การเตรียมการรับมือภัยพิบัติทางเศรษฐกิจ

ก) ทำไม เราจะต้องจดทะเบียนการค้า
การจดทะเบียนร้านค้า เสียค่าธรรมเนียมเพียง
50 บาท เท่านั้น แต่ให้คุณประโยชน์
กับผู้ประกอบการ เริ่มจากตรงนี้แหละค่ะ

- ถ้าคุณจะกู้เงินกับสถาบันการเงิน ความมีตัวตน
ในทางธุรกิจของคุณต้องมี เพราะสถาบันการเงิน
เห็นแล้วว่า คุณได้ประกอบธุรกิจจริง มีสถานที่
การทำงานอย่างชัดเจน และดำเนินธุรกิจมาพอสมควร

 

แต่ไม่ใช่จดทะเบียนวันนี้ คุณไปขอยื่นเรื่องกู้เงินเลย
ทำไม่ได้นะค่ะ ไม่มีที่ไหนกล้าให้คุณกู้เงินหรอกค่ะ
แถมจะโดนข้อหาหลอกลวงเสียด้วยซ้ำ คุณจะต้อง
ใช้ระยะเวลาในการทำงานสักพัก อย่างน้อย ๆ
6 เดือน – 1 ปี นี่คือสาเหตุหลักเลยค่ะ ที่ผู้เขียน
อยากให้ทุกคนเริ่มจดทะเบียนพาณิชย์ทันทีที่
เริ่มกิจการ ไม่ใช่คิดจะขยับขยายการลงทุนแล้ว
ค่อยไปจด เพราะการจดทะเบียนวันไหน คือ
เริ่มต้นนับ 1 ในวันนั้น

 

ข) ทำไมต้องนำเงินไปฝากกับธนาคารหรือสถาบันการเงิน

เมื่อคุณประกอบกิจการ ถึงแม้จะค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ
ก็ตาม ให้หมั่นเดินบัญชีเข้า-ออกอยู่เสมอ ยกตัวอย่าง
คุณขายของแต่เช้า ช่วงเที่ยง ช่วงบ่าย หรือตอนว่าง ๆ
ก็นำเงินฝากธนาคารไว้ สมัยนี้ ตู้ ATM มีทุกอำเภอ
แล้วค่ะ จะใช้เงินก็ไปถอนออกมาก็ได้ แต่อย่าถอน
ออกมาจนเกลี้ยงนะค่ะ ไม่ใช่มีเงินอยู่ 5,0000 บาท
ก็ถอนออกมา 5,000 บาท เหลือติดบัญชี 0 บาท
[FONT=&quot]ห้ามทำอย่างเด็ดขาด เพราะแสดงให้เห็นว่าคุณ
ไม่มีวินัยด้านการเงิน [/FONT]

 

[FONT=&quot]อย่างน้อย ๆ เหลือเงิน[/FONT][FONT=&quot]ติดบัญชี 10-20% [FONT=&quot]ก็ยังดี
อย่าลืมว่าสถาบันการเงินเขาดูออกนะค่ะ เพราะ
การค้าขายย่อมมีกำไร[/FONT][/FONT][FONT=&quot] ถ้าทำแล้วไม่ได้กำไร คุณจะ
ทำไปเพื่ออะไร อย่างน้อย ๆ ลงทุนในการขายของ
ก็ต้องบวกกำไรแล้ว[/FONT][FONT=&quot] 10-30% [FONT=&quot]เป็นมาตรฐาน ถ้าคุณ
กดเงินออกมาหมด แสดงว่า ธุรกิจของคุณไม่มีกำไรเลย [/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]แถมแสดงให้เห็นว่าคุณบริหารจัดการเงินไม่เป็นเสียอีก
ต่อให้ไปยื่นกู้เงินที่ไหนก็ไม่ผ่านแน่นอนค่ะ[/FONT]

 

[FONT=&quot]ขั้นตอนต่อไป เมื่อคุณมีกำไรจากกิจการของคุณ
ให้แบ่งแยกเงินออกเป็นประเภท ๆ ไป[/FONT]

[FONT=&quot]1) [/FONT][FONT=&quot]เงินเพื่อการลงทุน เปิดบัญชีไว้ ซึ่งบัญชีนี้เป็น
บัญชีเพื่อใช้หมุนเวียนในธุรกิจของคุณ[/FONT][FONT=&quot] จะเปิดเป็น
ออมทรัพย์ หรือกระแสรายวันก็ได้ เพราะถ้าเปิด
กระแสรายวัน คุณจะได้ใช้เช็คได้อีกต่างหาก[/FONT]

[FONT=&quot]2) [/FONT][FONT=&quot]เงินกำไร ให้แบ่งบัญชีไว้เป็น[/FONT]
[FONT=&quot]- [/FONT][FONT=&quot]บัญชีค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เช่น ค่าน้ำ-ค่าไฟ-
ค่าอาหาร-ค่าเล่าเรียนบุตร-ค่าภาษีสังคม และ
[/FONT] [FONT=&quot]ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ [/FONT]

 

- บัญชีเงินออม ซึ่งบัญชีนี้ห้ามเบิก ห้ามถอน ให้ฝาก
ประจำอยู่ตลอดเวลา ไม่จำเป็นห้ามเบิกมาใช้เด็ดขาด
เพราะเราต้องเผื่อไว้ใช้ยามจำเป็นของครอบครัว เช่น
การรักษาพยาบาล เป็นต้น หรือไม่ก็แยกออกไปทำเป็น
การประกันชีวิต, ประกันสุขภาพ ของคนในครอบครัว
ไปเลยก็ได้ ดีเสียด้วยซ้ำ เวลาเกิดเจ็บ-ป่วย-ตาย
ก็มีเงินส่วนนี้ โดยไม่ต้องไปยุ่งกับบัญชีเงินออม แต่
การทำประกัน พิจารณาตามความเหมาะสมด้วยนะค่ะ
ไม่ใช่ทำไปเสียหมดทุกอย่าง บางคนทำประกันชีวิต
กับ 5-6 บริษัทก็มี ถ้าคุณมีเงินเหลือเฟือ ทำได้ก็ไม่มี
ปัญหาแต่ถ้ามีเงินจำกัด ทำแค่ 1-2 อย่างก็พอแล้วค่ะ

 

[FONT=&quot]ในการบริหารจัดการเงิน คุณจะแบ่งแยกเงินออก
เป็นกี่บัญชีก็แล้วแต่ความเหมาะสมของตัวคุณ
แต่หลัก ๆ [/FONT][FONT=&quot]ต้องทำบัญชีที่กล่าวมาข้างต้นไว้เป็น
สำคัญ[/FONT][FONT=&quot] ทราบมั้ยค่ะว่า บัญชีเงินออมส่วนนี้ เป็น
บัญชีสำคัญที่จะทำให้สถาบันการเงินพิจารณา
อนุมัติสินเชื่อให้คุณได้[/FONT][FONT=&quot] เพราะเขามั่นใจแล้วว่า
คุณมีวินัยด้านการเงิน เทคนิคง่าย ๆ แค่นี้เองค่ะ
แต่คุณต้องทำให้ได้ก็เท่านั้น[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot][/FONT]

 

ดังนั้นผู้เขียนอยากให้คนไทยทุกคนด้วยซ้ำ ฝากเงิน
กับ ธกส. บ้าง คนละบัญชีก็ยังดี เพื่อที่จะให้ธนาคาร
นำเงินฝากเหล่านั้น มาช่วยเกษตรกรและคนไทยทุกคนได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วเมื่อเราทำธุรกิจในครัวเรือน
ซึ่งจะยังประโยชน์ให้กับตนเองและชุมชน เพราะ
คนไทยส่วนใหญ่ ทำอาชีพเกษตรกรรมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
คนส่วนมากนึกถึง ธกส. คือจะต้องไปกู้เงิน เพื่อมา
ทำนา ทำไร่ แต่น้อยคนที่คิดอยากจะนำเงินไปฝาก

 

ผู้เขียนอยากให้ทุก ๆ คน ตระหนักตรงจุดนี้ว่า
อย่างน้อย ๆ เงินของเราก็ไม่รั่วไหลออกไปยัง
ประเทศนอก ถ้าเราคนไทยทุกคนช่วยคนไทยด้วยกัน
รองลงมาก็ยังมีธนาคารออมสิน ซึ่งมีทุกอำเภอแน่นอน
และธนาคารแห่งนี้แหละค่ะ ที่สามารถปล่อยกู้ให้กับ
ธุรกิจชุมชนได้ ถึงแม้จะอนุมัติตัวเลขไม่มาก แต่
การทำธุรกิจแบบครัวเรือน ก็ไม่จำเป็นต้องกู้มากมาย
เพียงแค่มีเงินลงทุนนิดหน่อยบ้าง ก็สามารถทำงานได้

รักประเทศไทยให้มาก ๆ นะค่ะ เพราะ
แผ่นดินไหน ๆ จะอบอุ่นเท่าแผ่นดินนี้ไม่มีแล้ว

 

กระทู้ดีมีสาระให้ความรู้ดีครับ น่าติดตาม

 

[FONT=&quot]ในเมื่อเราจะทะเบียการค้าแล้ว มีการเดินบัญชี
เป็นที่เรียบร้อย กิจการของเราก็ไปได้ด้วยดี
มีกำลังซื้อเข้ามามาก[/FONT][FONT=&quot] แต่จำเป็นต้องลงทุนเรื่อง
เครื่องมือ-เครื่องใช้-เครื่องจักร เราจะทำอย่างไรดี
ตอนนี้ทุก ๆ บ้าน ก็ทำธุรกิจในครัวเรือนกันถ้วนทุกคน
บางหมู่บ้าน บางตำบล อาจจะห่างไกลจากอำเภอ
ไปมาไม่สะดวก ถ้าจะเข้าอำเภอบ่อย ๆ ก็สิ้นเปลือง
ค่าน้ำมัน[/FONT][FONT=&quot] ค่าใช้จ่าย และเสียเวลาในการเดินทาง
ดังนั้น สิ่งที่ชุมชมควรทำ คือ[/FONT]

 

[FONT=&quot]1) จัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ เป็นการจัดตั้งขึ้นเพื่อทำ
หน้าที่รับฝากเงิน กู้เงิน และให้บริการด้านการเงิน
ภายในชุมชนเปรียบเสมือนเป็นธนาคารย่อย ๆ ของ
ชุมชนนั้น ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่คนใน
ชุมชน[/FONT][FONT=&quot] ในการที่จะทำธุรกรรมด้านการเงิน หรือเปิด
บัญชีพักไว้ รอรวบรวมเงิน เพื่อเข้าบัญชีที่อำเภอ
ก็เป็นทางเลือกหนึ่งได้ [FONT=&quot]ซึ่งผู้ประกอบการรายใด
ที่มีเงินฝากอยู่ในสหกรณ์ออมทรัพย์ ก็สามารถทำ
เรื่อง[/FONT][/FONT][FONT=&quot]กู้เงินเพื่อมาดำเนินธุรกิจได้ โดยเสียดอกเบี้ย
ไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนดไว้[/FONT]

[FONT=&quot][/FONT]

 

ขอบพระคุณสำหรับความรู้ครับ ภัยเศรษฐกิจปีนี้อาจหนักกว่าทุกปี แต่อย่าลืมว่ามีมืดย่อมมีสว่าง มีปัญหาย่อมมีทางแก้ไข มีวิกฤตก็ย่อมมีโอกาสเช่นกัน

ตั้งรับอย่างมีสติ ไม่ประมาท หมั่นสร้างกุศลและดำเนินชีวิตในทางสายกลาง จะช่วยให้รอดพ้นพิษภัยเศรษฐกิจได้พอสมควร

 

ถูกต้องแล้วค่ะ ทุกวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ ดังนั้นเราทุกคน
ต้องเข้มแข็งและหนักแน่นกับทุก ๆ สถานการณ์ โดยเฉพาะยามนี้
เราต้องยึดพระราชดำรัสของในหลวงท่าน คือ ความสามัคคี
เราจะใช้ีความสามัคคีนี่แหละค่ะ เป็นทางออกให้กับคนไทยทุกคน
จะทำกันได้อย่างไรบ้าง ติดตามอ่านกันต่อไปนะค่ะ

 

[FONT=&quot]อันที่จริงเรื่องของการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ เป็นสิ่งสำคัญ
และมีประโยชน์ในการทำธุรกิจครัวเรือนเป็นอย่างยิ่ง
เนื่องจากเป็นระบบสถาบันการเงินท้องถิ่น หรืออาจจะ
เรียกได้ว่าเป็น[/FONT][FONT=&quot] ธนาคารชุมชน ซึ่งทุก ๆ คนในท้องถิ่น
หรือชุมชนนั้น เป็นผู้จัดตั้งและมีส่วนร่วมด้วยกันทั้งสิ้น[/FONT]
[FONT=&quot]แต่คนส่วนใหญ่กลับนึกแต่การฝากเงิน-การถอนเงิน
จะต้องอยู่ในระบบธนาคารหรือสถาบัน[/FONT][FONT=&quot]การเงินระดับ
ประเทศ เช่น ธนาคารต่าง ๆ ที่เปิดอยู่ทั่วประเทศในตอนนี้ [/FONT]

 

ซึ่งไม่สามารถตอบสนองความต้องการของคนในชุมชนได้
เนื่องจากคนในชุมชนขาดความรู้ ความเข้าใจ ในระบบ
สถาบันการเงิน แต่เมื่อเราได้จัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์
เพื่อเป็นสถาบันการเงินให้กับคนท้องถิ่นหรือคนในชุมชน
สร้างความรู้ ความเข้าใจ และอำนวยความสะดวกสบาย
ในเรื่องของระบบการเงิน ก็จะทำให้คนในชุมชนหรือ
ภาคธุรกิจครัวเรือน เห็นถึงความสำคัญ และประโยชน์
ในการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ และจะได้เข้ามาเป็น
ส่วนหนึ่งของสหกรณ์ออมทรัพย์ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ
ภายในชุมชนให้เจริญก้าวหน้าขึ้นอย่างเป็นระบบ และ
มีแบบแผนในการทำงานอย่างชัดเจน

 

[FONT=&quot]หลายท่านอย่าสับสนกับคำว่า สหกรณ์ออมทรัพย์
กับกองทุนหมู่บ้านนะค่ะ[/FONT][FONT=&quot] กองทุนหมู่บ้าน จริง ๆ ก็ใช้
หลักการเดียวกับการทำสหกรณ์ออมทรัพย์นะค่ะ
ถ้าศึกษาให้ดี ๆ [/FONT][FONT=&quot]รูปแบบจะคล้ายกัน ต่างกันนิดเดียว
ที่ว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ เป็นของทุกคนที่เป็นสมาชิก
สหกรณ์[/FONT][FONT=&quot] ผู้ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ จะได้รับเงินปันผล
เมื่อครบปี [/FONT][FONT=&quot]แต่กองทุนหมู่บ้าน เมื่อครบสัญญาจะต้อง
นำเงินที่กู้ยืมไปส่งคืนตามสัญญาที่ได้ตกลงไว้เท่านั้น[/FONT]

 

[FONT=&quot]เรื่องของการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านนั้น นโยบายดี
หลักการดี แต่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง [/FONT][FONT=&quot]เพราะคนทำงานไม่เป็น
ไม่มีการให้ความรู้อย่างชัดเจน ดังนั้นคนส่วนใหญ่
ก็เลยนึกไปว่า[/FONT][FONT=&quot] กองทุนหมุ่บ้าน คือ เงินกองทุนของ
รัฐบาล ที่ให้คนในหมู่บ้านนั้นกู้เงินได้ ประกอบกับ[/FONT]
[FONT=&quot]ความโลภของคนและนักการเมือง ทำให้เงินกองทุน
หมู่บ้าน ๆ ละ 1 ล้านบาท[/FONT][FONT=&quot] ซึ่งจะต้องเป็นเงินคงคลัง
ประจำหมู่บ้าน เมื่อยืมไปแล้วต้องใช้คืน กลับกลาย
เป็นช่องทาง[/FONT][FONT=&quot]ในการกู้แบบไร้สาระ กู้เอาไปใช้จ่าย
ส่วนตัวบ้าง กู้แล้วเบี้ยว ไม่ยอมจ่ายเงินบ้าง กู้ไป
ให้กับ[/FONT][FONT=&quot]พรรคพวกหรือกลุ่มของตนเองบ้าง เพราะ
กองทุนหมู่บ้านคิดดอกเบี้ยถูก [/FONT]

 

[FONT=&quot]ดังนั้น ต่างคนก็เลย[/FONT][FONT=&quot]ต่างคิดจะกู้เงิน โดยที่ไม่รู้ว่า
จะกู้เพื่อไปทำอะไร แต่ขอกู้เอาไว้ก่อน เพราะรัฐ
ปล่อยงบลงมาให้[/FONT][FONT=&quot] ผลสุดท้าย ก็เป็นปัญหาที่มี
การฟ้องร้องเรื่องเงินกองทุนหมู่บ้านตั้งมากมายในเวลานี้[/FONT]


[FONT=&quot]ประวัติความเป็นมาของสหกรณ์ http://irrigation.rid.go.th[/FONT]

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->[FONT=&quot]การจัดตั้งสหกรณ์ http://webhost.cpd.go.th/rlo/coopestab.html[/FONT]

 

2) จัดตั้งศูนย์ธุรกิจชุมชน เช่น ศูนย์ธุรกิจชุมชน
บ้านนาพละ เป็นต้น ซึ่งมีประโยชน์ดังนี้ คือเป็น
ศูนย์กลางธุรกิจของชุมชน ซึ่งทุก ๆ คน หรือ
ทุกครอบครัว เป็นผู้มีส่วนรวมในการจัดตั้งขึ้น
โดยการระดมทุน เสมือนหนึ่งเป็นสหกรณ์ชุมชน
คือ ผู้ถือหุ้นทุกคน คือเจ้าของธุรกิจชุมชนนี้ และ
ได้รับเงินปันผลเมี่อครบปี