมขอร่วมทำบุญ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร เป็นจำนวนเงิน 200.-บาท ได้โอนเงินเข้าบัญชี ธ.กรุงศรี/ออมทรัพย์ เลขที่ 3481232459 เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ สาธุ
     
  19. LUCY2013

    LUCY2013 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2013
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +354
    13/2/56
    หนูขอร่วมทำบุญ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร
    ขออนุโมทนาทุกๆท่านด้วยค่ะ
    ร่วมทุกอย่าง 1000 บาท
     
  20. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    บทความดีๆ จากคุณดังตฤณ (นักเขียนธรรมะชื่อดัง)

    เหตุผลที่การทำทานร่วมกัน เป็นสุขกว่าการทำทานคนเดียว คือ มีจำนวนความสุขอันเกิดแต่การทำทานมากกว่า เปรียบเหมือนลงน้ำสระใหญ่ ย่อมชุ่มชื่นเต็มอิ่ม ได้ดำผุดดำว่ายสบายตัวกว่าลงน้ำในอ่างเล็ก ทุกคนรู้สึกถึงปีติสุขยิ่งใหญ่นั้นได้ในช่วงแห่งการเทน้ำใจไปรวมกัน แม้ไม่อาจอธิบายได้ว่าทำไมถึงสุข แต่ก็รู้ได้ว่าสุขจริง

    เหตุผลที่การทำทานร่วมกัน ให้ผลใหญ่กว่าการทำทานคนเดียว คือ เกิดกระแสน้ำใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แต่รู้สึกปีติว่าน้ำใจดีๆที่เทมารวมกันในปัจจุบัน เป็นหลักประกันความสุขร่วมทางในอนาคต เปรียบเหมือนคนเดินทางไกล ย่อมอุ่นใจเมื่อไม่เห็นตัวเองเดินตามลำพัง แต่ยังมีเพื่อนพ้องน้องพี่ที่เป็นญาติร่วมน้ำใจ ทั้งข้างหน้า ข้างขวา ข้างซ้าย และข้างหลัง


    เหตุผลที่การทำทานร่วมกัน จะช่วยลดการแบ่งชั้นวรรณะลงได้ คือ ไม่ว่าใครทำน้อยหรือทำมาก ก็เหมือนช่วยกันเอาอิฐมากน้อยมาร่วมก่อเจดีย์ตามกำลังของแต่ละคน เมื่อเจดีย์สำเร็จลง ก็ได้กราบไหว้เจดีย์เดียวกัน หมดความสำคัญมั่นหมายว่าไหว้เจดีย์อันเกิดจากอิฐของใครที่ส่วนไหน ปีติอันเกิดจากการเห็นเจดีย์ที่สำเร็จจากการร่วมมือลงแรงกัน ย่อมประสานความรู้สึกมีไมตรีเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ต่อไปถ้าต้องร่วมครอบครัว ร่วมงาน หรือร่วมปกครองคน ก็จะมีรากฐานของความรู้สึกรักใคร่กลมเกลียว มีเหตุผลักดันให้อยากเอาสิ่งที่ตนมีไปเติมให้สิ่งที่คนอื่นขาด ไม่อยากแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น นั่นก็เพราะรากของบุญเป็นอย่างไร ผลของบุญก็เผล็ดสอดคล้องตามนั้น

    ผลของบุญมีจริง ปรากฏชัดที่ใจเมื่อบุญนั้นใหญ่พอ ผลของบุญที่ปรากฏชัดในชีวิตนี้คือจิตที่สว่าง และความสว่างของจิตก็ปรุงสายตาให้เห็นทุกสิ่งรอบตัวสว่างไสว พร้อมยิ้ม พร้อมเห็นแง่ดีของโลก และที่สำคัญคือพร้อมจะเป็นมิตร ไม่ใช่พร้อมคิดเบียดเบียนกันอย่างศัตรูครับ

    ดังตฤณ
    กุมภาพันธ์ ๕๖

     

แชร์หน้านี้

Loading...