ไปไหว้เทวรูปพระเจ้าตากสินมา ขออย่าให้ประเทศไทยเป็นหนี้ใครเลยต.ป.ท อย่าปล่อยกู้เชียวนะโว๊ย

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย อรมณีจันทร์, 25 มีนาคม 2009.

  1. อรมณีจันทร์

    อรมณีจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +499
    ไปไหว้เทวรูปพระเจ้าตากสินมา ขออย่าให้ประเทศไทยเป็นหนี้ใครเลยต.ป.ท อย่าปล่อยกู้เชียวนะโ

    ไปไหว้เทวรูปพระเจ้าตากสินมา ขออย่าให้ประเทศไทยเป็นหนี้ใครเลยต.ป.ท อย่าปล่อยกู้เชียวนะโว๊ย


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>

    [​IMG]





    ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธ์มา ขออย่าให้ประเทศไทยเป็นหนี้ใครเลย



    ถ้าจะกู้เงินสร้างหนี้สิน จำนวนมหาศาล ​

    แถมทำให้คนเดือดร้อน ก็ขอให้กู้ไม่ผ่าน
    แต่ถ้ากู้นิดหน่อย มาพัฒนาประเทศ
    โดยไม่มีประชาชนเดือดร้อน ก็ขอให้กู้ผ่าน



    เพราะตอนนี้หลายคนเดือดร้อนใจมากกับเรื่องนี้ ​

    เพราะ ย่านฝั่งธนจะมีการเวนคืนที่ดิน 733 ไร่
    มาสร้างถนน และ ทางยกระดับ โดยมีบ้านโดนเวนคืน ทั้งหมด 1644 หลัง ใน 5 เขตย่านฝั่งธน
    มีทั้ง ทุ่งครุ ราษฎบูรณะ จอมทอง ภาษีเจริญ บางขุนเทียน
    วงเงินทั้งหมด ของโครงการสร้างถนนเชื่อมต่อ
    เส้น ง2 ง3 ค6
    (ไม่ทราบว่าย่อมากจาก โง่ งี่เง่า คว... เหรอ... )



    โครงการมหาเศรษฐีวงเงิน ​

    2 หมื่นล้านบ้าน ที่ผ่านมาโครงการมีความล่าช้ามาก
    เพราะเงินทุนไม่ถึง ถ้ากู้เงินผ่านดิฉันคงต้องย้ายบ้านแน่นอน
    [​IMG]



    เอวัง ประการฉะนั้น ตอนได้ข่าวว่าแถวบ้านจะโดนเวนคืน
    ดิฉันเลยไป ตระเวรไหว้พระหลายที่ ไหว้ศาลหลายแห่ง
    ขอให้ กู้เงินเมกา ไม่ผ่าน พอมาทราบข่าวจากในเนทว่า
    กู้ไม่ได้ แล้วโครงการง2 ง3 ค6 ยังไม่มีงบ ในส่วนเงินเวนคืน
    ก็เลยโล่งใจ ก็เอาพวงมาลัย 10 พวงไปไหว้แก้บน( หลายคนอาจจะคิดว่าต๊อง)
    แต่จริงๆแล้ว มันเป็น กลไก ทางจิตวิทยาเลยนะ



    ถ้าเราไม่สบายใจ คิดมาก แล้วไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง
    ทางออกที่ดี ก็คือ เข้าทางธรรมะ
    แต่คนที่กำลังเครียดๆ กำลังกลุ้ม ๆ ใครจะไป นั่งสมาธิได้หล่ะ



    ก็อาศัยไหว้ ขอพร ผ่อนหนักให้เป็นเบาแหล่ะ เน้อ
    ในซอยเห็นมีหลายคนเลยนะ
    ไปไหว้ศาลพระพรหมแถวบ้านขอเรื่องนี้กัน

    ****ตอนแรก IMF ไม่ให้กู้ ก็คิดว่าคงจะไม่มีปัญหาแล้ว แต่กลายเป็นว่า
    ดันจะไป กู้ที่อื่นแทนอีกต่างหาก****

    ที่บ้านดิฉัน และ ญาติๆ พอมีฐานะกันนะ
    ก็คงไม่เดือดร้อนอ่ะ
    เพราะ มีบ้านที่อื่นอีก ไปอยู่แถวบางกะปิ
    หรือแถวราษฎบูรณะก็ได้



    หลายคนอาจจะมีความเห็นขัดแย้งกับดิฉัน
    แต่โดยส่วนตัดดิฉัน ไม่ชอบการเป็นหนี้ใครนะคะ
    เพราะรู้สึกไม่สบายใจเลยนะ ถึงเงินจะไม่เยอะก็เถอะ
    ที่ผ่านมาก็ปรับตัวไม่ยืมเงินใครมาหลายปีแล้วนะ
    ทุกวันนี้ก็ ไม่มีหนี้ มีสินมา5-6ปีแล้ว
    เงินที่ยืมเพื่อนมาก็ คืนครบหมด
    ค่า เครื่องสำอางค์ ค่าสินค้าขายตรง
    ที่เคยติดเงินกับทางบริษัท ดิฉันก็จ่ายครบหมดทุกบาท ทุกสตางค์



    หลายบริษัทใจดีมาก สั่งสินค้าได้ก่อนแล้ว
    ค่อยผ่อนเงินทีหลัง มันเป็นต้นเหตุให้คนมีหนี้กันง่าย



    ดิฉันเลยเลิกใช้บริการไปเลย พวกบัตรสมาชิกดิฉันก็ฉีกทิ้งไปเลย
    ถ้าอยากได้อะไร ก็ไปซื้อตามโลตัส คาร์ฟูล บิ๊กซีก็ได้ ทั้งประหยัด
    ทั้งถูก ไม่ต้องสร้างหนี้ให้ตัวเอง ให้เป็นโรคประสาทแดกด้วย



    เมื่อก่อนใช้เงินเก่ง หลังๆ ก็ประหยัดลงมาก
    หุงข้าวทานเอง ทำกับข้าวเก่งขึ้นด้วยนะ
    เวลาจะซื้ออะไรจะคิดหน้า คิดหลังก่อน ว่าสมควรใช้เงินไหม
    มันก็พออยู่ได้นะ ถึงจะไม่รวย แต่ก็ไม่มีหนี้
    แต่หลังๆมันก็ ดีขึ้นเรื่อยๆนะเพราะเราไม่เครียด ถึงจะเศรษฐกิจไม่ดี
    แต่เราก็มี สมองคิดหาเงินทางอื่นได้ อะไรที่เป็นเงินเล็กๆน้อยๆก็ทำไป
    เพราะ ถ้าเราไม่เครียดเรื่องหนี้สิน
    เราจะสามารถคิดว่า วิธีสร้างฐานะที่มั่นคง หยั่งยืนได้



    ถ้าเศรษฐกิจดีๆ ดิฉันเห็นด้วยกับการ กู้เงินมาลงทุน
    เพราะโอกาส ขาดทุน มันยังน้อย
    [​IMG]
    ที่ทางรัฐบาลอ้างดิฉันไม่เห็นด้วย เพราะ มันไม่ได้กู้มาทำธุรกิจ
    แต่กู้มาสร้างถนน ( ซึ่งตอนนี้น้ำก็จะท่วมกทมอยู่แล้ว )
    แถว ย่านฝั่งธน รถไม่ได้ติดหนักมากๆสักหน่อยจะสร้างทำไม
    ถนน วงแหวนรอบนอก ก็สร้างวิ่งทะลุ ทลวงได้รอบกทมอยู่แล้ว
    ถนนเส้นที่สามารถ วิ่งทะลุจาก บางแค มา จอมทอง แล้ว
    ขับไปทะลุราษฎบูรณะมันก็มีอยู่แล้วนะ ยังมีรถเมล์ของเอกชน
    สายจาก บางแค มา บางบอน เลย



    เพราะดิฉันแลเห็นว่า



    การไม่มีโรค คือลาภอันประเสริฐฉันใด
    การไม่มีหนี้ ย่อมเป็นมงคลของชีวิตไม่แพ้กัน



    คนไม่มีหนี้ ถึงจะไม่รวยมากแต่
    เขามีความสุขใจนะ แล้วสมองแล่นกว่าด้วย
    สามารถคิดวิธีหาเงิน หาทองได้
    ไม่ต้องมานั่งปวดหัว มานั่งเครียดคิดมาก
    ว่าจะเอาปัญญาที่ไหน ไปหาเงินมาใช้หนี้เขา



    ดิฉันก็เคยมีหนี้นะคะ แต่ใช้หนี้เพื่อนไปหมดแล้ว
    ตอนติดเงินเขาอยู่ 3000 บาทไม่สบายใจมาก
    แต่ก็ ถยอยจ่ายให้ทีหล่ะ 1000 บาทจนครบ
    [​IMG]
    ยอมรับนะว่าตอนแรกเหนียวหนี้ กะจะจ่ายให้ช้าๆ
    ถ้าไม่มีก็กะจะไม่ให้เลย หึหึหึ
    เพราะว่า ตอนนั้นไม่มีงานทำ แต่ทีนี้มานั่งคิดไง
    ว่าตอนเราเดือดร้อน เขาให้เงินเรา โดยไม่ลังเลใจ
    แต่ตอนนี้เรากลับคิดจะหาเรื่องโกง....ทำไมเราต้องทำเลวกับคนที่ดีเราด้วยหล่ะ กับคนเลวๆต่างหาก
    ที่เราควรจะทำเลวด้วย



    พูดตรงๆไม่อยากให้รัฐบาลกู้เงินต่างประเทศผ่านเลย
    ไม่มีเงินแล้วอยากจะทำนั่นทำนี่
    ทุกโครงการมี ประโยชน์หมดแหล่ะ
    แต่ จะมีปัญญาใช้หนี้เข้าเปล่า มีดาราเก่าอยู่ท่าน
    กู้เงิน มหาศาลมาทำธุรกิจ ตอนนั้นมีแต่คนเรียกเสื่ย
    ไปๆมาๆ ก็ไปไม่รอด ทุกวันนี้บ้านก็ไม่มีจะอยู่
    เมียก็ทิ้ง เพราะความไม่เจียว หัวสูง
    อยากร่ำรวย อยากมั่งมี โดยไม่รู้ว่าตัวเอง
    ความสามารถไม่สูงพอที่จะเป็นนักธุรกิจพันล้าน
    เปรียบได้กับ นกกระจอก พยายามบินสูงให้เหมือน พญาอินทรีย์ สุดท้ายก็โดนนกตัวอื่นที่ ตัวใหญ่กว่า
    บินโฉบ ลงมาคอหักตาย แบบว่าบินสูงมาก
    ก็เจ็บหนัก หนี้น้อยก็เครียดไม่มาก
    หนี้มาก ก็เครียดจนเป็นบ้าไปก็มี



    ในการกู้เงินมาสร้างฐานะ
    ทำไมเราไม่ดูประเภทเพื่อนบ้างเลย หล่ะ



    อินเดียตอนนี้เขาเจริญ เติบโต ทางธุรกิจเร็วมาก
    แล้ว นักธุรกิจของเขาก็ปรับตัวแล้วก็ร่ำรวยได้
    แถม คนยกย่องอีก



    ประเทศเขาคนจนเยอะ เขาก็ ผลิต รถยนตร์ TA TA MOTER
    ออกมา ตอบรับกับคนของเขา เป็นรถที่ถูกกว่า มอไซด์บางรุ่นของ
    เมืองไทยอีก แค่ขายในประเทศก็รวย เล๊ะ เท๊ะแล้ว



    เพราะในอินเดีย มีประชากรเป็น พันล้าน
    คนมีฝีมือ เขาใช้ความสามารถหาเงิน หารายได้ ไม่ใช่สร้างหนี้
    โดยพื้นฐานความเสื่ยง คนฉลาดกู้หนี้มา เขาต้องมีการวางแผนใช้หนี้
    ไม่ใช่ กู้มาแล้ว ใช้กินจนเมามันส์แล้วสุดท้ายก็โดนฟ้องจนล้มละลาย




    ความจริงดิฉันไม่ได้ ต่อต้านการกู้หนี้
    เพราะ คนทำธุรกิจมีหนี้ทุกคน ยิ่งรวย ยิ่งมีหนี้เยอะ
    เพราะต้องกู้เงินมาสร้างฐานะ แต่พวกนี้เขามีทางใช้หนี้นะคะ
    แล้วเขาสามารถทำได้ ตามแผนที่วางไว้ด้วย
    ดิฉันคิดว่า กู้เงินมากเกินไป
    เหมือนคนมีหนี้ 300000 บาทเอาลงทุนทำธุรกิจใหญ่ๆ แล้วเสื่ยงเจ๊ง



    กับคนมีหนี้ 5000 บาทเอาไปลงทุนร้านอาหารเล็กๆ ข้างทาง
    ซึ่งขายไม่แพง ยังไงก็ไม่เจ๊ง แถมอาจจะหาเงินได้มากขึ้น
    แล้ว มากู้ธนาคารใหม่เพื่อ ขยายกิจการได้



    โดยปรกติคนหนี้ไม่เยอะ ย่อมใช้หนี้ได้เร็ว
    แล้วพวกนี้ เขาจะ มีความมั่นใจ ในการหาเงินใช้หนี้
    เพราะเขา เคยหาเงินใช้หนี้มาแล้ว ทำธุรกิจเล็กๆมาแล้ว



    แต่ถ้า คนไม่เก่งเรือ่งการ จัดการ การบริหาร
    อยู่ดีๆ กู้ ตู้ม 200 ล้าน แต่ไม่มีความสามารถจัดการได้ดีพอ
    มันไม่คุ้มเลยนะกับการ กู้มาเยอะๆ แล้วทำประโยชน์ไม่เต็มที่




    สมมุติว่า ถ้าสร้างถนนเสร็จ
    แล้ว น้ำท่วม เหมือนอย่างที่ ดร. อาจอง ทำนายไว้
    ( ซึ่งปรกติ ตอนนี้ ย่านทะเลบางขุนเทียน กทม ก็มีดินทรุด น้ำท่วมกินพื้นที่ทุกปีเลยนะ)
    ถ้า ย่านบางขุนเทียน ไม่มีการน้ำท่วม แผ่นดินหายทุกปี
    ดิฉันจะไม่ว่าอะไรเลยนะ แต่ ตอนนี้คำทำนายกำลังจะจริง



    ที่เขาว่า กทม จะจมใต้น้ำ ดิฉันคิดว่าจริงเพราะดิฉัน
    ไป ทานอาหารทะเล ย่านบางขุนเทียนแล้ว
    พบว่า มีการประกาศขายที่ดินเยอะมาก ขายถูกด้วย
    ย่านชายทะเลบางขุนเทียนอยู่ใน เขตจอมทอง
    เป็น ทะเลดินเลน มีป่าโกงกาง มีตัวเงิน ตัวทอง เยอะมากๆ ไปถามคนในพื้นที่สิ ว่ารู้จัก ร้านอาหารแถวนั้นไหม
    เพราะเมื่อก่อนบูมมากๆ
    แต่หลังๆ เศรษฐกิจไม่ดี เจ๊งไปก็เยอะนะ



    ก็ไม่ได้ไปทานมาเป็นปีแล้ว



    เห็นได้ข่าวแว่วๆว่า จะสร้างเขื่อนกั้นน้ำ
    กัน กทม จมน้ำ ไม่ทราบว่า ตอนนี้ล้มเลิกไปยังคะ
    หรือว่าจะ รอให้น้ำทะเล มันทะลักย่านฝั่งธนก่อน
    นี่พูดตรงๆนะ ขนาดแม่ค้า ไม่มีการศึกษา
    เขายังรู้เลยว่า น้ำกำลังจะท่วมกทม



    หลายคนไปหา ซื้อที่ดินแถว อีสาน กับ ทางเหนือนานแล้ว
    ไม่เข้าใจ เลยจอรจ์จะสร้างไปทำไม



    อีก 8 ปี น้ำจะเริ่มท่วมในบางพื่นที่ของ กทมแล้ว
    ท่วมแบบ หน้าแล้งน้ำไม่ลดด้วย
    .........พูดตรงๆเสียดายบ้านหลายหลัง
    บ้านหลายคนสวยมากทั้งแพง ทั้งหรูหรา สวยงาม
    เจ้าของบ้าน คงร้องไห้แน่ๆ ตอนยืนดูบ้านโดนทุบ



    ระหว่างน้ำท่วม & สร้างถนนแก้ไขปห การจราจร
    ระหว่างคนที่เต็มใจข่ายที่ดิน ย่านชายทะเลบางขุนเทียน
    กับ คนที่ประท้วงไม่เอาถนนเป็นพันๆ



    อันไหนสำคัญกว่ากัน
    อีกเรื่องที่สงสัยมากๆ
    ถ้าน้ำท่วม กทม จิงๆ การสร้างเขื่อนช่วยได้แน่เหรอ
    เพราะว่า กทมมี เจ้าพระยาผ่ากลาง ถ้ามันท่วมนะ
    คิดว่า มันก็ทะลักท่วม หมดแหล่ะเขื่อนจะเอาอยู่เหรอ
    ดิฉันไม่มีความรู้ทางด้านธรณี วิทยานะ
    แต่มั่นใจว่า น้ำท่วม กทม ชัวร์
    เพราะ ตามข่าวมา 5ปีแล้ว ระดับน้ำทะเลมันสูงขึ้นทุกปีจิงๆ



    โดยส่วนตัว ดิฉันอยากให้กู้เงิน ในวงเงินที่จำเป็น



    แล้วเอา พัฒนาการจ้างงาน แก้ปห คนตกงานมากกว่าคะ
    ควรให้ วงเงินกู้ทางธุรกิจให้พวก เจ้าของบริษัท ทำการค้ามากกว่าคะ
    เพราะ ถ้าบริษัทไม่เจ๊ง ก็จะมีการจ้างงานเยอะขึ้น
    ระหว่าง เงินเดือนกับ เงิน 1 ก้อนที่ใช้แล้วหมดไป
    อันไหนจะ มั่นคงกว่ากัน



    จากคุณ : ดิฉันรักชาติจนน้ำลายไหล..หึหึ



    ถึง "ดิฉันรักชาติจนน้ำลายไหล..หึหึ"
    ดิฉันอ่านกระทู้ด้วยความกลุ้มใจเล็กๆ เป็นห่วงคุณจังค่ะ



    บางครั้งเราต้องปล่อยวางบ้างนะคะ
    เก็บหลายๆเรื่องไว้คิดมากไปเป็นอันตรายกับสมองค่ะ



    พักผ่อนบ้างค่ะ คุยกับเพื่อนที่รู้ใจชวนกันทำของอร่อยๆกินกัน
    หาหนังสือสนุกๆอ่านสักเล่มนึง จิบกาแฟร้อนๆไปด้วย
    น่าจะช่วยผ่อนคลายได้ค่ะ



    ด้วยความห่วงใย



    จากคุณ : สาวไทยในอะเดเลด - [ 24 มี.ค. 52 07:30:12 ]




    ความคิดเห็นที่ 6
    ความคิดเห็นที่ 5



    ประเทศไทยตอนนี้เฉพาะภาครัฐ ไม่รวมเอกชน
    เป็นหนี้แล้วประมาณ หนึ่งแสนสองหมื่นกว่าล้านดอลล่าร์ครับ



    หรือคิดเป็นเงินไทย 4.4 ล้านล้านบาท
    เกือบสามเท่าของงบประมาณประจำปี..
    คิดดูเอาก็แล้วกัน จะเอามาจากไหนไปใช้เค้าหมด
    เฉพาะดอกเบี้ยปีหนึ่งหลายเป็นพันๆล้านดอลล่าร์มั๊ง
    เป็นลูกหนี้เค้าตลอดชีวิต ไม่คิดเคยจะเป็นเจ้าหนี้บ้างเลย....



    จากคุณ : สายฟ้า - [ 24 มี.ค. 52 09:12:48 A:222.123.55.25 X: TicketID:203484 ]




    เห็นด้วยทุกคำพูดของ จขกท
    ชอบคนจริงจังแบบนี้ครับ
    แต่ผมเบื่อเมียผมมาก ชอบฟู่ฟ่า สร้างหนี้ ใช้เงินไม่คิด
    ไม่รู้จักเสียดาย ประหยัด เงินกว่าจะหามาได้
    ในทางที่ไม่จำเป็น สุดท้ายตกอยู่ที่ผม
    ชอบทำตามละครทีวีปัญญาอ่อน
    ผมอยากเอาปืนยิงเมียผมวันละหลายๆครั้ง...



    จากคุณ : บอกแล้ว - [ 24 มี.ค. 52 09:28:23 A:222.123.55.25 X: TicketID:203484 ]




    ความคิดเห็นที่ 7



    ปัญญาอ่อน



    ลองไปไหว้พระเจ้ามูลเมืองดิ



    เพื่อท่านจะช่วยเอาเงินมาช่วยชาติ



    จากคุณ : muk_22 - [ 24 มี.ค. 52 10:08:30 ]




    เขียนเมื่อ : 25​



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2009
  2. อรมณีจันทร์

    อรมณีจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +499
    โครงการ2หมื่นล้าน ตัดถนนง.3-ใช้อะไรคิด [เรื่องเด่นประเด็นร้อน]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>

    [​IMG]



    ทยอยมาเรื่อยๆครับ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการถนน ง.3 สุขสวัสดิ์-วงแหวนรอบนอก สนทนาจราจรในวันนี้เป็น จดหมายร้องเรียนจากท่านผู้อ่านจากประชาอุทิศครับ

    [​IMG]

    “เรียน...คุณหัวปิงปอง...ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการตัดถนนสาย ง.3 และ ค.6 ของสำนักการโยธา กทม. โครงการตัดถนน สายดังกล่าวมีความไม่ชอบมาพากล และไม่ชอบ ธรรมหลายๆประการ การสัมมนา และทำประชาพิจารณ์เป็นไปอย่างลับๆ ส่วนของผมเพิ่งรู้และไป ประชุมสัมมนาในครั้งที่ 2 เพราะก็มีคนอื่นมาบอก ไม่ใช่รู้จากหน่วยงานที่จัดสัมมนา”


    “ความไม่ชอบมาพากลแรกที่จะพูดถึงคือ จากการสัมมนาครั้งที่ 2 ระบุว่า โครงการริเริ่มขึ้น เมื่อปี 2538 แต่ผมซื้อที่ปลูกสร้างอาคาร ประกอบธุรกิจ ตั้งแต่ปี 2541 ทำไมสำนักงานที่ดินถึงให้ซื้อ ขายที่ได้ และผมยื่นอนุญาตปลูกสร้างอาคารเมื่อปี 2542 ใบอนุญาตครั้งแรกยังปกติดีทุกอย่าง แต่พอไปขอต่อใบอนุญาตก่อสร้างครั้งที่ 2 ในปี 2543 ทางเขตปั๊มตัวแดงระบุแนวเขตที่ดินอยู่ในแนว ก่อสร้างถนนสาย ง.3 พอผมเห็นก็ถาม จนท. ทันที จนท. ตอบง่ายๆครับว่า โครงการยังไม่รู้ จะเกิดเมื่อไหร่ เป็นแค่โครงร่างเท่านั้น ผมถามต่อว่า แล้วทำไมปีที่แล้วไม่แจ้ง จนท. คน เดิมบอกว่า ทางเขตก็เพิ่งรู้เหมือนกัน”




    “ในการสัมมนาครั้งที่ 2 ทางผู้ออกแบบสำรวจ กล่าวเปิดประชุมด้วยถ้อยคำที่น่าฟังว่า ก่อนอื่นขอให้ผู้ที่ถูกเวนคืนตัดถนนทำใจให้เป็นสาธารณะ และเสียสละเพื่อส่วนรวม พวกที่มาจัดประชุมดูมีความสุขกับความทุกข์ของชาวบ้าน พูดไปหัวเราะไป บอกว่าอย่าเพิ่งกลัว สรุปข้อเสนอ ถึง กทม. แล้วอาจจะไม่สร้างก็ได้...?????”

    [​IMG]


    “ผมอยากจะถามว่า ถ้าเป็นบ้านท่านจะโดนตัดถนน ท่านจะทำใจเป็นสาธารณะ และเสียสละได้มั้ย ทุกวันนี้ตั้งแต่มีข่าวว่าจะถูกตัดถนน พวกเรา ที่อยู่ในแนวเวนคืนก็ไม่เป็นอันกินอันนอน ธุรกิจก็หยุดชะงัก เพราะจะลงทุน หรือขยายกิจการก็ทำไม่ได้ ลูกหลานที่เรียนหนังสือก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องย้ายไปเรียนที่ไหน เหมือนคนถูกสักหน้าผากรอการ ตัดสินประหารชีวิต แต่พวกท่านกลับหัวเราะสนุก สนานว่า อาจจะไม่สร้างก็ได้...ทำไมไม่คิดให้รอบคอบ ก่อนจะตั้งโครงการขึ้นมา !!!!!!”




    “ในการประชุมยกเหตุผลของการตัดถนนว่า จากการประเมิน (ไม่รู้ใครประเมิน) คาดว่า ในปี 2577 ถนนพุทธบูชา และถนนใกล้เคียง จะอยู่ในสภาพวิกฤติขนาดหนัก ผมอยากจะเรียนว่าผมอยู่ถนนพุทธบูชามา 10 ปี ยังไม่เคยเห็นว่าวันไหนรถติด หลังสี่ทุ่มไปแล้วสามารถเตะฟุตบอลกลางถนนได้ เพราะไม่มีรถวิ่ง ที่ประชุมยังระบุอีกว่า การตัดถนน เส้นนี้จะเป็นทางเลือกช่วยแก้ปัญหาการจราจรในพื้นที่ราษฎร์บูรณะ ประชาอุทิศ และทุ่งครุ ผมอยาก จะบอกว่า สภาพการจราจรในย่านนี้ มันเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตประจำวันของคนในท้องถิ่นมากกว่า กล่าว คือ หากเป็นช่วงเช้าจะติดเฉพาะขาเข้าเมือง อย่างถนนประชาอุทิศไปแยก กม.9 แต่พอช่วงเย็นจะกลับกันคือ คนกลับบ้าน รถจะติด ขาเข้าแทน พอถึงเวลาประมาณ 09.00 น. หรือ หลัง 19.00 น. ไปแล้ว การจราจรก็จะกลับมา สู่สภาพปกติทันที และถึงคุณจะตัดถนนเส้นใหม่ขึ้นมา ผมก็ยังต้องใช้ถนนประชาอุทิศอยู่ดี ไหนจะส่งลูกไปโรงเรียน ไปติดต่อธนาคาร ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสายนี้ แล้วถามว่า มันจะแก้ปัญหารถติดได้ยังไงครับ”


    http://www.thairath.co.th/news.php?section=bangkok04&content=125165


    หัวปิงปอง

    ----------------------------------------
    ง.3 ใช้อะไรคิด (2) [27 ก.พ. 52 - 17:40]

    มาติดตามจดหมายของท่านผู้อ่านจากประชาอุทิศ เกี่ยวกับถนน ง.3 ต่อจากวานนี้กันต่อเลยครับ




    “การตัดถนนเส้น ง.3 และ ค.6 ต้องใช้งบประมาณหลายหมื่นล้านบาท ผมอยากจะถามว่าสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ สมควรที่จะทำโครงการนี้หรือครับ เอาอวัยวะส่วนไหนคิด หรือเป็นเค้กก้อนโตที่มีคนจ้องตาเป็นมันจากส่วนแบ่งกันแน่ ที่ประชุมยังหยิบยกเอาตัวอย่างการตัดถนนแถวพุทธมณฑลและเพชรเกษมว่าสามารถช่วยผ่อนคลายการจราจรได้เป็นอย่างดี ผมอยากจะชี้แจงให้เห็นภาพนะครับว่า แถวพุทธมณฑลกับเพชรเกษม ต้องยอมรับว่าไม่ค่อยมีเส้นทางสำรองหรือถนนโครงข่ายย่อยเชื่อมต่อซึ่งกันและกัน จำเป็นต้องตัดถนนเพื่อให้เชื่อมโยงถึงกันได้”




    “แต่กับพื้นที่ประชาอุทิศ ทุ่งครุ บางขุนเทียน จอมทอง และราษฎร์บูรณะ ไม่ใช่ครับ เพราะในพื้นที่มีถนนย่อย ซึ่งผมขอเรียกว่า “ถนนโครงข่ายใยแมงมุม” อยู่แล้ว อย่างพุทธบูชา 36 เป็นถนนสองเลนตัดไปออกเลียบทางยกระดับวงแหวนบางพลี-สุขสวัสดิ์ ไปออกถนนประชาอุทิศที่ซอย 76 และทะลุไปออกถนนสุขสวัสดิ์ได้ ถนนสายนี้อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก ทางเขตก็ซ่อมแบบผักชีโรยหน้า ทั้งปะทั้งโป๊จนเละเทะ แถมเคยมีโครงการทำถนนไปเชื่อมต่อกับถนนบางขุนเทียน ทะลุยาวไปถึงถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก แต่โครงการเงียบหายไปเฉยๆ ทั้งๆที่มีถนนตัดอยู่แล้ว แค่ทำสะพานเชื่อมต่อกันเท่านั้น”




    “หรืออย่างซอยพุทธบูชา 39 ตรงจุดนี้ก็ทะลุออกไปได้หลายถนนทั้งสุขสวัสดิ์ ประชาอุทิศ พระราม 2 แต่สภาพถนนก็เหมือนอยู่โลกพระจันทร์ อยู่ระหว่างซ่อมแซมใกล้เสร็จ ถนนประชาอุทิศเกือบทุกซอยก็มีซอยลัดซอยเชื่อมไปออกถนนสายต่างๆอีกหลายสิบซอย แต่ทุกซอยที่ว่าอยู่ในสภาพย่ำแย่ ใช้การได้ไม่เต็มที่...ทำไม กทม.ถึงไม่คิดซ่อมแซมถนนโครงข่ายใยแมงมุมเหล่านี้ให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งานล่ะครับ ใช้เงินงบประมาณน้อยกว่าตั้งเยอะ หรือว่า “เค้ก” มันก้อนเล็กไป เลยไม่มีใครสนใจ”




    “สุดท้าย...ถนนสาย ค.6 ยังมีแนวถนนตัดผ่าน “ปอดแห่งเดียวของชาวฝั่งธนฯ” คือสวนธนบุรีรมย์ด้วย ขณะที่ฝั่งพระนครมีการรณรงค์สร้างปอดให้คนกรุง แต่ชาวฝั˜งธนฯกำลังจะถูก “หั่นปอด” ให้เหลือน้อยลงไปอีก ไม่รู้ว่าโครงการนี้จะดันทุรังขึ้นมาทำไมไม่ทราบ”




    “สิ่งที่น่าห่วงก็คือ...การประกาศเลื่อนการประชุมสัมมนากับชาวบ้านแบบไม่มีกำหนด เท่าที่รู้มาเป็น “เกมใต้ดิน” ที่นำมาหลอกชาวบ้าน เพราะการสำรวจออกแบบโครงการยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ชาวบ้านจะไม่รู้ถึงความคืบหน้าโครงการเพราะไม่มีการประชุมกันแล้ว ข้อดีคือลดการเผชิญหน้ากับชาวบ้าน ไม่ต้องกลัวถูกต่อต้าน ได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ก็เสนอตรงให้ กทม.ไปจัดการได้เลย เท่ากับ...ปิดหูปิดตาประชาชนทางอ้อม”




    “วันนี้...ผมขอเป็นตัวแทนชาวบ้านในย่านประชาอุทิศ ราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ จอมทอง บางขุนเทียน ฝากความหวังถึง “ผู้ว่าฯ กทม.” ช่วยพิจารณาข้อเท็จจริงที่ได้นำเสนอทั้งหมด เผื่อ “หูตาสว่าง” จะได้ช่วยดับทุกข์ปลดโซ่ตรวนที่พันธนาการให้พวกชาวบ้าน สั่งยกเลิก “โครงการตัดถนนสาย ง.3 และ ค.6” โดยเร็วที่สุดด้วย...เหยื่อตัดถนน”.


    http://www.thairath.co.th/news.php?section=bangkok04&content=125323


    หัวปิงปอง



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. อรมณีจันทร์

    อรมณีจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +499
    คนฝั่งธนฯค้านหนักถนน ง3 เชื่อมสุขสวัสดิ์-วงแหวนด้านใต้ ผู้ว่าฯ กทม.ขอ 1 เดือนทบทวนใหม่
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>

    [​IMG]

    คนฝั่งธนฯค้านหนักถนน ง3 เชื่อมสุขสวัสดิ์-วงแหวนด้านใต้ ผู้ว่าฯ กทม.ขอ 1 เดือนทบทวนใหม่

    นับจากนี้ไปอีก 1 เดือน "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร" ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะให้คำตอบได้ชัดเจนว่า กทม. ยังจะเดินหน้าก่อสร้างโครงการถนนตามแนวผังเมือง สาย ง 3 เชื่อมถนนสุขสวัสดิ์-พระรามที่ 2-ถนนสามแยกตากสิน-ถนนเพชรเกษม-ถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้ ที่ก่อนหน้านี้ได้ทุ่มงบฯกว่า 100 ล้านบาท ว่าจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการต่ออีกหรือไม่

    [​IMG]
    เพราะถึงขั้นตอนเปิดเวทีรับฟัง ความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการ ประชาพิจารณ์โครงการก่อนลงมือก่อสร้าง ปรากฏว่ามีเสียงคัดค้านดังกระหึ่ม ส่วนใหญ่ขอให้ยกเลิกโครงการ เพราะ ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนอย่างหนัก หลัง กทม.ปรับแนวเส้นทางใหม่ ต่างไปจากแนวเดิมที่กรมโยธาธิการเคยขีดไว้ เมื่อ 10 ปีก่อน เนื่องจากมีชาวบ้าน ถูกเวนคืนเพิ่มขึ้น


    เดิมโครงการนี้ กรมโยธาธิการมีแผน จะก่อสร้าง แต่จากที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง นับหมื่นล้านบาท ทั้งค่าก่อสร้างและเวนคืนที่ดิน จึงชะลอโครงการมาเรื่อยๆ จนปี 2547 รัฐบาลได้โอนโครงการนี้ให้ กทม.ก่อสร้างแทน ทำให้ กทม.ต้องปัดฝุ่นโครงการศึกษาความเหมาะสมใหม่


    ว่ากันว่าการคัดค้านของชาวบ้านครั้งนี้ มีการเมืองสนามเล็กเข้ามามีเอี่ยว เป็นการวัดพลังเสียง ระหว่าง ส.ก.และ ส.ข.จากพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย


    ขณะที่เสียงของชาวบ้านระบุ ว่าโครงการนี้คล้ายๆ จะมีนอกมีใน และมีนักการเมืองท้องถิ่นได้ประโยชน์ เพราะมีกระแสข่าวว่าหลังจากรู้ว่าโครงการนี้จะเกิดกลุ่มนายทุนและนักการ เมืองในพื้นที่บางกลุ่มเข้าไปกว้านซื้อที่ดินเปล่าจากชาวบ้านตุนไว้ล่วงหน้า แล้ว แถมมีการล็อบบี้ให้เบี่ยงแนวใหม่ตัดผ่านพื้นที่ของฝ่ายการเมือง เพื่อจะได้ค่าเวนคืนที่ดินหรือขายที่ดินได้ในราคาที่สูงขึ้น


    ล่าสุดผู้ว่าฯ กทม.ให้เวลาสำนักการโยธาทบทวนโครงการนี้ใหม่ 1 เดือน และให้เลื่อนการประชาพิจารณ์ออกไปไม่มีกำหนด


    " เวลานี้ฝั่งธนฯยังขาดโครงข่ายคมนาคมที่สมบูรณ์ สำหรับถนนเส้นนี้อยู่ในผังเมืองรวมอยู่แล้ว คงยกเลิกได้ยาก น่าจะก่อสร้างต่อไปเพื่อเสริมการเดินทางของประชาชน แต่จะดูประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และไม่ให้เดือดร้อน ตอนนี้ยังไม่สรุปผล จะให้ฝ่ายโยธาไปทบทวนดูก่อน แต่ถ้าจะต้องสร้างจริงๆ ก็จะให้ชาวบ้านเดือดร้อนน้อยที่สุด และชดเชยค่าเวนคืนให้เป็นธรรมที่สุด" ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว


    มีแนวโน้มว่าหลังการทบทวนโครงการ ทางเลือกหนึ่งน่าจะออกมาโดยปรับลดขนาดรูปแบบโครงการให้เล็กลงเหลือ 2-4 ช่องจราจร จากเดิม 4-6 ช่องจราจร เพื่อเวนคืนให้น้อยที่สุด


    รายละเอียดโครงการถนนสาย ง 3 แนวตามผังเมืองรวม กทม. แบ่งเป็น 3 ตอน ตอนที่ 1 ถนนสุขสวัสดิ์-พระรามที่ 2 (สาย ง 3) ตอนที่ 2 พระรามที่ 2-ถนนเพชรเกษม (สาย ง 2) ตอนที่ 3 ถนนสุขสวัสดิ์-พระรามที่ 2-ถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้ (สาย ค 6)


    แนวเส้นทางตัดผ่าน 5 เขต คือ ราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ จอมทอง บางขุนเทียน และภาษีเจริญ มีหมู่บ้านที่อยู่ในแนวเส้นทางประมาณ 20 หมู่บ้าน ชุมชนดั้งเดิม 5 ชุมชน ผู้ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะเป็นทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 (ง 2+ง 3) ระยะทาง 16 กิโลเมตร เริ่มต้นจุดเชื่อมต่อระหว่างถนนสุขสวัสดิ์กับถนนวงแหวนอุตสาหกรรมไปทางทิศ ตะวันตก ผ่านถนนประชาอุทิศ ถนนพุทธบูชา ถึงพระรามที่ 2 จากนั้นข้ามคลองสนามชัย ผ่านถนนเอกชัย ถนนกัลปพฤกษ์ ข้ามคลองภาษีเจริญ บรรจบกับจุดเชื่อมต่อระหว่างถนน พุทธมณฑลสาย 1 กับถนนเพชรเกษม


    ช่วงที่ 2 (สาย ค 6) จะเป็นแนวเชื่อมกับถนน ง 3 และถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้ ระยะทาง 5 กิโลเมตร เริ่มต้นปากซอยประชาอุทิศ 33 ผ่านพื้นที่ภายในสวนธนบุรีรมย์ ข้างหมู่บ้านสวนธน จากนั้นตัดกับถนนพุทธบูชาบริเวณปากซอยพุทธบูชา 46 ผ่านโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพฯ แล้วขนานไปกับหมู่บ้านบางมดแลนด์ ไปตัดคลองแวกผ่านด้านข้างมัสยิดดารุ้ลอิบาดะห์ และตัดกับคลองราชพฤกษ์ ก่อนไปบรรจบกับถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้บริเวณซอยพุทธบูชา 36


    ทั้งโครงการใช้เงินลงทุน 18,900 ล้านบาท แยกเป็นค่าออกแบบและสำรวจอสังหาริมทรัพย์ 100 ล้านบาท ค่าเวนคืน 9,100 ล้านบาท มีที่ดิน 733 ไร่ และ สิ่งปลูกสร้างต้องเวนคืน 1,664 หลังคาเรือน ค่าก่อสร้าง 9,700 ล้านบาท เป็นรูปแบบถนนขนาด 4-6 ช่องจราจร และมีทาง ต่างระดับบริเวณทางแยก


    ตามแผนเดิมหากโครงการยังเดินหน้าต่อไปได้ กทม.จะเริ่มก่อสร้างในปี 2554 และเปิดใช้ปี 2557

    ที่มาหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
    --------------------------------------------------------------------------------


    ชาวบ้านจอมทองบุกยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ กทม.ค้านสร้างถนน ง.3
    โดย ผู้จัดการ วัน พุธ ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 เวลา 17:04:42 น.



    [​IMG]


    ชาวบ้านเขตจอมทองยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ กทม.ค้านสร้างถนน ง.3 เชื่อมสุขสวัสดิ์ไปวงแหวนรอบนอก เหตุถูกเวนคืนที่แถมชาวบ้านไม่รู้เรื่อง ด้าน ส.ก.เจ้าของพื้นที่ส่งหนังสือถึงชาวบ้านแจ้งผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ เตรียมไปทำความเข้าใจพรุ่งนี้ วันนี้(18 ก.พ.) ได้มีกลุ่มชาวบ้านจากเขตจอมทองประมาณ 100 คนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างถนนตามแนวผังเมือง ง.3 เชื่อมถนนสุขสวัสดิ์-พระรามที่ 2-ถนนสามแยกตากสิน-ถนนเพชรเกษม-ถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้ เดินทางมายื่นหนังสือให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อขอให้ยกเลิกและทบทวนโครงการก่อสร้างถนนตามแนวผังเมือง ง.3 ฯ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดิน จึงอยากขอให้ทางผู้ว่าฯ กทม.ยกเลิกโครงการ และให้ไปสร้างรถไฟฟ้าแทนดีกว่า





    เพราะชาวบ้านไม่มีใครรับทราบข้อมูลโครงการเลย ที่ผ่านมา กทม.งุบงิบจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่มย่อยๆ เท่านั้น ทั้งนี้ แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม.ได้เป็นตัวแทนมารับหนังสือร้องเรียนแทน ซึ่งทางผู้บริหารขอดูรายละเอียดก่อนถึงจะให้คำตอบกับชาวบ้านได้ ด้าน นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร และ นายพิรกร วีรกุลสุนทร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(สก.)เขตจอมทองได้ ทำหนังสือถึงชาวบ้านเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืน โดยในรายละเอียดของหนังสือระบุว่ามีกลุ่มบุคคลแอบอ้างว่าสามารถระงับโครงการก่อสร้างถนนสายดังกล่าวได้ โดยมีการเรียกเก็บเงินจากชาวบ้านตั้งแต่บ้านละ 1,000-5,000 บาท ซึ่งในข้อเท็จจริงบุคคลดังกล่าวมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่สามารถระงับหรือยับยั้งโครงการได้




    มีผู้เข้าชม 23 ครั้ง
    สนับสนุนเนื้อหาโดย

    เขียนเมื่อ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. อรมณีจันทร์

    อรมณีจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +499
    ครม.เห็นชอบกู้เงินต่างประเทศ2พันล.ดอลล์
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>

    [​IMG]

    ครม.เห็นชอบกู้เงินต่างประเทศ2พันล.ดอลล์

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    http://www.bangkokbiznews.com/


    (Update) ครม.เห็นชอบให้รัฐบาลกู้เงินจากต่างประเทศ วงเงินรวม 2 พันล้านดอลลาร์ จากสถาบันการเงิน 3 แห่ง คือ ธนาคารโลก เอดีบีและไจก้า

    นาย อภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้รัฐบาลกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างประเทศ วงเงินรวม 2,000 ล้านดอลลาร์ หรือ ราว 70,000 ล้านบาท

    เงินกู้ดังกล่าวจะมาจากสถาบันการเงิน 3 แห่งคือ ธนาคารโลก 1,000 ล้านดอลลาร์ ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเซีย(เอดีบี) 500 ล้านดอลลาร์ และ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น(ไจก้า) 500 ล้านดอลลาร์

    โดยมติดังกล่าวเป็นเรื่องสืบเนื่องที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 ได้ให้ความเห็นชอบในหลักการการกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐาน

    รวมทั้งมีมติให้กระทรวงการคลังรับไปดำเนิน การต่อไปให้สอดคล้องกับบทบัญญัติกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และจัดทำกรอบการเจรจากู้เงิน แนวทาง การใช้จ่ายเงินกู้และรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน ครบถ้วน เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนเสนอรัฐสภาให้ความเห็นชอบตามนัยมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

    นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้เสนอกรอบระยะเวลาการดำเนินงานสำหรับการกู้เงินเพื่อ ฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยคาดว่าจะสามารถเสนอกรอบการเจรจากู้เงินฯ ให้รัฐสภาพิจารณาได้ภายในเดือนมีนาคม 2552 หลังจากนั้นกระทรวงการคลังจะเจรจากับแหล่งเงินกู้ต่างๆ โดยมีกรอบระยะเวลา ในการดำเนินงาน ดังนี้

    เดือน เมษายน 2552 รัฐสภาให้ความเห็นชอบกรอบการเจรจากู้เงิน

    เดือนเมษายน – พฤษภาคม 2552 เจรจาสัญญาเงินกู้กับธนาคารโลกและนำกลับมาเสนอขอความเห็นชอบจากรัฐสภา

    พฤษภาคม – กรกฎาคม 2552 เจรจากู้เงินกับ ADB กับ JICA และนำกลับมาเสนอขอความเห็นชอบจากรัฐสภา

    มิถุนายน 2552 รัฐสภาให้ความเห็นชอบสัญญาเงินกู้จากธนาคารโลก และกระทรวงการคลังลงนามในสัญญาเงินกู้กับธนาคารโลก

    กรกฎาคม 2552 เริ่มเบิกจ่ายเงินกู้จากธนาคารโลก

    สิงหาคม 2552 รัฐสภาให้ความเห็นชอบสัญญาเงินกู้กับ ADB และ JICA และกระทรวงการคลังลงนามในสัญญาเงินกู้กับ ADB และ JICA

    กันยายน 2552 เริ่มเบิกจ่ายเงินกู้จาก ADB และ JICA


    Tags : เงินกู้ต่างประเทศ



    ความคิดเห็นที่ 16
    คนอยากพูด , 10 มีนาคม 2552 20:04
    ก็ เป็นรัฐบาลที่ปล้นเขามาโดยมีสีเขียวกับสีเหลืองเป็นขุนศึกให้จะทำอะไรเป็น ไม่ทันไรก็กู้แล้วอ้างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแต่จริง ๆแล้วเพื่อปูนบำเหน็จรางวัลให้สีเขียว สีเหลืองและกลุ่มธุรกิจที่หนุนพรรคประชาธิปัตย์ต่างหากที่สามารถทำลายพรรค ตรงกันข้ามได้ แถมไม่พอเอากลุ่มคนที่ทำผิดมาตรา 113และมาตรา 135 มาเป็นใหญ่ในแผ่นดินอีกอีกหน่อยถึง IMF รอบ 2 แน่รอบแรกใครกู้ละ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. อรมณีจันทร์

    อรมณีจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +499
    เรื่องที่ผู้ว่าไม่เซ็นอนุมัติให้มีการสร้างถนน ง.3มีคนไปโพสว่าท่านในเวบด้วยแหล่ะ

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>

    [​IMG]



    [​IMG]
    ส่วนเรื่องเมกกะโปรเจกเลิกพูดถึงครับ
    รัฐบาลชุดนี้คิดได้แค่แจกเงิน

    วานนก่อนหม่อมสุขุมพันธ์สั่งระงับโปรเจ็กถนน ง.3 ไปแล้ว
    บ. ที่รับเงิน 100 ล้าน ไปศึกษาเส้นทางที่ดีที่สุด
    หม่อมแกตัดสินวิ๊ปเดียว .... แกรู้ดีกว่า


    ถีบทิ้งเงินร้อยล้านไปเรียบร้อยแล้วโดยไม่มีใครรับผิดชอบ
    ได้

    จากคุณ : X-CU -

    ผมมองว่า ไม่เป็นศูนย์ก็น่าจะเหมือนศูนย์

    เงิน 2000 พันบาทเป็นตัวอย่างของความมักง่ายและโง่เขลาทางเศรษฐกิจ
    อย่างดีมันก็เป็นแค่การสงเคราะห์ ถ้าอย่างเลวก็เป็นการผลาญเงินหลวงเปล่าประโยชน์

    ถ้าชาวบ้านซื้อของจำเป็น ... เขาจำเป็นก็ต้องหาเงินมาใช้ให้หมุนเวียนอยู่แล้ว
    ถ้าชาวบ้านไม่จำเป็น เงินนี้ก็เป็นเพียงเงินร้อนใช้เปล่าเท่านั้น
    มันอาจหมุนในระบบหรือหมุนออกนอกไปพวกฟุ่มเฟือยไปนอกไปไหนก็ได้ ... ใครรู้

    ทำไมไม่เอาเงินนี้ไปกระจายพัฒนาระบบโครงสร้างประเทศที่จะอำนวยด้านการผลิต
    เช่นทำไมไม่จ่ายเวนคืนถนน ง.3 ให้จุใจ แทนที่จะไประงับโครงการให้การใช้จ่ายสดุด
    ไปตัดถนนที่จะช่วยลดการขับอ้อม รถติด ไร้ประสิทธิภาพขนส่ง ?


    ทำไมไม่เอาเงินไปลงก่อสร้างเพื่อกระตุ้นซีกผลิตวัสดุและการจ้างแรงงาน ?
    หรือแทนที่จะไปเช่ารถให้เงินออกนอกไปกระตุ้นเศรษฐกิจให้จีน ?

    ปชป. ไม่รู้เรื่องการสร้าง Productivity หรือไม่สนใจอะไรที่มันยากและยั่งยืนหรือ ?

    ถ้าปัญหาเศรษฐกิจแก้ได้โดยการหว่านเงิน ... คนเขลาที่ไหนมันก็ทำได้!

    วันนี้หากเทียบเศรษฐกิจว่ากำลังเข้าโคม่า
    สิ่งที่ ปชป. ทำนั่นมันก็เหมือนแค่ยาแดงและผ้าพันแผลพิมพ์ลายคิตตี้เท่านั้นเอง

    ซึนามิเศรษฐกิจ .... คงหนีไม่พ้นกันหรอกครับ คนไทย

    แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 13:48:26

    จากคุณ : X-CU - [ 1 มี.ค. 52 13:27:48 A:58.9.48.104 X: ]



    http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7645952/P7645952.html
    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    1. คน 90 % ไม่มีใครยอมรับกับเรื่องนี้นะ
    เพราะมันเป็นเรื่องรับกันไม่ได้ แล้วก็หลายอย่างไม่ถูกต้องเลย
    อาจจะมีบ้างที่อยากจะขาย เพราะคนเหล่านั้นรู้ดีว่า
    เวนคืนได้เงินเยอะ แต่อีก 90%ที่เหลือไม่ยอมแบบหัวชนฝาเลยนะ


    2.ผลการประชาวิจารณ์ครั้งที่ 3 และก่อนหน้านั้น
    ชาวบ้านไม่โอเคเลยนะ มีการเดินประท้วง หลายครั้ง
    ในเขตจอมทองมีการลงขันช่วยบริจาคเงินกันเหมารถบัสไป
    กทม หลายรอบแล้วนะ ข่าวที่ลงว่ามีคนมาอ้างว่าถ้ายอมจ่ายเงิน
    1000-4000 จะสามารถระงับโครงการได้
    คิดว่า นสพไม่ได้มาสอบถามชาวบ้านโดยตรงนะคะ
    เพราะ ไม่ได้ยินใครพูดถึงเรื่อง
    มีคนมาแอบอ้าง รีดไถเงินเลยนะ มีแต่มาขอบริจาคเงินค่าเหมารถ
    ไปประท้วงที่ สำนักงานใหญ่กรุงเทพมหานครต่างหาก

    3. มีถนนในหลายซอย และ หลายเส้นที่ชำรุด ทรุดโทรม
    ทำไม ไม่เอาเงินไปซ่อมแซมให้สวยงาม ใช้งานได้

    4.ย่านฝั่งธนรถไม่ติดเลยนะ ( ยืนยันว่าไม่ติดเลย )
    จะมีติดแค่ช่วงเช้า ช่วงเย็นไม่ค่อยติดนะ
    มันไม่ได้ติดเน่าแบบ ฝั่งพระนครสักหน่อย

    5.น้ำท่วมเปล่าไม่รู้ เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต
    แต่ ระดับน้ำทะเลมันสูงขึ้นเรื่อยๆนะ มันข้ออ้างห่วยๆนะ
    ถ้าจะบอกว่า น้ำจะไม่มีวันท่วม กรุงเทพดิฉันไม่เชื่อหรอก
    เพราะเท่าที่เห็นๆ ก็เริ่มคิดว่าในอนาคต มันท่วมแน่
    จะช้า หรือ เร็ว ก็อยู่ที่สภาวะโลกร้อนนี่แหล่ะว่ามันวิกฤตแค่ไหน
    แต่ถึงยังไงก็ยังไม่อยากให้มีการเวนคืนอยู่ดี ง่ะ

    6.คนที่เสียผลประโยชน์อาจจะไม่พอใจ หม่อม
    แต่หลายคนยัง สรรเสริญเสมอ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม
    ไม่มีใครยอมเรื่องนี้อยู่แล้ว ล่าสุด
    หลายเขตที่ เดือดร้อนตรงนี้ก็ ลุยไปประท้วงที่
    จวนท่านผู้ว่ากันแล้วถ้าปัญหานี้ไม่ยุติธรรมเลย ​

    *******ตอนนี้ข่าวนี้ออกมาว่า ******
    *** ท่านจะไม่เซ็นอนุมัติให้โครงการนี้ผ่าน***
    เพราะท่านบอกว่า ลำบากใจมาก
    แต่โครงการจะยกเลิกเปล่าก็ไม่รู้นะ .....เวรกรรม
    ต้องดูไปก่อน เพราะคนที่เสียผล ปย. ยังดื้อให้มีการสร้างอยู่
    ทั้งๆที่ฝั่งธนมี ถนนตัดใหม่ และ ถนนวงแหวนรอบนอกอยู่แล้ว

    +++อย่าเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวจนทำร้ายคนอื่นนะ+++


    เคยรู้จักคำว่า เศรษฐกิจพอเพียงไหม
    การได้เงินมา โดยเงินนั้นมาจากความเดือดร้อนของคนอื่น
    มันคือ เงินร้อน มันจะไม่ทำให้คนนั้นเจริญ
    แล้วเงินก็จะอยู่กับคนๆนั้นได้ไม่นานหรอก

    เรากู้เงินเขามา อีกกี่ร้อยปี ถึงจะใช้หนี้ได้หมด
    ไหนจะเรื่องเศรษฐกิจไม่ดี
    ไหนจะเรื่องการเมืองไม่มั่นคง
    ไหนจะเรื่องน้ำมันจะท่วมเปล่าก็ไม่รู้
    น้ำมันก็ ราคาแพงขึ้นมาก..
    ค่าครองชีพ ข้าวของ ก็ต้องสูงขึ้นเรือ่ยๆ......



    เขียนเมื่อ : 29/03/09 05:03:33 ​


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...