ขอถามครับ? ขอวิธีฝึกกังฟู

ครับ

 

ท่าน wuttichai0329 ลองฝึก กระบี่ หกชีพจร ของวัดเทียนหลงหรือยังครับ

 

เขาฝึกยังไงรึท่าน โปรดสอนด้วยครับ จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

 

เป็นคำกลอนครับลองอ่านดูครับ
รู้อะไรให้กระจ่างแต่อย่างเดียว
แต่ให้เชื่ยวชาญเถิดจะเกิดผล
วิชาดรรชนีแท้จริงสำคัญที่ใจ
ผู้ที่บรรลุขั้นนี้ได้จะไร้ผู้ต่อต้าน

 

เป็นข้อคิดครับ
คนเห็นแก่ตัว มักแล้งน้ำใจ
คนเย่อหยิ่ง มักดูถูกผู้อื่น

 

สิ่งที่น่ารักที่สุดในโลกคือ....สตรี
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดยังคงเป็น...สตรี
ผู้ใดสามารถเดาลวดลายนางได้?

 

ข้อคิดครับ
ทะเลทุกข์ ไร้ขอบเขต
เพียงกลับใจ จะพบฟากฝั่ง
-----------------------
โอ้...สัจธรรม รวบรัดถึงปานนี้ ?

 

ท่านนิวรณ์ครับ ผมกำหนดรู้ ปลายนิ้วมือทั้งห้า ทำไมเหมือนกับว่า ปลายนิ้วมันแข็ง ๆ ยังไง ครับ มันผิดรึยังไงครับ

 

ก็ดีนี่ อาจจะถนัดทางหมัดเหล็ก คิ้วเชอยิ่ม ก็ได้

ฝึกไปแบบนั้นแหละ แต่ต้องไม่ไปเพ่งจ้องที่ปลายนิ้ว เพื่อดูมันแข็งนะ

อย่าให้ใจ หรือ สายตา หรือ ความรู้สึกวิ่งไปรอดูที่จุดใดๆ จุดเดียว ให้
ดูห่างๆ รู้เท่าที่รู้ ไม่ประคองการรู้ หรือ ไปทำการรู้ให้มันชัด เพราะจิต
ที่ตั้งมั่นที่ฐานของใจ ไม่วิ่งออกไป จะเอาไว้ปล่อยรู้ปล่อยหมัดนับหมื่นได้

ลองสังเกตดูละกัน หากประครองรู้ หรือ จิตถลำเข้าไปจดจ่อการรู้ที่จุด
ปลายนิ้วแข็งๆ เราจะไม่เห็นอะไรอย่างอื่นเลย จะทำให้รู้ได้แค่จุดนั้นจุด
เดียว ซึ่งจะไม่ถูก และที่ถลำลงไปรู้จุดเดียวสังเกตให้ดี จะมีความใจร้อน
อยากรู้อยากเห็น อยากเป็นเร็ว เข้ามาแทรก เข้ามาผลักดันใจให้พุ่งออกไป
ตัวนี้แหละปัญหา

แต่ถ้าเราตั้งจิตระลึกไว้ตรงกลาง แส่ส่ายออกไปรู้ตามนิ้วมือ นิ้วเท้า สรรพราง
กาย เหมือนมีอะไรไหลไปไหลมา ให้ระลึกรู้ว่ามันเกิด แต่อย่าให้ถลำวิ่งตามไป
จิตจะกลับมาเข้าฐาน จิตที่อยู่ที่ฐานจะมีกำลังที่สุด จิตที่แส่ส่ายไปรู้อันนั้นโดน
พลังมารมันหลอกให้เห็น [ นี่ถ้าฝึกวิ่งหาบน้ำขึ้นเขา ฝึกท่าม้าด้วย จะทำให้
เห็นฐานของใจง่ายขึ้น แต่เท่าที่ทำได้ตอนนี้ ก็น่าจะพอมองเห็นแล้ว ให้ชำเลือง
เห็นฐานใจนะ ฐานใจนี่หากเพ่งเข้าไปจะปวดหัว ก็อย่าเผลอไปจ้องเข้า ]

ฝึกเรื่อยๆ ฝึกเนืองๆ ก็จะทำให้เห็นธาตุ 4 เป็นที่มาของผัสสะสัมผัสเหล่านั้น

แข็งๆ คือ ธาตุดิน
ผลักดันพุ่ง คือ ธาตุลม
หลอมรวมกลุ่มก้อนไหลไปมา คือ ธาตุน้ำ
ร้อนเย็น คือ ธาตุไฟ

พอเห็นธาตุ4 ได้ โดยใจตั้งมั่นรู้อยู่ตรงกลาง จะทำให้สติปัญญาแก่กล้า

ผู้มีปัญญาแก่กล้า ย่อมสยบมารทั้งปวงได้


* * * *

อนุโมทนา

 

อ้อ ลืมไป ฝึกไปเรื่อยๆ แล้วหากมั่นใจว่า เจอฐานใจแล้ว กลับมาบอกด้วยนะ

จะให้ข้อสอบไปทดสอบดู ว่าที่เจอนั้นใช่หรือไม่ ?

 

มีสติมากขึ้นครับ สำหรับผมบอกตามตรงฝึกแนวนี้ จะได้ผลดีกว่าจับกรรมฐาน 40 กอง ครับ มันถูกจริตครับ

 

ยังไม่มั่นใจว่าเจอฐานใจนะครับ

 

อย่าไปจ้องหา ควานหา ให้รู้ทันใจที่พยายามจะหา

พอรู้ทันใจที่พยายามจะหา(ซึ่งเป็นนิวรณ์) จะเริ่ม ชำเลืองเป็น

พอชำเลืองเป็น จิตจะไม่วิ่งไปที่ปลายนิ้ว ปลายหมัด

ให้ทดสอบโดยการปล่อยหมัด ปล่อยนิ้วกางออกไป แล้วตอนเกิด
ความรู้สึกสุดปลายหมัดปลายนิ้ว จิตวิ่งไปดูเต็มๆ แบบออกไป
จากใจหรือเปล่า

หากจิตไม่เห็นอาการวิ่งออกไปจากใจ แต่เห็นอาการ มืดสลัดสุด ปลาย
นิ้วมันแข็งหรือซ่านๆชัดอยู่ แปลว่า ส่งจิตออกไปเห็นแรงเกินไป

ลองปรับการขยับ การปล่อยหมัด การขยับแขนขึ้นลง ช้าลง แล้วดูความรู้สึก
ที่ปลายนิ้วปลายหมัด ว่าเห็นแบบวิ่งออกไปจากใจได้ไหม มันจะไล่ไปตาม
ระยาง จากใจออกไปสู่ปลายระยาง แต่แบบนี้ก็ยังไม่ดีนะ แค่ให้เห็นว่ามัน
วิ่งออกไป

จะให้ดี หรือ เจอใจ ก็คือ รู้สึกได้ถึงความไหว แข็ง ตึง อ่อน ร้อน เย็น ซ่าน
โดยที่ใจไม่เคลื่อนออกไป ...และรู้เท่าที่รู้ หากรู้ชัดไปหมดอันนั้นก็ไม่
ถูก เรียกว่า ตั้งกลางใจไว้แรงไป

พอเข้าใจสิ่งที่ผมอธิบายได้ ก็จะเข้าใจการ ชำเลือง

พอ ชำเลืองเป็น คราวนี้สบาย จะฝึกอะไรอย่างไรก็ประยุกต์เอา

* * * *

มาตรงนี้ขอเสริมเรื่อง การหมั่นสร้างกุศลจิต หรือ การปรับกลับมาท่าพื้นฐาน

สังเกตนะ เวลาหลวงจีน หรือ จอมยุทธ เขาฝึกอะไรได้เสร็จ บทสุดท้ายจะต้อง
ปรับเข้ามาที่ท่าพื้นฐาน

การปรับเข้ามาที่ท่าพื้นฐาน คือ การดูยินดี ยินร้าย ที่จะเกิดขึ้นหลังการปฏิบัติ
ที่ได้ผล หรือ ไม่ได้ผล

ที่เราต้องดูจิตยินดี ยินร้ายเอาไว้ เพื่อให้เราเป็นผู้ฝึกที่มีคุณธรรม มีศีลกำกับ

หากเราไม่ปรับกลับมาท่าพื้นฐาน ดูจิตยินดี ยินร้าย เราจะลิงโลด หรือไม่ก็หงุดหงิด
ซึ่งจะทำให้ มาร สบช่องเข้าครอบงำ

บูรพาจารย์ทั้งหลายท่านทำทุกอย่างมีความหมาย เราก็ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะ
มีท่าจบด้วยการปรับเข้าท่าพื้นฐานนี่ สำคัญ ต้องวางอารมณ์ให้ถูก วางถูกจะเป็น
วิมังสา จะทำให้ อิทธิบาท4 บริบูรณ์ในด้านดี

ถ้าปรับดี หยุดดี หยุดเป็น เวลาอะไรมาขัดจังหวะ จิตไม่โกรธ แถมพร้อมตอบ
สนองในด้านที่ถูกได้ด้วย

* * * *

ปล. ก็เป็นอันเดียวกันกับกรรมฐาน 40 นั่นแหละ เพียงแต่ต่างรูปแบบการพิจารณา
ขน เล็บ ฟัน หนัง ซึ่งจะไปเห็นปรมัตถ์คือ มีสติระลึกเห็นสภาวะแข็งๆ ซึ่งก็คือการ
พิจารณาเห็นธาตุดิน ...แต่ทีนี้จริตคุณต้องเคลือนไหว จึงเป็นการดูแบบรวมหลาย
ธาตุในคราวเดียว ก็ต้องฝึกเยอะหน่อย สติที่ไวขึ้นจะเป็นตัวแยกการเห็นสภาวะ
ธรรมต่างๆ รูป-นาม ออกมาอีกทีภายหลัง [ หลังจากหาใจเจอ ]

 

เอ... อยากฝึกจริงๆอ่ะ

เห็นแต่ในหนัง 8เทพอสูรมังกรฟ้า ดูแล้วผมเลยพลิกแพลง มาเป็นแบบ ของผมน่ะครับ ผมเองก็ฝึกไปเรื่อยๆ หากอยากฝึกจริงๆ ผมก็จะแนะนำในรูปแบบ 6 ชีพจร ของผมน่ะครับ

จะลองไปฝึกไหม ... แต่ไม่รู้ว่าฝึกแล้วจะไปตีกับ วิชาอื่นหรือเปล่า
ก่อนอื่นต้องถามว่า ท่านเดินลมปราณ แบบไหนมั่งคับ

 

อยากลองฝึก mma มั้ยครับ ดีมากมาย

 

ฝึกยังไงครับ

 

หมั่นชำระใจ เหมือนเช็ดกระจก ให้ใส
โอ้ ทะเล ทุกข์ กว้างใหญ่เพียงนี้ ? นี่เป็นเคล็ดวิชาฝึมือประเภทใด

 

ใช้กระบวนท่าทีหลัง บรรลุถึงก่อนสำนึกก่อเกิดกระบวนท่าสำแดง
นี่เป็นวิชาฝีมือประเภทใด ?

 

พี่ sinderking ร่ำรวย ยัง ครับ

 

ยินดี ต้อนรับ ท่านนักพรตเหมา ครับ ด้วยความยินดี