กระทู้บันทึกเหตุการณ์บางอย่าง

รูปผมและเพื่อน ๆ และท่านปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์

 

ละครหลายเรื่องที่พยายามทำให้เชื่อว่า มีพระอยู่รูปหนึ่ง เป็นพระเจ้าตากสิน เป็น ร.5 เป็นบุเรงนอง เป็นพระนเรศวรมหาราช เป็นอะไรต่อมิอะไรมากมาย และเป็นองค์จริงของพระศรีอาริยเมตตรัยด้วย ขณะนี้อยู่ในพิษณุโลก พระศรีอาริยเมตตรัยองค์จริงขณะนี้ ผมเองไม่มีความรู้ด้านนี้ ก็ขอให้พิจารณาเองเถิด<!-- google_ad_section_end -->

 

ผมเชื่อว่า พระพุทธเจ้าไม่ว่าจะเป็นองค์ใด ๆ รวมทั้งพระศรีอาริยเมตตรัยด้วย หากจะต้องใช้คนมาบอกบุญ คงไม่ใส่ร้ายป้ายสีคนบอกบุญของตนเอง จริงหรือไม่ ?

 

มีหลายท่านบอกผมว่า ไม่ควรทำเช่นนี้ เพราะจะเป็นการสร้างศัตรูข้ามพบข้ามชาติไปไม่รู้จักจบสิ้น ขอให้ดูตัวอย่างพระพุทธเจ้ากับพระเทวทัตที่เมื่อชาติหนึ่งเคยเป็นพ่อค้าด้วยกันทั้งคู่ พระเทวทัตในชาตินั้นเป็นพ่อค้าเดินถึงบ้านหลังหนึ่ง เจ้าของบ้านเอาถาดเก่า ๆ แต่ภายในเป็นทองคำโดยที่เจ้าของบ้านไม่รู้ตัว เอามาแลกกับสินค้าของพระเทวทัต พระเทวทัตบอกว่า ถาดเก่า ๆ อย่างนี้ตีราคาให้เพียงเล็กน้อย แค่ไม่กี่สิบบาท เจ้าของบ้านเห็นว่า แม้จะเป็นถาดที่ไม่มีค่าเลย เก่าแค่ไหนก็น่าจะได้สักร้อยสองร้อยบาท จึงไม่แลก พระเทวทัตก็แกล้งจากไป พระพุทธเจ้าในชาตินั้นเป็นพ่อค้าเช่นเดียวกันเดินถึงบ้านหลังนั้น เจ้าของบ้านเอาถาดใบเดิมออกมาขอแลกสินค้า พระพุทธเจ้าหยิบดูก็รู้ว่าเป็นทองคำเพราะหนักกว่าทองเหลืองทั่ว ๆ ไป จึงบอกแก่เจ้าของบ้านว่า สินค้าของเรามีมาทั้งหมดประมาณแสนกว่าบาท ถาดนี้มีราคาสูงกว่าสินค้าของเราทั้งหมดรวมกันเสียอีก เจ้าของบ้านดีใจที่พบพ่อค้าคนตรง จึงขอแลกสินค้าเท่าที่พ่อค้าพระพุทธเจ้ายอม พระพุทธเจ้ายกสินค้าให้ทั้งหมดแล้วจากไปขึ้นท่าเรือ เรือนั้นออกจากท่าไปแล้ว พระเทวทัตกลับมาหวังจะกดราคาเจ้าของบ้านอีก เจ้าของบ้านบอกว่าได้แลกกับสินค้าทั้งหมดนี้แล้ว พ่อค้านั้นจากไปแล้ว พระเทวทัตตามไปที่ท่าเรือแล้วผูกจิตอาฆาตกระอักเป็นเลือดถึงแก่ความตาย เป็นเหตุให้ผูกอาฆาตพระพุทธเจ้ามาจนชาติที่พระพุทธเจ้าทรงสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า นี่เป็นสิ่งที่คนส่วนมากพูดถึง

คราวนี้ลองมาดูเรื่องจริงอีกเรื่อง ผมรู้จักหลวงพ่อนิยม เลปาจาร ( มรณภาพไปเมื่อประมาณหลังออกพรรษาปี 2553 ) ท่านมีอดีตเป็นนายตำรวจมือปราบชั้นผู้ใหญ่ของประเทศไทย ท่านเคยจับคนร้ายคนหนึ่งชื่อเสือใหญ่ติดคุกนานหลายปีทีเดียว คนร้ายคนนั้นหลังออกจากคุก พยายามสืบเสาะหานายตำรวจมือปราบท่านนั้นว่า ไปอยู่ที่ไหน ต่อมาสืบทราบว่า ท่านบวชอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในป่า เสือใหญ่ไปพบพระอดีตมือปราบเพื่อขอกราบขอบพระคุณที่ทำให้ชีวิตของเสือใหญ่ไม่ต้องสิ้นสุดลงด้วยการประหาร เนื่องจากหากเสือใหญ่ยังคงปล้นฆ่าต่อไป วันหนึ่งต้องตายด้วยคมหอกคมดาบ หรืออาจตายจากเสืออื่น ๆ หรือลูกน้องตัวเองก็เป็นไปได้ หลวงพ่อนิยมจึงรับกราบและไต่ถามดูว่า เสือใหญ่อยากบวชไหม ? เสือใหญ่อยากบวช จากนั้นเสือใหญ่บวชและตามปรนนิบัติหลวงปู่นิยม เลปาจารมาตลอดหลายสิบปีหลังของชีวิตหลวงปู่จนกระทั่งหลวงปู่มรณภาพ ทุกวันนี้เสือใหญ่ยังทำการซ่อมแซมกุฏิและศาลาที่หลวงปู่นิยมใช้ภาวนาและรักษาทุกอย่างให้อยู่ในสภาพเหมือนเดิมทุกประการ ยังคงเทิดทูนหลวงปู่ในฐานะที่ยกชีวิตของตนให้หลุดจากวงจรอุบาทว์ได้

ผมหวังว่า ทุกท่านที่ทำผิดไปแล้ว หากกลับใจใหม่ ขอเพียงแต่กลับใจจริง ๆ ทุกอย่างเริ่มต้นได้ใหม่ อย่าลงลึกไปกว่านี้เลย เพราะผมเมื่อรู้จักใครแล้ว ย่อมช่วยโดยไม่ได้เกลียดชังเป็นการส่วนตัว แต่อยากให้พ้นจากสภาพหลงทาง ออกมาเถอะครับ ออกมาจากความผิดบาปทั้งหมด เพื่อนไม่ดีให้หยุดคบหาเสีย หันมาคบกับบัณฑิต จะได้ไม่ลงลึกและลงนานครับ

 

เพื่อนสมาชิกบอกมาว่า อ่านแล้วยังไม่เข้าใจว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพื่อความกระจ่างทั้งหมด ผมจะต้องขอเล่ากันแบบตั้งแต่ต้นจนจบจะดีกว่าครับ

 

ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่ช่วยบอกให้ผมรู้ว่า อ่านแล้วไม่เข้าใจเรื่องราว และผมควรเขียนเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบให้อ่านแล้วเข้าใจถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นครับ ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกมากครับ


เริ่มต้นเรื่องที่จะเล่านะครับ

ผมบอกบุญอยู่ในเวปพลังจิตแห่งนี้มาเป็นเวลาประมาณ 2 ปีแล้ว ต่อมาพระหลอด พระประมาณ วรญาโณ วัดย่านยาว ต. วงฆ้อง อ. พรหมพิราม จ. พิษณุโลก ชื่อในเวปพลังจิตคือ ( oomsin2515 ) เข้ามาขอให้ผมพาไปรักษาหัวเข่าของพระประมาณกับคุณหมอศุภชัย ชื่อในเวปคือ ( rojkajohn ) เป็นเหตุให้รู้จักกัน ต่อมา oomsin2515 ขอให้ผมตั้งกระทู้เพื่อช่วยซื้อที่ดินตัดถนนเข้าวัดชัยภูมิการาม จ. พิษณุโลก เมื่อวันที่ 3/8/2010 โดยวัตถุมงคลต่าง ๆ นั้น พระวนินทายให้ผมไปรับจากวัดปรีดาราม จ. นครปฐม ผมไปรับมาจากหลวงพ่อเอนก วัดปรีดาราม จ. นครปฐมด้วยตนเอง

 

ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่ช่วยบอกให้ผมรู้ว่า อ่านแล้วไม่เข้าใจเรื่องราว และผมควรเขียนเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบให้อ่านแล้วเข้าใจถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นครับ ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกมากครับ


เริ่มต้นเรื่องที่จะเล่านะครับ

ผมบอกบุญอยู่ในเวปพลังจิตแห่งนี้มาเป็นเวลาประมาณ 2 ปีแล้ว ต่อมาพระหลอด พระประมาณ วรญาโณ วัดย่านยาว ต. วงฆ้อง อ. พรหมพิราม จ. พิษณุโลก ชื่อในเวปพลังจิตคือ ( oomsin2515 ) เข้ามาขอให้ผมพาไปรักษาหัวเข่าของพระประมาณกับคุณหมอศุภชัย ชื่อในเวปคือ ( rojkajohn ) เป็นเหตุให้รู้จักกัน ต่อมา oomsin2515 ขอให้ผมตั้งกระทู้เพื่อช่วยซื้อที่ดินตัดถนนเข้าวัดชัยภูมิการาม จ. พิษณุโลก เมื่อวันที่ 3/8/2010 โดยวัตถุมงคลต่าง ๆ นั้น พระวนินทายให้ผมไปรับจากวัดปรีดาราม จ. นครปฐม ผมไปรับมาจากหลวงพ่อเอนก วัดปรีดาราม จ. นครปฐมด้วยตนเอง

 

ในช่วงระหว่างต้นถึงกลางเดือน 8 2010 นั่นเอง พระหลอด ( oomsin2515 ) ได้บอกผมว่า ท่านขับรถไปชนต้นไม้ อู่จะเอาค่าซ่อมรถ 30,000.- บาท ให้ผมช่วยหาเงินให้หน่อย ผมจึงนำดาบพระนเรศวรยาว 29 นิ้วนำไปขายให้คุณ jantip ด้วยการตั้งกระทู้แยกออกไป คุณ jantip ซื้อ 10,000.- บาท ผมโอนเงิน 10,000.- บาทให้พระหลอดทันที พระหลอดยังไม่ได้ขอบใจอะไรผมเลย กลับพยายามจะให้ผมหาเงินให้ท่านอีก 20,000.- บาท ซึ่งตรงนี้ผมไม่ยอม เพราะผมไม่ได้ติดหนี้ท่าน ท่านจะพยายามบังคับผมการพอพูดไม่ถูกใจก็กดโทรศัพท์มือถือทิ้งทันที ผมโทรไปก็ไม่ยอมรับ พอยอมรับก็พยายามจะกดดันให้ผมหาเงินให้ ซึ่งผมเริ่มไม่พอใจแล้ว ผมไม่ได้ติดหนี้ท่าน และนั่นก็เป็นรถยนต์ของท่านหรือของแม่ท่าน ผมไม่แน่ใจ ผมช่วย 10,000.- บาทนั้น ก็เท่ากับผมใจกว้างแล้ว นับตั้งแต่พระหลอดกดทิ้งครั้งหลังสุดนั้นแล้ว ท่านไม่รับสายผมอีกเลย และไม่ยอมโทรหาผมด้วย จึงทำให้ผมต้องติดต่อพระวนินทาย อัคคฺธัมโม วัดชัยภูมิการาม จ. พิษณุโลก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเพื่อประสานงานต่าง ๆ<!-- google_ad_section_end -->

 

นอกจากพระหลอดจะให้ผมตั้งกระทู้ซื้อที่ดินตัดถนนวัดชัยภูมิการามแล้ว ผมยังจำได้ว่า พระหลอดเคยมีการตั้งกระทู้ซื้อเครื่องกรองน้ำและเครื่องปั่นไฟให้วัดถ้ำขุนศึก อ. เนินมะปราง จ. พิษณุโลก ซึ่งเป็นการซื้อของส่งขึ้นไป อันนั้นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

ที่มีปัญหาของวัดถ้ำขุนศึก จ. พิษณุโลกนั้น เนื่องจากพระวนินทายบอกว่าตนเองเป็นลูกศิษย์ของพระวัดถ้ำขุนศึก จึงทำให้เพื่อนสมาชิกบนเวปท่านหนึ่งโอนเงินให้พระวนินทายเพื่อซื้อแท๊งน้ำสแตนเลส 1,000 ลิตรโดยโอนเงินไป 1 หมื่นกว่าบาท ตรงนี้ที่เป็นปัญหา คือเมื่อวันที่ 2 - 9 ธ.ค. 2553 ตอนที่ผมตั้งใจไปปลีกวิเวกที่พิษณุโลกนั้น ผมต้องไปวัดถ้ำขุนศึกด้วย พระวนินทายบอกผมว่า เงินแท๊งน้ำนั้นท่านไปใช้อย่างอื่นแล้ว เจ้าภาพทราบแล้ว ( ผมโทรแจ้งแล้ว )

 

ซ้ายมือคือพระมุกดา เจ้าอาวาสวัดบึงช้าง พิษณุโลกซึ่งท่านรู้จักพระเอนก วัดปรีดารามมานานแล้ว พระเอนกจึงมอบวัตถุมงคลให้มาเพื่อช่วยงานบุญต่าง ๆ

 

พระมุกดา เจ้าอาวาสวัดบึงช้าง พิษณุโลกไปปักกลดปลีกวิเวกกับผมที่วัดถ้ำพระ วังทอง พิษณุโลกคืนวันที่ 6-8 ธ.ค. 2553<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- attachments -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

</FIELDSET>

 

กลดตัวดำทึบเป็นของพระมุกดา ตัวโปร่งเป็นของผม<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- attachments -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>

 

ตั้งแต่เดือน 8 2010 ใช้วิธีประสานงานกันทางโทรศัพท์ตลอดมา ต่อมาพระพิสิฏฐ์ วัดถ้ำขุนศึก เดินทางพร้อมกับพระวนินทาย เข้ามากรุงเทพโดยมีคนขับรถชื่อบอยเป็นคนขับรถเข้ามาเพื่อให้ผมพาไปหาหมอที่ รพ. เมโย โดยพระพิสิฏฐ์ประสบอุบัติเหตุหมุนก้านโยกสตาร์ทเครื่องปั่นไฟ ส่วนพระวนินทายจอประสาทตาเคยมีรอยน้ำรั่วซึม ( จากคำพูดของหมอเมโย )

 

และนอกจากพระพิสิฏฐ์วัดถ้ำขุนศึกกับพระวนินทายจะเคยมาครั้งที่มาพบแพทย์ที่เมโยครั้งนั้น ยังเคยนำเครื่องปั่นไฟที่พวกเราซื้อถวายกลับมาซ่อมที่บริษัท V.B. Engine ที่พุทธมณฑลอีกครั้ง คนขับรถชื่อบอยคนเดิม

จากนั้นผมต้องการปลีกวิเวกด้วยการไปอยู่ป่าบ้าง พระวนินทายบอกว่า ที่วัดถ้ำพระ วังทอง พิษณุโลก ท่านรู้จักพระกลุ่มหนึ่ง ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ อยู่เชิงป่า มีน้ำตก สามารถปักกลดได้ และยิ่งดีที่ผมจะได้มาทำความรู้จักกับบุคคลและสถานที่เพื่อที่จะให้ผมช่วยเขียนบอกบุญเพื่อสร้างวัดถ้ำพระให้มีสิ่งก่อสร้างมากขึ้น ผมจึงเดินทางไปพิษณุโลกเมื่อเช้าวันที่ 2 ธ.ค. 2553 ด้วยรถ บขส. ที่หมอชิต เมื่อไปถึงพิษณุโลก พระวนินทายขับรถด้วยตนเองไปรับผมที่ บขส. พิษณุโลก และได้พาผมเข้าพักที่บ้านพักของโยมแม่ของท่าน ซึ่งอยู่ใกล้วัดย่านยาว และใกล้วัดชัยภูมิการามมาก ตลอดทางได้เล่าเรื่องพระหลอด oomsin2515 ให้ผมฟังว่า เรื่องรถพระหลอดชนนี้ ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครยืนยันให้ได้ แต่ที่แน่ ๆ มีคนเห็นรถพระหลอดไปจอดที่สถานเที่ยวผู้หญิงหากิน ซึ่งเรื่องนี้มีการสอบถามกัน พระหลอดบอกว่า ญาติยืมไปใช้ และจากประมาณเดือน 8 ปี 53 นั้น พระหลอดพยายามพูดกดดันให้ทางวัดชัยภูมิการามจ่ายค่าเขียนให้ท่านด้วยการกดดันไม่เข้ามาเขียนในกระทู้บางทีนาน ๆ ( กลับไปพลิกอ่านก็จะเห็นข้อนี้ได้ ) ในที่สุดทางวัดชัยภูมิการามจ่ายค่าเขียนจะเรียกว่าค่าเช่าสายอินเตอร์เน็ทก็ได้ โดยจ่ายไป 20,000.- บาท ซึ่งผมไม่ว่าอะไรในตอนแรก แต่เมื่อมาคิดแล้ว วัดชัยภูมิการามไม่ควรเอาเงินทำบุญที่คนทำบุญมาซื้อที่ดินและตัดถนนไปจ่ายเป็นเรื่องส่วนตัว ทางที่ถูกแล้ว ทางวัดชัยภูมิการามหรือพระวนินทายควรทำอย่างที่ผมทำมากกว่า คือนำของส่วนตัวออกมาขายเพื่อช่วยเหลือเรื่องส่วนตัวมากกว่า

 

ที่หลังบ้านพระวนินทายเลี้ยงจรเข้หลายบ่อมาก ทราบมาว่า เป็นญาติ ๆ เลี้ยงไว้ติดกับตัวบ้านโยมแม่ซึ่งใช้เป็นที่พักผมในคืนวันที่ 2 - 5 ธ.ค. 2553<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- attachments -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>

 

ตั้งแต่คืนวันที่ 2 - 5 ธ.ค. 2553 ตอนค่ำที่พระวนินทายขับรถผ่านบ้านพระหลอด พระวนินทายจะชี้ให้ดูว่า นั่นบ้านพระหลอด รถที่จอดนั่นแปลว่าพระหลอดมานอนบ้าน

วันที่ 3 ธ.ค. 2553 พระพิสิฏฐ์ วัดถ้ำขุนศึกให้คนขับรถชื่อบอยขับรถไปพบกันระหว่างทาง พระวนินทายขับรถออกไปพบที่จุดนัดพบ แล้วนั่งไปคันเดียวกันคือไปคันของวัดถ้ำขุนศึกซึ่งเป็นรถโฟร์วีล พาไปสถานที่แห่งหนึ่งในป่า พระวนินทายและพระพิสิฏฐ์บอกว่าต้องใช้โฟร์วีลอย่างเดียวจึงเข้าไปถึง เมื่อถึงสถานที่นั้นพบลุงคนนึง ผมจำชื่อไม่ได้ มีความพยายามที่จะให้ลุงบอกออกมาว่า พระพิสิฏฐ์เป็นคนพบเมืองบังบด ซึ่งเป็นตำนานหรือนิทานอะไรสักอย่างที่ผมเองไม่ค่อยเข้าใจ ความหมายคือพยายามให้ทราบว่า พระพิสิฏฐ์ไม่ธรรมดา สามารถพบเมืองบังบดได้โดยมีคุณลุงเคยเข้าเมืองบังบดได้ครั้งหนึ่งในชีวิตคือครั้งที่พระพิสิฏฐ์พาเข้าไป จากนั้นคุณลุงแม้คนพื้นที่ก็เข้าไม่ได้อีกเลย จึงเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ<!-- google_ad_section_end -->

 

พระพิสิฏฐ์ถามคุณลุงถึงความหลัง ให้คุณลุงเล่าความหลังครั้งที่เข้าไปในเมืองบังบดพร้อมกับพระพิสิฏฐ์<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- attachments -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>

 

มีการพาเดินขึ้นเขาซึ่งเป็นป่าเพื่อทัศนบริเวณที่เป็นเมืองบังบด<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->

 

ระหว่างนั้นคุณ ดร. แอนดี้โทรเข้ามือถือผม ผมเปิดลำโพงได้ยินกัน ดร. แอนดี้บอกว่าโอนเข้าบัญชีพระวนินทายแล้ว 18,000.- บาท บูชาพระกริ่งสมปราถนาเนื้อกรรมการของคุณ vichai6001 จำนวน 2 องค์ พระวนินทายยื่นบัตร ATM ให้ผม บอกว่าเราไปกดออกมา 20,000.- บาทถวายพระพิสิฏฐ์กันเลย ซึ่งผมรู้สึกว่ามันเร่งจี๋เกินไป อะไรจะเร่งร้อนขนาดนั้น เพราะก่อนหน้านั้น ผมก็หาเงินถวายมาไม่รู้กี่เรื่องแล้ว จำนวนเท่าไรต่อเท่าไรแล้ว แต่ก็ไม่อยากขัด จึงออกจากป่าไปกดตู้ ATM