ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

เจดีย์ร้างวัดบางกะจะเก่า อาจจะเป็นคู่แฝดกับเจดีย์ทรงเดียวกันนี้ที่วัดวรเชษฐ์ นอก
ถ้าเจดีย์หัน ทิศ 100 (ยังไม่ได้ลงพื้นที่ จึงได้แต่มองจากกูเกิ้ลนะคะ) ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นวัดที่ พระนเรศสร้างถวายพระพี่นางสุพรรณกัลยา และในคราวเดียวกันสร้างเจดีย์อีกองค์ที่วัดวรเชษฐ์ เพื่อบอกว่าเป็นเหตุการณ์หลังชนะศึกยุทธหัตถี (พระพี่นางสิ้นพระชนม์) เพราะการสิ้นพระชนม์เป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องมาจากชัยชนะของพระนเรศในสงครามยุทธหัตถี



ถ้าใช่ ก็คือ ชาวไทยอาจจะเจอวัดที่ สมเด็จพระนเรศทรงสร้างอุทิศถวายสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยาค่ะ

 

ที่วัดวรเชษฐ์ นอกเกาะนั้น มีการขุดเจอพระเครื่องด้วยค่ะ






อ้างอิง https://www.komchadluek.net/amulet/148572

 

เจดีย์วัดวรเชษฐ์ คือ เจดีย์ชัยมงคล โดยนัยยะชื่อสามารถสะท้อนจากเจดีย์คู่แฝดวัดชัยวัฒนาราม


https://vt.tiktok.com/ZSYYpqe28/

 

https://youtube.com/clip/Ugkx4k8oFe09sxQzcTZrs-4HFLX1k1cXeesv?si=NI9KioAnV1DT7fOY

โบสถ์ควรหันทิศตะวันออก ยกเว้นวัดที่ติดแม่น้ำ

 

เจอเรื่องแปลกอีกเรื่องคือ พระหน้ายิ้ม ที่ฉีกยิ้มไม่เหมือนใคร และสร้างในปีใกล้เคียงกัน ราว ๆ ปี พ.ศ.2130 ยังไม่สามารถแปลความหมายได้ คงต้องเก็บไว้ก่อนเป็นคลังข้อมูลก่อนค่ะ



หลวงพ่อยิ้ม วัดวรเชษฐ์
กับ



หลวงพ่อยิ้ม วัดนางกุย

 

โครงสร้างเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคล
ชี้ออกมาแล้วว่า
เจดีย์วัดใหญ่ชัยยมงคล
ไม่เก่ากว่าสมัยพระนารายณ์

 

ก่อนจะทรงไปเป็นองค์ประกันเพื่อแลกสมเด็จพระนเรศวรกลับคืน ทรงอายุ 17 ชันษา พระนเรศอายุ 15 ชันษา
พระพี่นางทรงกล้าหาญมาก ไปหงสาตัวคนเดียว เพื่อให้แผนกู้ชาติของพระราชบิดาสำเร็จ เพื่อให้พระนเรศกลับมาและให้เดินทางไปพบเพื่อนเก่าและเป็นคนไทเผ่าโบราณสมัยน่านเจ้ามาด้วยกัน ทรงรู้จักกันผ่านการทำการค้า จางจวีเจิ้งลาออกจากราชการ 3 ปี เพื่อวางรากฐานการค้าระหว่างประเทศของตนเอง จึงได้มาพบขุนพิเรนทรเทพ กรมพระตำรวจหลวงที่ตอนนั้นมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของคนต่างชาติในกรุงศรี และจางจวีเจิ้งก็กลับเข้ารับราชการ ในภาพยนต์ จางจวีเจิ้ง มหาบุรุษ ก็ยังกล่าวถึงการค้าพริกไทยของจางจวีเจิ้ง ทำให้ท่านจางร่ำรวยมาก.

ทุกอย่างบนโลกใบนี้ไม่มีความบังเอิญ ล้วนมีเหตุมีปัจจัยให้เรื่องราวต่างๆดำเนินไปตามร่องรอยกงล้อแห่งบุญและกรรม

ทุกคนในแผนรู้ตัวล่วงหน้าทั้งหมดยกเว้นพระนางมณีจันทร์ กว่าจะรู้ว่าเรื่องราวเป็นยังไงมายังไงก็ทรงคลอดพระองค์บัวไปแล้ว ท่านจางคงค่อยๆอธิบายให้นางฟัง พระนางจึงเข้าใจในความยากลำบากของทุกคนจึงทรงยอมรับการแต่งงานครั้งนั้นโดยไม่คิดจะฆ่าตัวตายอีก

 

บ้านเดิมของพระนางที่ปักกิ่ง หันหน้าทิศเหนือ หอพระหันไปด้านตะวันออก (ภายหลังกลายเป็นวังองค์ชายสี่หย่งเจิ้งแห่งราชวงศ์ชิง คนจีนยังเข้าใจผิดเลยว่าพระใหญ่ไม้จันทน์หอมรูปพระศรีอาริยเมตไตยสูง 18 เมตรนี้สร้างโดยพระเจ้าคังซี ที่จริง สร้างมานานแล้วตั้งแต่สมัยจางจวีเจิ้ง เป็นเน่ยเก๋อ นานมากแล้ว)


จากบ้าน นางนั่งเกี้ยวห้ามเปิดหน้าต่าง คนหามเกี้ยวเดินไปวังหลวง กะประมาณว่าสักครึ่งชั่วโมงก็ถึง โดยฝ่ายในเข้าทางประตูทิศเหนือ


หอฝึกฝนอยู่ตรงประตูทางเข้า ตึกยาวๆ สูง สามชั้น



ชีวิตสาวชาววังกรุงจีนสมัยราชวงศ์หมิง

 

ยังมีปริศนา เจดีย์สิงห์ล้อม ที่วัดธรรมิกราช ที่บูรณะโดยพระเจ้าปราสาททอง กับเจดีย์สิงค์ล้อมวัดแม่นางปลื้มที่สร้างโดยพระนเรศวรมหาราช น่าจะมีความสัมพันธ์ต่อกันระหว่างสองวัดนี้ ติดไว้ก่อนค่ะ ดิฉันคิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ตอนนี้ ดิฉันก็ต่อไม่ติดเหมือนกัน โจทย์ค่อนข้างยาก

 

ขออภัยที่หายไปนาน หัดทำคลิปติ๊กตอกอยู่ค่ะ และได้สรุปประเด็นเรื่อง คู่มือทูตตอบ ของสมเด็จพระนารยณ์ไว้เรียบร้อยแล้ว

สรุปได้ว่า พระปฐมสุริยวงศ์ คือ พระเจ้าชัยวรมันที่ 2

เรื่องนี้ใช้เวลาทบทวนนานพอสมควร ตอนท้ายๆต้องอธิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ท่านอยากให้ข้าพเจ้าสื่ออย่างไร ก็เอาเฉพาะข้อมูลนั้นให้ข้าพเจ้าเห็น ได้ผล มีคนมาชี้ว่า ศรีเทพคล้ายบุโรพุทโธ เบาะแสดีมาก ประติดประต่อเรื่องได้เลยค่ะ

https://vt.tiktok.com/ZSYSX72WK/ สุริยวงศ์ ตอนที่ 1

https://vt.tiktok.com/ZSYSXKm99/ สุริยวงศ์ ตอนที่ 2

https://vt.tiktok.com/ZSYSXo4A3/ สุริยวงศ์ ตอนที่ 3

 

เจดีย์อีกองค์ที่สร้างคล้ายเจดีย์วัดวรเชษฐ์
คือปรางค์ประธานวัดวรโพธิ์

พระเจ้าทรงธรรมอาจจะทรงสร้างให้เหมือน วัดวรเชษฐ์ เพื่อระลึกถึงพระราชบิดา( สมเด็จพระนเรศวร )ทรงประสูติในพระฐานันดรที่ "พระศรีศิลป์" อันเกิดจากพระสนม เป็นลูกคนแรกๆที่เกิดในแผ่นดินกรุงศรี (คาดว่าพระองค์ดำอาจมีลูกเมื่อตอนอยู่หงสา สักคน สองคน เพราะคนโบราณมีภรรยาเร็ว) สำหรับพระสนมพระมารดาของพระศรีศิลป์นี้ถือว่ามาตามธรรมเนียมประเพณีของการมีสนม
พระสนมอาจจะมาจากวงศ์ละโว้ คล้ายพระศรีสุดาจันทร์ เพราะตำแหน่งลูกจะสะท้อนวงศ์ของแม่

สำหรับพระนางมณีจันทร์ ทรงกำหนดให้มาจากวงศ์พระร่วง พระโอรสจะทรงที่ตำแหน่งพระมหาธรรมราชา ครองหัวเมืองพิษณุโลก
ด้วยพระนเรศเป็นกษัตริย์จากวงศ์พระร่วง จึงทรงให้พระโอรสในตำแหน่งพระมหาธรรมราชาเป็นใหญ่กว่าโอรสองค์อื่นทั้งปวง


พระปรางค์ทั้ง 3 วัด จึงมีขนาด รูปร่าง รูปทรง และองค์ประกอบเหมือนกัน
จากเดิมที่รู้กันว่า พระปรางค์วัดวรเชษฐ์ กับพระปรางค์วัดไชยวัฒนาราม เหมือนกันอย่างกับฝาแฝด

ตอนนี้ก็จอาจจะพูดได้ว่า ยังมีอีกหนึ่งพระปรางค์ที่เหมือนกับสององค์แรก แต่ตอนนี้พังเสียหายไปมาก นั่นคือที่วัดวรโพธิ์ น่าจะสร้างหลังพระปรางค์วัดวรเชษฐ์ประมาณ 18 ปี คือคิดจากทันทีที่พระเจ้าทรงธรรมขึ้นครองราชย์จึงลงมือสร้างค่ะ


หากมีพระปรางค์เล็ก ๆ 4 ทิศ อยู่รอบปรางค์ใหญ่ ก็สามารถบ่งชี้ได้ว่าที่วัดวรโพธิ์แห่งนี้ ก็น่าจะเป็นที่เก็บพระบรมอัฐิสมเด็จพระนเรศวรด้วย(และคิดว่าพระเจ้าปราสาททองมาแบ่งพระบรมอัฐิไปบรรจุในอีกหลายเจดีย์ที่เหมาะสมจากเจดีย์นี้)

 

ขอยืมสีผิวคุณอาโปมาเป็นแบบ
ผู้ชายผิวสีน้ำผึ้ง คนโบราณน่าจะเรียกว่า เนื้อทอง ไม่ได้ใช้คำว่าผิวสีน้ำผึ้ง แต่จะเรียกว่า พ่อเนื้อทอง ค่ะ ผิดถูกอย่างไรสามารถโต้แย้งได้นะคะ พอดีคำนี้ผุดขึ้นมา ก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แต่คิดว่าเกี่ยวกับสีพระวรกาย เพราะเมื่อสามวันก่อน ในเฟสบุ๊คพระมหาฤทธิชัย มีคนทาสีพระบรมรูปหล่อของพระองค์ท่านให้ผิวท่านเป็นสีน้ำผึ้ง จึงคิดอยู่ในใจเกี่ยวกับรูปปั้นนั้น วันนี้คำว่า เนื้อทอง ปรากฎขึ้นในใจ ก็คิดว่าเกี่ยวกับสีพระวรกายท่านค่ะ พระองค์ท่านทรงสมาร์ทมาก

ข้างล่างนี้เป็นรูปของคุณอาโป ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหา เพียงแต่จะชี้ว่าสีผิวแบบนี้ คนโบราณเรียกว่าเนื้อทอง. พระสังข์ของรจนาก็ทรงสีผิวแบบนี้ คนทวาราวดีสีผิวแบบนี้เป็นส่วนใหญ่ค่ะ

 

https://vt.tiktok.com/ZSYy9Pc5v/



สิ่งที่ทรงทำให้พระนเรศแปลกใจ เนื่องจากพระนางมีบุคคลิกภายนอกค่อนข้างไฮโซ แต่พอมีพระธิดาองค์แรก พระนางอายุราวๆ 19 ปี ทรงสามารถเลี้ยงพระธิดาเอง ให้นมพระธิดาเอง โดยเต็มใจ ใจเกินร้อย คาดว่าพระนเรศทรงเตรียมแม่นมไว้แล้ว แต่ต้องทรงเตรียมเก้อเพราะพระนางยืนยันจะทรงเลี้ยงพระธิดาเอง เป็นที่เหนือความคาดหมายของพระนเรศ ทรงอมยิ้มเวลาพระนางให้นมพระธิดา คงจะดีใจที่พระนางเลี้ยงพระธิดาเอง

"ถ้าพระนางไม่มีอิทธิพลคุ้มครองตัวเองได้มากพอ คงสิ้นพระชนม์ทั้ง 3 พระองค์ในวันรัฐประหาร การที่กษัตริย์จะเลือกพระอัครมเหสีจากตระกูลเชื้อสายราชวงศ์ เหตุผลหนึ่งก็น่าจะมาจาก อิทธิพลของตระกูลพระมเหสีจะคุ้มครองพระโอรส พระธิดาได้ แม้ว่าพระราชบิดาที่เป็นกษัตริย์จะสวรรคตไปแล้ว ถ้าพระนางคุ้มครองพระโอรส พระธิดา ของพระนเรศไว้ไม่ได้ สายพระโลหิตจะไม่สามารถยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน"

 

เมื่อวานได้เข้าชมราชรถที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พบว่าการประดับกระจกของราชสำนักบนวัตถุอย่างเช่นราชรถ ยังคงเหมือนสมัยอยุธยา
คือกระจกสีน้ำเงินและสีเขียว มีเพิ่มเติมคือสีขาว เท่านั้น ช่างเหมือนงานภาชนะทองในตำหนักของพระนเรศและของพระนาง เน้นแค่ สองสี คือ น้ำเงิน และ เขียว

คาดว่าคงทำสืบมาตั้งแต่สมัยพระนเรศ ในการเคร่งครัดเรื่องสีประดับ น้ำเงิน ตัวแทนพระนเรศ เขียว ตัวแทนพระนางมณีจันทร์ ระเบียบสีแบบนี้เป็นพระนางมณีจันทร์ทรงกำหนด

พระเจ้าปราสาททองก็ทรงรับมาและยึดสีการประดับโลหะแบบนี้นี้อย่างเคร่งครัด เช่นที่พระประธานวัดหน้าพระเมรุ ค่ะ

 

รอหลักฐานเกี่ยวกับพระเจ้าปราสาททอง เป็นพระโอรสของสมเด็จพระนเรศวร และทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอพระมหาธรรมราชา พระเจ้าวังหน้าของรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวร

ถ้าหาได้ จะต้องถือว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์ที่สุด และอาจจะเป็นตอนจบของการติดตามเรื่องนี้

ความหวังตอนนี้อยู่ที่ กรุแตกที่ ต.ทุ่งกวาว จังหวัดแพร่ คาดว่าปีนั้น พระนเรศพาพระนาง พระโอรส พระธิดา เสด็จไปไหว้พระธาตุประจำปีเกิดของแต่ละพระองค์ ... ภาวนาขอให้เจอหลักฐานค่ะ

 

เส้นทางที่พระนเรศเดินทางออกจากบ้านท่านจางเพื่อเข้าเฝ้าพระจักรพรรดิในพระราชพิธีจิ้มก้อง เมื่อปีค.ศ. 2116



ท่านจางช่วยสยาม ท่านจางมองว่าเรื่องนี้อยู่ในวิสัยที่จะช่วยได้ และได้ใช้วิชาความรู้เต็มที่ในการทำสงคราม พิชัยยุทธ์สงครามที่ท่านเชี่ยวชาญจะได้เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ และได้ช่วยญาติเผ่าเดียวกันในอดีต โดยที่แอบมา ทำเป็นแกล้งตาย. สองปีให้หลัง จักรพรรดิรู้ ไปขุดหลุมฝังศพ ไม่เจอกระดูก ทำให้ ครอบครัวที่เมืองจีนถูกจักรพรรดิสั่งขังให้อดข้าวตายทั้งคนแก่ยันเด็กน้อย ตายทั้งบ้าน รวมถึงท่านแม่ของพระนางด้วย พระนางไม่อยากมีชีวิตอยู่ด้วยเหตุผลนี้อีกประการหนึ่ง เพียงแต่ตอนนั้นพระนางมีธิดาแล้ว การตายของพระนางจะทำให้พระธิดาน้อยเดือดร้อนถึงตายได้(พระญาติที่ไม่ชอบสายเลือดของพระนางอาจทำร้ายพระธิดา) พระนางจึงอยู่ต่อเพื่อช่วยพระนเรศทำในสิ่งที่หวังให้สำเร็จ และอยู่เพื่อประคองให้ลูกเติบโต

พระนางและครอบครัวเสียสละไม่ใช่น้อยเพื่อให้สยามยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ

เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่พระนเรศทรงรักพระนางมากด้วยสงสารพระนางในเหตุที่ต้องมาเสียสละอย่างใหญ่หลวงเช่นนี้เพื่อช่วยชาวสยาม

 

พระนเรศท่านเป็นคนเก่งจริง ไม่ได้ยกยอ ท่านมีอัจฉริยภาพด้านการทหารและการปกครองคน. ที่ท่านมาสามารถแสดงฝีมือได้เต็มที่ตอนประกาศอิสรภาพ ก่อนหน้านั้นไม่ค่อยแสดงบทบาท ที่เป็นเช่นนี้มีเหตุผลหลายประการ เช่น กรุงศรีมีความพร้อมแล้วทั้งสถานที่ตั้งมีกำแพงเมืองแข็งแรงมั่นคง มีคูเมืองกว้าง มีทหาร มีอาวุธจากการสนับสนุนของกลุ่มนายก่าย ท่านจึงแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่

แม้การแต่งงานของทั้ง 2 พระองค์ เป็นการจัดสรรโดยผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย แต่ทั้งสองพระองค์ก็ทรงรักกันมากด้วยความดีของพระองค์ท่านทั้งสองเอง

 

พระนางทรงประดับเครื่องทองด้วยพลอยสีน้ำเงินและสีเขียวเท่านั้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ แสดงออกถึงความรักที่มั่นคงต่อกัน
สีน้ำเงิน หมายถึง พระนเรศ
สีเขียว หมายถึง พระนาง

การใช้สีประดับน้อยสี ดูไฮโซ กว่าใช้หลากสีนะคะ แลดูแล้วคลาสสิคดีค่ะ

คาดไม่ถึงว่า การใช้สีกระจกเพื่อประดับพระราชยาน ยังคงยึดในสิ่งที่พระนางทรงรับสั่งเอาไว้อยู่

ทั้งนี้ สีทั้งสอง เป็นสีที่สื่อความหมายที่ดีในแง่ที่พระองค์ท่านทั้งสองพระองค์ทรงรักและผูกพันกันมาก สื่อผ่านสีมา 400 กว่าปี

ความรักชั่วนิรันดร..

 

การทำยุทธหัตถีกับตะโดเมงสอและการประกาศอืสรภาะ