การเตรียมการรับมือภัยพิบัติทางเศรษฐกิจ

[FONT=&quot]เดินไป[/FONT][FONT=&quot]สิบก้าวก็เจอร้าน 7[/FONT]eleven, [FONT=&quot]เดินไป 10 คูหา
ก็เจอ [/FONT]Family Mart [FONT=&quot]เลี้ยวซ้ายไปหน่อย[/FONT][FONT=&quot] ก็เจอ 108 [/FONT]shop [FONT=&quot]
เดินไปก้าวสองก้าว ก็เจอร้านขายของชำในชุมชน
พอเข้าร้านนั้น ร้านนี้ก็ต่อว่า[/FONT][FONT=&quot]ต่อขานว่า ไม่แวะ
อุดหนุนกันเลยนะ อ้ายคนซื้อก็ปวดหัว ไม่รู้จะเข้า
ร้านไหนดี เข้าร้านนี้[/FONT][FONT=&quot]ร้านนั้นก็งอน ผลสุดท้าย
ตัดปัญหา ซื้อของในห้างฯ เสียเลย จะได้ไม่โดนเหน็บ
ให้ลำบากใจ[/FONT][FONT=&quot]แถมของก็ถูกกว่า โดยเฉพะเวลาช่วง [/FONT][FONT=&quot]Sales [/FONT]

 

พูดถึงเรื่องเปิดร้านมินิมาร์ท ผู้เขียนมีกัลยณมิตรคนหนึ่ง
เป็นสมาชิกในเวปพลังจิตนี่แหละค่ะ โทรมาปรึกษา
เรื่องจะเปิดร้านมินิมาร์ท ของแฟรนไชส์เจ้าดังอันดับหนึ่ง
ของเมืองไทย และช่วยให้ดูดวงเสียหน่อยว่า ถ้าทำแล้ว
จะดีไหม เพราะตอนนี้ตนเองตกงานมานานแล้ว
ถ้าไปสมัครงานที่ไหนก็ลำบาก จะลงทุนเอาบ้านเข้า
bank กู้เงินมาลงทุนเปิดร้านมินิมาร์ท จะดีกว่า
เพื่อนคนนี้เขาเคยให้ผู้เขียนถามอาจารย์เรื่องดวง
ของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ชอบอกชอบใจ ว่าดูแม่นจริง ๆ
เรื่องลึก ๆ ที่เขาไม่ได้เล่า ทำไมอาจารย์รู้ด้วย แถมดู
ให้ฟรีอีกต่างหาก (สงสัยจะชอบตรงนี้แหละ) ซึ่ง
ตัวอาจารย์ก็บอกว่า ทำได้ ให้เลยหลังปีใหม่ไปแล้วถึงจะดี

 

[FONT=&quot]ในเรื่องของการดูดวงกัน จะทำนายอย่างไรไม่ว่า
เพราะถือว่าเป็นความชอบส่วนบุคคล แต่พอมาถาม
ผู้เขียนเรื่องเปิดร้านมินิมาร์ทดีไหม[/FONT][FONT=&quot] ตอบให้ชัด ๆ ว่า
ไม่ดี ก็ไม่เชื่อเราเสียอีก ที่ผู้เขียนให้เหตุผลว่าไม่ดี
เพราะอะไร[/FONT]

[FONT=&quot]1. [FONT=&quot]ร้านประเภทนี้มีอยู่กันเยอะมากแล้ว จะไปเปิดอีกทำไม[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]2. [FONT=&quot]เงินลงทุนค่าแฟรนไชส์ 5 แสน เงินค้ำประกัน 1 ล้าน
ได้เงินคืนเมื่อทำครบ 6 ปีไปแล้ว[/FONT][/FONT][FONT=&quot] และถ้าลงทุนเท่านี้
จะมีรายได้หรือค่าคอมมิชชั่นให้เดือนละ 2 หมื่นกว่าบาท
(สองหมื่นต้น ๆ นะค่ะ ไม่ใช่สองหมื่นปลาย ๆ )[/FONT]
[FONT=&quot]แต่ถ้าลงทุน 2.5 ล้านบาท ถึงจะได้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท[/FONT]

 

[FONT=&quot]3. [FONT=&quot]การจะเข้าฟังการอบรมเรื่องมินิมาร์ท จะต้องมีเงิน
ในบัญชีให้เห็นก่อน 1 ล้านบาท ถึงจะ[/FONT][/FONT][FONT=&quot]สามารถเข้าไป
ฟังการอบรมของเขาได้ [/FONT]
[FONT=&quot]4. [FONT=&quot]การเปิดร้านมินิมาร์ทประเภทนี้ ทำเลเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
โดยเฉพาะถ้าจะให้ขายดี ๆ [/FONT][/FONT][FONT=&quot]ต้องมีร้านติดถนนใหญ่
ย่านชุมชน เพราะการเปิดร้านตลอด 24 ชั่วโมง
ถ้าไม่ใช่ถนนหรือทางที่รถหรือคนสัญจรไปมา
ได้สะดวก เลย 3-4 ทุ่มไปแล้ว คนก็เงียบค่ะ [/FONT]

 

[FONT=&quot]5. [FONT=&quot]ทำเลแบบนี้ในกรุงเทพ ค่าเช่าคูหาละ 20,000 [/FONT]up
ต่อเดือน[FONT=&quot]อยู่แล้วค่ะ ถ้าจะเปิดร้านก็ต้องมีไม่น้อยกว่า
2 คูหา ไม่งั้นจะเล็กเกินไป [/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]6. [FONT=&quot]ค่าเช่าเดือนละไม่ต่ำกว่าสี่หมื่นบาท ยังไม่รวม
ค่าบริหารจัดการ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพนักงาน[/FONT][/FONT][FONT=&quot] และ
ยังไม่รวมถึง เงินกู้ธนาคารที่เอาบ้านเข้า bank [FONT=&quot]
อีกต่างหาก และภาระรับผิดชอบของ[/FONT][/FONT][FONT=&quot]ครอบครัวอีก
เฮ้อ...แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว[/FONT]

 

[FONT=&quot]7. [FONT=&quot]สิ่งสำคัญ การบริหารบัญชีสต็อคของร้าน เนื่องจาก
สินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค[/FONT][/FONT][FONT=&quot] กำไรต่อชิ้นไม่มาก
บางตัวกำไรแค่สิบสตางค์ ห้าสิบสตางค์บ้าง ด้วยเหตุนี้
[FONT=&quot]ร้านค้าประเภทนี้[/FONT][/FONT][FONT=&quot]ถึงต้องมีสินค้าหลากหลายและ
เปิดบริการตลอดเวลา เพื่อให้ลูกค้ามาเข้าร้านอยู่เสมอ[/FONT]
[FONT=&quot]พอตั้งใจจะซื้อของอีกอย่าง แต่พอเหลือบไปเห็น
ของอีกอย่าง ก็อดใจไม่ได้ ต้องซื้อควบไปอยู่เสมอ[/FONT]

 

[FONT=&quot]ถามหน่อยเถอะค่ะ มีผู้อ่านคนไหนตั้งใจเข้าร้าน
สะดวกซื้อ และอดใจซื้อของที่เราขาดอยู่เพียงเท่านั้น
[/FONT] [FONT=&quot]คนที่ทำได้ส่วนใหญ่ คือ เงินในกระเป๋ามีจำกัด
ไม่กล้าซื้อของอื่นเพิ่มเติม แต่ถ้ามีเงินในกระเป๋า[/FONT]
[FONT=&quot]เพียงพอ ความตั้งใจจะซื้อน้ำขวดเดียว อาจต้อง
หยิบขนมไปเผื่อด้วย ใช่หรือไม่ค่ะ[/FONT]

[FONT=&quot]และถ้าบริหารสต็อคไม่ดี [/FONT][FONT=&quot]ของหายไปชิ้นหนึ่ง ก็เท่ากับ
ต้นทุนหายกำไรหด และควบคุมดูแลไม่ถึง ก็ทำให้
รายได้ไม่พอกับรายจ่าย [FONT=&quot]ถ้ามีทุนเพียงพอก็ยังทน
ทำไปได้ แต่ถ้าต้องกู้แบงค์มาละค่ะ ปัญหาหนักแน่นอน[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]ผลสุดท้ายร้านก็ไม่เหลือ บ้านก็ไม่มีจะอยู่ [/FONT]

 

[FONT=&quot]8. [FONT=&quot]ข้อสุดท้าย เหตุผลที่สำคัญที่สุด คือ หาคนทำงานยาก
คุณอย่าคิดว่าคนไทยตกงานกันเยอะแยะ แล้วจะมี
คนมาทำงานกับคุณ ผู้เขียนเถียงคอเป็นเอ็นเลยค่ะ
ว่าหาคนทำงานดี ๆ [/FONT][/FONT][FONT=&quot]ยากจริง ๆ ส่วนใหญ่ที่ตกงาน
ไม่ทำงานกัน เพราะไม่ใช่ไม่มีคนจ้างนะค่ะ แต่
เลือกงานค่ะ[/FONT][FONT=&quot] จะเอางานดี เงินเยอะ งานสบาย
แหม มันจะมีมั้ยละเนี่ย มีเรื่องเล่าของผู้เขียนนะค่ะ[/FONT]
[FONT=&quot]ผู้เขียนประกาศรับสมัครงานรถรับจ้าง มีรายได้เดือนละ
หนึ่งแสนบาทขึ้นไป ซึ่งปิดรับสมัครไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อ 3 เดือนก่อน และลงประกาศตัวโต ๆ ถึง 3 รอบ ว่า
งดรับแล้ว[/FONT]

 

[FONT=&quot]เชื่อมั้ยค่ะ ทุกวันนี้ยังมีคนโทรมาสอบถามทุกวัน ๆ ละ
หลาย ๆ คน และโดยเฉพาะชอบโทร[/FONT][FONT=&quot]มาตอนเที่ยง
พอเราบอกว่าไม่รับแล้ว มีการส่ง [/FONT]SMS [FONT=&quot]มาว่าอีกต่างหาก
ว่าไม่รับและลงประกาศทำไม เฮ้อ มันน่านัก ทำไม
ไม่อ่านประกาศให้ดี ๆ ว่าเขาปิดรับแล้ว เห็นแค่
หัวข้อว่ารับงานแล้ว[/FONT][FONT=&quot]มีรายได้เยอะ ก็พุ่งเข้ามากันเป็นแถว
แต่ในขณะเวลาเดียวกัน ผู้เขียนเปิดรับสมัครคนงาน
ก่อสร้าง ผู้รับเหมา ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท
(ตามมาตรฐานค่าแรงขั้นต่ำของรัฐที่พึ่งประกาศไป)
แถมมีที่พักให้ด้วย น้ำไฟฟรี ลงประกาศพร้อม ๆ กัน
เวลาเดียวกัน[/FONT][FONT=&quot] ผ่านมาได้ 3-4 เดือนแล้ว ไม่มีคน
มาสมัครสักคนเดียว ทีนี้ผู้อ่านเห็นหรือยังค่ะว่า
คืออะไร[/FONT][FONT=&quot] และไม่ใช่เป็นที่ผู้เขียนเจ้าเดียว ทุก ๆ ราย
ที่เป็นผู้ประกอบการ เจอปัญหาแบบนี้ทุกคน [/FONT]

 

[FONT=&quot]พอพูดถึงเรื่องการทำแฟรนไชส์มินิมาร์ท ก็เท่ากับ
เป็นการตอบโจทย์ของ[/FONT][FONT=&quot]สหกรณ์ร้านค้าของชุมชนต่าง ๆ
ด้วยเหตุผล[/FONT]

[FONT=&quot]1. [FONT=&quot]การเปิดสหกรณร้านค้า ทุกคนเป็นสมาชิกหรือ
เท่ากับเป็นหุ้นส่วนของร้านค้านั้น ๆ [/FONT][/FONT][FONT=&quot]ใครมีทุนมากหน่อย
ก็ลงหุ้นเยอะหน่อย พอเงินปันผลออก ก็ได้ผลกำไร
มากตามมูลค่าหุ้นของตน[/FONT]

 

[FONT=&quot]2. [FONT=&quot]สำหรับผู้มีทุน ยกตัวอย่างค่าแฟรน์ไชส์คนละ
1.5 [/FONT]–[FONT=&quot] 2.5 ล้านต่อ 1 ร้าน นำเงินลงทุน[/FONT][/FONT][FONT=&quot]ตรงนี้
ไปเปิดเป็นร้านค้าชุมชนหรือสหกรณ์ร้านค้า
สามารถเปิดได้ถึงหลายร้าน[/FONT][FONT=&quot] หรือไม่ก็เปิดเพียง
ร้านเดียว ซึ่งใช้เงินทุนเต็มที่ก็แค่หลักแสน
ส่วนเงินที่เหลือถือว่าเป็นเงินออม[/FONT][FONT=&quot] ไว้เพื่อหมุนเวียน
ทางการค้า และเป็นการแสดงศักยภาพให้สถาบัน
การเงินเห็นด้วยว่า[/FONT][FONT=&quot]เราทำงานแบบผู้มีทุนทำงาน
เผื่อเวลาที่จำเป็นจะต้องกู้เงิน สามารถผ่านการอนุมัติ
ได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์[/FONT]

 

[FONT=&quot]3. [FONT=&quot]การทำมินิมาร์ทกับการเปิดสหกรณ์ร้านค้า
[/FONT][/FONT] [FONT=&quot]ราคาของสินค้าในการขายมีราคาเท่ากัน
ยกตัวอย่าง ราคาไข่ของมินิมาร์ท 3 บาทต่อฟอง
และของสหกรณ์ก็ขายราคาเท่ากัน แต่ปลายปี
ผลกำไรของมินิมาร์ท เจ้าของร้านค้าหรือเจ้าของ
แฟรนไชส์ได้ไปทั้งหมด ในทางกลับกัน พอปลายปี
แบ่งผลกำไร[/FONT][FONT=&quot]ผู้ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ร้านค้าทุกคน
ได้รับเงินปันผลกำไรตอนปลายปีตามมูลค่าหุ้นที่
ตนถืออยู่ ซื้อของเยอะก็ได้รับเงินปันผลเยอะ
มากน้อยลดหลั่นตามจำนวนหุ้น[/FONT]

[FONT=&quot]ในสองกรณีนี้ ถ้าคุณเป็นคนซื้อ คุณจะเลือกซื้อร้านใด[/FONT]

 

[FONT=&quot]4. [FONT=&quot]ช่วยให้ผู้ที่ทำธุรกิจครัวเรือน มีช่องทางการจำหน่าย
ที่เพิ่มขึ้น เพราะสามารถอาศัยร้านค้า[/FONT][/FONT][FONT=&quot]ชุมชนเป็นที่
กระจายสินค้าของตนเอง [/FONT]

[FONT=&quot]5. [FONT=&quot]ผู้ที่ดูแลร้านค้าชุมชน สามารถบริหารเวลา และ
บริหารคนได้ เนื่องจากร้านค้าชุมชน[/FONT][/FONT][FONT=&quot]ไม่จำเป็นต้อง
เปิดบริการถึง 24 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่มีคนทำงานจำกัด
สามารถบริหารงานกันเอง[/FONT][FONT=&quot]ภายในครอบครัวได้
โดยเฉพาะตามชนบท เปิดเพียงแค่ 3-4 ทุ่ม
ก็เพียพองแล้ว แต่อาจจะต้องเปิดเช้าหน่อยเท่านั้นเอง
เพราะคนชนบทตื่นกันแต่เช้า บางทีตี 4 ตี 5 ก็มา
เคาะประตูให้เปิดร้านแล้ว แต่ถ้าในเมืองก็สามารถ
เปิดได้ 24 ชั่วโมง ถ้าคนในครอบครัวไม่เพียงพอ
ก็สามารถจ้าง[/FONT][FONT=&quot]พนักงานมาดูแลร้านได้ ถ้าทำแบบนี้
ก็จะช่วยประหยัดในเรื่องของการบริหารงาน
บริหารเงิน[/FONT][FONT=&quot]และบริหารคนไปได้มาก[/FONT]

 

[FONT=&quot]6. [FONT=&quot]การเปิดร้านค้าชุมชน สินค้าที่นำมาวางนั้นมีอยู่
2 ประเภท คือ[/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]ก) [FONT=&quot]สินค้าจากธุรกิจครัวเรือนในชุมชนนั้น ๆ ซึ่งเป็น
การช่วยเพิ่มรายได้และช่องทางการจัดจำหน่าย
ให้กับธุรกิจครัวเรือน [/FONT][/FONT]

[FONT=&quot]ข) [FONT=&quot]เป็นการซื้อสินค้าเข้ามา ซึ่งส่วนใหญ่ที่ทำกัน
มักจะเข้าห้างค้าส่ง-ปลีก เช่น แมคโคร, โลตัส,[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]บิ๊กซี เป็นต้น เนื่องจากสินค้าบางประเภทชุมชน
ไม่สามารถผลิตได้ หรือเพื่อให้มีสินค้าหลากหลาย
ในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค แต่เรา
จะทำอย่างไร ถึงจะเป็น[/FONT][FONT=&quot]ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ฉลาดซื้อ
ในการซื้อสินค้าเข้าร้าน [/FONT]

 

[FONT=&quot]1) [FONT=&quot]สินค้าตอนช่วงกำลัง [/FONT]Sales [FONT=&quot]ยกตัวอย่าง สินค้า
ที่ซื้อ 1 แถม 1 [/FONT][/FONT][FONT=&quot]เราสามารถนำสินค้านี้มาขายได้
ในราคาถูกกว่าราคาขายจริง เพื่อนำเป็นส่วนลด
ในการ[/FONT]Promotion [FONT=&quot]ของร้าน เช่น สบู่ยี่ห้อ AA [FONT=&quot]ปกติ
ขายก้อนละ 15 บาท เมื่อเราไปซื้อ[/FONT][/FONT][FONT=&quot] ตอนช่วง Sales
[FONT=&quot]ซื้อ 1 แถม 1 ดังนั้นเฉลี่ยแล้วต้นทุนอยู่ที่ก้อนละ
7.50 บาท เราก็สามารถ[/FONT][/FONT][FONT=&quot]นำมาขายได้ จากราคาปกติ
15 บาท เราขายแค่ก้อนละ 10 บาท เพื่อดึงดูดให้
ลูกค้าเข้ามาซื้อของในร้าน เพราะเราขายราคานี้ก็ได้
กำไรแล้ว แต่ถ้าจะขายตามราคาปกติก็ทำได้เช่นกัน [/FONT]

 

[FONT=&quot]2) [/FONT][FONT=&quot]ซื้อสินค้าจากบริษัทผู้ผลิตที่ทำการตลาด โดย
ส่งสินค้าถึงร้าน เพราะบริษัทต่าง ๆ เหล่านี้[/FONT][FONT=&quot] มักจะให้
เครดิตทางการค้า กับร้านค้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ถ้าเป็นร้านค้าชุมชนหรือสหกรณ์[/FONT][FONT=&quot]ร้านค้า บริษัท
ผู้ผลิตเหล่านี้ จะให้ความเชื่อมั่นมากกว่าร้านค้าทั่ว ๆ ไป[/FONT]

 

[FONT=&quot]3. [FONT=&quot]ซื้อสินค้าโดยชำระผ่านบัตรเครดิต ปัจจุบันมี
ห้างค้าส่งหลาย ๆ ห้าง มักจะมี[/FONT][/FONT][FONT=&quot]บัตรเครดิตให้กับ
ลูกค้า เพื่อไว้ใช้ซื้อสินค้าของตน เราก็ใช้บัตรเหล่านี้
ให้เป็นประโยชน์กับตัวเรา[/FONT][FONT=&quot] เนื่องจากห้างฯ ต่าง ๆ เหล่านี้
มักจะได้เครดิตทางการค้ากับบริษัทผู้ผลิตถึง 3-6 เดือน [/FONT]
[FONT=&quot]อย่าพึ่งแย้งผู้เขียนนะค่ะว่า เขาเครดิตกันแค่ 30-45 วัน
เพราะผู้เขียนทราบดีค่ะ เนื่องจากเคยติดต่อ[/FONT][FONT=&quot]กับห้างฯ
ต่าง ๆ เหล่านี้มาแล้ว ดังนั้นเราก็ใช้เครดิตตรงนี้ให้
เป็นประโยชน์กับธุรกิจชุมชนของเราเสีย บางบัตรให้
วงเงินสามหมื่นห้าหมื่นก็ว่ากันไป พอเราใช้วงเงินเต็มบัตร
เราก็ค่อยนำเงินไปชำระ ผู้เขียนบอกให้เลยว่า
ต้องชำระเต็มจำนวน เช่น ซื้อของไปครบ 3 หมื่น
ก็ต้องจ่าย 3 หมื่น[/FONT][FONT=&quot] เพื่อเราจะได้ซื้อของได้ในคราวต่อไป [/FONT]

 

[FONT=&quot]อย่าสร้างนิสัยจ่ายเพียงแค่ 10% [FONT=&quot]หรือผ่อนชำระเป็น
งวด ๆ [/FONT][/FONT][FONT=&quot]เพราะคุณจะไม่ได้สิทธิซื้อของในครั้งต่อไป
จนกว่าคุณจะชำระเงินจนครบ สาเหตุที่คนเป็นหนี้[/FONT]
[FONT=&quot]บัตรเครดิตกันเยอะมาก ก็เพราะคุณไม่มีวินัยด้าน
การเงิน ผู้เขียนให้มีบัตรเครดิตเพื่อซื้อสินค้า[/FONT]
[FONT=&quot]ซึ่งตรงนี้เราสามารถใช้ได้ โดยไม่เสียดอกเบี้ย
แต่ถ้าคุณกดเงินออกมาใช้ หรือใช้แล้วผ่อนชำระ
เป็นงวด ๆ เมื่อไหร่ เมื่อนั้นคุณเสียค่าดอกเบี้ย
เสียค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทเจ้าของบัตรเครดิต
เหล่านี้ทันที ถ้าคุณคิดจะซื้อสินค้าเข้าร้าน โดย
ผ่านบัตรเครดิต ต้องเตือนสติตนเองเสมอว่า
เราใช้บัตร[/FONT][FONT=&quot]เพื่อซื้อสินค้า ไม่เอาบัตรนำไปใช้อย่างอื่น
นอกประเด็นนี้อย่างเด็ดขาด ทำให้ได้ แล้วคุณจะ
ประสบผลสำเร็จ [/FONT]

 

[FONT=&quot]เมื่อพูดถึงห้างฯ ค้าส่งแล้ว ผู้เขียนขอเตือนไปยัง
ผู้ที่ทำธุรกิจครัวเรือนทุก ๆ ราย [/FONT][FONT=&quot]ในเรื่องของการขาย
เมื่อสินค้าที่เราผลิตนั้น เกิดไปต้องตากับห้างค้าส่ง
รายใหญ่เมื่อไหร่ [/FONT][FONT=&quot]ทางนั้นจะมีการติดต่อเข้ามาเพื่อ
ให้เราเข้าไปวางขายในห้างของเขา โดยเฉพาะ
สิ่งสำคัญ[/FONT][FONT=&quot]เขามักจะให้เราเป็นผู้ผลิตสินค้า แต่ให้ใช้
ตราสินค้าของเขา ซึ่งพอเจ้าของธุรกิจครัวเรือน[/FONT][FONT=&quot]ทราบ
ก็จะพากันดีใจที่ตนเองมีเจ้าใหญ่มาติดต่อ สินค้า
ที่ตนเองผลิตนั้นมีตลาดแน่นอน[/FONT][FONT=&quot] แต่หารู้ไม่ว่า อันตราย
กำลังเกิดขึ้นกับคุณแล้ว ด้วยความรู้ไม่เท่าทัน [/FONT]

 

[FONT=&quot]ห้างฯ เหล่านี้เขามีวิธีการอย่างไร ผู้เขียนจะอธิบาย
ให้ฟังเป็นฉาก ๆ [/FONT][FONT=&quot]ที่ผู้เขียนเล่าเรื่องนี้ได้ เนื่องจาก
ลูกค้าของผู้เขียนเป็นผู้ผลิตให้กับห้างฯ เหล่านี้
และประสบปัญหา[/FONT][FONT=&quot]อย่างที่เกิดขึ้นตามหลังมา ซึ่ง
ลูกค้ารายนี้เป็นถึงบริษัทผู้ผลิตกระดาษทิชชูอันดับต้น ๆ
ของประเทศ[/FONT][FONT=&quot] ยังรู้ไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมทางการค้า
ของห้างฯ เหล่านี้เลย

[/FONT]<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]1. [FONT=&quot]เมื่อมีการติดต่อเข้ามา หรือจะเป็นฝ่ายเราติดต่อ
เข้าไปวางจำหน่าย ถ้าสินค้าของเราขายดี[/FONT][/FONT][FONT=&quot] ทางห้างฯ
จะเรียกเราเข้าไปคุย และขอเซ็นต์สัญญา โดยให้เรา
เป็นผู้ผลิต โดยทางห้างขอให้ผลิตในยี่ห้อของห้างฯ นั้น
ซึ่งทำให้ผู้ผลิตดีใจและตั้งเป้าหมายไว้เลยว่าเรามี
รายได้มั่นคง แน่นอน[/FONT][FONT=&quot]ในทุก ๆ เดือน [/FONT]