ขอปิดกระทู้ -ให้บูชาวัตถุมงคลประจำปี ๒๕๖๔ (ปิดกระทู้)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย phumiput, 2 มกราคม 2021.

  1. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ให้บูชา พระสมเด็จหลวงปู่เฒ่า หลวงปู่สุภา กันตสีโล ออกที่ วัดสีลสุภาราม จ.ภูเก็ต
    หลวงปู่สุภา กล่าวว่า “พระสมเด็จปู่เฒ่านี้ ศักดิ์สิทธิด้วยแรงสัจจะอธิษฐานของอาตมาที่มีต่ออาจารย์ใหญ่ ที่เคยไปเรียนวิชาด้วย ที่เมืองจีน”

    เนื่องจากท่านได้เคยตั้งสัจจะไว้ว่าจะสร้างพระขึ้นมาหนึ่งรุ่นเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูและระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์ของท่าน และท่านได้อธิฐานบอกกล่าวกับครูบาอาจารย์ทุกองค์และพระอรหันต์ที่ถ้ำจุงจิง ประเทศลาวที่ท่านเคยพบและเรียนกรรมฐานด้วยว่า " เมื่อใดที่ได้มีการสร้างพระที่ตั้งสัจจะไว้ ขออาราธนาท่านเหล่านั้นมาช่วยแผ่บารมีและพุทธาภิเษกให้ด้วย " ซึ่งท่านเหล่านั้นก็ได้รับปากหลวงปู่ไว้ เพราะฉะนั้นจึงเป็นที่มาของชื่อพระรุ่นนี้ และ วิธีการพุทธาภิเษกพระที่ไม่เหมือนใคร โดยหลวงปู่ท่านได้นำพระรุ่นนี้เข้ากุฏิใหม่ ชั้น 2 และปิดประตูห้องห้ามใครรบกวน

    โดยใช้เวลาในตอนกลางคืนกับพระรุ่นนี้ถึง 10 คืนเต็มก่อนจะนำออกให้เช่าบูชา หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า ในแต่ละคืนที่ท่านอยู่ในห้องจะมีเหล่าบรรดาครูบาอาจารย์ของท่านและพระอรหันต์ที่เคยรับปากไว้หมุนเวียนกันมาแผ่บารมีและพุทธาภิเษกพระรุ่นนี้อย่างสมบูรณ์และครบถ้วนในทุกๆด้านโดย เฉพาะคืนที่5 เบื้องบนได้เสด็จลงมาและในคืนนั้นเองได้เกิดปาฏิหารย์ขึ้นที่วัด กล่าวคือ เสาไฟในวัดล้มระเนระนาดโดยไม่มีสาเหตุ ในทันทีที่ท่านเข้าห้องและปิดประตูไฟฟ้าดับทั้งวัดและในคืนนั้นได้เกิดไฟลุกไหม้ภายในห้องที่ท่านกำลังทำพุทธาภิเษกพระ เนื่องจากเทียนที่จุดข้างกองวัตถุมงคลได้ล้มลงโดยไม่มีสาเหตุ ทำให้ไฟได้ไหม้พรมและลุกลามไปทั่ว แต่ได้เกิดความอัศจรรย์คือพระเพลิงมิอาจลุกลามเข้าไปทำอะไรกองวัตถุมงคลรวมทั้งหลวงปู่ที่นั่งกรรมฐานได้ ความร้อนนั้นถึงขนาดทำให้สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองของประธานกรรมการวัดที่วางไว้ภายในกองวัตถุมงคลถึงกับหลอมละลาย กลายเป็นก้อนทองไป หมดสภาพของสร้อยพระ เพลิงได้ลุกไหม้อยู่นานจนกระทั่งผู้ที่ดูแลหลวงปู่รู้สึกแปลกใจว่า อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นข้างบน จึงได้ขึ้นไปแอบดูจึงได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้ช่วยกันเข้าไปดับไฟ ที่กำลังโหมไหม้พร้อมทั้งนิมนต์หลวงปู่ออกจากสมาธิ และนำท่านออกมาจากห้องได้โดยปลอดภัย เมื่อท่านออกจากสมาธิจึงบอกว่าพระนั้นได้เสกจนครบถ้วนบริบูรณ์ดีแล้ว แต่ท่านจะยังคงทำพิธีต่อไปอีกเรื่อยๆจนครบ 10 วันตามที่ได้ตั้งใจไว้มวลสารที่นำมาจัดสร้างพระรุ่นนี้จะเป็นพระรุ่นสุดท้ายที่ท่านสร้าง เหล่าบรรดาศิษย์ใกล้ชิด แม่ชี กรรมการวัดได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำกันเองภายในวัดทั้งสิ้น ทาง แม่ชีเป็นผู้ผสมมวลสารและปั๊มพระ โดยหลวงปู่ได้ขึ้นไปทำพิธีและกำหนดเขตในการสร้างพระให้บนศาลากรรมฐานชั้น 2 ของหอแม่ชีต่อหน้าพระประธานบนศาลา และยังได้ทำพิธีปลุกเสกมวลสารซ้ำอีก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการพุทธาภิเษกไปแล้วเมื่อคราวหล่อพระประธานในวัน เกิดท่านมวลสารหลักที่สำคัญๆมีดังนี้
    1. พระผงนะหน้าทองแตกหัก หลวงปู่มีวัดมารวิชัย(เสก20ปี) เกือบเต็มบาตร เจ้าอาวาสวัดมารวิชัยถวายมา (พระผงนะหน้าทองของหลวงพ่อมี วัดมารวิชัยนั้นเด่นด้านเมตตามาก แต่แคล้วคลาดก็ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันครบ)
    2. พระผงแตกหักหลวงพ่อเกษม ได้มาจากคลังของสุสานไตรลักษณ์(หลวงปู่ดู่ให้การยอมรับหลงพ่อเกษมมาก ท่านเคยบอกว่าแค่ยกวัตถุมงคลผ่านหน้าหลวงพ่อเกษมก็มีความศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ต้องเสกซ้ำแล้วครับ)
    3. ผงปูนจากฐานพระพุทธวิชิตมาร วัดมารวิชัย
    4. ตะไบชนวนพระกริ่งหลายๆรุ่นของวัดสุทัศน์และวัดบวร(ใช้แทนพระกริ่งของทางวัดสุทัศน์และวัดบวรได้เลยครับ)
    5. ผงว่าน 108 ที่เหลือจากการทำพระขุนแผนสาริกา(2 บาตร)
    6. พระเสด็จกลับที่แตกหักบดเป็นผง 7. เกษาหลวงปู่สุภา 8. ชานหมากหลวงปู่สุภา 9. แป้งเสกหลวงปู่ต่าง เช่นหลวงปู่บุดดา หลวงปู่เย็น 10.ผงวิเศษที่หลวงปู่สุภาเสกให้ไว้ 11.พระธาตุ(หลวงปู่นำมามอบให้ผสม) 12.ผงดอกไม้บูชาพระที่วัดสีลสุภาราม 13.ข้าวที่ท่านเคยออกบิณบาตรเมื่อกลางปี 48 14.สีผึ้งเดือน5ยอดมหาเสน่ห์ของหลวงปู่ที่เก็บไว้ 15.พระรุ่นเก่าๆที่แตกหัก 16.ผงจากเต่ากัสสะโป 17.ดินจากสังเวชนียสถาน 18.ใบโพธิ์จากสังเวชนียสถาน 19.ปูนเปลือกหอย
    พระชุดนี้มีทั้งหมด 4 สีหลักๆคือ สีขาว เหลือง แดง และเทา แต่ก็มีสีอ่อน นับเป็นสุดยอดแห่งวัตถุมงคลของหลวงปู่สุภา ที่บรรดาลูกศิษย์ต่างหวงแหนพอๆกับพระสมเด็จเสด็จกลับ ว่ากันว่า รุ่นแรกต้องพระเสด็จกลับ รุ่นสุดท้ายต้องสมเด็จปู่เฒ่า หลายราย ๆ มีประสบการณ์การบูชากันครับ ถ้าค้นข้อมูลในกูเกิ้ลก็คงจะทราบได้
    สมเด็จปู่เฒ่าเป็นพระรุ่นเดียวที่หลวงปู่พกติดตัวไว้เสมอ ท่านมักจะนำมาจับมาภาวนา ถูตามหน้าของท่าน
    สำหรับหลวงปู่สุภาท่านเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ศุขและได้วิชามาหลายอย่าง หลวงปู่สุภาท่านมรณภาพสรีระไม่เน่าเปื่อย เสียดายวัดได้เผาสรีระของท่านไปแล้ว แต่ธาตุท่านเป็นเป็นแก้วเลยครับตามภาพ
    ราคาวัดเดิมให้บูชาขั้นต่ำ 999 บาทขึ้นไปแล้วแต่สีครับ ทางวัดสีลสุภารามไม่มีแล้วครับ
    ผมนำมาให้บูชาถูกกว่าวัด รับประกันแท้แน่นอน เช็คก่อนเพื่อความสบายใจครับ

    ขอบพระคุณข้อมูลภาพจากเว็บหลวงปู่สุภาดอทคอมครับ
    รุ่นี้ต้องบอกว่าดีนอกและดีในเลยครับ รุ่นนี้ที่วัดจัดสร้างเองปั๊มการภายในวัดไม่มีศูนย์พระเครื่องหรือบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องให้วุ่นวาย มวลสารก็เข้มขลัง ที่สำคัญหลวงปู่เสกนานด้วยครับ และเป็นดำริของหลวงปู่เองที่ให้จัดสร้าง และท่านยังคุมงานเองทุกอย่าง
    สมเด็จปู่เฒ่านี้เป็นหนึ่งในสองรุ่นที่พระอาจารย์ที่อินทร์บุรีให้เก็บและยังได้ถามพระอาจารย์ที่อินทร์บุรีว่าสมเด็จปู่เฒ่าดีทางไหน ท่านตอบว่าตอบไม่ถูก ดีทุกทาง อยู่ที่เราจะขอด้านไหน ครอบคลุมหมด ต้องถือว่าเป็นรุ่นที่แนะนำ เรียกว่ารุ่นนี้ดีจริง ๆ ครับ และเป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่หลวงปู่ทำถวายครูบาอาจารย์ของท่านเลยครับ
    (ผมเองก็พกรุ่นนี้เหมือนกันครับ)
    ผมให้บูชา 750 จัดส่ง 50 รายการนี้จองได้สามวันครับ

    IMG_3764.JPG IMG_3765.JPG IMG_3766.JPG IMG_3767.JPG 7250.jpg 7249.jpg 7248.jpg 7247.jpg 7246.jpg 7245.jpg 7244.jpg 7243.jpg 112485.jpg 43023838_2179047699021234_3275574735487893504_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2021
  2. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ให้บูชา พระสมเด็จหลวงปู่เฒ่า หลวงปู่สุภา กันตสีโล ออกที่ วัดสีลสุภาราม จ.ภูเก็ต
    หลวงปู่สุภา กล่าวว่า “พระสมเด็จปู่เฒ่านี้ ศักดิ์สิทธิด้วยแรงสัจจะอธิษฐานของอาตมาที่มีต่ออาจารย์ใหญ่ ที่เคยไปเรียนวิชาด้วย ที่เมืองจีน”

    เนื่องจากท่านได้เคยตั้งสัจจะไว้ว่าจะสร้างพระขึ้นมาหนึ่งรุ่นเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูและระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์ของท่าน และท่านได้อธิฐานบอกกล่าวกับครูบาอาจารย์ทุกองค์และพระอรหันต์ที่ถ้ำจุงจิง ประเทศลาวที่ท่านเคยพบและเรียนกรรมฐานด้วยว่า " เมื่อใดที่ได้มีการสร้างพระที่ตั้งสัจจะไว้ ขออาราธนาท่านเหล่านั้นมาช่วยแผ่บารมีและพุทธาภิเษกให้ด้วย " ซึ่งท่านเหล่านั้นก็ได้รับปากหลวงปู่ไว้ เพราะฉะนั้นจึงเป็นที่มาของชื่อพระรุ่นนี้ และ วิธีการพุทธาภิเษกพระที่ไม่เหมือนใคร โดยหลวงปู่ท่านได้นำพระรุ่นนี้เข้ากุฏิใหม่ ชั้น 2 และปิดประตูห้องห้ามใครรบกวน

    โดยใช้เวลาในตอนกลางคืนกับพระรุ่นนี้ถึง 10 คืนเต็มก่อนจะนำออกให้เช่าบูชา หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า ในแต่ละคืนที่ท่านอยู่ในห้องจะมีเหล่าบรรดาครูบาอาจารย์ของท่านและพระอรหันต์ที่เคยรับปากไว้หมุนเวียนกันมาแผ่บารมีและพุทธาภิเษกพระรุ่นนี้อย่างสมบูรณ์และครบถ้วนในทุกๆด้านโดย เฉพาะคืนที่5 เบื้องบนได้เสด็จลงมาและในคืนนั้นเองได้เกิดปาฏิหารย์ขึ้นที่วัด กล่าวคือ เสาไฟในวัดล้มระเนระนาดโดยไม่มีสาเหตุ ในทันทีที่ท่านเข้าห้องและปิดประตูไฟฟ้าดับทั้งวัดและในคืนนั้นได้เกิดไฟลุกไหม้ภายในห้องที่ท่านกำลังทำพุทธาภิเษกพระ เนื่องจากเทียนที่จุดข้างกองวัตถุมงคลได้ล้มลงโดยไม่มีสาเหตุ ทำให้ไฟได้ไหม้พรมและลุกลามไปทั่ว แต่ได้เกิดความอัศจรรย์คือพระเพลิงมิอาจลุกลามเข้าไปทำอะไรกองวัตถุมงคลรวมทั้งหลวงปู่ที่นั่งกรรมฐานได้ ความร้อนนั้นถึงขนาดทำให้สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองของประธานกรรมการวัดที่วางไว้ภายในกองวัตถุมงคลถึงกับหลอมละลาย กลายเป็นก้อนทองไป หมดสภาพของสร้อยพระ เพลิงได้ลุกไหม้อยู่นานจนกระทั่งผู้ที่ดูแลหลวงปู่รู้สึกแปลกใจว่า อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นข้างบน จึงได้ขึ้นไปแอบดูจึงได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้ช่วยกันเข้าไปดับไฟ ที่กำลังโหมไหม้พร้อมทั้งนิมนต์หลวงปู่ออกจากสมาธิ และนำท่านออกมาจากห้องได้โดยปลอดภัย เมื่อท่านออกจากสมาธิจึงบอกว่าพระนั้นได้เสกจนครบถ้วนบริบูรณ์ดีแล้ว แต่ท่านจะยังคงทำพิธีต่อไปอีกเรื่อยๆจนครบ 10 วันตามที่ได้ตั้งใจไว้มวลสารที่นำมาจัดสร้างพระรุ่นนี้จะเป็นพระรุ่นสุดท้ายที่ท่านสร้าง เหล่าบรรดาศิษย์ใกล้ชิด แม่ชี กรรมการวัดได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำกันเองภายในวัดทั้งสิ้น ทาง แม่ชีเป็นผู้ผสมมวลสารและปั๊มพระ โดยหลวงปู่ได้ขึ้นไปทำพิธีและกำหนดเขตในการสร้างพระให้บนศาลากรรมฐานชั้น 2 ของหอแม่ชีต่อหน้าพระประธานบนศาลา และยังได้ทำพิธีปลุกเสกมวลสารซ้ำอีก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการพุทธาภิเษกไปแล้วเมื่อคราวหล่อพระประธานในวัน เกิดท่านมวลสารหลักที่สำคัญๆมีดังนี้
    1. พระผงนะหน้าทองแตกหัก หลวงปู่มีวัดมารวิชัย(เสก20ปี) เกือบเต็มบาตร เจ้าอาวาสวัดมารวิชัยถวายมา (พระผงนะหน้าทองของหลวงพ่อมี วัดมารวิชัยนั้นเด่นด้านเมตตามาก แต่แคล้วคลาดก็ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันครบ)
    2. พระผงแตกหักหลวงพ่อเกษม ได้มาจากคลังของสุสานไตรลักษณ์(หลวงปู่ดู่ให้การยอมรับหลงพ่อเกษมมาก ท่านเคยบอกว่าแค่ยกวัตถุมงคลผ่านหน้าหลวงพ่อเกษมก็มีความศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ต้องเสกซ้ำแล้วครับ)
    3. ผงปูนจากฐานพระพุทธวิชิตมาร วัดมารวิชัย
    4. ตะไบชนวนพระกริ่งหลายๆรุ่นของวัดสุทัศน์และวัดบวร(ใช้แทนพระกริ่งของทางวัดสุทัศน์และวัดบวรได้เลยครับ)
    5. ผงว่าน 108 ที่เหลือจากการทำพระขุนแผนสาริกา(2 บาตร)
    6. พระเสด็จกลับที่แตกหักบดเป็นผง 7. เกษาหลวงปู่สุภา 8. ชานหมากหลวงปู่สุภา 9. แป้งเสกหลวงปู่ต่าง เช่นหลวงปู่บุดดา หลวงปู่เย็น 10.ผงวิเศษที่หลวงปู่สุภาเสกให้ไว้ 11.พระธาตุ(หลวงปู่นำมามอบให้ผสม) 12.ผงดอกไม้บูชาพระที่วัดสีลสุภาราม 13.ข้าวที่ท่านเคยออกบิณบาตรเมื่อกลางปี 48 14.สีผึ้งเดือน5ยอดมหาเสน่ห์ของหลวงปู่ที่เก็บไว้ 15.พระรุ่นเก่าๆที่แตกหัก 16.ผงจากเต่ากัสสะโป 17.ดินจากสังเวชนียสถาน 18.ใบโพธิ์จากสังเวชนียสถาน 19.ปูนเปลือกหอย
    พระชุดนี้มีทั้งหมด 4 สีหลักๆคือ สีขาว เหลือง แดง และเทา แต่ก็มีสีอ่อน นับเป็นสุดยอดแห่งวัตถุมงคลของหลวงปู่สุภา ที่บรรดาลูกศิษย์ต่างหวงแหนพอๆกับพระสมเด็จเสด็จกลับ ว่ากันว่า รุ่นแรกต้องพระเสด็จกลับ รุ่นสุดท้ายต้องสมเด็จปู่เฒ่า หลายราย ๆ มีประสบการณ์การบูชากันครับ ถ้าค้นข้อมูลในกูเกิ้ลก็คงจะทราบได้
    สมเด็จปู่เฒ่าเป็นพระรุ่นเดียวที่หลวงปู่พกติดตัวไว้เสมอ ท่านมักจะนำมาจับมาภาวนา ถูตามหน้าของท่าน
    สำหรับหลวงปู่สุภาท่านเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ศุขและได้วิชามาหลายอย่าง หลวงปู่สุภาท่านมรณภาพสรีระไม่เน่าเปื่อย เสียดายวัดได้เผาสรีระของท่านไปแล้ว แต่ธาตุท่านเป็นเป็นแก้วเลยครับตามภาพ
    ราคาวัดเดิมให้บูชาขั้นต่ำ 999 บาทขึ้นไปแล้วแต่สีครับ ทางวัดสีลสุภารามไม่มีแล้วครับ
    ผมนำมาให้บูชาถูกกว่าวัด รับประกันแท้แน่นอน เช็คก่อนเพื่อความสบายใจครับ

    ขอบพระคุณข้อมูลภาพจากเว็บหลวงปู่สุภาดอทคอมครับ
    รุ่นี้ต้องบอกว่าดีนอกและดีในเลยครับ รุ่นนี้ที่วัดจัดสร้างเองปั๊มการภายในวัดไม่มีศูนย์พระเครื่องหรือบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องให้วุ่นวาย มวลสารก็เข้มขลัง ที่สำคัญหลวงปู่เสกนานด้วยครับ และเป็นดำริของหลวงปู่เองที่ให้จัดสร้าง และท่านยังคุมงานเองทุกอย่าง
    สมเด็จปู่เฒ่านี้เป็นหนึ่งในสองรุ่นที่พระอาจารย์ที่อินทร์บุรีให้เก็บและยังได้ถามพระอาจารย์ที่อินทร์บุรีว่าสมเด็จปู่เฒ่าดีทางไหน ท่านตอบว่าตอบไม่ถูก ดีทุกทาง อยู่ที่เราจะขอด้านไหน ครอบคลุมหมด ต้องถือว่าเป็นรุ่นที่แนะนำ เรียกว่ารุ่นนี้ดีจริง ๆ ครับ และเป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่หลวงปู่ทำถวายครูบาอาจารย์ของท่านเลยครับ
    (ผมเองก็พกรุ่นนี้เหมือนกันครับ)

    ผมให้บูชา ปิดรายการ จัดส่ง 60 รายการนี้จองได้สามวันครับ
    IMG_3771.JPG IMG_3772.JPG IMG_3773.JPG 7250.jpg 7249.jpg 7248.jpg 7247.jpg 7246.jpg 7245.jpg 7244.jpg 7243.jpg 112485.jpg 43023838_2179047699021234_3275574735487893504_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2021
  3. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ให้บูชาเหรียญอโรคยาเนื้อทองเหลือง ของพระอาจารย์เอ บ้านสุมโน ด้านหลังเป็นยันต์โสฬสอริยทรัพย์
    ข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้ครับ

    เหรียญอโรคยา (รุ่นนี้เสกพร้อมกับสมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิต)
    พุทธาภิเษก 3 วาระ
    1. งานไหว้ครูบ้านสุมโน ปี 2563
    2. งานเสาร์ห้า วัดสี่แยกเจริญพร พลิกชีวิต ฤกษ์กระทิงวัน นานปีมีหนรอบนี้ เสาร์ 5 ขึ้น 5ค่ำ
    3. พระอาจารย์บ๊ะ ปลุกเสก ที่บ้านสุมโน 2/4/2563ดิถีฆาต เพชรฆาตฤกษ์ ราชาฤกษ์

    ผมได้นำข้อความมาจากเก็บตกสำหรับการเสกพิธีพลิกชีวิตซึ่งเหรียญอโรคยาได้เข้าพิธ๊นี้ด้วยดังนี้ครับ (ขอนำข้อความมาบางช่วงบางตอนที่เกี่ยวข้องกับเหรียญอโรคยามาให้อ่านครับ)
    "เมื่อเริ่มพิธี อาตมาถวายชุดบายศรีไหว้ครูต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ พรหม เทวดา และครูบาอาจารย์ทุกองค์
    จากนั้นกราบทูลอัญเชิญสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมเป็นประธาน พระปัจเจกพระพุทธเจ้า...เจ้าของพระคาถาเงินล้าน และครูบาอาจารย์ที่จำเพาะเจาะจงในครั้งนี้ ได้แก่
    หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
    หลวงปู่สด วัดปากน้ำภาษีเจริญ
    หลวงปู่สาย วัดท่าขนุน
    หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง
    หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง
    หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    "ทิดเฟิร์สกระซิบว่า "ขอแรง ๆ เห็นคาตาชัด ๆ เหมือนกับครั้งที่แล้วด้วยนะครับ" อาตมาได้แต่หัวเราะในใจ เรื่องของพระ เรื่องของพรหมเทวดา เรื่องของครูบาอาจารย์ กูกดปุ่มไม่ได้..! มีแต่ท่านจะกดกบาลกูเท่านั้น..!
    เมื่อเริ่มเข้าที่ภาวนา วางกำลังใจตามที่พระท่านสั่ง แล้วก็เห็นญาติโยมจำนวนหนึ่ง ที่ตั้งใจขอรับบารมีพระอยู่กับบ้าน อีกจำนวนหนึ่งเตรียมของบูชาครูเอาไว้ แต่ไม่ได้เตรียมตัว คิดว่าไม่น่าจะเป็นเวลานี้ นับว่าน่าเสียดายมาก
    ครั้นเสร็จพิธี ลืมตาขึ้นมาทำน้ำมนต์ พระท่านให้ใช้บท อิติปิ โสฯ ถอยหลัง สิ่งที่ปรากฏขึ้นก็คือ น้ำตาเทียนไหลเป็นสายลงในบาตร โดยมีเปลวไฟไหลตามไปด้วย เสียงระเบิดดังเพียะพะเป็นไฟพะเนียงไปทั่ว เทียนบูชาพระ เทียนสัตตบริภัณฑ์ ก็ระเบิดไล่เป็นลูกระนาดเวียนขวาไปจนครบทุกดวง..!
    ทิดเฟิร์ส ทิดดอย น้องเล็ก วิ่งมาช่วยกันถ่ายรูป จนต้องดุว่าให้ถ่ายวิดีโอไว้บ้าง ไม่อย่างนั้นจะไม่มีหลักฐาน อยากได้ของแรงดีนัก พระท่านจึงสงเคราะห์ให้แรงสะใจไปเลย..!"
    ให้ร่วมกันอนุเคราะห์สงเคราะห์ ปลุกเสกวัตถุมงคล ทั้งในมณฑลพิธี และที่บ้านสุมโน ให้มีพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ดังที่เคยได้ให้การอนุเคราะห์สงเคราะห์มาทุกครั้ง"
    ส่วนท่านอาจารย์มหาเอนั้น ตั้งใจจะเป็นทัพหน้ารบกับไวรัส covid-๑๙ สั่งสร้างเหรียญพระไภษัชยคุรุ หรือที่เรียกว่า เหรียญอโรคยา มาเข้าพิธีด้วย แต่ไม่อยากเสี่ยงฝ่าด่านกักกันโรคมา จึงขออนุญาตตั้งไว้ที่บ้านสุมโน แล้วขอให้พระอาจารย์ส่งไลน์มาถึงด้วย..!"
    "ส่วนอาตมานั้น กราบขอบารมีครูบาอาจารย์ตั้งแต่เช้า บอกว่าขอผ่านทุกด่านโดยไม่มีปัญหานะครับ แล้วก็เหมือนกับทุกด่านไม่เห็นรถคันนี้ แม้กระทั่งทางด้านทิดเฟิร์ส ก็บอกว่าผ่านสะดวกเช่นกัน กราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านที่เมตตาเป็นอย่างสูง
    ผู้ใดใช้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ให้ภาวนา อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ วันละ ๓ จบทุกวัน ถ้าหากว่ามีเรื่องร้ายแรง ต้องการจะกลับร้ายกลายเป็นดี ให้ตั้งใจจุดธูปเทียนบูชาพระ แล้วภาวนา อิติปิโสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ ๑๐๘ จบ จากนั้นอธิษฐานเอาตามอัธยาศัย"

    ยันต์โสฬสอริยทรัพย์
    ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างอโรคยาศาลาไว้สำหรับรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับประชาชนเป็นพันเป็นหมื่นคน โดยไม่คิดสตางค์ เเต่มีเงินสำหรับเลี้ยงอโรคยาศาลาตลอด เพราะบริเวณด้านหน้าของอโรคยาศาลามีพระนาคปรกขอมประดิษฐานทับเเผ่นศิลาที่สลักด้วย ยันต์โสฬสอริยทรัพย์ ถูกผูกอักขระขึ้นโดยพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณในสมัยนั้น ยันต์โสฬสอริยทรัพย์นี้จะดึงดูดความเป็นศิริมงคล ความอุดมสมบูรณ์ลาภผลมาไม่ขาด…
    เวลาผ่านเลยพระนาคปรกขอมเเละแผ่นศิลาที่สลักยันต์โสฬสอริยทรัพย์ได้สูญหายไป เเต่มีเรื่องเล่าลือกันว่า เทวดาเป็นคนนำไปเก็บไว้ในที่อันสมควร เมื่อมีผู้ทรงความดีพร้อม เทวดาจะมาสอนผูกยันต์โสฬสอริยทรัพย์ในญาณทัศนะ หลวงปู่เนื่อง วัดจุฬามณีเป็นหนึ่งท่านที่ได้รับความรู้นี้ ท่านได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้กับหลานของท่าน ต่อมาพระอาจารย์เเห่งอินทร์บุรีก็ได้รับวิชานี้มาเช่นกัน ครั้งหนึ่งพระอาจารย์บ๊ะได้เขียนยันต์โสฬสอริยทรัพย์ เเละบอกถึงวิธีการในการผูกยันต์ให้หลวงพ่อเอ ในที่สุดยันต์โสฬสอริยทรัพย์นี้ได้ปรากฏอยู่บน เหรียญอโรคยา ของบ้านสุมโนที่พวกเราได้เห็นกัน เเต่กว่าจะมาเป็นยันต์นี้ได้ หลวงพ่อเอได้ปรึกษาหารือกับพระอาจารย์บ๊ะเพื่อปรับเเก้ยันต์ให้ถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด เพราะก่อนหน้านี้ยังมีอักขระที่ผิดอยู่ เมื่อหลวงพ่อเอแก้ไขจนถูกต้องแล้ว ได้เขียนไปให้พระอาจารย์บ๊ะดูใหม่ ท่านว่าอย่างนี้ถูกต้องสมบูรณ์แล้ว อำนาจของยันต์ที่สมบูรณ์แล้ว มันดีจริงๆ ส่งกำลังออกเต็มที่เลย เยี่ยมมาก หลวงพ่อเอถึงได้นำยันต์ที่สมบูรณ์ถูกต้องแล้ว มาใส่ในเหรียญอโรคยาดังกล่าว…
    ว่าด้วยเรื่องของยันต์โสฬสอริยทรัพย์ เเละเหรียญ อโรคยา ปรมา ลาภา
    หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า
    ท่านได้รับคำสั่งให้ทำวัตถุมงคลรุ่นอโรคยานี้มาสองปีเเล้วเเต่ก็ยังไม่ลงตัวสักทีจนมาถึงช่วงเวลาวาระนี้ในวันที่หลวงพ่อท่านปรึกษาช่างทำเหรียญ ท่านยังเเอบกังวลว่าจะออกมาเป็นอย่างไร พอช่างนำเหรียญตัวอย่างมาให้ดูปรากฏว่า สวยงามเเละพอเหมาะพอดีอย่างมาก ด้านหน้าเป็นพระนาคปรกขอม (พระ ไภษัชยคุรุ) ด้านหลังเป็นยันต์โสฬสอริยทรัพย์ ทั้งสองสิ่งมงคลนี้คือตัวเเทนของ อโรคยาศาลา สมัยพระเจ้าอโศกมหาราชซึ่งได้มาอยู่บนเหรียญอโรคยารุ่นนี้แล้วเเละที่สำคัญหลวงพ่อท่านยังเป็นห่วงลูกหลานถึงอันตรายในสมัยนี้จึงได้ใส่ยันต์เพชรหลีก และยันต์บ้านสุมโนไว้ข้างองค์พระอีกด้วย
    หลวงพ่อท่านนำเหรียญรุ่นนี้ไปให้พระอาจารย์เเห่งอินทร์บุรีดู ท่านรับไปเเล้วไม่วางเลย พลิกไปพลิกมา เเละนี่คือบทสนทนาของพระเดชพระคุณทั้งสองท่าน
    พระอาจารย์บ๊ะ : โอ้โห ไม่น่าเชื่อว่าสองสิ่งนี้จะมาอยู่บนเหรียญเดียวกันเเบบนี้ได้ โคตะระสวยเลยว่ะ เเละที่สำคัญคุณรู้ไหมว่าเหรียญนี้เเม้ยังไม่ได้เสกเเต่ออกฤทธิ์ออกเดชเเล้วนะ เพราะยันต์โสฬสอริยทรัพย์นี้ถูกผูกเลขเขียนยันต์โดยคณาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษในสมัยนั้น ยันต์นี้จึงศักดิ์สิทธิ์เเละขลังด้วยตัวเอง อื้อหือสุดยอดเลยว่ะ
    หลวงพ่อเอ:กว่าจะได้ออกมาเป็นเเบบนี้ใช้เวลาสองปีกว่าเลยนะครับ กว่าจะถูกฝาถูกตัวแบบนี้
    พระอาจารย์บ๊ะ:ยังไงให้คุณเสกนำไปก่อน เดี๋ยวว่างๆผมจะมาเสกปิดให้
    ผู้เขียนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าเหรียญอโรคยานี้จะเป็นอีกหนึ่งเหรียญในตำนานเเน่นอน
    เมื่อวันที่พระอาจารย์บ๊ะมาอธิษฐานจิตปลุกเสก เหรียญอโรคยา ที่บ้านสุมโนนั้น
    พอท่านลืมตาขึ้นพร้อมกับหยิบเหรียญอโรคยาเเล้วพูดกับหลวงพ่อเอว่า “เหรียญนี้ดีนะ ท่านมาบอกว่า ถ้าไม่สบายใจให้เอาเหรียญนี้เเช่น้ำ เเล้วท่องคาถาพาหุง โดยใช้คำย่อมาเหลือเเค่ ๘ ตัว พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ อธิษฐานขอให้รักษาโรคภัยไข้เจ็บก็ได้จะขอทรัพย์สินเงินทองก็ได้ เปรียบเหมือนสารพัดนึก ท่านมากันเพียบเลยนะงานนี้”


    ประสบการณ์สำหรับเหรียญรุ่นนี้ ทางเกษมธรรมบำเพ็ญบุญได้นำมาลงไว้ดังนี้ครับ
    หลายเดือนก่อนมีพี่ชายที่ผู้เขียนเคารพเล่าให้ฟังว่า พนักงานที่บริษัทเค้าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิดเนื่องจากคนในครอบครัวติดเชื้อกันไปหลายคนสร้างความตื่นเต้นให้กับพี่เค้ายิ่งนัก เเต่ด้วยความเป็นเจ้านายที่มีเมตตาต่อลูกน้อง ช่วงก่อนหน้านี้พี่เค้าได้บูชา #เหรียญอโรคยา เเจกพนักงานทุกคน… ผู้เขียนล่ะอยากกรอกใบสมัครเป็นพนักงานบริษัทนี้จริงๆ เจ้านายในฝันเลยครับคุณผู้ชม…
    กลับมาเข้าเรื่องก่อนจะเตลิดไปไกล อาจเป็นเพราะพี่เค้าเเจกเหรียญอโรคยาให้พนักงานนี่เองทำให้ทุกคนในบริษัทที่พกเหรียญอโรคยาไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดแล้วผลออกมาเป็นลบ รอดพ้นจากการติดเชื้อโควิดทุกคนเเม้จะใกล้ชิดสัมผัสกับผู้ติดเชื้อก็ตามเรียกได้ว่ารอดได้อย่างหวุดหวิด
    ลูกศิษย์หลวงพ่อเออีกท่านหนึ่งมีลูกน้องในสายงานที่ทำงานใกล้ชิด คลุกคลีกันอยู่ทุกวัน ติดโควิดทั้งหมด ๗ คน ถ้าผู้เขียนอยู่ในสถานการณ์นี้คงเครียด ใจคอไม่ดี เป็นช่วงขาขึ้นของชีวิตเเน่ๆ (ขาขึ้นก่ายหน้าผาก 1f605.png ) พี่เค้าเลยตัดสินใจไปตรวจ ปรากฏว่ารอด…ตรวจไม่พบเชื้อซึ่งวัตถุมงคลที่เค้าติดตัวตลอดก็คือ เหรียญอโรคยาเช่นกัน
    ประสบการณ์ที่ได้ยินมาล่าสุดเป็นของพระอาจารย์มหาชมพู ท่านเล่าว่า มีเจ้าหน้าที่มาตรวจหาเชื้อโควิดให้กับพระทุกรูปที่วัดของท่าน ปรากฏว่ามีพระรูปหนึ่งที่สนิทสนมคุ้นเคยกับพระอาจารย์มหาชมพูเป็นอย่างดี ทำสังฆกรรมในโบสถ์ด้วยกัน สวดมนต์ใส่กันชนิดว่าสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ปะทะหน้ากันเเละกันเลยทีเดียว ที่สำคัญไม่มีใครใส่แมสก์อีกต่างหาก หลังจากผลตรวจออก พระรูปนั้นติดเชื้อโควิด แล้วอาการท่านก็ทรุดหนักอย่างรวดเร็วอาจด้วยเพราะได้รับเชื้อมานานเเล้ว โอ้วว คุณพระช่วย… เเล้วพระอาจารย์มหาชมพูของเราล่ะ…เเต่ปาฏิหาริย์ก็มีจริง พระอาจารย์มหาชมพูรอด ตรวจไม่พบเชื้อโควิด ทั้งๆที่เป็นการตรวจเเบบเข้าห้องเเล็บ ตรวจอย่างละเอียดเเล้วต้องรอผลตรวจอีก ๑ วันก็ตาม มีคนถามท่านว่า “พกของดีอะไรครับ” ท่านตอบว่า “เหรียญอโรคยาเนื้อเงิน”
    เหรียญอโรคยานี้หลวงพ่อเอจัดสร้างก่อนที่เชื้อไวรัสโควิดจะระบาดเมื่อปีที่เเล้วไม่ถึงเดือน โดยท่านได้รับคำสั่งจากครูบาอาจารย์ว่าถึงเวลาเเล้วที่ต้องทำวัตถุมงคลรุ่น อโรคยาขึ้น ณ เวลานั้น ผู้เขียนยังนึกภาพไม่ออกว่า ถึงเวลาเเล้วคืออะไร เวลาผ่านไป ๑ ปีกว่า ตอนนี้ผู้เขียนได้คำตอบเเล้วล่ะครับ ว่าทำไมหลวงพ่อเอถึงต้องสร้างเหรียญรุ่นนี้ขึ้นมา นอกจากนั้นด้านหลังของเหรียญอโรคยาคือยันต์โสฬสอริยทรัพย์ที่เน้นด้านลาภผล ความอุดมสมบูรณ์ ต้องกันโรคเเละกันอดไปพร้อมๆกัน ต้องยอมรับว่าเหมาะกับยุคสมัยนี้จริงๆครับ


    ผมมีอยู่ 2 เหรียญให้บูชา เหรียญละ
    ปิดรายการ บาทจัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ
    IMG_3777.JPG IMG_3778.JPG IMG_3779.JPG IMG_3780.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2021
  4. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ห้บูชารูปหล่อหลวงปู่กวย เนื้อทองฝาบาตร ใต้ฐานบรรจุเกศาและมวลสารสำคัญของหลวงปู่กวย เช่นจีวร ทรายเสก พลอยเสก ผงจินดามณี ผงเก่าต่าง ๆ ของหลวงปู่กวย ออกที่วัดเดิมบาง มีนาคม 2562 ด้
    สำหรับรุ่นนี้มีข้อมูลจากเก็บตกบ้านเติมบุญเดือนเมษายน 62 พระอาจารย์เล็กได้กล่าวว่า

    พอเสกเหรียญพญาเต่ามังกรหยกของท่านอาจารย์เทพเสร็จ รุ่งขึ้นก็ไปเสกเหรียญรุ่นกตัญญูให้กับอาจารย์ปุญญพัฒน์ที่วัดเดิมบาง ได้ยินชื่อวัดแล้วคุ้น ๆ ไหม อยู่อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี อาจารย์ปุญญพัฒน์เป็นลูกศิษย์ ป.บส. รุ่นห่างจากอาตมา ๑๐ รุ่น อาตมาเป็น ป.บส. รุ่นแรก ท่านอาจารย์ปุญญพัฒน์เป็นรุ่นที่ ๑๐
    ไปถึงท่านมารับด้วยตัวเอง พารถวิ่งขึ้นไปบนหญ้าญี่ปุ่นที่ปูไว้ข้างพิพิธภัณฑ์เรือนไทย ถามท่านว่า “เฮ้ย..ขึ้นได้หรือ ?” “ได้ครับ วีไอพีต้องขึ้นได้” เกรงใจท่าน เนื่องจากไม่มีที่จอดรถ ที่จอดเต็ม ท่านพาไปที่พิพิธภัณฑ์เรือนไทย วิ่งขึ้นไปบนหญ้าที่ปูไว้อย่างดีเลย
    เข้าไปกราบคุยกับหลวงปู่สมบุญ วัดลำพันบอง อำเภอหนองหญ้าไซ พระเถระอาวุโสมาก อายุ ๙๖ ปี แล้วก็มีหลวงพ่อแดง วัดฝาโถ สักครู่หนึ่งหลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอก็มาถึง อีโล้งโช้งเช้งตามแบบของท่านนั่นแหละ คนเข้าไปถ่ายรูปหลวงพ่อเกาะ “เฮ้ย ๆ ๆ ใครอนุญาตมึงวะ ?” อีกฝ่ายไม่สนใจ กดเอาไว้ก่อน แล้วก็หลวงพ่อจำนงค์จากตาคลี ท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอ นั่งคุยกันพอได้เวลาก็พากันไป"ก่อนจะเข้าไปในโบสถ์ เจอฆราวาสลูกศิษย์อาวุโสของหลวงพ่อกวย ก็คือท่านอาจารย์สมจิตร เทียนจันทร์ คนไม่รู้จักชื่อหรอก คนเขาเรียกฉายา เฒ่าสุพรรณ ก็เข้าไปคุยด้วยก่อนเข้าโบสถ์ อาจารย์เฒ่าบอกว่า "อาจารย์..ช่วยลงหัวให้ผมหน่อย" อาตมาก็สะดุ้ง "เฮ้ย..ปกติหลวงพ่อกวยท่านลงให้แล้วนี่ ท่านไม่ให้ใครลงซ้ำนะ" ปรากฏว่าหลวงพ่อกวยท่านมาด้วย "มันอยากได้ ลงให้มันไปเลย" ก็เลยลงให้ท่านไป

    พอเข้าโบสถ์ กราบพระเสร็จ ขยับจะขึ้นที่นั่ง ปรากฏว่าหลวงพ่อกวยท่านลากพรวดขึ้นไปบนอาสนะที่เขาปูไว้ให้ท่าน อาตมาเองก็สะดุ้ง ปรากฏว่าขยับไม่ได้ โดนหลวงพ่อกวยท่านกดแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น กราบเรียนท่านว่า "หลวงพ่อทำอย่างนี้เดี๋ยวคนอื่นฆ่าผมตาย" ท่านบอกว่า "ไม่เป็นไร ในเมื่อไอ้เฒ่ายอมรับเอ็ง ข้าก็ใช้เอ็งเต็มที่ละนะ" นั่งอยู่เป็นชั่วโมงท่านไม่ให้กระดิกเลย ทรมานสุด ๆ

    แต่ก็ต้องถือว่าบุญของอาจารย์ปุญญพัฒน์ท่านดี สร้างเหรียญถวายครูบาอาจารย์ เพราะว่าเหรียญโล่ของหลวงพ่อกวยที่ดังนักดังหนา วัดเดิมบางสร้างให้ รุ่นนี้เท่ากับย้อนยุค แล้วหลวงพ่อกวยท่านก็มาสงเคราะห์ให้จริง ๆ"ปกตินั่งพุทธาภิเษก อาตมาก็จะนั่งท่าสบาย ประเภทพิงบ้าง หลังโก่งบ้าง คอตกบ้าง แล้วแต่ถนัด เพราะว่าจะนั่งได้นาน ปรากฏว่าเจอหลวงพ่อกวยท่านนั่งทับ อาตมาก็เลยโดนกดอยู่ท่านี้ ตัวตรงแหน็ว กระดิกไม่ได้ แข็งทื่ออยู่เป็นชั่วโมงกว่าท่านจะยอมปล่อย...เกือบตาย เจอครูบาอาจารย์เล่นแบบนี้ก็แย่ แต่ต้องบอกว่าวัตถุมงคลรุ่นนี้ท่านเสกให้แบบสุดหัวใจจริง ๆ

    หลวงพ่อกวยเป็นพระที่รักลูกศิษย์มาก ลูกศิษย์คนไหนระลึกถึงท่าน ขอให้ท่านช่วย ถ้าไม่เกินความสามารถท่านก็ช่วย ท่านไม่สนใจว่าคุณจะทำดีหรือทำชั่ว หลวงพ่อกวยสนใจอยู่อย่างเดียวว่าลูกศิษย์เคารพท่านไหม ถ้าเคารพท่าน ต่อให้ติดคุกอยู่ ท่านก็ไปช่วย ท่านบอกว่าคนเราไม่ใช่พระโสดาบัน จะได้ไม่ทำอะไรผิดเลย เพียงแต่ว่าผิดแล้วให้รู้แก้ไข ให้เป็นคนมีสัจจะ ให้ถือครูบาอาจารย์เป็นที่พึ่ง

    ไม่ต้องห่วง...หลวงพ่อกวยท่านยังจะไปเกิดอีกนาน มาสายพุทธภูมิเต็ม ๆ อีกไม่กี่วันก็เป็นวันมรณภาพของหลวงพ่อกวย แต่อาตมาไปไม่ได้ เพราะว่าติดงานเปิดปฏิบัติธรรมที่วัด หลวงพ่อกวยท่านมรณภาพ ๑๒ เมษายน ทุกปีก็จะมีงานทำบุญถวายท่าน บรรดาลูกศิษย์ก็ไปลองวิชากันที่วัดนั่นแหละ เหมือนอย่างกับวันโชว์วัตถุมงคลหลวงพ่อกวยว่าใครมีรุ่นไหนบ้าง ก็พกกันไป เพราะฉะนั้น ๑๒ เมษายน ถ้าใครว่างก็แวะไปวัดบ้านแคหรือวัดโฆสิตารามนะ อยู่ที่สรรคบุรี จังหวัดชัยนาท"

    ผมให้บูชาองค์ละ ปิดรายการ ค่าจัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ
    IMG_3783.JPG IMG_3784.JPG IMG_3785.JPG IMG_3786.JPG เดิมบาง.jpg เดิมบาง๑.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2021
  5. พื้นทราย

    พื้นทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2015
    โพสต์:
    753
    ค่าพลัง:
    +625
    ขอจอง 1 เหรียญครับ
     
  6. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    รับทราบการจองเหรียญอโรคยาครับ
     
  7. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,243
    ค่าพลัง:
    +6,456
    ขอจอง1เหรียญครับ
     
  8. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    รับทราบครับ ขอบคุณครับ
     
  9. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ให้บูชาสมเด็จขวานฟ้า ของหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน
    สำหรับรุ่นนี้มีข้อมูลดังนี้
    สมเด็จขวานฟ้าโลกอุดร สร้างจากผง หลวงปู่เทพโลกอุดร (ผสมผงพระธาตุ 500 อรหันต์), ผงหลวงปู่ดู่ วัดสะแก (ได้รับจาก หลวงตาม้า), แร่วิเศษจากจังหวัดเลย, เพชรน้ำค้าง และ ขี้เหล็กไหล (โคตรเหล็กไหล) จากถ้ำศักดิ์สิทธิ์ จังหวัดชัยภูมิ, เพชรหน้าทั่ง
    มวลสารพิเศษ โรยผงขวานฟ้า ซึ่งบดเป็นผงแล้วโรยหน้าพระ ผงขวานฟ้าจะมีอานุภาพ เทียบเท่ากับขวานฟ้าที่เป็นหินเพราะนำเอาขวานฟ้าที่เป็นหินมาบดแล้วก็โรยที่องค์พระ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก สามารถสะกดอาถรรณ์ และถอนอาถรรร์ต่าง ๆ ได้ดีมาก เหมือนขวานฟ้าทองสัมฤทธิ์ แต่เป็นรองอยู่นิดหน่อย ขวานฟ้าเป็นสิ่งลึกลับที่เกิดจากการกระทำของวิญญาณชั้นสูงที่มีฤทธิ์ อำนาจมาก วิญญาณชั้นสูงหมายถึงเทพยดาที่อยู่ในท้องฟ้าหรือเรียกว่าอากาศเทวดา ซึ่งเดิมที่เป็นมนุษย์ได้แก่ พระภิกษุสงฆ์ที่สำเร็จอภิญญาสมาบัติ บ้างก็เป็นฤาษีที่สำเร็จฌาน
    ขวานฟ้าเป็น เทหวัตถุ ที่ตกลงมาจากท้องฟ้า เป็นต้นว่า เศษของอุกาบาตมักจะตกลงมาในยามที่เกิดพายุฟ้าคะนองท้องฟ้าปั่นป่วนอย่าง รุนแรงมหาศาล ขวานฟ้าที่แท้จริงมีเทพยดาเข้าสิงอยู่นั้นมีอานุภาพทาง มหาอุด คงกระพันชาตรี ถ้าปกติจะเป็นไปในทางแคล้วคลาด ที่เห็นผล เด็ดขาดทันตาคือ เอาแช่ทำเป็นน้ำมนต์ แก้คุณไสย์แก้พิษไฟลวกไฟไหม้ แก้พิษงูเห่า คัดเลือดสมานแผลให้สนิทได้เร็ว ผีปอบเข้า หรือผีเข้าเจ้าสิงกลัวขวานฟ้ามาก เข้าป่าลงน้ำสัตว์ร้ายไม่เข้าใกล้ ห้ามเอาไปแช่งชักหักกระดูกคน เพราะจะให้ผลรวดเร็วรุนแรงดังคำสาปแช่ง ห้ามทำเด็ดขาดเพราะบาปมาก บาปนั้นจะย้อนกลับมาสนองตนเองในภายหลังแบบดาบนั้นคืนสนองมาตัดคอเราให้ขาดสะบั้นนั่นเอง
    พระรุ่นนี้นอกจากหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนาแล้ว ยังได้รับการอธิษฐานจิตจากพระเถระอื่นๆ ในพิธีใหญ่อีก ดังนี้
    1. ครูบาหน้อย วัดบ้านปง
    2. ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง
    3. ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    4. หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
    5. หลวงปู่ดาบส สุมโน
    ผมให้บูชา 1000 พร้อมส่ง จองได้สามวันครับ IMG_3795.JPG IMG_3796.JPG IMG_3797.JPG

     
  10. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ให้บูชาพระนาคปรกใบมะขามเนื้อทองแดง รุ่นแรก ของหลวงปู่สุภา กันตสีโล ออกที่วัดสีลสุภาราม ภูเก็ต สำหรับรุ่นนี้เสกพร้อมแมงมุมตาเพชร อันลือลั่น และจระเข้อุดไม้ทองหลางอาคม รุ่นแรก สำหรับปรกมะขามรุ่นนี้ หลวงปู่สุภาบอกกับลูกศิษย์ว่า พญานาครักษาถึง 9 องค์เลยครับ เหมาะกับเด็กและสตรีเป็นอย่างยิ่ง ด้านหลังเป็นแมงมุมดักทรัพย์ เรียกว่า เด่นทั้งด้านลาภและแคล้วคลาดในองค์เดียวกันครับ
    หลวงปู่สุภาท่านเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านได้วิชาแมงมุมดักทรัพย์มาจากหลวงปู่ศุข ท่านทำขึ้นเป็นเอกอุมีประสบการณ์มาก ท่านอายุยืนถึง ๑๑๘ ปี เลยครับ ท่านมรณภาพแล้วสรีระไม่เน่าเปื่อย ภายหลังทางวัดคอนสวรรค์ได้เผาสรีระของท่าน แต่อัฐิธาตุของท่านเปลี่ยนเป็นสีต่าง ๆ
    พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ในสมัยก่อนที่ท่านลงไปรับสังฆทานที่ภูเก็ต ถ้ามีโอกาสจะแวะกราบหลวงปู่สุภาบ่อยครั้งครับ พระอาจารย์ที่อินทร์บุรีให้การยอมรับในหลวงปู่สุภามาก
    รายการนี้เพื่อนผมฝากมาครับ(เนื่องจากไม่มีรายได้) บูชา 400 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    IMG_3494.JPG IMG_3495.JPG
     
  11. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ให้บูชาแก้วเติมบุญ เพชร cz จำนวน 3 เม็ด ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษก 8 วาระได้เเข้ากรรมฐาน 3 วัน ปี 2559 ณ วัดท่าขนุน ซึ่งแก้วเติมบุญได้ให้บูชาเนื่้องในฉลองบ้านเมื่อปี 2560 ที่บ้านเติมบุญ
    แก้วเติมบุญชุดนี้ได้ทำการจัดสร้างและได้ขอออนุญาตเข้าพิธีอย่างถูกต้องโดยชมรมโมทนาบุญพลังจิต อย่างเป็นทางการ ซึ่ง ได้ผ่านพิธีใหญ่ ๆ สำคัญคือ
    1. พิธีพุทธาภิเษก (เสาร์ 5) ณ วัดท่าขนุน เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน 2558 พิธีพุทธาภิเษกสมเด็จองค์ปฐมและพระกริ่งปลดหนี้สองแผ่นดิน
    2. พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ เมื่อวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2558 ซึ่งเป็นพุทธาภิเษกตะกรุดมหาสะท้อน รุ่น 5 เนื้อทองคำ
    3. พิธีพุทธาภิเษก เสาร์ 5 ณ วัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2558 เป็นพิธีพุทธาภิเษกเหรียญของขวัญปีใหม่ 2559 และเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ (ฉลองพระอุปัชฌาย์เนื้อเงิน
    4. พิธีสวดพระคาถาเงินล้าน 108 จบ ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ที่ บ้านวิริยบารมี ในวันเสาร์ที่ 9 มกราคม 2559
    5. พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2559 เป็นพิธีที่มีแก้วจักรพรรดิ์ของวัดท่าซุงเป็นประธาน เป็นการรวมศิษย์สายวัดท่าซุงอย่างครบครับ
    6. พิธีพุทธาภิเษกในพิธี เสาร์ 5 ณ วัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม 2559 ซึ่งเป็นพิธีพุทธาภิเษกพระขุนแผนเกราะเพชร
    7. พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2559 ซึ่งพระอาจารย์ได้ร่วมเสกวัตถุมงคลครับ
    และครั้งสุดท้ายนี้ พระอาจารย์ได้เมตตาอนุญาตให้นำเข้ากรรมฐาน 3 วัน ปี 2559 ช่วงเดือนตุลาคม 2559
    ให้บูชา
    ปิดรายการ จัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ
    IMG_3781.JPG IMG_3782.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2021
  12. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ให้บูชา เหรียญมหาโชคด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงปู่บุดดา ถาวโร สร้างปี พ.ศ.2530 ที่ระลึกสร้างพระอุโบสถวัดดงเย็นมหาวิหาร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด
    พระเครื่องของหลวงปู่บุดดา ราคาไม่แรง เรียกว่าราคาหลักร้อยพุทธคุณหลักล้านครับ ท่านเป็นพระอรหันต์ที่องค์หลวงพ่อวัดท่าซุงให้การยอมรับ องค์หลวงปู่ดู่ วัดสะแก องค์หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง องค์หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม หรือกระทั่งหลวงพ่อคูณเอง ก็ล้วนให้การยอมรับนับถือครับ พระเครื่องของท่านกลับไม่เป็นที่นิยมของในตลาดพระเครื่อง ทำให้ราคาพระเครื่องของท่านไม่แรง แต่กลับเป็นผลดีสำหรับผู้ที่จะหาพระเครื่องที่มีอานุภาพสูงมาไว้ติดตัว ถ้าเทียบกับพระเครื่องบางรุ่นของบางอาจารย์ที่มีราคาแรงเพราะมีการเชียร์แล้ว พระเครื่องของหลวงปู่บุดดาน่าห้อยติดตัวแบบแขวนเดี่ยวได้เลยครับ เพราะมีประสบการณ์มากมายไม่ว่าจะเด่นด้านเมตตา ไม่ว่าเป็นเรื่องโชคลาภ แม้กระทั่งโดนยิงจนตกรถมอเตอร์ไซค์แล้วไม่เป็นอะไรก็มีมาแล้ว หลวงปู่บุดดาท่านเป็นที่รู้จักกันทั่วแล้วคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากครับ
    ลองห้อยดูครับ จะรู้ว่าพระของท่านดีจริง ผมขอเชียร์จากใจครับ
    หลวงปู่บุดดาท่านเป็นสหธรรมิกของหลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุง องค์หลวงพ่อยืนยันว่าท่านเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ
    หลวงปู่ดู่เองยังรับแป้งเสกจากหลวงปู่บุดดาแล้วทาที่ศรีษะท่านเลยครับ หลวงปู่ดู่บอกว่าพระอรหันต์ให้ของสูงก็ต้องไว้ที่สูง
    หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพงไม่ยอมให้หลวงปู่ลงมารถมาหา ท่านต้องขึ้นไปกราบหลวงปู่บุดดาเองที่รถ
    หลวงพ่อคูณเองมากราบหลวงปู่บุดดาถึงรถ พระสุปฏิปันโนหลาย ๆ องค์ให้ความเคารพหลวงปู่มากครับ
    เคยมีลูกศิษย์สายครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับความศักสิทธิ์ของหลวงปู่กวยให้ฟัง ครูบากฤษดาบอกว่าเดินลัดทุ่งไปหน่อยจะมีพระอรหันต์องค์นึงมีความเก่งและความศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้หลวงปู่กวยเลย ซึ่งท่านได้บอกว่าองค์นั้นคือ หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข
    ให้บูชาพร้อมกันเลยทั้งสามเหรียญ ชุดนี้บูชา
    400 ต่อทั้งหมดสามองค์ครับ จัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ
    พระเครื่องหลวงปู่บุดดาราคาไม่แรง เก็บให้ลูกหลานห้อย หรือให้คนที่เรารักห้อยเดี่ยวได้เลยครับ พระอรหันต์อธิษฐานจิตย่อมไม่ธรรมดา
    IMG_3745.JPG IMG_3746.JPG _paragraph____1_732.jpg _paragraph__14_947.jpg _paragraph__19_954.jpg 32896095_884268651757099_8281438318172831744_n.jpg
     
  13. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    สนใจรายการไหนสอบถามได้ครับ
     
  14. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ให้บูชาพระปัจเจกพุทธเจ้าเนื้อดิน ปี 35 เสกที่วัดท่าซุง ในพิธีพุทธาภิเษกสมเด็จองค์ปฐมรุ่นแรก วัดท่าซุง โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง(หลวงพ่อฤๅษี)
    สำหรับข้อมูลรุ่นนี้
    รุ่นนี้ได้จัดสร้างถวายโดย นาวาโท ไตรรงค์ หงส์สง่า กรมสรรพาวุธทหารเรือบางนาในสมัยนั้น โดยมวลสารหลักๆ จะประกอบไปด้วยผงพระเครื่องเก่าต่างๆ รวมถึงมวลสารพระเครื่องของเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ และผงไม้ไผ่กวนอิม เป็นมวลสารหลักในการจัดสร้าง จะแก่มวลสารมาก
    จำนวนการจัดสร้างไม่มากเนื่องจากมวลสารมีจำกัด ได้พุทธาภิเษกที่วิหารแก้วร้อยเมตร เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2535 พร้อมกับสมเด็จองค์ปฐมลอยองค์รุ่นแรก พระคำข้าวรุ่นพิเศษและอื่นของทางวัดท่าซุง ซึ่งคณะผู้จัดสร้างได้ขออนุญาตนำเข้าพิธีอย่างเป็นทางการครับ
    มีคนนำรุ่นนี้ไปให้พระอาจารย์ทีอินทร์บุรีดู ท่านยังชอบเลยครับ บอกว่าไม่ค่อยได้พบเห็น
    ใช้ควบคู่ก้บพระคาถาเงินล้านครับ

    สำหรับองค์นี้มีบิ่นมุมซ้ายไปหน่อยครับ แต่อานุภาพอยู่ครบ
    ให้บูชา 350 จัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ
    IMG_3805.JPG IMG_3806.JPG IMG_3807.jpg
     
  15. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ให้บูชาเชือกแดงจาตุเทวะ ของ พระอาจารย์เอ บ้านสุมโน
    สำหรับพิธีเสกเชือกแดงและรายละเอียดมีดังนี้(จากเกษมธรรมบำเพ็ญบุญ)

    วัตถุมงคลที่เป็นหัวใจหลักอีกหนึ่งรายการของพิธีพุทธาภิเษก เสาร์ ๕ ไตรโลกา คือ เชือกแดงจาตุเทวะ หลวงพ่อเอ ท่านมักจะพูดเสมอว่า ท่านพยายามหลีกเลี่ยงการทำเชือกเเดง มาโดยตลอด เพราะพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงได้ทำไว้เเล้ว ที่สำคัญท่านควั่นปมเชือกด้วยสมาบัติ ๘ เลยทีเดียว…แต่สุดท้ายหลวงพ่อเอก็หนีไม่รอด มีคำสั่งฟ้าผ่าลงมาก่อนวันงานพุทธาภิเษกเเค่ ๑ วันเท่านั้น ว่าให้หาเชือกเเดงมาเข้าพิธีเเล้ว ท้าวมหาราชจะเสกให้…ตรงส่วนนี้จะเห็นว่า เชือกแดงจาตุเทวะนี้เป็นคนละอย่างกับเชือกเเดงสมาบัติของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงอย่างชัดเจน…
    นับเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีการเตรียมตัวมาก่อนล่วงหน้า เเต่ด้วยความเชื่อมั่นว่า ถ้าเป็นคำสั่งจากเบื้องบน จะต้องหาเเละทำออกมาจนสำเร็จได้อย่างเเน่นอน
    แล้วก็จริงตามนั้น สามารถหาเชือกเเดงมาได้จำนวนหนึ่ง แต่ก็มีจำนวนไม่มาก
    เชือกเเดงจาตุเทวะ สามารถนำมาตัดตามขนาดที่ต้องการ ไม่ว่าจะทำเป็นสร้อยคล้องคอ สร้อยข้อมือ หรือ จะใส่หลอดเป็นตะกรุดก็ได้ แล้วเเต่สะดวก…
    เมื่อหลวงพ่อเอเสกในวาระเเรก ท่านเล่าให้ฟังถึงนิมิตที่เกิดขึ้นว่า ท่านพ่อท้าวมหาราชทั้ง ๔ องค์ ยืนเรียงกันเครื่องทรงเต็มยศ ระยิบระยับเเพรวพราวไปหมด ร่วมด้วยช่วยกันอัดเสก ลงกองวัตถุมงคล โดยท่านสั่งให้หลวงพ่อ ท่องชื่อโรคไข้ให้ฟัง หลวงพ่อเอก็ท่องไปเรื่อยๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้โค… ไข้เลือดออก ไข้คอตีบ ไข้กาฬหลังเเอ่น ฯลฯ ท่านพ่อท้าวเวสสุวรรณจึงบอกว่า นึกชื่อไข้ได้เเค่ไหนก็จะคุ้มครองให้เท่านั้น เเต่ด้วยความรอบคอบเเละปฏิภาณไหวพริบของหลวงพ่อเอ ท่านจึงรีบขอพรต่อทันทีว่า ขึ้นชื่อว่าไข้ใดๆทั้งที่นึกได้ก็ดี นึกไม่ได้ก็ดี ที่อยู่บนโลกนี้ ขอความเมตตาคุ้มครองให้ลูกหลานด้วยนะครับ… เป็นความเมตตาของหลวงพ่อเอที่มีต่อลูกศิษย์จริงๆ
    ในระหว่างพิธี ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ก็ยังคงอัดเสกอย่างต่อเนื่อง อานุภาพของอาวุธประจำกายเมื่อเเผ่ลงยังกองวัตถุมงคล ส่งผลให้เกิดเป็นเปลวไฟเเก้วลุกโชน สว่างไปทั่วบริเวณ นับว่าเป็นเรื่องเเปลก ในวันนั้นทั่วพื้นที่ของกรุงเทพฯ เเละปริมณฑลมีเมฆครึ้ม ฝนตกเเทบจะทุกพื้นที่ เเต่บริเวณรัศมี ๑ กิโลเมตรรอบบ้านสุมโน กลับสว่างและมีเเสงแดดอ่อนเป็นช่องอยู่หย่อมเดียว ได้ยินหลวงพ่อท่านว่า งานนี้เป็นการเสกวัตถุมงคล ด้านป้องกัน จึงทำให้ต้องใช้กระเเสความร้อนเเละเเสงสว่าง จะมีฝนไม่ได้เด็ดขาด มิฉะนั้นจะไม่เป็นไปตามนิมิต…
    ขณะที่ท่านพ่อท้าวมหาราชกำลังใช้อาวุธประจำกายเสกลงกองวัตถุมงคลท่านได้บอกถึงนัยยะสำคัญของเชือกเเดงจาตุเทวะ ว่า
    จักรของพ่อท้าววิรูปักษ์ จะช่วยป้องกันโรคที่มาทางน้ำ
    พระขรรค์ของพ่อท้าวธตรฐ จะช่วยป้องกันโรคที่มาทางอากาศ
    พลองสั้นของพ่อท้าววิรุฬหก จะช่วยป้องกันโรคที่มากับสัตว์
    กระบองยาวของพ่อท้าวเวสสุวรรณ จะช่วยป้องกันภูติผี วิญญาณร้าย คุณผี คุณคน ไสยศาสตร์ มนต์ดำทั้งหลาย
    หลวงพ่อเอรู้สึกประหลาดใจว่า โรคในอนาคตจะ ระบาด ทวีความรุนเเรงซ้ำเติม มวลมนุษย์หนักขึ้นถึงเพียงนี้เชียวหรือ…?
    และท่านยังให้พรต่อไปอีกว่า หากที่บ้านมีเด็กที่เลี้ยงยาก เช่น ร้องไห้กระจองอเเงอย่างไม่มีเหตุผล (ซึ่งตรงนี้คนละความหมายกับเด็กดื้อ) ก็นำเชือกเเดงจาตุเทวะให้เค้าพกติดตัวซะ นอกจากนั้นเชือกเเดงจาตุเทวะ ยังมีอำนาจช่วยป้องกันสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษที่เป็นอันตรายได้อีกด้วย
    งานนี้ท่านพ่อท้าวมหาราชได้สั่งการให้เทวดาชั้นจาตุมหาราช ซึ่งเป็นบริวารของท่านโดยตรง เเละเป็นเทวดาที่อยู่ใกล้ชิดกับโลกมนุษย์มากที่สุด กำกับดูเเลเชือกเเดงนี้ทุกเส้น จึงเป็นที่มาของชื่อ เชือกแดงจาตุเทวะ นั่นเอง


    และข้อมูลของพระอาจารย์เอท่านได้กล่าวถึงเชือกแดงว่า(นำข้อความบางช่วงบางตอนที่ท่านได้กล่าวถึงเชือกแดง)

    หลังจากนั้น ท่านท้าวมหาราชได้ย้ายกำลังมาในส่วนของเชือกแดง คราวนี้ ท่านเรียกประชุมบริวารของท่านทั้งหมด มาทุกหมวดหมู่ เพื่อเข้ากำกับดูแลวัตถุมงคลแต่ละชิ้น
    ขณะที่จะเสกเชือกแดงนั้น ท่านยืนเปลี่ยนตำแหน่ง โดยยืนเรียงกันตามอาวุโส มีอาวุธครบมืออยู่ แล้วเปล่งรัศมีทั้งหมดทุกองค์พร้อมกัน ใสเป็นแก้วปนทอง ลงกองวัตถุมงคลไม่ยั้ง ทุกอณูของเชือกถูกอัดเสกอย่างเต็มกำลัง ได้ยินเสียงของท่านพ่อเวสสุวรรณถามว่า ท่านจำชื่อไข้อะไรได้บ้าง ช่วยท่องให้ฟังหน่อย เอาล่ะสิ...คราวนี้เลยต้องนึกกันยกใหญ่ เคยเรียนอะไรมาบ้างก็ท่องเรื่อยไป ตั้งแต่ ไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ ไข้รากสาดน้อย ไข้รากสาดใหญ่ ไข้อหิวาตกโรค ไข้คอตีบ ไข้กาฬหลังแอ่น ไข้ทรพิษ ไข้พิษสุนัขบ้า ไข้โค.... และอีกสารพัดไข้ แม้ไม่รู้จะใช่ไข้หรือเปล่า ก็เหมาว่าเป็นไข้ให้หมด นั่งนึกจนหมดไส้หมดพุงแล้ว ท่านว่า นึกได้แค่ไหน ก็คุ้มครองให้แค่นั้น เอ้า เอ้า เอาแล้วไง คราวนี้เลยนึกต่อทันทีว่า อะไรที่ขึ้นชื่อว่าไข้ จะเคยเกิดขึ้นแล้ว หรือที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ก็ขอให้คุ้มครองทั้งหมดด้วยนะครับ ท่านยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เสียท่า... อุตส่าห์นั่งท่องตั้งนาน เลยไม่รู้ว่าท่านเมตตาให้ระดับไหน แต่เชื่อมั่นว่า ท่านมีความเมตตาสูง ย่อมคุ้มครองบุคคลผู้มีความเคารพอย่างแน่นอน ท่านว่า นึกไว้ให้ครอบคลุมก็ดีแล้ว โรคที่เคยหายไปก็อาจกลับมาได้ แต่จะมาในรูปแบบใหม่...
    เมื่อท้าวมหาราชต่างส่งกำลังลงที่กองเชือกแดง จนเชือกกลายเป็นแก้วประกายแดงใสๆ ท้าวเวสสุวรรณจึงพูดว่า ฉันจะสงเคราะห์เกี่ยวกับอันตรายที่มองไม่เห็น จะเป็นภูตผีปิศาจ คุณไสยมนต์ดำ สิ่งชั่วร้ายต่างๆ และภัยต่างๆให้ ท้าวธตรฐ จะสงเคราะห์ โรคภัยที่มาทางอากาศให้ ท้าววิรุฬหก จะสงเคราะห์โรคภัยที่มาจากสัตว์ให้ ท้าววิรูปักษ์ จะสงเคราะห์โรคภัยที่มากับน้ำให้
    อาตมากราบขอบพระคุณท่านในความเมตตาอย่างยิ่ง แต่ในใจกลับนึกเองว่า ภายภาคหน้ามันจะน่ากลัวขนาดนั้นเชียวหรือ..? ท่านถึงต้องทำให้ขนาดนี้
    ช่วงเวลานั้น อาตมาเห็นท่านปู่ท่านย่า มาพร้อมบริวารที่เกี่ยวเนื่องกันทั้งหมด อยู่ด้านหลังออกไปอีก แต่ยังคงนิ่งอยู่ ตอนนี้เชือกทั้งหมดได้รับการอัดเสกอย่างเต็มที่แล้ว สวยงามดีทีเดียว ไม่เว้นแม้แต่เชือกที่ผูกกระดิ่งลมไว้ด้วยเช่นกัน
    ลำดับต่อไป เป็นเรื่องของเทียนขี้ผึ้งแท้ ที่ผสมด้วยลูกอมพิชัยมงคล คราวนี้เห็นท้าวมหาราช หลีกออก ไปยืนด้านข้าง ท่านปู่ท่านย่า เคลื่อนเข้ามาใกล้พร้อมบริวาร สิ่งที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ คือ กองทัพเทวดา นางฟ้า มีท่านปู่ท่านย่าเป็นประธาน ท่านปู่ท่านย่า รวมกับท้าวมหาราช สว่างขึ้นพร้อมกัน น่าเกรงขามยิ่งนัก พลังงานลุกโชนขึ้นอีกครั้งคลุมเหล่าบริวารทั้งหมดด้วย แสงสว่างนั้นได้พุ่งลงที่เทียนรวมถึงวัตถุมงคลทั้งหมดในกอง ในนิมิตอาตมาเห็นกระดิ่งเขย่าส่งเสียงดังทุกใบ เชือกแดงขยับได้ เทียนทุกต้นถูกจุดไฟและตั้งขึ้น เสมือนของทุกอย่างมีชีวิตขึ้นมาอย่างนั้น ช่วงเวลานี้เป็นช่วงโหมกระหน่ำของรัศมีแสงสีต่างๆ หนักบ้างเบาบ้างสลับกันไป
    แต่สิ่งที่อาตมารู้สึกแปลกใจคือ ทำไมจักรวาลทั้งหมดจึงสว่างไปด้วย ไม่มีตรงไหนมืดเลย กำลังของเทียนที่เสกนี้ สว่างถึงเพียงนี้เชียวหรือ..? มองไปดีๆ เห็นพลังงานบางอย่างที่ลงมาจากพรหม ผ่านพรหมขึ้นไป ไกลออกไป พลังงานแบบนี้ เป็นพลังงานที่คุ้นเคยเหลือเกิน ได้ถูกส่งลงมาจากที่ไกลกว่านั้น มาอย่างต่อเนื่องนุ่มนวลไม่ขาดสาย เหมือนสายน้ำที่อ่อนโยน แต่แข็งแกร่ง พลังงานที่หลั่งไหลลงมานี้ ผสมผสานกลมกลืนอย่างละมุนละไม เข้ากับแสงสว่างของเหล่าเทวดาทั้งหลาย เมื่อมองให้ดีๆ พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง พร้อมกับท่านแม่ทั้ง ๓ พระองค์นั่นเอง เบื้องหลังคือพระพุทธเจ้า และครูบาอาจารย์ทั้งหมดบนพระนิพพาน เมื่อเห็นดังนี้จึงเข้าใจ เสียงท่านแม่พูดว่า วันนี้ยังไม่ใช่วันของฉัน จึงได้แต่เพียงช่วยสนับสนุนการเสกของวันนี้ให้เรียบร้อยราบรื่น เป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น วันนี้ให้แกทูลขออาราธนาพระพุทธเจ้าเป็นต้น เป็นประธานสำหรับงานในวันพรุ่งนี้ได้เลย เมื่อถึงเวลา พระองค์ท่าน รวมทั้งพ่อและฉัน ตลอดจนครูบาอาจารย์ทุกพระองค์บนนี้ จะช่วยพุทธาภิเษกให้อีกครั้ง อาตมารีบทำตามที่ท่านแม่สั่ง
    ตอนนี้วัตถุมงคลทั้งหมด ส่งนิมิตทั้งแสงและเสียง กระดิ่งลมก็ดี เชือกแดงก็ดี ต้นเทียนพิชัยมงคลก็ดี สว่างไสวสวยงาม ช่วงท้ายท่านได้สั่งให้เดินบริกรรมพระปริตรตามบทที่ท่านกำหนดให้ชัดๆ เพื่อกำกับวัตถุมงคลทั้งกอง อาตมาทำตามจนครบ เหล่าเทวดาทั้งหลายมีท่านปู่ท่านย่าเป็นต้น ได้ผ่อนกำลังรัศมีลงให้เป็นไปตามปกติ ได้ยินท่านปู่ท่านย่าสั่งกำชับบรรดาบริวารทั้งหมดให้เข้าดูแลวัตถุมงคลทุกชิ้น ตลอดจนท้าวมหาราช ก็ได้สั่งลูกน้องของท่าน เข้ารักษาวัตถุมงคลเฉพาะทางเช่นกัน เมื่อทุกอย่างสำเร็จเรียบร้อยดี อาตมาจึงได้กราบขอบพระคุณทุกพระองค์อีกครั้ง ก่อนจะถอนสมาธิออกมา แล้วรีบไปหาคุณหมอฟัน เพื่อให้คุณหมอทำการผ่าฟันแยกเหงือกเป็นลำดับต่อไป
    เมื่อถึงวันเสาร์ ๕ อาตมาเริ่มบวงสรวงเวลา ๘.๓๐ น. เสร็จจากขั้นตอนบวงสรวง จึงเริ่มเข้าสมาธิ คราวนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่โดยรอบ สว่างจ้ามาก ไม่เห็นกำแพง ประตูหน้าต่างไม่มี สว่างโล่งไปหมด พระนิพพานเปิดแจ่มใสชัดเจน เบื้องหน้าที่เห็นคือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงและท่านแม่ทั้ง ๓ พระองค์มาครบ ยังมีพระอรหันตสาวกและครูบาอาจารย์อีกมากที่รออยู่ เบื้องหลังคือ พระเจ้า ๕ พระองค์ ช่างสวยงาม สงบนิ่ง และทรงพลังเกินบรรยาย บรรดาเทวดาทั้งหลายที่ได้รับปากและมีหน้าที่ดูแลวัตถุมงคลทั้งหมด ยืนประจำการเหนือกองวัตถุมงคล ไม่นานรัศมีแห่งฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้าก็สาดส่องพุ่งตรงเข้าสู่กองวัตถุมงคล รวมถึงบ้านสุมโนทั้งหลัง ส่วนใหญ่อาตมามักจะเห็นรัศมีของพระองค์มาทีละสี แต่คราวนี้มาพร้อมกันทุกสี อาบคลุมทุกภพภูมิ ตั้งแต่อายตนะนิพพานกระทั่ง พรหม เทวดาทั้งหมด ตลอดจนบ้านสุมโนและกองวัตถุมงคลในวันนั้น
    ได้ยินหลวงพ่อวัดท่าซุงว่าของมีการเสกไว้แล้ว ทุกอย่างมีหน้าที่เฉพาะแล้ว วันนี้ต้องขอให้เป็นความเมตตาของพระท่านแล้วกัน ส่วนแก ให้ตั้งธาตุทั้ง ๔ ขึ้น เพื่อหนุนธาตุของวัตถุมงคลให้สมบูรณ์ที่สุด เมื่อท่านพูดจบ อาตมากำหนดใจทำตาม เห็นเพชรจักรพรรดิปรากฏข้างหน้า ขยายตัวออกห่อหุ้มกองวัตถุมงคลไว้ภายใน เพชรนั้นสวยงามแพรวพราว หมุนวนไปอย่างช้าๆ ช่างสวยจับจิตจับใจเหลือเกิน ท่านได้สอนถึงวิธีการบางอย่างในการตั้งธาตุทั้ง ๔ ให้ครบนิมิตในคราวเดียวด้วยเพชรจักรพรรดิ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่พระท่านเมตตาเสกให้อยู่ แม้อาตมาเองก็โดนสั่งให้ตั้งธาตุทั้ง ๔ เพื่อหนุนวัตถุมงคลและเข้าสมาธิให้ลึกที่สุด ดังนั้น อาตมาจึงเหมือนคนที่ดิ่งหายไปพักหนึ่ง ไม่รู้ว่าพระท่านเสกอย่างไรให้ ไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าไร ได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเองไปจนสมาธิคลายตัวออกมา
    ภาพที่เห็นข้างหน้า คือกองวัตถุมงคลเป็นประกายพรึกไปหมด ทุกพระองค์ยังคงประทับเบื้องหน้า นะ โม พุท ธา ยะ บริสุทธิ์แจ่มใส เป็นประธานอันยิ่งใหญ่ ทุกพระองค์เสกเสร็จแล้ว เห็นท่านแม่เข้ามาใกล้แล้วพูดว่า พระเสกให้ครบทั้งหมดแล้ว ทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่ตั้งใจไว้ จากนั้นท่านแม่ได้อธิบายถึงวัตถุมงคลต่างๆให้ฟังว่า
    เชือกแดงนั้น ให้ชื่อว่า เชือกแดง จาตุเทวะ เนื่องจากพ่อคุณท้าวมหาราชและบรรดาลูกน้องของท่านต่างช่วยกันสงเคราะห์ดูแล คุ้มครองป้องกันให้ทั้งหมด เชือกแดงนี้จะไม่เหมือนเชือกแดงของพ่อนะ คนละอย่างกัน ตรงนี้จะเน้นหนักไปในด้านการป้องกันโรคต่างๆ โดยเฉพาะพวกไข้ทั้งหลาย และป้องกันภัยได้แม้แต่สัตว์เลื้อยคลานที่มีพิษ ถ้ามีเด็กที่เลี้ยงยาก ให้เอาเชือกแดงติดตัวเด็กไว้จะช่วยได้.... อนุญาตให้ตัดเป็นท่อนๆได้ตามขนาดที่ต้องการไม่จำกัด อานุภาพยังคงเดิม


    ผมแบ่งมาได้ 2 เส้นครับ ให้บูชาเส้นละ
    ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
    สามารถตัดแบ่งได้นะครับ แบ่งกันได้หลายคนเลยครับต่อ 1 เส้น
    142385.jpg 142386.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2021
  16. wangbao

    wangbao Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +151
    ขออนุญาต จอง 1 เส้น ครับ
     
  17. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,243
    ค่าพลัง:
    +6,456
    ขอจอง1เส้นครับ
     
  18. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    รับทราบการจองครับ
     
  19. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    รับทราบการจองครับ
     
  20. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,652
    ค่าพลัง:
    +16,580
    เพื่อนผมฝากออกอีก ติดจอง เส้นครับ ท่านใดสนใจจองได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2021

แชร์หน้านี้

Loading...