๑๐๐ ปี วัดแก้วแจ่มฟ้า

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>๑๐๐ ปี วัดแก้วแจ่มฟ้า</TD></TR><TR><TD vAlign=top>19 เมษายน 2550 20:26 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- วัดแก้วแจ่มฟ้า เป็นวัดโบราณมีมาแต่สมัยไหนไม่มีหลักฐานปรากฏ วัดนี้เดิมตั้งอยู่ระหว่างถนนเจริญกรุง กับแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ปากคลองผดุงกรุงเกษม ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ถนนสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ

เหตุที่ต้องย้ายวัด เนื่องจากมีชาวต่างประเทศ ที่เป็นพวกฝรั่งมังค่ามาตั้งห้างตั้งหอทำมาค้าขายใกล้บริเวณวัดมากเข้าจนถึงรอบวัด ทำให้โคจรคามของวัดต้องหมดไปโดยปริยาย ทั้งแออัดด้วยผู้คนต่างชาติต่างศาสนา เสนาสนะกุฏิวิหารที่อยู่ของพระภิกษุสงฆ์ไม่เป็นสัปปายะ ไม่เหมาะแก่การประพฤติพรหมจรรย์ตามหลักศาสนา
ท่านเจ้าอธิการชุ่ม (พระครูถาวรสมณวงศ์) สมภารวัดในขณะนั้น เกรงว่าวัดอาจถูกขายตามคำเล่าลือ ประกอบ วัดพระยาไกร ถูกย้ายไปในระยะนั้นด้วย ท่านได้ขวนขวายโดยอุบายที่ชอบที่ควรดังปรากฏตามพระราชดำรัสในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ในประเภทสาสน์สมเด็จที่ลงพิมพ์ในวารสารศิลปากร ฉบับที่อ้างมาข้างต้นนั้น ดังนี้
"วัดแก้วฟ้านั้นเดิมอยู่ตรงบริเวณที่สร้างธนาคารฮ่องกงเซี่ยงไฮ้บัดนี้ เรื่องผาติกรรมหม่อมฉันได้เกี่ยวข้องด้วยบ้างแต่เป็นกาลนานมาแล้ว ทูลเท่าที่จำได้ วันหนึ่งเจ้าอธิการวัดนั้น (ดูเหมือนชื่อชุ่ม) มาหาหม่อมฉันเพื่อขออารักขา ด้วยวัดแก้วฟ้าถูกห้ามไม่ให้เผาศพ เธอปรับทุกข์ว่าการเผาศพได้ผลประโยชน์สำหรับเลี้ยงวัด และวัดนั้นอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านฝรั่ง มีคนไปทำบุญน้อยกว่าวัดอื่น
แม้พระสงฆ์จะบิณฑบาตก็อัตคัด ถ้าถูกตัดผลประโยชน์ในการเผาศพเสียอีก น่ากลัวจะอยู่ไปไม่ได้ หม่อมฉันรับจะพิจารณาดูว่าจะช่วยอย่างไรได้บ้าง ไปสืบถามที่กระทรวงนครบาล ได้ความว่าพวกฝรั่งให้กงสุลร้องทุกข์ว่าทนเหม็นกลิ่นศพไม่ไหวจึงต้องห้าม หม่อมฉันเห็นว่าที่จะขอให้เผาศพได้อีกเห็นจะไม่สำเร็จ คิดเห็นทางแก้ไขมีอย่างเดียวแต่ย้ายวัดไปอยู่เสียที่อื่นด้วยพิธีผาติกรรม ก็ที่ดินรอบวัดนั้นเป็นของพระคลังข้างที่แทบทั้งนั้น หม่อมฉันลองไปถามที่พระคลังข้างที่ ก็บอกว่าที่ตรงวัดแก้วฟ้านั้นถ้าเป็นที่เปล่าจะเป็นที่มีราคามาก เพราะอาจปลูกสถานที่ค้าขายได้ดี หม่อมฉันถามเจ้าอธิการชุ่มถึงที่จะทำผาติกรรมเธอก็เห็นด้วย
หม่อมฉันจึงกราบบังคมทูลสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง โดยเห็นว่า ถ้าโปรดให้พระคลังข้างที่ลงทุนสร้างวัดแก้วฟ้าใหม่แลกเอาที่ดินวัดเดิม มาปลูกสร้างสิ่งซึ่งจะบำรุงการค้าขายให้เจริญจะเป็นประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่แรกสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงรังเกียจด้วยเกรงจะถูกติเตียน แต่ใครๆ ที่ทราบเรื่องต่างพากันเห็นว่าเป็นการดีที่สุด ดูเหมือนจะได้ทรงหารือสมเด็จพระมหาสมณะเจ้า เมื่อยังเป็นกรมหมื่น ทรงเห็นว่าเป็นผาติกรรมตามพระวินัยไม่ขัดข้อง แล้วจึงโปรดให้ดำเนินการนั้น ก็เวลานั้นถนนสี่พระยาเพิ่งทำแล้ว โปรดให้ซื้อที่ดินผืนใหญ่ริมถนนแปลงหนึ่ง สร้างวัดแก้วฟ้าพร้อมด้วยสถานที่ต่างๆ สำหรับวัดพระราชทานในการผาติกรรมนั้น วัดแก้วฟ้าย้ายไปอยู่ที่ใหม่ก็มีความเจริญมาจนบัดนี้"
ส่วนเรื่องชื่อวัดแก้วแจ่มฟ้านี้ มีพระดำรัสของสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ซึ่งจัดอยู่ประเภทสาสน์สมเด็จ ที่ลงพิมพ์ในหนังสือวารสารศิลปากร นิตยสารรายสองเดือนของกรมศิลปากร ปีที่ ๑๐ เล่ม ๔ ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๙ หน้า ๑ ความว่า
"ที่ชื่อวัดแก้วฟ้านั้น ในกรุงเทพฯ มีอยู่ถึง ๒ วัด คือวัดแก้วฟ้าบน กับวัดแก้วฟ้าล่างซ้ำกัน ซ้ำในพระวินิจฉัยลายแทงก็มีความบ่งถึงสุนทรภู่ไปขอเจ้าฟ้าอากาศที่กรุงเก่า คิดว่าวัดนั้นก็จะมีชื่อว่าวัดแก้วฟ้าอากาศ แต่คนไม่เข้าใจความ จึงโยคคำแก้วฟ้าไปเสียเป็นเจ้าฟ้า คำว่าแก้วฟ้าติดจะลับ เกล้ากระหม่อมก็ไปทราบที่แบบฉันท์อันกล่าวไว้ว่า "รตนานภาดล สุริเยศร์ประภาพราย" เป็นอันเข้าใจว่าชื่อวัดแก้วฟ้านั้น เป็นชื่อแบบอย่างสว่างอารมณ์ (หรือวัดใหม่ วัดเหนือ วัดใต้ วัดราษฎร์ศัทธาธรรม) ย่อมมีที่ไหนๆ อยู่มาก ที่เรียกวัดแก้วฟ้าอากาศนั้น คำอากาศก็จะเป็นคำต่อ" แสดงว่าชื่อ วัดแก้วฟ้า มีซ้ำกันหลายวัด คำอากาศที่ต่อเข้านั้นก็แสดงให้เห็นว่าผู้รู้ทางบาลีต่อ เพราะทางบาลี คำว่าสวรรค์นั้น หมายถึง ที่อยู่ของเทวดา คำอากาศ หมายถึงที่ว่างบนหัว ก็ย่อมสมแก่พระอาทิตย์อยู่ทีเดียว วัดแก้วฟ้าล่างที่กรุงเทพฯ ก็มีอยู่แทรกคำว่า วัดแก้วแจ่มฟ้า แต่ไม่มีใครใช่เรียกตามที่แทรก แต่ก่อนก็นึกประมาทว่า แทรกทำไม ความชัดอยู่แล้ว แล้วจึงมาเข้าใจทีหลังว่า แทรกเพื่อจะผลักคำบนล่างให้พ้นไปเสีย โดยชื่อผิดกันแล้ว ไปลงรอยที่ต่อคำแก้วฟ้าอากาศนั้น"
ปัจจุนนี้ วัดแก้วแจ่มฟ้า ได้จัดตั้ง ทุนนิธิวัดแก้วแจ่มฟ้า มี พระปลัดธนเดช รัตนปัญโญ พระเลขานุการเจ้าอาวาส เป็นผู้จัดการทุนนิธิวัดแก้วแจ่มฟ้า โดยตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการสงเคราะห์ศพผู้ด้อยโอกาส โดยจะจัดพิธีกรรม ๓ อย่าง คือ "สวด เผา และลอยอังคารฟรี"
ทั้งนี้ทุนนิธิจะออกค่าใช้จ่ายในส่วนของศาลาสวดศพ เจ้าหน้าที่ประจำศาลา ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเครื่องไทยทาน ค่าดอกไม้จันทน์ ดอกไม้ธูปเทียน รวมทั้งปัจจัยถวายพระที่มาสวดอภิธรรมด้วย
พระปลัดธนเดช บอกว่า ปัจจัยในการดำเนินโครงการของทุนนิธินั้น ได้มาจากการเปิดรับการทำบุญจากผู้มีจิตศรัทธาทั่วๆ ไป โดยไม่มีข้อกำหนดกฎเกณฑ์ว่า จะต้องทำบุญอย่างต่ำเท่าไร ใครจะมาทำบุญบริจาคโลงศพเท่าใดก็ได้ นอกจากนี้แล้วยังนำ เหรียญท้าวมหาพรหม (ด้านหน้าเป็นหลวงพ่อแดงด้านหลังเป็นท้าวมหาพรหม) ซึ่งจัดสร้างไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๑๖ โดยได้เก็บไว้ที่กุฏิเจ้าคุณโสภณ (พระอาจารญ์ศรีวงษ์) ออกมาให้บูชาจำนวน ๑,๙๕๐ เหรียญ
ระหว่าง วันที่ ๕-๙ พฤษภาคม นี้ ทางวัดได้จัด "งานสมโภช ๑๐๐ ปี วัดแก้วแจ่มฟ้า" โดยเปิดให้มีการทำบุญซื้อโลงศพ เผาศพ ลอยอังคาร ทอดผ้าป่า ๑๐๐ กอง ปิดทองรอยพระพุทธบาท ฯลฯ
ท่านพุทธศาสนิกชนผู้สนใจร่วมทำบุญในครั้งนี้ สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.๐-๒๖๓๓-๓๘๖๔, ๐-๒๒๓๖-๑๒๕๗,๐๘-๑๕๖๖-๗๖๕๗0 เรื่อง / ภาพ ไตรเทพ ไกรงู 0

-->
วัดแก้วแจ่มฟ้า เป็นวัดโบราณมีมาแต่สมัยไหนไม่มีหลักฐานปรากฏ วัดนี้เดิมตั้งอยู่ระหว่างถนนเจริญกรุง กับแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ปากคลองผดุงกรุงเกษม ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ถนนสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ
เหตุที่ต้องย้ายวัด เนื่องจากมีชาวต่างประเทศ ที่เป็นพวกฝรั่งมังค่ามาตั้งห้างตั้งหอทำมาค้าขายใกล้บริเวณวัดมากเข้าจนถึงรอบวัด ทำให้โคจรคามของวัดต้องหมดไปโดยปริยาย ทั้งแออัดด้วยผู้คนต่างชาติต่างศาสนา เสนาสนะกุฏิวิหารที่อยู่ของพระภิกษุสงฆ์ไม่เป็นสัปปายะ ไม่เหมาะแก่การประพฤติพรหมจรรย์ตามหลักศาสนา
ท่านเจ้าอธิการชุ่ม (พระครูถาวรสมณวงศ์) สมภารวัดในขณะนั้น เกรงว่าวัดอาจถูกขายตามคำเล่าลือ ประกอบ วัดพระยาไกร ถูกย้ายไปในระยะนั้นด้วย ท่านได้ขวนขวายโดยอุบายที่ชอบที่ควรดังปรากฏตามพระราชดำรัสในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ในประเภทสาสน์สมเด็จที่ลงพิมพ์ในวารสารศิลปากร ฉบับที่อ้างมาข้างต้นนั้น ดังนี้
"วัดแก้วฟ้านั้นเดิมอยู่ตรงบริเวณที่สร้างธนาคารฮ่องกงเซี่ยงไฮ้บัดนี้ เรื่องผาติกรรมหม่อมฉันได้เกี่ยวข้องด้วยบ้างแต่เป็นกาลนานมาแล้ว ทูลเท่าที่จำได้ วันหนึ่งเจ้าอธิการวัดนั้น (ดูเหมือนชื่อชุ่ม) มาหาหม่อมฉันเพื่อขออารักขา ด้วยวัดแก้วฟ้าถูกห้ามไม่ให้เผาศพ เธอปรับทุกข์ว่าการเผาศพได้ผลประโยชน์สำหรับเลี้ยงวัด และวัดนั้นอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านฝรั่ง มีคนไปทำบุญน้อยกว่าวัดอื่น
แม้พระสงฆ์จะบิณฑบาตก็อัตคัด ถ้าถูกตัดผลประโยชน์ในการเผาศพเสียอีก น่ากลัวจะอยู่ไปไม่ได้ หม่อมฉันรับจะพิจารณาดูว่าจะช่วยอย่างไรได้บ้าง ไปสืบถามที่กระทรวงนครบาล ได้ความว่าพวกฝรั่งให้กงสุลร้องทุกข์ว่าทนเหม็นกลิ่นศพไม่ไหวจึงต้องห้าม หม่อมฉันเห็นว่าที่จะขอให้เผาศพได้อีกเห็นจะไม่สำเร็จ คิดเห็นทางแก้ไขมีอย่างเดียวแต่ย้ายวัดไปอยู่เสียที่อื่นด้วยพิธีผาติกรรม ก็ที่ดินรอบวัดนั้นเป็นของพระคลังข้างที่แทบทั้งนั้น หม่อมฉันลองไปถามที่พระคลังข้างที่ ก็บอกว่าที่ตรงวัดแก้วฟ้านั้นถ้าเป็นที่เปล่าจะเป็นที่มีราคามาก เพราะอาจปลูกสถานที่ค้าขายได้ดี หม่อมฉันถามเจ้าอธิการชุ่มถึงที่จะทำผาติกรรมเธอก็เห็นด้วย
หม่อมฉันจึงกราบบังคมทูลสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง โดยเห็นว่า ถ้าโปรดให้พระคลังข้างที่ลงทุนสร้างวัดแก้วฟ้าใหม่แลกเอาที่ดินวัดเดิม มาปลูกสร้างสิ่งซึ่งจะบำรุงการค้าขายให้เจริญจะเป็นประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่แรกสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงรังเกียจด้วยเกรงจะถูกติเตียน แต่ใครๆ ที่ทราบเรื่องต่างพากันเห็นว่าเป็นการดีที่สุด ดูเหมือนจะได้ทรงหารือสมเด็จพระมหาสมณะเจ้า เมื่อยังเป็นกรมหมื่น ทรงเห็นว่าเป็นผาติกรรมตามพระวินัยไม่ขัดข้อง แล้วจึงโปรดให้ดำเนินการนั้น ก็เวลานั้นถนนสี่พระยาเพิ่งทำแล้ว โปรดให้ซื้อที่ดินผืนใหญ่ริมถนนแปลงหนึ่ง สร้างวัดแก้วฟ้าพร้อมด้วยสถานที่ต่างๆ สำหรับวัดพระราชทานในการผาติกรรมนั้น วัดแก้วฟ้าย้ายไปอยู่ที่ใหม่ก็มีความเจริญมาจนบัดนี้"
ส่วนเรื่องชื่อวัดแก้วแจ่มฟ้านี้ มีพระดำรัสของสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ซึ่งจัดอยู่ประเภทสาสน์สมเด็จ ที่ลงพิมพ์ในหนังสือวารสารศิลปากร นิตยสารรายสองเดือนของกรมศิลปากร ปีที่ ๑๐ เล่ม ๔ ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๙ หน้า ๑ ความว่า
"ที่ชื่อวัดแก้วฟ้านั้น ในกรุงเทพฯ มีอยู่ถึง ๒ วัด คือวัดแก้วฟ้าบน กับวัดแก้วฟ้าล่างซ้ำกัน ซ้ำในพระวินิจฉัยลายแทงก็มีความบ่งถึงสุนทรภู่ไปขอเจ้าฟ้าอากาศที่กรุงเก่า คิดว่าวัดนั้นก็จะมีชื่อว่าวัดแก้วฟ้าอากาศ แต่คนไม่เข้าใจความ จึงโยคคำแก้วฟ้าไปเสียเป็นเจ้าฟ้า คำว่าแก้วฟ้าติดจะลับ เกล้ากระหม่อมก็ไปทราบที่แบบฉันท์อันกล่าวไว้ว่า "รตนานภาดล สุริเยศร์ประภาพราย" เป็นอันเข้าใจว่าชื่อวัดแก้วฟ้านั้น เป็นชื่อแบบอย่างสว่างอารมณ์ (หรือวัดใหม่ วัดเหนือ วัดใต้ วัดราษฎร์ศัทธาธรรม) ย่อมมีที่ไหนๆ อยู่มาก ที่เรียกวัดแก้วฟ้าอากาศนั้น คำอากาศก็จะเป็นคำต่อ" แสดงว่าชื่อ วัดแก้วฟ้า มีซ้ำกันหลายวัด คำอากาศที่ต่อเข้านั้นก็แสดงให้เห็นว่าผู้รู้ทางบาลีต่อ เพราะทางบาลี คำว่าสวรรค์นั้น หมายถึง ที่อยู่ของเทวดา คำอากาศ หมายถึงที่ว่างบนหัว ก็ย่อมสมแก่พระอาทิตย์อยู่ทีเดียว วัดแก้วฟ้าล่างที่กรุงเทพฯ ก็มีอยู่แทรกคำว่า วัดแก้วแจ่มฟ้า แต่ไม่มีใครใช่เรียกตามที่แทรก แต่ก่อนก็นึกประมาทว่า แทรกทำไม ความชัดอยู่แล้ว แล้วจึงมาเข้าใจทีหลังว่า แทรกเพื่อจะผลักคำบนล่างให้พ้นไปเสีย โดยชื่อผิดกันแล้ว ไปลงรอยที่ต่อคำแก้วฟ้าอากาศนั้น"
ปัจจุนนี้ วัดแก้วแจ่มฟ้า ได้จัดตั้ง ทุนนิธิวัดแก้วแจ่มฟ้า มี พระปลัดธนเดช รัตนปัญโญ พระเลขานุการเจ้าอาวาส เป็นผู้จัดการทุนนิธิวัดแก้วแจ่มฟ้า โดยตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการสงเคราะห์ศพผู้ด้อยโอกาส โดยจะจัดพิธีกรรม ๓ อย่าง คือ "สวด เผา และลอยอังคารฟรี"
ทั้งนี้ทุนนิธิจะออกค่าใช้จ่ายในส่วนของศาลาสวดศพ เจ้าหน้าที่ประจำศาลา ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเครื่องไทยทาน ค่าดอกไม้จันทน์ ดอกไม้ธูปเทียน รวมทั้งปัจจัยถวายพระที่มาสวดอภิธรรมด้วย
พระปลัดธนเดช บอกว่า ปัจจัยในการดำเนินโครงการของทุนนิธินั้น ได้มาจากการเปิดรับการทำบุญจากผู้มีจิตศรัทธาทั่วๆ ไป โดยไม่มีข้อกำหนดกฎเกณฑ์ว่า จะต้องทำบุญอย่างต่ำเท่าไร ใครจะมาทำบุญบริจาคโลงศพเท่าใดก็ได้ นอกจากนี้แล้วยังนำ เหรียญท้าวมหาพรหม (ด้านหน้าเป็นหลวงพ่อแดงด้านหลังเป็นท้าวมหาพรหม) ซึ่งจัดสร้างไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๑๖ โดยได้เก็บไว้ที่กุฏิเจ้าคุณโสภณ (พระอาจารญ์ศรีวงษ์) ออกมาให้บูชาจำนวน ๑,๙๕๐ เหรียญ
ระหว่าง วันที่ ๕-๙ พฤษภาคม นี้ ทางวัดได้จัด "งานสมโภช ๑๐๐ ปี วัดแก้วแจ่มฟ้า" โดยเปิดให้มีการทำบุญซื้อโลงศพ เผาศพ ลอยอังคาร ทอดผ้าป่า ๑๐๐ กอง ปิดทองรอยพระพุทธบาท ฯลฯ
ท่านพุทธศาสนิกชนผู้สนใจร่วมทำบุญในครั้งนี้ สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.๐-๒๖๓๓-๓๘๖๔, ๐-๒๒๓๖-๑๒๕๗,๐๘-๑๕๖๖-๗๖๕๗ 0 เรื่อง / ภาพ ไตรเทพ ไกรงู 0

--------------------
Ref.
http://www.komchadluek.net/2007/04/20/j001_108762.php?news_id=108762
</TD></TR></TBODY></TABLE>