ในนี้มีใครอยากได้พลัง "อภิญญา" ทำไม?

มีใครบ้างอยากได้ อภิญญา หรือ พลังกษิณ หรือพลังต่างๆ ช่วยบอกหน่อยว่าทำไมครับ

 

อ่าว...ก่อนคุณถามนี่คุณไม่ตอบตัวเองก่อนหรือ ถามทำไม....

 

อยากรู้อยากเห็น บางอย่างเหมือนเคยมี อยากรู้ว่าพ่อที่เสียชีวิตเป็นไงบ้างครับ

 

จะได้เตือนตนเอง

ถ้าสามารถระลึกชาติได้ รู้ว่าชาติก่อนเราเป็นอะไร เราก็จะได้เบื่อการเวียนว่ายตายเกิด (แต่ตอนนี้ก็เบื่อแล้วไม่อยากเกิดอีกแล้ว)แต่ยังไม่ได้อภิญญาเลย อิอิอิ
แต่ใจชอบ มากๆๆๆๆๆอยากฝึกกสิน แต่ไม่มีครูบาอาจารย์เลย

 

ยังไม่อยากไปนิพพานไง คห.ส่วนตัว อยากช่วยเหลือพระพุทธศาสนาอยู่เนืองๆ ทีนี้ยังไม่
อยากไปนิพพานก็ไม่รู้จะทำอะไร นอกจากฝึกเรื่องพวกนี้ ดีกว่าอยู่เฉยๆ คห.ส่วนตัวอีกล่ะ
เรื่องเเบบนี้บังคับให้อยากนิพพานทุกคนไม่ได้หรอก ใครจะรู้คนที่หวังพวกอภิญญา
เผลอๆไปนิพพานเร็วกว่าพวกที่หวังเเต่นิพพานอีกถ้าอยากไป(พูดมั่วๆนะ^_^อาจจะจริง)

 

อยากได้...ก็ถ้าจะต้องได้นะคะ...อยากรู้ว่าถ้าได้...จะเป็นอย่างไร...เราจะเหมือนเดิมมั้ย...อื่นๆ อีกจิปาถะ

 

แต่ก่อนเคยอยากได้ แต่พอมารู้ว่ามีการปฏิบัติที่มุ่งแต่พระนิพพานอย่างเดียวเลยเปลี่ยนสายเลยครับ เพราะแต่ก่อนไม่รู้ว่า มีวิธีตรงทางอย่างสติปัฏฐานสี่ เมืื่่อก่อนเคยได้ยินแต่กสิณกะฌาณและอิทธิฤทธิ์ ยังไงก็อนุโมทนากับคำถามด้วยนะครับ

 

เป็นผลพลอยได้ในการทำสมาธิ และเพื่อเอากำลังแบบนี้ ไปทำวิปัสสนา เพื่อทำลายกิเลส

ครับ

 

ไม่ได้อยากได้ไปเพื่อใช้ทำอิทธิฤทธิ์อันใดหรอกคะ..... แค่อยากพิสูจน์ว่าศาสตร์ทางนี้ และการเวียนว่ายตายเกิดมีจริงจะได้เลิกทุกข์ใจ หรือเศร้าหมองเวลาคนที่เรารักตายจากไป รีนาฯมาสนใจเรื่องสมาธิจริงจังก็ตอนคนที่เรารักมาตายจากติดๆกัน..... เลยอยากจะเป็นผู้รู้ความจริงของวัฏสงสานจะได้ไม่ต้องมีทุกข์กับการเสียคนที่เรารัก......เมื่อรู้ความจริงว่าธรรมชาติมันเป็นอย่างนี้

 

ครั้งแรกเลยที่ได้ยินเรื่องพวกนี้ ในใจก็คิดว่ามันมีจริงหรอ ทำได้จริงหรอ เพราะงั้นเหตุผลแรกคือต้องการพิสูจน์

 

"ทีนี้ถ้าเราเล่นกสิณได้อภิญญาสมาบัติ แบบนี้มีหูทิพย์ ตาทิพย์ ถอดกายถอดจิตไปได้ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ ทำอะไรก็ได้ตามความประสงค์

ทีนี้มาถามถึงความมุ่งหมายว่าเขาฝึกกันทำไม เขาฝึกกันเอาไว้เป็นคู่มือในความเป็นพระอรหันต์ กำลังใจเมื่อเข้มแข็งอย่างนี้แล้ว ก็ไม่ต้องพูดถึงนิวรณ์ แล้วก็ไม่ต้องพูดถึงจริต เพราะว่ามันชนะหมดแล้ว ถ้าไม่ชนะนิวรณ์ไม่ชนะจริตก็ทรงฌานสมาบัติเป็นอภิญญาสมาบัติไม่ได้"

จาก หลักสูตรอภิญญา6 ตอนที่2 โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

คำสอนของหลวงพ่อชัดมากนะครับ ว่าเรื่องอภิญญาจะฝึกไปทำไม
หวังว่าท่านเจ้าของกระทู้จะได้คำตอบที่กระจ่าง

"ถ้าพระหนุ่ม ๆ เห็นสาวน้อย ๆ กลอยใจหน้าตาละมุนละไม ผิวสวย เสียงเพราะ ลีลาดี ดีไม่ดีกสิณก็พัง ในเมื่อเราทำอภิญญาสมาบัติได้ขนาดนี้ เราก็ต้องคุมไว้ไม่ให้สลายตัว เวลาคุมไว้ไม่ให้สลายตัวทำอย่างไร ก็เข้าถึงฌาน ๔ กสิณกองใดกองหนึ่ง แล้วเราก็มาคุมอารมณ์เพื่อความเป็นพระโสดาบันเลย ไม่มีอะไรยาก ให้รู้จักการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย ก็เอากสิณเอาอภิญญาไปพิสูจน์ได้ทุกชาติทุกภพ ถอยหลังชาติของตนไปกี่แสนชาติก็ได้ ก้าวหน้าไปก็ได้ ของใครก็ได้ เมื่อได้ขนาดนี้แล้ว คำว่าสงสัยในคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มี"

ดูตัวอย่างคนที่ละเมิดศีลไปดูมันเองในเมืองนรก ไปถามสัตว์นรกแต่ละพวกจะทราบชัดว่า เขาละเมิดศีลข้อไหนจึงลงนรกมีทุกขเวทนาแบบนี้

 

ถึงอยากก็อาจไม่ได้
แม้ไม่อยากได้ หากเหตุสมควรก็ได้เอง
ก็เลยเฉยๆค่ะ

 

อยู่ที่ความเพียร ประพฤติ ประติบัติ

ว่า มีความเกินพอดีมากน้อยแค่ไหน

ถ้าปฏิบัติแต่พอดี วันละสี ห้าชั่วโมง

หรือ เจ็ดแปดชั่วโมง คงจะไม่ถึงอภิญญา

ซึ่งเป็นความรู้ยิ่ง ต้องตั้งใจเอาจริงๆนะ

อิทธิบาทสี่ เจริญให้มาก อภิญญา ก็คงไม่ไกลเกินฝัน

({) ฟันธงคราบ

 

ฝึกไปเพื่อช่วยเหลือ GOD ต่อสู้กับมารซาตาน ขจัดมันไปให้หมด

 

ของแถม

ไม่สน อภิญญา๕

มุ่งไปหา อาสวะขยญาณ

เชื่อมั่นในพุทธะ เชื่อมั่นในธรรมะ เชื่อมั่นในสังฆะ

เรียนธรรมตามความสามารถ

ทบทวนธรรมอยู่เสมอ

เป้าหมายยังคงเดิม

คือ อาสวะขยญาณ

ถ้าได้ของแถมเป็น อภิญญา ก็จะเอา

แต่ถ้าไม่ได้ของแถมก็ไม่เป็นไร

ขอแค่พ้น ก็พอ

 

อยากมีเพื่อเป็นเครื่องย้ำเตือนว่าได้ผ่านจุดที่พระพุทธเจ้าผ่านมาแล้ว ก็เหมือนกับว่าเรามาถูกทางแล้ว ผมคิดงี้นะ