ท่านให้อะไรแก่เรา ท่านก็ย่อมได้สิ่งนั้นคืน แต่การได้คืนอาจรับรู้ได้ด้วยจิตมิใช่วัตถุหรือคำพูด
===== การเผยแผ่พระธรรม จึงควรให้ความกระจ่าง บางครั้งก็จำเป็นที่จะต้องใช้ กุศโลบายอันแยบคาย เพราะเหตุแห่งผู้รับฟังมีหลายระดับชั้น...
เวลากล่าวถึงท่าน พญายม ให้ระลึกหรือคิดต่ออีกนิดว่าหมายถึงใคร เพราะแค่เรียกว่า พญายม อาจจะสับสนได้ ตำแหน่งในทางยมโลก มีท่าน...
ความสุข และความทุกข์ของพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ ไม่มี ไม่มีอะไร ให้สุข หรือทุกข์ ทุกอย่างเป็นธรรมดาธรรมชาติของมัน จึงไม่มีอะไรที่จะทำให้สุขหรือทุกข์
ฌาณและญาณ เสื่อมได้เสมอ แต่ฌาณและญาณของพระอรหันต์ไม่เสื่อม เหตุที่ไม่เสื่อม เพราะท่านไม่มีกิเลสแล้ว การรู้ การเห็นจึงเป็นเรื่องธรรมดาของมัน...
หากว่ากันตามพระวินัย ก็ต้องยอมรับว่าผิด หากดูตามหลักธรรมว่าด้วยเจตนา การรับเงินนั้นไม่ผิด...
มนุษย์ผู้ใด ถึงพร้อมด้วย ทาน ศีล ภาวนา เป็นนิจ ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา มหาเทพและมหาพรหม ปราถนาแห่งการสร้างปารมี...
===== เรื่องการขัดเกลากิเลสนี่ ว่าด้วยการขัดเกลาสันดาร ที่ไม่ดีนี้ บางทีก็เคยได้ยินครูบาอาจารย์ท่าน สอนว่า หนามยอก ก็ต้องเอาหนามบ่ง...
ถ้าเราจะอุทิศบุญให้แก่ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น หากเราได้กระทำทั้งสามข้อพร้อมแล้ว เราควรตั้งจิตอธิฐานอุทิศส่วนบุญกุศลแผ่ให้ถึงเขาผู้นั้น...
ขออนุโมทนากับท่าน จขกท.ด้วยครับ และขออนุโมทนาบุญกับทีมงานและคุณเดชฤทธิ์ ด้วยครับ ด้วยอานิสงค์แห่งการสร้างพระอุโบสถวิหารทาน อันเป็นมหาบุญ...
ยินดีครับคุณฮก ผมขอเรียกคุณแบบนี้นะครับ มีอะไรยินดีช่วยเหลือซึ่งกันและกันครับ อนาคตอันใกล้คล้ายๆต้องมีอะไรทำร่วมกันครับ
====== ถูกต้องแล้วครับ ท่านอิ่มในบุญที่เราอุทิศให้ ขอเสริมอีกนิดครับ ว่า ด้วยเรื่องการถวายเครื่องสังเวย แก่วิญญาณ แก่ผีแก่เจ้าที่หรือ...
เดินปัญญาให้ถูกต้องเริ่มจาก เดินสติ ให้ถูกก่อน อยากเดินเข้าสู่แดนนิพพาน ก็ขอแนะนำให้เข้าไปใน จิตเกาะพระ ซิครับ ที่นั้นมีจิตบุญจิตที่รู้ปริยัติ...
จะรู้จะเห็น จะเกิดปัญญารู้แจ้งในกฏไตรลักษณ์ได้นั้นก็ต้องอาศัย จิตที่เกิดปัญญาญาณ จิตจะเกิดปัญญาญาณได้ก็ด้วยอาศัยวิปัสสนาญาณเป็นบาทฐาน...
===== ท่านที่ฝึกอสุภกรรมฐานก็คงเห็นเหมือนๆผมนี้แหละครับ แต่เราชาวจิตเกาะพระ จิตบุญ จิตบำเพ็ญ ทุกท่าน เมื่อทำจิตเกาะพระได้แล้ว...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา