ขอเชิญประมูลการกุศล : ตะกรุดมหาสะท้อนรุ่น 2 ของหลวงพี่เล็ก

เหตุผลที่นำพระไปลองบ่อยเพราะว่าส่วนตัวพระของท่านพระอาจารย์เล็กนั้นดีจริงอยู่แล้วครับผมไม่สงสัยท่านเพราะประสบการณ์ที่ผมเห็นเองที่บ้านอนุสาวรีย์แต่ทำไมต้องไปลองพระองค์อื่น(อันนี้นิสัยไม่ดีครับ) สมัยก่อนผมโดนพระที่อวดอ้างแต่ข้างในนั้นเน่าเหม็นมาเยอะ ผมเชื่อว่าพระอริยเจ้าย่อมสื่อถึงกันได้ผมจึงมักเอาพระท่านพระอาจารย์เล็กไปประกาศศักดาเสมอ นัยนึงคนที่ไม่เข้าใจในท่านก็จะได้เข้าใจไม่ชอบก็อย่าปรามาสจะพาลตกนรกได้ครับและก็ได้รับรู้ว่าพระอริยสงฆ์มีจริงพระอรหันต์หลังกึ่งพุทธกาลยังมีอยู่

ปล. หากพี่โคโมโดอยากได้ตะกรุดฝนแสนห่า ไว้ช่วงตรุษจีนไปกราบหลวงปู่จะเอามาฝากครับขอมอบให้ในความใจบุญของพี่ครับ

 

ราคาทำบุญครับ ราคาอาจแพงกว่า ราคาปกติในตลาดวัตถุมงคล แต่จุดเริ่มต้นในการ "เช่า" ครั้งนี้ คือ การ "ให้" เพื่อทำบุญครับ วัตถุมงคล คือ ของแถมที่ได้จากการทำบุญครั้งนี้ ซึ่งต่างจากการเช่า เพื่อต้องการ"ได้" วัตถุมงคลครับ

ก็เหมือนกับตอนแรกที่ผมเช่าตะกรุดนี้มาจากในเว็บนี้แหละครับ เห็นเค้าเปิดราคามาที่ 7,000 บาท และมีคนเช่ากันเยอะ ปกติผมจะถือมากเวลาเช่าวัตถุมงคลว่า จะไม่ต่อราคา แต่เนื่องจากเงินผมไม่พอ ผมเลยลองต่อราคาเหลือ 5,000 บาท ซึ่งเจ้าของก็ยินดีลดราคาให้ครับ

อาจเพราะเค้ารู้ (มั้ง) ว่าวัตถุมงคลที่ผมเช่ามานั้น ผมไม่ได้มีเจตนานำไปปล่อยต่อเพื่อหารายได้ แต่ผมเช่ามาเก็บไว้เพื่อต่อบุญในอนาคต เหมือนในกรณีนี้ที่ตะกรุดที่เช่ามาราคา 5,000 บาท สามารถหาทุนมาพัฒนาสำนักสงฆ์ฯได้มากกว่า 20,000 บาท ซึ่งผมดีใจมาก

ตัวหลวงพี่เล็กที่เป็นผู้สร้างวัตถุมงคลนี้ก็คงดีใจเช่นกัน ถ้าท่านรู้ว่าอย่างน้อยลูกศิษย์ของท่าน (ที่ร่วมประมูล) รวมทั้งพวกเราทุกคน ได้เรียนรู้ที่จะ "สละ" ทรัพย์ หรือ การให้เป็นเป็นธรรมทาน หรืออาจจะเรียกว่า "มหาสังฆทาน" ก็ได้ เพราะใจของพวกเราร่วมบุญกันเพื่อทำบุญถวาย "คณะสงฆ์" เพื่อสร้างสมเด็จองค์ปฐม สำนักสงฆ์ฯ รวมทั้งถนนเพื่อให้คนเข้าไปทำบุญได้สะดวก

สำหรับคนที่ประมูลไม่ได้ ก็อย่าเสียใจครับ หากมี "วาระ" ที่ท่านจะได้ครอบครองตะกรุดมหาสะท้อน ท่านก็จะได้รับเอง แต่วันนี้สิ่งที่ท่านได้รับนั้น ผมคิดว่าสูงกว่าแน่นอนครับ

ตะกรุด ถ้าไม่แขวนที่คอ ก็คาดที่เอว แต่ทุกท่านมีพระพุทธเจ้าอยู่ในใจกันทุกคนแล้ว ดังนั้นพุทธคุณรับรองว่าเหนือกว่าตะกรุดแน่นอนครับ ส่วนผู้ที่ประมูลได้ไปนั้น ผมเชื่อว่า อย่างน้อยคนผู้นี้ก็เป็นคนที่ใจบุญ และตะกรุดดอกนี้คงช่วยให้ท่านเจริญรุ่งเรืองและมีความคล่องตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่า ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ท่านก็จะนำเงินหรือทรัพย์ที่ได้เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่ง มาใช้เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาของเราต่อไปแน่นอนครับ

ค่อยๆขัดเกลาตัวเองไปเรื่อยๆนะครับ เงินทองมีมากมายเพียงใดก็ใช้ได้เพียงชาตินี้ ส่วนบุญกุศล มีมากมายเพียงใดก็ไม่รู้ว่าจะได้ใช้ไปกี่ชาติครับ ดังนั้นไม่ว่าท่านจะมีวัตถุมงคลมากน้อยเพียงใด ขอให้ท่านพึงระลึกที่จะขัดเกลาตนเองอยู่ตลอดเวลา ตัวผมเอง ขนาดลมหายใจยังจับบ้าง ไม่จับบ้าง แต่ก็พยายามไปเรื่อยๆ วันนี้ได้ 1 นาทีก็ยังดี ดีกว่าได้ 0 นาที

ว่าแต่ว่า ท่านผู้ใจบุญทั้งหลาย จะร่วมสร้างพระไตรปิฏก Web Version กับผมดีไหมครับ ถ้าสนใจคลิก linkที่ลายเซ็นผมได้เลยครับ ช่วยๆกันทำ เพราะเงินส่วนหนึ่งใช้ในการบำรุงเว็บพลังจิตที่พวกเราเล่นกันทุกวันนี่แหละครับ ตัวผมเองเพิ่งผ่อนไป 1 งวดจาก 10 งวดเอง แม้จะไม่มีเงิน แต่เหมือน "พระ" ท่านจัดสรรเงินมาให้แล้วครับ ตอนนี้มีจ๊อบพิเศษท่วมหัวเลยครับ แปลกดีเหมือนกัน

ยิ่ง "ให้" ยิ่ง "ได้รับ" ยิ่ง "สละ" ยิ่ง "ได้ทรัพย์" กลับมาเพื่อให้สร้างบารมีต่อ

จำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยฟังเทปหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านสอนว่า เราไม่จำเป็นที่จะต้องไปบังคับหรือบอกให้คนอื่นแก้ไขตัวเอง แต่เราพึง "แก้ใจ" ของตนเองก่อน และพึงปฏิบัติตนเองให้ดีพร้อมก่อนที่จะไปมองข้อบกพร่องของคนอื่น หรือเป็นภาษาบาลีว่า อะไรน้อ พี tamsak เคยบอก แต่ผมความจำไม่ค่อยดี อิอิ

 

พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง มักจะสอนเสมอๆ ว่า "อัตนา โจทยัตตานัง" ครับ


.

 

ตะกรุดมหาสะท้อน (ตะกรุดเม)


ตะกรุดมหาสะท้อนนั้นมีอานุภาพในการสะท้อนกลับ ไม่ว่าใครทำดีทำชั่วกับผู้ใช้ตะกรุด ผลดีผลชั่วนั้นจะย้อนคืนไปยังผู้ทำเป็นร้อยเท่าพันทวี


ตามตำราของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ท่านให้ใช้แผ่นทอง แผ่นนาก หรือแผ่นเงิน หนักไม่ต่ำกว่า ๑ บาท (เกินเท่าไรก็ได้) ลงด้วยยันต์ปัญจพุทธามหามงคล ทำการปลุกเสก


เมื่ออาราธนาติดตัวให้ใช้คาถา "เม สัมมุกขา สัพพา หะระติ เต สัมมุกขา"


คาถานี้ถ้าทำถึงที่สุด ท่านว่าแม้แต่ลูกปืนที่ยิงมา ก็จะย้อนกลับไปหาผู้ยิงเอง


ข้อควรระวัง

1. อย่าเข้าไปในสถานที่ซึ่งคนหรือสัตว์กำลังจะคลอด เพราะจะทำให้คลอดไม่ได้

2. ห้ามให้เด็กใช้อย่างเด็ดขาด


ตัวอย่างผู้ที่นำตะกรุดไปใช้แล้วได้ผล เช่น

1. พระสมุห์ศราวุธ ฐานิสฺสโร เจ้าอาวาสวัดพุทธบริษัท จังหวัดกาญจนบุรี ถูกเจ้าคณะอำเภอหยอกเล่น มาถึงก็เงื้อมือจะทุบหลัง ผลคือ ท่านเจ้าคณะอำเภอหงายหลังตึงไปเฉยๆ ท่านว่าคนแก่บางทีก็อาจลื่นล้มเองได้

2. คุณพิสิฐ อรุณทรัพย์ ถูกเพื่อนชกแบบหยอกกันเล่น เพื่อนเลยแขนหักเข้าเฝือกไป

3. พระพิชัย ฐานิโย เลขานุการเจ้าอาวาสวัดคลิตี้ผลธรรมาราม เอารถคุณพิสิฐฯ ไปติดอยู่ในป่า เพราะน้ำป่าพัดสะพานขาด ตะกรุดที่อยู่ในรถหาย ขนาดรื้อพรมขึ้นมาหาก็ไม่เจอ ปรากฏว่าไปสถิตย์อยู่บนหิ้งพระของคุณพิสิฐฯ ท่านว่าคงเป็นเพราะเอารถไปจอดไว้ใต้ถุนศาลา มีแต่คนขึ้นลงทุกวัน ตะกรุดเลยหนีกลับบ้านก่อน

4. น.ท.จรรย์นพ กำแพงทอง พาภรรยา (คุณศรัณญา กำแพงทอง) ไปเตรียมคลอดปวดท้องอยู่เป็นวันจนแทบเป็นลมก็คลอดไม่ได้ จนต้องยอมให้แพทย์ผ่าเอาน้องนุก (ด.ญ.ดาริกา กำแพงทอง) ออกมา มารู้ทีหลังว่าพกตะกรุดมหาสะท้อนทั้งคู่


มีคนสงสัยว่า ในเมื่อตะกรุดสะท้อนผลร้าย การอาราธนาตะกรุดให้คุ้มครอง จะเป็นการทำร้ายคนอื่นหรือไม่ ก็ต้องขอออกความเห็นว่า การอาราธนาตะกรุดเม เหมือนการใส่เกราะคุ้มครองตัวเอง ถ้าเขาเตะลูกบอลมาใส่คุณ ลูกบอลก็ย่อมสะท้อนกลับไปหาเขา สิ่งที่เขาได้รับเป็นการกระทำของเขาหรือคุณเองล่ะ ? และสำหรับผู้ที่คิดดีทำดีต่อผู้อื่น ตะกรุดย่อมสะท้อนผลดี



สรุปว่า ถ้าไม่มีเจตนาจะทำร้ายใคร แกล้งใคร ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว


เคยมีคนสงสัยว่า ถ้าพกตะกรุดทั้งคู่แล้วชกกันจะเป็นอย่างไร ท่านว่าคนที่กำลังใจเข้มแข็งกว่าก็ได้เปรียบกว่า แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีตะกรุดแล้วเผลอไปล่วงเกินคนที่พกตะกรุดเข้า ก็ให้ขอขมาโทษผู้ที่พกเสีย...ถ้าทำทัน และขอขมาพระรัตนตรัยด้วย


คัดจากนิตยสารพลังจิต ฉบับที่ 3 เดือนมกราคม 2551


.

 

พ่อฝุ่นสัญจรก็เคยมีประสบการณ์ด้วยตนเองมาแล้วไม่ใช่เหรอ ลองมาขยายให้อ่านกันหน่อยสิ


.

 

คุณ thaidejavu ได้ PM มาถามผม ซึ่งผมขอเอามาตอบรวมที่นี่ด้วยนะครับ

ขอตอบว่าประสบการณ์เท่านั้นครับ อีกอย่างนะครับ การมอบให้หลวงพี่เล็กนั้น เป็นการป้องกันการปรามาสครับ เพราะถ้าผมมอบให้พี่ tamsak โดยตรง อาจจะมีคนสงสัยว่า "แท้" หรือ "ไม่แท้" แต่การที่ผมมอบให้หลวงพี่เล็กกับมือ หลวงพี่ท่านจะทราบครับว่า เป็นตะกรุดที่ท่านสร้างหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ ผมคิดว่าท่าน คงไม่มอบให้พี่ tamsak นำไปประมูลต่อครับ

ถามว่า ทำไมผมถึงสงสัยในตอนแรกว่า "แท้" หรือ "ไม่แท้" นั้น ผมยอมรับเลยว่า การบูชาวัตถุมงคลทางเน็ตต้องใช้ "กำลังใจ" สูงมาก โดยเฉพาะของที่ไม่เคยเห็น ดังนั้นผมจึงนัดเจอคนที่ให้บูชา และได้คุยกับเค้าจนคิดว่า น่าจะเชื่อถือได้

แต่ก็อย่างว่า ละครับ ตัวผมมันชอบ "ลอง" ครับ ก็เลยไม่เชื่อใครง่ายๆ ยกเว้นรับเองจากมือของท่านหรือบูชาจากตู้

ผมลืมบอกไปนะครับว่า หลังจากพี่ tamsak ขอตะกรุดจากผมนั้น ผมยังไม่ได้ให้พี่เค้าทันทีครับ (ปากบอกให้ แต่ใจบอกว่า เด๋วให้ 55) ผมใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ถึงนำไปถวายหลวงพี่เล็ก แล้วหลวงพี่เล็กถึงมอบให้พี่ tamsak ครับ

ผมเล่าเพิ่มว่า พี่ tamsak ขอตะกรุดผมที่ไหนรู้ไหมครับ พี่เค้าขอตะกรุดผมบนยอดพระธาตุวาโยครับ คือ ต้องปีนกันขึ้นไปเหนื่อยเหมือนกันครับ คิดดูนะครับ ในพระธาตุวาโย มีพระพุทธรูปร้อยกว่าองค์ บนหัวผมมีพระบรมสารีริกธาตุ แถมใจผมกำลังอิ่มบุญตอนนั้น ขออะไรผมก็ให้แหละครับ ชีวิตคนเกิดมาครั้งเดียว ขอทำดีสักครั้งคงไม่เสียหาย พี่ tamsak กล้าขอ ผมก็กล้าให้อยู่แล้วครับ

ถามว่า ทำไมผมถึงตัดสินใจมอบให้หลวงพี่เล็ก ผมคิดง่ายๆครับ
1. เงินที่ผมใช้บูชาตะกรุดฯ เป็นเงินที่ผมได้มาจากการประกอบสัมมาอาชีพ คือ เงินที่ใช้บูชานั้น เป็นเงินบริสุทธิ์ที่มาจากการเขียนบทความ
2. ใจที่ผมให้นั้น ผมบริสุทธิ์ใจที่จะให้ครับ ใจที่อยากเป็นส่วนหนึ่งในการสืบทอดพระพุทธศาสนา
3. ผู้รับต้องบริสุทธิ์ ซึ่งผมคิดว่า หลวงพี่เล็กท่านมีศีลสูงกว่าพี่ tamsak ดังนั้น ผมจึงถวายให้หลวงพี่เล็กครับ (ผมได้บอกพี่ tamsak แล้ว ซึ่งพี่เค้าอนุญาต)

ผมว่า ทำไมผมถึงถวายตะกรุด แทนที่จะเอาตะกรุดมาประมูล แล้วค่อยเอาเงินไปถวาย คำตอบง่ายๆเลยครับ ตอนนั้นผม "ไม่มีเงิน" จำได้ว่า ช่วงนั้นเป็นช่วงทอดกฐินพอดี (ไม่มีเงิน คือ มี แต่ไม่พอเท่ากับจำนวนที่ตั้งใจจะทำ เพราะ 1 ปีทอดกฐินได้ 1 เดือน ผมก็เลยถวายตะกรุดซะเลย ในใจก็คิดว่า สงสัยอานิสงส์จะสะท้อนกลับหลายเท่า เพราะถวายตะกรุดฯให้หลวงพี่เล็ก ซึ่งเป็นพระดีที่ผมและพี่ๆหลายคนเคารพนับถือ)

วันนั้น ผมถวายตะกรุด 2 ดอก ครับ

ดอกที่ 1 ตะกรุดโสฬส ผมถวายหลวงพี่และบอกว่าผมขอร่วมบุญกฐิน ซึ่งพอดีตอนนั้นมีป้าคนนึงซึ่งผมเพิ่งเคยรู้จักวันแรกมาด้วย ป้าเค้าอยากบูชาให้ลูกชายที่จะไปเรียนต่อที่อังกฤษ ผมเลยบอกป้าว่า ให้เข้าไปขอบูชาต่อจากหลวงพี่เล็ก และบอกราคาป้าเค้าไปว่า ผมบูชามาจากเว็บราคา 2,200 บาท (ผมประมูลได้จากคุณ สิทธิพงษ์ กระทู้ห้องพระเครื่องนี่แหละ เงินจากการประมูลเอามาบำรุงเว็บพลังจิต ก็ขออนุโมทนาคุณสิทธิพงษ์อีกรอบ) ผมเลยบอกป้าว่า ลองไปขอหลวงพี่บูชา 3,000 บาทดู ที่ผมบอกราคานั้น เพราะป้าไม่ได้กดเงินมาและขอยืมเงินป้าอีกคน (เพื่อน) ที่มาด้วยกัน แล้วป้าก็ไปขอบูชาต่อจากหลวงพี่เล็ก ซึ่งท่านก็เมตตาให้ครับ

สำหรับตะกรุดมหาสะท้อนนั้น ผมเรียนหลวงพี่ว่า ผมขอถวายตะกรุดให้หลวงพี่ เพื่อให้พี่ tamsak มาบูชาต่อ เพื่อไปต่อบุญ ซึ่งหลวงพี่เล็กท่านเมตตายกให้ "ฟรี" ผมจำได้ขึ้นใจเลยว่า หลวงพี่ พูดว่า "จะให้ตั้มเอาไปประมูลผ่านเว็บ"

ตอนนั้นผมกับพี่ tamsak ก็เกร็งๆกันว่า การไปขอบูชาตะกรุดต่อเพื่อไปต่อบุญนั้น ราคาที่บูชาก็ต้องสมเหตุสมผล ซึ่งผมก็เตรียมใจที่จะควักเงินส่วนหนึ่งช่วยพี่เค้าครับ

ถามต่อว่า ทำไมผมต้องการสร้างบารมีพร้อมพี่ tamsak นั่นเพราะผมกับพี่เค้ามีความเกี่ยวเนื่องกันมาก่อนในชาติปางก่อนครับ และถามในทางกลับกันว่า ถ้าคนที่ประกาศให้มีการประมูลในครั้งนี้ เป็นผม ไม่ใช่ พี่ tamsak ผมคิดว่า คนคงไม่ตอบรับกันมากขนาดนี้ครับ ผมคิดว่า ส่วนหนึ่ง เพราะใจของพี่ tamsak สะอาดกว่าผมเยอะ เวลาทำอะไรก็เลยมีคนช่วยเหลือ ส่วนตัวผมเอง ก็พยายามเกาะพี่เค้าไปเรื่อยๆครับ พี่เค้าทำไร ผมก็ขอติดสอยห้อยตามไปด้วย ยกหนังสือบ้าง แบกของบ้าง ตามกำลังที่ทำได้ครับ

ฝอยมาเยอะ ผมขอตอบคำถามที่ถามมานะครับว่า รู้ได้ยังไงว่า ของแท้ หรือ ไม่แท้

ตอบนะครับ = การเช็คว่า ใช่หรือไม่ใช่นั้น ในทางทฤษฎี ต้องแกะตะกรุดออกมาดูยันต์ที่จารลงไปในตะกรุดครับ แต่ก็มีบางสำนักบอกว่า ไม่ให้แกะเพราะจะทำให้วัตถุมงคลเสื่อม แต่ของหลวงพี่เล็กท่านบอก ถ้าจะแกะดูก็แกะได้ แต่ผมคิดว่าคงไม่แกะ เพราะถ้าแกะออกมาจะทำให้ทรงเดิมของตะกรุดเสียไปครับ เหตุผลที่มั่นใจ เพราะเจอกับตัวเองมาเยอะ

อีกอย่างที่ผมอยากให้คนประมูลมั่นใจ คือ ถ้าเป็น "ของปลอม" คนแรกที่ "รับกรรม" ครั้งนี้ คือ "ผม" ครับ ดังนั้น ผมทดสอบจนแน่ใจและมั่นใจแล้วว่าเป็นของแท้แน่นอนครับ ส่วนจะพิสูจน์อย่างไรนั้น แล้วแต่วิจารณญาณของท่านครับ

ผมลืมบอกไปว่า วันที่ผมมอบตะกรุดไปนั้น ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นวันที่ 4 ต.ค.50 (วันครบรอบวันเกิดของหลวงพ่อฤาษีลิงดำครับ) และจำได้ว่า วันนั้นหลวงพี่ประกาศว่า ถ้าใครสนใจเช่า หลวงพ่อฤาษีและหลวงปู่ปาน องค์ 3 นิ้ว ใส่กรอบ ให้มาเช่าได้ แต่ต้องเช่าไปเป็นคู่

ตอนนั้นผมไม่คิดอะไรเลยครับ มีเงินในบัญชี 4 พัน (ทั้งเนื้อทั้งตัว) และเช่ามาในราคา 3 พันบาท ซึ่งหลวงพี่เล็กท่านพูดสั้นๆว่า "คุณคิดถูกแล้ว" วันนั้นผมตะลึงเลยครับ เพราะตอนแรกไม่รู้ว่า เป็นวันครบรอบวันเกิดของหลวงพ่อ มารู้ตอนไปถวายสังฆทานที่บ้านสายลม เลยถึงบางอ้อว่า ทำไมวันนี้ผมถึงได้ทำบุญเยอะมาก ตั้งแต่ถวายตะกรุด 2 ดอก ถวายสังฆทานกับหลวงพี่เล็ก และพระครูปลัดอนันต์ รวมทั้งได้บูชาหลวงปู่ปานและหลวงพ่อฤาษีกลับบ้านอีก วันนั้นผมอิ่มบุญจริงๆเลยครับ และจำได้ว่า ผม sms ไปหาเจ้า First ว่า วันนีั้วันครบรอบวันเกิดหลวงพ่อด้วย(จำได้ป่าว First)

ส่วนประสบการณ์หลังจากได้บูชาหลวงปู่ปาน และหลวงพ่อฤาษีมานั้น ผมยังไม่ขอเล่านะครับ เพราะมีอะไรแปลกๆมาเยอะเหมือนกัน แถมเจ้า First แอบมากระซิบอีกว่า "พระที่พี่บูชาไป ทันหลวงพ่อด้วย" ก็ไม่รู้ว่า เจ้า First หยอกผมเล่นหรือเปล่า แต่ผมก็ไม่คิดอะไรมากครับ เพราะเงินที่บูชานั้น หลวงพี่เล็กเอาไปใช้ในทางธรรม ดังนั้นไม่ว่าจะทันหรือไม่ ผมคิดว่าหลวงพ่อฤาษีท่านรับรู้ว่า เจตนาของผม คือ อะไร

เล่ามาเยอะ ก็ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้อ่านยาว

ขออนุโมทนา