การรู้จักจิตผิดๆ ทำให้การศึกษาพระพุทธศาสนาผิดตลอดแนว

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 18 มีนาคม 2010.

  1. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ขอโทษนะครับ

    ที่บ้านพี่ชาติ เอาขันติ มาระงับอะไรในตนครับ ไม่ใช่กิเลสในตนหรือครับ

    ถ้าพี่ชาติพูดเต็มปากเต็มคำว่า สิ่งที่ผมทำตามคำอนุญาติของพี่ชาติ พี่ชาติ
    ได้ใช้ประโยชน์คือ ทำขันติ ก็ขันตินั้นแหละครับเป็นการข่มกิเลสในตนที่ได้
    แลเห็น

    ก็นี่แหละครับ ตรงนี้แหละครับเรียกว่า ขาดการสดับ อันเป็นหัวข้อหนึ่งที่ผม
    ติด้วย ไม่ใช่แค่ชักชวนให้แสดงเรื่องเอาการตำหนิของผมไปใช้ประโยชน์
    เพียงเรื่องเดียวที่ทำอยู่ คือ ถ้าสดับมากหน่อยก็จะรู้ว่า ขันติ เขาใช้ทำอะไร

    และถ้าไม่ยึดตัวภาษาพูด เอาแค่คำศัพท์แล้ว พ่นๆ ออกมาจากปากโดยไร้
    นัยยะอื่น พี่ชาติก็คิดว่า พี่ชาติไม่ได้พูดเรื่องการดูกิเลสในตน เพราะไปสำคัญ
    แค่ว่า พูดคำว่า ขันติ เท่านั้น คำอื่นไม่ได้พูด

    ในทางธรรมนั้น เขาไม่ได้ใช้ตรรกะ และ ไม่ได้ยึดตัวอักขระ ตัวอกษรครับ
    การปฏิบัติธรรมนั้น เขาเล็งเห็น อรรถในพยัญชนะ เป็นใหญ่
     
  2. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    อรชุน..ใยท่านชอบแผงศรนัก..?(โอ้โฮ..ติดอะไรมาหลายกระทู้เต็มไปหมด)
     
  3. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    หลวงปู่เทสก์กล่าวถึง " ความต่างกันระหว่างฌานกับสมาธิ "<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->[​IMG]


    แนะนำไปอ่านของหลวงปู่เทสน์ดีกว่า ทำความเข้าใจและพิจารณากับบทความนี้
    จะได้รับประโยชน์มาก และคงไขข้อข้องใจได้ทั้งหมด ฟังจากพระอริยะ ดีกว่าค่ะ
    และ โยคา เว ชยติภูริ ปัญญาเกิดจากการปฏิบัติ เพราะปุถุชนยังมีกิเลส ธรรมย่อมเข้าข้าง
    ตนเองเสมอ ยังละสักกยทิฐิไม่ได้
     
  4. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918

    เอาหละจุยส์ ชักคมคาย คายคม
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    เพ้อเจ้อ เรื่องขันติ

    มันเป็นนิทานหลอกเด็ก และ คิดไปเองว่า การยั่วโทสะ คือ การทำให้ ขันติเกิด

    ก็ อย่างที่บอกว่า คนไร้สาระคิดอะไรก็ไร้สาระ

    ดีไม่ดี ไปด่าคนมีสัจมีศีล ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลไกอะไรก็ตาม คำบริภาษ นั้นย่อมก่อให้เกิดผลร้าย กับ คนบริภาษเอง รวมไปถึง แม้แต่ เจ้าตัวเองก็แยกไม่ถูกว่า นี่กูโกรธจริง หรือ กำลังจะ ช่วยเขาให้เกิดขันติบารมี ไปๆ มาๆ ลงนรกเอง

    ทำชั่วแล้ว อย่าเอาธรรมมากลบ
    ความชั่วไม่ใช่ขี้แมว จะได้เอาทรายกลบแล้วมันจะหมดกลิ่น
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คนเรา เวลา ทำชั่ว แล้วแก้ตัวให้กิเลส มันก็เลี่ยงไป

    ก่อนหน้านี้ บอกว่า จะบำเพ็ญ เป็นพญามาร

    ต่อมา จะช่วยทำให้เกิดขันติ

    สรุปง่ายๆ นะครับ คนไม่ยอมแพ้ และ เถียงไม่ได้ เลยแถ
     
  7. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ขอให้ทุกท่านที่ต้องเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาในวันปีใหม่ไทย ด้วยความดีที่ข้าพเจ้ามีด้วยอานิสงค์แห่งกุศลกรรม อันมี ทาน ศีล ภาวนา เป็นต้นที่ข้าพเจ้าทำ ขอจงอำนวยอวยชัยให้ทุกๆท่าน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จงสมความปราถนา เดินทางปลอดภัย ภยันตรายใดๆอย่าได้กร่ำกราย ทั้งไปและกลับก็ให้เกิดสิริมงคลแก่ทุกๆท่านเทอญ<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->
     
  8. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    เล่นอะไรกันอยู่คะ เห็นคำนี้ออกมาเพ่นพ่าน เหมาะสมแล้วหรือ???

    (smile)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2010
  9. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    เมื่อภิกษุอาศัยนิมิตใดแล้ว มนสิการนิมิตใดอยู่
    วิตกอันเป็นบาปอกุศล ประกอบด้วยฉันทะบ้าง โทสะบ้าง โมหะบ้าง ย่อมเกิดขึ้น

    เมื่อเธอมนสิการนิมิตอื่นจากนิมิตนั้นอันประกอบด้วยกุศล
    วิตกอันเป็นบาปอกุศล ประกอบด้วยฉันทะบ้างโทสะบ้าง โมหะบ้าง
    อันเธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้
    จิตย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบ เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นในภายในนั้นแล

    เมื่อภิกษุนั้นพิจารณาโทษของวิตกเหล่านั้นอยู่
    วิตกอันเป็นบาปอกุศล ประกอบด้วย ฉันทะบ้าง โทสะบ้าง โมหะบ้าง
    อันเธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้
    เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้
    จิตย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบ เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่น ในภายในนั้นแล

    เมื่อภิกษุนั้นถึงความไม่นึก ไม่ใส่ใจวิตกเหล่านั้นอยู่
    วิตกอันเป็นบาปอกุศล ประกอบด้วยฉันทะบ้าง โทสะบ้าง โมหะบ้าง
    อันเธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้
    เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้
    จิตย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบ เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่น ในภายในนั้นแล

    เมื่อภิกษุนั้นมนสิการสัณฐานแห่งวิตกสังขารของวิตกเหล่านั้นอยู่
    วิตกอันเป็นบาปอกุศล ประกอบด้วยฉันทะบ้าง โทสะบ้าง โมหะบ้าง
    อันเธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้
    เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้
    จิตย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบ เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่น ในภายในนั้นแล

    เมื่อภิกษุนั้นกัดฟันด้วยฟันดุนเพดานด้วยลิ้น ข่ม บีบคั้น บังคับจิตด้วยจิตอยู่
    วิตกอันเป็นบาปอกุศล ประกอบด้วยฉันทะบ้างโทสะบ้าง โมหะบ้าง
    อันเธอย่อมละเสียได้ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้
    เพราะละวิตกอันเป็นบาปอกุศลเหล่านั้นได้
    จิตย่อมตั้งอยู่ด้วยดี สงบ เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่น ในภายในนั้นแล

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้เรากล่าวว่า เป็นผู้ชำนาญในทางเดินของวิตก
    เธอจักจำนง วิตกใดก็จักตรึกวิตกนั้นได้
    จักไม่จำนงวิตกใด ก็จักไม่ตรึกวิตกนั้นได้
    ตัดตัณหาได้แล้ว คลี่คลายสังโยชน์ได้แล้ว
    ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้แล้ว เพราะละมานะได้โดยชอบ
    [ได้มารู้ยิ่งซึ่งธรรมของท่านที่เป็นพระอรหันต์โดยชอบ]

    พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว
    ภิกษุเหล่านั้นมีใจชื่นชมยินดีภาษิตของผู้มีพระภาค แล้วแล.

    อ่านเต็มๆที่นี่

    ;aa24
     
  10. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    54
    ค่าพลัง:
    +4,023
    ..... คติธรรมพระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร วัดถ้ำสหายธรรมจันทร์นิมิตร จ. อุดรธานี
    ท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร วัดถ้ำสหายธรรมจันทร์นิมิตร จ. อุดรธานี เป็นพระกรรมฐานอาวุโสอีกท่านหนึ่งในยุคปัจจุบัน
    และเป็นผู้ที่หลวงปู่เจี๊ยะ วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม ให้ความเคารพนับถือ แม้องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด ก็เคยกล่าวยกย่องไว้ ครั้งหนึ่ง พระอาจารย์จันทร์เรียนได้ให้คติแก่คณะที่ไปกราบสนทนาธรรมกับท่านว่า


    " เวลาทานอาหาร แทนที่จะพิจารณาว่าสุดท้ายมันจะออกมาเป็นยังไง กลับกินด้วยความอยาก ปากยังอมอยู่ ตาก็ดูหาของที่อยาก เตรียมป้อนใส่ปากต่ออีก "


    " ถ้าปากก็พูดสอนถึงแต่เรื่องนิพพาน แต่พฤติกรรมมีแต่การสั่งสม ก็ใช้ไม่ได้ "


    " อย่าไปให้ความสำคัญกับของขลังภายนอกยิ่งกว่าทำจิตของเราให้เป็นพระ ตัวเรานั่นแหละเป็นแก้วสารพัดนึก "


    " การดูจิตที่อ้างคำกล่าวของหลวงปู่ดูลย์มันก็ถูกของท่าน แต่มันเป็นคนละขั้นคนละตอนกับเรา
    ท่านเหมือนมีทรัพย์บริบูรณ์แล้ว ก็มองดูทรัพย์นั้น ท่านดูจิตแบบเป็นวิหารธรรมของท่านเฉย ๆ แต่เราหละ มีสมบัติคือศีลสมาธิอย่างท่านแล้วหรือ
    จิตมันยังไม่ยอมอยู่กับเจ้าของ จิตไม่มีสมาธิก็ย่อมไม่อิ่มไม่พอ จึงมีแนวโน้มแล่นไปตามความอยาก ดูแต่ที่ชอบใจ ดูจิตอย่างนี้แล้วจะยังไงต่อหละ มันไม่ได้ดูเพื่อปล่อยเพื่อวาง "



    " นักปฏิบัติสมัยนี้ ไม่ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า จะเอาแต่ปัญญา ๆ ท่านอัญญาโกณทัญญะท่านฟังธรรม บรรลุธรรม
    ก็เพราะท่านมีทุนเดิมคือ ศีล สมาธิ ที่มากพอแล้ว ไม่ใช่ไม่มี หรือไม่ต้องใช้ "


    พอดีอ่านเจอมาเลยเอามาฝาก
    http://palungjit.org/threads/คติธรร...วัดถ้ำสหายธรรมจันทร์นิมิตร-จ-อุดรธานี.234729/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 เมษายน 2010
  11. วิศว

    วิศว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,349
    ค่าพลัง:
    +5,104
    ข้อวัตรปฏิบัติ วัดถ้ำสหายธรรมจันทร์นิมิตร

    พระเณรชีและผู้ปฏิบัติภาวนา สวดมนต์ทำวัตรเย็น เวลา ๑๖.๐๐ น. ถึง ๑๗.๓๐น.
    พักฉันน้ำปานะ เวลา
    ๑๗.๓๐น.ถึง ๑๘.๐๐น.
    นั่งภาวนา ตั้งแต่
    เวลา ๑๘.๐๐ น.ถึง ๒๔.๐๐น.
    โดย
    พระอาจารย์จันทร์เรียน ท่านฯ นั่งคุมภาวนาจนหมดเวลาทุกวัน

    พระอาจารย์จันทร์เรียน ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งในสายพระป่า
    เป็นลูกศิษย์องค์หนึ่งขององค์หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
    ท่านเป็นครูบาอาจารย์องค์หนึ่ง ผู้มีความเก่งกล้าในด้านจิตตภาวนาที่หาได้ยากยิ่งนัก
    ในปัจจุบัน จนเป็นที่ร่ำลือกล่าวขานกันในหมู่พระป่าผู้มุ่งด้านจิตตภาวนา

    ท่านหัดสวดพระปาฏิโมกข์ได้ภายใน ๗ วัน
    เน้นปฏิบัติให้ดูมากกว่าสอนด้วยคำพูด ท่านไม่รับกิจนิมนต์นอกวัด

    เพราะต้องการอยู่อบรมพระเณรให้อยู่ในสายตา
    จึงเป็นที่เคารพและเกรงกลัวต่อหมู่ศิษย์ให้อยู่ในโอวาทท่านฯ
    ไม่กล้าออกนอกลู่นอกทางที่ผิดจากแนวคำสอนของพ่อแม่ครูจารย์

     
  12. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    อนุโมทนาครับ ท่านวิสุทฺโธ ท่านเสขะบุคคล
    น่ายินดีที่ยังมีพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบคอยสอนสั่ง
    ให้มีการปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนาอย่างเข้มงวดกวดขันอยู่
    ถ้ามีอย่างนี้มากๆ ไม่ต้องกลัวเลยว่าพระศาสนาจะเสื่อมสูญ
    และไม่ต้องกลัวเลยว่าสงฆ์จะแตกแยก

    สงฆ์จะแตกแยก น่าจะเป็น เพราะ
    ๑.ไม่เคารพในพระพุทธเจ้า เท่านั้นยังไม่พอ สอนว่าเจอพระพุทธเจ้าให้ฆ่าทิ้ง
    ๒.ไม่เคารพในพระธรรม เท่านั้นยังไม่พอ สอนว่าอย่าอ่านพระสูตร
    ๓.ไม่เคารพในพระสงฆ์ เท่านั้นยังไม่พอ กล่าวหาว่าพ่อแม่ครูบาอาจารย์กล่าวธรรมคลาดเคลื่อน
    ๔.ไม่ตั้งใจศึกษาธรรม เท่านั้นยังไม่พอ ปล่อยให้จิตไหลไปตามอารมณ์ รอให้สติเกิดเอง
    ๕.ไม่ปฏิบัติสมาธิ เท่านั้นยังไม่พอ สอนให้มองข้ามการทำสมาธิด้วยเห็นว่าไม่จำเป็น

    ;aa24
     
  13. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918

    http://palungjit.org/threads/พบผู้รู้-ทำลายผู้รู้-พบจิต-ทำลายจิต-ฉบับ-พระป่า-หลวงพ่อสงบฯ.232561/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2010
  14. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918

    http://palungjit.org/threads/ดูเกิดดับให้ติดต่อเพื่ออบรมบ่มปัญญาให้แก่กล้า.234759/
     
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    เคล็ดปฏิบัติสมาธิ
    โดย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ


    จิตนี้เมื่อถูกสติเตือนเข้าบ่อยๆ มันก็รู้ตัว รู้ตัวแล้วมันก็คลาย มันก็ปล่อยวางอารมณ์ ไม่ส่งเสริม ไม่คิดไม่ปรุงไปอีก มันสำคัญ เรื่องสมาธินี่สำคัญมากทีเดียว เรื่องปัญญานั้นมันเกิดจากสมาธิ ดังนั้นเมื่อเราไม่สามารถจะทำสมาธิให้บังเกิดได้ ปัญญามันก็เกิดไม่ได้ ปัญญาในที่นี้หมายถึงปัญญาที่เกิดจากสมาธิ ปัญญาที่เกิดจากสมาธินี้เป็นปัญญาที่รู้แจ้งในธาตุสี่ ขันธ์ห้า ในนาม ในรูป ไม่ปรารถนารู้อย่างอื่น

    อ่านเต็มๆที่นี่ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...