คลังเรื่องเด่น
-
เพื่อการกุศล ก้อนผงสัมฤทธิ์...เพื่อค่าโฮสพลังจิตทั้งหมดเหลือ 5 ก้อน....เชิญบูชาเพื่อช่วยเวป ดูที่หน้าสุดท้ายครับ
ก่อนอื่นต้องขออนุญาตทางเวปมาสเตอร์ครับ ผมมีปัจจัยไม่เยอะจึงขอนำก้อนผงสัมฤทธิ์อันศักดิ์สิทธิ์ ออกมาให้ท่านผู้ศรัทธา ได้บูชาโดยรายได้ทั้งหมดผมขอมอบให้ทางเวปเพื่อเป้นคาโฮสของเวปพลังจิตอันทรงคุณค่าของพวกเรา ขอทางเวปมาสเตอร์ไได้โปรดอนุญาตด้วยนะครับ ค่าจัดส่งของทั้งหมดผมขอเป็นผู้รับผิดชอบเองครับ
......จึงขอเรียนเชิญทุกท่านได้ร่วมบุชาก้อนผงสัมฤทธิ์อันหาได้ยากยิ่งนี้กันครับ......
โดยท่านสามารถโอนเข้าบัญชีของทางเวปแล้วแจ้งที่อยู่จัดส่งได้เลยครับ ดังนี้ครับ
ธนาคารกรุงเทพ 088-0-61051-4
ธนาคารกรุงไทย 493-0-35939-2
ธนาคารไทยพาณิชย์ 365-242228-2
ชื่อบัญชี
วีระชัย แก่นภักดี (Veerachai Kanphugdee)
....ขออนุโมทนากับทุกท่านที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เวปของอันทรงคุณค่าของชาวไทยได้ใช้กันอย่างสะดวกสบายครับ......
มีให้ร่วมบุชาจำนวน 30 ก้อน ให้บูชาก้อนละ 1800 บาท
....รับรองได้ว่าหาที่ไหนอีกไม่ได้แล้วครับเพราะผมบดผงไปหมดแล้ว.....
[/URL][/IMG]
1.odudomsuk*****โอนแล้ว****
2.พีรยุทธ0929425536*****โอนแล้ว****
3.พีรยุทธ0929425536*****โอนแล้ว****
4.Powernext*****โอนแล้ว****
5.
6.
7.พัส1616*****โอนแล้ว****... -
" เมตตา แผ่ให้ได้ผล "
พุทธศาสตร์ศึกษาโดยวิธีอุปมาอุปมัย
เรื่อง "วิธีทำบุญให้ได้ผลที่สุด" (ตอนที่ ๕ การแผ่เมตตา)
พลตำรวจตรี สุชาติ เผือกสกนธ์
ข้อปฏิบัติประการหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ของผู้ที่ปฏิบัติธรรม หลังจากการสวดมนต์ภาวนา และปฏิบัติกัมมัฏฐานแล้ว คือ "การสวดแผ่เมตตา" ซึ่งมีบทสวดเป็นภาษาบาลีที่อ่านเป็นไทยได้ว่า "สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ สัพเพ สัตตา อัพยาปัชฌา โหนตุ สัพเพ สัตตา อะนีฆา โหนตุ สัพเพ สัตตา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ" แปลเป็นไทยได้ว่า "สัตว์โลกทั้งหลายที่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น จงอย่ามีเวรซึ่งกันและกันเลย จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด จงอย่าพยาบาท เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย จงอย่ามีความลำบาก จงอย่ามีความเดือดร้อน จงอย่ามีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย"
การสวดแผ่เมตตานี้เป็นบุญกิริยาอย่างหนึ่งจัดอยู่ในประเภท "การทำทาน" ดังที่ได้กล่าวไว้ในตอนที่ ๒ และเป็นกิจกรรมที่มีส่วนช่วยให้เจตสิกของท่านผู้นั้นได้รับการฝึกและพัฒนาเกิดเป็น "อัปปมัญญาเจตสิก" ที่เฝ้าคอยกระตุ้นจิตให้ระลึก มีอารมณ์มีความสงสารเห็นใจผู้ที่กำลังได้รับทุกข์เวทนา... -
คาถาปัญญาดี โดย "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" สวดเป็นประจำช่วยเสริมสมาธิ สร้างสติปัญญา
คาถาปัญญาดี โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
คาถารวมจิต
อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง
เวลาที่เจริญพระกรรมฐานในคืนวันที่ ๒๔ กรกฏาคม ๒๕๐๖ เวลา ๒๐.๓๐ น. องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้มาโปรดเมตตาบอก ท่านบอกว่าให้ทำให้แจ้งด้วยทำทุกขณะจิตที่จิตพล่าน หมายความว่า ถ้าเวลาใดที่จิตเกิดอาการฟุ้งซ่านขึ้นมา ให้ทิ้งคำภาวนาอย่างอื่นเสียให้หมด กำหนดลมหายใจเข้าออก ว่าคาถานี้ตามสบายๆกำลังของสมาธิจะรวมตัวได้รวดเร็ว จำเข้าไว้ให้ดีก็แล้วกันนะ คาถามีว่า อิติสัมมา สัมพุทธัสสะ มะมะจิตตัง
แล้วอย่าย่องเอาคาถานี้ไปเรียกผู้หญิงเรียกผู้ชายมานะ เขาไม่มาหรอก เรียกจิตของเรา ท่านบอกว่าจิตมันพล่านนี่ไม่ใช่ เพราะผู้หญิงเข้ามายั่ว มันพล่านเพราะโรคทางกระเพาะมันกำเริบ ร่างกายถ้าหากว่ามีโรคเบียดเบียน ประสาทมันก็ไม่ทรงตัว จิตมันก็พล่านได้ จงอย่าสงสัยในตัวเอง คิดว่าไปหลงใหลใฝ่ฝันในบรรดาสตรีทั้งหลายเหล่านั้น เธอมายั่วมาเย้าเป็นจริยาของมารแต่คำว่ามารในที่นี้จงอย่าคิดว่าพวกนั้นเป็นพวกมาร ความจริงพวกนั้นเขามาตาม
หน้าที่ แต่ถ้าอารมณ์ของเราไม่ทรงตัว ก็จงคิดว่าจิตของเรานี่แหละเป็นมาร มันมีสันดานหยาบ รู้อะไรไม่ดี... -
ตำรับพุทธสโร หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ (หนังสือรวบรวมคาถาสำคัญของท่าน)
ขออนุญาต เผยแผ่ ตำราคาถาศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
เป็นหนังสือเก่าที่รวบรวมคาถาต่าง ๆ ที่หลวงพ่อท่านสอนให้ลูกศิษย์แต่ละคน ถูกนำมารวบรวมอย่างเป็นทางการ แต่ละคาถานั้นมีพุทธคุณแตกต่างกัน หนังสือหายากอายุหลายสิบปีแล้วครับ หนังสือมี 17 หน้าสภาพสมบูรณ์หายากครับ
Cr : ขอขอบคุณ คุณ Utain Sripong จากกลุ่มบารมีหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ -
“คาถาแก้โรคภัย”ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้
“คาถาแก้โรค” พระพุทธเจ้าท่านเคยบอกไว้ ใครเจ็บป่วยบ่อยให้ท่องตามนี้
พระพุทธเจ้าท่านเคยได้รักษาโรคให้แก่พระที่ป่วย มีคาถาแก้โรคภัย โรคเวรโรคกรรม ใครเจ็บป่วยบ่อย ตั้งนะโม 3 จบแล้วท่องตามนี้ รับรองสุขภาพจิต ชีวิตดีขึ้นแน่นอน
นะมะพะทะ ธาตุมัตตะโก
ยาวะเทวะ อะยังกาโย
ยาปะนายะ เวทนานุปัสสี ทุกรัสสะ
ยะทิทัง ปิณฑะปาโต
อุททิเสนะ สัพพะพุทธานุภาเวนะ
สัพพะเทวะตา สัพพะโรคาพยาธิ
อันตะราโย วินาศสันติ
คำแปล
ดินน้ำลมไฟ สักกะว่าเป็นธาตุ ขอเพียงเพื่อ ให้กายนี้
ยังอัตภาพ เวทนาทั้งหลาย ทุกข์ต่างๆ สิ่งนี้ ขอบิณฑบาตร
แล้วอุทิศให้แก่เหล่าปวงสัตว์ ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
เหล่าเทวะดาทั้งหลาย ขอให้โรคภัยไข้เจ็บ
อันตรายต่างๆ จงหายมลายสิ้นกลับคืนสู่ปกติด้วยเถิด.
แก้โรคภัยไข้เจ็บ รักษาคนป่วย แก้โรคเวรโรคกรรม ป้องกันอันตราย
ต่างๆชงัดดีนักแล ถวายเป็น พุทธะบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา เทวะบูชา สาธุๆๆ
พระคาถาบทนี้เป็นพระคาถาที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานให้เทพบุตรอุณหิสวิชัย
เมื่อได้ท่องพระคาถานี้ จึงได้มีอายุอยู่ในสวรรค์ต่อไป (พระคาถาบทนี้ ส่วนมากมิค่อยทราบกัน ได้สวดแต่บทอานิสงฆ์กันเสียหมด)... -
ชวนอ่าน! "ธรรมะ" จาก "หลวงปู่เทพโลกอุดร" บรมครูผู้ลึกลับของสุดยอดเกจิ พร้อมวิธีสวดบูชาอย่างถูกต้อง
ชวนอ่าน! "ธรรมะ" จาก "หลวงปู่เทพโลกอุดร" บรมครูผู้ลึกลับของสุดยอดเกจิ พร้อมวิธีสวดบูชาอย่างถูกต้อง
ความลี้ลับมหัศจรรย์ในพระพุทธศาสนานั้นเป็นสิ่งที่ยังคงปรากฏอยู่ทุกยุคทุกสมัย ท้าทายความเชื่อตามหลักวิทยาศาสตร์ของคนยุคปัจจุบัน หากแต่ปาฏิหาริย์ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาตินั้นมักปรากฏเป็นเหตุการณ์เฉพาะตัว บุคคล ที่ทางพระเรียกว่า “ปัจจัตตัง” เท่านั้น และหนึ่งในเรื่องราวหลากร้อยหลายพันเรื่องปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นภายใต้ร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนานั้น เรื่องของ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” นับเป็นเรื่องหนึ่งที่อยู่ในกระแสแห่งความสนใจของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงนักปฏิบัติกรรมฐาน
เรื่อง ราวของหลวงปู่โลกอุดรเป็นเรื่องที่เล่าลือเป็นเวลานานกว่า ๖๐ ปีที่ผ่านมา มีเรื่องราวประสบการณ์ของผู้ที่ได้พบเจอ อาทิเช่นได้ใส่บาตร ได้พบในนิมิต ได้ฟังหลวงปู่เทศนาสั่งสอน อย่างใดอย่างหนึ่งมาโดยตลอด โดยระบุว่า หลวงปู่โลกอุดร เป็นพระภิกษุลี้ลับไปมาไร้ร่องรอย ปรากฏกายได้ทุกรูปแบบ ทรงซึ่งอภิญญาสูงสุด มีอายุยืนนานหลายร้อยหลายพันปีมาแล้ว ไม่อาจคำนวนนับได้แม้แต่ชื่อเรียกท่านเองก็เป็นเพียงชื่อสมมุติเท่านั้น... -
จากปากผู้ทรงญาณ !! นี่แหละ คือสิ่งที่ " พญานาคราช "ต้องการมากที่สุดจากมนุษย์
ผู้ที่ทรงญาณสามารถสื่อกับพญานาคราชแทบทุกคน จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งที่พญานาคปรารถนาที่สุดจากมนุษย์ ไม่ใช่เครื่องบวงสรวง เครื่องสักการะ เช่น บายศรี ของคาวหวาน บุหรี่ หมากพลู ดอกไม้ ธูปเทียน แต่อย่างใด นี่เป็นความคิดของมนุษย์ที่สรุปไปเองทั้งหมด โดยทำตามคำแนะนำจาก ผู้ที่ทำตัวเป็นผู้รู้ เจ้าพิธี ซึ่งมักจะเหมารวมว่า พญานาค เป็นเหมือนเทวดา นางไม้ ที่ต้องการของบวงสรวงดังกล่าวนี้ แต่แท้จริงแล้ว ไม่มีองค์ใดเลยที่ปราถนาเครื่องบวงสรวง เพราะพญานาคที่ได้บำเพ็ญบุญบารมีมามาก สภาวะจิตของท่านอยู่เหนือกิเลสต่ำๆ จึงไม่สนของบูชาในเชิงวัตถุเช่นนี้เหมือน เทวดา นางไม้ เจ้าที่ ซึ่งเป็นเทวดาที่ยังหมกมุ่นในกิเลส
แต่หากผู้ใดอยากได้รับการช่วยเหลือจากพญานาคราชจริงๆ สิ่งที่ท่านต้องการเป็นการแลกเปลี่ยนจากมนุษย์มากที่สุดคือ การปฏิบัติธรรมให้ท่าน ด้วยการสวดมนต์ หรือ นั่งสมาธิเพื่อยกระดับสภาวะจิตใจให้สูงขึ้นและอุทิศบุญนี้ให้กับพญานาคนั้น ผลบุญนี้มีอานุภาพสูงมาก ซึ่งจะช่วยให้พญานาคได้อนุโมทนาและ สภาวะจิตของท่านก็สูงส่งขึ้นตามไปด้วย... -
ฝึกอารมณ์คิดในชีวิตประจำวัน--สำหรับผู้มุ่งพระนิพพานในภพชาติอันใกล้
บันทึกธรรมพระราชพรหมยาน
"...เอาจิตคิดอย่างนี้ไว้ทุกวัน ลืมตาขึ้นมาปั๊บ บูชาพระเสร็จ คิดอย่างนี้และให้นึกต่อไปว่า ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง เราอาจจะตายได้ทุกขณะ ที่นั่งคุยเวลานี้คุณอาจจะตายทันทีทันใดก็ได้ อย่าไปรอความป่วย ความป่วยไข้ไม่สบายเป็นของไม่แน่นอน มันป่วยหรือไม่ป่วยมันก็ตาย เวลาคุณจะตาย
...และอีกประการหนึ่งก็ใช้บังสุกุลเป็นว่า
" อจิรัง วตยัง กาโย ปฏวิง อธิเสสสติ ฉุฑโฑ อเปตวิญญาโณ นิรัตถังวะ กลิงครัง ร่างกายนี้อีกไม่ช้าไม่นานนักก็จะมีวิญญาณไปปราศแล้ว (คือจะหมดวิญญาณ) "
... มันก็จะตายร่างกายนี้เวลาที่เราอยู่ คนนั้นก็บูชา คนนั้นก็รักคนนี้ก็ชอบถ้าเราตายแล้วจริง ๆ แม้แต่เท้าเขาก็ไม่อยากเขี่ยร่างกายของเรา เขาเห็นสภาพร่างกายเป็นของน่าเกลียดเขามีความรังเกียจในร่างกาย มันก็สู้ไม้ท่อนที่ไร้ประโยชน์ไม่ได้ ไม้ท่อนดีกว่า จงคิดว่า ร่างกายไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีใน
ร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา ถ้าร่างกายนี้ตายเมื่อไรขอไปนิพพานจุดเดียว..."
หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี -
หมดแล้ว หลวงพ่อบาทเดียว เกจิดังปาฏิหาริย์สองแผ่นดินไทย-ลาว
มีเสียงร่ำลือโจษขานมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับปรากฏการณ์ พลังศรัทธาที่เกิดขึ้นกับพระภิกษุรูปหนึ่งในจังหวัดหนองคาย และจังหวัดใกล้เคียง ไม่เท่านั้นยังโด่งดังข้ามโขงไปยังนครเวียงจันทน์ และ สปป.ลาว เกือบทั่วแขวง แรงไม่หยุดทะลุไม่ยั้ง เวียดนาม, บรูไน, มาเลเซีย รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ประเทศ ของอาเซียน
หมายความว่าโด่งดังก่อนที่จะเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเมื่อปลายปีนี้เสียอีก โดยพลังศรัทธา!
ที่เกิดขึ้นนั้นแม้จะไม่โด่งดังเท่ากับลูกไฟที่โผล่จากลำน้ำโขงในช่วงเทศกาลออกพรรษาก็ตามเถิด (โยม) แต่ก็ได้สร้างความพิศวงให้แกผู้พบเห็นหรือผู้ที่ได้ประสบกับตัวเองเป็นจำนวนมาก จนเป็นกระแสที่ถูกถ่ายทอดปากต่อปากจากอดีตจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งจากปรากฏการณ์ดังกล่าวต่อมา ได้กลายเป็นวัฒนธรรมแห่งความเลื่อมใสศรัทธาในที่สุด
“หลวงพ่อบาทเดียว” คือที่มาแห่งความเลื่อมใส และได้มีการเล่าขานจนกลายเป็นตำนานอย่างที่เห็นนับเป็นปรากฏการณ์ ที่ได้เกิดขึ้นแล้วในแผ่นดิน แห่งความศรัทธาในพระพุทธศาสนา คือหลวงพ่อพระใสนั่นเอง และจากการที่จังหวัดแห่งนี้ถูกจัดให้เป็นจังหวัดที่มีความสุขในระดับต้นๆ ของเมืองไทย... -
"การมีลูกมีทายาทเป็นอภิชาตบุตร" คือ "อีกหนึ่งวิธีในการหนุนดวงชะตา"
อยากสอบถามผู้รู้ และเหล่าบรรดาโหราจารย์ทั้งหลาย ที่เชี่ยวชาญในโหราศาสตร์ในแต่ละแขนงวิชาว่า.....
(good)
หากพูดถึง การมีลูกมีทายาทที่เป็นอภิชาตบุตรมาเกิดเป็นลูกของตัวเรา จะช่วยส่งเสริมเกื้อหนุนดวงชะตา ของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ได้จริงมีข้อเท็จจริงตรงนี้หรือไม่ค่ะ หรือมีการจดบันทึกเก็บไว้ ในตำราวิชาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โหราศาสตร์ไทย , ตำราดวงจีน ,
โหราศาตร์พม่า เป็นต้น
เพราะแม่บ้านอย่างหนู คุยกับแฟนเรื่องการมีลูกด้วยกันค่ะ
จึงอยากรู้อยากหาข้อมูล เกี่ยวกับการหาฤกษ์ผ่าคลอด ไว้เป็นเครื่องตัดสินใจค่ะ จะได้เตรียมการในอนาคตไว้ให้บุตรที่กำเนิดเกิดขึ้นมา เพื่อจะได้เป็นอภิชาตบุตรจะได้ช่วยส่งเสริมเราทั้งคู่
เนื่องจากเคยท้องลูกคนแรก แล้วก็แท้งไป เป็นประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ
อีกทั้งเคยเห็นลูกๆ ของคนรู้จัก เพื่อนฝูง เล่าให้ฟังว่าลูกของเขา มีฤกษ์ผ่าคลอดที่ดี
ออกมาแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส เรียนหนังสือเก่ง บางคนบอกว่าตั้งแต่มีลูก
ทำมาค้าขายเจริญก้าวหน้า มีโชค มีลาภ ถูกหวยรวยเบอร์เป็นว่าเล่น
เพราะได้ ฟังข่าว ดู TV เห็นลูกดารา , ลูกนักร้อง , ลูกคนดังเศรษฐีไฮโซ ฯลฯ... -
หลวงพ่อเน้นย้ำไว้ ตายแล้วไปไหน กลิ่นธูปหรือกลิ่นดอกไม้จะบอกได้
หลวงพ่อเน้นย้ำไว้ ตายแล้วไปไหน กลิ่นธูปหรือกลิ่นดอกไม้จะบอกได้
มีลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดท่านหนึ่ง ได้เคยเอ่ยถาม ท่าน”หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(มหาวีระ ถาวโร , หลวงพ่อฤษีลิงดำ)” ว่า “กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา คุณแม่ด่อน กลิ่นประจักษ์ ได้ถึงแก่กรรมด้วยสาเหตุอันใดมิได้ไต่ถามมา แต่ที่ใคร่อยากทราบและจะไต่ถามก็คือว่าหลังจากที่ท่านตาย 7 วัน จะปรากฏมีกลิ่นธูปหอมๆ มาให้ลูกๆได้สัมผัสเสมอๆ ทั้งที่บ้านไม่มีใคร่จุดธูป ที่จะเรียนถามในลักษณะอย่างนี้ แสดงว่าผู้ตายไปดี หรือ ไม่ดีเจ้าคะ”
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(มหาวีระ ถาวโร , หลวงพ่อฤษีลิงดำ)ได้บอกกล่าวไว้ว่า “ไปเป็นพรหม” ซึ่งท่านหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(มหาวีระ ถาวโร , หลวงพ่อฤษีลิงดำ) ได้เมตตาอธิบายต่อไปว่า ถ้ากลิ่นเป็นกลิ่นธูปหอมเป็นพรหม หรือถ้ากลิ่นนั้นเป็นกลิ่นดอกไม้ละก็เป็นเทวดา หรือนางฟ้า กลิ่นที่ได้รับจะแตกต่างออกไปตามสถานะที่ผู้ตายได้ไปอยู่
คัดลอกจากหนังสือ ธรรมปฏิบัติ เล่มที่45 รวมธรรมเทศนาของ...พระราชพรหมยาน(มหาวีระ ถาวโร , หลวงพ่อฤษีลิงดำ)
------------------
ที่มา
http://www.tnews.co.th/contents/205410 -
สวดมนต์รับเสาร์5!! 1เมย.นี้ ...ฤกษ์ที่ขลังที่สุด นานทีมีครั้ง ทำเองเลยที่บ้าน! 9มนต์เพื่อความเข้มแข็งในทุกราศี #ปาฏิหาริย์แห่งการสวดมนต์
สวดมนต์รับเสาร์5!! 1เมย.นี้ ...ฤกษ์ที่ขลังที่สุด นานทีมีครั้ง ทำเองเลยที่บ้าน! 9มนต์เพื่อความเข้มแข็งในทุกราศี #ปาฏิหาริย์แห่งการสวดมนต์
"เสาร์ห้า" หมายถึง วันเสาร์ที่ตรงกับขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ถือเป็นฤกษ์สำคัญที่นานทีจะเกิดขึ้นสักครั้ง
ถือเป็นฤกษ์ยามสำคัญในการสร้างวัตถุมงคล และประกอบพิธีต่างๆ ในทางปลุกเสกเครื่องรางสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งสำหรับปีระกานี้ เสาร์ห้าตรงกับวันที่ 1 เมย. 60 พอดี หลายๆ สิ่งที่ดีที่สุดที่ทุกราศีจะทำได้ในค่ำคืน เสาร์ 5 คือ การน้อมอาราธนาเอาพระรัตนตรัย เป็นที่ตั้ง สวดมนต์ ภาวนา เพื่อทำจิตใจให้สงบ รับพลังงานมงคลและสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นตามแรงอธิษฐานของแต่ละคน
และจะดียิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่กำลังดวงคตก ผู้ที่กำลังพบอุปสรรค มีปัญหาชีวิตมาก การสวดมนต์ในค่ำคืนดังกล่าว ก็จะเสริมพลังงานให้จิตใจเข้มแข็ง แม้จะนั่งสวดมนต์ทำสมาธิ ก็สามารถสื่อสารบอกกล่าวให้เทวดาประจำตัวมาคุ้มครอง ขออโหสิกรรมกับเจ้ากรรมนายเวร ได้ประสบความสำเร็จมากกว่าวันอื่นๆ
ถ้าจะกล่าวว่าเป็นฤกษ์ที่ดีที่สุดเพื่อเสริมความแข็งแรงและพลังงานในด้านดีๆก็ว่าได้ หากกรรมไม่หนักนัก เจ้ากรรมนายเวรก็เปิดทาง... -
ย้อนคำทำนายจากหนังสือหนังสือฤๅษีทัศนาจรของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ถึง"เหตุการณ์ในอนาคตของ รัชกาลที่๑๐"
ย้อนคำทำนายจากหนังสือหนังสือฤๅษีทัศนาจรของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ถึง"เหตุการณ์ในอนาคตของ รัชกาลที่๑๐"
ในสมัยที่ พระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า หลวงพ่อ ฤๅษีลิงดำ ยังมีชีวิตอยู่ ได้มีการรวบรวมคำเทศนาของหลวงพ่อไว้เป็นหนังสือชื่อ “ฤๅษีทัศนาจร”ซึ่งได้จัดพิมพ์ออกมาหลายเล่มหลายตอน โดยในเล่มที่๑ตอน”เทวดาชวนขุดทอง” ได้มีการคำทำนายสอดแทรกไว้ และมีการทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดในรัชกาลที่๑๐ ว่าจะมีผู้ใดมาขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่๑๐ และจะมีเหตุการณ์ใดที่บ้างดังเนื้อหามีข้อความได้บันทึกไว้ดังนี้...
…เมื่อแผ่นดินสะเทือน แผ่นดินสั่นเกิดขึ้น ดร.ปริญญา ก็บอกว่าเป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติบ้าง แต่ทว่าเจ้าลิงนี่สิ ฤาษีลิงดำหัวหน้าทัศนาจรมันไม่ว่าอย่างนั้น พอแผ่นดินสะเทือน ก็กำหนดจิตคิดว่านี่มันเรื่องอะไร พอมีความดำริเท่านั้น ก็ปรากฎว่า บรรดาปิยสหาย คราวนี้ไม่ใช่หมาแล้ว กลายเป็นผี มีศักดิ์ศรีใหญ่ แต่งตัวสีแดงพรืดไปหมด ประมาณ ๗๐ - ๘๐ คน แล้วก็ประมาณสีเขียวสีดำอีกหลายร้อยคน เห็นบริเวณนั้นเกลื่อนกล่นไปหมด จึงถามว่า
“นี่…พ่อเทวดา แกมาทำอะไรกันอยู่ที่นี่ และทำไมแผ่นดินมันถึงสะเทือน”... -
เวลาของโลกมนุษย์และโลกวิญญาณ
พวก เราทุกคนเคยได้รู้มาได้ฟังมาว่า เวลาของสวรรค์ นรก หรือ เวลาของผู้ที่ตายไปนั้นช้ากว่าเวลาของโลกเรามากๆเช่น 1000ปีบนโลกมนุษย์อาจเท่ากับ1วันบนสวรรค์ เป็นต้น
หรือการที่มีคน บอกว่าคนตายกว่าจะรู้ตัวเองว่าตายไปนั้นก็ตั้ง3วัน 7วัน มีบ้างบางคนที่ฟื้นขึ้นมาเขาบอกว่าเวลาที่เขานอนหลับไป7วันนั้นน่ะ เขายังไม่ได้ไปไหนเลยเพียงแค่เห็นหมู่คนมากมายคุยกันยังไม่กี่คำก็ฟึ้นขึ้น มา
และจริงๆแล้วเรื่องเวลาที่แตกต่างกันนี้พระพุทธองค์ก็ได้พูดถึงมากว่า2500 ปีแล้วดังที่เราจะเห็นได้ในพระไตรปิฎก
จริงๆแล้วก็มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ที่ยอมรับกันในปจุบันที่ไอสไตน์ได้อธิบายไว้
แต่ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจดังนี้ก่อนนะครับว่า
นักวิทยาศาสตร์อาจทำใจยอมรับวิญญาณได้ หากมองว่าวิญญาณเป็น พลังงานอย่างหนึ่ง
และหากเรามองเหมือนนักวิทยาศาตร์ว่าวิญญาณคือ พลังงานอย่างหนึ่ง
ผมจะอธิบายด้วยตัวอย่างง่ายๆนะครับ ซึ่งอัลเบิร์ต ไอสไตน์ พูดถึงเรื่องพลังงานดังนี้ครับ
1.วัตถุ ใดมีขนาดเล็กมากไปถึงขนาดของอะตอม เรียกวัตถุนั้นว่า พลังงาน เช่นถ้าเราสามารถย่อตัวเราให้เล็กลงไปถึงขนาดอะตอม ตัวเราก็จะถูกเป็นพลังงานเช่นกันครับ... -
ย้อนคำทำนาย คำเตือนภัยจากหลวงปู่สรวง ภัยพิบัติเกิดจากน้ำ พญานาคบันดาลน้ำท่วม คนทำลายศาสนา สถาบันตายก่อน คนดีมีศีลจะรอด
ย้อนคำทำนาย คำเตือนภัยจากหลวงปู่สรวง ภัยพิบัติเกิดจากน้ำ พญานาคบันดาลน้ำท่วม คนทำลายศาสนา สถาบันตายก่อน คนดีมีศีลจะรอด
นอกจากพุทธทำนายซึ่งกล่าวถึงภัยพิบัติแล้ว พ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้ทรงญาณหยั่งรู้ก็กล่าวถึงเหตุภัยพิบัติแทบทุกองค์ หลวงปู่สรวง ผู้วิเศษแห่งภูตะแบงเป็นอีกผู้หนึ่งที่กล่าวถึงเรื่องภัยพิบัติ หลวงปู่สรวงละสังขารเมื่อปี ๒๕๔๓ ก่อนหน้านั้นไม่นานท่านได้กล่าวถึงเรื่องภัยพิบัติเอาไว้เหมือนจะเป็นการเตือนสติผู้คนให้รีบตั้งตัวอยู่ในคุณงามความดี
ท่านกล่าวเอาไว้อย่างนี้ครับ ต่อไปนี้ พ.ศ. ๒๕๕๕ คนเก่งอยู่ในเมืองไทย อยู่ที่ไหนก็ตามแต่ มุมไหนก็แล้วแต่พ่อ - แม่ - ญาติพี่น้อง ไม่ต้องสู้กัน ไม่มีประโยชน์ เพราะจะเกิดภัยพิบัติ คนไม่ดีจะตายหมด เดี๋ยวนี้น้ำทะเลตีข้างล่างได้ครึ่งโลกแล้ว ไม่ใช่ครึ่งประเทศนะ ครึ่งโลกแล้ว หลวงปู่สรวงท่านต้องการเตือนให้ทุกคนหยุดแก่งแย่งชิงดีรบรฆ่าฟัน ท่านบอกเพื่อให้รู้จักคำว่าหยุด อย่าอยากเป็นใหญ่อย่าอยากชนะซึ่งกันและกัน อย่ามีเวร อย่ามีกรรมต่อกรรม จะเป็นบุญเป็นกุศลเป็นทางรอดต่อไปได้
ครั้งที่สองหลวงปู่สรวงมาบอกกับหลวงปู่ลมัยเป็นภาษาเขมรว่า “ พวกที่ทำลายศาสนา... -
บารมีเต็มคืออะไร? คนที่มีกำลังบารมีสูงจะต้องมีความรู้สึกเเบบนี้
บารมีเต็มคืออะไร? คนที่มีกำลังบารมีสูงจะต้องมีความรู้สึกเเบบนี้
บารมีเต็ม แปลว่า ทำจนถึงที่สุดของกำลังใจแล้ว บารมีก็คือกำลังใจ มีอยู่ ๓ ระดับ ๙ ขั้น
๑. สามัญบารมี กำลังใจขั้นต้น ประกอบไปด้วย หยาบ กลาง ละเอียด
๒. อุปบารมี กำลังใจขั้นกลาง ประกอบไปด้วย หยาบ กลาง ละเอียด
๓. ปรมัตถบารมี กำลังใจขั้นสูงสุด ประกอบไปด้วย หยาบ กลาง ละเอียด เหมือนกัน
ถ้าหากว่าถึงปรมัตถบารมีขั้นละเอียดก็แปลว่ากำลังใจเต็ม พร้อมที่จะเข้าพระนิพพานได้ คราวนี้จะวัดจากตรงไหนได้ สามัญบารมี ให้ทานได้ บอกให้รักษาศีลก็จะไม่ไหว อุปบารมีให้ทานได้ รักษาศีลได้ บอกให้ภาวนาไม่ไหว ถ้าหากว่ากำลังใจพร้อมทั้ง ทาน ศีล ภาวนา ตั้งมั่นว่าจะทำเพื่อพระนิพพาน อันนี้ถือเป็นปรมัตถบารมีเต็มแล้ว พร้อมที่จะไปแล้ว
ถาม : ถ้าในชาตินี้เราให้ทานประจำ รักษาศีลก็ได้ ภาวนาได้ ?
ตอบ : แสดงว่ากำลังใจของเราอยู่ระดับปรมัตถ์แล้ว เพียงแต่จะหยาบ จะกลาง จะละเอียดเท่านั้น ถ้าถึงปรมัตถบารมีนี้มีสิทธิ์ไปพระนิพพานได้แน่ อย่างแย่ ๆ ก็เป็นดอกบัวกลางน้ำ พร้อมที่จะโผล่พ้นน้ำมาบานในวันต่อไป
ขอบคุณที่มา... -
พระมหาเถระสมัยพระเจ้าอโศกมาแนะนำวิปัสสนา เห็นผลภายในสิบวัน
ได้พบพระมหาเถระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
เป็นพระอรหันต์ไม่ได้บอกชื่อไว้เสียด้วย น่าจะกลัวพระงูเหลือม ท่านก็บอกว่าเป็นอรหันต์นิพพานเมื่ออายุ ๙๗ ปีกับ ๓ วัน นี่ท่านพบกันแล้วท่านก็บอกว่าฉันเป็นอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ฉันเป็นพระอรหันต์ แล้วฉันนิพพานเมื่ออายุ ๙๗ ปี ๓ วัน พระคุณเจ้ารูปนี้ นั้นได้โปรดแนะนำให้ทำวิปัสสนา ว่า จะเห็นผลภายในสิบวัน นี่อาจารย์นี่ย่องมาสอนเป็นพิเศษ ปกติพระมหากัจจายนะและสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า อาจารย์องค์นี้ย่องมาสอนต้องลัดคิว
ว่าจะเห็นผลภายในสิบวัน
ว่าให้ทำฌานแล้วให้ปลงในนิวรณ์ก่อน จำได้ไหมนิวรณ์ห้าประการ ปลงตัดมันเสียให้หมด แล้วก็ทำสมาธิ
แล้วพิจารณาขันธ์ห้าตามไตรลักษณญาณ ไตรลักษณ์ก็รู้แล้ว อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
แต่ให้มันสูง ปลงให้เห็นว่าอนิจจังนี่มันเป็นของไม่เที่ยงจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นอะไรทั้งหมดในโลกนี้ ถ้าไม่เที่ยงเราไปยึดมันเข้าแล้วมันเป็นทุกข์ ต้องปล่อยตามมันๆ จะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน แล้วในที่สุดมันก็เป็นอนัตตาพังสลายตัวหมด อย่าไปยึดไปถือมัน อย่าไปยึดว่าจะมีอะไรเป็นเราเป็นของเราต่อไป แม้แต่ร่างกายเรายังพัง... -
ถึงบางอ้อ!! ไขข้อสงสัย ...เหตุใดเกจิละสังขารแล้วสรีระไม่เน่าเปื่อย? วิทยาศาสตร์มีคำตอบ!!
จากข่าว หลวงพ่อพูลละสังขารนาน 11 ปี แต่ร่างเปลี่ยน “สีทอง” แปลกกว่านั้น ซึ่งแปลกยิ่งไปกว่านั้นคือสังขารท่านยังเหมือนกับมีชีวิต โดยลูกศิษย์เชื่อเกิดจากบารมีของหลวงพ่อพูลเอง จึงทำให้เกิดคำถามจากผู้อ่านว่า เพราะเหตุใดสรีระร่างของท่าน จึงไม่เน่าเปื่อย
“ไม่ได้ลบหลู่นะครับ ขอถามผู้รู้ครับ สงัสยเวลาละสังขารแล้วทำไมไม่เผาครับ ท่านสั่งไว้รึไงครับ ท่านสอนไม่ให้ยึดติดแล้วปล่อยวาง สังขารเป็นของไม่เที่ยง เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป แต่ ท่านร่างทำไมยังอยู่ครับ ผมคิดแบบผมนะครับ สตาปไว้รึเปล่าครับ หรือใช้ปูนขาวโรยไว้ครับ หรือฉีดยาไว้ครับ อันนี้ไม่ได้ลบหลู่นะแค่สงสัย มันผิดเพี้ยนจากคำสอนพระพุทธเจ้ารึเปล่าครับ ผู้รู้บอกทีครับ”
เรื่องนี้ทีมข่าวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้ค้นข้อมูลมาว่า เพราะเหตุใด ครูบาอาจารย์เกจิหลายๆท่าน อาทิ หลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี, หลวงปู่วงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน, หลวงพ่อบุญเหลือ วัดเขาตะกร้าทอง จ.ลพบุรี, ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่, ครูบาขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม จ.ลำพูน, หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุนนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์, หลวงปู่พรหม วัดช่องแค... -
การเข้าพระนิพพานในวิธีที่ง่ายและลัดตรงที่สุด โดยหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
***การเข้าพระนิพพาน***
ในวิธีที่ง่ายที่สุด ลัดตัดตรงที่สุด
โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
สำหรับการที่จะเข้าพระนิพพานนั้น...
จิตจะต้องถูกฝึกมาแล้วเป็นอย่างดี ซึ่งก็แยกย่อยออกไปได้หลายวิธี...
แต่วิธีที่ง่ายที่สุด ลัดตัดตรงที่สุด คือ...
1. ไม่สงสัย เชื่อมั่น และเคารพ
พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุด (สุดจิตสุดใจ) ตลอดชีวิต
... ซึ่งความเชื่อนี้ รวมไปถึงพระธรรมคำสอนในข้อที่ว่า...
นิพพานัง ปรมัง สุขัง...
*พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง*
นิพพานัง ปรมัง สูญญัง...
พระนิพพานเป็นที่ที่สูญจากกิเลส จากอวิชชาทั้งมวล
จากพระธรรมทั้ง ๒ ประโยคนี้...
ทำให้เราเชื่อมั่นได้ว่า พระนิพพานเป็นสถานที่ที่มีอยู่จริง
ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านประทับอยู่จริง...
เมื่อเราเชื่อมั่นอย่างสุดจิตสุดใจว่า พระนิพพานมีจริง
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระองค์อยู่จริง...
การที่เราจะได้มโนมยิทธิหรือไม่นั้น... ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด...
สิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือ ความเชื่อมั่น...
เชื่อมั่นว่าพระนิพพานมีอยู่จริง...
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านมีอยู่จริง...... -
พระสวดอะไร...หลังบิณฑบาต?? [มีคำแปล]
พระสวดอะไร...หลังบิณฑบาต?? [มีคำแปล]
หลังจากที่ทำบุญใส่บาตรแล้ว เรามักจะได้ยินพระ สวดให้พรว่า…
“อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฒาปะจายิโน จัตตาโร ธัมมาวัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พลัง”
แปลว่า พรทั้งสี่ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พะละ ย่อมเจริญแก่ผู้มีปกติกราบไหว้ และเคารพต่อผู้ใหญ่เป็นนิจ ซึ่งบทสวดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของบทให้พร ยะถา สะพี เป็นบทที่พระสงฆ์ สวดให้พร หลังจากที่เราทำบุญ เช่น ทำบุญถวายสังฆทาน ทำบุญบังสุกุล ฯลฯ
บทให้พร ยะถา สะพี
ยะถา วาริวหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรัง (ห้วงน้ำที่เต็มด้วยน้ำ ย่อมไหลไปสู่สมุทรสาครให้เต็มฉันใด) เอวะเมวะ อิโต ทินนัง เปตานัง อุปะกัปปะติ (ทานที่ให้แล้วแต่ในโลกนี้ ย่อมสำเร็จแก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วฉันนั้น)
อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง ขิปปะเมวะ สะมิชฌะตุ (ขอสิ่งที่ท่านมุ่งมาดปรารถนาตั้งไว้ จงสำเร็จโดยพลันทันที)
สัพเพ ปูเรนตุ สังกัปปาจันโท ปัญณะระโส ยะถา มะณิ โชติระโส ยะถา (ความดำริทั้งปวงของท่าน จงเต็มบริบูรณ์เหมือนดวงจันทร์ในวันเพ็ญ 15 ค่ำ และเหมือนแก้วมณีโชติ อันให้สำเร็จประโยชน์ทั้งปวงฉันนั้น)
สัพพีติโย วิวัชฌันตุ (ขอความเสนียดจัญไรทั้งหลาย... -
อภิญญาทางจิต ของเจ้าคุณนรฯ แรง!!! สามารถส่งจิตรักษาข้ามทวีป จนฝรั่งยังศรัทธาตามหาตัว
อภิญญาทางจิต ของเจ้าคุณนรฯ แรง!!! สามารถส่งจิตรักษาข้ามทวีป จนฝรั่งยังศรัทธาตามหาตัว
คุณบรรจง มีแสงพราว บรรณาธิการหนังสือพิมพ์บางกอกไทม์ ได้ตีพิมพ์ข่าวการสัมภาษณ์ฝรั่งจากสหรัฐอเมริกา ที่ได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล มานมัสการพระคุณเจ้า ท่านเจ้าคุณนรรัตน ฯ ถึงวัดเทพศิรินทร์ เขาได้เล่าว่า เป็นโรคปวดหัวข้างเดียวมาเป็นเวลานาน เป็นอาการอันทรมานมาก แม้จะทุ่มเทรักษาไปสักเท่าใด ก็ไม่ดีขึ้น คืนหนึ่ง ขณะที่เขากำลังนอนหลับสนิทนั้น ก็พลันนิมิตเห็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา มาปรากฏร่างที่ข้างเตียงเขา แล้วกล่าวกับเขาเป็นภาษาอังกฤษว่า จะรักษาอาการปวดหัวให้ จากนั้นได้เอามือลูบศีรษะให้หลายครั้ง แล้วเป่าลมซ้ำ ทำให้เขาหายปวด พอตื่นขึ้น อาการปวดหัวก็ค่อยบรรเทาลง จึงอธิษฐานให้มารักษาอีก ปรากฏว่า ฝันเห็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาอีก มาเอามือลูบหัว และเป่าหัวให้อีกหลายครั้งติดต่อกัน จนครั้งสุดท้าย ได้บอกกับเขาว่า ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย หายแน่นอน ท่านอยู่เมืองไทย ฝรั่งนายนั้นเมื่อหายดีแล้ว ก็ลงทุนมาตามหาถึงประเทศไทย เดินทางไปจนถึงภาคเหนือ จนไปพบภาพของท่านที่ร้านขายอาหารแห่งหนึ่ง จึงสอบถามได้ความว่า... -
พระอาจารย์ไพบูลย์ สุมังคโล ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต
แผ่นดินไม่สิ้นพระโพธิสัตว์ "หลวงพ่อไพบูลย์" ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ที่เหล่าพระป่ากรรมฐานสายหลวงปู่มั่นต่างรับรอง
“พระนิยตโพธิสัตว์” คือ พระโพธิ์สัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้ว
#พระเทพวิสุทธิญาณ (หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล) ท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ผู้สร้างบารมีจาก “ศรัทธาธิกะ” ที่หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร, หลวงปู่แว่น ธนปาโล, หลวงปู่หลวง กตปุญโญ, หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร, หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร และพระอาจารย์เด่น นันทิโย รับรอง จากหนังสือประวัติของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม...หลวงปู่ชอบท่านบอกว่า “หลวงพ่อไพบูลย์เป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีในพระศาสนา"
หลวงปู่ชอบท่านยกเรื่องอดีตชาติของท่านกับหลวงพ่อไพบูลย์ให้ฟังว่า “ในสมัยพระพุทธเจ้ากะกุสันโธ หลวงปู่ชอบท่านเกิดเป็นอาจารย์ฤาษี อยู่ที่เมืองยอน ประเทศพม่า ท่านบอกในชาตินั้นเราได้ฌานสมาบัติ ๘ เหาะเหินเดินอากาศได้ ในชาติที่ท่านเกิดเป็นอาจารย์ฤาษี ที่เมืองยอน ประเทศพม่า ท่านมีลูกศิษย์ฤาษีที่ได้มาบวชพบกันในศาสนาพระพุทธเจ้าสมณโคดมองค์ปัจจุบัน มี ท่านพ่อลี ธัมมธโร, หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ, หลวงปู่จาม... -
เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน งูกินหาง(นาคบาศ)เครื่องรางแห่งการไม่รู้อดอยาก
เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน งูกินหางเครื่องรางแห่งการไม่รู้อดอยาก
นาคบาศ
นาคบาศ...จัด เป็น สุดยอดเครื่องราง แห่งโชคลาภ และป้องกันภัย คือ
มีกินไม่มีหมด ไม่มีอด งูกินหางกัน ต่างตัวก็ต่างกิน ยิ่งกินก็ยิ่งรัดเข้าหากัน
พอชนกันก็คลายออก จึงเรียกว่า กินไม่หมด ตามตำนาน โบราณไทยใหญ่ และ ล้านนา " นาคบาศ " คือ
"ศรของอินทรชิต" ที่ยิงเข้าไปเป็นงูรัดศัตรู ซึ่งภายหลังพญานาคราชได้มครอบครองไว้ และ พรานบุญไปขอยืม บ่วงบาศนี้ จากพญานาค และเนื่องจากพรานบุญเคยช่วยเหลือพญานาคราชไว้ พญานาคราชได้ให้สัญาว่า ขอก็จะให้ ทั้งที่เป็นของสำคัญ และกลัวพรานบุญไม่คืน แต่ก็ให้ไป เพราะต้องรักษาคำพูด พรานบุญจึงสามารถจับกินรีได้ และนำ"บ่วงบาศ"นั้นไปคืน พญานาคราช นาคบาศยังเป็นบ่วงเชือกที่แข็งที่สุด พญาครุตเจ้าแห่งนก ก็ยังกลัว บ่วงบาศนี้เช่นกัน .
และ พรานบุญไปขอยืม บ่วงบาศนี้ จากพญานาค และเนื่องจากพรานบุญเคยช่วยเหลือ
พญานาคราชไว้ พญานาคราชได้ให้สัญญาว่า ขออะไรก็จะให้ ทั้งที่เป็นของสำคัญ
และกลัวพรานบุญไม่คืน แต่ก็ให้ไป เพราะต้องรักษาคำพูด
พรานบุญจึงสามารถจับกินรีได้ และนำบ่วงนาคบาศนั้นไปคืน พญานาคราช... -
สวรรค์ชั้นดุสิต คือสวรรค์ของผู้ปรารถนาพุทธภูมิ
สวรรค์ชั้นดุสิต คือสวรรค์ของผู้ปรารถนาพุทธภูมิ จะสถิตอยู่หลังจากลาโลกมนุษย์ไปแล้ว เพื่อเตรียมการกลับมาบรรลุเป็นพระพุทธเจ้า
ท่านปิยโสภณ (พระราชญาณกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก)
ในข้อเขียนเรื่อง "ทรงเป็นเทพคุ้มครองไทย" ซึ่งท่านปิยโสภณ (พระราชญาณกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก) เขียนขึ้นเพื่อให้หลักธรรมสำหรับบรรเทาเยียวยาจิตใจของคนไทยเมื่อได้ทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชนั้น มีข้อความตอนหนึ่งว่า
"ให้คิดว่าพระเจ้าอยู่หัวเสด็จอุบัติมาสร้างบุญบารมี ทรงช่วยเหลือประชาชนบนราชบัลลังก์แห่งกษัตริย์มานานถึง ๗๐ ปี ... เมื่อเหนื่อยหนักก็อยากพักผ่อนบ้าง
วันนี้พระองค์ท่านทรงพักพระวรกายให้สบายใจ ... ทรงพ้นทุกข์โศกโรคภัยทุกประการแล้ว
เพียงร่างกายเท่านั้นที่เจ็บป่วย ... แต่ดวงใจยังแจ่มใส สงบนิ่ง อิ่มบุญ
เพียงพระองค์ลงมาสร้างบารมีเยี่ยมเยียนโลกมนุษย์ชั่วขณะหนึ่ง ... เสร็จภาระแล้ว วันนี้ขอเดินทางกลับไปสู่สวรรคาลัยที่ทรงประทับ
บุญบารมีที่ทรงบำเพ็ญ ๘๙ ปี บนโลกมนุษย์ ก็เพียงพอแล้วที่จะต่ออายุบนโลกสวรรค์
พระองค์ไม่ได้ทิ้งคนไทยไปไหน... -
ความมหัศจรรย์ของพระแก้วมรกต เทวดาช่วยกันสร้าง คำรับรองจากหลวงปู่มั่น พระแก้วมรกตอยู่ในประเทศใด จะส่งผลมงคลแบบนี้
ความมหัศจรรย์ของพระแก้วมรกต เทวดาช่วยกันสร้าง คำรับรองจากหลวงปู่มั่น พระแก้วมรกตอยู่ในประเทศใด จะส่งผลมงคลแบบนี้
คำบอกเล่าของหลวงปู่มั่น
เรื่องประวัติความเป็นมาของพระแก้วมรกต
เรื่องนี้อัตถุปปัตติเหตุเกิดขึ้นเมื่อครั้งพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต พักอยู่วัดป่าบ้านหนองผือ พระอุปัชฌาย์อุ่น (พระครูบริบาลสังฆกิจ (อุ่น อุตฺตโม) วัดอุดมรัตนาราม อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร) ได้ไปกราบนมัสการฟังเทศน์
หลังจากท่านอุปัชฌาย์อุ่นลาลงกุฏิไปแล้ว ท่านพระอาจารย์ได้ทำความสะอาด โดยนำผ้าสรงน้ำของท่านฯ มาเช็ดถู ผู้เล่า (หลวงตาทองคำ จารุวณฺโณ) เอาผ้าเช็ดพื้นเข้าไปช่วยทำความสะอาดด้วย เพราะเห็นว่าผ้ายังสะอาดอยู่ ท่านหันมาเห็นเข้า พูดว่า
“อะไรกัน นั่นรูปพระพุทธเจ้าแท้ๆ ยังเอาผ้าเช็ดพื้นมาถูได้”
ผู้เล่าสะดุ้งไปทั้งตัว เพราะความโง่เขลาปัญญาอ่อน ท่านฯ ก็เลยทำความสะอาดเอง เสร็จแล้วก็มีเพื่อนภิกษุทยอยกันขึ้นไป รวมทั้งท่านอาจารย์วิริยังค์ด้วย ท่านเลยเทศน์ถึงความมหัศจรรย์ของพระแก้วมรกต ท่านว่า
“พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ว่างจากพระอริยบุคคล พระอริยบุคคลมีอยู่ในประเทศใด... -
ท้าวเวสสุวัณมอบให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำ "คาถาสมเด็จพระกัสสปะ"ใช้เสกได้ทุกอย่าง ให้ผลดีเลิศมากมาย.
คาถานี้ดีจริง!! บอกกันต่อๆได้กุศลแรง..ท้าวเวสสุวัณมอบให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำ "คาถาสมเด็จพระกัสสปะ"ใช้เสกได้ทุกอย่าง ให้ผลดีเลิศมากมาย.
คาถาสมเด็จพระกัสสปะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
หลวงพ่อบอกคาถาบทนี้ เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๒๐ คาถาบทนี้ ท้าวเวสสุวัณให้มา ท่านบอกว่าให้สวดมนต์ไว้ทุกคืน ก่อนอื่นให้ระลักถึงบารมีของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ อันมีสมเด็จพระพุทธกัสสปทรงเป็นประธาน เพราะท่านเป็นเจ้าของคาถานี้
พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ
พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ โรคภัยทั้งหลาย วินาศสันติ
ในบรรทัดที่ ๒ นี้รักษาโรค ท่านบอกว่าเสกน้ำให้กิน เสกอะไรให้กิน เสกข้าวให้กินก็ได้นะ แม้แต่ยาพิษมันก็สลายตัว อีกบทหนึ่งเป็นของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
ฆะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ
ทั้งสามบทนี้ท่านให้สวดพร้อมกันเลย เวลาฉันข้าวก็เสก กลางคืนก็ให้ภาวนาไว้นะ ภาวนาไว้สักครู่ เช้าเย็นอะไรนี่นะ ท่านบอกว่าศัตรูจะพินาศไปเอง สำหรับบทหลังศัตรูทำอะไรไม่ได้ จะทำอะไรแล้วเราจะต้องรู้อยู่เสมอ บทกลางนะทำลายโรค ได้ทำลายโรคนี่ดีใช่ไหม เสกข้าวนะ ข้าวที่เราจะฉัน เสกซะหมด... -
"คนแปลกประหลาด มีปากเป็นขวาน" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"คนแปลกประหลาด มีปากเป็นขวาน"
" .. เมืองหนึ่งมี "คนแปลกประหลาด คือมีปากเป็นขวาน" เมื่อไม่ชอบผู้ใด "ก็ใช้ขวานที่ปากฟันผู้นั้น" แต่ก็มีข้อแปลกประหลาดคือ "ฟันไม่ถูกที่ร่างกาย แต่ไปถูกที่จิตใจที่ทำให้เจ็บยิ่งกว่าร่างกาย" คนที่ถูกฟันก็มีขวานที่ปากอีกเหมือนกัน "ก็ฟันตอบเข้าบ้างและก็ถูกที่ใจอีกเหมือนกัน"
เมื่อใช้ปากขวานฟันกันไปฟันกันมา "ก็มีคนมารุมดูกันมากมาย สนับสนุนข้างโน้นบ้างข้างนี้บ้าง บางที่ก็เข้าช่วยตะลุมบอนกันเป็นสองฝ่าย" เพราะต่างฝ่ายก็มีปากเป็นขวานอยู่ด้วยกันและมีแปลกประหลาดอีกอย่างหนึ่ง คือ "นอกจากเป็นขวานที่ฟันไม่ถูกร่างกายของใครถูกแต่ใจแล้ว ยังเป็นขวานที่เมื่อเหวี่ยงออกไปที่ใครอื่นแล้ว ยังหมุนมาถูกตัวเจ้าของขวานเองอีกด้วย" บางคราวมีผู้วิเศษมาเป่ามนต์ลงไปว่า "น้ำลม ลมน้ำ อำนาจมนต์ทำให้ขวานหลุดจากปาก" หมดอำนาจที่จะฟาดฟันกันต่อไป
เมืองที่มีคนปากขวานแปลกประหลาดนี้ สมมุติขึ้นตามพระพุทธภาษิตในพระสูตรหนึ่งที่ว่า "ขวานเกิดที่ปากของคน" ผู้เกิดมาแล้ว เป็นเครื่องตัดตนเองของคนโฉดผู้ชั่วร้าย "ผู้ใดสรรเสริญผู้ที่ควรติเตียน หรือติเตียนผู้ที่ควรสรรเสริญ ผู้นั้นย่อมก่อโทษขึ้นด้วยปาก"... -
ประสบการณ์และผลที่ได้จากการนั่งสมาธิ
ประสบการณ์การนั่งสมาธิ การปฏิบัติของผม เนื้อหาแบ่งเป็นหลายช่วง ตั้งแต่เริ่มต้น คนธรรมดา จนถึงมีฌานสมผัสโลกทิพย์ ช่วยเหลือคน ภาษาที่ใช้อาจมีไม่สุภาพ ไม่ถูกปรับแต่ง เพื่อให้เข้าใจอารมณ์ในช่วงนั้น เนื้อหาทั้งหมดอาจไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์เนื่องจากผ่านมานาน แต่เรื่องหลักทั้งหมดเกิดจากความจริงทั้งสิ้น การเล่าเรื่องเกิดขึ้นจากเทวดามาหาในสมาธิขอให้ข้าพเจ้าได้แบ่งปันเรื่องราวของตนเองขึ้น
เริ่มต้น ผมเกิดในครอบครัวฐานะที่มีปัญหาทางครอบครัว ทะเลาะกันเกือบทุกวัน เรื่องปัญหาหนี้สินและการใช้เงิน ผมทำทุกวิถีทางที่เป็นทางโลกเพื่อที่อยากให้บ้านสงบสุข หาเงินมาให้ไม่กี่วันหมด ทุกครั้งที่ยุ่งกับการเงินพ่อ แม่ ทำให้ทะเลาะกับพ่อ แม่ ทั้งสิ้น ไม่มีความสุข ผู้ใหญ่ไม่ฟังลูกสักนิด โดนเสมอว่า เป็นเด็กเป็นเล็กจะไปรู้อะไร แต่แล้วผมได้เหมือนเห็นแสงสว่าง เมื่อเจอธรรมมะที่ว่า “นั่งสมาธิเกิดปัญญา” ในเมื่อผมหาทางออกทางโลกไม่ได้ พยายามทุกวิถีทางจนเหนื่อย บางทีปัญญาผมอาจไม่ถึง ผมลองไปก็ไม่มีอะไรเสียหาย ช่วงนั้นผมคงคิดประมาณแบบนี้ ผมจึงเริ่มปฏิบัติอย่างจริงจังขึ้น ผมดูลมหายใจ เมื่อย เหนื่อย ท้อ... -
เทคนิคการท่องคาถาให้เกิดผลจริงแบบง่าย ๆ
เทคนิคการท่องคาถาให้เกิดผลจริงแบบง่าย ๆ
เทคนิคที่ว่าคือ ให้กลั้นใจแล้วท่องคาถาในขณะที่กลั้นใจนั้นแหละครับ
ได้ผลชัวร์ ส่วนจะได้มากน้อยก็อยู่ที่ว่า ในขณะที่กลั้นใจนั้น สมาธิของคุณนิ่งแค่ไหน
แต่ที่แน่ ๆ คือ ในขณะที่คุณกลั้นใจนั้น จิตคุณนิ่งเป็นสมาธิแน่นอน แต่จะอยู่ที่ระดับไหนเท่านั้นเอง
ขอยกคำสอนของพระอาจารย์ที่ท่านได้เคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้มาให้อ่านกันนะครับ ท่านบอกไว้ดังนี้ครับ
"ในเรื่องของคาถา ถ้าจะว่าไปแล้ว นักปฏิบัติธรรมทุกคนควรจะซักซ้อมการใช้พระคาถาต่าง ๆ ไว้ เพราะว่าเรื่องของคาถาให้ผลง่าย แค่อารมณ์ใจของเราสูงกว่าอุปจารสมาธินิดหนึ่งก็เริ่มให้ผลแล้ว เขาเรียกว่า อุปจารฌาน คืออารมณ์ใจเริ่มทรงตัวแน่วแน่ ตอนนั้นความฟุ้งซ่านไม่มี จิตก็เริ่มมีกำลัง
ดังนั้น..จะเห็นว่าถ้าจะใช้คาถาแบบโบราณ ๆ คาถาหลายบทท่านให้กลั้นใจว่า อย่างเช่นกลั้นใจว่า ๓ จบ ๗ จบ ๙ จบ ตอนที่เรากลั้นใจจิตจะนิ่ง ไม่นิ่งก็ไม่ได้เพราะจะตายอยู่แล้ว เนื่องจากไม่หายใจ พอจิตนิ่งก็จะเกิดพลังขึ้นมา ถ้าเราทำคาถาใดคาถาหนึ่งแล้วเกิดผล เราจะเกิดความมั่นใจ พอเกิดความมั่นใจ ก็เอากำลังระดับนั้นไปใช้กับคาถาทุกบท จะได้ผลเหมือนกันหมด... -
ประสบการณ์ตรง"หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" พบ "หลวงปู่เทพโลกอุดร" ภิกษุลึกลับปรากฎตัวในงานบุญ แล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
“พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ” นั้น เป็นที่รู้กันดีในวงนักปฏิบัติและพระอริยเจ้าด้วยกันว่า ท่านเป็นพระแม้เป็นพระวิมุตติบริสุทธิ์และยังทรงคุณธรรมพิเศษทางด้านมโนยิทธิ อภิญญาสมาบัติอีกด้วย มีปกติสนทนาติดต่อกับสิ่งลึกลับที่พวกเราคนปุถุชนสามัญธรรมดาไม่มีตารู้เห็นไม่อาจสัมผัสได้ แต่สำหรับหลวงพ่อฤๅษีลิงดำนั้นท่านกลับสามารถพูดคุยสนทนาได้ปกติ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำนั้นท่านมีความสามารถทางเห็นผีเห็นวิญญาณมาแต่เล็ก เมื่อโตขึ้นครบบวชก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ “หลวงพ่อปาน” เพราะนิสัยซน อยากรู้อยากเห็น กล้าไม่กลัวใคร หลวงพ่อปานจึงเรียกท่านว่า “ลิง” และเหตุที่ท่านมีผิวคล้ำ หลวงพ่อปานจึงเรียกท่านว่า “ลิงดำ”
พระอริยเจ้าหลายท่านที่รับรองคุณวิเศษและความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ เช่นหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา หลวงปู่บุดดา ถาว โร วัดกลางชูศรี สิงห์บุรี ครู บาชัยวงศ์ษา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดพระบาทวังมุย จ.ลำพูน ครูบาธรรมชัย จ.ลำพูน หลวงปู่มหาอำพัน วัดเทพสิรินทร์ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่...
หน้า 5 ของ 395