ของสะสมส่วนตัว ดูเล่นๆ เพลิน

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย visutto, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    ตะกรุดสามห่วง หลวงพ่อเต๋ คงทอง เนื้อตะกั่ว
     
  2. taatum

    taatum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +53
    สุดยอดครับพี่เชียร เป็นพี่ที่น่านับถือมากครับ มีทั้งของดีๆ ทั้งมีจิตใจดีมีความรู้เผื่อแผ่ผู้อื่น แถมยังเป็นคนดีด้วย (ไม่ได้ชมพูดจากใจครับ) วันก่อนผมไปกราบหลวงตาวาสมา ท่านให้พระเหรียญครบรอบ 92 ปี ข้าวหลามตัด โรงกษาปณ์จัดทำให้ มา 2 องค์ เจอพี่คราวหน้าผมจะมอบให้พี่ไว้ 1 องค์นะครับ ขอบคุณสำหรับพ่อท่านเขียวครับ

    สำหรับหลวงปู่โต๊ะ สงสัยท่านอยู่ไกลไปตั้งเชียงรายครับ เลยรอโอกาสหน้าดีกว่าครับ ขอบคุณพี่เชียรอีกครั้งครับ
     
  3. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    สุดยอดเบี้ยแก้อันดับ1ของเมืองไทย

    3.เบี้ยแก้วัดกลางบางแก้ว
    โบราณกาลเบี้ยใช้แทนเงินในการจับจ่าย

    และใช้ในงานมงคล เช่น หอยสังข์ เปรียบได้กับพระแม่อุมาเทวี
    ใช้ในการแก้อุบาทว์จัญไรทั้งหลาย

    มีจาร "เฑาะว์มหาอุด เฑาะว์มหาพรหม พระเจ้า๕ พระองค์
    พินทุกำกับใต้ฐานยันต์ครบสูตร และหนุนธาตุ ๔"

    ...ตามประวัติว่ากันว่าเบี้ยปู่บุญ และปู่เพิ่ม
    ท่านเสกเรียกปรอทวิ่งเข้าเบี้ย...
    โดยไม่ได้ใช้การกรอกปรอทเข้าตัวเบี้ยอย่างปัจจุบันนี้...

    เบี้ยแก้ คือ เครื่องรางชนิดหนึ่ง
    ซึ่งมีอุปเท่ห์การใช้มากมายหลายอย่าง
    ทั้งกันและแก้สิ่งชั่วร้ายเสนียด จัญไร คุณไสย
    คุณคน คุณผี บาเบื่อ ยาเมา ทั้งหลาย
    คณาจารย์ยุคเก่าที่สร้างเครื่องรางประเภทเบี้ยแก้
    เอาไว้มีด้วยกันหลายรูป แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
    เห็นจะมีอยู่เพียง ๒ รูปคือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
    และหลวงปู่รอด วัดนายโรง
    ปรอทที่ใช้ นี้เป็นปรอท หรือปรอทดินโบราณ
    มีวิธีการจับปรอทโดยนำไข่เน่าไปทิ้งไว้ในน้ำครำ
    ไม่ช้าปรอทจะกินไข่เน่าจนเต็ม
    การจะนำปรอทมาบรรจุเบี้ยแก้
    คณาจารย์ผู้สร้างจำต้องมีพระเวทเข้มขลัง
    เพราะต้องใช้พระเวทฆ่าปรอท
    ให้ปรอทรวมตัวกันอยู่ในเบี้ย
    และบริกรรมพระเวท เรียกปรอทเข้าในตัวเบี้ยได้เอง
    การปิดปากเบี้ยเพื่อกันไม่ให้ปรอทไหลออกมาได้
    นั้นนิยมเอาชันโรงใต้ดินที่ปลุกเสกแล้ว
    มาอุดใต้ท้องเบี้ยให้สนิทเรียบร้อย
    แล้วจึงหุ้มด้วยวัสดุอย่างใดอย่างหนึ่ง
    เช่น ผ้าแดง แผ่นตะกั่ว แผ่นทองแดง วัสดุที่ใช้หุ้มหรือปิดนี้ก็ต้องลงอักขระเลขยันต์
    และปลุกเสกกำกับด้วย เช่นเบี้ยแก้หลวงปู่บุญ
    จะมีลวดทองแดงขดเป็นห่วง ๓ ห่วง
    เพื่อให้ใช้เชือกคล้องคาดเอว
    คาถาเสกเบี้ยแก้ตำรับวัดกลางบางแก้ว ตั้งนะโม ๓ จบ
    แล้วว่าตั้งธาตุ
    "นะ มะ พะ ทะ (๓ จบ) จะ ภะ กะ สะ (๓ จบ)
    เสร็จแล้วภาวนาคาถา (๓ จบ) "อะสิสะติ ธนูเจวะ สัพเพเต อาวุธานิจะ ภัคคะ ภัคคาวิจุนนานิ โลมังเม นะผุสสันติ (คาถาพระเจ้าห้าอาวุธ)

    อิทธิคุณและพิธีกรรมการใช้เบี้ยแก้
    ข้ออธิบายต่อไปนี้ คัดลอกจากต้นฉบับเดิมของวัดกลางบางแก้ว
    เพื่อให้ท่านที่มีเบี้ยแก้ได้ทราบถึง อิทธิคุณและการใช้อย่างถูกต้อง
    อันจะบังเกิดผลดีแก่ผู้ใช้
    - ป้องกันอัตนิวิบาตกรรม แก้ภาพหลอน จิตหลอน ภาพอุปาทาน
    แก้อำนาจภูผีปีศาจ อาถรรพณ์เวท ทำให้มัวเมาขลาดกลัว
    ขนพองสยองเกล้า ลมเพลมพัด คุณไสย คุณผีคุณคนทั้งปวง อุบาทวเหตุ อุบาทวภัย ทั้งปวง มัวเมายาพิษยาสั่งทั้งหลาย ไข้ป่า ไข้ป้าง ไข้ผีป่า ผีโป่ง ผีปอบ
    ต้องกระทำจากภูตผี ผีพราย ผีตายโหง กองกอยวิกลจริต
    จิตวิกลวิกาล วิญญาณ อุปาทานวิกลเหมือนผีเข้าเจ้าสิงสู่ปราศจากสิ้นแล

    - ให้อธิษฐานเอาน้ำมนต์ เอาดอกพุทธรักษาดอกไม้ ดอกเข็มแดงหลากสี ตั้งขันธูปเทียน ขันห้า ข้าวตอก ดอกไม้ แก้บาทวพิษ บาทยัก อัมพาต บาดแผล ฝีมะเร็ง ฝีคุณ หัวพิษ หัวกาฬ ทรางชัก ทรางขนพอง สันนิบาตลูกหมา ลูกนก หลังแอ่น คางแข็ง บ้าหมู ภายนอกภายใน อาบกินด้วย ตั้งจิตหน่วงลง ในคุณพระศรีรัตนตรัยใช้ได้แล
    - เมื่อเข้าศึกสงครามให้เอาไว้ด้านหน้า สารพัดศัตรูบีทาย่ำยีรุกไล่ให้เอาไว้ด้านหลัง หาเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ เจ้าขุนมูลนาย ให้เอาไว้ด้านข้างขวา เมื่อหาหญิง หานางพญาไว้ข้างซ้าย สารพัดศาสตรามิต้องข้างกายเลย ดุจฝนแสนห่า ข้าวปลาอาหารเป็นพิษ คางแข็ง เคี้ยวไม่กลืนเลยแล
    - ปลิงก็ดี ทากร้ายก็ดี มีในป่ามืด ในน้ำห้วยหนอง คลองบึง มันไม่เก่าะกินเลือดทั้งวัวทั้งควาย ช้างม้า ก็ดีแล แก้งูพิษ เขี้ยวขนอน แมวเซา ฯลฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. dollyta

    dollyta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2009
    โพสต์:
    808
    ค่าพลัง:
    +297
    ผมว่าลายถักเชื่อกตระกรุดไปคนละทางกันครับ ผมไม่รู้ที่จริงๆนะครับไม่ได้มาถามเพื่อลองภูมิแต่อย่างใดครับ
     
  5. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    สุดยอดปลักขิกอันดับ1ของเมืองไทย

    4.ปลักขิกหลวงพ่อเหลือ
    โบราณเปรียบปลักขิกเป็นพระศิวะ เป็นตัวต้นกำเนิด
    ป้องกันเสนียดอุบาวท์จัญไร คุณไสยดำ

    ลายมือเหมือนภาษาจีน เป็นลายมือหลวงพ่อเหลือ
    ขนาดเล็ก 2.5 นิ้ว สภาพสวยเดิม เนื้อไม้คูณ
    ท่านโด่งดังทางด้านปลัดขิกซึ่งผู้ชายนิยมร้อยเชือกแขวนไว้ที่เอว
    และแม่ค้านิยมนำไปเป็นของขลัง เพราะเชื่อว่าจะทำให้ทำมาค้าดี
    นอกจากความโด่งดังจากเรื่องปลัดขิกแล้ว
    ยังมีเรื่องเล่าว่า....
    ท่านสามารถปลุกเสกตนเองให้ลอยทวนน้ำได้
    ชาวบ้านจึงพากันเลื่อมใสศรัทธาและเคารพบูชาท่านเป็นอันมาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2009
  6. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    สุดยอดเสืออันดับ 1 ของเมืองไทย

    5.เสือหลวงพ่อปาน
    ใต้ฐานยังเห็นยันต์กอหญ้าราง ๆ และตามตัวหลายแห่งครับ
    เสือหลวงพ่อปาน คือ สุดยอดแห่งเครื่องรางอันดับ ๑ ของประเทศ
    อายุการสร้างอย่างน้อยที่สุดเกือบร้อยปีแล้วครับ
    ด้านความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารของหลวงพ่อนั้น เป็นที่เลื่องลือกันทั่วไป
    เป็นพระอาจารย์ ที่มีญาณแก่กล้า ชื่อเสียงโด่งดังในสมัยรัชกาลที่ 5
    เครื่องรางของขลัง ของท่านเป็นที่เลื่อมใสศรัทธามากและสืบ
    เสาะหากันจนทุกวันนี้ คือ เขี้ยวเสือแกะ
    ท่านเชี่ยวชาญทางวิปัสสนาและธุดงค์อยู่เสมอ
    ด้วยคุณความดีและคุณธรรมอันสูงส่งของหลวงพ่อที่ได้ประกอบขึ้นไว้
    แต่ครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ ราษฎรในตำบลใกล้เคียง
    กระทั่งต่างอำเภอและต่างจังหวัดพากันเคารพนับถือและรำลึก
    ถึงหลวงพ่ออย่างไม่ เสื่อมคลาย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    สุดยอดหนุมาน อันดับ1 ของเมืองไทย

    6.หนุมานหลวงพ่อสุ่น
    หลวงปู่สุ่น นับเป็นสุดยอดของขลังหนึ่งในชุดเบญจภาคี
    เครื่องรางของขลังของวงการ
    หลวงพ่อสุ่นเรียนวิชาปลุกเศกหนุมาน
    จากพระนาคทัศน์ คาถากำกับหนุมานให้ว่า
    " นะบังเพลิง โมบังปากกระบอก ยะมิให้ออก อุดธังโธอุด ธังอัด อะสังวิสุโลปุสะพุภะ มะอะอุ โอมยะพุทธา ทะโยสตรี สตรี นิสังโห "
    หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน เมื่อเอ่ยนามนี้ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักโดยเฉพาะนักสะสมเครื่องรางรุ่นเก่าๆ
    หลวงพ่อสุ่นเป็นต้นตำนานการสร้างหนุมานที่ทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์
    มีอานุภาพคุ้มครองป้องกันภัย เมตตามหานิยม เเก่ผู้ที่มีครอบครอง
    ลูกศิษย์ของท่านเคยเล่าให้ฟังว่า
    การปลุกเสกหนุมานของหลวงพ่อสุ่นมีความพิสดารเป็นอย่างมาก
    คือก่อนที่ท่านจะทำการปลุกเสกหนุมาน ในตอนเช้าท่านจะให้ลูกศิษย์
    ไปตัดต้นไม้ที่มีหนามมาไว้มากๆ
    ส่วนมากจะเป็นต้นไผ่ ต้นพุทรา ต้นมะขามเทศ
    ช่วงค่ำท่านก็จะทำวัตรกับพระลูกวัดตามปกติ
    หลังจากทำวัตรเสร็จเเล้ว ท่านก็จะเข้าไปในกุฎิประมาณหนึ่งชั่วโมง
    ท่านก็จะออกมา พร้อมกับอุ้มบาตรออกมาด้วย
    เเล้วเรียกลูกศิษย์ให้อุ้มบาตรเข้าไปในโบสถ์
    (ท่านกำชับบอกลูกศิษย์ว่าห้ามเปิดบาตรเด็ดขาด
    ท่านพูดลอยๆว่า...ขี้เกียจจับ) เเล้วท่านก็จะนั่งทำวัตรอีกครั้ง
    เมื่อท่านทำวัตรเสร็จเเล้วท่านก็นั่งหันหลังให้พระประธาน
    เเล้วเอาบาตรตั้งไว้ด้านหน้า จากนั้นก็จะให้ลูกศิษย์
    นำกิ่งไม้ที่มีหนามที่เตรียมไว้ สุมไปที่ตัวท่านให้เต็มจนหาทางเข้าออกไม่ได้ จากนั้นท่านก็จะให้ลูกศิษย์ออกจากโบสถ์
    เเล้วลั่นกลอนประตูโบสถ์ปิดไว้ห้ามผู้ใดเข้าออก
    ครั้นเวลาประมาณตี 4 ท่านก็จะเรียกลูกศิษย์ให้เข้าไปในโบสถ์
    เพื่อเก็บหนุมานที่ติดอยู่กับกิ่งไม้เเละหนามที่สุมตัวท่าน
    ตัวไหนที่หล่นอยู่กับพื้นให้เเยกไว้ต่างหาก
    ท่านว่ายังใช้ไม่ได้เพราะปลุกไม่ขึ้น
    สิ่งที่คาใจในหมู่ลูกศิษย์คือหนุมานขึ้นไปติดกับกิ่งไม้เเละหนาม ได้อย่างไร
    เเละที่สำคัญท่านออกมาจากกองกิ่งไม้เเละหนามที่สุมตัวท่านได้อย่างไร
    โดยทุกอย่างอยู่ในสภาพเดิมทั้งสิ้น
    หนุมานหลวงพ่อสุ่น จะมีด้วยกันสามเนื้อ เนื้อไม้ งาช้าง เเละเขี้ยว
    ลูกศิษย์หลวงพ่อสุ่นที่เล่าเรื่องให้ฟังยังบอกอีกว่า
    การใช้หนุมานให้ได้ผลควรจะมีคาถากำกับ ให้ตั้งนะโม 3 จบ เเล้วว่า
    โอม หะนุมานะ นะอย่าทำนะ
    ท่านยังบอกอีกว่าเวลาไปไหนมาไหน ให้ภาวนาในใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    ไม้ครูอันดับ1 ของเมืองไทย

    7.ไม้ครูหลวงปู่ภู
    ตำราว่าไว้ประจุด้านเดียวเรียก ไม้พ่อครู
    ประจุสองด้านเรียก นิ้วชี้พระอิศวร..."ชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็น"


    ไม้ครูนับเครื่องรางที่สร้างยากที่สุด
    ผู้ที่สร้างได้จะต้องเป็นผู้ที่มีบุญบารมีเท่านั้น
    หลวงปู่ภูท่านเคยกล่าวให้ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดฟังว่า

    ไม่มีใครทำได้อย่างกู
    นั่นแสดงว่า ไม้ครู สร้างยากมากๆ
    วัสดุที่ใช้สร้างก็สุดแสนที่จะหายาก
    เพราะท่านต้องเดินธุดงค์เข้าไปในป่าลึก
    เพื่อไปหาไม้ไผ่ที่ถูกฟ้าผ่า
    ล้มปลายชี้ไปทางทิศตะวันออกเท่านั้นถึงจะใช้ได้
    และภายในเจ็ดวันท่านเฝ้ารอจนก่วาโขลงช้างจะผ่านมาพบ
    แล้วกระโดดข้ามก่อไผ่นั้นทั้งโขลง
    ก่อนที่ท่านจะตัดไม้ไผ่ดังกล่าว
    ท่านจะต้องทำพิธีพลีกรรมก่อน


    การพลีกรรม คือการขอของจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    เจ้าป่า เจ้าเขา รุกขเทวดา เพื่อเพิ่มความเข้มขลังให้มากยิ่งขึ้น
    เมือท่านได้ไม้ไผ่มาแล้ว ท่านจะนำมาลงอักขระ
    แล้วใช้เป็นไม้เท้ายันกายในยามที่ท่านเดินธุดงค์
    ขณะที่ท่านเดินธุดงคในป่าลึก
    เมื่อท่านได้พบศพที่ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร
    ท่านก็จะใช้ไม้เท้านั้นจิ้มศพจนกว่าจะครบเจ็ดศพ
    ตลอดระยะเวลาในการเดินธุดงค์
    ใช้เวลานานถึง 30 ปี กว่าจะหาไม้ไผ่มาทำไม้ครูได้
    จากนั้นท่านก็จะนำไม้เท้าอันนี้มาผ่าให้เป็นแผ่นเล็กๆ
    เรียกว่าตอก เตรียมใว้สำหรับลงพระนามที่ได้รับจากเบื้องบน
    ถ้าลูกศิษย์คนใดอยากได้ไม้ครู จะต้องขอท่านก่อนวันเสาร์
    และถ้าท่านตกลงทำให้ ผู้นั้นจะต้องจัดเครื่องไหว้ ดังนี้ =>>
    มีหัวหมู บายศรี มะพร้าวอ่อน และอื่นๆตามที่ท่านจะสั่ง
    ที่ขาดไม่ได้คือไม้ไผ่ที่ตัดเหลือข้อไว้หนึ่งข้อ
    หรือไม้ที่เจาะรู จะไม้ผยุง ไม้ขนุน และอีกหลายอย่าง
    เมื่อได้ของครบแล้ว ท่านก็จะทำพิธีลงพระนามในไม้ตอกที่ท่านเตรียมไว้
    การทำพิธีลงพระนาม
    หลวงปู่ท่านจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าครั้งละนานๆ บางครั้งก็ไม่นาน
    เคยมีลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดถามท่านว่า หลวงปู่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าทำไม
    ท่านตอบว่า ท่านรอพระนามจากเบื้องบน
    เมื่อใด้พระนามจากเบื้องบนมาแล้ว ท่านก็จะทำการบรรจุไม้พระนาม
    เข้าไปในไม้ที่เจาะเตรียม และอุดผงพุทธคุณที่ได้รับจากสมเด็จโต
    และอุดด้วยไม้และลงอักขระทับอีกที
    เป็นอันเสร็จพิธี นับว่าสร้างยากจริงๆครับ
    คาถาปลุก =>> "โอมปลุกปลุกลุกลุกกูจะปลุกพ่อครู นิ้วเพชรพระอิศวร กระบองยันกายท้าวเวสสุวรรณ ไม้โขลงช้างข้าม ปีศาจพ่อครู โอมปลุกมหากูจะปลุกไม้เท้าพ่อครู หลวงปู่ภูประสิทธิ์ให้กูสวาหะ"
    ประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับนิ้วเพชรพระอิศวร มีดังนี้ครับ =>>
    นนทุก เป็นยักษ์ผู้มีหน้าที่ล้างบาท เทวบริวารที่มาเฝ้าพระอิศวร ณ เขาไกรลาส ถูกเทวดาล้อเลียน ลูบศีรษะ เล่นจน ผมร่วงโล้นเกิดความแค้น
    จึงทูลขอพรจากพระอิศวร ให้มีนิ้วเพชรชี้ผู้ใดผู้นั้นก็ ดับชีพ
    นนทุกกำเริบฤทธิ์ใช้นิ้วเพชรประหารเทวดาจนแทบสิ้นสวรรค์
    ร้อนถึงพระนารายณ์ต้องแปลงองค์เป็นนางอัปสรมาล่อให้ร่ายรำตาม
    นนทุกเผลอหันนิ้วเพชรเข้าชี้ตนเอง ก่อนสิ้นชีวิตได้รู้ว่านางอัปสร
    คือพระนารายณ์ จึงตัดพ้อว่าเอาเปรียบมาหลอกด้วยอุบาย
    พระนารายณ์จึงทรงท้า ต่อให้นนทุกเกิดเป็นยักษ์สิบเศียร ยี่สิบกร
    ส่วนพระองค์เองเป็นมนุษย์สองมือ นนทุกจึงจุติไปเกิดเป็นทศกันฐ์
    ณ กรุงลงกา องค์นารายณ์เสด็จอวตารมาเป็น พระรามแห่งกรุงอโยธยา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. taatum

    taatum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +53
    รออ่านต่อครับ กำลังมันส์...คับพี่ท่าน
     
  10. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    หมากทุยอันดับ๑ ของเมืองไทย

    8.หมากทุยหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
    "หมากทุย" เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง
    ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ ผู้นิยมสะสม เครื่องรางของขลัง
    หมากทุยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มากที่สุดเห็นจะได้แก่
    หมากทุย หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
    ซึ่งท่านได้สร้างตามกรรมวิธี กล่าวคือ
    จะต้องใช้ หมากทุยตายพรายทั้งทะลาย
    (ต้นหมากที่ยืนตายและทะลายยังติดอยู่กับต้น)
    เมื่อพบ หมากทุยที่ต้องการแล้ว ก่อนขึ้นไปเก็บ
    จะต้องบริกรรมพระคาถาตามขั้นตอน ของ หลวงปู่ก่อน
    และเมื่อจะปีนต้องขึ้นต้นหมาก ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก
    เมื่อเขยิบ ไปที่หนึ่งก็ให้บริกรรมพระคาถาบทหนึ่ง
    และเมื่อขึ้นไปถึงทะลายหมากแล้ว จะต้องเพ่ง
    ไปที่ผลหมากพร้อมกับบริกรรมพระเวทย์
    แล้วจึงใช้ปากคาบเอาผลหมากมาให้ได้ตามจำนวนที่ต้องการ
    เมื่อได้หมากทุยมาแล้ว ท่านจะทำการเอาเนื้อหมากข้างในออกให้หมด
    เสร็จแล้วก็ลงอักขระเลขยันต์ ตามตำราของท่าน
    "นะปถมัง" เป็นหลักใหญ่ และประกอบด้วย หัวใจ พระรัตนตรัย คือ มะ อะ อุ และพระนามย่อพระเจ้าห้าพระองค์ คือ " นะโมพุทธยะ "
    และหัวใจมหาอุตคือ " อุดทัง อัดโธ" ลงในกระดาษสาแล้ว บรรจุลงไปในลูกหมากที่เตรียมไว้ แล้วอุดด้วยชันนางโรงใต้ดิน เมื่อปลุกเสกดีแล้ว
    จะถือเป็นเครื่องรางชั้นดี " เรียกว่า หมากทุย วัดหนัง "
    ที่นักนิยมเครื่องรางของขลัง เสาะแสวงหามาครอบครองกัน
    มีสรรพคุณเด่นชัดในด้านทางอยู่ยงคงกระพัน ชาตรี
    ชนิดที่ว่า " แมลงวันไม่กินเลือด "
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    พระขรรค์อันดับ1 ของเมืองไทย

    9.พระขรรค์หลวงพ่อโศก
    มีไว้เล่มเดียว ไปได้ทั่วโลก
    ทั้งกันของ ทั้งแก้คุณไสย ปราบผีดีเป็นเลิศ เป็นเทพศาตราวุธชนิดหนึ่งที่เป็นของสูง สร้างให้เข้มขลังตามแบบฉบับของเก่า
    ความเป็นมาของพระขรรค์ พระขรรค์ คือ อาวุธปลายแหลม คล้ายมีด แต่มีสองคม และเรียวตรงกลาง ท่านที่เคยดูลิเกหรือละครจะเคยเห็นพระขรรค์มาแล้ว พระขรรค์นี้คณาจารย์ท่าน ได้แยกแขนงมาจากมีดหมอ หรือเทพศาสตราใช้สำหรับการปราบภูติผีปีศาจ และคุ้มกันอันตราย คือแทนที่จะให้เหล็กตีเป็นใบมีดกลับใช้วัสดุอื่นมาทำเป็นพระขรรค์
    วัตถุประสงค์ในการสร้างก็ดุจเดียวกันคือ "มีดหมอ" นั่นเอง
    และพระขรรค์ที่ทำด้วยเขาควายเผือกของ หลวงพ่อโสก วัดปากคลอง
    องค์พระผู้สร้าง หลวงพ่อโสก หรือท่าน พระครูอโศก ธรรมสาร เป็นเกจิอาจารย์ที่ชาวเมืองเพชรให้ความเคารพนับถือไม่น้อยกว่าพระอาจารย์องค์อื่นท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดปากคลอง เคยออกเครื่องรางหลายอย่างเช่น คุณพระปลัด น้ำเต้ากันไฟ และอีกหลายอย่าง มีเวลาจะค้นคว้ามาเขียนให้เป็นลำดับไปสมัย เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๐ กว่านั้นทางไปวัดปากคลองแสนลำบาก ไม่สะดวกเหมือนปัจจุบัน แต่ก็มีผู้ที่ศรัทธาเดินทางไปนมัสการท่านเพื่อขอของดีกันมากมายแน่นวัด ยิ่งตอนสงครามโลกครั้งที่ ๒ ตอนญี่ปุ่นบุกไทยด้วยแล้ว ออกไม่ทันกันเลยทีเดียว ได้เคยทราบจากผู้ใกล้ชิดและมีโอกาสได้เรียนถามท่านได้ความว่า
    ท่านเดินทางไปเรียนวิชานี้มาจากสองสำนักคือ หลวงพ่อคล้าย วัดพระทรง และ หลวงพ่อแหล่ม วัดบางคลี่ สมุทรสงคราม
    กรรมวิธีการสร้างพระขรรค์
    ตามตำราของท่านกำหนดว่าเขาควายนั้นจะต้องประกอบด้วยลักษณะดังนี้
    เขาควายเผือก (ควายธรรมดาใช้ไม่ได้) ต้องตายโหง คือ ถูกยิงตาย ขวิดกันเองตาย หรือถ้าถูกฟ้าผ่าตายได้ก็ยิ่งวิเศษ เขาควายนั้น จะต้องไม่ถูกต้มมาก่อน กล่าวคือเมื่อควายตายลงก็ต้องชำแหละตัดเขาออกสดๆ ไม่ต้องรอให้แล่ควายออกเป็นส่วน ๆ แล้วจึงนำหัวมาต้มเพื่อเอาเขาออกได้ ท่านว่าใช้ไม่ได้
    แกะเป็นรูปพระขรรค์ (โดยไม่ทวนเขา) ในที่นี้หมายความว่าเวลาแกะให้ตัดออกเป็นชิ้นพอเหมาะกับการแกะ ให้จำไว้ว่าทางไหนทางโคนเขา ทางไหนทางปลายเขาให้ทำเครื่องหมายไว้ เวลาแกะให้แกะจากโคนเขาไปหาปลายเขา
    เป็นทางเดียวตลอดเวลาการแกะจนสำเร็จ ถ้าทวนแม้แต่ครั้งเดียวใช้ไม่ได้ต้องทิ้งไป
    คาถากำกับพระขรรค์มีดังนี้
    "พุทโธ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ ธัมโม ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ สังโฆ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ" และที่ได้ข้อมูลมาใหม่เป็นเกร็ดประวัติเกี่ยวกับเสือขาว ลูกศิษย์หลวงพ่อดิ่ง แขวนพระปิดตา และตะกรุดหลวงพ่อดิ่ง แต่ไม่ประพฤติตนเป็นคนดี เป็นที่ต้องการตัวของตำรวจเป็นอย่างมาก แต่ลูกปืนไม่ระคายผิวเสือขาวแต่อย่างใด ทางตำรวจจึงมาหาหลวงพ่อดิ่งผู้เป็นอาจารย์เพื่อปรึกษาหาแนวทางในการคัดของเสือขาว หลวงพ่อดิ่งท่านว่า ไม่มีอะไรคัดของของท่านได้ ยกเว้นอย่างเดียว คือ พระขรรค์ หลวงพ่อโศก ผู้เป็นสหะรรมิกของท่านเพียงรูปเดียว โดยให้ใช้ปลายพระขรรค์เขียนคาถาตามที่ท่านให้ลงที่ลูกปืน ผลสุดท้ายเสือขาวต้องจบชีวิตการเป็นโจรด้วยเหตุแห่งการล้างอาถรรพ์คัดของ โดยพระขรรค์หลวงพ่อโศก วัดปากคลองฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    10.ราหูหลวงพ่อน้อย

    10.ราหูหลวงพ่อน้อย
    เจ้าต้นตำรับ พระราหูอมจันทร์ กะลาเดียว

    ถ้าจะกล่าวถึงพระเครื่องรางที่ให้คุณในด้านของโชคลาภ การพ้นจากเคราะห์ต่างๆ และเพื่อเสริมดวงชะตาก็คงจะต้องยกให้ กับพระราหูอมจันทร์ เนื้อกะลาตาเดียว แกะของหลวงพ่อน้อยวัดศรีษะทอง จ. นครปฐม ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์เชื้อสายลาวที่มีวิชาอาคมแก่กล้ามากองค์หนึ่ง ในยุคนั้นเลยก็ว่าได้<<

    ประวัติความเป็นมาของราหูอมจันทร์
    ตามตำนานทางไสยศาสาตร์ได้กล่าวไว้ว่า
    "พระราหูนั้นเป็นยักษ์หน้าตาดุร้าย หน้ากลัว ผิวดำเป็นเงาวาวเหมือนนิล
    มีหางเป็นนาคราช และมีพญาครุฑเป็นพาหะนะรับใช้ประจำ สถิตย์พำนักอยู่ในอากาศแวดล้อมด้วยม่านสีดำ แต่เหตุที่ทำให้พระราหูมีองค์เพียงครึ่งเดียวนั้น เนื่องจากราหูต้องจักรของพระนารายณ์ตัดขาด เพราะว่าพระราหูแอบไปดื่มน้ำอมฤตในขณะที่พระราหูดื่มน้ำอมฤตอยู่นั้น พระอาทิตย์และพระจันทร์ได้มาเห็นเข้าก็เลยนำความเข้าไปฟ้องพระนารายณ์ พระนารายณ์ทรงกริ้วเป็นเหตุ
    ให้ขว้างจักรไปต้องกายพระราหูขาดครึ่ง แต่พระราหูไม่ตายเนื่องจากได้ดื่มน้ำอมฤตเข้าไปเลยเป็นอมตะนิรันดร์ พระราหูจึงมีความแค้นเคืองต่อพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่คอยเสนอหน้าไปฟ้องพระนารายณ์ จึงคอยเฝ้าจับพระอาทิตย์และพระจันทร์กินอยู่เสมอมา ถ้าเผลอเมื่อใดเป็นโดนอันหมายถึงสุริยคราสและจันทรคราสนั่นเอง เหตุของการสร้างพระราหูอมจันทร์นั้นมาจากความต้องการเป็นอมตะหรือเป็นนิรันดร์ของพระราหูที่ไม่รู้จักตายนั่นเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    ขอขอบคุณ

    กมล วิริยะตลอดกาล
    ร้านมลเชือกคาด
    ในข้อมูลและภาพ
     
  14. Thaikiller

    Thaikiller เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +1,798
    สาริกาจับปากโลง(สาริกาหลงรังเดียว)
    หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย
    ผมชอบอันนี้ที่สุดเลย
    ข้อมูลสุดยอด!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2009
  15. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
  16. Jin

    Jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,996
    ค่าพลัง:
    +3,342
    ใช้ดีมากครับ สาริกาของหลวงพ่อสนิท เคยใช้อยุ่ตัวนึงง
     
  17. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    ช่วงนี้..วัตถุมงคลของหลวงพ่อสนิท
    มาแรงที่สุด...
    1.สาริกาหลงรัง ราคา 6000-7000 Hot ที่สุด
    2.เต่าโพธิสัตว์ ราคา 1000 เล็ก ขนาดใหญ่ 5000
    3.รูปหล่อหลวงพ่อ เฉียด 10000
     
  18. Thaikiller

    Thaikiller เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +1,798
    ไม่ได้เจ้าชู้ แต่อยากมีแฟนเยอะๆ^^"
    ใครมีบ้างคับ เหอๆ
    ......ผมจะหามาครองให้ได้555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2009
  19. taatum

    taatum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +53
    หาได้ไม่ยากครับ แต่ไม่อยากหา ช่วงนี้กลับตัวกลับใจแล้วครับ

    ขอบคุณพี่เชียรมากสำหรับข้อมูลดีๆ ให้อ่านนะครับ
     
  20. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    จะนัดคุณแม็ค
    ไปบ้านพี่vptech หลังสงกรานต์
    ไปดูพระเครื่องและเครื่องรางของขลังของท่านพี่vptech
    เห็นว่า...ช่วงหลังจะมีให้ดูหลายอย่าง
     

แชร์หน้านี้

Loading...