><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386
    4286.สุดยอดของดีศิษย์ 3ต. เสกยาวนาน ลงกรุหายากมีOption หนุมานหักศร
    หลวงปู่ตี๋ วัดท่ามะกรูด จอมขมังเวทย์แห่งเขาเขียว ลพ.กวย ประจุพลัง

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    หนุมานหักศร หลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโม วัดท่ามะกรูด ต.กระเสียว อ.สามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี เนื้อดินผสมผงพุทธคุณหลังกระดาน ( ชุดลงกรุสำนักสงฆ์เขาเขียว ) ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2515 - 2517

    หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม สร้างแล้วมอบให้ หลวงปู่ตี๋ นำไปแจกจ่ายแก่ญาติโยมผู้ศรัทธา คราวสร้างสำนักสงฆ์เขาเขียว จ.สุพรรณ

    ด้านหลัง
    - ติดรูปถ่ายที่ทันหลวงปู่
    - ปั้มหมึกยันต์ เพื่อแยกว่าชุดนี้อยู่กับหลวงปู่จนมรณภาพ ปั้มยันต์แบบเดียวกับพระผงล้อพิมพ์หลวงพ่อปาน

    - ติดแผ่นเงินยันต์ ตอก 2โค้ด



    ***** พระชุดนี้เป็นพระที่อยู่กับหลวงปู่ตี๋ ตั้งแต่ปี 2517 -2553 จนท่านมรณภาพ เสกสำทับยาวนาน 36 ปี แบบนับครั้งไม่ถ้วน เพราะปกติวัตถุมงคลที่อยู่กับท่าน ท่านจะเสกตลอดเวลาตามอัธยาศัยของท่าน โดยมีการปั้มตราหมึกไว้เพื่อป้องกันการสับสน และทำเสริม ที่สำคัญชุดนี้ต้องปั้มหมึกเท่านั้น

    ผมบูชาทำบุญโดยตรงมาจากทางสำนักหลังหลวงปู่ตี๋มรณภาพแล้ว ปัจจุบันแทบไม่มีหมุนเวียนให้เห็นแล้ว แม้กระทั่งในอินเตอร์เน็ตเว็บต่างๆก็ไม่มีให้เห็น เพราะสร้างน้อย บรรดาลูกศิษย์เก็บกันหมด ถือเป็นของดีที่ราคาจับต้องได้ที่หลวงพ่อกวย ปลุกเสกให้แบบประวัติชัดเจน จากศิษย์ สาม ต. ตัวจริง ******



    ปลุกเสกเดี่ยวโดย
    - หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    - หลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโม วัดท่ามะกรูด



    ความคิดเห็นส่วนตัวผมครับ

    " ศิษย์ 3 ต. ตัวจริงเสียงจริง ที่หลวงพ่อกวยได้สืบทอดวิชาให้ ตี๋ เตี้ย ตั้ว โดยส่วนตัวแล้วหลวงปู่ตี๋ท่านจะเก็บตัวไม่ยุ่งกับใคร และดุ ไม่ติดอะไรๆ เก่งจริงของจริงแต่ไม่ชอบแสดงไม่อยากดัง ถ้าท่านอยากดังทันดังไม่แพ้ครูบาอาจารย์ท่านแน่นอน จึงทำให้คนรู้จักท่านเฉพาะตามสาย หลวงพ่อกวยหลวงพ่อมุ่ย ที่สืบตามกันมา แต่บอกได้เลยสรรพวิชารวมอยู่ที่นี้เยอะมากๆ "

    " สายนี้ครูเเรง ท่านสืบทอดวิชาอย่างเข้มขลังจากอาจารย์ สู่ลูกศิษย์ แม่นยำตามตำราโบราณทุกอักขระเลขยันต์ รวมทั้งปฏิปทาข้อวัตรปฎิบัติล้วนแล้วปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ สมถะ เคร่งครัด และไม่ยึดติดลาภยศสรรเสริญแต่อย่างใด จึงเป็นที่วางใจในเรื่องพุทธคุณได้เลย ว่าไม่เป็นสองรองใครแน่นอนครับ "





    " กินไม่ไหว ใช้ไม่หมด อดไม่เป็น "


    หลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโม วัดท่ามะกรูด จังหวัดสุพรรณบุรี
    - พระเถระผู้เป็นดั่งเพชรซ่อนแสงแห่งเมืองสุพรรณ ปรากฏเกียรติคุณความเข้มขลังมานานปี
    - ผู้เป็นบุตรบุญธรรมหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา
    - ผู้เป็นศิษย์รูปสำคัญแห่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    - ผู้เจนจบวิชาดวงแก้วพระสิวลี ด้วยเป็นศิษย์หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    - สมณะสารูปเรียบง่าย สมถะ สันโดษ ไม่สนใจลาภยศตำแหน่งใดๆ
    - สำเร็จอภิญญา 6 สำเร็จกสิณไฟ นั่งบนผิวน้ำ รู้ใจคน พูดกับลิงรู้เรื่อง
    - ขับมอเตอร์ไซค์บิณฑบาตร ฝนตกไม่เปียก
    - ลองฤทธิ์กับเจ้าพ่อเขาเขียว
    - ถูกโจรปล้นโดนทำร้าย3ครั้งจนเกือบมรณะภาพ แต่ไม่ยอมหนีรอใช้หนี้กรรม
    - โดนมีดอีเหน็บฟันจนกรามขวาหัก
    - มีด3เล่มแทงซี่โครงขวาหักไม่มีแผล หมอศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดแต่ว่ามีดผ่าไม่เข้า
    - เจ้าของฉายานามว่า จี้กง จอมขมังเวทย์แห่งเขาเขียว หลวงปู่ตี๋ เมืองสุพรรณ

    ชีวประวัติของหลวงปู่ตี๋

    หลวงพ่อตี๋ วัดกระเสียว หลวงพ่อตี๋ วัดเขาเขียว หลวงพ่อตี๋ วัดท่ามะกรูด คือรูปเดียวกัน
    พระอธิการวิทยา ฉันทธัมโม หลวงปู่ตี๋ เจ้าอาวาส วัดเขาเขียวพนาราม ต.หัวเขา อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ปัจจุบันท่านได้ย้ายมาพักรักษาตัวอยู่ที่วัดท่ามะกรูด ต.กระเสียว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ซึ้งห่างจากวัดเขาเขียวเพียง ๓ กิโลเมตรเท่านั้น

    ชาติภูมิ

    หลวงปู่ตี๋ เกิดเมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๗ ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๙ ปี ชวด (มรณะเมื่อ ๑๗พ.ศ.๒๕๕๓ อายุ๘๖ปี) ณ.บ้านท่าน้ำตลาดท่าช้าง อ.เดิมบางนางบวช เป็นบุตรของนายห้อย นาง กิมบี้ นามสกุล น้ำดอกไม้ หลวงปู่ตี๋มีพี่น้องทั้งหมด ๔ คน เป็นชาย ๓ คน หญิง ๑ คน หลวงปู่ตี๋เป็นบุตรคนโต

    วัยเด็ก

    แต่เดิมโยมพ่อท่านเป็นช่างก่อสร้างมณฑปบนยอดเขาวัดหัวเขา อ.เดิมบางนางบวช และเมื่อตอนสร้างมณฑปนั้นได้นำเด็กชายตี๋ในขณะนั้นติดตามไปด้วยตลอด และหลวงพ่ออิ่ม เจ้าอาวาสวัดหัวเขาได้เห็นเด็กชายตี๋เข้า จึงเมตตาเลี้ยงดูให้ในขณะที่โยมพ่อหลวงปู่ตี๋กำลังทำงาน หลวงพ่ออิ่มได้ป้อนข้าวป้อนน้ำเลี้ยงเด็กชายตี๋เปรียบเสมือนลูกในไส้ และรักเด็กชายตี๋มาก และดูดวงชะตาเด็กชายตี๋ก็ทราบว่า ในอนาคตเด็กผู้นี้ต้องบวชไม่สึก และจะเป็นกำลังสำคัญในพระพุทธศาสนา ท่านจึงมอบตำราวิชาอาคมของท่านจำนวน1 เล่มไว้ให้กับโยมพ่อของหลวงปู่ตี๋เก็บรักษาเอาไว้ให้หลวงปู่ตี๋เมื่อโต ก่อนที่หลวงพ่ออิ่มท่านจะมรณภาพ

    บรรพชา

    เมื่อหลวงปู่ตี๋อายุ ๑๕ ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร และเริ่มเรียนวิชาต่างๆจากตำราของหลวงพ่ออิ่ม สิริปุญโญ วัดหัวเขา ที่โยมพ่อของท่านได้เก็บรักษาเอาไว้จนแตกฉาน

    อุปสมบท

    จวบจนอายุ ๒๐ ปี จึงได้อุปสมบท ณ.พัทธสีมาวัดเขาพระ อ.เดิมบางนางบวช เมื่อวันที่ ๑๙ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๗ โดยมีพระครูอเนกคุณากร (หลวงปู่แขก) วัดหัวเขา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์พิณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ไสว เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    เรียนวิชาอาคม
    พระอาจารย์องค์ที่ : 1
    - หลวงพ่อพระครูเอนกคุณากร ( หลวงพ่อแขก ) วัดหัวเขา เป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อมา จึงทำให้ หลวงพ่อแขก ต้องอุปการะเลี้ยงดู หลวงปู่ตี๋ ต่อมา และได้จัดการบวช เป็นสามเณรให้หลวงปู่ตี๋ เมื่ออายุได้ 15 ปี และ เป็นพระอุปฌาช์ ให้หลวงปู่ตี๋ เมื่ออายุครบ 20 ปี ได้อุปสมบถ ที่วัดเขาพระ มาอยู่วัดหัวเขากับ หลวงพ่อแขก และ มักขอ หลวงพ่อแขก ออกธุดงค์อยู่บ่อยครั้ง หลวงพ่อแขกก็มักให้ หลวงปู่ตี๋ ท่องเรียน วิชา หาความรู้ อักษรขอม เขียน อ่าน และมอบวิชาให้ จนไม่รู้จะสอนอะไรให้ จึงแนะนำให้หลวงปู่ตี๋ ไปเรียนต่อ กับหลวงพ่อมุ่ย

    พระอาจารย์องค์ที่ : 2

    - หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร ต่อเมื่อ ปี 2497 เมื่อหลวงปู่ตี๋ไปกราบ ฝากฝังตัวกับ หลวงพ่อมุ่ย เรียบร้อย ทำให้หลวงพ่อมุ่ย ถึงกับอุทานออกมาว่า อ้อ.. ลูกพ่อครูนี่เอง หลวงพ่อมุ่ยพร่ำสอนวิชา ให้หลวงปู่ตี๋ แบบหมดใส้หมดพุง ทั้งให้ความรัก ให้ความเอ็นดู หลวงปู่ตี๋ เป็นอย่างมาก ถึงกับชักชวน หลวงปู่ตี๋ มาเป็นเจ้าอาวาส วัดกระเสียว เมื่อปี 2509 หลวงปู่ตี๋ เป็นพระเกจิที่ชอบธุดงค์ เป็นชีวิตจิตใจ ก็มักฝากวัดไว้กับรองเจ้าอาวาส แล้วท่านก็มักออกไปธุดงค์ อยู่อย่างต่อเนื่อง จนไม่รู้จะสอนอะไรให้

    พระอาจารย์องค์ที่ : 3

    - หลวงพ่อทิม วัดระหารไร่ เมื่อครั้งหลวงปู่ตี๋ได้ไปธุดงค์ ทางภาคตะวันออก หลวงปู่ตี๋ ได้ไปพบกับหลวงพ่อทิม เข้าโดยบังเอิญ และก็ไม่รู้จัก หลวงพ่อทิมมาก่อน หลวงปู่ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อปักกรด วันนั้นก็ได้ไปเจอกับพระ 3 องค์ ท่าทางขมังเวทย์ ท่าทางเฉยไม่พูดมาก น่าเกรงขาม หลวงปู่จึงปักกรด อยู่ใกล้ๆ ไม่ห่างมากนัก ตกเวลากลางคืน หลวงปู่ตี๋ก็เริ่มทดสอบวิชา ที่เรียนมา โดยตกเวลาเที่ยงคืนเห็นจะได้ หลวงปู่ตี๋ก็เสกมือทำให้ยาวๆ ตรงไปที่หลวงพ่อทิมนั่งปักกรดอยู่ มือยาวหลวงปู่ตี๋ที่เสก ไม่พูดพร่ำทำเพลง หยิบเอาฝาบาตรที่คว่ำอยู่ ก็ทำการเคาะกับบาตร เสียงดังสนั่นหวั่นไหว โป้งเปร๋งๆๆๆ เล่นเอาหลวงพ่อทิมแรกๆก็ทำเฉย เหมือนทองไม่รู้ร้อน แต่พอเคาะไปได้สักพักหนึ่ง หลวงพ่อทิมก็ รีบแก้ประคตที่เอวเอาออกมา แล้วว่ากำกับวิชา และ ก็ผูกไปที่มือหลวงปู่ตี๋ทันที หลวงปู่ตี๋เห็นท่ามือตึงๆดังนั้น หลวงปู่ตี๋จึงจะชักมือกลับ แต่ทว่าจะหดมือกลับเท่าไรก็กับไม่ได้ เหมือนมีอะไร มามัดเอามืออยู่แน่น จึงทำให้หลวงปู่ตี๋ ต้องใช้ตัวเดินตามมือไปยังกรด หลวงพ่อทิม เมื่อมาถึงหน้ากรด หลวงพ่อทิมก็พูดขึ้นมาว่า โอ้...ช่างเป็นวาสนาแท้ๆ ที่มีพระผู้มีอำนาจวาสนา มาเยี่ยมอาตมาถึงที่กรด นับว่าเป็นความโชคดีของผมแท้ๆ....หลวงปู่ตี๋จึงรีบตอบไปว่า ท่านนี้ก็ไม่เบาที่สามารถ ผูกแขนให้ผมมาตามได้ ตกลงจะเอาอย่างไร ..หลวงพ่อทิมบอกไม่มีอะไรหรอก เพียงเราแค่ใช้วิชาผูกมือ ที่เขาชอบมาทำความรำคาญให้นั่งสมาธิ ไม่สงบเท่านั้น เลยผูกไว้ จะได้สงบ แล้วท่านละมาตามมือหรือมาหาอาตมาล่ะ หลวงปู่บอกขอมือผมเถอะ เท่านี้ผมก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร คงเป็นบุญของผมมากกว่า ที่มาพบพระอาจารย์ที่เก่ง เมื่อพูดกันอยู่นั้น พระที่อยู่กับหลวงพ่อทิมอยู่นั้น ก็โผ่หน้าออกมา มองหลวงปู่ตี๋ แล้วก็ทำเป็นหัวเราะ ดูเหมือนจะถูกเยาะเย้ย หลวงพ่อทิมเอง ก็ดูเหมือนจะว่าด้วยสายตาพระที่มามองอยู่นั้น หลวงปู่ตี๋เองก็ดูเหมือนว่า จะถูกเย้ย ด้วยอารมณ์ที่ร้อนและไม่ค่อยยอมใครอยู่แล้ว ก็รีบเดินหันหลังกับมายังกรด ของตัวเองทันทีเวลาผ่านไปเกือบตีสาม ทันใดนั้นก็มีเสียงเสือใหญ่ มาร้องใกล้ๆกรด คำรามเสียงดังโฮกๆๆๆ ดูเหมือนวิ่งวนกรดไปมา จนฝุ่นตลบ แต่ร้องแบบใกล้ๆนั้นเอง เล่นเอาพระที่อยู่กับหลวงพ่อทิม ทั้งสองรูปนั้น ถึงกับกลัวจนปัสวะแตก ไหลออกมาทันที สักพักใหญ่ เจ้าเสือที่ร้องอยู่นั้น ก็หายเงียบไป จนรุ่งเช้า หลวงปู่ตี๋ก็เดินไปกราบหลวงพ่อทิม สามครั้ง หลวงพ่อ ยิ้มให้เป็นการทักทาย หลวงปู่ตี๋นั่งลง พระทั้งสององค์ก็นั่งอยู่ข้างๆ หลวงพ่อทิม หลวงปู่ตี๋ จึงเอ่ยขึ้นมาว่า เมื่อคืนนี้ ผมอยากจะรู้ว่าหลวงพ่อมีวิชามากน้อยแค่ไหน จึงคิดอยากลองไถ่ถามดู ให้หายข้องใจ หลวงพ่อทิมยิ้มตอบ แล้วพูดขึ้นมาว่า แล้วท่านเห็นเป็นอย่างไรเล่า หลวงปู่ตี๋บอก ผมยอมครับ พระสองรูปจึงหัวเราะ หลวงปู่ตี๋ แทนคำพูด หลวงปู่ตี๋จึงพูดตอบ ไปว่า..เป็นไงเล่าท่าน เมื่อคืนนี้ได้ข่าวว่ามีเสือ มาร้องรบกวนแถวนี้ไม่ใช้หรือ เป็นไงกลัวไหม พระสององค์มองหน้ากันเหมือนจะตอบว่า ไม่กลัว แต่มิทันได้ตอบ หลวงปู่ตี๋ ท่านก็พูดสวนขึ้นมาทันทีว่า ไม่กลัวแล้วเหยี่ยวแตกทำไม เห็นตัวมันไหม ไม่เห็นตัวสักหน่อย ก็กลัวจนปัสวะแตกแล้ว อะไรกัน.. หลวงพ่อทิม จึงพูดขึ้นมาว่า นี่แหละ ที่หลังอย่าไปเยาะเย้ยเขา คนเราเก่งไม่เหมือนกัน นี่แหละจำไว้ หลวงปู่ตี๋จึงบอกความประสงค์ ต่อ หลวงพ่อทิมว่า หลวงพ่อจะปักกรดอยู่ที่นี่กี่วัน หลวงพ่อทิมบอกอีก 7 วัน หลวงปู่ตี๋จึงบอกว่า อีกหลายวันก็ยิ่งดี ผมจะได้ขอเรียนด้วยซะเลย หลวงพ่อทิมบอก 7 วันจะไปได้เรื่องอะไรเล่า ท่านอยู่ที่ไหนเล่า หลวงปู่ตี๋บอก ผมอยู่สุพรรณครับ หลวงพ่อทิมจึงตอบว่า คนสุพรรณนั้น เขาเป็นคนจริงนะ หากจะเรียนก็ไปเรียนได้ แต่ต้องไปเรียน 1 พรรษานะ จะให้เรียน ถ้าแน่จริงสมคำล่ำลือ สุพรรณล่ะก้อ ขอให้ไปเรียนด้วยกันที่วัดระหารไร่โน้น และเมื่อกลับจากธุดงค์ หลวงปู่ตี๋จึงฝากวัดไว้กับรองเจ้าอาวาส แล้วไปจำพรรษาอยู่ที่วัดระหารไร่ 1 พรรษา เพื่อเล่าเรียนกับหลวงพ่อทิม 1 พรรษา หลวงปู่ท่านได้วิชามา กับหลวงพ่อทิม มาคือวิชา ผงพรายกุมาร ปลุกเสกเครื่องราง วิชาขุนแผน ทำและปลุกเสก วิชาเรียกกุมาร วิชาชูชก ทำผงพรายกุมาร ฯลฯ เป็นหลัก นี่คือส่วนหนึ่งที่นำมาเล่าให้ฟังเป็นอาจารย์หลวงปู่อีกท่านหนึ่ง ที่หลวงปู่บอก ลืมไม่ได้

    พระอาจารย์องค์ที่ : 4

    - หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท เมื่อปี 2509 หลวงปู่ตี๋ท่านได้ไปมาหาสู่ หลวงพ่อกวยอยู่เป็นประจำ ไปๆ มาๆ แต่ทว่า ท่านยังเรียนเป็น อาจารย์ๆอยู่ แต่ได้รู้แน่นอนแล้วว่า หลวงพ่อกวย ท่านเป็นหนึ่ง ในศิษย์หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา หลวงปู่ตี๋ท่านจึง ไปกราบขอฝากตัว เป็นศิษย์หลวงพ่อกวยทันที หลวงพ่อกวยท่านก็พอทราบ ว่าหลวงปู่ตี๋ เป็นบุตรบุญธรรม หลวงพ่ออิ่ม ท่านก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง หรือ อะลำพะบท อะไรว่าเป็นอะไร ท่านก็รีบจูงมือหลวงปู่ตี๋ เข้ากุฏิ แล้วให้บทขึ้นครู ปรากฏว่า หลวงปู่ตี๋ ท่านได้บทมาหมดแล้ว จึงไม่เป็นการยากอะไรอีก เท่านั้นหลวงพ่อกวย ท่านก็เฝ้าสอน วิชา หลวงพ่อกวย ด้วยตัว ของหลวงพ่อกวยเอง กับมือแล้วก็สอนทุกอย่างที่หลวงปู่ตี๋ต้องการ หลวงปู่ตี๋บอก หลังจากรับเป็นศิษย์ ป้องของตามจำนวนที่ฝากตัวจนครบ ทั้งนำตำราใส่หัวให้แล้ว หลวงปู่ตี๋ ท่านก็เรียนสักยันต์ รูปต่างๆ เช่น หนุมาน ลิงลม หมูทองแดง หงษ์ทอง เก้ายอดเป็นต้น ฯลฯ เรียนทำปลัดขิก ปลุกเสก ตะกรุด ผ้ายันต์ ปลุกเสกต่างๆ มีดหมอ ทำมีด สิงห์ที่เดิมได้มาจากหลวงพ่อมุ่ยบ้างแล้ว นอกนั้นยังจบดวงธรรมพระสิวลี ไม่อดไม่อยาก ไม่ยาก ไม่จน ไม่ต่ำกว่าคน ไม่จนกว่าใคร ปลุกเสกช้อนไม่อดไม่อยาก นอกนั้น ท่านยังมีตำรา สักที่หลวงพ่อกวยให้ไว้กับมือ เช่นสักเสือเผ่น อินทรีย์ผง่าดฟ้า หมี สิงห์ ลิง ลิงลม มากมายที่ได้จดไว้ นอกนั้นหลวงปู่ตี๋ ยังจบทำน้ำมันว่านสัก และ วิชาต่างๆมากมาย ยังมีตำราเรียนทุกวันนี้

    พระอาจารย์องค์ที่ : 5

    - หลวงตาจวน วัดไก่เตี้ย เพราะหลวงปู่ตี๋ ท่านบอกหลวงตาจวน วัดไก่เตี้ยนี้ ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา ท่านหลวงตาจวนนี้ ได้วิชากุญแจมนต์มา จากหลวงพ่ออิ่ม ที่สามารถผูกวิชา ผูกตำรา ทั้งหมดไว้ ไม่ให้เสื่อมถอย หรือหนีหาย หลวงปู่ตี๋ จึงตัดสืนใจไปเรียน กับหลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย ซึ้งหลวงพ่อจวน ก็มิได้ขัดข้อง ที่หลวงปู่คี๋จะมาเรียน ท่านก็สอนหมดทุกอย่าง โดยเน้น วิชากุญแจมนต์ พญามนต์ จ่ามนต์ และ ผูกมนต์ และท่านมักพูดอยู่เสมอว่า ของๆกู จิ้มห.หมาก็ไม่เสื่อม วิชาผูกผี กันผี แก้ของต่างๆ อีกมากมายหลายอย่าง

    พระอาจารย์องค์ที่ : 6

    - หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ สมัยนั้นหลวงปู่เย็นวัดสระเปรียน ยังอยู่วัดเดียวกับหลวงปู่บุดดา ถาวโร อยู่ที่วัดกลางชูศรีเจริญสุข หลวงปู่พอรู้ว่า หลวงพ่อเย็น ท่านเป็นศิษย์ท่านหนึ่ง ที่ได้ไปเรียนกับ หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา จึงเดินทางไปขอเรียน กับหลวงพ่อเย็นทันที ทางด้านพ.พาน เป็นวิชาทางสายหลวงปู่ศุข แต่หลวงปู่ตี๋ เรียนวิชา ด้านกสินเพิ่ม อภินิหารต่างๆ ย่นหนทาง ปากพระร่วง เสกของ และอีกหลายอย่าง จึงทำให้หลวงปู่ตี๋ ได้ตำรา และ ฝากตัวเป็นศิษย์ กับ หลวงพ่อเย็น แบบสมบูรณ์แบบ

    พระอาจารย์องค์ที่ : 7

    - หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข หลวงปู่ตี๋ เมื่อไปหาหลวงพ่อเย็น ก็พบกับ หลวงปู่บุดดา ก็ถูกคอ และสนทนาธรรมกับหลวงปู่บุดดา จนถูกคอ ถึงธรรมต่างๆ หลวงปู่ตี๋จึงได้ฝากตัวและ เรียนวิชากับหลวงปู่บุดดา วิชาเอก คือเสกแป้ง และ เมตตาต่างๆ ทั้งสีผึ้ง เคล็ดต่างๆเกี่ยวกับวิชาที่ใช้ และ หลีกเลี่ยงในข้อบัญญัติต่างๆ ที่สามารถหลบหลีก เลี่ยง และ ไม่มีความผิดในด้านวิชาต่างๆ

    นอกจากนั้น หลวงปู่ตี๋ได้ข่าวว่า พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา ได้เรียนจากหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา หลวงปู่จึงไปขอเรียน แต่พระอาจารย์นำท่านเห็นหลวงปู่ตี๋แล้ว ท่านบอกไม่ต้องมาฝากตัวเป็นศิษย์หรอก หากต้องการวิชาอะไรก็มาจดได้เลย และ อนุญาติให้หลวงปู่ตี๋เท่านั้น จึงทำให้หลวงปู่ตี๋ได้จดวิชา ตำราในวิชาสายหลวงปู่อิ่ม ไว้ได้เต็มรูปแบบ

    : ปัจจุบันท่านมรณะแล้ว เมื่อวันที่ 17 พ.ศ.2553 อายุ 86ปี
    ที่มา :: Pantown :: everyone's online society



    สภาพเก่าเก็บผิวหิ้ง มีมุมล่างกดไม่ติดบ้างตามแบบฉบับพระโบราณครับ พุธคุณครอบครบ เมตตาค้าขาย และสายเหนียว ของดีราคาเบาที่น่าติดตัวอีกรุ่น ผมขอแนะนำครับ แบ่งให้บูชา 1,999 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณMATHS จองแล้วครับ)



    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2025 at 11:23
  2. MATHS

    MATHS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    756
    ค่าพลัง:
    +911
    ขอจองครับ
     
  3. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386
    .




    ขออนุญาตแจ้งกำหนดการจัดส่งครับ



    *** ส่งวันที่ 06/02/2568

    ตัดรอบ เวลา 12.00 น. ***


    หากเลยกำหนดนี้จะมีรอบอีกสัปดาห์หน้าเลยครับ
    กราบขออภัยในความล่าช้าด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ



    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif

     
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386
    4287.สวยกล่องเดิมๆ สุดยอดผงอิทธิเจ ตำนานกลางมุ้งลบผง พระสมเด็จอิทธิเจนะหน้าทอง
    หลวงปู่ปรง สาสโน วัดธรรมเจดีย์ เมตตามหาเสน่ห์เมืองสิงห์
    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]
    พระสมเด็จอิทธิเจ นะหน้าทอง หนังตัวหนังสือ หลวงปู่ปรง สาสโน วัดธรรมเจดีย์ จังหวัดสิงห์บุรี เนื้อผงอิทธิเจ ฝังแผ่นยันต์นะหน้าทอง ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2539 จำนวนการสร้าง 5,000องค์

    การปลุกเสกวัตถุมงคล ท่านจะอัญเชิญพระอรหันต์ ครูบาอาจารย์มาร่วมปลุกเสกด้วยเสมอ โดยตัวท่านเองจะปลุกเสกด้วยพระคาถาบทอื่นๆตามความเหมาะสมของวัตถุมงคลนั้น

    การใช้ยันต์นะหน้าทอง มีวิธีการใช้คร่าวๆ ดังนี้
    เอาเเป้งร้ำหนึ่งเม็ดวางไว้บนตัวยันต์ สำรวมจิตให้ดี ตั้งนะโมสามจบ เเล้วภาวนาคาถาว่า นะภาโร สุวัณโณอิวะ.... จบเเล้วกดเเป้งให้เเตก เเล้วภาวนาเเป้งเสกว่า โอมพระฤาษีทั้งสี่ตน ประสาทมนต์มอบประสิทธิไว้ให้เเก่กู หญิงชายทั่วทั้งชมภู เห็นกูก็งามดังเทวา......จากนั้น นำเเป้งนี้ไปผัดหน้า จะทำให้มีเสน่ห์ เมตตามหานิยม เป็นที่รักเเก่เพศตรงข้ามเเละคนทั่วไป คนที่เกลียดก็จะกลายเป็นมิตร




    พระผงของท่าน ไม่ต้องหาสวย
    ท่านลบผงเอง กดพิมพ์เอง ทำแบบโบราณที่วัด
    .....
    .....
    ผงอิทธิเจ ของ หลวงปู่ปรงนั้น

    เด็ดขาดมาก ทาง มหานิยม มหาเสน่ห์ ขนาดที่ว่า เวลาที่ท่านลบผง และทำผงอิทธิเจ จะมีพวกแมลงต่างๆ มากมายมารุ่มเกาะตามตัวและ ใบหน้าของท่านเต็มไปหมด นั้นแสดงให้เห็นว่า เมื่อผู้ใด ได้พระของท่านไปบูชา จะทำให้ ผู้บูชา มีสง่าราศี บังเกิด ความศักดิ์สิทธิ์ ทางด้าน เมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ เป็นเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามและอุดมด้วยโชคลาภ....ผู้ที่บูชาพระเครื่อง ของท่านล้วนแต่เจริญในหน้าที่การงาน ร่ำรวยเป็นเศรษฐีก็มีมาก





    ****************************************

    ประวัติหลวงปู่ปรง

    เดิมชื่อ ปรง ปิ่นทอง เกิดปีมะเส็ง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๘ เป็นบุตรของคุณพ่อปั้น ปิ่นทอง เเละคุณเเม่ปลีก ปิ่นทอง มีพี่น้องสามคน คนเเรกชื่อ นานยโป้ย ปิ่นทอง คนรองชื่อนางเปล่ง จงกสิกรรม หลวงปู่ปรงเป็นคนสุดท้อง

    อุปสมบท
    อุปสมบทครั้งเเรกเมื่อพ.ศ.๒๔๖๘ ที่วัดห้วยเจริญสุข มีหลวงพ่อพระครูศรี วิริยะโสภิต วัดพระปรางค์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อช้ามเเละหลวงพ่อผ่อง เป็นพระคู่สวด เรียนวิชากับหลวงพ่อศรีได้ ๖ พรรษา จากนั้นได้ลาสิกขาเพราะร้อนวิชา ออกมามีครอบครัวเเละใช้ชีวิตเเบบฆราวาส มีบุตรชายหนึ่งคน

    ท่านเคยใช้ชิวิตเเบบเสือ เเบบนักเลง ภายหลังกลับใจมาบวชอีกครั้ง หลวงปู่เข้าอุปสมบทครั้งที่สองปีพ.ศ.๒๕๐๔ ที่วัดราชประสิทธิ์ จ.สิงห์บุรี มีหลวงพ่อเตี้ยมเป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้น ท่านได้มาจำพรรษาที่วัดธรรมเจดีย์ ๓๐ พรรษา จากนั้นหลวงปู่ได้ออกธุดงค์ไปทางจังหวัดอุทัยธานี เข้าสู่ป่าใหญ่ ออกไปถึงประเทศเขมรเป็นเวลา ๓ ปี จึงกลับมายังวัดธรรมเจดีย์

    การศึกษาวิทยาคม
    ได้บวชเรียนเเละศึกษาวิชาต่างๆกับหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ ๖ พรรษา นอกจากนี้ยังได้เรียนวิชาจากพระสงฆ์เเละฆราวาสต่างๆดังนี้
    - หลวงพ่อต้วม วัดสนามชัย ชัยนาท
    - หลวงพ่อคำ จ.อุทัยธานี
    - หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
    - หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา
    - หมอเจียก จ.อุทัยธานี
    - หลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐี จ.อุทัยธานี หลวงพ่อเคนนี้ เป็นอาจารย์หลวงปู่กวยด้วยเช่นกัน เก่งวิชารักษาโรค ประสานกระดูก มีวิชาเล่นเเร่เเปรธาตุ ทำตะกั่วให้เป็นทองคำได้เเบบหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
    - อาจารย์รื่น อำเภอวิเชียร จ.เพชรบูรณ์
    - อาจารย์อ้วน วัดด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี


    เสือกลับใจ
    หลังจากบวชครั้งที่สองปีพ.ศ.๒๕๐๔ หลวงปู่จำพรรษาที่วัดธรรมเจดีย์ โดยตัดทางโลกสิ้นเชิง สมัยนั้นทางกองปราบเคยส่งมือปราบมาฆ่าท่าน เพราะท่านเคยมีรายชื่ออยู่ในบัญชีดำ ทางกองปราบส่งคนปลอมตัวมาเเบบสามัญชน มาหลอกถามท่านว่า บวชทำไม จะสึกหรือไม่ หลวงปู่ตอบไปว่า บวชครั้งนี้ ขอบวชให้พระพุทธองค์ จะไม่ขอลาสิกขาอีกเเล้ว จนกว่าจะถึงฝั่งพระนิพพาน คนที่ปลอมตัวมา เห็นหลวงปู่พูดจาจริงจังดังนั้นจึงไม่ทำอะไรท่าน เเละได้ลบชื่อหลวงปู่ออกจากรายชื่อบัญชีดำ หลวงปู่ก็ได้ปฎิบัติธรรมอย่างจริงจังดังที่ท่านได้กล่าวออกไป

    จากนั้นท่านก็ไปศึกษาตำราเก่าของหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ สมัยนั้นหลวงพ่อทอง เป็นเจ้าอาวาส เดินทางไปเรียนวิชากับหลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐที่อุทัยธานี หลวงปู่เก่งวิชาหลายอย่างที่เรียนจากหลวงพ่อศรี เช่น การทำเเหวนเเขน ลงตะกรุด เช่นตะกรุดสามกษัตริย์ ตะกรุดโทน ตะกรุดสามดอก นอกจากนี้ยังเก่งเรื่องทำผงวิเศษ ทำสีผึ้ง ลงมีดหมอได้ขลัง เเละเก่งวิชาตะกรุดกระดอนสะท้อน คือ ถ้าถูกยิง ลูกปืนจะย้อนกลับ

    ปฎิปทา
    ๑. เป็นผู้คงเเก่เรียน ชอบศึกษา ทำผงได้เก่ง เก่งทางตะกรุด มีดหมอ ลงอาถรรพ์ วิชาหลายอย่างทำได้เเบบหลวงปู่กวย
    ๒. ชอบทำวัตถุมงคลเอง ที่หน้ากุฎิหลวงปู่มักนั่งจารตะกรุด หรือเขียนผ้ายันต์ คนไปกราบ บางครั้งนั่งลงยันต์ไป นั่งคุยไป เขียนเสร็จ เสกเดี๋ยวนั้นเลยก็มี
    ๓. ร้อนวิชา หลวงปู่ค่อนข้างร้อนวิชา อย่างที่กล่าว ท่านชอบลงของ ทำของด้วยตัวเอง
    ๔. ชอบเลี้ยงสัตว์ หลวงปู่เลี้ยงหมา เเมว ไก่ ตอนเช้าๆท่านจะขุนข้าวให้มันเอง ปรกติหลังหกโมงเย็น หลังจารตะกรุด ท่านจะมาให้ข้าวพวกมัน เเมวคลุกข้าวให้กินในกุฎิ หมาจะมีข้าวในอ่างให้ข้างนอก เสร็จกิจ หลวงปู่จะสรงน้ำ ทำวัตรสวดมนต์ ปลุกเสกวัตถุมงคลเเละปฎิบัติธรรม
    ๕. ชอบยิงคุนกระสุน คันกระสุนนี้ ใช้ลูกดินยิงเเทนลูกธนู ท่านมักวางไว้ใกล้ตัว สมัยก่อน ใครเคยไปกราบ มักจะเห็นคันกระสุนวางข้างๆตัวท่าน

    คุณวิเศษ
    ๑. หายตัวได้ หลายครั้งที่ศิษย์พบเหตุการณ์ดังกล่าว เช่นขับรถมาถึงหน้ากุฎิ เห็นหลวงปู่นั่งจารตะกรุด พอลงรถมาถึง จะกราบท่านเเละนำของมาถวาย กลับมองไม่เห็น พอเดินไปเดินมา หาท่าน กลับเห็นท่านนั่งอยู่ที่เดิม พอถามว่าท่านไปไหน หลวงปู่ตอบว่า นั่งอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ไปไหน ศิษย์ใกล้ชิดบางคนบอกมาว่า เวลาหลวงปู่เสก หรือลงตะกรุดให้เป็นกำบัง ต้องลงจนไม่มีใครเห็นตัวท่าน
    ๒. ถ่ายรูปไม่ติด หลายครั้งที่ท่านไปงานพิธีต่างๆ มีช่างมาขอถ่ายรูปท่าน บางครั้งหลวงปู่รำคาญ ถ่ายเเบบไม่เกรงใจ หรือท่านยังไม่พร้อม พวกช่างเลยกดชัตเตอร์ไม่ลง บางครั้งถ่ายไปไม่ติดก็เคยมี หลวงปู่เคยเหน็บตะกรุดชนิดหนึ่งที่ท่านทำให้คนทำบุญ เเต่ท่านพกติดตัว มีศิษย์ถาม ท่านเลยตอบไปว่า ท่านรำคาญพวกถ่ายรูป เลยต้องมีดีติดตัวไว้บ้าง ครั้งนึงมีศิษย์มาจากอเมริกา มากราบท่าน หลวงปู่ได้เอาตะกรุดชนิดนี้ออกมาให้ทำบุญ ท่านบอกว่า เงินหาได้ เเต่ตะกรุดเเบบนี้ หาได้ยากกว่าหลายร้อยเท่านัก
    ๓. ทำวัตถุมงคลได้ขลัง ท่านเป็นพระ ชอบพระเอง เเม้อายุมาก ผ้ายันต์ ตะกรุดจารเอง มีดหมอก็จารเอง สมเด็จยุคเเรกๆหลวงปู่ทำเอง รุ่นต่อมาเเม้ไม่ได้ทำเอง เเต่ก็คุมเรื่องมวลสาร เนื้อหา ส่วนผสมต่างๆ วัตถุหลักที่เป็นส่วนผสม เช่น ผงอิทธิเจ เเร่ เส้นเกศา เป็นต้น
    การปลุกเสก มีการอัญเชิญพระอรหันต์ เสกด้วยคาถาชินบัญชร พระคาถาธรรมจักรกัปปะวัตนสูตร พระผงท่านเด่นทางเมตตาเเรง เหรียญเเละตะกรุดก็มหาอุตม์ หยุดปืนได้ไม่เเพ้ใคร
    ๔. ลงอาถรรพ์ได้ ในสระที่วัด หลวงปู่ได้ขุดไว้ ให้ชาวบ้านได้ใช้น้ำอาบเเละกิน ท่านได้ลงอักขระทื่เสา ฝังไว้ที่ขอบสระทั้งสี่ด้าน ถือเป็นเขตวัด เขตอภัยทาน ต่อมีมีชาวบ้านบางกลุ่ม ถือวิสาสะ ไม่เกรงใจเขตวัดเขตอภัยทาน มาดักปลาในสระไปทำอาหารกินกัน ต่อมาเกิดอาเภท บ้านถูกไฟไหม้ ต้องคดีติดคุก มีอันเป็นไปต่างๆนานา เรื่องนี้เป็นที่โจษขานกันมาก ลองไปถามเเถววัดดู เเล้วจะทราบดี


    มรณภาพ
    ในบั้นปลายชีวิต หลวงปู่ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดห้วยเจริญสุข บ้านเกิดท่าน หลวงปู่ปรง ได้ช่วยบูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถที่ชำรุดทรุดโทรม จนคืนสู่สภาพเรียบร้อยแข็งแรงดี ท่านได้มรณภาพลงเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๐ ด้วยโรคชรา สิริรวมอายุได้ ๙๕ ปี



    สภาพสวยกล่องเดิมๆ พุทธคุณครบทุกทาง ดีทุกอย่าง ทั้งเมตตา โชคลาภ แคล้วคลาดมหาอุด นอกจากนี้ยังสามารถแก้พิษต่างๆได้ด้วย แบ่งให้บูชา 345 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  5. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386
    4288.เล็กดีรสโต ชนวนเก่า แผ่นจาร 19คณาจารย์ พระนาคปรกจ้อย รุ่น122ปี
    ลพ.สาคร,ลป.เพิ่ม,ลป.ทิม,ลพ.รวย,ลพ.มหาสวัสดิ์ ร่วมปลุกเสก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    พระนาคปรกใบมะขามจ้อย รุ่น122ปี หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เนื้อทองแดง ผสมชนวนเก่าหลวงปู่ทิม และแผ่นจารอักขระ 19คณาจารย์ ดำนเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2544 จำนวนการสร้าง 5,000 องค์

    พระนาคปรกใบมะขามจ้อย รุ่น122ปี ได้ทำการถอดพิมพ์จากปรกจ้อย หลวงปู่ทิม ปี2517 จึงเหมือนกันมาก ถือเป็นของดีที่เรียกได้ว่า "เล็กดีรสโต"


    พิธีพุทธาภิเษก
    วาระที่ : 1
    - ขณะนี้ยังตามหาข้อมูลไม่พบ


    วาระที่ : 2
    => เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ.2544 เวลา 15.19 น. ณ มณฑลพิธีพุทธาภิเษก วัดละหารไร่ จังหวัดระยอง
    รายนามพระคณาจารย์ อาทิ
    - หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
    - หลวงพ่อดำ วัดเขาพลูทอง
    - หลวงพ่อจ้อย วัดหนองน้ำเขียว
    - หลวงพ่อทัตไทย วัดลุ่มชัยชุมพล
    - หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่
    - หลวงพ่อแจ่ม วัดเขาสำเภาทอง
    - หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ( ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม ) เป็นต้น


    วาระที่ : 3
    => เมื่อวันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2544 ณ มณฑลพิธีพุทธาภิเษก วัดละหารไร่ จังหวัดระยอง
    รายนามพระคณาจารย์ อาทิ
    - พระเทพคุณาธาร วัดป่าประดู่ ระยอง
    - หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา
    - หลวงพ่อรวย วัดตะโก อยุธยา
    - หลวงพ่อมหาสวัสดิ์ วัดเม้าสุขา ชลบุรี
    - หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ (ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม) ระยอง

    คณะสงฆ์จากวัดกระแสคูหาสวรรค์ จ.ระยอง เจริญพุทธมนต์ ภาวนาอธิฐานจิต สวดมหาจักรพรรดิพุทธาภิเษก พระสงฆ์ 100 รูป จ.ระยอง ร่วมอธิฐานจิต


    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    - เพจ กลุ่มหลวงปู่ทิม อิสริโก รุ่น 122 ปี44 มงคลศิลาฤกษ์ ปี37 แต้เม้ง ปี51


    สภาพสวยผิวเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก เก่าเก็บไม่ได้ใช้ พุทธคุณครอบครบ ของดีอีกรุ่นหนึ่งที่น่าบูชาเป็นอย่างมาก แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386
    4289.ยอดคงกระพันชาตรี ปลุกเสกโดยพระเกจิทั่วประเทศ พระสมเด็จรุ่นแรก
    หมออภิชาติ ยอดมวลสารปลุกเสกพิธี100ปีวัดระฆัง

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    -ef980f18065d837a.jpg

    ghcddv-jpg-jpg.jpg
    ghc2en-jpg-jpg.jpg

    พระสมเด็จ พิมพ์พระประทานวัดระฆัง วัตถุมงคลเนื้อผงรุ่นแรก อาจารย์หมอ อภิชาติ ชินะโชติ เนื้อผงวิเศษ ผสมมวลสารสุดยอดมากมาย มีทั้งพระกรุพระเก่า ทั้งพระสมเด็จ วัดระฆังแตกหักเป็นจำนวนมาก ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2516 สร้างขึ้นเพื่อแจกเป็นขวัญและกำลังใจแก่ ทหารกองพลเสือดำ ในภารกิจสงครามเวียดนาม (เกิดเมื่อช่วง ธันวาคมพ.ศ. 2498 – 30 เมษายน พ.ศ.2518) ลูกศิษย์ของท่านจะรู้ดีเรื่องการปลุกพระตั้งใด้ ขยับหรือกระโดด ท่านทำให้เห็นประจักแก่สายตาประจำ เวลาท่านจะแจกพระท่านจะเอาพระมาวางบนมือแล้วท่านจะบอก ดูอะไรนี่สิ ปรากฎพระที่นอนราบอยู่ในมือเด้งตั้งขึ้นมาทันที แล้วจึงส่งให้ เรียกว่าเห็นกันจนชินตา

    **** สภาพหิ้งเก่าเก็บ มีบิ่นมุมนิดนนึง เลี่ยมกรอบติดรถติดบ้านได้สบายครับ ****



    พิธีการพุทธาภิเษก
    - วาระแรก : อาจารย์หมอ อภิชาติ ชินะโชติ ปลุกเสกบินเดี่ยว


    - วาระสอง : ท่านอาจารย์หมออภิชาติยังได้นำเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกสมเด็จวัดระฆังรุ่น 100 ปี ที่ทางวัดระฆังโฆษิตารามจัดสร้าง ในปี พ.ศ.2515 อีกวาระ ถ้าภาพไม่ขึ้นชมที่ลิ้งค์นี้ครับ http://palungjit.org/threads/ย้ายกระทู้แล้วครับ-พบกับของดีๆได้ที่-กระทู้ใหม่-4-ครับ.291309/page-447#post-10016219
    รายนามพระคณาจารย์

    thumb-46c0_57371eb8-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg thumb-4754_57371eb8-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg thumb-1f44_57371eb8-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg thumb-3447_57371eb8-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    thumb-5703_57371f33-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg thumb-1cfe_57371f33-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg thumb-7e89_57371f33-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg thumb-e4dc_57371f33-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg thumb-4187_57371f33-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg


    รายนามพระคณาจารย์
    พระรักขิตวันมุนี (ถิร) วัดป่าเลย์ไลยก์ จ.สุพรรณบุรี
    พระโพธิวารคุณ (ไพฑูรย์) วัดโพธินิมิตร กรุงเทพฯ
    พระพุทธมนตวราจารย์ (สุพจน์) วัดสุทัศน์ราชวราราม
    พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักวรรดิราชาวาส กรุงเทพฯ
    พระครูวิริยกิตติ (โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
    พระครูโสภณกัลยาณวัตร วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ
    พระครูกัลยาณานุกูล (เฮง) วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ
    พระครูประสาธน์วิทยาคม (นอ) วัดกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา
    พระครูสุตาธิกา (ทองอยู่) วัดหนองพะอง จ.สมุทรสาคร
    พระครูสาทรพัฒนกิจ (ลมูล) วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี
    สมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพน
    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดราชบพิธ
    พระธรรมวโรดม วัดสังเสชวิศยาราม
    พระศาสนโสภณ วัดบวรนิเววิหาร
    พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ วัดจักรวรรดิราชาวาส
    พระพรหมมุนี วัดราชผาติการาม
    พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดสุทัศนเทพวราราม
    พระธรรมปัญญาจารย์ วัดโสมนัสวิหาร
    พระธรรมปัญญาบดี วัดสามพระยา
    พระธรรมปิฎก วัดปทุมคงคา
    พระธรรมเจดีย์ วัดทองนพคุณ
    พระเทพมุนี วัดอรุณราชราราม
    พระธรรมวิสุทธาจารย์ วัดพิขัยญาติการาม
    พระเทพวรมุนี วัดพระเชตุพน
    พระเทพวรเทวี วัดปากน้ำภาษีเจริญ
    พระเทพญาณมุนี วัดราชโอรสาราม
    พระเทพเมธี วัดเศวตฉัตร์
    พระธรรมมหาวีรานุวัตร์ วัดไตรมิตร
    พระโสภณวราภรณ์ วัดอรุณราขวราราม
    พระสังวรกิจโกศล วัดราชสิทธาราม
    พระเทพคุณาธาร (เจียม) วัดโสธรวราราม
    พระราชสิงหวรมุนี (ทรัพย์) วัดสังฆราชาวาส
    พระราชญาณดิลก (ชิต) วัดเขาเต่า
    พระราชปัญญาโสภณ (สุข) วัดราชนัดดาราม
    พระโพธิวรคุณ (ฑูรย์) วัดโพธินิมิตร
    พระรักขิตวันมุนี (ถิร) วัดป่าเลย์ไลยก์
    พระวิบูลเมธาจารย (เก็บ) วัดดอนเจดีย์
    พระวิบูลย์วชิรธรรม (สว่าง) วัดคฤหบดีสงฆ์
    พระโสภณธรรมมุนี (พ่วง) วัดศรีโคมคำ
    พระพรหมจักสังวร (พรหมา) วัดพระบาทตากผ้า
    พระสังวรกิจโกศล (เลิศ) วัดราชสิทธาราม
    พระโสภณวราภรณ์ (เฉลียว) วัดอรุณราชวราราม
    พระพุทธมนต์วราจารย์ (สุพจน์) วัดสุทัศนเทพวราราม
    พระศรีสัจจาญาณมุนี (ประหยัด) วัดสุทัศนเทพวราราม
    พระครูนนทกิจวิมล (ชื่น) วัดตำหนักเหนือ
    พระครูสุตาธิการี (ทองอยู่) วัดหนองพะอง
    พระครูโสภณกัลยาณวัตร (เส่ง) วัดกัลยาณมิตร
    พระครูวิริยะกิตติ (โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
    พระครูสาทรพัฒนากิจ (ลมูล) วัดเสด็จ
    พระครูกัลยานุกูล (เฮง) วัดกัลยาณมิตร
    พระครูรัตนสราธิคุณ ผทอง) วัดสระแก้ว
    พระครูประสาธน์วิทยาคม (นอ) วัดกลางท่าเรือ
    พระครูอุทัยคณารักษ์ (ใหญ่) วัดสระแก
    พระครูพิพิธวิหารการ (เทียม) วัดกษัตราธิราช
    พระครูวิมลนวการ (เผ้ง) วัดหน้าพระบรมธาตุ
    พระครูไพศาลวิสุทธิคุณ (สำลี) วัดห้วยยาง
    พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง) วัดบ้านสวน
    พระครูวชิรรังษี (จันทร์) วัดมฤคทายวัน
    พระครูจันทสโรภาส (เที่ยง) วัดม่วงชุม
    พระครูพิศาลพัฒนกิจ (บุญรอด) วัดประดู่พัฒนาราม
    พระครูประดิษฐ์นวการ (บุณ) วัดวังมะนาว
    พระครูปิยธรรมภูษิต (คำ) วัดบำรุงธรรม
    พระครูศรีปริยัตยานุรักษ์ (ไฝ) วัดพันอ้น
    พระครูธรรมสาคร (กลับ) วัดโกรกกราก
    พระครูวิจิตรชัยการ (สด) วัดหางน้ำสาคร
    พระครูประสาธนุ์ขันธคุณ (มุม) วัดปราสาทเยอร์เหนือ
    พระครุอาภัสสรคุณ (อารีย์) วัดท้ายชิด
    พระครุสาธุกิจวิมล (เล็ก) วัดหนองดินแดง
    พระครูสุวิชงนวรวุฒิ (ปี้) วัดลานหอย
    พระครูศิลสารสัมบัน (สำรวย) วัดสระแก้วปทุมทอง
    พระครูศรีพรหมโสภิต (แพ) วัดพิกุลทอง
    พระครูภาวนาสังวรคุณ (เต๋) วัดสามง่าม
    พระครูประสาทวรคุณ (พริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู
    พระคครูสมบูรณ์ศีลวัตร (สมบูรณ์) วัดแก่งคอย
    พระครูพุทธิสังวรกิจ (ทอง) วัดเนรัญชรา
    พระครูวิวัฒน์นครธรรม (ชาย) วัดนครธรรม
    พระครูศีลคุณวัฒนาทร (โห) วัดพุทธิสาร
    พระครูถาวรธรรมรัตน์ (เที่ยง) วัดเลียบ
    พระครูอุดมเวทวรคุณ (เมือง) วัดท่าแหน
    พระครูนันทิยคุณ (บุญตัน) วัดเชียงทอง
    พระครูวิรุฬธรรมโกวิท (สิงห์คำ) วัดเจดีย์สถาน
    พระครูมงคลคุณาทร (คำปัน) วัดหม้อคำตวง
    พระครูภาวนาภิรัต (อินท์จักร์) วัดวนรามน้ำบ่อหลวง
    พระครูวิริยะโสภิต (ทอง) วัดพระปรางค์
    พระครูประกาสสมาธิคุณ (สังเวียน) วัดมหาธาตุ
    พระครูปัญญาโชติวัตร (เจริญ) วัดทองนพคุณ
    พระครุศีลโสภิต (แถม) วัดทองพุ่มพวง
    พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ (มุม) วัดดอนไร่
    พระครูประภาสธรรมาภรณ์ (ลำยอง) วัดสุนทรประดิษฐ์
    พระครูนิสัยจริยคุณ (วิสุทธิ์) วัดจันเสน
    พระครูสมุทรวิจารย์ (จารย์) วัดประชาโฆสิตาราม
    พระครูศีลวิมล (ท้วม) วัดเขาโบสถ์
    พระครูโกวิทสมุทรคุณ (เนื่อง) วัดจุฬามณี
    พระครูสุวรรณสุนทร (ทอง) วัดดอกไม้ (ตะกล่ำ)
    พระครูอินทศิริชัย (ม้วน) วัดไทร
    พระครูพุทธมัญจาภิบาล (ทองหล่อ) วัดพระแท่นดงรัง
    พระครูอาจารโสภณ (เริ่ม) วัดกลางวังเย็น
    พระครูโสภณรัตนากร (เพิ่ม) วัดดอนตูม
    พระครูวิจิตรธรรมรส (สุดใจ) วัดบ้านโป่ง
    พระครูพิทักษ์วิหารกิจ (สา) วัดราชนัดดาราม
    พระครูพิลาสธรรมกิตติ์ (ทวี) วัดโรงช้าง อ.เมือง จ.พิจิตร
    พระครูสุวรรณประภาส (ทอง) วัดธาตุสว่าง
    พระครูวิจิตรพัฒนาภรณ์ (เจริญ) วัดดอกไม้
    พระครูอภัยภาดาทร (ขอม) วัดโพธาราม
    พระครูสถิตวุมิคุณ (ปลั่ง) วัดหนองกระทุ่ม
    พระครุสถาพรพุทธมนต์ (สำเนียง) วัดเวฬุวนาราม
    พระครูวิบูลธรรมเวท (เปรื่อง) วัดหิรัญญาราม
    พระครูพิพัฒน์วรคุณ (ชู) วัดลุ่มเจริญศรัทธา
    พระครูปลัดสงัด (สงัด) วัดพระเชตุพน
    พระครูรัตนานุรักษ์ (อาจารย์แก้ว) วัดปงสนุกใต้
    พระครูสุกิจวิริยากร (หมั่น) วัดดงสัก
    พระครูธรรมธรบุญมี วัดท่าสะต๋อย
    พระปลัดบุญเชิด วัดชมนิมิตร
    พระครูสมุห์อำพล วัดประสาทบุญญาวาส
    พระครูวิชัยณรงค์ฤทธิ์ วัดสิตาราม
    พระอาจารย์ผ่อง วัดจักรวรรดิ์
    พระอาจารย์แดง วัดเขาหลัก
    พระอาจารย์รักษ์ วัดศรีรัตนคีรีวงศ์
    พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    พระอาจารย์บุรัชย์ วัดนายพญา
    พระอาจารย์กี๋ วัดหูช้าง
    พระอาจารย์จันทร์ วัดนามะตูม
    พระอาจารย์ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
    พระอาจารย์แสน วัดท่าแทน
    พระอาจารย์คง วัดสรรพรส
    พระอาจารย์สวน วัดบางกระดาน
    พระอาจารย์ใหญ่ วัดถ้ำใหญ่คูหาสวรรค์
    พระอาจารย์จำรัส วัดเมืองกาย
    พระอาจารย์เกลี้ยง วัดเขาใหญ่
    พระอาจารย์โสภาโสภิกขุ วัดเทพนฤมิตคีรีขันธ์
    พระอาจารย์ลมูล วัดพุทธวงศา
    พระอาจารย์ชาย วัดสังข์ทอง
    พระอาจารย์ดี วัดศรีสำราญ
    พระอาจารย์หนูอินทร์ วัดพุทธคยา
    พระอาจารย์ลี วัดป่าบ้านนอก
    พระอาจารย์คูณ วัดหนองแวง
    พระอาจารย์สุวรรณ วัดพรหม
    พระอาจารย์เพ็ชร์ นนฺทเสโน วัดบ้านเด่น
    พระอาจารย์อุ้ย วัดสังฆราชา
    พระสุนทรธรรมภาณ (เมตตาหลวง) วัดเทพพิทักษ์ปุณนาราม
    พระอาจารย์แสน วัดท่าแทน



    ด้านพุทธคุณ :
    - เน้นหนักทางด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย ภยันตรายใดๆมิกล้ำกลาย


    นับเป็นพระที่มีประสบการณ์ทางด้านอยู่ยงคงกระพันเป็นอย่างมาก จากคำบอกเล่าของลูกศิษย์ที่ทันในสมัยที่ท่านอาจารย์หมออภิชาติยังมีชีวิตอยู่นั้นได้เล่าให้ฟังว่า เหล่าทหารกองพลเสือดำที่ได้รับแจกพระสมเด็จชุดนี้ไปในสงครามเวียดนาม ล้วนแล้วแต่เดินทางกลับมาเมืองไทยโดยสวัสดิภาพกันทั้งสิ้น

    ประวัติโดยย่อ
    อาจารย์อภิชาต ชินะโชติ
    ความพิเศษที่ทำให้ผมทึ่งกับตัวท่านนั้นมีหลายประการ อาทิ วันเกิดของท่านคือวันที่ 14เมษายน2479 ท่านจากไปก็วันที่ 14เมษายน2549 ย้อนไปวัยเด็ก ท่านออกจากบ้านเพื่อที่จะไปร่ำเรียนวิชาตั้งแต่ยังใช้คำนำหน้าว่าเด็กชาย โดยการไปอาศัยพระที่วัดระฆังโฆษสิตาราม ได้รับความเมตตาจากพระในวัดให้ที่อยู่อาศัยและได้ฝากร่ำเรียนหนังสือและวิชาอาคมกับพระเกจิอาจารย์รวมไปถึงอาจารย์ฆราวาสหลายต่อหลายท่าน รวมไปถึงได้เรียนตำราการทำเบี้ยแก้ เบี้ยจั่น สาย วัดนายโรง และเรียนตำราเบี้ยแก้เพิ่มเติมกับ หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้วซึ่งเราต่างก็ทราบกันดีอยู่ว่าท่านสืบทอดตำรามาจากหลวงปู่บุญ ว่ากันว่า ช่วงที่ท่านหัดมาทำเบี้ยแก้ใหม่ๆ ท่านเสกชนิดที่ว่าตัวเบี้ยเดินไปเกาะผนังโบสถ์จนเป็นที่กล่าวขานของคนในย่านพรานนก ท่านทำให้คนบูชาไปจนมากสามารถมีเงินต่อน้ำเข้าวัดระฆังได้


    อีกหนึ่งความพิเศษที่ไม่มีใครลอกเรียนแบบได้นั่นก็คือ สมัยที่ท่านเรียนอยู่ชั้นประถม ท่านศึกษาวิชาการทำน้ำมนต์ จนครูที่สอนหนังสือท่านไหว้วานให้ช่วยรดน้ำมนต์เพื่อปัดเป่า โดยใช้โต๊ะรองเพื่อให้ท่านได้ยืนรดน้ำมนต์ให้พ้นศีรษะเพราะตัวท่านยังเล็กกว่าครูมากนัก นั่นย่อมแสดงว่า ท่านอาจารย์อภิชาต มีความพิเศษและคงแก่เรียนมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ที่วงการพระเครื่องเริ่มรู้จักท่านกลับเป็น กุมารทอง ซึ่งกุมารทองของท่านนั้น จำนวนการสร้างเพียง 210 ตน ท่านนั้น ท่านร่ำเรียนวิชากุมารทองจาก หลวงพ่อเต๋ คงทองแห่งวัดสามง่าม หากแต่เริ่มสร้างจริงๆจังๆก็ปี2535 ท่านเล่าให้กับศิษย์ของท่านฟังว่า การสร้างกุมารของท่าน ตัวท่านเองต้องไปเจริญกรรมฐานเพื่อไปพบ ยมบาล ไปขอดวงวิญญาณมา ซึ่งได้มาเพียง 210 คนเท่านั้น และแต่ละดวงวิญาณ ท่านจะอัญเชิญบรรจุไว้ที่กุมารทอง แต่ละดวงวิญญาณจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป ในครั้งนั้นออกทำบุญตนละ5000บาท ในปี2535 ทองบาทละ4000 ซึ่งนับว่าราคาสูง รายได้ท่านนำไปมอบให้วัดที่ท่านอุปถัมภ์เพื่อสร้างเสนาสนะ
    ขอขอบพระคุณ : เจ้าของข้อมูลทั้งภาพและรายละเอียดต่างๆ
    - facebook สายตรงหมออภิชาติ
    - http://www.web-pra.com/shop/meawja/show/1002866



    สภาพผิวหิ้ง ผิวมีลอกบ้างมีบิ่นมุม แต่โดยรวมถือว่ากดได้เต็มเกือบทั่วทั้งองค์ คราบแป้งไขว่านปกคลุมทั่วทั้งองค์เดิมๆ พระเก็บไม่ได้ใช้ครับ พุทธคุณครอบครบ ยอดคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย ภยันตรายใดๆมิกล้ำกลาย ไม่แท้ไม่ทันหรือยัดวัดคืนเต็มเหมือนเดิมครับผม แบ่งให้บูชา 280 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณsunmk จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2025 at 18:14
  7. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +1,015
    จอง4289
     
  8. วิคิด

    วิคิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2012
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,146
    จองครับ
     
  9. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386
    4290.สุดยอดพุทธศิลป์ มหาชนวน เมตตามหานิยม(เล็กมีหู)
    เหรียญหล่อพระพุทธชัยมงคล รุ่นอุดมมงคล ประจุพลัง 2 วาระ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    --8fa4b752e6d15ba4.jpg

    1342856-4c562.jpg
    1342856-566ed.jpg
    เหรียญหล่อพระพุทธชัยมงคล รุ่นอุดมมงคล วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จังหวัดราชบุรี เนื้อทองฝาบาตรผสมชนวน ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2553

    วัตถุประสงค์
    - เพื่อมอบให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาในการบริจาคทรัพย์สมทบทุน สร้างพระมหาเจดีย์สมเด็จ


    พิมพ์เล็กมีหู จำนวน 12,000 เหรียญ ( สมัยนั้นให้ทำบุญบูชา 1,000บาท )


    เหรียญรุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวที่เน้นพระคาถาเมตตาแบบเน้นๆ และการวางอักขระก็งดงามลงตัว- เป็นเหรียญรุ่นเดียวที่ทำเป็นแบบสี่เหลี่ยม- เป็นเหรียญรุ่นเดียวที่ออกแบบไปทางมหายาน เช่น ลักษณะพระธรรมกายที่ดูใหญ่โต และลักษณะฐานพระ ดูแปลกตาดี- มีเรื่องเล่าขานว่า เป็นรุ่นเดียวที่คุณยายตรีธาขอดู

    วิมังสา อิสะวาสุเป็นเหรียญพระรุ่นเดียวของวัดหลวงพ่อสดฯ ที่ปรากฏชื่อวัดจารึกไว้ที่ขอบเหรียญ “วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม”(ขอบขวาของเหรียญ) และ “ดำเนินสะดวก ราชบุรี”(ขอบซ้ายของเหรียญ)

    ชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์
    - ชนวนพระกริ่งของสมเด็จพระวันรัต-วัดเทพศิรินทร์
    - แผ่นจาร เงิน-ทอง-นาก ของหลวงพ่อภาวนา + หลวงป๋า
    - ชนวนกริ่งสัมมาอะระหัง-กริ่งสันติสุข เป็นสำคัญ
    - ผงตะไบและชิ้นส่วนของธาตุกายสิทธิ์
    - เศษพรกรุสัมฤทธิ์ หลายยุคหลายสมัย
    - ระฆังเก่า 1ใ บ เป็นต้น



    พิธีพุทธาภิเษก

    วาระที่ : 1
    - วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 เวลา 15.30 น

    วาระที่ : 2
    - วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2553 เวลา 13.50 น


    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    - เว็บไซต์ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
    http://dhammakaya.tv/เหรียญอุดมมงคล/



    สภาพสวยเดิมๆ พิมพ์ทรงแห่งศิริมงคล พุทธศิลป์งดงาม พุทธคุณเป็นเลิศ แบ่งให้บูชา 280 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณseento จองแล้วครับ)



    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2025 at 10:23
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386
    4291.ยอดของดีตามบัญชาสมเด็จโต มวลสารบางขุนพรหม และวัดระฆัง
    พระผงรูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์โตอุ้มบาตร ลป.ปู่กาหลง,ลป.พิศดู,ลพ.สนิท เสกยาวนาน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    -1c7c343b52b5e4694.jpg

    96724349_2296564430649031_6368901334158016512_n-jpg.jpg
    get_auc1_img6940adba52d71bd2-jpg.jpg
    107823851_2457654847857869_6096666616566813222_n-jpg.jpg
    พระผงรูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์โต พิมพ์อุ้มบาตร รุ่นแรกหลังเรียบ รุ่นสร้างโบสถ์ หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว วัดเขาแหลม จังหวัดสระแก้ว ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2536 เนื้อผงสมเด็จโตแท้ๆและผงบางขุนพรหม(แตกกรุปี2500) นิยม พิมพ์อุ้มบาตร หลังปั้มยันต์ครู


    หลวงปู่กาหลง ท่านเล่าให้ฟังว่า
    ท่านจะสร้างโบสถ์เพราะต้องใช้เงินจำนวนมากตั้งใจไว้ว่าสร้างขนาดเล็กก็พอใช้เงินคงไม่มากเท่าไร อยู่มาคืนหนึ่งท่านได้ฝันเห็นสมเด็จพุฒาจารย์โต มาหาและได้พูดกับท่านอาจารย์กาหลงว่า ให้สร้างโบสถ์ให้ใหญ่กว่าที่คิดไว้ ท่านอาจารย์พูดว่าผมจะไปหาเงินที่ไหนมาสร้างเล่าครับ หลวงปู่โตกลับบอกว่าไม่เป็นไรฉันจะช่วยแล้วหลวงปู่โตพูดว่า ให้สร้างพระขึ้นมาให้ทำเป็นพิมพ์สมเด็จ 3 ชั้น
    - พิมพ์หลวงปู่โต
    - พระพิมพ์นางพญา
    - หลวงปู่โตพิมพ์ถือบิณฑบาต

    นั้นทำมาค้าขายดี เงินจะมีมาไม่หมดและไม่อดอยาก หลวงปู่โตท่านบอกให้เอาผงของท่านมาทำแล้วหลวงปู่โตได้พูดกับท่านอาจารย์กาหลงว่า"ฉันชื่อโต" ต้องสร้างให้โตเหมือนชื่อ เมื่อได้ทำเสร็จทุกพิมพ์เรียบร้อยแล้ว ท่านอาจารย์ได้เชิญหลวงปู่โตมาปลุกเสก ต่อจากนั้นท่านอาจารย์กาหลง ปลุกเสกเดียวมาตลอดจนทุกวันนี้

    วัตถุมงคลที่สร้างพระรูปเหมือนหลวงปู่โตมีมวลสารดังนี้
    1.ผงสมเด็จของหลวงปู่โตที่ชำรุดแตกหักนำมาบดผสมเป็นของแท้ๆสมัยที่หลวงปู่โตท่านทำไว้
    2 .พระผงสมเด็จของวัดอินทร์บางขุนพรหม (แตกกรุปี2500) ซึ่งท่านอาจารย์ได้เก็บไว้นานแล้วจำนวนมาก
    3.ขอดปอยผมของหลวงปู่โตวัดอินทร์บางขุนพรหม ซึ่งหลวงปู่โตท่านได้ใช้ผงอิทธิเจของท่าน ทำไว้นำมาผสมทั้งหมด
    4. เปลือกหอยแครงเผาบดผสม พระรุ่นนี้มิได้ผสมปูนปลาสเตอร์ มีส่วนผสมใหม่คือ ดอกพิกุล เกสรบัวหลวง ดินที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนาและปรินิพพาน จากประเทศอินเดีย

    ปั๊มกดพิมพ์กันภายในวัดเขาแหลม โดยมีหลวงปู่กาหลงท่านควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งยังปรกปลุกเสกอธิฐานจิตในระหว่างที่กดพิมพ์พระ และยังผสมใส่มวลสารชนวนศักดิ์สิทธิ์ด้วยมือของท่านเอง


    การบรรจุอิทธิคุณ

    วาระที่ : 1
    ประกอบพิพุทธาภิเษกใหญ่ ณ มณฑลพิธีวัดเขาแหลม โดยมีพระเกจิอาจารย์ เข้มขลังชื่อ ดังในยุคนั้นร่วมพิธีพุทธาภิเษกมากมาย อาทิ เช่น
    - หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
    - หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย
    - หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม
    - หลวงพ่อพิศดู วัดป่าคลองกุ้ง
    - หลวงพ่อเสริฐ วัดสมอบุญคง
    - หลวงพ่อตน วัดตามน
    - หลวงพ่อมาก วัดท่าเดื่อ
    - หลวงปู่พวง วัดสหกรณ์รังสรรค์ เป็นต้น

    วาระที่ : 2
    - ปลุกบินเดี่ยวโดย หลวงปู่กาหลง วัดเขาแหลม ปลุกเlกเรื่อยมานานหลายปี


    พุทธคุณ
    - พระรุ่นนี้มีประสบการณ์อิทธฺปาฎิหาริย์เกิดขึ้นหลายอย่าง หนุนดวงชะตา มีโชคมีลาภ ค้าขายร่ำรวย มีเสน่ห์ เมตตามหานิยมสุดๆ เข้าหาเจ้านาย เข้าหาผู้ใหญ่ สร้างเนื้อผงวัดระฆังของสมเด็จพระพุฒาจาย์โต พรหมรังษี แท้ๆ



    ---------------------------------------------------------------------

    หลวงปู่กาหลง เตชวัณโณ (หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว)
    “เมื่อก่อนใครจะมาเอาของๆฉันไปบูชา ต้องแบกปืนมาลองด้วย” นี่คือคำกล่าวจากหลวงปู่กาหลง เตชวัณโณ พระเถราจารย์ผู้มีฤทธิ์อำนาจวาจาประกาศิตด้วยเขี้ยวแก้วกลางเพดานปาก พระเถราจารย์ที่มีบุญอำนาจวาสนา อาคมแก่กล้า ความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ วัดเขาแหลม อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว


    ประวัติลป.โดย สังเขป

    หลวงปู่กาหลง เตชวัณโณ หรือที่รู้จักกันดีในนามหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว พระเถราจารย์หนึ่งเดียวที่มีเขี้ยวแก้วกลางเพดานปาก ตามประวัติของท่านนั้นหลวงปู่เป็นชาวปทุมธานี คลอง7 ท่านเกิดวันเสาร์ เดือนยี่ พ.ศ. 2462 โยมแม่ท่านเป็นชาวสุพรรณบุรีเป็นน้องสาวของหลวงพ่อเนียม วัดน้อย ดังนั้นท่านจึงมีศักดิ์เป็น หลานชายแท้ๆของหลวงพ่อเนียม พระอภิญญาระดับปรมาจารย์แห่งเมืองสุพรรณบุรี ในขณะที่ท่านถือกำเนิดนั้น

    มีเรื่องอัศจรรย์ตอนท่านจะถือกำเนิดว่า มีชายคนหนึ่งชื่อ “ลุงบาง” ทำอาชีพหาปลาอยู่ละแวกบ้านของหลวงปู่กาหลง คืนหนึ่งขณะที่ลุงบางออกหาปลาตามปกติ แกได้เห็นว่ามีดวงไฟดังกล่าวไปเพื่อตั้งใจจะดูให้รู้แน่ว่าคืออะไร พอตามไปทัน แกก็กลับเห็นเป็นพระฤาษีตนหนึ่งจูงเด็กน้อยเข้าไปในบ้านของหลวงปู่กาหลง เมื่อลุงบางเห็นเป็นอัศจรรย์ดังนั้น จึงยกมือขึ้นไหว้ด้วยศรัทธาในสิ่งที่ตนเองเห็น แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่าหากสิ่งที่ตนเห็นเป็นจริง เด็กที่เกิดในบ้านต้องเป็นผู้ชาย และหากเป็นเช่นนั้นจริงแล้วตนจะขอเลิกอาชีพหาปลาหันมาเข้าวัดฟังธรรมด้วย ว่าเชื่อแล้วในเรื่องบาปบุญ คุณโทษ ไม่นานโยมแม่ของหลวงปู่กาหลงก็คลอดลูกออกมาเป็นเด็กผู้ชายจริงๆ และให้ชื่อว่า “กาหลง” ส่วนลุงบางเมื่อพบว่าสิ่งที่ตนเห็นเป็นจริงแล้วทุกประการก็เลิกหาปลาแต่บัดนั้น

    เมื่อเติมโตท่านก้อสนใจร่ำเรียน วิชาอาคมมาตั้งแต่ในวัยเยาว์ ท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 20ปี ณ พัทธสีมาวัดนาบุญ ต.คลอง7 ปทุมธานี โดยมีหลวงพ่อเนียม วัดนาบุญเป็นพระอุปัชฌาย์ ในวันที่หลวงปู่กาหลงบวช ลุงบางผู้ที่เคยเห็นนิมิตประหลาดตั้งแต่ 20 ปี ก่อนได้มาเล่าให้พระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่ฟัง พร้อมทั้งขอถวายตัวเป็นโยมอุปัฐากหลวงปู่มาตั้งแต่บัดนั้น ในขณะที่หลวงปู่กาหลงอยู่วัดนาบุญแห่งนี้ท่านได้ร่ำเรียนวิทยาคมกับหลวงพ่อ เนียมและหลวงพ่อซึ้ง จนมีความสามารถทั้งทางกรรมฐาน และวิชาอาคมต่าง ๆ เป็นอย่างดี

    มีเรื่องเล่าตอนที่ท่านเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่อเนียมและหลวงพ่อซึ้งวัดนา บุญท่านทั้งสองได้เขียนจดหมายไปกราบอาจารย์ของท่านชื่อหลวงปู่ขุขันธ์ เป็นพระเขมร ทั้งนี้เนื้อหาภายในยังได้แนะนำหลวงปู่กาหลงซึ่งเป็นศิษย์ของท่านด้วย หลวงพ่อเนียม หลวงพ่อซึ้งมอบหมายให้หลวงปู่กาหลงนำจดหมายไปให้หลวงปู่ขุขันธ์ ซึ่งอยู่ที่จังหวัด ศรีสะเกษ ตอนที่หลวงปู่ไปพบหลวงปู่ขุขันธ์ ขณะนั้นหลวงปู่ขุขันธ์มีอายุถึง 120 ปี แล้ว

    คืนแรก ๆ ที่ท่านไป พระในพื้นที่รูปอื่น ๆ ได้ลองวิชากับท่าน เช่น เสกท่อนฟืน เผาผีเป็นตะขาบนับร้อย ๆ ตัวเลื้อยยั๊วเยี้ยไปหมดแต่ทำอะไรท่านไม่ได้ เพราะหลวงปู่ได้นำเอาตะกรุดที่ตนเองทำเอาไว้มาวางล้อมตัวท่าน ทำให้มันไต่เข้ามาไม่ได้ สุดท้ายท่านก็ร่ายอาคมจับตะขาบเสกให้กลับสภาพเป็นท่อนฟืนอย่างเก่า ถัดจากตะขาบเขาก็เสกก้อนถ่านให้เป็นตัวด้วงมาอีก หลวงปู่กาหลงท่านก็ร่ายพระเวทย์แล้วลูบตัวด้วง ตัวด้วงก็กลายสภาพเป็นก้อนถ่าน หลวงปู่ท่านว่าท่านรู้ว่าใครทำพอในตอนเช้าเท่านั้นแหละพระรูปนั้นหนีไปเลย ไม่กล้ามาสู้หน้าท่าน

    หลังจากที่เจอหลวงปู่ขุขันธ์แล้วท่านได้ยื่นจดหมายให้ เมื่อหลวงปู่ขุขันธ์อ่านจดหมายเสร็จก็เรียกหลวงปู่กาหลงให้ไปกับท่านที่หลัง วัด อันมีดงหนามชนิดต่างๆ กองไว้เต็มพื้น หลวงปู่ขุขันธ์ต้องการเห็นความสามารถของหลวงปู่กาหลงจึงสั่งให้หลวงปู่เดิน เท้าเปล่าเข้าไป จนสุดทางแล้วเดินกลับมาหาท่าน หลวงปู่กาหลงก็ไม่ลังเลถอดรองเท้า เดินเท้าเปล่าเข้าไปในดงหนาม ท่านเล่าว่าหนามทิ่มเท้าท่านไม่ได้แต่ก็ทำให้เเสบไปหมด เดินไปรอบหนึ่งหลวงปู่ขุขันธ์จึงให้พอ แล้วบอกว่าถ้าเป็นคนอื่นท่านให้เดิน 3 รอบ แต่เพราะท่านเป็นศิษย์ท่านเนียม ท่านซึ้ง จึงให้เดินแค่รอบเดียว เมื่อผ่านการทดสอบ หลวงปู่ขุขันธ์จึงมอบตำราเล่มหนึ่ง มีเนื้อหาเกี่ยวกับการไล่ผี เสกของ ปล่อยของ วิชาคงกระพัน หลวงปู่กาหลงได้ร่ำเรียนจนครบถ้วน และปัจจุบันท่านได้เก็บรักษาตำราเล่มนี้ไว้เป็นอย่างดี

    หลวงปู่กาหลงได้ติดตามหลวงพ่อเนียม วัดนาบุญ มาปลุกเสก ชินราชอินโดจีนที่วัดสุทัศน์และได้มีโอกาศเข้าเฝ้า สมเด็จพระสังฆราชแพ ครั้งต่อมาจึงได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนการผสมสูตรนวโลหะและตำราพิธีกรรมการ สร้างพระกริ่งจากพระราชมงคลมุนี(สนธิ์)โดยศึกษาวิชาควบคู่กับหลวงพ่อจำลอง คณะ11 ซึ่งถือว่าท่านเป็นศิษย์เอกมือขวาโดยตรงและยังคุ้นเคยสนิทสนมกับพระราชวิสุ ทธาจารย์หรือเจ้าคุณแป๊ะอดีตเจ้าคณะ 6เป็นอย่างดีซึ่งท่านเป็นศิษย์สายตรงของสมเด็จพระสังฆราชแพ นอกจากนี้หลวงปู่กาหลงยังเล่าให้ฟังอีกว่าได้เล่าเรียนพระวิปัสสนากัมมัฎฐาน และสรรพวิชาต่างๆในนิมิตระหว่างเข้าสมาธิจากครูบาอาจารย์ต่างๆ เช่น ฤาษีปู่เจ้าสมิงพรายที่จูงท่านมาเกิด ท่านท้าวมหาพรหมชินะปัญจะระ และครูบาอาจาย์อีกหลายท่านที่มรณภาพไปแล้ว พระคณาจารย์ที่เป็นสหธรรมมิกกับหลวงปู่กาหลงมีหลายท่านที่ยังมีชีวิตอยู่และ มรณภาพไปแล้ว เช่นหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ท่านเป็นศิษย์ผู้พี่หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ท่านเคยไปปลุกเสกตามวัดต่างๆหลายต่อหลายวัดมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ไปปลุกเสก ร่วมกับหลวงปู่โต๊ะ หลังเสร็จพิธีการหลวงปู่โต๊ะถึงกับกล่าวและชี้มาที่หลวงปู่กาหลง ให้หลวงพ่อแช่มวัดนวลนรดิศและศิษย์ที่นั่งอยู่ฟังว่า “พระรูปนี้ชื่ออะไรอยู่วัดไหน ทำไมพลังอำนาจจิตถึงได้รุนแรงพิศดารแบบนี้ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน”

    “เขี้ยวแก้ว”หลวงปู่บอกว่าของดีทนี้เกิดขึ้นเองและจะมี ก็แต่บุคคลที่พิเศษจริง เช่น ของพระพุทธเจ้าเป็นต้นที่มี ถ้าเป็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เรียกว่า“พระเขี้ยวแก้ว”แต่ของหลวงปู่ท่านเรียกว่า“เขี้ยวแก้ว”นับ ว่าเป็นของกายสิทธิ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเฉพาะผู้มีบุญวาสนาบารมีสูง เท่านั้นและยังสามารถงอกสูงขึ้นและหดเข้าไปได้ด้วยแรงอธิษฐานของท่าน ซึ่งเขี้ยวแก้วนี้มีมาแต่เกิด เมื่อครั้งยังเด็กที่ปลายเขี้ยวมีลักษณะคล้ายรูปองค์พระนั่งสมาธิ แต่เมื่อท่านคิดว่าเป็นถึงรูปองค์พระไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในปากเพราะต้องใช้ ฟันบดเคี้ยวอาหาร จึงตั้งจิตอธิษฐานให้หลุดหายไปคงเหลือแต่เขี้ยวแก้วเสมือนหนุมานทหารเอกพระ รามที่พระอิศวรได้ประทานกุณฑลขนเพชรเขี้ยวแก้วให้เป็นของวิเศษกายสิทธิ์ เพื่อต่อสู้กับศัตรู เวลาใครไปกราบท่านแล้วให้ท่านปลุกเสกของท่านก็มักจะเอามือล้วงไปในปากท่าน แตะที่เขี้ยวแก้วของท่านแล้วนำมาคลึง ที่พระหรือของที่มาให้ท่านปลุกเสกเป็นการเพิ่มพลังพุทธคุณ ท่านมักกล่าวอยู่เสมอว่า “ของๆฉันตั้งใจทำมากับมือต่อไปจะมีค่ายิ่งกว่าทองคำจะหายากยิ่งกว่าเพชร” ฉันทำเครื่องรางของขลังทั้งสักทั้งเสกเพื่อคุ้มครองชีวิตคนมาตั้งแต่ปี 2485 แต่ไม่เคยประกาศให้ใครรู้มีแต่บอกต่อกันแบบปากต่อปาก เมื่อก่อนใครจะมาเอาของๆฉันไปบูชาต้องแบกปืนมาลองด้วยถ้าฉันไม่แน่จริงฉันคง สร้างโบสถ์ได้ไม่ถึง8หลังหรอก คือว่าเมื่อก่อนท่านย้ายวัดไปหลายวัดท่านสร้างโบสถ์เสร็จท่านก็ย้ายไปจำวัด อื่น แล้วก็สร้างโบสถ์อีกเป็นแบบอยู่หลายวัด8หลังแล้วที่ท่านสร้างมาท่านสร้าง โบสถ์ได้ ตอนนี้ท่านก็หางบทำโปสถ์หลังที่9 เมื่อก่อนท่านสร้างตะกรุดหารายได้เอามาสร้างวัด ตะกรุดของท่านมีประสบการณ์เพียบ หลายๆท่านที่มีอยู่ก็คงได้รับประสบการณมาแล้วกับบางอย่างก็หาไม่ได้เก็บกัน หมด

    ครูบาอาจารย์ของหลวงปู่
    1.หลวงพ่อเนียม วัดนาบุญ จ.ปทุมธานี
    1. หลวงพ่อซึ้ง วัดนาบุญ จ.ปทุมธานี ทางหนังเหนียวคงกระพัน พระอาจารย์ท่านนี้หลวงปู่ได้ออกเหรียญของท่านไว้ด้วย โดยหลวงปู่กาหลงปลุกเสกเอง
    2.หลวงปู่ช้าง วัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี
    3.หลวงปู่ด๊วด วัดกลางคลอง 4 จ.ปทุมธานี
    5.หลวงพ่อแข่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐม
    6.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา
    7.หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี
    8.หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู จ.ลพบุรี
    9.เจ้าคุณพระอินทสมาจารย์(เงิน) วัดอินทรวิหาร จ.กรุงเทพฯ
    10.เจ้าคุณพระราชมงคลมุนี(สนธิ์) วัดสุทัศน์ จ.กรุงเทพฯ
    11.หลวงพ่อปลื้ม ศิษย์สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยขึ้นครูพร้อมกับ ขุนกล้ากลางผจญ มือขวาของกรมหลวงชุมพรฯ เมื่อปี2485
    12.หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
    13.หลวงพ่อหวล วัดประดิษฐ์สุวรรณาราม ท่านเก่งทางด้านปลัดขิกเป็นอาจารย์ของหลวงปู่กาหลง และหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก.

    ประวัติหลวงปู่โดยย่อ : https://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1458823454


    สภาพสวยเดิมๆ พิมพ์นิยม อุ้มบาตรหลังปั้มยันต์ครู พิมพ์คมโค้ดชัดลึกเดิมๆ สวยมากเก่าเก็บไม่ผ่านการบูชา พุทธคุณล้นเปี่ยม แบ่งให้บูชา 499 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณวิคิด จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2025 at 14:50
  11. วิคิด

    วิคิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2012
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,146
    จองครับ
     
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386
    4292.สุดยอดพุทธศิลป์ มหาชนวน เมตตามหานิยม(ใหญ่ซองเดิม)
    เหรียญหล่อพระพุทธชัยมงคล รุ่นอุดมมงคล ประจุพลัง 2 วาระ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    เหรียญหล่อ วัดหลวงพ่อสด ใหญ่.JPG
    1342856-4c562-jpg.jpg
    Amulet-wlps_245.jpg
    เหรียญหล่อพระพุทธชัยมงคล รุ่นอุดมมงคล วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จังหวัดราชบุรี เนื้อทองฝาบาตรผสมชนวน ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2553

    วัตถุประสงค์
    - เพื่อมอบให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาในการบริจาคทรัพย์สมทบทุน สร้างพระมหาเจดีย์สมเด็จ


    พิมพ์ใหญ่ จำนวน 12,000 เหรียญ ( สมัยนั้นให้ทำบุญบูชา 1,000บาท )


    เหรียญรุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวที่เน้นพระคาถาเมตตาแบบเน้นๆ และการวางอักขระก็งดงามลงตัว- เป็นเหรียญรุ่นเดียวที่ทำเป็นแบบสี่เหลี่ยม- เป็นเหรียญรุ่นเดียวที่ออกแบบไปทางมหายาน เช่น ลักษณะพระธรรมกายที่ดูใหญ่โต และลักษณะฐานพระ ดูแปลกตาดี- มีเรื่องเล่าขานว่า เป็นรุ่นเดียวที่คุณยายตรีธาขอดู

    วิมังสา อิสะวาสุเป็นเหรียญพระรุ่นเดียวของวัดหลวงพ่อสดฯ ที่ปรากฏชื่อวัดจารึกไว้ที่ขอบเหรียญ “วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม”(ขอบขวาของเหรียญ) และ “ดำเนินสะดวก ราชบุรี”(ขอบซ้ายของเหรียญ)

    ชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์
    - ชนวนพระกริ่งของสมเด็จพระวันรัต-วัดเทพศิรินทร์
    - แผ่นจาร เงิน-ทอง-นาก ของหลวงพ่อภาวนา + หลวงป๋า
    - ชนวนกริ่งสัมมาอะระหัง-กริ่งสันติสุข เป็นสำคัญ
    - ผงตะไบและชิ้นส่วนของธาตุกายสิทธิ์
    - เศษพรกรุสัมฤทธิ์ หลายยุคหลายสมัย
    - ระฆังเก่า 1ใ บ เป็นต้น



    พิธีพุทธาภิเษก

    วาระที่ : 1
    - วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 เวลา 15.30 น

    วาระที่ : 2
    - วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2553 เวลา 13.50 น


    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    - เว็บไซต์ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
    http://dhammakaya.tv/เหรียญอุดมมงคล/




    สภาพสวยเดิมๆ พิมพ์ทรงแห่งศิริมงคล พุทธศิลป์งดงาม พุทธคุณเป็นเลิศ แบ่งให้บูชา 299 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณธนกฤต จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2025 at 19:56
  13. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386

    รายการจัดส่ง
    แฟลช 06/02/2568





    06022568  กกก.jpg



    ***สรุปรายการที่ หน้า1 ครับผม***
    Tel: 086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    Line id : engiman_nu


    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif

     
  14. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386
    4293.เหรียญดีมีประสบการณ์ เหรียญสันติสุข วัดหลวงพ่อสด
    ลป.หงษ์,หลวงป๋า,ลป.เจือ,ลป.แผ้ว ร่วมอธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    -44d0c291b1e21f91.jpg

    e95fnr-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    e95szd-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    เหรียญสันติสุข วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จังหวัดราชบุรี เนื้อทองแดง ตอกโค้ด ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2550 ชุดแจก แจกทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ประจำ 3 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 20,000 เหรียญตอกโค้ดยันต์

    พุทธศิลป์
    ด้านหน้า เป็นรูปสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงฉัพพรรณรังสี ตอกโค๊ต
    ด้านหลัง เป็นรูปพระพุทธเจ้าห้าพระองค์พร้อมยันต์ห้า

    เหรียญสันติสุข มี 2 เนื้อ คือ
    1 นวะโลหะ ไม่มีห่วง สร้างจำนวน 10,000 เหรียญ ตอกโค้ดด้านซ้ายองค์พระ มอบเป็นที่ระลึกผู้ทำบุญที่วัดหลวงพ่อสด
    2 ทองเเดง มีห่วง สร้างจำนวน 50,000 เหรียญ
    2.1 แจกทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ประจำ 3 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 20,000 เหรียญตอกโค้ดเฉพาะรุ่น
    2.2 มอบเป็นที่ระลึกผู้ทำบุญ 30,000 เหรียญ ตอกโค้ดคล้ายเลข 8

    พิธีพุทธาภิเษก
    : เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 19 เมษายน พ.ศ.2550 ณ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จ.ราชบุรี โดยมี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นองค์ประธานสงฆ์จุดเทียนชัย

    พระสุปฏิปันโน ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก อาทิ
    - สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ)
    วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
    - พระราชพรหมเถร (วีระ คณุตตฺโม) รองเจ้าอาวาส
    และอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
    - หลวงป๋า พระราชญาณวิสิฐ (เสริมชัย ชยมงฺคโล)
    ปฐมเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
    (ปัจจุบันคือ พระเทพญาณมงคล)
    - หลวงปู่หงษ์ พฺรหฺมปญฺโญ วัดเพชรบุรี จ.สุรินทร์
    - หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม
    - หลวงปู่เจือ ปิยสีโล วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม

    เหรียญเนื้อทองเเดงส่วนหนึ่ง ได้มอบให้เเก่ทหาร / ตำรวจ เเละผู้ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายเเดนภาคใต้


    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    - เว็บไซต์ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
    http://dhammakaya.tv/เหรียญสันติสุข-วัดหลวงพ/


    สภาพสวยเดิมๆ พิมพ์ทรงแห่งศิริมงคล พุทธศิลป์งดงาม พุทธคุณเป็นเลิศ แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณธนกฤต จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2025 at 23:16
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386
    4294.มวลสารผงพรายกุมาร ลป.ทิม มหาว่าน ลพ.โด่ วัดนามะตูม
    พระสมเด็จพุทธามหาลาภ(๑) ลป.ทิม,ลป.เที่ยง ประจุพลัง

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    -314756ddcbd7b190.jpg

    f0aa45_966834bf4aed4238b2050c8a80821052mv2.jpg
    get_auc3_img6ce36522a6bd1420.jpg

    พระผงชุดไตรภาคีพุทธามหาลาภ พิมพ์พระสมเด็จพุทธามหาลาภ หลวงพ่อเที่ยง ติสฺสโร วัดสำนักขาม จังหวัดชลบุรี เนื้อผงพุทธคุณ ผสมผงพรายกุมาร และว่านต่างๆ ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2514

    ชุดไตรภาคีพุทธามหาลาภ ประกอบด้วย
    - พระสมเด็จพุทธามหาลาภ
    - พระปิดตาอุดกริ่ง
    - พระผงรูปเหมือน หลวงพ่อเที่ยง

    เมื่อหลวงพ่อเที่ยงได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดสำนักขามแล้ว จึงดำริสร้างพระสมเด็จ พระปิดตา และลูกอม โดยสร้างจากผงพุทธคุณผสมผงพรายกุมารและว่านที่ท่านได้รับมอบมาจากหลวงพ่อโด่ และได้นิมนต์หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่มาปลุกเสก และท่านได้นำพระเครื่องทั้งหมดลงตุ่มแดงฝังไว้ในบริเวณวัด และเมื่อท่านมรณภาพไปแล้วก็ไม่มีใครทราบเรื่องนี้ กระทั่งเจ้าอาวาสวัดสำนักขามรูปต่อ ๆ มาได้นิมิตเห็นหลวงพ่อเที่ยงมาบอกตำแหน่งที่ฝังตุ่มแดงบรรจุพระและลูกอมผงพรายกุมาร และได้นำพระสมเด็จและพระปิดตาขึ้นมาจำหน่ายได้เงินมาสร้างอุโบสถหลังใหม่ตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อเที่ยง



    ปลุกเสกโดย
    - หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
    - หลวงพ่อเที่ยง ติสฺสโร วัดสำนักขาม ( ศิษย์ร่วมเรียนกับสำนัก หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม และเป็นศิษย์ผู้น้องของ หลวงปู่ทิม )


    พุทธคุณ
    - เมตตามหานิยม ค้าขาย โชคลาภเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัยตามแบบฉบับของหลวงปู่ทิม


    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    - https://www.dailynews.co.th/articles/2780959/
    - https://www.siam-pra.com/shop/detail/18246
    - https://www.kampeenews.com/post/หลวงป-เท-ยง-ต-สสาโร-ว-ดสำน-กขามยอดปรมาจารย-ว-านแห-งตะว-นออก

    สภาพสวยเดิม เมตตามหานิยม ค้าขาย โชคลาภเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัยตามแบบฉบับของหลวงปู่ทิม แบ่งให้บูชา 260 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณธนกฤต จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2025 at 23:19
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386
    4295.เหรียญดีมหามงคล(ทองแดง) หรียญหลวงพ่อทองคำหลังพระนารายณ์ทรงครุฑ
    วัดไตรมิตรวิทยาราม ลป.สรวง,ลป.หมุน,ลป.ละมัย,ลป.กอง ปลุกเสก 2วาระ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    -2be3754e1fe306be.jpg
    เหรียญหลวงพ่อทองคำหลังพระนารายณ์ทรงครุฑเหนือราหู วัดไตรมิตรวิทยาราม กทม. เนื้อทองแดงผิวไฟ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2543 ท่านเจ้าคุณธงชัย ธมุมธโช จัดสร้าง พร้อมพระผงนั่งซุ้มพญานาค หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ออกวัดไตรมิตร

    พิธีพุทธาภิเษก

    พิธีพุทธาภิเษก รุ่นเสาร์ 5 มหาเศรษฐี
    เมื่อ วันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2543 ฤกษ์ เสาร์ 5 มหาเศรษฐี ณ วัดป่าหนองหล่ม ต.หนองแวง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว
    โดยมีรายนามพระคณาจารย์ อาทิ

    - หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน เป็นประธานพิธี
    - หลวงปู่กอง วัดสระมณฑล จ.อยุธยา พระเกจิผู้แตกฉานและสืบทอดวิชาทำตะกรุดและวัตถุมงคลต่างๆสายวิชา วัดประดู่ในทรงธรรมสำนักตักศิลา แห่งเมืองเก่าอยุธยา
    - หลวงปู่ละมัย สำนักสวนสมุนไพร จ.เพชรบูรณ์ ผู้สำเร็จวิชาปรอท และโด่งดังมากในวิชาสมุนไพรและวิชาปรอท
    - หลวงพ่ออิน วัดบ้านด่าน ศิษย์เอกหลวงพ่อเอีย
    - หลวงปู่สรวง นักบุญแห่งบ้านสายลม บุรีรัมย์ มาอธิษฐานจิตตั้งกสิณไฟ ปลุกเสกในเวลาตี 3 กว่าด้วย



    พิธีมหาพุทธาภิเษก
    ณ มณฑลพิธี วัดไตรมิตรวิทยาราม สถานที่ประดิษฐานพระทองคำ หลวงพ่อสุโขทัย
    ไตรมิตร โดยมี
    - ท่านเจ้าคุณธงชัย (พระราชภาวนาวิกรม)เป็นเจ้าพิธี ซึ่งได้รับความเมตตา อธิษฐานจิตปลุกเสกโดย
    - หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย
    - หลวงปู่พรหมา วัดถ้ำหินผานางคอย
    - หลวงปู่ขาว พุทธรักชิโต วัดป่าพนคำ
    - หลวงพ่อแพง ปริสุทโธ วัดพระธาตุท่าอุเทน และพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูป


    พิธีเข้มขลังด้านพุทธคุณ
    - เด่นคงกระพันชาตรีแคล้วคลาด เสน่ห์เมตตามหานิยม การงานเสริมดวงลาภยศสรรญเสริญ โชคลาภ การค้าการขายดีร่ำรวย ซื้อง่าย ขายคล่อง มีดีครบทุกด้านเป็นที่ประจักยิ่งนัก



    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    - เพจ หลวงปู่หมุน วัดป่าหนองหล่ม สระแก้ว
    - เพจ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล รวมวัตถุมงคลออกวัดซับลำใย(เฉพาะทันยุคอ.ตั้ว)



    สภาพผิวหิ้งเก่าเก็บ พระไม่สึกไม่ได้ใช้ แต่เก่าเก็บพุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 270 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386
    4296.เข้มขลังหนักแน่นปลุกเสกด้วยเตโชกสิณ พระสมเด็จสามชั้น หลังยันต์
    หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก ทายาทพุทธาคม หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    [​IMG]

    พระสมเด็จสามชั้น หลังยันต์ ( ว ท ค ) หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก จังหวัดสุพรรณบุรี เนื้อดินเผา ดำเนินการจัดสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ.2500

    วัตถุมงคลที่ท่านสร้างมีหลายอย่าง โดยเฉพาะพระเนื้อดินเผา มีหลายพิมพ์ สร้างในช่วงก่อนและหลัง 2500 เป็นจำนวนมาก ท่านได้สร้างพระเครื่อง เนื้อดิน สืบทอดตามเจตนารมณ์ของ หลวงพ่อโหน่ง ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์ ของท่าน โดยการปลุกเสกด้วย เตโชกสิณ คือ ขณะเผาพระเนื้อดินท่านจะเดินวนเวียนปลุกเสกรอบเตาเผานั้น จนกว่าพระจะสุกได้ที่เป็นอันเสร็จพิธี

    หลวงพ่อแดง (พระครูสุวรรณสาธุกิจ) สงฺฆรกฺขิโต วัดทุ่งคอก ท่านเป็น พระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังมานานกว่า๖๐ ปี ท่านเป็นศิษย์เอกร่วมสำนักเดียวกับ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อผึ่ง วัดสว่างอารมณ์ นั้นก็คือ สำนักวัดคลองมะดันสำนักวัดคลองมะดัน เจ้าสำนักก็คือ หลวงพ่อโหน่ง พระอริยสงฆ์ผู้สำเร็จอรหันต์ มรณภาพไปแล้ว ศพไม่เน่าไม่เปื่อย อีกทั้งยังมรณภาพในลักษณะอิริยาบท ปางไสยยาสน์ ซึ่งในเมืองไทยมีเพียง 2 องค์เท่านั้น คือ ท่านและหลวงพ่อเนียม วัดน้อย



    ประวัติพระครูสุวรรณสาธุกิจ (หลวงพ่อแดง) วัดทุ่งคอก
    หลวงพ่อแดง เกิดเมื่อปี พ.ศ.2440 โยมบิดาชื่อบุญ โยมมารดาชื่อใน เมื่อตอนอายุได้ 13 ปี บิดาได้นำไปฝากเรียนหนังสือกับหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน พออายุครบบวช จึงได้อุปสมบทที่วัดทุ่งคอก โดยมีพระครู วินยานุโยค (หลวงพ่อเนี่ยง) วัดสองพี่น้อง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการโหน่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการเผื่อน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้วก็อยู่จำพรรษาที่วัดคลองมะดันกับหลวงพ่อโหน่ง ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อโหน่ง

    ต่อมาเมื่อพรรษาที่ 5 เจ้าอาวาสวัดทุ่งคอกว่างลง ทางคณะสงฆ์จึงมอบให้ท่านมารักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทุ่งคอก จนถึงปี พ.ศ.2476 จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็น เจ้าอาวาสวัดทุ่งคอก พอปี พ.ศ.2478 ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลทุ่งคอก พ.ศ.2496 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2499 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูสุวรรณสาธุกิจ

    หลวงพ่อแดงเมื่อมาอยู่ที่วัดทุ่งคอกก็ได้พัฒนาวัดที่ชำรุดทรุดโทรมอยู่ในขณะนั้นให้มีสภาพดีขึ้น ในสมัยนั้นวัดทุ่งคอกอยู่ห่างไกลความเจริญ การไปมาไม่สะดวก วัดทุ่งคอกเป็นวัดเล็กๆ ยากจน หลวงพ่อแดงจึงเริ่มพัฒนาวัดทุ่งคอกโดยเข้าไปหาไม้ในป่าเพื่อมาสร้างเสนาสนะและวัดให้ดีขึ้น

    โดยมี ชาวบ้านช่วยกันหาไม้มาสร้างกุฏิ ศาลาการเปรียญ ตลอดจนสร้างโบสถ์ วัดทุ่งคอกก็มีความเจริญขึ้นโดยลำดับ ต่อมาหลวงพ่อแดงก็ได้จัดให้ศาลาการเปรียญเป็นที่เรียนของเด็กๆ แถบนั้น ต่อมาก็ได้พัฒนาเป็นโรงเรียนในที่สุด และหลวงพ่อแดงก็ได้สร้างโรงเรียนพระธรรมวินัยแก่พระภิกษุและสามเณร ถือว่าเป็นโรงเรียนแห่งแรกของตำบลทุ่งคอก

    ในเรื่องช่วยเหลือชาวบ้านที่เจ็บไข้ ได้ป่วยหลวงพ่อแดงก็ได้รักษาโดยใช้ยาสมุนไพรตามแบบแผนโบราณที่ท่านมีความรู้ในด้านนี้ ช่วยเหลือชาวบ้านให้หายเจ็บป่วยได้เป็นอย่างดี คนป่วยโรคจิตหลวงพ่อแดงก็ช่วยรักษาให้หายได้ ชาวบ้านมีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็มักจะไปให้ท่านช่วย หลวงพ่อแดงก็ช่วยเหลือทุกรายด้วยความเมตตา หลวงพ่อแดงจึงเป็นที่รักเคารพของชาวบ้านสองพี่น้องมาก

    หลวงพ่อแดงสร้างวัดทุ่งคอกจนเจริญรุ่งเรืองมาจนทุกวันนี้ ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งคอก จวบจนถึง พ.ศ.2510 จึงมรณภาพ สิริอายุได้ 70 ปี พรรษาที่ 50



    สภาพสวยเดิมๆเก่าเก็บ ของดีราคาเบา พุทธคุณล้นฟ้าราคาสบายกระเป๋า แบ่งให้บูชา 333 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)



    (คุณจินดา จองแล้วครับ)



    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2025 at 00:06
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386
    4297.ของดีที่ถูกลืม ของพระอริยสงฆ์ผู้มีอายุยืน ผู้หลีกเร้นวิเวกสงบสงัด
    พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว หลวงปู่เรือง พระอริยสงฆ์แห่งเขาสามยอด

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    ajrkjw-jpg.jpg

    พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว หลวงปู่เรือง วัดเขาสามยอด จังหวัดลพบุรี เนื้อผงพุทธคุณ หลังฝังตะกรุดเงินตอกโค้ด ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2542


    ประวัติโดยย่อ
    "หลวงปู่เรือง"

    มีชื่อเดิมว่า บุญเรือง นามสกุล สุขสันต์ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ม.ค. 2455 ที่บ้านดอนตระโกหัก ต.บ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านสระข่อย ต.โคกปีบ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี บิดาชื่อ นายคำพันธ์ สุขสันต์ มารดาชื่อ นางศรี สุขสันต์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 8 คน เป็นชาย 5 คน และหญิง 3 คน หลวงปู่เรืองเป็นบุตรคนที่ 2 ต่อมาหลวงปู่ได้เข้ารับการศึกษาชั้นประถมศึกษาที่ ร.ร.ขุนโคกปีบปรีชา โดยมี คุณครูหลั่น ปราณี ผู้ทั้งเป็นครูสอนและครูใหญ่ จบ ป.4 ท่านเก่งทั้งภาษาไทยและภาษาขอม ท่านเป็นคนเรียนเก่ง จนทางราชการได้ให้เป็นผู้สอนหนังสือให้กับเด็กๆ ซึ่งในสมัยนั้นหาคนเรียนจบชั้น ป.4 ยากมาก


    ต่อมาเมื่ออายุได้ 21 ปี ก็เข้าอุปสมบทตามประเพณีเพื่อทดแทนคุณบิดามารดา เมื่อวันศุกร์ ที่ 6 ก.ค. 2477 ณ วัดสระข่อย ต.โคกปีบ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยมี พระสมุห์จำปา วัดสระข่อย อันเป็นเจ้าคณะหมวด (เจ้าคณะตำบลโคกปีบ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพัด ธัมมะธีโร วัดโคกมอญ (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น วัดโคกไทย) ต.โคกปีบ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ฉัตร คังคะปัญโญ วัดต้นโพธิ์ ต.โคกปีบ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ อันมี พระครูพิบูล วัดท่าประชุม อ.ศรีมหาโพธิ์ เป็นเจ้าคณะแขวง (เจ้าคณะอำเภอศรีมหาโพธิ) ได้รับฉายาว่า "อาภสสโร" (อาภัสสะโร) จากนั้นได้จำพรรษาและศึกษาพระธรรมพระวินัยอยู่กับพระอุปัชฌาย์ที่วัดสระข่อย เป็นเวลา 10 พรรษา โดยได้อยู่รับใช้ปรนนิบัติพระอุปัชฌาย์ พร้อมทั้งศึกษาวิชาต่างๆ จากพระอุปัชฌาย์ จนเป็นที่รักและไว้วางใจยิ่งจากพระอุปัชฌาย์
    ด้านการศึกษาธรรมะ หลวงปู่ได้เรียนนักธรรมชั้นตรี และสอบได้ในพรรษาแรกเลย (พ.ศ.2477) จากสำนักเรียนที่วัดของท่าน พรรษาที่ 2 (พ.ศ.2478) สอบได้นักธรรมโท

    พรรษาที่ 3 สอบได้นักธรรมเอก สอบได้ปีละชั้น ทั้งที่พรรษายังน้อย อายุแค่ 23 ปีเท่านั้น เมื่อท่านเรียนจบนักธรรมแล้ว พระอาจารย์ฉัตร วัดต้นโพธิ์ ให้ไปช่วยสอนธรรมะที่วัดต้นโพธิ์ ท่านก็ไปช่วยสอนอยู่ระยะหนึ่ง พร้อมกันนี้ ก็ได้ศึกษาวิชาบาลีมูลกัจจายน์ และวิชาโหราศาสตร์สมุนไพรใบยา พร้อมวิชาคาถาอาคมต่างๆ ไปด้วย จนพรรษาพ้น 10 พรรษาแล้ว ท่านเห็นว่าได้ศึกษาวิชาการพอที่จะปกครองตนเองได้แล้ว จึงออกธุดงค์แสวงวิเวก ประพฤติปฏิบัติธรรมไปตามที่ต่างๆ

    หลังจากนั้น ระยะปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 หลวงปู่ได้ออกเดินธุดงค์ขึ้นอีสาน แล้วกลับมาอยู่ที่ จ.ลพบุรี ที่ถ้ำพิบูลย์ ในปี พ.ศ. 2489 (พรรษาที่ 13) หลวงปู่เรืองได้จำพรรษาที่ถ้ำพิบูลย์ 5 พรรษา ต่อมาทางทหารได้มานิมนต์ให้ท่านไปอยู่วัดที่สร้างใหม่ เป็นที่เจริญ และใหญ่โตกว่าที่เดิม อีกทั้งไม่กันดาร เพราะที่ท่านอยู่นี้เป็นเขตของทหาร และทหารซ้อมยิงอาวุธอยู่บ่อยๆ เกรงว่าจะเป็นอันตรายได้ อีกอย่างในหน้าแล้งกันดารน้ำมาก จึงขอให้ไปอยู่ที่วัดที่สร้างใหม่ แต่หลวงปู่ไม่ไป กลับเก็บกลดสะพายย่าม ธุดงค์เข้าป่าลึกไปเลย จนมาพบถ้ำพระอรหันต์ที่เขาสามยอด 2-3 ปีแรกหลวงปู่ไม่ได้บิณฑบาตเลย ท่านอยู่องค์เดียวมาตลอด ไม่มีใครมาพบเห็นท่านเลย หลวงปู่อยู่ได้อย่างไร? และฉันอะไร? จึงอยู่ได้

    หลวงปู่ เล่าให้ฟังว่า ฉันยอดไม้ ใบไม้ โดยเฉพาะยอดโสม ซึ่งขึ้นอยู่บนเขามากมาย ก็ฉันมาตลอด อิ่มแทนข้าวก็อยู่ได้ ส่วนหน้าแล้งบนเขาไม่มีน้ำ แล้วหลวงปู่เอาน้ำที่ไหนดื่มและมาสรง (อาบ) หลวงปู่ บอกว่า ก็ตัดเถาวัลย์ให้น้ำไหลจากเถาวัลย์ เอากระติกรอง แล้วนำมาฉัน วันละนิดเดียวพอแก้กระหาย เพราะอยู่ในถ้ำ อากาศเย็น จึงไม่ต้องฉันบ่อยๆ ส่วนน้ำสรงก็ไม่ต้อง เพราะอะไร ก็เพราะเหงื่อไม่ค่อยออก กลิ่นตัวจึงไม่ค่อยมี ฝนตกทีก็ได้สรงกันที และอยู่ที่แห่งนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

    และได้สร้างวัตถุมงคลต่างๆ หลายรุ่น เป็นที่นิยมของบรรดานักสะสม และนำไปเป็นมงคลป้องกันตัว จนทำให้หลาวงปู่เรืองมีชื่อเสียงทางด้านเกจิอาจารย์ มีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก นิมนต์ไปอธิษฐานจิตในพิธีปลุกเสกหลายแห่ง และท่านยังได้บริจาคทรัพย์ช่วยเหลือสังคมอีกมากมายเช่นกัน

    ปัจจุบัน
    "หลวงปู่เรือง อาภัสสะโร" เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมเขาสามยอด เกจิอาจารย์ดังของเมืองลพบุรี ละสังขารอย่างสงบแล้วด้วยโรคชรา สิริอายุย่างเข้า 101 ปี เมื่อเวลา 19.29 น.วานนี้ (15 ก.ย. 56) ที่ห้อง ICU อาคารกัลยาณิวัฒนา โรงพยาบาลอานันทมหิดล ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี หลังเข้าพักรักษาตัวอยู่หลายวัน



    สภาพสวยเดิมพิมพ์คมชัดลึก สุดยอดมวลสารมหาพิธีใหญ่ แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  19. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,048
    ค่าพลัง:
    +6,947
    -ขอจองครับ
     
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,365
    ค่าพลัง:
    +14,386


    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...