(๑๔) มุนีนาถทีปนี:ศาสตร์ว่าด้วยการเป็นพระพุทธเจ้า

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย anand, 24 กรกฎาคม 2009.

  1. anand

    anand เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,118
    ค่าพลัง:
    +641
    สมเด็จพระโกณฑัญญะอุุบัติ

    เมื่อสมเด็จพระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานล่วงไปแล้ว ศาสนาของพระองค์ก็ยังเจริญถาวรอยู่ในโลกนี้สืบต่อมาอีกหนึ่งแสนปี เมื่อครบกำหนดหนึ่งแสนปีแล้ว ศาสนาของพระองค์ก็สิ้นอายุลง เพราะว่า พระอริยสงฆ์สาวกผู้ได้ดื่มอมตธรรมวิเศษสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ต่างก็ดับขันธ์นิพพานไปหมดสิ้น ทั้งเหล่าพุทธศาสนิกชนคนนับถือพระพุทธศาสนาต่างก็ทำกาลกิริยาตายไปๆ ศาสนธรรมก็เสื่อมถอยน้อยลงจนหาผู้ทรงจำคำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดามิได้ ด้วยอำนาจแห่งโลภะ โทสะ โมหะ เข้าครอบงำอยู่ในดวงจิตของสัตว์ทั้งหลายนักหนา ปวงประชาจึงไม่สนใจใยดีในพระสัทธธรรม มิหนำซ้ำ พากันประพฤติย่ำยี บรรพชิตนักบวชก็เป็นอลัชชีหลงใหลในอามิสสักการะ ไม่นำพาที่จะทรงไว้ซึ่งศาสนาธรรมคำสอนของพระองค์ด้วยการประพฤติปฏิบัติชอบในพระธรรมวินัย จะป่วยการกล่าวไปใย ถึงฝ่ายคฤหัสถ์ชาวบ้านที่ยังครองเรือน เมื่อเจ้ากูทั้งหลายไม่สนใจทรงจำคำสอนในพระพุทธศาสนาแล้ว ก็จักทรงศาสนาไว้ได้อย่างไร เมื่อเป็นเช่นนี้ ศาสนาขององค์พระชินสีห์ทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เสื่อมสูญลงสิ้น จะได้ยินแม้แต่เพียงบทว่า นโม ตสฺส ดังนี้ จากปากของผู้ใดผู้หนึ่งย่อมไม่มี จึงนับได้ว่า บัดนี้ศาสนาของพระองค์ได้สิ้นสุดลงแล้ว

    กาลเวลาค่อยล่วงลงไปเรื่อยๆ นานนักหนา เป็นเวลาถึงอสงไขยหนึ่ง ซึ่งเรียกว่าเป็นสุญกัป เพราะไม่มีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และสมเด็จพระเจ้าบรมจักรพรรดิเสด็จมาอุบัติในโลกเรานี้เลย ครั้นต่อมาจึงมีสารกัปบังเกิดขึ้น คำว่า สารกัป นี้ ท่านทั้งหลายยังพอจำได้หรือไม่ว่า หมายความว่าอย่างไร? ใช่แน่แล้ว กาลเวลาที่เรียกว่าสารกัปนี้ หมายถึงว่าเป็นกัปที่มีสมเด็จพระพุทธเจ้ามาตรัสในโลกหนึ่งพระองค์ ก็ในสารกัปที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี้ ก็มีสมเด็จพระพุทธเจ้าเสด็จมาอุบัติตรัสในโลกหนึ่งพระองค์ ทรงพระนามว่า สมเด็จพระมิ่งมงกุฏโกณฑัญญะ สัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระบรมไตรโลกนายก ทรงพระเดชพระยศหาที่สุดมิได้ ประกาศศาสนธรรมให้เหล่าสัตว์ผู้เลื่อมใสได้ดื่มอมติธรรม นำตนให้พ้นจากภัยในวัฏสงสารเป็นอันมาก

    กาลครั้งนั้น พระบรมโพธิสัตว์เจ้าของพวกเราได้อุบัติเกิดเป็นสมเด็จพระเจ้าจักพรรดิราช ทรงพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าวิชิตาวี บรมจักรพรรดิ พระองค์ทรงตั้งอยู่ในจักรพรรดิธรรม มีน้ำพระทัยเต็มเปี่ยมไปด้วยพระเมตตาการุญภาพ ในสรรพสัตว์ทุกถ้วนหน้าทั้งมนุษย์และนก โดยมิได้มีอาชญาและศาสตราเครื่องประหารสัตว์ ทรงบำรุงประชาชนและบำเพ็ญราชกิจในราชสีมามณฑลโดยธรรมสม่ำเสมอเป็นนิตย์

    ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระโกณฑัญญะศาสดาจารย์เจ้าทรงมีพระอริยสงฆ์สาวกแวดล้อมเป็นบริวาร เสด็จจาริกไปโดยลำดับจนถึงพระนครของพระเจ้าวิชิตาวีราชบรมจักรพรรดิ พระองค์จึงเสด็จออกไปทรงกระทำการต้อนรับด้วยความเคารพเลื่อมใสแล้ว ได้ทรงบำเพ็ญมหาทานแก่พระภิกษุสงฆ์ ซึ่งมีองค์สมเด็จพระสัพพัญญูพุทธเจ้าเป็นประธาน เป็นเวลานานตลอดไตรมาสมิได้ขาดเลย สมเด็จพระโกณฑัญญะสัพพัญญูเจ้าได้ทรงกระทำพุทธพยากรณ์ไว้ในคราวนั้นว่า
    "พระบรมขัตติยาธิบดีวิชิตาวีจักรพรรดิพระองค์นี้ คือหน่อพระชินสีห์พระโพธิสัตว์ สืบไปเมื่อหน้าในอนาคตกาล พระองค์จะได้ตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า สมเด็จพระศรีศากยมุนีโคดมบรมครูเจ้าเป็นแม่นมั่น"
    สมเด็จพระโกณฑัญญะสัพพัญญูเจ้า ดำรัสพยากรณ์ทำนายพระบรมโพธิสัตว์โดยนัยนี้แล้ว ก็ทรงแสดงพระสัทธรรมเทศนาสมเด็จพระบรมจักพรรดิราชทรงปสาทะเลื่อมใส จึงทรงสละมไหศูรย์สมบติให้แก่ข้าราชการบริพารผู้ใหญ่คนหนึ่งแล้วก็ทรงบรรพชาในสำนักพระบรมศาสดาเพื่อบำเพ็ญเนกขัมมบารมีในพระบวรพุทธศาสนา ทรงศึกษาเล่าเรียนในคันถธุระ พระปริยัติธรรมไตรปิฎก และทรงบำเพ็ญสมถกรรมฐาน ในที่สุดก็ได้สำเร็จฌานอภิญญามิได้เสื่อมถอย ครั้นกาลเวลาเคลื่อนคล้อยล่วงไป ถึงคราวที่พระภิกษุวิชิตาวีบรมโพธิสัตว์ ผู้มีพุทธบารมีถึงแก่ชีพิตักษัยแล้ว ก็ไปอุบัติเกิดเป็นพระพรหมในพรหมโลกเสวยพรหมสมบัติเป็นสุขสืบไป



    ;aa41​

    พระเทพมุุนี (วิลาส ญาณวโร)
    มุนีนาถทีปนี :ศาสตร์ว่าด้วยการเป็นพระพุทธเจ้า
    หน้า๑๕๗-๑๕๙
     

แชร์หน้านี้

Loading...