— •• (ปิดให้บูชา!) เปิดให้บูชาเหรียญ “หลวงปู่ทวด บารมีทิพย์ปรับธาตุ” •• —

—•• ประกาศชี้แจงเรื่องเหรียญและวัตถุมงคลที่เคยปลุกเสกไป ••—​

มีหลายคนเข้าใจผิดเรื่องชื่อของเหรียญที่ผมให้บูชา หรืออาจเพราะบางคนไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ จึงส่งรูปเหรียญมาผิด ผมจะแจ้งอีกครั้งนะครับว่า กระทู้นี้ผมรับตรวจเฉพาะเหรียญบารมีทิพย์ปรับธาตุ ซึ่งมีทั้งหมด 3 รุ่น คือ

1.เหรียญพระแม่กวนอิม(หมด) เป็นบารมีทิพย์ปรับธาตุรุ่นแรก.
2.สร้อยข้อมือกังหันแชกง(หมด) เป็นบารมีทิพย์ปรับธาตุรุ่นแรก.
ทั่ง 2 รุ่นแรก ผมมารู้ทีหลังว่า องค์บรมครูท้าวมหาพรหมชิณณะปัญชะระท่านมาปลุกเสกบารมีทิพย์ให้ รู้จากประสบการณ์คนที่สวมใส่วัตถุมงคลทั้ง 2 ชิ้น.

3.เหรียญหลวงปู่ทวด บารมีทิพย์ปรับธาตุ(ให้บูชาเรื่อยๆ สำหรับคนที่ไม่เคยบูชา) หลังจากที่ผมรู้ว่า ท่านท้าวมหาพรหมมาปลุกเสกบารมีทิพย์ให้ในเหรียญ และจะต้องทำหน้าที่ลักษณะนี้ไปอีกเรื่อยๆ ผมจึงมาตั้งชื่อเหรียญให้เป็นทางการ จากนั้น องค์ครูบริวารของท่านท้าวมหาพรหมองค์หนึ่ง ท่านมาชี้แนะให้ผมเลือกใช้เหรียญหลวงปู่ทวดในการปลุกเสกบารมีทิพย์นี้ ที่มาก็เป็นแบบนี้นะครับ

* ส่วนเหรียญเมตตานิรันตราย(เหรียญพระเวทย์อาคม ถึงแม้จะมีพระคาถาเยียวยา และให้บูชาเรื่อยๆ แต่คนห้อยต้องถือศีลข้อ 3) แต่กระทู้นี้ยังไม่รับตรวจนะครับ เพราะบารมีครูคนละสายกัน เวลาปลุกเสกก็แยกปลุกเสกคนละพิธีคนละวันกัน ขอให้ทุกท่านรับทราบทั่วกันครับ.

1.เหรียญหลวงปู่ทวด บารมีทิพย์ปรับธาตุ

 

2.เหรียญพระแม่กวนอิม(บารมีทิพย์ปรับธาตุ)

3.สร้อยข้อมือกังหันแชกง(บารมีทิพย์ปรับธาตุ)

4.เหรียญเมตตานิรันตราย (เหรียญพระเวทย์อาคม ถึงแม้จะมีพระคาถาเยียวยา และให้บูชาเรื่อยๆ แต่คนห้อยต้องถือศีลข้อ 3)

 

-แชร์ผลตรวจค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญของสาวออฟฟิศท่านหนึ่ง(ไม่ต้องเปลี่ยนเหรียญอันใหม่)

เทพเทวาท่านแจ้งว่า “เหรียญของเธอผู้นี้ จากที่เราได้ตรวจญาณทัศนะพิจารณาดู ปรากฎเห็นระดับค่าพลังงานแห่งความเป็นทิพย์หลงเหลือสักประมาณ 80% เราจึงลงความเห็นว่า ระดับของพลังงานทิพย์ในเหรียญยังคงสูงอยู่ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเหรียญอันใหม่”

 

-แชร์ผลตรวจค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญของหญิงสาวที่มีเทพเจ้ายักษ์ญี่ปุ่นดูแลรักษา แต่ตอนนี้เธอถึงวาระที่จะต้องเผชิญหน้าและชดใช้เวรกรรมให้แก่เจ้ากรรมและนายเวรของเธอแล้ว(ไม่อนุญาตให้เปลี่ยนเหรียญใหม่)
(..14 มี.ค. 2564..)

เทพเทวาท่านแจ้งว่า “เราว่าเหรียญของสาวท่านนี้ ถึงแม้ค่าของพลังงานแห่งทิพย์จะหลงเหลือเพียงประมาณไม่กี่เปอร์เซ็นต์! เพราะเนื่องจากตัวเธอโดนดวงจิตวิญญาณของเจ้ากรรมและนายเวรกำลังตามทวงหนี้กรรมครั้งใหญ่อยู่ในปัจจุบัน! ถ้าเราอนุญาตให้เธอได้เปลี่ยนเหรียญใหม่! เธอก็จะไม่ได้ชดใช้ในวิบากกรรมเก่าของเธอ! ซึ่งมันจะเป็นผลเสียแก่เธอเสียมากกว่า! เราก็เป็นเทวดาผู้ดูแลรักษากฎแห่งกรรม ในเมื่อการกระทำเช่นนี้จะส่งผลเสียแก่เธอในอนาคต! เราจึงไม่อนุญาตให้หญิงท่านนี้ได้เปลี่ยนเหรียญเป็นเหรียญใหม่”
—————————
ข้อความที่เคยสื่อจิต
(..4 ต.ค. 2563..)

“สงสัยว่าเวลานอนแล้วตื่นมามีรอยเขียวช้ำ เกิดจากเพราะมีผีจะมาอำรึเปล่าคะ”

-องค์ครูชี้แนะว่า “ในเรื่องอาการรอยช้ำเขียวที่เกิดขึ้นตามช่วงขาขวา จากที่เราได้ตรวจญาณวิสัย เราเห็นมีดวงจิตวิญญาณที่อยู่รายล้อมตัวเธอ ซึ่งดวงวิญญาณดังกล่าว เธอพยายามที่จะกลั่นแกล้งให้ร่างกายของตัวหญิงคนนี้ให้ได้รับบาดเจ็บ! แต่ก็ทำได้แค่เพียงทำให้เกิดรอยช้ำเท่านั้น! เพราะเธอมีบารมีทิพย์จากเหรียญคอยปกป้องคุ้มภัยอยู่! ส่วนดวงวิญญาณดวงนั้นเมื่อสัมผัสร่างกายของเธอ ดวงวิญญาณดังกล่าวก็ได้รับบาดเจ็บแสบร้อน! และทำให้ดวงวิญญาณนั้นหมดพลังงานลงไป! เราคิดว่า ดวงวิญญาณนั้นคงจะไม่กล้าที่จะคิดมากลั่นแกล้งลองดีกับบารมีทิพย์นี้อีกต่อไป! ขอให้เธอจงอย่ากังวลใจไป! ดวงวิญญาณดังกล่าวเป็นดวงวิญญาณที่เคยเป็นคู่แค้นกับเธอมาในอดีตชาติ หรือจะเรียกว่า “เจ้ากรรมนายเวร”ของเธอก็ว่าได้ ฉะนั้น ขอเธอจงหมั่นสร้างแต่กรรมดี! เพื่อให้บุญความดีเหล่านั้นเป็นดั่งเกราะแก้วคุ้มภัยแก่เธอ! แม้เธอจะประสบกับวิบากกรรมเก่า!

เหตุที่บารมีทิพย์นี้สามารถช่วยปกป้องคุ้มภัย ให้มนุษย์ผู้นั้นไม่ต้องเผชิญกับเจ้ากรรมนายเวรของตนได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ยังสวมใส่เหรียญปรับธาตุนี้อยู่! เราอยากจะบอกให้แก่ท่านวิทย์ฟังเช่นนี้ว่า “กรรมทุกอย่าง! ย่อมอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่สวรรค์เบื้องบนเป็นผู้กำหนดให้เป็นไปตามวาระต่างๆ และเงื่อนไขเหล่านี้ย่อมมีข้อยกเว้นในบางกรณี! ซึ่งในกรณีของเธอผู้นี้ ก็เข้าข่ายในข้อยกเว้นดังกล่าวที่เธอยังไม่ต้องมาเผชิญหน้ากับเจ้ากรรมรายนี้โดยตรง! ในช่วงวันเวลาที่ท่านวิทย์กำลังทำภารกิจเหรียญปรับธาตุอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่า ทุกคนที่ห้อยเหรียญปรับธาตุจะได้รับการยกเว้นจากการจองเวรจากเจ้ากรรมนายเวรทุกรายไป เพราะยังต้องขึ้นอยู่กับระดับความหนักเบาของวิบากกรรมที่เคยกระทำลงไปนั้นนำมาเป็นเครื่องพิจารณาตัดสินว่า ควรได้รับการยกเว้นหรือไม่อย่างไร? ส่วนกรณีของเธอผู้นี้ เราขอชี้แนะว่า เธอควรใส่เหรียญบารมีทิพย์ปรับธาตุติดคออยู่เสมอ! เพื่อป้องกันเจ้ากรรมรายนี้ไม่ให้เข้ามาถึงตัวและทำร้ายให้เธอได้รับบาดเจ็บได้อีก! แต่ถ้าวันใดภารกิจเหรียญปรับธาตุสิ้นสุดลง! เธอจะต้องชดใช้ในวิบากกรรมเก่าของเธออย่างแน่นอน! ขอเธอจงไม่ประมาทในชีวิตของตัวเธอเอง ช่วงเวลาต่อจากนี้เป็นต้นไป ขอเธอจงหมั่นเจริญทาน รักษาศีล และทำภาวนาให้มาก! เพื่อนำบุญกุศลเหล่านี้มาบรรเทาในวิบากกรรมเก่าของเธอในอนาคต”
—————————
ข้อความที่เคยสื่อจิต
(..15 ก.ย. 2563..)

“คือจริงๆวันที่เหรียญมา ได้ฝันว่า เห็นตัวเองกำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอน แล้วในฝันเห็นเทวดา ลักษณะคล้ายๆกับเทวดายืนมองตอนหลับอยู่ ยืนมองอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนค่ะ”

-องค์ครูชี้แนะว่า “ในเรื่องราวความสัมพันธ์ในอดีตชาติระหว่างเธอคนนี้และเทพเทวดาที่ดูแลคุ้มครองเธออยู่ เราขอเล่า ดังนี้

เรื่องราวทั้งหลายระหว่างเขาและเธอ ได้เกิดขึ้นในยุคสมัยหนึ่งในแถบประเทศที่ไกลออกไป เป็นประเทศที่อยู่ในแถบเอเชียตะวันออก มีสัญลักษณ์ดอกซากูระเป็นตราเครื่องหมายของประเทศ นั่นคือ “ประเทศญี่ปุ่น” ในยุคนั้นเธอคนนี้เคยได้เกิดเป็นลูกชาวนา ครอบครัวทำเกษตรกรรมรวมถึงมีอาชีพทอผ้าญี่ปุ่น! ส่วนเทวดาองค์ดังกล่าวท่านก็ได้เกิดเป็นคู่รักหรือสามีของเธอคนนี้ในชาติภพนั้น ถึงแม้ในสมัยนั้นจะมีสงครามอยู่ปะปลาย! จึงมีผลทำให้ครอบครัวเธอจำเป็นต้องอพยพย้ายถิ่นอยู่บ่อยครั้ง เพื่อหลบเลี่ยงสงคราม! แต่ชีวิตครอบครัวโดยรวมของเธอและสามีรวมถึงลูกทุกคน ก็อยู่รอดปลอดภัยไม่เป็นอันตรายใดๆ!

โดยเทวดาชายองค์นี้ท่านไม่ได้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไทย แต่แท้จริงแล้ว ท่านเป็นเทพญี่ปุ่นมีวรกายสีน้ำเงินคล้ายยักษ์ของไทย จากที่เราเห็น ท่านมีเชื้อสายของยักษ์ทางญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นทั่วไปนับถือว่า เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งที่สำคัญ! เราก็ไม่รู้จักนามของท่านที่แท้จริง! ความจริงท่านไม่ใช่เทพเทวาที่ดูแลรักษาเหรียญปรับธาตุ แต่ท่านเป็นเทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลเธอคนนี้มานานหลายภพชาติแล้ว! จะเห็นได้ว่า โชคชะตาชีวิตของเธอจะถูกชักนำให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับสังคมชาวญี่ปุ่นหรือวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เพราะโชคชะตาชีวิตของเธอในอดีตชาติมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์อย่างเหนียวแน่นกับประเทศญี่ปุ่น และการที่เทพญี่ปุ่นองค์ดังกล่าวดลใจท่านวิทย์ให้นำเหรียญบารมีปรับธาตุนี้นำไปให้แก่เธอคนนี้ เหตุเพราะเทพองค์นี้รู้ว่า บารมีทิพย์ในเหรียญจะเป็นประโยชน์แก่สุขภาพกายและส่งผลต่อสภาวะจิตของเธอให้นิ่งสงบมากขึ้น! เพราะช่วงนี้เธอจำเป็นต้องอ่านหนังสือสอบเลื่อนขั้นภาษาญี่ปุ่น!”

 

-แชร์ผลตรวจค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญของหญิงผู้หนึ่ง(ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเหรียญใหม่ในตอนนี้)

เทพเทวาท่านแจ้งว่า “เหรียญของสตรีนางนี้ จากที่เราตรวจญาณวิสัยพิจารณา เหรียญของเธอยังคงมีพลังงานแห่งทิพย์ในปริมาณค่อนข้างที่จะสูงอยู่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเหรียญใหม่ในตอนนี้”

 

-แชร์ผลตรวจค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญของหญิงผู้หนึ่ง(ยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นเหรียญใหม่)

เทพเทวาท่านแจ้งว่า “เราจะบอกว่า ด้วยญาณวิสัยของเรา เราตรวจพบว่า ระดับค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญของหญิงผู้นี้ ยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นเหรียญใหม่”

 

-แชร์ผลตรวจค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญสำหรับสามีชาวสวีเดนของพยาบาลไทยในสวีเดน(ไม่ตรวจพลังงานให้)

เทพเทวาท่านแจ้งว่า “ในชายชาวต่างชาติท่านนี้ สิ่งที่เราเห็น ก็คือ ตัวเขาเองไม่ได้มีความเชื่อหรือศรัทธาในเหรียญที่เขาห้อย เราจึงไม่เห็นมีความจำเป็นใดที่จะต้องมาตรวจค่าพลังงานแห่งทิพย์นี้ให้แก่เขา”

*พยาบาลไทยช่วยแปลให้ และสามีเธอก็บอกว่า “ใช่ ไม่เชื่อไม่ศรัทธา(แต่ใส่เหรียญพระเพราะเกรงใจเมีย)”

 

-แชร์ผลตรวจค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญของชายท่านหนึ่ง(ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเหรียญใหม่)

เทพเทวาท่านแจ้งว่า “สำหรับชายท่านนี้ รัศมีทิพย์ของเหรียญยังคงมากอยู่ จึงไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนเหรียญใหม่แต่อย่างใด”

 

-แชร์ผลตรวจค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญของหญิงอยุธยาท่านหนึ่ง(อนุญาตให้เปลี่ยนบูชาเหรียญใหม่)

เทพเทวาท่านแจ้งว่า “สำหรับเธอคนนี้ จากที่เราตรวจรัศมีแห่งทิพย์ ปรากฎว่า เหรียญนี้นอกจากไม่มีพลังงานแห่งทิพย์เหลืออยู่! เรายังตรวจพบว่า มีพลังงานบางอย่างในทางมืดแฝงอยู่ในเหรียญอีกด้วย เราขอชี้แนะว่า เธอไม่ควรจะบูชาเหรียญนี้อีกต่อไป ขอให้นำไปไว้วัดหรือถวายวัดจะดีที่สุด! อย่าเก็บไว้อีกเลย! จะส่งผลเสียแก่เธอในภายหลัง กรณีของเธอ เราเห็นว่า เธอมีศรัทธาในตัวท่านวิทย์ ด้วยเหตุผลนี้ เราจึงอนุญาตให้เธอได้เปลี่ยนบูชาเหรียญใหม่จากท่านวิทย์”

 

-แชร์ผลตรวจค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญของหญิงสาวท่านหนึ่ง(ไม่ตรวจพลังงานให้)

เทพเทวาท่านแจ้งว่า “สำหรับหญิงสาวท่านนี้ ใจจริงเธอไม่ได้ปรารถนาที่อยากจะเปลี่ยนเหรียญใหม่ แต่เธอเห็นท่านวิทย์ประกาศรับตรวจค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญ เธอจึงมาสอบถามเล่นๆ ด้วยความคิดเช่นนี้ เราจึงไม่ขอตรวจพลังงานทิพย์ให้แก่เธอ”

 

-แชร์ผลตรวจค่าพลังงานทิพย์ในสร้อยข้อมือของชายท่านหนึ่ง(อนุญาตให้เปลี่ยนได้)

เทพเทวาท่านแจ้งว่า “กรณีชายท่านนี้ สร้อยข้อมือนี้ตอนนี้สูญเสียพลังงานทิพย์ไปมาก! ให้เขาพิจารณาด้วยตนเองว่า เขาต้องการจะเปลี่ยนเป็นเหรียญหลวงปู่ทวด บารมีทิพย์ปรับธาตุหรือไม่อย่างไร เราอนุญาตให้เขาเปลี่ยนได้”

 

-แชร์ผลตรวจค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญของแม่หญิงท่านหนึ่ง(อนุญาตให้บูชาเหรียญใหม่ได้)

เทพเทวาท่านแจ้งว่า “สำหรับแม่หญิงนางนี้ เราได้ตรวจรัศมีแสงแห่งทิพย์ในเหรียญของเธอ ปรากฎพบว่า พลังงานทิพย์ที่สถิตอยู่ภายในเหรียญนี้ยังมีอยู่ประมาณ 30% ถือว่าหลงเหลือไม่ค่อยมาก! ถ้าแม่หญิงท่านนี้ปรารถนาที่จะบูชาเพิ่มอีกสัก 1 เหรียญ เราก็อนุญาต!”

 

-แชร์ผลตรวจค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญของพนักงานดูแลไอที(เช่าบูชาเปลี่ยนเหรียญใหม่ได้)

เทพเทวาท่านแจ้งว่า “แสงสว่างในรัศมีแห่งทิพย์ของเหรียญนี้ จากที่เราตรวจพบ พลังงานแห่งทิพย์ในเหรียญลดทอนหรือลดลงไปเกิน 3 ใน 4 ส่วน(พลังงานทิพย์หายไปเกินกว่า 75%) ให้เขาพิจารณาเอาเองว่า เขาอยากจะเช่าบูชาเปลี่ยนเหรียญใหม่หรือไม่ ส่วนเราไม่ติดอะไร”

 

** เกร็ดความรู้เรื่องการถูกใช้ไปของพลังงานทิพย์บริสุทธิ์ในเหรียญบารมีทิพย์ปรับธาตุ **​

ปกติพลังงานทิพย์ในเหรียญจะถูกใช้ไปโดยอัตโนมัติ แล้วแต่เหตุปัจจัยที่มากระตุ้นการให้พลังงานทิพย์ถูกส่งออกไปเป็นเกราะแก้วปกป้องคุ้มครองผู้สวมใส่หรือรักษาเยียวยาอาการเจ็บป่วย(ปรับธาตุดินน้ำลมไฟ)รวมถึงการปรับสภาวะจิตให้สมดุล ยกตัวอย่าง เวลาอยู่นอกบ้านจะมีคลื่นพลังงานหลากหลายที่จะไหลผ่านร่างกายและดวงจิตของเรา อาทิเช่น ลมเพลมพัด(คุณไสยที่ปล่อยตามกระแสลม),พลังงานวิญญาณรายล้อมตัวเราที่พยายามจะมาเข้าใกล้เรา รวมถึงผีเจ้ากรรมนายเวร และกระแสพลังงานลบอกุศลอื่นๆอีกมากมาย ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เราใช้ชีวิตอยู่ในประจำวัน ซึ่งในแต่ละคนก็เผชิญในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป

แต่กรณีของคนที่มีสิ่งที่ไม่ดีอยู่ภายในดวงจิตและร่างกายของเรามาก่อนที่จะห้อยเหรียญบารมีทิพย์ เช่น โดนคุณไสย,ผีแฝง และสภาวะจิตที่ผิดปกติคิดลบอยู่บ่อยๆ,โรคนอนไม่หลับ รวมถึงมีสารพิษสะสมในร่างกายสูงหรือทานอาหารที่มีสารพิษอยู่เป็นประจำ
ช่วงแรกพลังงานทิพย์จะถูกใช้ไปในการขับสิ่งไม่ดีเหล่านี้มากสักหน่อย แต่การใช้ชีวิตประจำวันของเราก็สำคัญ เพราะมนุษย์ไม่รู้หรือมองไม่เห็นในอีกหลายสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ฉะนั้น คนที่ห้อยเหรียญบารมีทิพย์ปรับธาตุควรที่จะใส่ใจในสุขภาพจิตและเรื่องการรับประทานอาหารของตนเองด้วย เพื่อลดภาระการถูกใช้ไปของพลังงานทิพย์บริสุทธิ์ องค์บรมครูโลกทิพย์ท่านจึงบอกว่า พลังงานทิพย์บริสุทธิ์มีคุณอนันต์!”

 

​

— คำถามเรื่องเหรียญบารมีทิพย์ปรับธาตุในเฟสจากคุณ Anrisa Gift —

“ถ้าผู้ที่ห้อยเหรียญหมั่นสวดมนต์ภาวนา เจริญสมาธิ อุทิศบุญให้เทพพรหมเทวาที่สถิตย์อยู่ในเหรียญประจำ แบบนี้จะช่วยรักษาพลังงานทิพย์ให้คงอยู่ให้นานที่สุดได้มั้ยคะ“

— คำตอบ —
ไม่เกี่ยวกับการรักษาพลังงานทิพย์ให้คงอยู่ได้นานมากน้อยครับ ตอนแรกผมก็เข้าใจเช่นนั้น แต่ล่าสุดจากการที่ผมได้สอบถามผู้เป็นเจ้าพิธีปลุกเสกบารมีทิพย์นี้ คือ องค์บรมครูท้าวมหาพรหมชิณณะปัญชะระ ผู้เป็นหัวหน้าชั้นพรหมและเป็นหนึ่งในผู้ตัดสินคดีความในเทวะสภา ท่านคือผู้เป็นใหญ่ในสรวงสวรรค์อีกองค์หนึ่ง ตามที่ท่านบอกมาด้วยตนเอง มิใช่เทพเทวาองค์อื่นบอกมา พลังงานทิพย์หรือบารมีทิพย์ที่ปลุกเสกประจุไว้ในเหรียญ ท่านมาประจุไว้ให้ตามกิจหน้าที่ของสวรรค์ในกึ่งพุทธกาลนี้

ฉะนั้น บารมีทิพย์นี้จึงแตกต่างจากพุทธคุณของเหรียญพระโดยทั่วไป ส่วนใหญ่เหรียญพระโดยทั่วไป จะเป็นการฝากพลังงานของเทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ในเหรียญเป็นส่วนใหญ่ จะไม่มีลักษณะพิเศษในความเป็นทิพย์บริสุทธิ์จนสามารถใช้รักษาเยียวยาโรคภัยต่างๆได้(ปรับธาตุดินน้ำลมไฟ)รวมถึงช่วยปรับสภาวะจิตให้นิ่งสงบสมดุล คือ พลังงานทิพย์นี้จึงมีความเป็นทิพย์ที่บริสุทธิ์มาก จึงมีคุณอนันต์! ฉะนั้น พลังงานทิพย์พิเศษบริสุทธิ์นี้จึงเกิดขึ้นจากฤทธิ์อำนาจบารมีทิพย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงเท่านั้น และเป็นลักษณะอำนาจทิพย์เฉพาะตน แม้นำเหรียญเข้าพิธีปลุกเสกใดๆหรือเทพเทวาองค์อื่นก็ไม่สามารถมาปลุกเสกพลังงานใดๆเพิ่มเติมเข้าไปในเหรียญหลังจากที่ท่านปิดผนึกด้วยมนต์ตราบารมีของท่านหลังเสร็จพิธีปลุกเสกแล้วได้.

โดยปกติพิธีปลุกเสกทั่วไปก็จะมีเหล่าเทพเทวาท่านมาปลุกเสกฝากกระแสเป็นส่วนใหญ่ อาจมีลักษณะพิเศษของฤทธิ์อำนาจหรือพุทธคุณหรือพระเวทย์อาคมเฉพาะด้านหรือหลายด้านบ้าง เพื่อให้เกิดคุณด้านต่างๆตามแต่เจตนารมณ์ของเทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่าท่าน ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดพระพุทธเจ้าพระอรหันต์หรือพระนิพพานท่านจะไม่มาปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ เพราะไม่ใช่กิจของท่าน กิจหน้าที่ปลุกเสกจะเป็นหน้าที่ของพระโพธิสัตว์,เทพพรหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแต่ละภพภูมิเป็นส่วนใหญ่ แม้จะเอ่ยพระนามอัญเชิญองค์พระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์ก็ตาม(จากประสบการณ์ที่ผมเคยอธิษฐานอัญเชิญ น้อยพิธีที่ท่านจะมาปลุกเสกด้วยตนเอง) เทพพรหมพระโพธิสัตว์ต่างๆท่านก็จะมาแสดงนิมิตเป็นพระพุทธเจ้าบ้างพระอรหันต์บ้าง เพื่อเจริญศรัทธาของญาติโยมในพิธีกรรมปลุกเสก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ต่างมีหน้าที่ที่แตกต่างกันไป ท่านรู้ว่า หน้าที่ใดเป็นของใคร ทั้งหมดข้างต้นตามที่ผมรู้เข้าใจจากที่องค์บรมครูโลกทิพย์ท่านบอกมา.

** สุดท้าย แม้พลังงานทิพย์บริสุทธิ์นั้นจะมีคุณมากมายเป็นอนันต์(รวมถึงพลังงานใดๆ) แต่ถ้าผู้ครอบครองไม่รู้จักนำมาใช้ประโยชน์ เช่น ห้อยคอหรือนำติดตัว! วางทิ้งไว้เฉยๆ พลังงานทิพย์นั้นก็ไร้คุณค่า! เทียบไม่ได้กับมีดในครัวที่ใช้หั่นเนื้อหั่นผักที่ใช้ประโยชน์ในทุกวัน! จงอย่ายึดติดในวัตถุมงคลใดๆเพียงรูปลักษณ์ภายนอกรวมถึงความวิเศษของพลังงานอำนาจใดๆ แต่จงตระหนักและให้ความสำคัญกับคุณค่าหรือคุณประโยชน์ที่เกิดขึ้นของสิ่งนั้นนั่นแล.

 

-แชร์ผลตรวจค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญของพนักงานราชการท่านหนึ่ง(ไม่จำเป็นต้องบูชาเหรียญใหม่เพิ่ม)

เทพเทวาท่านแจ้งว่า “จากที่เราได้ตรวจในญาณวิสัยของเรา พลังบารมีแห่งทิพย์ในเหรียญเหรียญนี้ ยังไม่ได้ลดลงสักเท่าใด! เราจึงไม่เห็นมีความจำเป็นใดที่จะให้เขาบูชาเพิ่มแต่อย่างใด”

 

-แชร์ประสบการณ์ของแม่หญิงท่านหนึ่ง ที่สัมผัสพลังงานทิพย์ได้จากเหรียญบารมีทิพย์ปรับธาตุเหรียญแรกและเหรียญที่ 2 ที่อนุญาตให้เปลี่ยนเหรียญใหม่ได้

<<เหรียญแรก>>
(9 พ.ย. 2563)
“ของถึงวันเสาร์ค่ะ ไปสัมมนาต่างจังหวัดค่ะได้รับตอนเช้า แค่สัมผัสก็ได้รับพลังงานทั่วทั้งตัวเลย พลังงานที่สัมผัสได้คือพุทธคุณใช่หรือปล่าวคะ จะใส่นอนคืนนี้หลังจากสวดมนต์ค่ะ”
(28 พ.ย. 2563)
“มีค่ะ ปรกติช่วงเปลี่ยนอากาศจะหายใจไม่สะดวก เป็นภูมิแพ้ สังเกตุดูตั้งแต่นำเหรียญติดตัวตลอดเวลา นอนและกลางวันด้วยค่ะ ร่างกายปรกติดีมาค่ะ และมีช่วงหนึ่ง นำเหรียญไป เข้ากรอบที่ร้าน คืนแรกนอนไม่หลับค่ะ ทั้งคืนตื่นบ่อยมากค่ะ หลังจากได้เหรียญมาก็ห้อยทั้ง 2 องค์เลยค่ะ และช่วงที่อารธนาจะสำผัสพุทธคุณได้ทุกครั้งทั้งเช้าและก่อนนอน ระบบหายใจดีมาก ขอบคุณนะคะที่เมตตาให้มาบูชานะคะ ช่วงนี้กำลังพิจารณาดูว่ามีอะไรดีขึ้นอีกค่ะ”

<<เหรียญที่ 2>>
(18 มีนาคม 2564)
“ได้รับเหรียญบารมีทิพย์ปรับธาตุ แล้วตอนบ่ายนะคะจับซองก็สัมผัสพุทธคุณได้ค่ะ มีมากกว่าชุดแรกเมื่ออาราธนาขอบารมีท่านคุ้มครองมีพุทธคุณ มาที่ตัวเราทั้งตัวเลย คืนนี้ห้อยคอนอนแล้วนะคะ และถวายดอกไม้ตามที่แนะนำเรียบร้อย สาธุค่ะ”

 

​

-แชร์ผลตรวจค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญของแม่ค้าข้าวแกง(ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นเหรียญใหม่)

เทพเทวาท่านแจ้งว่า “เหรียญของหญิงนางนี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จากที่เราเห็น ค่าพลังงานแห่งทิพย์ยังเหลืออยู่มากโขนะท่าน จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นเหรียญใหม่”
—————————-
กรณีของแม่ค้าคนนี้ ได้มีองค์ครูบาอาจารย์สายเทพครุฑของเธอมาขอสื่อจิตด้วย แต่เริ่มปูทางการชี้แนะจากในส่วนเทพเทวาของผมก่อน ดังนี้

-เทพเทวาท่านชี้แนะว่า “เราตอบได้เพียงว่า เป็นช่วงที่หญิงผู้นี้กำลังรับผลกรรมในอดีต ขอให้เธอจงใช้ความอดทนให้มาก! จงตั้งมั่นในคุณความดีที่ตนเคยกระทำมา และลองอธิษฐานจิตขอต่อองค์ครูบาอาจารย์สายองค์เทพที่เจ้านับถือดู จากที่เราเห็นมีอยู่ 1 องค์ที่พอจะช่วยเหลือบรรเทาได้ ช่วงนี้ให้บูชาครุฑจะดีต่อวาสนาบารมีของเจ้า ครุฑมิได้ให้คุณแค่ฤทธิ์เดชและอำนาจเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถคอยฉุดช่วยในเรื่องทำมาหากินของคนทั่วไปได้! จงบูชาเถิด!”

-องค์ครูสายเทพครุฑของเธอส่งกระแสสื่อมาว่า
•ข้อความแรก “วัดที่ไปอยู่บ่อยๆไม่มีครุฑเหรอ?” (เธอตอบ “มีค่ะ องค์ใหญ่มากค่ะ)
•ข้อความที่ 2 “งั้น ก็รู้แล้วนะว่า ควรจะไปขอพรที่ใด ไม่จำเป็นต้องหาครุฑมาห้อยคอหรอกนะ ไม่จำเป็น! อย่าติดในวัตถุ! เราดูเจ้ามาตลอด เจ้าเป็นคนมีน้ำใจต่อผู้อื่นเสมอ ถึงเวลาที่เราจะตอบแทนความมีน้ำใจของเจ้าแล้ว จงมาหาเราเถิด! ไม่มีเรื่องใดที่เราจักช่วยเจ้าไม่ได้! จงเชื่อมั่นในเรา!”

 

#แชร์ธรรมทาน เรื่อง “ชีวิตแย่ มีเหตุจากกรรมเก่าที่เคยเบียดเบียนคนยากคนจน”

ช่วงนี้ชีวิตแย่มากค่ะ มีแต่เรื่องเข้ามาพร้อมๆกัน ก็พยายามตั้งสติประคับประครองไป เลยอยากทราบว่า

1. ที่เป็นแบบนี้เกิดจากอะไร ควรแก้ไขยังไง
-เทพเทวาท่านชี้แนะว่า “จากที่เราเห็น สิ่งทั้งหลายที่เธอกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน มีสาเหตุสืบเนื่องมาจากในครั้งหนึ่ง เธอและบริวารของเธอได้เคยกระทำบาปกรรมชนิดหนึ่ง นั่นคือ กรรมจากการที่พรรคพวกของเธอได้ไปเบียดเบียนคนยากคนจน! กรรมนี้เป็นเหตุหลัก เราจะบอกแก่หญิงผู้นี้ว่า วิบากกรรมที่เธอและพรรคพวกเคยสร้างมาเหล่านั้นถือเป็นกรรมหนักชนิดหนึ่ง และสิ่งแรกที่เธอและพรรคพวกหรือครอบครัวของเธอควรกระทำ มิใช่การวิ่งหาคนมาช่วยเหลือให้เธอและครอบครัวของเธอพ้นจากวิบากกรรมที่พวกเธอเผชิญอยู่ทั้งหลาย! แต่สิ่งแรกที่ควรกระทำก่อนอื่นใด คือ การทำใจยอมรับกับปัญหาต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น!

จากนั้น ควรตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน ไม่ปล่อยให้จิตใจของตนต้องจมอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์! จงหาวิธีทางแก้ไขในเชิงปัญญาให้มาก! ให้ชีวิตดำเนินอยู่ตามเส้นทางความเป็นจริงของทางโลก! ให้งดที่จะคิดขอความช่วยเหลือจากสิ่งที่มองไม่เห็นในตอนนี้! เพราะถ้าเธอยิ่งคิดในทางนี้ยิ่งส่งผลให้จิตใจของเธอยิ่งสับสนวุ่นวายไปกันใหญ่! ชีวิตคนเราสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆได้ด้วยความเพียรและอดทนของตนเอง จงมีสิ่งนี้ให้มาก! ส่วนในเรื่องการช่วยเหลือของสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ท่านก็จะยื่นมือเข้ามาช่วยเมื่อถึงเวลาอันเหมาะควร จงมีสติให้มากในยามนี้เถิด!”

2. อยากเปลี่ยนงาน ควรเปลี่ยนงานไหมคะ
-เทพเทวาท่านชี้แนะว่า “ในช่วงเวลาเช่นนี้ อย่าคิดที่จะเปลี่ยนงานอย่างเด็ดขาด!”

 

-แชร์ผลตรวจค่าพลังงานทิพย์ในเหรียญของหญิงอาชีพค้าขายกิ๊ปช๊อป(ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่)

เทพเทวาท่านแจ้งว่า “เราตรวจค่าพลังงานแห่งทิพย์ในเหรียญของหญิงท่านนี้ ปรากฎว่า เธอไม่ค่อยได้ใช้พลังงานไปสักเท่าใดนะท่าน จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่”