ของสะสมส่วนตัว ดูเล่นๆ เพลิน

ขอบคุณมากครับพี่ Visutto

 

หลวงพ่อเดิม

มีดสาริกา 3 นิ้ว

 

เก่าลึกดูง่าย

มีดปากกาด้ามมะเฟือง

 

เอาของจริงของแท้ดูง่าย มาให้ชมเป็นบุญตา
ตะกรุดมงคลโสฬส
หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง
เนื้อทองแดง ขนาดยาว 3 นิ้ว
เจ้าของเปิดไว้ 120000
ได้แต่มองชะเง้อครับ

 

หลวงพ่อเดิม

ตะกรุดโทน เนื้อเงิน ขนาดประมาณ 4 นิ้ว
มีจารยันต์นอกเห็นชัดเจน ยันต์ด้านในก็มี
เอกลักษณ์ชัดเจนยันต์ประจำตัวของท่าน
ที่มาดีครับ แตกกรุชุดใหญ่
ทั้งมีดหมอ สิงห์ ตะกรุด
ชุดนี้ดูแล้ว.... กระเป๋ารั่ว
เหงื่อแตกครับ ไม่ให้แม่บ้านทราบ
ไม่งั้นจะถูกสวดให้พรชุดใหญ่

 

สวัสดีครับคุณ visutto ครับช่วยดูรัดประคด คัดเก็นมานานมากๆ เส้นที่1ภาพที่1,2 เส้นที่2ภาพที่3,4 เส้นที่3ภาพที่5,6 เส้นที่4ภาพที่ 5,6,7

 

เชือกประคด ขอออกตัวก่อนเลยครับ
ไม่สามารถชี้วัดได้ เป็นการคาดเดา
แต่ก็มาจากสมมุติฐานที่ได้ศึกษามาครับ
เส้นที่ 1 ประคดสังวาลย์ หลวงพ่อโชติ วัดตะโน
เส้นที่ 2 ประคดพระเจ้า 16 พระองค์ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกหรือหลวงพ่อเนียม
เส้นที่ 3 หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา
เส้นที่ 4 สายอยุธยาหรือลพบุรี

 

ขอบคุณมากๆครับคุณvisutto คนที่ชอบเครื่ีองรางมีมาก แต่จะหาคนที่ศึกษาแล้วจำได้มากขนาดคุณvisutto ผมว่าประเทศไทยคงมีไม่กี่คน ผมกว่าจะจับแต่ละชิ้นต้องวิ่งปึกษาคนตั้งหลายคนและใชเวลานานหลายวัน(สาเหตุเพราะโดนมามาก) แต่คุณvisuttoใช้เวลาไม่มากก็สามารถระบุได้เกินครึ่ง นับถือจริงๆ

 

เรื่องเครื่องรางอย่างไงเราก็ไม่ว่ากันครับ เพราะไม่เหมือนพระเครื่องที่ใช้เครื่องพิมพ์หรืิอปั้ม เครื่องรางมีเอกลักษณ์เฉพราะแห่งและมีน้อยชิ้น99.99%เป็นของแฮนด์เมด ผู้ที่ได้มากลับมือถ้าไม่ได้ถ่ยทอดต่อว่ามายังไง(ส่วนใหญพยายามอ้างว่ามีการ....) ก็ต้องสันนิฐานเอาว่า....ฉนั้นของที่ทำออกมามากชิ้นจะคลาดเคลื่อนน้อยและของที่มีน้อยชิ้นจะคลาดเคลื่อนมากก็เป็นเรื่องธรรมดาฉนั้นจะคลาดเคลื่อนมากหรือน้อยเราไม่ว่ากัน แต่ความเก่าและอายุส่วนใหญ่จะใกล้เคียงความจริง
คุยกันนานแล้วฝากดูอีกสองชิ้นครับ

 

ตะกรุด 16 ดอก
ส่วนใหญ่จะตีไปที่หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก และหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ
เชือกประคด น่าจะเป็นสายกาญจนบุรี

 

รบกวนคุณ visutto อีกแล้ว พอจะทราบมั้ยครับว่าแผ่นยันต์โสฬส อันนี้ใครเป็นผู้สร้าง มีอยู่อันนึงได้มานานแล้วยังคลางแคลงใจอยู่ครับ

 

พี่visutto มีรูปตะกรุดหลวงปูใจไมคับ อยากชมและขอข้อมูลใว้ในการศึกษาหน่อยน่ะคับ

 

แผ่นยันต์โสฬส วัดสะพานสูง
น่าจะเป็นหลวงพ่อทองสุข เป็นผู้สร้าง

 

ตะกรุดหลวงปู่ใจ หัวใจโลกธาตุ

หัวใจโลกธาตุ คือชื่อยันต์ อันศักดิ์สิทธิ์
อิทธิฤทธิ์ เหลือล้น ชนกล่าวขาน
ช่วยกันภัย กันคุณไสย มิแผ้วพาล
ทั่วเมืองกาญจน์ ทุกคนรู้ หลวงปู่ยิ้ม
หลวงปู่ยิ้ม จนฺทโชติ หรือ หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม ชื่อที่นิยมเรียกนามของท่านจนเป็นที่คุ้นเคยกัน หลวงปู่ยิ้ม ท่านเป็นคนเมืองกาญจน์โดยกำเนิด เกิดที่ตำบล วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๙ เป็นบุตรของนายยิ่ง นางเปี่ยม ในตระกูล ชูชันยะ หลวงปู่ยิ้ม ถือว่าเป็น อริยสงฆ์ องค์หนึ่ง ที่มีความรู้ความสามารถมาก และ เป็นผู้มั่นเรียนรู้ มั่นศึกษา จนจบวิชาอาคมหลายศาสตร์ หลายแขนงจากสำนักดัง ๆ หลายแห่ง หลวงปู่ท่านมีความปราดเปรื่อง ด้านวิชาอาคมสูงยิ่ง ท่านได้คิดค้น วิชา คาถาอาคมขึ้นไว้หลายแขนงวิชาด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านไสยศาสตร์ และวิชาแพทย์แผนโบราณ ซึ่งลูกศิษย์ของท่านมากมายได้รับการถ่ายทอดกันไป วัตถุมงคลของท่านทุกประเภทได้รับความนิยมทั้งหมด ส่วนที่ได้รับความนิยมที่สุด ก็คือ วัตถุมงคลประเภท พระปิดตา ซึ่งพระปิดตาพิมพ์ใหญ่ (นิยม) ของหลวงปู่ท่าน ยังได้รับการยอมรับ และยกย่องให้รวมอยู่ในชุดเบญจภาคี ๑ ใน ๕ ประเภทพระปิดตาเนื้อผง
หัวใจโลกธาตุ(อินธินาทะยิ) ก็คือ คาถาวิชาหนึ่งที่หลวงปู่ยิ้มท่านได้คิดค้นขึ้น มีความขลังและศักดิ์สิทธิ์มาก ซึ่งท่านได้ลงกำกับไว้ในตะกรุดที่มีขนาดเล็ก ๆ ของท่าน เช่น ตะกรุดลูกอม และตะกรุดมะขามเรียง ๗ ใบ วิชาคาถาหัวใจโลกธาตุ นั้นเป็นวิชาที่ศึกษาได้ค่อนข้างยากมาก ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่นั้นน้อยท่านนักที่เรียนจบวิชานี้ เล่ากันว่าลูกศิษย์ของท่านที่เรียนวิชาคาถาหัวใจโลกธาตุนี้จบครบสูตรแน่ ๆ เลย และเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปก็คือ พระราชมงคลวุฒาจารย์ (หลวงปู่ใจ อินฺทสุวณฺโน) วัดเสด็จ อัมพวา จ.สมุทรสาคร
กล่าวเฉพาะตะกรุดที่พระราชมงคลวุฒาจารย์ (ใจ อินฺทสุวณฺโณ) ได้สร้างไว้ มีหลายรูปแบบ ทั้ง ตะกรุดโทนยาว ตะกรุดโทนสั้น ตะกรุดมหาระงับ ตะกรุดมหาปราบ ตะกรุดลูกอมสอดไหม ตะกรุดมหารูด ตะกรุดคลอดลูก ตะกรุดแปดทิศ
กล่าวสำหรับตะกรุดลูกอมโลกธาตุ สร้างขึ้นด้วยแผ่นโลหะเนื้อเงิน มีจารอักขระเลขยันต์ และเสกกำกับด้วยหัวใจคาถาโลกธาตุ 10 ทั้งสองด้าน และที่สำคัญจะร้อยด้วยไหมถัก 4 สี เรียกกันโดยมากว่า 7 สีบ้าง, 5 สีบ้าง ให้เป็นมงคล แต่ความจริงมีเพียง 4 สีเท่านั้น โดยถือเอาสีที่อยู่ในวรรณะกสิณ หรือวรรณะ (สี) 4 คือ เขียว เหลือง แดง และขาว
พระราชมงคลวุฒาจารย์ (ใจ อินฺทสุวณฺโณ) เรียนวิชาการทำตะกรุดนี้จากหลวงปู่ยิ้ม แห่งวัดหนองบัว จังหวัดกาญจนบุรี
ซึ่งต่อมาท่านก็ได้สร้างตะกรุดลูกอม เช่นเดียวกันกับหลวงปู่ยิ้มอาจารย์ของท่านจนเป็นที่ยอมรับ และได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน
หลวงปู่ยิ้มและหลวงปู่ใจ ทั้งสองท่านถือว่าเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถมากทั้งคู่ ท่านทั้งสองถึงจะเป็นศิษย์อาจารย์กัน วัตถุมงคลที่ทั้งสองท่านได้สร้างไว้นั้นก็มีจำนวนมากมาย ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย
แต่วันนี้ผู้เขียนอยากพูดถึง ตะกรุดคาถาหัวใจโลกธาตุ ที่ทั้งอาจารย์และลูกศิษย์ ทั้งสองท่านนี้ได้สร้างกันเอาไว้ว่ามีส่วนที่เหมือนกัน และแตกต่างกันอย่างไร จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้พบมาอาจให้ความรู้สักน้อยนิดกับท่านผู้อ่านบ้าง เพื่อเป็นวิทยาทาน ในการพิจารณาวัตถุมงคลของท่าน เพราะปัจจุบันยังมีหลายท่านข้องใจ และยังสงสัยอยู่ ว่าเขาดูกันยังไง แยกไม่ออก
ผู้เขียนเคยสังเกตุวัตถุมงคลของหลาย ๆ สำนัก ที่อาจารย์กับลูกศิษย์ได้สร้างวัตถุมงคลประเภทเดียวกันนั้น ท่านจะไม่ให้เหมือนกัน ถ้าผู้ที่เป็นศิษย์จะสร้างวัตถุมงคลชิ้นหนึ่งชิ้นใดขึ้นมา มักจะต้องทำอะไรที่เป็นพิเศษ ให้แตกต่างกันกับอาจารย์ของท่าน ที่เคยสร้างไว้ก่อนแล้ว เช่น มีดหมอ หลวงพ่อเดิม ตัวมีดมักทำมาจาก โลหะที่เป็นเหล็ก ส่วนหลวงพ่อกัน ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่าน ก็สร้างมีดหมอเหมือนกัน แต่ โลหะที่ทำตัวมีดมักเป็น สแตนเลท
หรือตะกรุดหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง นั้น ตะกรุดของท่านนั้นจะใช้อั่วเป็นแกนกลาง ซึ่งอั่วทำจากเนื้อทองเหลือง หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง นั้น เป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อพิธ ท่านก็ได้สร้างตะกรุดเหมือนกันกับอาจารย์ของท่าน แต่ท่านใช้ แกนกลางเป็นอั่วเนื้อทองแดง
ตะกรุดลูกอมที่ลงคาถาหัวใจโลกธาตุ โดยหลวงปู่ยิ้ม ต้นตำรับนั้น เท่าที่พบทั่วไป มีด้วยกัน ๓ เนื้อ คือ เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อทองแดง และ ที่ทำมาจากกระดาษสา วิธีการสร้าง เป็นวิธีแบบโบราณ คือ นำเอาโลหะที่จะนำมาสร้างทำตะกรุดนั้น มาทุบ ตีแผ่ แล้วทำการรีดให้เรียบเท่าที่ทำได้ จากนั้นนำมาวัดกะระยะ กว้างประมาณ ๑ ซม. แล้วตัดด้วยกรรไกร ส่วนความยาวของแผ่นโลหะ ผู้เขียนไม่ทราบจริง ๆ ว่ายาวเท่าใดกันแน่ แต่นับจากวงรอบของตะกรุดที่ม้วนเสร็จแล้วนั้น นับได้เท่าที่เคยพบเจอ คือ ๖-๘ รอบ เท่านั้น ความยาวของตะกรุด น่าจะขึ้นอยู่กับความยาวของคาถาที่เขียนลงในแผ่นโลหะนั้น ๆ และที่ดูว่าวงรอบของตะกรุดม้วนน้อยลง ก็คงเป็นเพราะการคลายตัวของตะกรุดที่ นำมาร้อยใช้ และทำให้รูของตะกรุดกว้างขึ้นด้วย
ส่วนตะกรุดขนาดเล็กที่ลงคาถาหัวใจโลกธาตุอีกชนิดหนึ่ง เรียกกันว่า ตะกรุดมะขามเรียง ๗ ใบ หมายถึง ตะกรุดขนาดเล็ก กว้างประมาณ ๑ ซม. และยาว เท่ากับ ใบมะขามมาวางเรียงต่อกันได้ ๗ ใบ พอดี ซึ่งเป็นตะกรุดยุคต้น ๆ ของหลวงปู่ยิ้มท่าน ซึ่งได้สร้างเอาไว้ไม่มากนัก มีทั้งแบบเปลือย และที่นำมาถักเชือก ลงรักไว้ก็มี ปัจจุบัน ถือว่าเป็นตะกรุดที่หาชมได้ยากยิ่ง
ตะกรุดลูกอมที่สร้างจากเนื้อกระดาษสา นั้น ใช้วิธีเขียนคาถาลงในกระดาษสา แล้วม้วนเป็นวง เหมือนเช่นตะกรุดลูกอม ส่วนใหญ่หลวงปู่ยิ้ม ท่านจะใช้ด้ายสายสิญจน์ พันม้วนรอบกระดาษสาเป็นลูกกลม หลายๆ ชั้น จนมีลักษณะเป็นลูกกลม ซึ่งต่อมาได้เรียกกันว่า ลูกอมสายสิญจน์
ส่วนตะกรุดลูกอมลงคาถาหัวใจโลกธาตุ ที่สร้างโดย หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ศิษย์เอกองค์หนึ่งของ หลวงปู่ยิ้มนั้น หลวงปู่ใจท่านก็ถือว่าเป็น พระอริยสงฆ์ อีกองค์หนึ่ง ที่มีความรู้ความสามารถมากมาย และเป็นพระที่มีจริยวัฒน์ ปฏิบัติธรรมดีเยี่ยม อีกองค์หนึ่ง วัตถุมงคลที่ท่านได้ปลุกเสก เชื่อกันว่า มีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าอาจารย์ใด ๆ เลย มีเรื่องเล่ากันว่า การที่จะได้ศึกษาวิชาหัวใจโลกธาตุ นั้น ขั้นแรก ผู้ที่จะเรียนวิชาจะต้องนั่งวิปัสสนากรรมฐาน เพ่งกสิณจนไส้เทียนขาด ด้วยพลังจิต ถึงจะได้เรียนวิชาคาถาหัวใจโลกธาตุ จาก หลวงปู่ยิ้ม สมัยนั้นมีผู้มาศึกษาด้วยกันหลายท่าน แต่มีผู้ผ่านการทดสอบเพียงท่านเดียว คือ หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ แต่ภายหลังจากนั้นผู้เขียนไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามีผู้ใด ทดสอบผ่านอีกหรือเปล่า
ตะกรุดลูกอมหัวใจโลกธาตุ ของ หลวงปู่ใจ วัดเสด็จนี้ สร้างด้วยกัน ๓ เนื้อ คือ เนื้อทองคำ เนื้อนาก และเนื้อเงิน ปัจจุบันได้รับความนิยมค่อนข้างสูงมาก
วิธีการสร้างตะกรุดลูกอมของหลวงปู่ใจ นั้น ต่างจากอาจารย์ของท่านโดยสิ้นเชิง คือ หลวงปู่ใจ จะสร้างค่อนข้าง ทันสมัยกว่ามาก คือ ใช้เครื่องเป็นตัวประกอบในการสร้าง แทบทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการตัดแผ่นโลหะ การรีดแผ่นโลหะ แม้แต่การม้วนตะกรุดก็ใช้เครื่องทั้งสิ้น คงเหลือเฉพาะการลงอักขระคาถา และปลุกเสกเท่านั้นที่หลวงปู่ใจต้องทำเอง
ข้อแตกต่าง ที่เห็นได้เจน ระหว่างตะกรุดลูกอมของหลวงปู่ยิ้ม กับ ตะกรุดลูกอมของหลวงปู่ใจ (ดูรูปประกอบจะเข้าใจง่ายขึ้น)

๑.- ตะกรุดหลวงปู่ยิ้ม เป็นตะกรุดทุบ แผ่นโลหะ หนา บาง นั้นไม่เท่ากัน ม้วนแล้วนับได้ ๖-๙ รอบ
- ตะกรุดหลวงปู่ใจ เป็นตะกรุดรีดแผ่นโลหะจากเครื่อง หนา บาง จะเท่ากัน ม้วนแล้วนับได้ ๑๐-๑๓ รอบ
๒.- ตะกรุดหลวงปู่ยิ้ม ม้วนแบบธรรมดาด้วยมือ( Hand Made ) ไม่แน่น ดูไม่เรียบร้อย ปลายตะกรุด ตัดโดยกรรไกร หรือมีด มีมุมตามช่างที่ตัดไม่แน่นอน
- ตะกรุดหลวงปู่ใจ ม้วนด้วยเครื่อง ดูเรียบร้อย แน่นสนิท ปลายตะกรุดโดนเครื่องตัด ฉีกขาด แบบไม่มีมุม
๓.- ขอบของแผ่นตะกรุดหลวงปู่ยิ้ม ตัดด้วยกรรไกร ขอบจะมีลักษณะเป็นเหลี่ยม หรือเป็นฉาก พื้นผิวตะกรุดรอบนอกไม่มีเส้นวิ่ง
- ขอบของแผ่นตะกรุดหลวงปู่ใจ ตัดด้วยเครื่อง มีลักษณะมน โค้ง ดูเรียบร้อย ไม่คม บางรอบอาจมีรอยปริแตกบ้าง (อาจเป็นเพราะแรงกดของเครื่อง) พื้นผิวตะกรุดรอบนอกมีเส้นวิ่งมากมายเป็นแนวรอบ (คงเกิดจากแรงเหวี่ยงของเครื่องขณะม้วนตะกรุด)
เห็นได้ว่า การสร้างตะกรุดลูกอม ลงคาถาหัวใจโลกธาตุของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กับ หลวงปู่ใจ วัดเสด็จนั้น อาจารย์กับศิษย์ ถึงการสร้างจะเป็นตะกรุดลูกอมเหมือนกัน แต่วิธีการสร้าง ลูกศิษย์ ย่อมจะต่างจากอาจารย์เสมอ
ดังคำโบราณที่ว่าลูกศิษย์ต้องเดินตามรอยตามอาจารย์ แต่ห้ามเดินทับรอยอาจารย์
http://www.uamulet.com/boardDetail.aspx?bid=7&qid=30739

 

ขอบคุณพี่visutto มากๆคับสำหรับข้อมูลช่วยเป็นแนวทางศึกษาสำหรับน้องๆต่อไป
พี่ๆช่วยวิจารณ์พิสมรของล/พ แก้ว ให้ผมหน่อยน่ะคับ ผมอยากสะสมแบบกรงจักรแต่หาสวยๆยากมาก มาเจอลูกนี้เลยสนใจอยากบูชาน่ะคับ พอทราบราคากลางกันบ้างไมคับ

 

ขอบคุณvisuttoมากเลยนะค้าบ

 

พิสมรของหลวงพ่อแก้ว
ราคาขึ้นอยู่กับขนาดและความสวยสมบูณ์
ถ้าให้ตีราคากลางชิ้นนี้ ประมาณ 4000-5000.-

 

ดูกระทู๊นี้เพลินจริงๆครับ ^^

 

ผมได้ตะกรุดของวัดสะพานสูงมา 1 ชิ้น ยาวประมาณ 4.2 นิ้ว ครับ ไว้ผมจะถ่ายรูปมาถามพี่ๆ นะครับ
แต่ตอนนี้ผมฝันอยากได้มีดหลวงปู่เดิมสักด้าม ไม่รู้จะมีบุญวาสนารึป่าว หากพี่ Visutto จะเมตตากรุณาผม ช่วยบอกผมหน่อยได้มั้ยครับ ผมต้องการเก็บติดตัวไว้ครับ ผมนับถือท่านจริงๆ และพุทธคุณท่านคงจะช่วยผมได้ในตอนนี้ครับ (มีปัญหาเรื่องวิญญาณหรือสิ่งเร้นลับกลั่นแกล้ง แต่ผมไม่ค่อยเท่าไร เพราะผมสวดมนต์และพระคาถาชินบัญชรทั้งเช้าและก่อนนอน อีกทั้งห้อยพระและมีพระติดตัวประมาณ 30 องค์นะครับ แต่เห็นพระที่นับถือท่านบอกว่าเขามาเล่นงานลูกเต้าผมนะซิ)
หรือพี่ Visutto จะเมตตาให้ผมโทรปรึกษาหน่อยได้มั้ยครับ ถ้ายินดีโปรดให้เบอร์ผมได้ที่อีเมล์ผม boonchat@scg.co.th ครับ ขอบคุณมากครับ