“บทเรียนสองบท“บทความที่อ่านแล้ว....

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 8 มิถุนายน 2009.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>บทเรียนสองบท


    </TD><TD vAlign=top width=155></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>รายงานโดย :ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย:

    </TD><TD>วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    [​IMG]

    ในโลกนี้มีบทเรียนมากมายให้เราได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา



    สำหรับคนที่รักการเรียนรู้ ทุกครั้งที่ได้เรียนรู้และเกิดการเรียนรู้ใหม่ จึงมีชีวิตอยู่อย่างแสนรื่นรมย์ บทเรียนมากมายบรรดามีนั้น เมื่อกล่าวอย่างรวบยอดก็มีเพียงสองอย่างเท่านั้น นั่นคือ บทเรียนยาก และบทเรียนง่าย

    คนส่วนใหญ่มักพอใจที่จะเรียนบทเรียนง่าย แล้วจงใจหลับหูหลับตาสำหรับบทเรียนยาก ผลของการเลือกเรียนแต่บทเรียนง่ายๆ ก็คือ ทำให้ชีวิตขาดภูมิคุ้มกันต่อการเผชิญความทุกข์ ไม่มีทักษะในการแก้ปัญหาทั้งส่วนตัว ส่วนรวม และส่วนโลก แต่สำหรับคนที่ใจกว้างเปิดใจเรียนรู้ทั้งบทเรียนยากและบทเรียนง่าย จะทำให้รู้จักโลกและชีวิตทั้งสองด้านอย่างสมบูรณ์ ยิ่งผ่านบทเรียนยากมากมาย ยิ่งทำให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ชีวิต

    [​IMG]


    โลกของเรานั้น มีผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ มากมาย แต่ผู้เชี่ยวชาญสาขาการใช้ชีวิตนั้นหายาก คนที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาการใช้ชีวิต จึงต้องเป็นนักใช้ชีวิตที่เป็น “บุคคลแห่งการเรียนรู้” และพร้อมเสมอที่จะเรียนรู้บทเรียนชีวิตในทุกรูปแบบ
    เมื่อหลายปีก่อน สตรีสูงศักดิ์คนหนึ่ง ซึ่งถึงพร้อมทั้งชาติตระกูล การศึกษา หน้าตา การทำงาน ได้สมรสกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกของผู้มีอันจะกิน ความฝันของสามีภรรยาหนุ่มสาวก็คือ การมีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจ ยิ่งถ้าเป็นลูกชายด้วยแล้วจะวิเศษมาก ต่อมาไม่นานภรรยาก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดลูกคนแรกซึ่งเขาเดินทางมาสู่โลกนี้พร้อมทั้งความยินดีปรีดาและความสลดใจในเวลาเดียวกัน
    ยินดีปรีดาเพราะเขาเป็นทารกน้อยเพศชาย แต่น่าสลดใจเพราะเขาไม่สมบูรณ์นักเมื่อแรกคลอดหมอจึงต้องนำเข้าตู้อบดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็มีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่ถึงอาทิตย์ก็สิ้นบุญไป
    การมีลูกคงเป็นความสุขที่สุดของคนเป็นพ่อแม่ทุกคน แต่การเสียลูกก็คงเป็นความทุกข์ที่สุดเช่นเดียวกัน

    ทารกน้อยเป็นแก้วตาดวงใจของสองสามีภรรยาหนุ่มสาว ดังนั้น แม้จะคลอดมาลืมตาดูโลกเพียงไม่กี่วัน แต่เขาก็มีความสำคัญมากพอที่พ่อแม่ ซึ่งมาจากตระกูลที่สูงส่งจะจัดงานาปนกิจให้อย่างสมเกียรติ

    ในงานฌาปนกิจ ผู้เป็นพ่อยังพอมีกำลังใจต้อนรับแขก ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ แต่ผู้เป็นแม่นั้น “ป่วยใจ” อย่างหนัก เธอถูกความทุกข์กัดกินใจนับแต่วันแรกที่เสียลูกจนไม่อาจครองกาย ครองใจ ให้หยัดยืนอย่างคนปกติทั่วไปได้
    วันนั้น ก่อนการวางดอกไม้จันทน์หน้าหีบศพของลูกชายคนแรกผู้เป็นแก้วตายาใจ เธอก่นแต่ร้องห่มร้องไห้แทบไม่เป็นอันทำอะไร ทุกข์เพราะ “วิปโยค” จากคนอันเป็นที่รักปิดบังดวงใจของเธอจากการยอมรับความจริงอย่างแน่นหนาเสียจนเธอแทบไม่ได้ยินคำปลอบประโลมของใครต่อใครผู้ผ่านโลกมาก่อน

    แต่อย่างไรก็ตาม โบราณท่านว่า “ในโมงยามที่มืดมิดที่สุดนั้น อาจเป็นนิมิตหมายว่า ใกล้สว่างเต็มทีแล้ว”

    ขณะที่เธอกำลังหม่นหมองครองทุกข์อย่างถึงที่สุดนั่นเอง มรรคนายกก็มาเตือนเธอว่า จะมีการเทศน์หน้าศพก่อนการาปนกิจ ขอให้เธอเป็นตัวแทนจุดเทียนชัยหน้าธรรมาสน์หน่อย เธอปาดน้ำตา สามีประคองลุกขึ้นมาจุดเทียนส่องธรรม
    เมื่อแสงเทียนสว่างโพลงแล้ว ท่านเจ้าอาวาสจึงเมตตาแสดงธรรม ท่านเริ่มธรรมเทศนาเหมือนกับรู้ว่า ผู้เป็นแม่ของเจ้าตัวน้อยกำลังต้องการธรรมโอสถขนานเอกอย่างเร่งด่วนที่สุด หลวงพ่อท่านว่า

    “ชีวิตคนเรานั้น คือ การเดินทางไกล ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบการเดินทาง แต่เมื่อเกิดมาแล้ว เราทุกคนก็ต้องออกเดินทางด้วยกันทั้งนั้น เบื้องต้น เราทุกคนเดินทางมาจากชาติภพอื่น มาปฏิสนธิในครรภ์มารดา จากครรภ์มารดา เราก็เดินทางต่อมาสู่โลกมนุษย์ และในโลกมนุษย์นี่เอง การเดินทางไกลเพื่อไปสู่เป้าหมายสุดท้ายสองแห่งก็เกิดขึ้น เป้าหมายหนึ่งคือพระนิพพานอันเป็นสภาวะหมดทุกข์ หยุดการเวียนว่ายตายเกิดอย่างสิ้นเชิง อีกเป้าหมายหนึ่ง คือ การตายไปพร้อมกับกิเลสที่ยังคงรัดรึงใจเพื่อที่จะเวียนกลับมาเกิดใหม่เช่นนี้อีก

    ตลอดการเดินทางไกลนั้น เราทุกคนจะต้องบำเพ็ญตนเป็นนักเรียนน้อยๆ อยู่เสมอ เพราะหากเราไม่บำเพ็ญตนเป็นนักเรียนน้อยๆ ของโลก โลกจะประเคนความทุกข์เข้าใส่เราอย่างไม่ปรานีปราศรัย บางคนก็ทนได้ บางคนที่ทนทุกข์ไม่ได้ ก็ทำร้ายตัวเองจนแตกดับไปก่อนการอันควร ในโลกที่เราต่างพากันมาดำรงชีวิตอยู่นี้ มีบทเรียนให้นักเรียนของโลกอย่างพวกเราได้ลงทะเบียนเรียนอยู่สองบท

    หนึ่งคือ บทเรียนยาก
    สองคือ บทเรียนง่าย”

    แล้วหลวงพ่อก็กล่าวถึงใจความสำคัญของเทศนากัณฑ์พิเศษในวันนั้นของท่าน ซึ่งทำให้อาการหม่นหมองครองเศร้าของผู้เป็นแม่มือใหม่ปลาสนาการไปอย่างปาฏิหาริย์ ดังหนึ่ง แหวกเมฆออกก็พลันเห็นตะวันสว่างจ้า

    “บทเรียนง่ายๆ นั้น ใครๆ ก็อยากเรียน แต่บทเรียนยาก ใครต่อใครต่างพากันเบือนหน้าหนี ก็วันนี้ บทเรียนยากอันได้แก่การพลัดพรากจากคนอันเป็นที่รัก ซึ่งเป็นสัจธรรมที่จะต้องเกิดขึ้นกับเราทุกคนได้เดินทางมาถึงแล้ว หากเราไม่เปิดตา เปิดใจ เรียนรู้บทเรียนอันแสนยากนี้ไว้ ในวันหนึ่งข้างหน้า เราก็จะต้องมาเสียน้ำตาอย่างซ้ำซากเช่นวันนี้อีกไม่รู้จบสิ้น

    ขอให้เธอทั้งหลาย ปล่อยวางความโศก ความเศร้า ความเสียใจพิไรรำพันเสียเถิด ป่วยการเปล่าที่จะเศร้าหมองครองทุกข์ เปิดตา เปิดใจ ขึ้นมาบอกตัวเองว่า การจากไปของลูกชายผู้เป็นที่รักคือบทเรียนแสนยากที่เราจะต้อง “เรียนรู้ร่วมกัน” มีก็แต่การเรียนรู้โดยถือเขาเป็นครูเท่านั้น การจากไปของเขาจึงจะทำให้คนอย่างเราที่ยังอยู่ได้รับประโยชน์อันสูงสุด...

    บทเรียนยากนั้น มีคุณค่ายิ่งกว่าบทเรียนง่าย เพราะบทเรียนยากจะให้รางวัลเป็นความเข้มแข็งแก่หัวใจของเราในอนาคต และเป็นรากฐานอันมั่นคงที่จะทำให้เราแต่ละคนสร้างชีวิตอย่างมั่นคงและมีความสงบสุขเป็นกำไรในระยะยาว แต่บทเรียนง่าย จะทำให้เราหลงอยู่ในโลกอันเป็นมายา เดี๋ยวฟู เดี๋ยวฟุบ เดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้ อ่อนแอ และขาดภูมิคุ้มกันต่อความทุกข์...”

    หลังจากนั้น หลวงพ่อเทศนาต่อไปอีกยาวนาน แต่ผู้เป็นแม่ไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว พอฟังมาถึงตรงนี้ เธอเกิดสติขึ้นมาดังหนึ่งคนได้รับน้ำทิพย์ชโลมใจ เธอตื่นจากความหลับใหลต่อสัจธรรมของชีวิต พลางบอกตัวเองว่า

    “แม้ลูกจะเกิดมาอยู่กับแม่ได้เพียง 5 วัน แต่การมาของลูกทำให้แม่เกิดการเรียนรู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่จากนี้เป็นต้นไป แม่คงยอมรับได้กับการสูญเสียคนอันเป็นที่รักอีกกี่คนก็ได้ทั้งนั้น การจากไปของลูก คือ การเกิดขึ้นมาของแสงสว่างในทางธรรมในใจแม่แท้ๆ...”

    หญิงสาวปาดน้ำตา เปลี่ยนอิริยาบถ จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ มือกระชับดอกไม้จันทน์ ยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากกับตัวเองอย่างคนที่เจนต่อโลกและชีวิต พลางรำพึงในใจว่า

    [​IMG]



    “ลูกรัก แม่พร้อมแล้วสำหรับการวางดอกไม้จันทน์”

    ---------
    [​IMG]
    ��ʵ� ������ - �ſ������ - �����¹�ͧ��
     

แชร์หน้านี้

Loading...