ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    วันนี้วันศุกร์ก็ต้องมาพบกันกับสืบหาพระเครื่องดีที่แนะนำไว้ให้บูชากันเหมือนเดิมครับ ซึ่งในวันนี้ เป็นเรื่องของพระอภิญญาที่ท่านมีคุณวิเศษทางด้านโชคลาภ โดยคุณโสระ กรรมการของทุนนิธิฯ ได้นำมาลงไว้ให้ทราบกันนานแล้ว ผมเองยังเก็บไว้ 1 เหรียญเลย แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ได้นำท่านมาแขวนไว้ เพราะทุกวันได้แต่ท่องคาถาของท่านหลวงปู่ดู่ ซึ่งสตางค์ไม่ขาดมือเหมือนกัน (คาถามหาจักรพรรดิ ที่มีบทบูชาพระสิวลีอยู่ด้วย / เคยถามระหว่างพระสิวลีกับพระสังกระจาย (พระมหากัจจายนะ) โดยถาม อ.ประถมฯ ว่า ระหว่างพระอริยเจ้า 2 องค์นี้ องค์ใดที่เด่นทางด้านโชคลาภ ท่าน อ.ประถมฯ เลยบอกว่า ใครบอกล่ะว่าพระสังกระจายเด่นทางด้านโชคลาภ ท่านน่ะได้แต่รูปงาม พระโชคลาภนี่ เป็นเรื่องของท่านสิวลีโดยตรงทีเดียว ผมเลยได้ความรู้ไป หากใครเข้าใจผิดโปรดเข้าใจใหม่ด้วยครับ ที่เห็นพระสังกระจาย หรือสังกัจจาย พุงท่านพลุ้ยนั้น เพราะท่านกันผู้ชายหรือผู้หญิงมาหลงรักท่าน ซึ่งจะทำให้ตกนรกกันซะเปล่า เลยเนรมิตรตนเองให้ใหญ่โตซะ จะได้ไม่มีใครตกนรกงัยครับ) เอาละ ทีนี้มาว่ากันถึงเรื่องพระเครื่องในวันนี้กันดีกว่า ผมขอยกบทความที่เคยลงมาแล้วมาทั้งตอนเลยดังนี้ครับ

    "วันนี้ขอแนะนำพระที่มีบารมีสามารถเสกวัตถุมงคลให้มีอานุภาพทางเรียกโชคลาภที่เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันจนมีลูกศิษย์ที่เป็นแม่ค้าบ้างคนในจังหวัดอยุธยาถูกรางวัลที่1ได้เงินมาหลายล้านเพราะศัทธาท่านและทำการค้าขายดีไม่มีอับจน พระท่านนี้คือ หลวงปู่สด วัดโพธิ์แตงใต้ จังหวัดอยุธยา พระที่เป็นศิษย์ผู้พี่ของสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน น่าเสียดายที่ท่านมรณะภาพไปแล้วเหลือไว้เพียงขันธ์ที่ไม่เน่าเปื่อยให้กราบไหว้ที่วัด กับพระพิมพ์เหรียญต่างๆที่ท่านอธิฐานไว้ให้ ปัจจุบันราคาไม่แพงพอหาได้ลองหามาไว้บูชากัน ฌาณลาภีบุคคลในทุนนิธิฯ ยังเอ่ยปากว่าพระนี้ใส่แล้วถูกหวยมีโชคลาภดี
    ตัวอย่างพระของพลวงปู่สด วัดโพธิ์แตงใต้ ได้นำมาลงให้แล้วตามภาพด้านล่างนี้ครับ"

    เป็นไงครับ พระบ้านนอกๆ ธรรมดานี่ละ ลองเอาไปตรวจทางในกันดู หรือลองแขวนท่านไว้สัก 6 เดือนก็ได้ รับรองตาในของผู้มีบุญในทุนนิธิฯ นี่พลาดยากครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า

    [​IMG]



    พระชุดนี้เป็นพระของท่าน อ.ประถม อาจสาคร ที่ท่านได้จัดจำแนกหมวดหมู่พิมพ์ทรงต่างๆไว้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและความเข้าใจที่ถูกต้องของผู้ที่ต้องการจะศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพระสมเด็จในสกุลเจ้าคุณกรมท่า(ท้วม บุญนาค) และต้องกราบขอบพระคุณท่าน อ.ประถม อาจสาคร ที่ได้กรุณาให้บันทึกถ่ายรูปมาเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการอ้างอิง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2012
  3. โอลีฟ

    โอลีฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +257
    โอนเงินร่วมทำบุญกับทุนนิธิ จำนวน 1,200 บาท เงินเข้าวันที่ 11 ก.ย. นี้ค่ะ
     
  4. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    สืบหาพระเครื่องดีวันนี้ เป็นวันศุกร์ที่มาพร้อมกับฝนห่าใหญ่แบบพายุ เช่นเดียวกันรถก็ติดมหาวินาศตามพายุฝนเหมือนเช่ีนเคย

    วันนี้ขอแนะนำพระเครื่องรุ่นนึง ที่ดูเหมือนว่าไม่ค่อยมีคนสนใจ แต่ขอโทษที เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คุณโสระนำเหรียญที่ได้บูชามาจากในหมวดตลาดพระเครื่องเพื่อการกุศล ซึ่งเป็นเหรียญของหลวงปู่หมุนเหมือนกับที่เค้าเล่นหากันแพง ๆ นำมาให้ครูอาจารย์ตรวจดู เฮ้ย ทันท่านเสกนี่นา ครูอาจารย์ของผมยื่นยันรับรอง ผมเลยขอนำมาใส่มือดูตามภาษางูๆปลาๆ ตามวาสนาบารมี อ๊ะ เอาเรื่องดีอ่ะ พลังเหมือนเหรียญหมุนเงินหมุนทองเลย สุดท้ายเลยขอต่อจากคุณโสระมาเหรียญนึง โดยเหลืออีก 2 เหรียญคืนให้คุณโสระเอาไปเก็บเอง

    ขอบอกได้เลย ว่าถ้าใครอยากทำบุญตามกระทู้นี้ ที่ผู้นำมาลงบอกว่าจะนำรายได้ทั้งหมดไปสร้างศาลาปฏิบัติธรรมแล้ว ยังได้เหรียญคุณภาพของหลวงปู่หมุน ที่ท่านเสกให้เอง ซึ่งมีอิทธิคุณแห่งองค์ผู้เสกเสมอกันกับพระของท่านในบางรุ่นที่มีราคาปั่นกันจนเป็นแสนแล้วนั้น แนะนำให้คว้าไว้เลยครับ ไม่ผิดหวัง การันตีแห่งคุณภาพขององค์ผู้เสก การรันตีด้วยเป็นเหรียญโนเนมที่ยังไม่มีการปลอม อย่างที่บอกข้างต้น เค้ามีแค่ร้อยเหรียญ ยังเหลืออีกเยอะ เพราะคนไม่สนใจ แต่ที่แนะนำให้สำหรับคนที่เค้ามาดูในกระทู้นี้ หากพอมีสตางค์เหลือไม่เดือดร้อนอะไร ขอให้เก็บไว้เลยครับผม

    วันนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ อย่าลืมครับ งานบุญทุนนิธิฯ ในเดือนนี้ เปิดคอร์สแรกในการสอนดูพระพิมพ์สกุลเจ้าคุณกรมท่าให้ฟรี พร้อมกับให้ส่องกันจากองค์จริง พร้อมกับเปรียบเทียบพิมพ์ต่างๆ ให้ด้วย สนใจก็ทำตัวให้ว่างแล้วพบกันในวันที่ 30 กันยายน นี้ครับผม


    ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างศาลาปฏิบัติธรรม รับเหรียญ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน




    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]


    ปล. ไม่เคยรู้จักกับเจ้าของกระทู้ ไม่รู้ว่าวัดที่จะสร้างศาลาอยู่ที่ไหน เพียงแต่อยากให้ทุกท่านได้เก็บของดีราคาถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระเครื่องของหลวงปู่หมุน ผู้ซึ่งมีพลังจิตอันแข็งแกร่ง ท่านสำเร็จ อักษรพรหม ครบทั้ง 9 ตัว ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนในแผ่นดิน เท่านั้นเอง
     
  5. ชิน9

    ชิน9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +247
    สวัสดีครับ ทุกท่าน วันนี้ผมได้โอนเงินจำนวน 2,000.18บาท

    18/09/2555 06:42:45 น. tmb mbanking 2,000.18


    ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศล จากการร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

    อุทิศให้แก่อาม่า คื้อเจ็ง แซ่ซิ่ม.คุณแม่ม๋วย อากงและบรรพบุรุษที่ล่วงลับไป

    แล้ว เจ้ากรรมนายเวรทัง้หลาย ของป๋า 5โกว 6โกว น้องชาย น้องสะใภ้ หลาน

    ชายหลานสาวทุกคนผู้เช่าบ้าน เช่าร้านและเช่าคอนโดทุกท่านนายวันสุข ณรงค์

    คำมั่น บริวารทุกคน เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทางด้านการงาน การเงินและ

    ความรักของตัวข้าพเจ้าชินพงศ์ เบญจนากาศกุล เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของ

    ผู้ที่ข้าพเจ้ามีความเกี่ยวข้องทาง กาย วาจา และ ใจที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินท่าน

    ไว้ตั้งแต่อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ ไม่ว่าท่านจะอยู่ภพ ภูมิใดก็ขอให้ได้รับผลบุญ

    กุศลนี้และอโหสิกรรม ให้กับข้าพเจ้านายชินพงศ์ เบญจนากาศกุล และขอให้

    ร่วมอนุโมทนาบุญกุศลแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ

    ขอเชิญทุกท่านร่วมอนูโมทนาบุญด้วยกันนะครับ
     
  6. phaenwong

    phaenwong เปียวคอมฯ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +791
    วันนี้ได้ร่วมบริจาค 100 บาทครับ:cool:<!-- google_ad_section_end -->
     
  7. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    สืบหาพระเครื่องดีวันนี้หมดสภาพครับ ฝนตกมาหลายวันไม่ได้ตะลอนไปไหน เลยต้องเอาข้อมูลเก่ามาลงให้ดูก่อน อย่างเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ไปเดินที่ท่าพระจันทร์ไปร้านเดิมที่หาของประจำอยู่ (ร้านอยู่ตรงประตูวัดมหาธาตุประตูแรก หากมาทางสนามหลวง) สั่งของกับแม่ค้าไว้นานแล้ว เพราะแกมีของจากวัดราชนัดดามาเยอะ ส่วนที่มาของพระเครื่องจากวัดราชนัดดานั้น มาจากไหน แกไม่ไ่ด้บอกซะด้วยซิ พระเครื่องที่สั่งไว้ก็คือ พระพิมพ์สมเด็จอรหัง ซึ่งเป็นเนื้อกระเบื้อง ชนิดที่เรียกว่าวางบนกระจก เสียงจะดังกริ๊กๆ ทีเดียว ถามว่าแล้วทำไมต้องเป็นพิมพ์นี้ ก็ต้องตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเป็นด้วยความชอบส่วนตัว แบบไม่เคยเจอของปลอม หรือคำสั่งครูอาจารย์ที่ว่า พระพิมพ์สกุลนี้ ท่านท้าวเวสฯ ท่านมาร่วมเสกด้วย หาทรัพย์ง่าย รึว่ากันง่ายๆ เป็นพิมพ์ไว้ขอตังค์ใช้ันั่นเอง

    ทีนี้มาว่าถึงของที่สั่งไว้ก่อน พอเจอหน้าแม่ค้า (เจ้าของร้านเป็นผู้ัหญิง) ถามว่ามีมั๊ย เจ้าของร้านชี้เลยนี่ไง นับดู 5 องค์พอดี 30.-บาท เหมือนเดิมน๊ะ เจ้าของอิดออดนิดหน่อย แล้วก็ส่งตะกร้ามาให้ องค์ละ 30.-บาทนี่ ขายพร้อมกล่องพลาสติกที่มีฟองน้ำอยู่ข้างในด้วย กล่องนี่ก็เกือบ 10.-บาทแล้ว ราคาพระจริงๆ สัก 20.-บาท มั๊ง พอจ่ายเงินเสร็จ รีบบึ่งไปให้ครูอาจารย์นำไปตรวจพร้อมกับพระพิมพ์สมเด็จอีก (เอาไว้ลงรูปให้ดูคราวหน้า) พอเจอหน้าท่าน ทักทายพอเป็นพิธี กินกาแฟพอชื่นใจ หยิบพระทั้งหมดให้ดู "พี่ ปู่โตฯ รับนิมนต์" มั๊ย ท่านนำไปพิจารณาพักนึง รับว่ะ ดีทุกองค์นี่หว่า เอามากี่บาทล่ะ ผมตอบทันที 30.-บาท พร้อมกล่อง พร้อมกล่องด้วยรึ ถูก "...หายเลย" พี่แกอุทานขึ้น เออ...เจอก็เอามาอีกก็แล้วกัน ผมก็เลยให้ท่านเลือกเก็บไว้ใช้เองด้วย 1 องค์ ส่วนผมเก็บไว้ 4 องค์ เดี๋ยวงานบุญในเดือนนี้ที่ รพ.สงฆ์นี่ละ จะนำไปให้บูชากันเพื่อหาเงินทำบุญให้พระสงฆ์อาพาธกัน ก็มีเท่านี้ละ สำหรับคนชอบพระเครื่อง คนชอบหาของดี ไม่มีอะไรที่มีความสุขมากไปกว่า หาของที่ถูกใจมาได้ แล้วไม่เก๊เท่านั้นเอง

    สำหรับพระพิมพ์ข้างต้นตามรูปนี้ เป็นพระนอกมาตรฐานวงการพระเครื่องนิยม เล่นหาได้เฉพาะกลุ่ม แต่เป็นของดีที่ไม่ควรมองข้าม โดยเมื่อพิจารณาความเก่าจากเนื้อหา จากทรงพิมพ์ รวมกัึบการใช้ "ตาใน" ตรวจถึงองค์ผู้อธิษฐานจิตบอกตรงๆ ว่า ไม่รู้ว่าจะเทียบกับอะไรกับเงินที่เสียไปเพียงแค่ราคาของชาเขียว 1 ขวด ครับ รูปข้างล่าง ผมจึงนำรูปแทนที่เค้าประกาศขายตามเว็บต่างๆ มาเทียบเคียงให้ ซึ่งเป็นรูปที่เหมือนที่สุด แทบจะทุกอย่าง ส่วนด้านหลังจะเป็นร่องหรือไม่เป็นร่อง (เขียนลอยๆ คำว่า อะ ระ หัง ไว้บนเนื้อพระ) ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ให้สังเกตุเนื้อหาเป็นหลักก็แล้วกัน บอกร้านให้แล้ว บอกราคาให้แล้ว รูปก็ให้ดูแล้ว ไปหาเอาเองครับ อ้อ.ลืมบอกไป ร้านนี้มีตู้โทรศัพท์อยู่ข้างร้าน ส่วนในร้าน (บนแผง) มีพระพิมพ์สมเด็จเนื้อหาดีๆ เยอะ ใช้ได้ครับ ลองดูความเก่าด้วย เนื้อหาสวยๆ ผมยังหยิบมาไว้ 1 องค์เลย ปู่โตฯ รับนิมนต์มาเสกให้หมด ว่าจะกลับไปเอาอีกเหมือนกัน แต่ดูฟ้าฝนก่อน ม่ายงั้นไปที่ร้านแล้ว เกิดไม่มาขายเดี๋ยวไปฟรีละหมดสนุกเลย (คำว่า "ปู่โตฯ รับนิมนต์" หมายถึง พระพิมพ์สกุลนี้ ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ซึ่งทราบโดยการตรวจทางจิต โดยฌาณลาภีบุคคลขั้นสูง)




    [​IMG]




    [​IMG]


     
  8. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097

    คนผัดวันประกันพรุ่งนะ นอนตื่นสาย หน่ายทำกิน
    ไปหมิ่นเงินน้อย ไปนั่งคอยวาสนา วาสนามาหาเองไม่ได้
    ต้องทำต้องสร้างความดี ไม่สร้างไม่ได้หรอก
    ความชั่วไม่ต้องสร้าง มาเอง มันชั่วอยู่ทุกวัน
    จิตใจมันหลั่งไหลไปสู่ที่ชั่วทุกวันตลอดเวลากาล
    ไม่ต้องสร้างนิดเดียวมันก็ไปแล้ว
    จิตเลเพลาดพาด หละหลวม เหลวไหลตลอดรายการ
    แต่ความดีนี่ทำยากต้องสร้างสรรหาแสวงหาความดีให้แก่ตนเอง
    และก็ตัวเองมีความดีอยู่แล้ว ๑๐๐% จิตประภัสสร
    แต่เราเอาความดีในตัวไปทิ้งเสีย
    น่าเสียดายเอาความชั่วมาแทนที่ ความดีก็มีไม่ได้
    นี่แหละสร้างความดีนี่ต้องสร้างต้องเสริม ต้องส่งในกุศลให้แก่ตน
    มีจิตมั่นคง คือ สมาธิภาวนา มีปัญหาแก้ไขปัญหาได้

    คนที่สร้างความชั่วนี่นะไม่ต้องมีตำราหรอก เพราะเราตามใจตัวเอง
    จิตใจก็เหลวแหลก แตกไปในทางต่ำ
    ยกตัวอย่างว่าจิตมันเป็นน้ำ โยมลองเทน้ำดูซิ
    มันจะไหลไปที่สูงหรือที่ต่ำ จิตมันชอบต่ำ ชอบไอ้โน่น ชอบไอ้นี่
    อาหารของจิต ก็คือ กิเลส ความโกรธ ความโลภ ความหลง
    ความหายนะ เป็นอาหารของจิต
    แต่เราต้องฝืนไม่ให้มันกินอย่างนั้น
    ต้องฝืนใจอย่างมากกว่าจะได้ดี

    ขอเจริญพรว่า ความขยันได้มาจากความขี้เกียจ
    กว่าจะขยันได้ ขี้เกียจมาก่อน
    ความสุขเราได้มาจากความทุกข์
    ต้องมีความทุกข์ร้อนใจเหลือเกิน
    กว่าจะพบกับความสุขที่แน่นอนเช่นดังกล่าวมาแล้ว
    มันมีแต่ความทุกข์ระทบขมขื่นต้องผ่านทุกข์ก่อน
    จึงจะพบความสุขที่แน่นอน
    อาตมาผู้หนึ่งขี้เกียจที่สุด บัดนี้เราต้องฝืนใจ
    กว่าจะขยันกว่าจะทำอะไรให้สำเร็จ
    ฝืนใจจนขยัน บัดนี้จะกลับไปขี้เกียจคงไม่ได้แล้ว ไม่ได้แน่
    ถ้าโยมเคยขี้เกียจแล้ว ไม่ฝืนใจ ไม่ขยัน
    มันก็แค่นั้น ทำอย่างไรก็แค่นั้น ดีไม่ได้แน่นอน
    เหมือนหมากรุก ๖๔ ตา เดินตาเดียวอยู่ตลอดกาลเวลา
    จะดีได้อย่างไรเล่า เพราะฉะนั้น ทาน ศีล ภาวนา นี้ครบ
    ทานการให้แต่ศีล ก็คือ สติกรรมฐาน
    ถ้าเราเจริญสติกรรมฐาน แล้วจะพบทาน ๓ อย่าง
    ถ้าได้สติสัมปชัญญะแล้วจะพบทาน ๓ อย่าง

    ทานข้อ ๑ คือ ให้แล้วไม่หวังผลตอบแทน

    ทานที่ ๒ คือ ธรรมทาน ให้ธรรมะเป็นทาน

    พิมพ์หนังสือสวดมนต์บ้าง พิมพ์หนังสือธรรมะแจกกัน
    เรียกว่า ธรรมทาน มันก็ได้ผล
    ทานกรรมฐานเป็นสังฆทานแน่ เพราะจิตไม่หวังผล
    ก็ต้องให้สาธารณประโยชน์ สาธารณชนทั่วไป

    ทานที่ ๓ ของกรรมฐาน คือ อภัยทาน
    ให้อภัยได้อภัยโทษไม่โกรธกัน เรียกว่า ทานกรรมฐาน

    ถ้าโยมไม่เจริญกรรมฐานรับรองหมื่นเปอร์เซ็นต์
    จะให้อภัยใครไม่ได้ ผูกพยาบาทตลอดเวลา
    ถ้าท่านไม่มีกรรมฐานแล้ว ท่านจะให้อภัยทานได้ยาก
    อโหสิกรรมกันได้ยาก มีแต่ผูกใจโกรธ ผูกพยาบาท ฆ่ารันฟันแทงกัน
    ถึงคนนั้นจะบริจาคทาน สร้างวัดสร้างวากี่วัดก็ตาม
    ก็ยังให้อภัยทานไม่ได้
    ท่านต้องมีจิตสูงในกรรมฐาน ต้องมีสติปัฏฐานกำหนดจิต
    รู้หนอๆ รู้อย่างไร รู้ว่า เราโกรธเขา
    รู้หนอๆ อย่าโกรธเขาเลย ให้อภัยเขาเถอะ
    มันด่าเรา กำหนดต่อไป ด่าเรายังโกรธก็โกรธหนอๆ
    อ๋อบัดนี้ข้าพเจ้าไม่โกรธแล้ว ข้าพเจ้ามีกรรมฐาน
    ข้าพเจ้าจะไม่ขอโกรธท่าน เรียกว่า อโหสิกรรม
    กรรมนั้นจะไม่ต่อให้ยืดยาว เรียกว่า ตัดให้มันสั้น
    เหมือนรถหมดน้ำมัน ไม่วิ่งอีกแล้ว
    กรรมไม่ต่อกรรมอีกแล้ว เรียกว่า อโหสิกรรม

    นี่แหละกรรมฐานจึงแก้กรรมได้ เจริญกรรมฐานอโหสิกรรมได้
    จะได้ไม่มีกรรมเวรกันไปในชาติหน้า

    เราจึงนิยมการที่จะลากรรมฐานขออโหสิกรรม
    ขอขมาลาโทษพระรัตนตรัย มี พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
    อาจจะเจตนาไม่ดี คิดไม่ดี อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
    เป็นบาปเป็นกรรมทั้งนั้น จึงต้องให้อภัยทาน ให้อภัยโทษ
    เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อโหสิกรรม จะไม่เอาเวรกรรมกันต่อไปอีก
    กรรมสิ้นกันเสียที นับตั้งแต่บัดนี้ คือ การเจริญพระกรรมฐาน
    ถ้าโยมไม่เจริญกรรมฐาน กรรมไม่รู้จักสิ้น จะแก้กรรมอะไรไม่ได้
    จะต่อเวรต่อกรรมให้มันยืดยาวออกไป
    จะไปถึงลูกหลาน ลูกหลานก็จะลำบาก
    กระเสือกกระสนในอนาคต ตรงนี้สำคัญ
    ถ้าโยมหญิง โยมชาย รู้ตัวว่า สร้างกรรมไว้กับใคร
    ก็ขอประทานโทษโปรดอภัยเถิดนะเจ้าคะ
    ขอเจริญพรว่า ภรรยาเคยว่าสามี หรือ คิดในใจว่าสามีของข้านี้ไม่ดี
    เท่านี้ก็บาปนะ กระทั่งสามีไม่ได้เป็นเช่นนั้น สามีก็เช่นเดียวกัน
    ไปนินทาว่า ภรรยาของเราไม่ดี เท่านี้บาปนะ
    จะทำกรรมฐานไม่ได้ผลหรอก ด่าสามี มาทำกรรมฐานไม่ได้ผล
    จะได้ผลต้องอโหสิกรรมเสีย อภัยทาน อภัยโทษได้ผลแน่นอน
    ก็ขอเจริญพรฝากญาติโยมไว้ อย่าโกรธอย่าลงโทษกันเลย
    ให้อภัยกันเถิด หนักนิดเบาหน่อยให้อภัย
    บางคนมาที่วัดนี้นานแล้ว ตั้ง ๒๐ ปี จำได้ คนมันแน่น
    มีงานขึ้นในวัด เขาเหยียบเท้ากัน เหยียบเท้าลงไปที่เท้าคนอื่นนะ
    เขาก็รู้ตัวว่าไปเหยียบเท้าคนอื่น เขาขอโทษครับ
    คนนั้นมันเมามันไม่อโหสิ ชกกันเลย ต่อยกันแหลกไปเลย
    คนที่ขอขมาลาโทษก็หนีไป เห็นไหม คนไม่มีกรรมฐาน
    คนที่เจริญสติได้ เขาจะให้อภัยทุกประการ นี่ขอฝากไว้

    ถ้าคนขอโทษอย่าโกรธเขานะโยมนะ
    มาขอโทษโปรดอภัย รับผิดแล้ว ให้อภัยเขาเถอะ
    เรียกว่าอภัยทาน อภัยโทษ โกรธกันไว้ในใจทำไมเล่า
    พกความโกรธไว้ในใจเหมือนไฟเผาหัวจิตหัวใจเศร้าหมอง
    ทำใจร้อนรน ทนไม่ไหว กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เป็นบาป
    เหมือนตกนรกทั้งเป็นเลยนะ อย่าไปมั่วสุมเช่นนั้นเลย..
    .



    คัดลอกจาก...
    http://www.jarun.org
     
  9. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097

    มุทิตา คือ ภาวะจิตที่บันเทิงยินดีในเมื่อผู้อื่นได้รับความสุขความเจริญด้วยสมบัติ ต่างๆ ปราศจากความริษยา เห็นใครพรั่งพร้อมด้วยสมบัติก็พลอยมีมุทิตา ตัดความยินร้ายไม่ยินดีด้วยที่ริษยาเสียได้

    มุทิตา นี้เป็นพรหมวิหารธรรมอีกข้อหนึ่ง ที่พึงอบรมให้มีขึ้นในจิต วิธีอบรมคือระวังใจมิให้ริษยาในเมื่อได้เห็นได้ทราบสมบัติ คือความพรั่งพร้อมต่างๆ ของผู้อื่น

    เมื่อความริษยาเกิดขึ้นก็พยายามระวังเสีย หัดคิดว่า ตนเองมีความยินดีเมื่อตนได้สมบัติที่ชอบใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ไฉนเมื่อคนอื่นเขาได้จึงไปริษยาเขาควรจะพลอยยินดีกับเขา

    พิจารณาให้เห็นโทษของความริษยา เช่นว่า “อรติ โลกนาสิกา...ความริษยาเป็นเหตุทำลายโลก” เมื่อทำมุทิตาจิตให้เกิดขึ้นได้ ก็หัดแผ่จิตเช่นนี้ออกไปแก่คนอื่นสัตว์อื่นโดยเจาะจง หรือโดยไม่เจาะจงทั่ไปด้วยความคิดว่า “จงอย่าวิบัติจากสิ่งที่ได้แล้ว”

    อันที่จริงภาวะของจิตที่ยินดีในเวลาได้สมบัติต่างๆ ย่อมมีอยู่ ในเมื่อตนหรือคนเป็นที่รักได้สมบัติเป็นสามัญธรรมดา แต่ยังเจือด้วยริษยาในเมื่อเห็นคนอื่นได้สมบัติ และแม้ในสมบัติที่ตนได้ ก็ยังมีโสมนัสเจือตัณหา

    พระบรมครูทรงสั่งสอนให้ปรับปรุงภาวะที่มีอยู่แล้วนี้แหละให้เป็นธรรมขึ้น คือ ให้เป็นคุณอันบริสุทธิ์ที่เกื้อกูลกว้างขวางออกไป มิให้คับแคบเฉพาะตนและผู้ที่ตนรักเท่านั้น แต่ให้กว้างออกไปตลอดถึงไม่มีจำกัดไม่มีประมาณ โดยให้ปราศจากริษยา

    ทั้งปราศจากโสมนัสที่เจือกิเลสตัณหาด้วย เพราะ ว่าริษยาเป็นศัตรูที่ใกล้ของมุทิตา ฉะนั้นก็พึงยกตนขึ้นเป็นพยานหรืออุปมาเช่นเดียวกับสองข้อข้างต้น และให้ยกบุคคลผู้เป็นที่รักขึ้นเป็นพยานหรือเป็นอุปมา

    ดังพุทธภาษิตที่ตรัสสอนไว้ว่า “พึงแผ่จิตถึงสัตว์ทั้งปวงด้วยมุทิตาเหมือนอย่างเห็นบุคคลผู้เป็นที่รักที่พอใจ ก็บันเทิงยินดีฉะนั้น”

    : ศีลและพรหมวิหาร ๔
    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     
  10. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097



    ความคิดที่ว่ามารดาบิดา ครูอาจารย์ไม่มีบุญคุณนั้น กล่าวอย่างที่ทั่วไปเข้าใจกันก็เป็นบาปกรรม บาปกรรมก็คือกรรมไม่ดี ที่เป็นบาป และกรรมที่ไม่ดีก็เป็นผลของกรรมไม่ดี ที่เป็นผลของบาป ผู้ใดจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ความจริงก็ต้องเป็นเช่นนั้น ต้องเป็นบาปกรรม ต้องให้ผลไม่ดีเพราะเป็นผลของบาป

    ผลของบุญเท่านั้นจึงจะเป็นผลดี ผลของบาปจะเป็นผลดีไม่ได้เลยเป็นอันขาด ใครจะเชื่ออย่างไรก็ตาม สัจจธรรมนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลง ต้องเป็นสัจจธรรมอยู่ตลอดไป


    ทำไมจึงว่าความคิดที่ว่ามารดาบิดาครูอาจารย์ไม่มีบุญคุณเป็นบาป ก็เพราะมารดาบิดาครูอาจารย์ท่านเป็นผู้มีพระคุณอย่างยิ่ง โดยเฉพาะมารดาบิดาด้วยแล้วเป็นผู้มีพระคุณต่อบุตรธิดาเป็นที่สุด


    จนพระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า
    มารดาบิดาเป็นพระอรหันต์ของบุตรธิดา
    พระพุทธองค์นั้นก็ทรงเป็นพระอรหันต์พระองค์หนึ่ง
    คือพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า
    ผู้ทรงพระคุณเหนือท่านผู้ทรงพระคุณทั้งหลาย
    แต่กระนั้นก็ทรงกล่าวว่า สำหรับบุตรธิดาแล้ว
    มารดาบิดาเปรียบเหมือนพระอรหันต์ทีเดียว

    คือทรงพระคุณต่อบุตรธิดาเหนือ
    ท่านผู้ทรงพระคุณทั้งหลายทีเดียว
    เช่นนี้แล้วบุตรธิดาใดคิด หรือพูดว่า
    มารดาบิดาไม่มีบุญคุณต่อบุตรธิดา
    จึงเป็นการทำบาปกรรมเป็นอย่างยิ่ง
    เพียงคิดเท่านั้นไม่ต้องพึงปฏิบัติต่อท่านสถานอื่น
    ก็เป็นบาปกรรมหนักหนาแล้ว
    ยิ่งถึงกับแสดงออกทางกายกรรมต่อท่านด้วยแล้ว
    บาปกรรมนั้นก็พ้นประมาณ
    ถ้าทำให้ท่านถึงกับเสียชีวิตก็เป็นอนันตริยกรรม

    การพูดก็ตาม การกระทำอื่นใดก็ตาม
    ที่ไม่สมควรกับมารดาบิดา
    ล้วนมีเหตุมาจากความคิดที่ว่า
    มารดาบิดาไม่มีบุญคุณทั้งสิ้น
    ดังนั้นจึงกล่าวว่าความคิดนั้นเป็นบาป
    เป็นเหตุแห่งบาปอกุศลอย่างยิ่ง
    ผลของบาปนั้นก็ดังได้กล่าวแล้ว
    เริ่มที่จิตใจของผู้เป็นเจ้าของความคิด
    ที่ไม่ประกอบด้วยเหตุผล
    ไม่เป็นความจริง
    ไม่เที่ยงตรง
    เป็นความร้อนความวุ่น


    มารดาบิดาทั้งหลายก็เป็นปุถุชน ย่อมมีเวลาที่ทำสิ่งที่อาจไม่ถูกต้อง ที่เป็นการพลาดพลั้งไปได้มากบ้างน้อยบ้าง หากบุตรธิดามีความคิดว่าท่านไม่มีบุญคุณเพราะไม่ได้ตั้งใจให้บุตรธิดามาเกิด เวลาท่านพลาดพลั้งไปบ้างหนักนิดเบาหน่อย บุตรธิดาก็มีปฏิกริยาต่อท่านอย่างรุนแรง

    แต่ถ้ามีความคิดอยู่ว่ามารดาบิดาเป็นผู้ทรงพระคุณของบุตรธิดาแล้ว เวลาท่านพลาดพลั้งไปบ้างตามวิสัยปุถุชน ปฏิกิริยาที่รุนแรงก็จะไม่เกิด จะน้อยใจเสียใจก็จะเป็นไปแบบธรรมดาที่มีความเคารพรักในมารดาบิดาเป็นเหตุ ความรุนแรงอื่นๆ จะไม่ตามมา

    ทุกวันนี้ มีข่าวบุตรธิดาประทุษร้ายมารดาบิดาบ่อยๆ จนบางข่าวก็แทบจะเหลือเชื่อ คือเป็นการแสดงความอกตัญญูจนเหลือเชื่อ หรือจะกล่าวว่าเป็นการไม่กลัวบาปกลัวกรรมที่หนักหนาจนเหลือเชื่อก็ถูกเช่น กัน


    นี่ก็เป็นเพราะทุกวันนี้มีการคิดการพูดการชักชวนให้เกิดความเข้าใจว่า มารดาบิดาไม่มีบุญคุณ ไม่ได้ตั้งใจให้บุตรธิดามาเกิด ชักชวนให้เห็นไปว่ามารดาบิดาเป็นผู้เห็นแก่ตัวเท่านั้น ซึ่งที่จริงจะหาเหตุผลอะไรมายกให้เห็นว่าเป็นความจริงเช่นนั้นก็หามีไม่


    ไม่มีผู้ใดอาจหาเหตุผลมายกประกอบได้เลย ตรงกันข้าม มีเหตุผลบริบูรณ์ที่แสดงว่ามารดาบิดามีความรักความเมตตากรุณาต่อบุตรธิดา ยิ่งกว่ามีความรักความเมตตากรุณาต่อชีวิตของท่านเอง


    เพื่อป้องกันจิตใจตัวเองมิให้หวั่นไหวไปตามคำชักชวนที่มีค่อนข้างมากในระยะ นี้ จึงควรที่ทุกคนจะพยายามหาเวลาสงบใจ ระลึกทบทวนถึงพระคุณของท่านผู้เป็นมารดาบิดา เริ่มแต่ความอดทนของท่านที่อุ้มท้องอยู่ถึง ๙ เดือน ๑๐ เดือน เป็นความหนักที่ไม่มีเวลาวางได้เลยตลอดระยะเวลานั้น


    เราถือของหนักชั่วครั้งชั่วคราวยังอยากวาง ยังต้องวาง ยังไม่ประสงค์จะหยิบขึ้นถืออีก ถ้าไม่รู้สึกว่าของนั้นเป็นสิ่งสูงค่ายิ่งนัก นอกจากนั้น ทุกคนก็คงเคยรู้สึกแล้วว่าขณะที่บุตรธิดาอยู่ในครรถ์นั้นไม่ทำให้ท่านผู้ เป็นมารดาบิดามีรูปลักษณงดงามน่าดู บางคนคงจะเคยรู้สึกถึงกับว่าน่าอาย แต่ท่านผู้เป็นมารดาบิดาเองหาได้มีความรู้สึกเช่นนั้นไม่


    ความรู้สึกทั้งหมดของท่านไปรวมเป็นความรักความเมตตากรุณาในบุตรธิดา ที่แม้จะยังไม่ทันเห็นหน้าค่าตาก็ตาม นี้ประมาณได้จากการที่ท่านไม่ได้หลบหลีกปลีกตัวไปเสียที่ไหน ในระยะที่บุตรธิดาถือกำเนิดอยู่ในครรถ์ ท่านคงอยู่ในสังคมในสายตาของคนทั่วไปอย่างปรกติ และบางที่ก็อย่างภาคภูมิใจยิ่งกว่าปรกติเสียอีกด้วย


    ทั้งหมดเป็นไปด้วยอำนาจความรักและเมตตากรุณาในบุตรธิดาจริงๆ ขอให้พยายามหาเวลาสงบใจคิดทบทวนให้ลึกซึ้ง จะเป็นการบริหารจิตที่ถูกต้อง


    : การบริหารทางจิตสำหรับผู้ใหญ่

    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

    =======

    คุณแม่หนา หนักเพี้ยง พสุธา
    คุณบิดร ดุจอากาศ กว้าง
    คุณพี่ พร้าง สิขรา เมรุมาศ
    คุณพระอาจารย์ อ้าง อาจสู้ สาคร

    ========
     
  11. helium

    helium เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +2,124

    ของดีจริงๆครับ

    ร่วมบุญเท่าไหร่จึงจะได้ครับ?
     
  12. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097

    น่าจะเข้าใจผิดครับ ต้องไปหากระทู้นี้เอาเอง อยู่ในหมวดนี้ล่ะ กระทู้นี้่ ไม่มีให้เช่าครับ
     
  13. helium

    helium เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +2,124
    รับทราบครับ

    เข้าใจผิด อิอิ ขออภัยด้วยครับผม
     
  14. SilentSoar

    SilentSoar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    481
    ค่าพลัง:
    +2,384
    แจ้งโอนเงินทำบุญครับ ^_^ 100 บาท

    <table border="0" cellpadding="5" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="2">โอนเงินต่างธนาคาร - สถานะการทำรายการ

    </td> </tr> <tr> <td colspan="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td valign="top" width="34%">สถานะการทำรายการ</td> <td width="66%"> ธนาคารได้ทำรายการของท่านเรียบร้อยแล้ว </td> </tr> <tr> <td width="34%">หมายเลขอ้างอิง</td> <td width="66%">KBKR120925179388334</td> </tr> <tr> <td colspan="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td colspan="2">รายละเอียดการทำรายการ

    </td> </tr> <tr> <td width="34%">วิธีโอนเงิน</td> <td width="66%"> ออนไลน์ (ตลอด 24 ชั่วโมง) </td> </tr> <tr> <td width="34%"></td> <td width="66%"> </td> </tr> <tr> <td width="34%">ธนาคารเจ้าของบัญชี</td> <td width="66%">ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)</td> </tr> <tr> </tr><tr> <td width="34%">เพื่อเข้าบัญชี</td> <td width="66%">348-1-23245-9 ศ. ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร</td> </tr> <tr> <td width="34%">ชื่อเจ้าของบัญชีในฐานข้อมูล</td> <td width="66%">PRATOM F.</td> </tr> <tr> <td width="34%">จำนวนเงิน (บาท)</td> <td width="66%">100.00</td> </tr> <tr> <td width="34%">ค่าธรรมเนียม (บาท)</td> <td width="66%">25.00</td> </tr> <tr> <td width="34%">วันที่โอนเงิน</td> <td width="66%">25/09/2012 [00:42:47]</td> </tr> <tr> <td width="34%">บันทึกช่วยจำ</td> <td width="66%">ร่วมทำบุญและร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ รวมถึงร่วมทำบุญทุกอย่าง รวมร่วมบุญจำนวน 100 บาท </td></tr></tbody></table>




    แจ้งโอนเงินทำบุญครับ ^_^ 100 บาท

    ร่วมทำบุญและร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ
    รวมถึงร่วมทำบุญทุกอย่าง
    รวมร่วมบุญจำนวน 100 บาท

    และขอร่วมทำบุญเพื่อชำระหนี้สงฆ์ นับตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบันชาติ
    ขออนุโมทนาบุญ ทั้งหลายทั้งปวงให้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทพ เทวดา สิ่งศักดิ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่มีตั้งแต่ต้น บิดามารดาของข้าพเจ้าทั้งชาตินี้และทุกๆชาติ
    พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
    พระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ พระยายมราช เจ้าการบัญชี ลุงพุฒิ
    พระศรีอารียเมตไตรย และสมเด็จองค์ปฐมอันเป็นที่สุด

    ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุขสมหวังในเรื่องความรักทุกประการ นับตั้งแต่บัดนี้ตลอดเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
    ขอให้ข้าพเจ้ามีดวงตาเห็นธรรม และเป็นคนดีนับตั้งแต่บัดนี้ตลอดเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
    ขอให้ ความไม่มี ความไม่รู้ และความไม่ได้ จงอย่าได้บังเกิดกับข้าพเจ้านับตั้งแต่บัดนี้ตลอดเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วย เถิด สาธุ สาธุ สาธุ ...

    ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับผู้ร่วมทำบุญทุกท่านด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ...
    อนุโมทนาบุญครับ,
    SilentSoar
     
  15. kratium

    kratium เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +3,670
    เมื่อวานนี้ 24 กันยายน 2555 เวลา 18.45 น. โอนเงินร่วมบุญกับทุนนิธิฯ สงเคราะห์พระสงฆ์อาพาธ จำนวน 500 บาท คุณแม่กับเทียมร่วมบุญด้วยกันค่ะ ขออานิสงส์บุญนี้ ส่งผลให้คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรง หายจากอาการเจ็บป่วยโดยเร็ว
     
  16. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    โอนเงินร่วมบุญ เข้าบัญชี 348-123-245-9
    วันที่ 25 กย. 2555 เวลา 12:16 น. จำนวน 200 บาท ครับ
    อนุโมทนา สาธุ ครับ
     
  17. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    กิจกรรมที่ รพ.สงฆ์ ประจำเดือนนี้คือวันที่ 30 กันยายน 2555 โดยนัดพบเพื่อจัดเตรียมสังฆทานอาหารที่โรงอาหารด้านข้าง รพ.สงฆ์ในเวลา 7.30 น.-8.00 น. เหมือนเช่นเคย

    จึงขอแจ้งให้ผู้ที่สนใจได้ทราบทั่วกัน โดยผมและกรรมการของทุนนิธิฯ ได้เบิกเงินจากบัญชีของทุนนิธิฯ และได้ทยอยบริจาคไปยัง รพ.ต่างๆ เรียบร้อยแล้ว โดยมีรายละเอียดการบริจาคสำหรับเดือนกันยายน 2555 ดังนี้


    1 รพ.สงฆ์

    - ถวายค่าสังฆทานอาหาร 6,000.- (ประมาณการพระสงฆ์ไว้200 รูป โดยจะถวายเป็นอาหารกล่องๆ ละ 30.-)
    - ถวายค่าเวชภัณฑ์ส่วนกลาง 5,000.-
    - ถวายค่าโลหิต 5,000.-

    รวม 16,000.-

    2 รพ.ภูมิภาค

    - รพ.แม่สอด จ.ตาก 8,000.-
    - รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว 5,000.-
    จ.น่าน
    - รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย 8,000.- จ.เลย
    - รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่ 5,000.- (ผ่านบัญชีทุนนิธิสงฆ์ของรพ.มหาราชเอง)
    - รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 8,000.-(ผ่านบัญชีกองทุนหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
    - รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 5,000.-
    - รพ.สงขลา จ.สงขลา 8,000.-
    - รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 5,000.-


    รวม 52,000.-


    รวมเงินบริจาคตามข้อ 1.+2. = 68,000.- (หกหมื่นแปดพันบาทถ้วน)

    3. กิจกรรมพิเศษ

    การจัดกิจกรรมพิเศษในเดือนนี้ จะได้มีการสอนให้พิจารณาพระพิมพ์สมเด็จสกุลเจ้าคุณกรมท่า เพื่อให้ผู้ที่มีความสนใจได้รู้ถึง เนื้อหา ทรงพิมพ์ และตำหนิเอกลักษณ์ต่างๆ เพื่อจะได้ใช้เป็นแนวทางในการเสาะหาและสะสม อันจะเป็นการเสริมสร้างความรู้ให้แก่ตนเอง และสืบทอดภูมิปัญญาของบรรพชนที่ท่านได้ทำวัตถุมงคลไว้ให้คุ้มครองป้องกันภัยต่างๆ ตลอดจนสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ลูกหลานผู้ที่ครอบครองไว้ โดยเป็นการสอนฟรีอย่างไม่ปิดบัง ดังนั้น จึงขอเรียนเชิญท่านผู้ที่สนใจได้เข้าร่วมกิจกรรมกับทุนนิธิฯ ตามวันและเวลาข้างต้น ณ โรงพยาบาลสงฆ์ด้วยครับ

    พันวฤทธิ์
    27/9/55

    หมายเหตุ พร้อมนี้ได้แนบสำเนาใบอนุโมทนาบัตร, หลักฐานบัญชีรับจ่ายเงินของ รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย, ภาพการตรวจรักษาพระสงฆ์อาพาธของ รพ.50 พรรษามหาวชิราลงกรณ จ.อุบลราชธานี และหลักฐานการโอนเงินไปยัง รพ.ภูมิภาคต่างๆ ทั้ง 8 แห่งมาให้อนุโมทนากันด้วยครับ



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2012
  18. natta_pea

    natta_pea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +1,515
    วันนี้ผมได้โอนเงิน 333.- บาทร่วมทำบุญฯ
    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ
     
  19. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    เรียน ท่านกรรมการทุนนิธิฯ
    ผมได้โอนเงินร่วมบุญเข้าทุนนิธิคุณปู่ประถม จำนวน 500 บาท ตามใบโอนที่ได้แนบมานี้ด้วยแล้วครับ จึงเรียนมาเพื่อทราบและร่วมโมทนาบุญกันครับ
    อ๊อด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • tf.jpg
      tf.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.3 KB
      เปิดดู:
      31
  20. พิช

    พิช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +596
    ร่วมทำบุญด้วยครับ วันนี้โอนเข้าบัญชีฯแล้ว 500 บาท
     

แชร์หน้านี้

Loading...