Supervolcanoes อาจถล่มโลกในอีก 70 ปี

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย pongsiri, 11 เมษายน 2005.

  1. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +638
    Supervolcanoes อาจถล่มโลกในอีก 70 ปี

    สถานีโทรทัศน์บีบีซีแห่งประเทศอังกฤษ ได้เสนอข่าวและสารคดีเกี่ยวกับ ภูเขาไฟยักษ์หรือ Supervolcano ซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายใต้อุทยานแห่งชาติ Yellowstone Park ในสหรัฐอเมริกา ผู้เชียวชาญทำนายว่าภูเขาไฟดังกล่าวอาจจะประทุขึ้นมาอีกภายใน 70 ปีข้างหน้า แรงระเบิดซึ่งคาดว่าจะรุนแรงกว่าภูเขาไฟธรรมดาหลายร้อยเท่า ส่งเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลกครั้งใหญ่ นักวิทยาศาสตร์หลายๆคนทำนายว่าความเสียหายเทียบได้กับการพุ่งชนของอุกกาบาตลูกเล็กๆทีเดียว

    Supervolcanoes แตกต่างจากภูเขาไฟทั่วไปที่เรารู้จัก คือไม่ได้มีลักษณะเป็นปล่องภูเขาไฟ แต่มันซ่อนตัวอยู่ลึกใต้พื้นดิน และยากต่อการตรวจพบ ภูเขาไฟโดยทั่วไปเกิดจากการที่หินละลายใต้เปลือกโลก ถูกแรงดันมหาศาลภายในโลกผลักดันให้ปะทุออกมาบนผิวโลก แต่สำหรับ Supervolcanoe นั้นแทนที่หินละลายเหล่านี้จะระเบิดออกมาที่ผิวโลก มันกลับเกิดการ สะสมกันก่อนเป็นเวลาหลายพันปีเกิดเป็นบ่อหินละลายขนาดยักษ์ ซึ่งอยู่ใต้พื้นโลกลึกลงไป นักธรณีวิทยาเรียกว่าบ่อหินละลายใต้ดินนี้ว่า Magma chamber

    หินละลายหรือ Magma ที่สะสมอยู่ใน Magma chamber นั้นจะทับถมกันจนหนาหลายสิบกิโลเมตร ซึ่งมันจะดูดซับเอาก๊าซต่างๆ เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดอ๊อกไซด์ และ คารบอนไดอ๊อกไซด์ไว้ ก๊าซเหล่านี้เมื่อสะสมกันเวลาหลายๆ พันปีก็จะเกิดแรงดันมหาศาล และเมื่อถึงจุดๆหนึ่งก็จะระเบิดประทุขึ้นมาเหนือผิวโลก ด้วยความรุนแรงมากกว่าการระเบิดจากภูเขาไฟธรรมดาหลายร้อยเท่า นักธรณีวิทยาพบว่า Supervolcanoes นั้นโดยมากจะเกิดในบริเวณที่เรียกว่า Subduction zone ซึ่งเป็นบริเวณที่เปลือกโลกในพื้นมหาสมุทร เคลื่อนตัวลงไปใต้ชั้นหินของแผ่นทวีป เช่น บริเวณชายฝังแปซิฟิกของสหรัฐอเมริก และ บริเวณประเทศอินโดนิเชียเป็นต้น

    การระเบิดของ Supervolcanoes นี้จะไม่เหมือนการระเบิดของภูเขาไฟธรรมดาออกมาจากปล่องภูเขาไฟ เมื่อSupervolcanoes ประทุขึ้นมันจะพ่นหินละลายออกสู่ผิวโลกด้วยความเร็วสูง Magma ที่สะสมอยู่ใน Magma chamber ใต้ดินจะถูกพ่นออกมาและหมดไปอย่างรวดเร็วทำให้เปลือกโลกที่อยู่ข้างบนยุบตัวลงไป เกิดเป็นหลุมขนาดยักษ์ เหมือนกับหลุมที่เกิดจากการพุ่งชน ของอุกกาบาต ซึ่งนักธรณีวิทยาเรียกหลุมที่เกิดจากการระเบิดของ Supervolcanoes ว่า Caldora

    นอกจากนั้นเถ้าถ่านภูเขาไฟจากการระเบิดครั้งใหญ่นี้จะปกคลุมบรรยากาศ ก๊าซจำพวกซัลเฟอร์ไดออกไซด์จะสะท้อนแสงอาทิตย์ไม่ให้ตกลงมาสู่พื้นโลกได้เต็มที่ ทำให้อุณหภมิโลกลดลง อย่างรวดเร็ว เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่าฤดูหนาวนิวเคลียร์ ( nuclear winter )

    ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์นั้นไม่เคยได้มีการบันทึกการระเบิดของ Supervolcanoes เอาไว้ แต่จากหลักฐานทางธรณีวิทยานั้นพบว่า Supervolcanoes ได้ระเบิดครั้งล่าสุดเมื่อ 75,000 ปีมาแล้ว คือภูเขาไฟ โทบา (Toba) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะสุมาตราประเทศอินโดนิเชีย

    สำหรับที่อุทยานแห่งชาติ Yellowstone Park ในอเมริกานั้น จากหลักฐานทางธรณีวิทยาพบว่า ได้เคยเกิดการระเบิดของ Supervolcanoes มาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้งแต่ละครั้งห่างกันเป็นเวลาประมาณ 600,000 ปี ที่น่าตกใจคือครั้งล่าสุดที่เกิดการปะทุขึ้นนั้นเมื่อ 640,000 ปีมาแล้ว

    นักธรณีวิทยา ศ. โรเบิรต์ สมิต ( Robert Smith )แห่งมหาวิทยาลัยยูทารห์(University of Utah) ได้ทำการวัดขนาดของ Magma chamber ที่ฝังตัวอยู่ภายใต้ Yellowstone Park โดยอาศัย
    คลื่นความสั่นสะเทือนของแผ่นดินใหว พบว่าขนาดของ Magma chamber ที่ Yellowstone มีขนาดมหึมา ความกว้างประมาณ 20 กิโลเมตร ความยาวประมาณ 40 ถึง 50 กิโลเมตรและลึกไม่ต่ำกว่า 10 กิโลเมตร

    หลักฐานจากชั้นหินใต้มหาสมุทรอินเดีย และ แท่งน้ำแข็ง ชี้ให้เห็นว่า การระเบิดของภูเขาไฟ โทบาในอินโดนิเซียเมื่อ 75,000 ปีมาแล้วนั้น ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกลดต่ำลงกว่า 5 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้สภาพอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อย่างรุนแรงและอาจนำมาซึ่งการสูญพันธ์ของพืชและสัตว์จำนวนมหาศาล

    รูปข้างล่างแสดงบริเวณ Yellowstone Park เส้นสีแดงแสดงซากของหลุมภูเขาไฟที่เหลือจากการระเบิดเมื่อ 600,000 ปี มาแล้ว ( ซึ่งเรียกว่า Caldora )
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...