"ในหลวง"ให้จัดงานพระพี่นางฯ ยึดแบบโบราณราชประเพณี ผู้นำฝรั่งเศส-สิงคโปร์ ส่งสารเสียใจ

"ในหลวง"ให้จัดงานพระพี่นางฯ ยึดแบบโบราณราชประเพณี ผู้นำฝรั่งเศส-สิงคโปร์ ส่งสารเสียใ

วันที่ 04 มกราคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10891​

ผู้นำฝรั่งเศส-สิงคโปร์ ส่งสารเสียใจ

"ในหลวง"ให้จัดงานพระพี่นางฯ ยึดแบบโบราณราชประเพณี

http://matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0101040151&day=2008-01-04&sectionid=0101

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>
วันที่ 3 มกราคม 2551 เวลา 08.04 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ ในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

</TD></TR></TBODY></TABLE>"ในหลวง"โปรดเกล้าฯให้มีพระพิธีธรรมพระศพพระพี่นางฯ พร้อมประโคมย่ำยามเป็นเวลา 100 วันตามโบราณราชประเพณี พระเทพฯเสด็จฯถวายภัตตาหารเช้าเป็นวันแรก "ประธาธิบดีฝรั่งเศส-ผู้นำสิงคโปร์"ส่งสาส์นแสดงความเสียใจ "นาม ยิ้มแย้ม"นำทีม คตส.เคารพพระศพ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง เวลา 08.02 น. วันที่ 3 มกราคม ในพระพิธีธรรมรับพระราชทานฉันเช้า ในการนี้สมเด็จพระเทพฯได้ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ในการสดับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และเสด็จฯกลับเวลา 08.35 น.

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีพระพิธีธรรมประจำทั้งกลางวันและกลางคืน รับพระราชทานฉันเช้าจำนวน 8 รูป เย็น 8 รูป กำหนด 100 วัน

ต่อมาเวลา 19.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พร้อมด้วยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เสด็จฯยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงประกอบพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

เวลา 21.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ทรงประกอบพระราชพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม พระประโคมย่ำยาม

วันเดียวกัน สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ เรื่องกำหนดการประจำวันตลอด 100 วัน หรือกำหนดการไว้ทุกข์ ซึ่งเป็นพิธีตามโบราณราชประเพณี ดังนี้ เวลา 06.00 น. พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และประโคมย่ำยาม เวลา 07.00 น. พระพิธีธรรมรับพระราชทานฉันเช้า เวลา 09.00 น. พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และประโคมย่ำยาม เวลา 11.00 น. พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ฉันเพล เวลา 12.00 น. พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และประโคมย่ำยาม เวลา 15.00 น. พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และประโคมย่ำยาม เวลา 18.00 น. ประโคมย่ำยาม เวลา 19.00 น. พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม เวลา 21.00 น. พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และประโคมย่ำยาม เวลา 24.00 น. พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และประโคมย่ำยาม

ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ได้มีบุคคลสำคัญมาถวายสักการะ และลงนามถวายสักการะสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิ วัฒนาฯ อาทิ พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ ดร.สิริกร มณีรินทร์ นายกันตธีร์ ศุภมงคล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และภริยา พลเรือตรีเรืองฤทธิ์ บุญส่งประเสริฐ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ นำทหารเรือ 70 นาย มาถวายสักการะ พลตรีอุดมเดช สีตะบุตร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 นำทหารฝ่ายเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 11 จำนวน 10 นาย มาถวายสักการะ

นอกจากนี้ยังมีนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พร้อมคณะ ได้มาร่วมถวายสักการะและลงนาม

คุณหญิงจารุวรรณกล่าวว่า หลังจากทราบข่าวว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ คณะ คตส.ได้ร่วมกันร่วมไว้อาลัยด้วยการยืนสงบนิ่ง เชื่อว่าดวงพระวิญญาณของพระองค์เสด็จสู่สรวงสวรรค์แล้ว

"สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฏฐมรามาธิบดินทร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงงานเพื่อแผ่นดินโดยแท้ โดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯมีพระจริยวัตรที่งดงามมาก ฉันยังประทับใจตอนที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯทรงมีพระรับสั่งว่า ขอบใจที่ทำงานให้ เนื่องจากได้ทำงานเกี่ยวกับการสอบบัญชีให้กับมูลนิธิวิชาการโอลิมปิค ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ คตส. สำนึกในหน้าที่ของพระองค์ในพระกรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง จึงได้นำพระฉายาลักษณ์ของพระองค์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์มาประดิษฐานไว้หน้าตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และให้ประชาชนเข้าร่วมลงนามไว้อาลัยด้วย" คุณหญิงจารุวรรณกล่าว

พันเอกกุลทีป เสนจันทร์ฒิไชย ผู้อำนวยการมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) กล่าวภายหลังนำพวงมาลามาถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ว่า การสูญเสียครั้งนี้สร้างความเสียใจให้กับตนและเจ้าหน้าที่ พอ.สว.เป็นจำนวนมาก เพราะพวกเราเหมือนเป็นลูกเป็นหลานที่สูญเสียพ่อแม่ แต่กระนั้นทุกคนจะตั้งใจปฏิบัติงาน ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนการสานต่อโครงการต่างๆ ของมูลนิธิขึ้นอยู่กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

"ก่อนพระประชวรทรงพยายามเสด็จไปทุกหนแห่ง จังหวัดสุดท้ายที่เสด็จไป คือ จ.ปัตตานี โดยในระหว่างที่ทรงงานจะทรงเรียกเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารเข้าไปรับฟังโดยทรงย้ำการทำงานกับเจ้าหน้าที่ว่า การทำงานด้านนี้เป็นการทำงานด้านรักษาพยาบาล ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องรักษาสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงก่อนจึงจะไปรักษาคนอื่นได้"

ด้านนางศีลดา รังสิกรรพุม ผู้จัดการมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงมีพระกรุณาธิคุณต่อมูลนิธิเป็นอย่างมาก ทุกปีในวันที่ 21 ตุลาคม จะประทานเงินกองทุนการกุศลสมเด็จย่า และกองทุนการกุศล กว.จำนวนกองทุนละ 5 แสนบาท ซึ่งมูลนิธิได้นำเงินกองทุนทั้งสองฝากธนาคารแล้วนำดอกผลมาใช้จ่ายในการดำเนินงานของมูลนิธิในการซื้อนมและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเมื่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯสิ้นพระชนม์ ทางมูลนิธิยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงเงินกองทุน เพราะถือว่าไม่ใช่เรื่องหลัก แต่คิดว่าน่าจะมีผู้ดำเนินงานต่อ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ยังคงมุ่งมั่นช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสในชุมชนแออัด โดยยึดแนวพระดำริในเรื่องการดูแลพัฒนาเด็ก ไม่ใช่เพียงแค่การสงเคราะห์ แต่ต้องทำงานร่วมกับคนใกล้ตัวเด็ก ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาวต่อไป



สารแสดงความเสียใจจากผู้นำ"ฝรั่งเศส-สิงคโปร์"

สารจากประธานาธิบดีฝรั่งเศส

นายนิโกลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส ในนามของประชาชนชาวฝรั่งเศส ส่งสารผ่านสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระประมุขแห่งราชอาณาจักรไทย แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมีคำแปลอย่างไม่เป็นทางการ ดังนี้

"ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้ารู้สึกโศกเศร้าและสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

ในเหตุการณ์อันโศกเศร้าครั้งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าและประชาชนชาวฝรั่งเศสขอแสดงความเสียใจแด่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทด้วยความจริงใจ และขอเป็นกำลังใจให้แก่เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์รวมถึงประชาชนชาวไทยในช่วงที่โศกาดูรดังกล่าว

ประเทศฝรั่งเศสจะไม่ลืมบทบาทที่สำคัญยิ่งของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในการเผยแพร่ภาษาและวัฒนธรรมฝรั่งเศสในประเทศไทย เช่นเดียวกับการที่ได้ทรงอุทิศพระองค์เพื่อช่วยเหลือด้านการแพทย์ การศึกษา และด้านวัฒนธรรมแก่ผู้ด้อยโอกาส พระองค์ทรงแสดงให้เห็นถึงกำลังใจอันมุ่งมั่นและกล้าหาญ ขันติธรรม และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ตลอดช่วงที่ทรงมีพระชนม์ชีพอยู่

ข้าพระพุทธเจ้าขอแสดงความเสียใจอีกครั้งหนึ่ง ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม"

"นิโกลาส์ ซาร์โกซี"



สารจากผู้นำสิงคโปร์

ประธานาธิบดี, นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอาวุโสของสิงคโปร์ ส่งสารแสดงเสียใจกราบบังคมทูลต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

ในสารดังกล่าว นายเอส. อาร์. นาธาน ประธานาธิบดีสิงคโปร์บรรยายไว้ว่า "การที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางฯทรงรักและห่วงใยประชาชนชาวไทยนั้นถือเป็นเสมือนตำนาน นอกจากนี้ยังทรงอุทิศพระองค์เพื่องานการกุศลต่างๆ อีกมากมายด้วย ถือเป็นการกระทำที่สร้างความหวังและสร้างชีวิตใหม่ให้กับประชาชนเหล่านั้น"

ส่วนนายลี กวน ยิว รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐบุรุษสิงคโปร์ ระบุในสารว่า "พระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ถือเป็นความสำเร็จที่จะเป็นที่จดจำไปตลอดหลายชั่วอายุคน" ขณะที่นายกรัฐมนตรี ลี เซียน หลุง ส่งสารแสดงความเสียใจมายัง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ว่า "แม้ว่าประเทศและปวงชนชาวไทยจะตกอยู่ในความโศกเศร้าจากการสูญเสียในครั้งนี้ ก็คงเข้มแข็งและกล้าหาญเพียงพอที่จะสานต่อพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์อย่างต่อเนื่องต่อไป"