ขอเชิญทำบุญแก้วติดฝาผนัง วิหารแก้วจุฬามณีและซื้อที่ถวาย สำนักสงฆ์ธรรมเจริญ

อานิสงส์การสร้างเจดีย์... ( โดยย่อ )

การสร้างเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรือ อัฐิธาตุของบุคคลที่ควรบูชา
ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ และพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นการสร้างมงคลให้กับตนเองอย่างสูงสุด เมื่อตายไปย่อมไปสู่สุคติโลกสวรรค์ย่อมได้ดวงตาเห็นธ รรม และบรรลุมรรคผลนิพพานโดยง่าย การมีส่วนร่วมสร้างพระเจดีย์จะมากหรือน้อย ถ้าทำด้วยความเลื่อมใส ก็ย่อมได้อานิสงส์มากมาย ดังตัวอย่างที่หยิบยกมาให้ท่านได้อ่านต่อไปนี้

พระเถระรูปนี้ในชาติก่อนมีส่วนร่วมสร้างเจดีย์ เพียงท่านใส่ก้อนปูนขาวลงใน
ช่องแผ่นอิฐ ซื่งประชาชนกำลังก่ออิฐสร้างเจดีย์อยู่ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ด้วยจิตใจที่เลื่อมใส อำนาจแห่งบุญนั้นได้บันดาลให้ท่านไปเกิดในสวรรค์ และโลกมนุษย์ถึง ๙๔ กัปป์ พอมาถึงสมัยพระพุทธเจ้าสมณโคดม ท่านได้มาบวชในพระพุทธศาสนาท่านคือ พระสุธาบิณฑิยเถระ

และยังมีเรื่องเล่าจาก พระมหาโมคคัลลานะเถระ ว่าท่านได้พบเทพบุตรตนหนึ่ง
มีวิมานสวยงามวิจิตรตระการตา แวดล้อมด้วยนางฟ้าจำนวนมาก มาฟ้อนรำขับร้องให้เบิกบานใจ และเทพบุตรตนนี้มีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือเทพบุตรทั้งปวง ท่านจึงถาเทพบุตรตนนั้นว่า เมื่อท่านเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้หรือ ท่านถึงมีอานุภาพมากมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่า งนี้ เทพบุตรตนนั้นตอบว่า แต่ก่อนเมื่อเป็นมนุษย์ได้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้ออกบวชอยู่ ๗ พรรษา และเป็นสาวกของพระศาสดานามว่า สุเมธ

ต่อมาได้ดับขันธปรินิพพานแล้ว พระบรมสารีริกธาตุของท่านบรรจุไว้ในรัตนเจดีย์ซึ่งห่ อหุ้มด้วยข่ายทองคำ ท่านได้ชักชวนประชาชนให้ไปสักการบูชาด้วยความเลื่อมใ ส กุศลจะส่งผลให้ขึ้นสวรรค์ ด้วยบุญนี้เองทำให้ข้าพเจ้าได้มาเสวยสุขอยู่ในทิพย์ว ิมานนี้เอง

ส่วนพระมหากัสสปะเถระนั้น ท่านได้พบเปรตตนหนึ่งมีกลิ่นเหม็นเน่า มีหนอนกินปาก นอกจากนี้ยังถูกยมบาลเฉือนปาก แล้วลาดน้ำให้แสบร้อน จึงถามถึงผลกรรมของเปรตนั้น ทราบว่าแต่ก่อนตอนเป็นมนุษย์ ตนเป็นชาวนครราชคฤห์ได้ห้ามมิให้บุตร ภรรยา บูชาพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมกับเล่าถึงพวกที่มีความคิดและกระทำเหมือนตน ส่วนภรรยา และบุตรของตนได้ไปเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ มีวิมานสวยสดงดงาม เพราอานิสงส์ที่ได้ไปใหว้พระบรมสารีริกธาตุ สำหรับตนเองนั้นตั้งใจไว้ว่า หากได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง จะทำการบูชาพระสถูปเจดีย์ให้มากอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ในครั้งพุทธกาล พระเจ้าปัสเสนทิโกศล ได้เสด็จไปยังเมืองสาวัตถี
พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพารเป็นอันมาก ครั้นถึงหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำ พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นทรายขาวผ่องบริสุทธิ์ยิ่งนั ก ทรงมีพระทัยเลื่อมใสอย่างแรงกล้า ได้รับสั่งให้ช่วยกันก่อกองทรายให้เป็นรูปเจดีย์ถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ มองดูเป็นทิวแถวสวยงาม เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เสร็จแล้วได้เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้าที่บุบผารามมหาวิ หาร แล้วได้ทูลถามถึงอานิสงส์ แห่งการก่อเจดีย์ทรายพระพุทธเจ้าตรัสว่า ขอถวายพระพรมหาบพิตร ผู้มีศรัทธาแรงกล้าได้ก่อเจดีย์ทรายถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ หรือแม้แต่องค์เดียว ก็ย่อมได้รับอานิสงส์มาก จะไม่ตกนรกตลอดร้อยชาติ

ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ จะอุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง มีชื่อเสียงเกียรติยศไปทั่วทุกทิศ จากนั้นจะได้ไปสวรรค์เวยทิพย์สมบัติ การก่อเจดีย์ทรายเป็นเรื่องของผู้มีความฉลาด มีความคิดดี ได้ทำเป็นประเพณีมาแล้วในอดีต แม้พระตถาคตเองก็เคยทำมาแล้วในครั้งเป็นพระโพธิ์สัตว ์

ในครั้งนั้นตถาคตยากจนมาก มีอาชีพตัดฟืนขาย วันหนึ่งได้พบทรายขาวสะอาดมากในราวป่า ก็มีจิตใจศรัทธาผ่องใส วันนั้นได้หยุดตัดฟืนทั้งวัน ได้กวาดทรายก่อเป็นเจดีย์โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยา ก แล้วเปลื้องผ้าห่มของตน ฉีกทำเป็นธงประดับไว้ เพื่อบูชาพระติสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วอฐิษฐานจิตขอให้เป็นปัจจัยแห่งพระโพธิ์ญาณในอนาค ตกาล ครั้นเมื่อตายไปแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อย ู่ ๒ พันปีพิพย์ เมื่อสิ้นอายุขัย ได้อุบัติมาเกิดเป็นพระตถาคตนี้เอง สำหรับพระเจ้าปัสเสนทิโกศลนั้น ก็ได้รับพยากรณ์ว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้า

และพระมหากัสสปเถระ ยังได้กล่าวถึงประวัติและผลบุญแห่งการสร้างพุทธเจดีย ์
ของท่านไว้ดังนี้ ในครั้งที่พระพุทธเจ้ามีนามว่าปทุมมุตตระ พระองค์ได้ปรินิพพานแล้ว

พระมหากัสสปเถระได้ชักชวนหมู่ญาติมิตร และประชาชน ให้มาร่วมกันสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้ากันเถิด ทุกคนมีจิตเลื่อมใส ปิติอิ่มเอมใจ จึงได้ช่วยกันสร้างเจดีย์สูงค่าเสร็จลงด้วยความเรียบ ร้อย เจดีย์สูงร้อยศอก สร้างปราสาทห้าร้อยศอก สูงตระหง่านจรดท้องฟ้า ทุกคนมีจิตปิติเบิกบานในอานิสงส์บุญที่ได้พากันทำไว้ เมื่อท่านตายไปแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อยู่บนยานทิพย์เทียมด้วยม้าสินธพพันตัว วิมานของท่านสูงตระหง่านเจ็ดชั้น มีปราสาทหนึ่งพันองค์ ซึ่งสร้างด้วยทองคำ ศาลาหน้ามุขสร้างด้วยแก้วมณี ส่องแสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วสารทิศ ทั้งยังมีอำนาจเหนือเทวดาทั้งปวง เมื่อลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ในกัปป์ที่หกหมื่นในภัทรกัปป์นี้ ได้เป็น

พระเจ้าจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ ครอบครองอานาเขตไปถึง ๔ ทวีป มีแก้วแหวนเงินทองมากมาย ประชาชนมีความสุขสำราญเหมือนดั่งเมืองบนสวรรค์ชั้นดา วดึงส์ และชาติสุดท้ายได้มาเกิดในสกุลพราหมณ์ที่ร่ำรวย แต่สละทรัพย์ออกบวช จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ผู้เลิศด้วยปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖<!-- google_ad_section_end -->
<!-- / message --><!-- sig -->__________________
คัดลอกจาก www.wattiabsilaram.net/upload/showthread.php?t=3652]

 

<TABLE class=tborder id=post3390090 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุยโส<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3390090", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Apr 2010
ข้อความ: 24
Groans: 0
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 509
ได้รับอนุโมทนา 128 ครั้ง ใน 17 โพส
พลังการให้คะแนน: 0


</TD><TD class=alt1 id=td_post_3390090 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->อานิสงส์การสร้างเจดีย์... ( โดยย่อ )

การสร้างเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรือ อัฐิธาตุของบุคคลที่ควรบูชา
ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ และพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นการสร้างมงคลให้กับตนเองอย่างสูงสุด เมื่อตายไปย่อมไปสู่สุคติโลกสวรรค์ย่อมได้ดวงตาเห็นธ รรม และบรรลุมรรคผลนิพพานโดยง่าย การมีส่วนร่วมสร้างพระเจดีย์จะมากหรือน้อย ถ้าทำด้วยความเลื่อมใส ก็ย่อมได้อานิสงส์มากมาย ดังตัวอย่างที่หยิบยกมาให้ท่านได้อ่านต่อไปนี้

พระเถระรูปนี้ในชาติก่อนมีส่วนร่วมสร้างเจดีย์ เพียงท่านใส่ก้อนปูนขาวลงใน
ช่องแผ่นอิฐ ซื่งประชาชนกำลังก่ออิฐสร้างเจดีย์อยู่ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ด้วยจิตใจที่เลื่อมใส อำนาจแห่งบุญนั้นได้บันดาลให้ท่านไปเกิดในสวรรค์ และโลกมนุษย์ถึง ๙๔ กัปป์ พอมาถึงสมัยพระพุทธเจ้าสมณโคดม ท่านได้มาบวชในพระพุทธศาสนาท่านคือ พระสุธาบิณฑิยเถระ

และยังมีเรื่องเล่าจาก พระมหาโมคคัลลานะเถระ ว่าท่านได้พบเทพบุตรตนหนึ่ง
มีวิมานสวยงามวิจิตรตระการตา แวดล้อมด้วยนางฟ้าจำนวนมาก มาฟ้อนรำขับร้องให้เบิกบานใจ และเทพบุตรตนนี้มีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือเทพบุตรทั้งปวง ท่านจึงถาเทพบุตรตนนั้นว่า เมื่อท่านเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้หรือ ท่านถึงมีอานุภาพมากมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่า งนี้ เทพบุตรตนนั้นตอบว่า แต่ก่อนเมื่อเป็นมนุษย์ได้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้ออกบวชอยู่ ๗ พรรษา และเป็นสาวกของพระศาสดานามว่า สุเมธ

ต่อมาได้ดับขันธปรินิพพานแล้ว พระบรมสารีริกธาตุของท่านบรรจุไว้ในรัตนเจดีย์ซึ่งห่ อหุ้มด้วยข่ายทองคำ ท่านได้ชักชวนประชาชนให้ไปสักการบูชาด้วยความเลื่อมใ ส กุศลจะส่งผลให้ขึ้นสวรรค์ ด้วยบุญนี้เองทำให้ข้าพเจ้าได้มาเสวยสุขอยู่ในทิพย์ว ิมานนี้เอง

ส่วนพระมหากัสสปะเถระนั้น ท่านได้พบเปรตตนหนึ่งมีกลิ่นเหม็นเน่า มีหนอนกินปาก นอกจากนี้ยังถูกยมบาลเฉือนปาก แล้วลาดน้ำให้แสบร้อน จึงถามถึงผลกรรมของเปรตนั้น ทราบว่าแต่ก่อนตอนเป็นมนุษย์ ตนเป็นชาวนครราชคฤห์ได้ห้ามมิให้บุตร ภรรยา บูชาพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมกับเล่าถึงพวกที่มีความคิดและกระทำเหมือนตน ส่วนภรรยา และบุตรของตนได้ไปเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ มีวิมานสวยสดงดงาม เพราอานิสงส์ที่ได้ไปใหว้พระบรมสารีริกธาตุ สำหรับตนเองนั้นตั้งใจไว้ว่า หากได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง จะทำการบูชาพระสถูปเจดีย์ให้มากอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ในครั้งพุทธกาล พระเจ้าปัสเสนทิโกศล ได้เสด็จไปยังเมืองสาวัตถี
พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพารเป็นอันมาก ครั้นถึงหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำ พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นทรายขาวผ่องบริสุทธิ์ยิ่งนั ก ทรงมีพระทัยเลื่อมใสอย่างแรงกล้า ได้รับสั่งให้ช่วยกันก่อกองทรายให้เป็นรูปเจดีย์ถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ มองดูเป็นทิวแถวสวยงาม เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เสร็จแล้วได้เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้าที่บุบผารามมหาวิ หาร แล้วได้ทูลถามถึงอานิสงส์ แห่งการก่อเจดีย์ทรายพระพุทธเจ้าตรัสว่า ขอถวายพระพรมหาบพิตร ผู้มีศรัทธาแรงกล้าได้ก่อเจดีย์ทรายถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ หรือแม้แต่องค์เดียว ก็ย่อมได้รับอานิสงส์มาก จะไม่ตกนรกตลอดร้อยชาติ

ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ จะอุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง มีชื่อเสียงเกียรติยศไปทั่วทุกทิศ จากนั้นจะได้ไปสวรรค์เวยทิพย์สมบัติ การก่อเจดีย์ทรายเป็นเรื่องของผู้มีความฉลาด มีความคิดดี ได้ทำเป็นประเพณีมาแล้วในอดีต แม้พระตถาคตเองก็เคยทำมาแล้วในครั้งเป็นพระโพธิ์สัตว ์

ในครั้งนั้นตถาคตยากจนมาก มีอาชีพตัดฟืนขาย วันหนึ่งได้พบทรายขาวสะอาดมากในราวป่า ก็มีจิตใจศรัทธาผ่องใส วันนั้นได้หยุดตัดฟืนทั้งวัน ได้กวาดทรายก่อเป็นเจดีย์โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยา ก แล้วเปลื้องผ้าห่มของตน ฉีกทำเป็นธงประดับไว้ เพื่อบูชาพระติสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วอฐิษฐานจิตขอให้เป็นปัจจัยแห่งพระโพธิ์ญาณในอนาค ตกาล ครั้นเมื่อตายไปแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อย ู่ ๒ พันปีพิพย์ เมื่อสิ้นอายุขัย ได้อุบัติมาเกิดเป็นพระตถาคตนี้เอง สำหรับพระเจ้าปัสเสนทิโกศลนั้น ก็ได้รับพยากรณ์ว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้า

และพระมหากัสสปเถระ ยังได้กล่าวถึงประวัติและผลบุญแห่งการสร้างพุทธเจดีย ์
ของท่านไว้ดังนี้ ในครั้งที่พระพุทธเจ้ามีนามว่าปทุมมุตตระ พระองค์ได้ปรินิพพานแล้ว

พระมหากัสสปเถระได้ชักชวนหมู่ญาติมิตร และประชาชน ให้มาร่วมกันสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้ากันเถิด ทุกคนมีจิตเลื่อมใส ปิติอิ่มเอมใจ จึงได้ช่วยกันสร้างเจดีย์สูงค่าเสร็จลงด้วยความเรียบ ร้อย เจดีย์สูงร้อยศอก สร้างปราสาทห้าร้อยศอก สูงตระหง่านจรดท้องฟ้า ทุกคนมีจิตปิติเบิกบานในอานิสงส์บุญที่ได้พากันทำไว้ เมื่อท่านตายไปแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อยู่บนยานทิพย์เทียมด้วยม้าสินธพพันตัว วิมานของท่านสูงตระหง่านเจ็ดชั้น มีปราสาทหนึ่งพันองค์ ซึ่งสร้างด้วยทองคำ ศาลาหน้ามุขสร้างด้วยแก้วมณี ส่องแสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วสารทิศ ทั้งยังมีอำนาจเหนือเทวดาทั้งปวง เมื่อลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ในกัปป์ที่หกหมื่นในภัทรกัปป์นี้ ได้เป็น

พระเจ้าจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ ครอบครองอานาเขตไปถึง ๔ ทวีป มีแก้วแหวนเงินทองมากมาย ประชาชนมีความสุขสำราญเหมือนดั่งเมืองบนสวรรค์ชั้นดา วดึงส์ และชาติสุดท้ายได้มาเกิดในสกุลพราหมณ์ที่ร่ำรวย แต่สละทรัพย์ออกบวช จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ผู้เลิศด้วยปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖<!-- google_ad_section_end -->
__________________
คัดลอกจาก www.wattiabsilaram.net/upload/showthread.php?t=3652]<!-- google_ad_section_end -->

/////////////////////////////////////////////////////////

โมทนาสาธุการกับคุณพี่ครับ สาธุ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ธนาคารบุญ ช่องที่ ๕ สาธุครับ

วันนี้โอน ไปยอดแรก 2,600 บาท นะคะ

นายสมหมาย เลี้ยวสกุลและคณะ เจ้าภาพช่องที่ 5 คะ


<TABLE border=0 width=450><TBODY><TR><TD width=250>โอนเงินเข้าบัญชีเลขที่</TD><TD>4480294083</TD></TR><TR><TD>ธนาคาร</TD><TD>กรุงเทพ</TD></TR><TR><TD>จำนวน (บาท)</TD><TD>2,600.00</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD>วัน/เวลา</TD><TD>07-06-2553 / 10:04:57</TD></TR></TBODY></TABLE>

โมทนา สาธุ ทุกประการ คะ

 

เนื่องจากมีผู้ศรัทธาจะขอร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมกับเจ้าภาพหลักเจดีย์เอกองค์กลาง
ทางสำนักสงฆ์ก็ยินดีที่ให้ผู้มีศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพตามกำลังศรัทธา
จึงทำลำดับย่อย ให้กับผู้ขอร่วมเป็นเจ้าภาพ ๑๐ ลำดับ ร่วมกับเจ้าภาพใหญ่เจดีย์องค์กลางครับ

ขอโมทนาสาธุกับคุณเกรียงศักดิ์ ฯ ด้วยครับ บางทานอาจจะมีปัจจัยกำลังพอประมาณคือทำบุญแล้วไม่เดือดร้อน แต่ได้อานิสงค์ใหญ่ด้วย จึงมีความคิดว่าถ้ามีผู้ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพร่วม ทุกท่านที่เป็นเจ้าภาพก็ได้อานิสงค์เหมือนกันและเป็นการแบ่งบุญกัน ครับ สาธุกับคุณพี่ที่ให้คำแนะนำ โมทนาทุกประการ ขอให้ท่านรวย คล่องในเรืองการสร้างบารมีแบบง่ายดาย คล่องเรื่องการเงินและการงาน คำว่าไม่มีไม่สำเร็จอย่าเกิดแก่ท่านเลยตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพาน เทอญ

 

กราบอนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลกับทุกท่านค่ะ ปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ร่วมบุญในครั้งนี้ด้วย สาธุ

 

อานิสงส์การสร้างเจดีย์... ( โดยย่อ )

การสร้างเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรือ อัฐิธาตุของบุคคลที่ควรบูชา
ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ และพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นการสร้างมงคลให้กับตนเองอย่างสูงสุด เมื่อตายไปย่อมไปสู่สุคติโลกสวรรค์ย่อมได้ดวงตาเห็นธ รรม และบรรลุมรรคผลนิพพานโดยง่าย การมีส่วนร่วมสร้างพระเจดีย์จะมากหรือน้อย ถ้าทำด้วยความเลื่อมใส ก็ย่อมได้อานิสงส์มากมาย ดังตัวอย่างที่หยิบยกมาให้ท่านได้อ่านต่อไปนี้

พระเถระรูปนี้ในชาติก่อนมีส่วนร่วมสร้างเจดีย์ เพียงท่านใส่ก้อนปูนขาวลงใน
ช่องแผ่นอิฐ ซื่งประชาชนกำลังก่ออิฐสร้างเจดีย์อยู่ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ด้วยจิตใจที่เลื่อมใส อำนาจแห่งบุญนั้นได้บันดาลให้ท่านไปเกิดในสวรรค์ และโลกมนุษย์ถึง ๙๔ กัปป์ พอมาถึงสมัยพระพุทธเจ้าสมณโคดม ท่านได้มาบวชในพระพุทธศาสนาท่านคือ พระสุธาบิณฑิยเถระ

และยังมีเรื่องเล่าจาก พระมหาโมคคัลลานะเถระ ว่าท่านได้พบเทพบุตรตนหนึ่ง
มีวิมานสวยงามวิจิตรตระการตา แวดล้อมด้วยนางฟ้าจำนวนมาก มาฟ้อนรำขับร้องให้เบิกบานใจ และเทพบุตรตนนี้มีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือเทพบุตรทั้งปวง ท่านจึงถาเทพบุตรตนนั้นว่า เมื่อท่านเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้หรือ ท่านถึงมีอานุภาพมากมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่า งนี้ เทพบุตรตนนั้นตอบว่า แต่ก่อนเมื่อเป็นมนุษย์ได้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้ออกบวชอยู่ ๗ พรรษา และเป็นสาวกของพระศาสดานามว่า สุเมธ

ต่อมาได้ดับขันธปรินิพพานแล้ว พระบรมสารีริกธาตุของท่านบรรจุไว้ในรัตนเจดีย์ซึ่งห่ อหุ้มด้วยข่ายทองคำ ท่านได้ชักชวนประชาชนให้ไปสักการบูชาด้วยความเลื่อมใ ส กุศลจะส่งผลให้ขึ้นสวรรค์ ด้วยบุญนี้เองทำให้ข้าพเจ้าได้มาเสวยสุขอยู่ในทิพย์ว ิมานนี้เอง

ส่วนพระมหากัสสปะเถระนั้น ท่านได้พบเปรตตนหนึ่งมีกลิ่นเหม็นเน่า มีหนอนกินปาก นอกจากนี้ยังถูกยมบาลเฉือนปาก แล้วลาดน้ำให้แสบร้อน จึงถามถึงผลกรรมของเปรตนั้น ทราบว่าแต่ก่อนตอนเป็นมนุษย์ ตนเป็นชาวนครราชคฤห์ได้ห้ามมิให้บุตร ภรรยา บูชาพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมกับเล่าถึงพวกที่มีความคิดและกระทำเหมือนตน ส่วนภรรยา และบุตรของตนได้ไปเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ มีวิมานสวยสดงดงาม เพราอานิสงส์ที่ได้ไปใหว้พระบรมสารีริกธาตุ สำหรับตนเองนั้นตั้งใจไว้ว่า หากได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง จะทำการบูชาพระสถูปเจดีย์ให้มากอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ในครั้งพุทธกาล พระเจ้าปัสเสนทิโกศล ได้เสด็จไปยังเมืองสาวัตถี
พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพารเป็นอันมาก ครั้นถึงหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำ พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นทรายขาวผ่องบริสุทธิ์ยิ่งนั ก ทรงมีพระทัยเลื่อมใสอย่างแรงกล้า ได้รับสั่งให้ช่วยกันก่อกองทรายให้เป็นรูปเจดีย์ถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ มองดูเป็นทิวแถวสวยงาม เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เสร็จแล้วได้เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้าที่บุบผารามมหาวิ หาร แล้วได้ทูลถามถึงอานิสงส์ แห่งการก่อเจดีย์ทรายพระพุทธเจ้าตรัสว่า ขอถวายพระพรมหาบพิตร ผู้มีศรัทธาแรงกล้าได้ก่อเจดีย์ทรายถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ หรือแม้แต่องค์เดียว ก็ย่อมได้รับอานิสงส์มาก จะไม่ตกนรกตลอดร้อยชาติ

ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ จะอุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง มีชื่อเสียงเกียรติยศไปทั่วทุกทิศ จากนั้นจะได้ไปสวรรค์เวยทิพย์สมบัติ การก่อเจดีย์ทรายเป็นเรื่องของผู้มีความฉลาด มีความคิดดี ได้ทำเป็นประเพณีมาแล้วในอดีต แม้พระตถาคตเองก็เคยทำมาแล้วในครั้งเป็นพระโพธิ์สัตว ์

ในครั้งนั้นตถาคตยากจนมาก มีอาชีพตัดฟืนขาย วันหนึ่งได้พบทรายขาวสะอาดมากในราวป่า ก็มีจิตใจศรัทธาผ่องใส วันนั้นได้หยุดตัดฟืนทั้งวัน ได้กวาดทรายก่อเป็นเจดีย์โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยา ก แล้วเปลื้องผ้าห่มของตน ฉีกทำเป็นธงประดับไว้ เพื่อบูชาพระติสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วอฐิษฐานจิตขอให้เป็นปัจจัยแห่งพระโพธิ์ญาณในอนาค ตกาล ครั้นเมื่อตายไปแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อย ู่ ๒ พันปีพิพย์ เมื่อสิ้นอายุขัย ได้อุบัติมาเกิดเป็นพระตถาคตนี้เอง สำหรับพระเจ้าปัสเสนทิโกศลนั้น ก็ได้รับพยากรณ์ว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้า

และพระมหากัสสปเถระ ยังได้กล่าวถึงประวัติและผลบุญแห่งการสร้างพุทธเจดีย ์
ของท่านไว้ดังนี้ ในครั้งที่พระพุทธเจ้ามีนามว่าปทุมมุตตระ พระองค์ได้ปรินิพพานแล้ว

พระมหากัสสปเถระได้ชักชวนหมู่ญาติมิตร และประชาชน ให้มาร่วมกันสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้ากันเถิด ทุกคนมีจิตเลื่อมใส ปิติอิ่มเอมใจ จึงได้ช่วยกันสร้างเจดีย์สูงค่าเสร็จลงด้วยความเรียบ ร้อย เจดีย์สูงร้อยศอก สร้างปราสาทห้าร้อยศอก สูงตระหง่านจรดท้องฟ้า ทุกคนมีจิตปิติเบิกบานในอานิสงส์บุญที่ได้พากันทำไว้ เมื่อท่านตายไปแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อยู่บนยานทิพย์เทียมด้วยม้าสินธพพันตัว วิมานของท่านสูงตระหง่านเจ็ดชั้น มีปราสาทหนึ่งพันองค์ ซึ่งสร้างด้วยทองคำ ศาลาหน้ามุขสร้างด้วยแก้วมณี ส่องแสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วสารทิศ ทั้งยังมีอำนาจเหนือเทวดาทั้งปวง เมื่อลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ในกัปป์ที่หกหมื่นในภัทรกัปป์นี้ ได้เป็น

พระเจ้าจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ ครอบครองอานาเขตไปถึง ๔ ทวีป มีแก้วแหวนเงินทองมากมาย ประชาชนมีความสุขสำราญเหมือนดั่งเมืองบนสวรรค์ชั้นดา วดึงส์ และชาติสุดท้ายได้มาเกิดในสกุลพราหมณ์ที่ร่ำรวย แต่สละทรัพย์ออกบวช จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ผู้เลิศด้วยปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖<!-- google_ad_section_end -->
__________________
คัดลอกจาก www.wattiabsilaram.net/upload/showthread.php?t=3652]<!-- google_ad_section_end -->

 

แจกวัตถุมงคลกับผู้ร่วมทำบุญเป็นที่ระลึก

ให้ช่วยโพสลงในกระทู้นี้หรือทาง PM
วันที่โอนเงิน ชื่อ สกุล
และสถานที่ไว้ด้วยครับ
จะดำเนินการจัดส่งไปให้ครับ


<FIELDSET style="WIDTH: 249px; HEIGHT: 183px" class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

​

</FIELDSET>


สมเด็จองค์ปฐมปางมหาจักรพรรดิ์ด้านหลังยันต์เกราะเพชร
ชุดพิเศษ สร้าง ๓๐๐ องค์
รุ่น เสาร์ ๕ เข้าพิธีวัดท่าซุง เมื่อ ๒๐ มี.ค.๕๓

มวลสารในการสร้างพระมีดังนี้ ไม้เทพทาโร, ดอกไม้บูชาพระจากที่ต่างๆ , ดินกากยายักษ์ , น้ำมันชาตรี พิเศษคือ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุในองค์พระ ฯ​

<!-- google_ad_section_end -->

 

รายงานความก้าวหน้าของการสร้างวิหารพระจุฬามณีปฏิบัติธรรม
พื้นเพดานบนเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอถอดไม้รองแบบเพดานประมาณ ๑๘ วัน ทั้ง ๒ ด้าน หลังจากนี้ ก็เป็นการเก็บรายละเอียดส่วนของชั้นล่างนิดหน่อยพอปฏิบัติธรรมได้ ขั้นตอนต่อไปคือ ขัดคานบนเพื่อรองรับพระเจดีย์อีกครั้งเพื่อเพิ่มความแข็งแรง หลังจากนี้เป็นขั้นตอนขึ้นส่วนพระเจดีย์องค์ประธาน องค์แรกก่อน

รูปความก้าวหน้า

 

รูปความก้าวหน้า<!-- google_ad_section_end --> ส่วนเพดานด้านบนชั้นแรก

 

บรรยากาศรอบสำนักสงฆ์ครับ ภาพแรกเป็นกุฏแถวของแม่ชีและผู้หญิง
ภาพที่ ๒ เป็นกุฏแถวไม้ชั้นเดียวเป็นกุฏที่พักของผู้ชายที่มาปฏิบัติธรรมอยู่ใกล้ศาลาโรงทานครับ

 

ด้านขวามือกุฏพักของพระสงฆ์ จำนวน ๕ หลัง รอบ ๆ จะเป็นบ้านของชาวบ้านล้อมรอบประมาณ ๓๐๐ กว่าหลังคาเรือน ลักษณะภูมิประเทศรอบ ๆ สำนักสงฆ์เป็นไหล่เขา ข้างหน้าสำนักสงฆ์เป็นคลองสายน้ำไหลจากภูเขาลงมาสู่หมู่บ้านด้านล่าง สูงจากน้ำบรรยากาศเงียบสงบเหมาะสำหรับมาปลีกวิเวกปฏิบัติธรรม

 

๒.เจดีย์รายทั้ง ๔ องค์ ความกว้างของฐานเจดีย์ประมาณ ครึ่งเมตร - ความสูงประมาณ ๑ เมตร องค์ละ ๒๐,๐๐๐.-บาท บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จกกุสันโธ และสมเด็จองค์ปัจจุบันวรรณรวม (วันบรรจุเรียนเชิญเจ้าภาพขึ้นบรรจุเองเพื่อเป็นเกียรติและเป็นศิริมงคลแด่ตัวท่านเอง)

๒. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๑ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง เจ้าภาพ อุทิศบุญให้แก่คุณพ่อเผียน นัคราเรือง

๓. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๒ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง เจ้าภาพ อุทิศบุญให้แก่คุณแม่สมบูรณ์ นัคราเรือง

๔. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๓ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง เจ้าภาพ อุทิศบุญให้แก่นางพจนา นัคราเรือง

๕. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๔ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง,นางวัลลภา นัคราเรือง,นายสุธน นัคราเรือง,
นายยศกร นัคราเรือง เจ้าภาพร่วม เพื่อชำระหนี้สงฆ์และอุทิศบุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวร,พระยายมราช
.............................................................................................
หากทางสำนักสงฆ์ฯพร้อมสร้าง กระผมก็พร้อมที่จะโอนเงินรวมทั้งสิ้นจำนวน 80,000.-บาท (เงินแปดหมื่นบาทถ้วน) ครับ

ขอแบ่งบุญนี้ให้แก่ทุก ๆ ท่านที่ได้ร่วมอนุโมทนาสาธุการ

และขอฝากบุญนี้ไว้กับพระยายมราชด้วยนะครับ หากกระผมยังมีชีวิตอยู่ในชาติปัจจุนี้ขอให้เป็นผู้ที่มี สมบัติจักรพรรดิ์ตักไม่พร่องตลอดจนสิ้นอายุขัย และหากสิ้นชีพในชาตินี้ ขออานิสงส์ผลบุญได้โปรดนำพากระผมไปสู่

" นิพพานัง ปรมัง สุขขัง " ด้วยเทอญ<!-- google_ad_section_end -->

 

<TABLE class=tborder id=post3419628 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุยโส<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3419628", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Apr 2010
ข้อความ: 37
Groans: 0
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 2,005
ได้รับอนุโมทนา 205 ครั้ง ใน 33 โพส
พลังการให้คะแนน: 0






</TD><TD class=alt1 id=td_post_3419628 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->๒.เจดีย์รายทั้ง ๔ องค์ ความกว้างของฐานเจดีย์ประมาณ ครึ่งเมตร - ความสูงประมาณ ๑ เมตร องค์ละ ๒๐,๐๐๐.-บาท บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จกกุสันโธ และสมเด็จองค์ปัจจุบันวรรณรวม (วันบรรจุเรียนเชิญเจ้าภาพขึ้นบรรจุเองเพื่อเป็นเกียรติและเป็นศิริมงคลแด่ตัวท่านเอง)

๒. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๑ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง เจ้าภาพ อุทิศบุญให้แก่คุณพ่อเผียน นัคราเรือง

๓. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๒ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง เจ้าภาพ อุทิศบุญให้แก่คุณแม่สมบูรณ์ นัคราเรือง

๔. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๓ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง เจ้าภาพ อุทิศบุญให้แก่นางพจนา นัคราเรือง

๕. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๔ = นางวัลลภา นัคราเรือง,นายสุธน นัคราเรือง,
นายยศกร นัคราเรือง เจ้าภาพร่วม เพื่อชำระหนี้สงฆ์และอุทิศบุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวร
.............................................................................................
หากทางสำนักสงฆ์ฯพร้อมสร้าง กระผมก็พร้อมที่จะโอนเงินรวมทั้งสิ้นจำนวน 80,000.-บาท (เงินแปดหมื่นบาทถ้วน) ครับ

ขอแบ่งบุญนี้ให้แก่ทุก ๆ ท่านที่ได้ร่วมอนุโมทนาสาธุการ

และขอฝากบุญนี้ไว้กับพระยายมราชด้วยนะครับ หากกระผมยังมีชีวิตอยู่ในชาติปัจจุนี้ขอให้เป็นผู้ที่มี สมบัติจักรพรรดิ์ตักไม่พร่องตลอดจนสิ้นอายุขัย และหากสิ้นชีพในชาตินี้ ขออานิสงส์ผลบุญได้โปรดนำพากระผมไปสู่

" นิพพานัง ปรมัง สุขขัง " ด้วยเทอญ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->




<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>




</FIELDSET>
โมทนาสาธุกับคุณพี่ด้วยครับ ขอให้เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานในชาติปัจจุบัน ของคุณพี่ครับ สาธุ

เป็นอันว่าเจดีย์รายทั้ง ๔ องค์ ของจุฬามณี มีเจ้าภาพเรียบร้อยแล้ว
เพราะฉะนั้นให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ จะได้บอกบุญเจ้าภาพองค์กลางต่อไป สาธุครับ
ปลายเดือนนี้จะได้ขัดคานบนและเริ่มสร้างพระเจดีย์ต่อไป
สาธุ




</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

​

ท้าวความเดิมขณะนี้ช่องเพดานบนวิหารได้เจ้าภาพครบทั้ง ๙ ช่องเรียบร้อยแล้ว จึงขอบอกบุญในส่วนของการสร้างพระเจดีย์ ๕ องค์ ต่อครับ เรียนเชิญเป็นเจ้าภาพสร้างพระเจดีย์จุฬามณีเป็นขั้นตอนสุดท้ายจึงสำเร็จในการสร้างวิหารแก้วพระจุฬามณีปฏิบัติธรรมหลังจากนี้ก็เก็บรายละเอียดต่าง ๆ ของวิหาร ​

ผู้ที่เป็นเจ้าภาพทางสำนักสงฆ์จะจารึกชื่อติดไว้ที่วิหารแก้วเช่นเดียวกับเจ้าภาพสร้างคานหลักและพื้นช่องเพดานด้านบนวิหาร (หรือจองเป็นคณะก็ได้ชื่อจะจารึกให้ทุกท่าน) ​

หมายเหตุ ท่านที่เป็นเจ้าภาพช่วยกรุณาโพส ชื่อ - นามสกุล สถานที่ ลงในกระทู้ หรือส่งชื่อมาทาง PM ทางสำนักสงฆ์จะได้มอบใบอนุโมทนาบัตรและวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกส่งกลับให้กับเจ้าภาพต่อไป​

รายละเอียดของเจดีย์​

๑.เจดีย์องกลางเป็นเจดีย์เอก ความกว้างของฐานเจดีย์ทรงระฆังคว่ำจากด้านซ้ายของเจดีย์ผ่านจุดกึ่งกลางไปทางด้านขวา ความกว้างประมาณ ๒ เมตร/ ครึ่ง - ความสูงถึงปลายยอดบัว ประมาณ ๕ เมตร องค์ละ ๑๕,๐๐๐๐.-บาท บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม (วันบรรจุเรียนเชิญเจ้าภาพขึ้นบรรจุเองเพื่อเป็นเกียรติและเป็นศิริมงคลแด่ท่านเอง)​

๒.เจดีย์รายทัั้ง ๔ องค์ ความกว้างของฐานเจดีย์ประมาณ ครึ่งเมตร - ความสูงประมาณ ๑ เมตร องค์ละ ๒๐,๐๐๐.-บาท บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จกกุสันโธ และสมเด็จองค์ปัจจุบันวรรณรวม (วันบรรจุเรียนเชิญเจ้าภาพขึ้นบรรจุเองเพื่อเป็นเกียรติและเป็นศิริมงคลแด่ตัวท่านเอง) มีเจ้าภาพแล้วครับ​

ประกอบด้วย​

๑. พระเจดีย์องค์ใหญ่ ตรงกลางวิหาร = ยังไม่มีเจ้าภาพหลัก ​

๑.๑ นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง และครอบครัว 15,000.-บาท (เจ้าภาพร่วม)
๑.๒ จ.อ.อนุวัฒน์ ดวงพัตรา (เจ้าภาพร่วม) ​

๑.๓ ........... .................................
๑.๔ ............................................

๑.๕ ............................................
๑.๖ ............................................
๑.๗ ...........................................
๑.๘ ............................................
๑.๙ ............................................
๑.๑๐ ..........................................​

๒. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๑ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง เจ้าภาพ อุทิศบุญให้แก่คุณพ่อเผียน นัคราเรือง​

๓. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๒ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง เจ้าภาพ อุทิศบุญให้แก่คุณแม่สมบูรณ์ นัคราเรือง​

๔. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๓ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง เจ้าภาพ อุทิศบุญให้แก่นางพจนา นัคราเรือง​

๕. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๔ = นางวัลลภา นัคราเรือง,นายสุธน นัคราเรือง,
นายยศกร นัคราเรือง เจ้าภาพร่วม เพื่อชำระหนี้สงฆ์และอุทิศบุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวร​

ร่วมทำบุญได้ที่บัญชี ​

บัญชี ชื่อ สมทบทุนสร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ออมทรัพย์
สาขาร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช<O</O
บัญชีเลขที่ ๙๑๕ – ๒ -๘๕๖๑๒ – ๒​

หรือ​

บัญชีเลขที่ ๔๔๘ – ๐ - ๒๙๔๐๘ – ๓
บัญชีชื่อ พระมานะอินทปัญโญ (มานะ สมตัว)<O</O
ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด ออมทรัพย์<O</O
สาขาร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ​

สำนักปฏิบัติธรรม โทร. ๐๘๓ – ๖๓๔๔๕๑๓ <O></O>
ฝ่ายประสานงาน โทร. ๐๘๙ – ๗๔๘๙๔๔๖ ​

...........................................................

รวมรายชื่อเจ้าภาพทำบุญสร้างคานหลักพระจุฬามณีปฏิบัติธรรม (ครบจารึกชื่อให้กับทุกท่านครับ)
1. อาจารย์ธฏษธรรมช์ ลาโสภา พร้อมครอบครัว 5,000 บาท
2. อาจารย์วีระชัย อุ่นสากล พร้อมครอบครัว 5,000 บาท
3. อาจารย์อรภัทร สิทธิรักษ์ พร้อมครอบครัว 5,000 บาท
4. นางสาวพิทย์พันธ์ สิทธิรักษ์ พร้อมครอบครัว 5,000 บาท
5. นางสาวชื่นชนนี อุ้ยนอง พร้อมครอบครัว 5,000 บาท
6. นางสุดกมล ลาโสภา พร้อมครอบครัว 5,000 บาท
7. อาจารย์ศรีวรรณ ศรีใสและอาจารย์สันติ ขำตรีพร้อมครอบครัว 5,000 บาท
8. นางศุษมา อุ้ยนองพร้อมครอบครัว ร่วมทำบุญ 5,000 บาท
9.คุณตฤณ ปาลีเรียมและอาจารย์กานต์พิชชา อินไชย 5,000.-บาท
10.เด็กชายณภัทร ดวงพัตรา พร้อมบิดา,มารดา 5,000.-บาท
11.นายจรุงธรรม ขันตี พร้อมครอบครัว 5,000.-บาท
12.อาจารย์วีระชัย อุ่นสากล พร้อมครอบครัว 30,000 บาท (ร่วมสร้างทั้งหมดทั้งมวลครับ)
13.คุณดวงพร จีนนุกูล พร้อมครอบครัว 30,000.-บาท

รวมรายชื่อเจ้าภาพทำบุญสร้างช่องเพด้านส่วนบนวิหารพระจุฬามณีปฏิบัติธรรม (ครบจารึกชื่อให้กับทุกท่านครับ)

- ช่องที่ ๑ ส่วนที่เป็นฐานเจดีย์ = มีเจ้าภาพแล้ว
- ช่องที่ ๒ ด้านบนตรงสมเด็จองค์ปฐม = คุณ สิทธิโชค เจริญรูป 10,000 บาท
- ช่องที่ ๓ ในสุดด้านซ้ายมือ = คุณชัยยันต์ พัฒนกิจและคณะ 18,410 บาท
- ช่องที่ ๔ ในสุด้านขวามือ = อาจารย์ วีรพงค์ เธียรสงค์ 30,000 บาท
- ช่องที่ ๕ แถวกลางด้านซ้ายมือ =นายสมหมาย เลี้ยวสกุลและคณะ 10,000 บาท
- ช่องที่ ๖ แถวกลางดานขวามือ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรืองและครอบครัวเพื่อชำระหนี้สงฆ์และเจ้ากรรมนายเวร 10,000 บาท
- ช่องที่ ๗ แถวหน้าด้านซ้ายมือสุด = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง อุทิศบุญให้แก่ คุณแม่สมบูรณ์ นัคราเรือง 10,000 บาท
- ช่องที่ ๘ แถ้วหน้าช่องกลาง = อาจารย์ธฏษธรรม ลาโสภาและคณะ 20,000 บาท
- ช่องที่ ๙ แถวหน้าด้านขาวมือสุด = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง อุทิศบุญให้แก่ คุณพ่อเผียน นัคราเรือง 10,000​

 

อานิสงส์การสร้างเจดีย์... ( โดยย่อ )

การสร้างเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรือ อัฐิธาตุของบุคคลที่ควรบูชา
ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ และพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นการสร้างมงคลให้กับตนเองอย่างสูงสุด เมื่อตายไปย่อมไปสู่สุคติโลกสวรรค์ย่อมได้ดวงตาเห็นธ รรม และบรรลุมรรคผลนิพพานโดยง่าย การมีส่วนร่วมสร้างพระเจดีย์จะมากหรือน้อย ถ้าทำด้วยความเลื่อมใส ก็ย่อมได้อานิสงส์มากมาย ดังตัวอย่างที่หยิบยกมาให้ท่านได้อ่านต่อไปนี้

พระเถระรูปนี้ในชาติก่อนมีส่วนร่วมสร้างเจดีย์ เพียงท่านใส่ก้อนปูนขาวลงใน
ช่องแผ่นอิฐ ซื่งประชาชนกำลังก่ออิฐสร้างเจดีย์อยู่ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ด้วยจิตใจที่เลื่อมใส อำนาจแห่งบุญนั้นได้บันดาลให้ท่านไปเกิดในสวรรค์ และโลกมนุษย์ถึง ๙๔ กัปป์ พอมาถึงสมัยพระพุทธเจ้าสมณโคดม ท่านได้มาบวชในพระพุทธศาสนาท่านคือ พระสุธาบิณฑิยเถระ

และยังมีเรื่องเล่าจาก พระมหาโมคคัลลานะเถระ ว่าท่านได้พบเทพบุตรตนหนึ่ง
มีวิมานสวยงามวิจิตรตระการตา แวดล้อมด้วยนางฟ้าจำนวนมาก มาฟ้อนรำขับร้องให้เบิกบานใจ และเทพบุตรตนนี้มีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือเทพบุตรทั้งปวง ท่านจึงถาเทพบุตรตนนั้นว่า เมื่อท่านเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้หรือ ท่านถึงมีอานุภาพมากมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่า งนี้ เทพบุตรตนนั้นตอบว่า แต่ก่อนเมื่อเป็นมนุษย์ได้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้ออกบวชอยู่ ๗ พรรษา และเป็นสาวกของพระศาสดานามว่า สุเมธ

ต่อมาได้ดับขันธปรินิพพานแล้ว พระบรมสารีริกธาตุของท่านบรรจุไว้ในรัตนเจดีย์ซึ่งห่ อหุ้มด้วยข่ายทองคำ ท่านได้ชักชวนประชาชนให้ไปสักการบูชาด้วยความเลื่อมใ ส กุศลจะส่งผลให้ขึ้นสวรรค์ ด้วยบุญนี้เองทำให้ข้าพเจ้าได้มาเสวยสุขอยู่ในทิพย์ว ิมานนี้เอง

ส่วนพระมหากัสสปะเถระนั้น ท่านได้พบเปรตตนหนึ่งมีกลิ่นเหม็นเน่า มีหนอนกินปาก นอกจากนี้ยังถูกยมบาลเฉือนปาก แล้วลาดน้ำให้แสบร้อน จึงถามถึงผลกรรมของเปรตนั้น ทราบว่าแต่ก่อนตอนเป็นมนุษย์ ตนเป็นชาวนครราชคฤห์ได้ห้ามมิให้บุตร ภรรยา บูชาพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมกับเล่าถึงพวกที่มีความคิดและกระทำเหมือนตน ส่วนภรรยา และบุตรของตนได้ไปเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ มีวิมานสวยสดงดงาม เพราอานิสงส์ที่ได้ไปใหว้พระบรมสารีริกธาตุ สำหรับตนเองนั้นตั้งใจไว้ว่า หากได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง จะทำการบูชาพระสถูปเจดีย์ให้มากอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ในครั้งพุทธกาล พระเจ้าปัสเสนทิโกศล ได้เสด็จไปยังเมืองสาวัตถี
พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพารเป็นอันมาก ครั้นถึงหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำ พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นทรายขาวผ่องบริสุทธิ์ยิ่งนั ก ทรงมีพระทัยเลื่อมใสอย่างแรงกล้า ได้รับสั่งให้ช่วยกันก่อกองทรายให้เป็นรูปเจดีย์ถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ มองดูเป็นทิวแถวสวยงาม เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เสร็จแล้วได้เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้าที่บุบผารามมหาวิ หาร แล้วได้ทูลถามถึงอานิสงส์ แห่งการก่อเจดีย์ทรายพระพุทธเจ้าตรัสว่า ขอถวายพระพรมหาบพิตร ผู้มีศรัทธาแรงกล้าได้ก่อเจดีย์ทรายถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ หรือแม้แต่องค์เดียว ก็ย่อมได้รับอานิสงส์มาก จะไม่ตกนรกตลอดร้อยชาติ

ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ จะอุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง มีชื่อเสียงเกียรติยศไปทั่วทุกทิศ จากนั้นจะได้ไปสวรรค์เวยทิพย์สมบัติ การก่อเจดีย์ทรายเป็นเรื่องของผู้มีความฉลาด มีความคิดดี ได้ทำเป็นประเพณีมาแล้วในอดีต แม้พระตถาคตเองก็เคยทำมาแล้วในครั้งเป็นพระโพธิ์สัตว ์

ในครั้งนั้นตถาคตยากจนมาก มีอาชีพตัดฟืนขาย วันหนึ่งได้พบทรายขาวสะอาดมากในราวป่า ก็มีจิตใจศรัทธาผ่องใส วันนั้นได้หยุดตัดฟืนทั้งวัน ได้กวาดทรายก่อเป็นเจดีย์โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยา ก แล้วเปลื้องผ้าห่มของตน ฉีกทำเป็นธงประดับไว้ เพื่อบูชาพระติสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วอฐิษฐานจิตขอให้เป็นปัจจัยแห่งพระโพธิ์ญาณในอนาค ตกาล ครั้นเมื่อตายไปแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อย ู่ ๒ พันปีพิพย์ เมื่อสิ้นอายุขัย ได้อุบัติมาเกิดเป็นพระตถาคตนี้เอง สำหรับพระเจ้าปัสเสนทิโกศลนั้น ก็ได้รับพยากรณ์ว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้า

และพระมหากัสสปเถระ ยังได้กล่าวถึงประวัติและผลบุญแห่งการสร้างพุทธเจดีย ์
ของท่านไว้ดังนี้ ในครั้งที่พระพุทธเจ้ามีนามว่าปทุมมุตตระ พระองค์ได้ปรินิพพานแล้ว

พระมหากัสสปเถระได้ชักชวนหมู่ญาติมิตร และประชาชน ให้มาร่วมกันสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้ากันเถิด ทุกคนมีจิตเลื่อมใส ปิติอิ่มเอมใจ จึงได้ช่วยกันสร้างเจดีย์สูงค่าเสร็จลงด้วยความเรียบ ร้อย เจดีย์สูงร้อยศอก สร้างปราสาทห้าร้อยศอก สูงตระหง่านจรดท้องฟ้า ทุกคนมีจิตปิติเบิกบานในอานิสงส์บุญที่ได้พากันทำไว้ เมื่อท่านตายไปแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อยู่บนยานทิพย์เทียมด้วยม้าสินธพพันตัว วิมานของท่านสูงตระหง่านเจ็ดชั้น มีปราสาทหนึ่งพันองค์ ซึ่งสร้างด้วยทองคำ ศาลาหน้ามุขสร้างด้วยแก้วมณี ส่องแสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วสารทิศ ทั้งยังมีอำนาจเหนือเทวดาทั้งปวง เมื่อลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ในกัปป์ที่หกหมื่นในภัทรกัปป์นี้ ได้เป็น

พระเจ้าจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ ครอบครองอานาเขตไปถึง ๔ ทวีป มีแก้วแหวนเงินทองมากมาย ประชาชนมีความสุขสำราญเหมือนดั่งเมืองบนสวรรค์ชั้นดา วดึงส์ และชาติสุดท้ายได้มาเกิดในสกุลพราหมณ์ที่ร่ำรวย แต่สละทรัพย์ออกบวช จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ผู้เลิศด้วยปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖<!-- google_ad_section_end -->
__________________
คัดลอกจาก www.wattiabsilaram.net/upload/showthread.php?t=3652]<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

พรุ่งนี้วันที่ 18 มิถุนายน 2553 เมื่อผมโอนเงินจำนวน 80,000.-บาท (เงินแปดหมื่นบาท) เข้าบัญชีเรียบร้อยแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะครับ​

 

<TABLE class=tborder id=post3432980 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุยโส<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3432980", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Apr 2010
ข้อความ: 52
Groans: 2
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 3,498
ได้รับอนุโมทนา 305 ครั้ง ใน 50 โพส
พลังการให้คะแนน: 24




</TD><TD class=alt1 id=td_post_3432980 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->พรุ่งนี้วันที่ 18 มิถุนายน 2553 เมื่อผมโอนเงินจำนวน 80,000.-บาท (เงินแปดหมื่นบาท) เข้าบัญชีเรียบร้อยแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะครับ
<!-- google_ad_section_end -->


<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>


</FIELDSET>
โมทนาสาธุกับคุณพี่ครับ
พรุ่งนี้ 18 - 20 มิ.ย.53 เดินทางไปทำบุญพระชำระหนี้สงฆ์ที่ วัดหนองหญ้าปล้องกับหลวงพี่โนรี, และทำบุญงานสืบชะตาหลวงพี่เล็กวัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี ลูกศิษย์ของหลวงพ่อครับ มาร่วมโมทนาสาธุกันนะครับ และร่วมถวายพระบรมสารีริกธาตุและถวายสังฆทาน ๑๐๐ กว่าชุด กับคณะอาจารย์คณะนันท์ กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติครับ


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วันนี้ 17 มิถุนายน พ.ศ.2553 ได้รับข่าวดีจากหลวงพี่มานะ
อาจารย์วิกรม ฉันทรางกูรและคณะ เป็นเจ้าภาพสร้างเจดีย์หลักองค์ใหญ่เรียบร้อยแล้วครับ
เรื่องวัสุด ไม่วาอิฐ หิน ทราย เหล็กในการสร้างเจดีย์ ผมได้ประสานข้อมูลจากหลวงพี่และช่างเรียบร้อยแล้ว ช่างจะได้ดำเนินการถอดแบบและใช้ไม้ค้ำยันส่วนรอบของการสร้างพระเจดีย์ต่อไป
ขอมหาโมทนากับทุกท่าน ทุกดวงจิต ที่เป็นต้นบุญ ที่เร่งรัดการสร้างบารมี แต่ละท่านบารมีเต็มกันทั้งนั้นกำลังใจเต็มร้อยที่จะช่วยพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป ขอให้เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานในชาติปัจจุบันทุกดวงจิตเทอญ
ในครั้งนี้ผมขออาราธนาบารมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน ช่วยโปรดสงเคราะห์ให้ทุกท่านเข้าพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้แบบฉัพพลันอัศจรรย์ใจด้วยเถิดพระเจ้าข้า สาธุครับ
ดูแล้วทุกท่านบารมีเต็ม (กำลังใจเต็ม) กันทั้งนั้น แต่ละท่านรักษาปฏิปทาของหลวงพ่อไว้อย่างเคร่งครัด เป็นการเร่งรัดบารมีของทุกท่านตามที่หลวงพ่อท่านได้กล่าวไว้
ผมขอโมทนาสาธุกับทุกดวงจิตครับ

​

ท้าวความเดิมขณะนี้ช่องเพดานบนวิหารได้เจ้าภาพครบทั้ง ๙ ช่องเรียบร้อยแล้ว จึงขอบอกบุญในส่วนของการสร้างพระเจดีย์ ๕ องค์ ต่อครับ เรียนเชิญเป็นเจ้าภาพสร้างพระเจดีย์จุฬามณีเป็นขั้นตอนสุดท้ายจึงสำเร็จในการสร้างวิหารแก้วพระจุฬามณีปฏิบัติธรรมหลังจากนี้ก็เก็บรายละเอียดต่าง ๆ ของวิหาร ​

ผู้ที่เป็นเจ้าภาพทางสำนักสงฆ์จะจารึกชื่อติดไว้ที่วิหารแก้วเช่นเดียวกับเจ้าภาพสร้างคานหลักและพื้นช่องเพดานด้านบนวิหาร (หรือจองเป็นคณะก็ได้ชื่อจะจารึกให้ทุกท่าน) ​

หมายเหตุ ท่านที่เป็นเจ้าภาพช่วยกรุณาโพส ชื่อ - นามสกุล สถานที่ ลงในกระทู้ หรือส่งชื่อมาทาง PM ทางสำนักสงฆ์จะได้มอบใบอนุโมทนาบัตรและวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกส่งกลับให้กับเจ้าภาพต่อไป​

รายละเอียดของเจดีย์​

๑.เจดีย์องกลางเป็นเจดีย์เอก ความกว้างของฐานเจดีย์ทรงระฆังคว่ำจากด้านซ้ายของเจดีย์ผ่านจุดกึ่งกลางไปทางด้านขวา ความกว้างประมาณ ๒ เมตร/ ครึ่ง - ความสูงถึงปลายยอดบัว ประมาณ ๕ เมตร องค์ละ ๑๕,๐๐๐๐.-บาท บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม (วันบรรจุเรียนเชิญเจ้าภาพขึ้นบรรจุเองเพื่อเป็นเกียรติและเป็นศิริมงคลแด่ท่านเอง) มีเจ้าภาพแล้วครับ​

๒.เจดีย์รายทัั้ง ๔ องค์ ความกว้างของฐานเจดีย์ประมาณ ครึ่งเมตร - ความสูงประมาณ ๑ เมตร องค์ละ ๒๐,๐๐๐.-บาท บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จกกุสันโธ และสมเด็จองค์ปัจจุบันวรรณรวม (วันบรรจุเรียนเชิญเจ้าภาพขึ้นบรรจุเองเพื่อเป็นเกียรติและเป็นศิริมงคลแด่ตัวท่านเอง) มีเจ้าภาพแล้วครับ​

รายชื่อลงในบัญชีสีทองครับ สาธุ​

รวมรายชื่อเจ้าภาพทำบุญสร้างเจดีย์พระจุฬามณีปฏิบัติธรรม 5 องค์ (ครบจารึกชื่อให้กับทุกท่านครับ)

๑. พระเจดีย์หลักองค์ใหญ่ ตรงกลางวิหาร = อาจารย์วิกรม ฉันทรางกูรและคณะ เพื่อชำระหนี้สงฆ์และอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้ง 31 ภูมิ (เจ้าภาพ)
- 53,750 บาท
- 52,000 บาท ​

๑.๑ นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง และครอบครัว 15,000.-บาท (เจ้าภาพร่วม)
๑.๒ จ.อ.อนุวัฒน์ ดวงพัตรา (เจ้าภาพร่วม)
๑.๓ อาจารย์ธรรมนูญ ง่านวิสุทธิพันธ์และครอบครัว 4,380 บาท (เจ้าภาพร่วม)

๒. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๑ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง เจ้าภาพ อุทิศบุญให้แก่คุณพ่อเผียน นัคราเรือง 20,000 บาท​

๓. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๒ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง เจ้าภาพ อุทิศบุญให้แก่คุณแม่สมบูรณ์ นัคราเรือง 20,000 บาท​

๔. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๓ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง เจ้าภาพ อุทิศบุญให้แก่นางพจนา นัคราเรือง 20,000 บาท​

๕. พระเจดีย์รายองค์เล็ก องค์ที่ ๔ = นางวัลลภา นัคราเรือง,นายสุธน นัคราเรือง,
นายยศกร นัคราเรือง เจ้าภาพร่วม เพื่อชำระหนี้สงฆ์และอุทิศบุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวร 20,000 บาท​

................................................................................................

รวมรายชื่อเจ้าภาพทำบุญสร้างคานหลักพระจุฬามณีปฏิบัติธรรม (ครบจารึกชื่อให้กับทุกท่านครับ)
1. อาจารย์ธฏษธรรมช์ ลาโสภา พร้อมครอบครัว 5,000 บาท
2. อาจารย์วีระชัย อุ่นสากล พร้อมครอบครัว 5,000 บาท
3. อาจารย์อรภัทร สิทธิรักษ์ พร้อมครอบครัว 5,000 บาท
4. นางสาวพิทย์พันธ์ สิทธิรักษ์ พร้อมครอบครัว 5,000 บาท
5. นางสาวชื่นชนนี อุ้ยนอง พร้อมครอบครัว 5,000 บาท
6. นางสุดกมล ลาโสภา พร้อมครอบครัว 5,000 บาท
7. อาจารย์ศรีวรรณ ศรีใสและอาจารย์สันติ ขำตรีพร้อมครอบครัว 5,000 บาท
8. นางศุษมา อุ้ยนองพร้อมครอบครัว ร่วมทำบุญ 5,000 บาท
9.คุณตฤณ ปาลีเรียมและอาจารย์กานต์พิชชา อินไชย 5,000.-บาท
10.เด็กชายณภัทร ดวงพัตรา พร้อมบิดา,มารดา 5,000.-บาท
11.นายจรุงธรรม ขันตี พร้อมครอบครัว 5,000.-บาท
12.อาจารย์วีระชัย อุ่นสากล พร้อมครอบครัว 30,000 บาท (ร่วมสร้างทั้งหมดทั้งมวลครับ)
13.คุณดวงพร จีนนุกูล พร้อมครอบครัว 30,000.-บาท
......................................................................................

รวมรายชื่อเจ้าภาพทำบุญสร้างช่องเพด้านส่วนบนวิหารพระจุฬามณีปฏิบัติธรรม (ครบจารึกชื่อให้กับทุกท่านครับ)
- ช่องที่ ๑ ส่วนที่เป็นฐานเจดีย์ = มีเจ้าภาพแล้ว

- ช่องที่ ๒ ด้านบนตรงสมเด็จองค์ปฐม = คุณ สิทธิโชค เจริญรูป 10,000 บาท
- ช่องที่ ๓ ในสุดด้านซ้ายมือ = คุณชัยยันต์ พัฒนกิจและคณะ 18,410 บาท
- ช่องที่ ๔ ในสุด้านขวามือ = อาจารย์ วีรพงค์ เธียรสงค์ 30,000 บาท
- ช่องที่ ๕ แถวกลางด้านซ้ายมือ =นายสมหมาย เลี้ยวสกุลและคณะ 10,000 บาท
- ช่องที่ ๖ แถวกลางดานขวามือ = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรืองและครอบครัวเพื่อชำระหนี้สงฆ์และเจ้ากรรมนายเวร 10,000 บาท
- ช่องที่ ๗ แถวหน้าด้านซ้ายมือสุด = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง อุทิศบุญให้แก่ คุณแม่สมบูรณ์ นัคราเรือง 10,000 บาท
- ช่องที่ ๘ แถ้วหน้าช่องกลาง = อาจารย์ธฏษธรรม ลาโสภาและคณะ 20,000 บาท
- ช่องที่ ๙ แถวหน้าด้านขาวมือสุด = นายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง อุทิศบุญให้แก่ คุณพ่อเผียน นัคราเรือง 10,000 บาท
........................................................................................................................................................​

ร่วมทำบุญได้ที่บัญชี ​

บัญชี ชื่อ สมทบทุนสร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ออมทรัพย์
สาขาร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช<O</O
บัญชีเลขที่ ๙๑๕ – ๒ -๘๕๖๑๒ – ๒​

หรือ​

บัญชีเลขที่ ๔๔๘ – ๐ - ๒๙๔๐๘ – ๓
บัญชีชื่อ พระมานะอินทปัญโญ (มานะ สมตัว)<O</O
ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด ออมทรัพย์<O</O
สาขาร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ​

สำนักปฏิบัติธรรม โทร. ๐๘๓ – ๖๓๔๔๕๑๓ <O></O>
ฝ่ายประสานงาน โทร. ๐๘๙ – ๗๔๘๙๔๔๖ ​

<!-- google_ad_section_end -->

 

กระผมนายเกรียงศักดิ์ นัคราเรือง ขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์วิกรม ฉันทรางกูรและคณะ เป็นเจ้าภาพสร้างเจดีย์หลักองค์ใหญ่เรียบร้อยแล้วครับ แหม..!!! เหมือนพระมาโปรดให้ทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดีเลยนะครับคุณ ANUWART สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนามิ