ใครรูว่าเกจิหรือครูบาท่านไหนปลุกเสกท่านท้าวเวสสุวรรณบ้างครับ

คือแม่ผมเขาเคยไปดูดวงแล้วดูให้ผมด้วย เขาบอกว่าผมมีท่านท้าวเวสสุวรรณดูแลคุ้มครองอยู่ปีนี้ดวงไม่ดี ให้หาท่านมาแควนคอ แต่ผมไม่รู้จาไปหาที่ไหน วานผู้รู้ช่วยบอกทีครับ ครูบาอาจารย์ท่านไหนปลุกเสก โปรดแนะนำผมทีครับ

 

ถ้าราคาแพงๆ ก็ต้องวัดสุทัศน์รับ ถ้าเกจิยุคหลังมีหลายวัดครับ หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม หลวงปู่มัง วัดเทพกุญชร ลพบุรี ฯลฯ

 

ขออภัยครับ เวปข้างบนไม่แนะนำครับ ผมเคยไปมาแล้วครับ
ถ้าจะหารูปหล่อท่านท้าวเวสสุวรรณหรือรูปเหมือน ขอแนะนำดังนี้ครับ
1. เหรียญท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง หาดูในเวปนี้ก็ได้ครับ ค่าบูชาประมาณ 450-550 บาท
2. รูปหล่อท้าวเวสสุวรรณหลวงปู่น้อย วัดโนนสวรรค์ ค่าบูชาประมาณ 400-500 บาท
3. ท้าวเวสสุวรรณ ลอยองค์ หลวงปู่คีย์ วัดศรีลำยอง จ.สุรินทร์ ค่าบูชาประมาร 400-500 บาท
4. ท้าวเวสสุวรรณ ลอยองค์ หลวงปู่นอง วัดวังสีทอง ค่าบูชาประมาณ 200 - 400 บาท
ทั้งหมดยกเว้นรายการที่ 1 สามารถหาบูชาได้ตามศูนย์พระเครื่องทั่วไปครับ

 

หลวงปู่ชื้นครับ

แบบนี้พอใช้ได้ไหมครับ ราคาเบาๆครับ แท้และทันหลวงปู่ด้วยครับ
PM มาถามได้ครับ

 

ของวัดสุทัศน์ รุ่นใหม่ไม่แพงครับ

 

ที่วัดเล่งเน่ยยี่ เยาวราช เคยทำไว้เมื่อปีก่อน น่าจะมีเหลืออยู่บ้าง

 

หลวงปู่หล่ำ วัดสามัคคีธรรม ลาดพร้าว 64 ครับ

 

วัดจุฬามณี ก็เจ๋ง

 

อันนี้แนะนำด้วยครับ หลวงปู่หล่ำท่านสร้างเหรียญท้าวมหาราช
แบบพร้อมขึ้นคอได้เลยครับ ราคาไม่สูง สองร้อยกว่าบาทครับ

 

ของหลวงปู่ท่านดีจริงจริงค่ะ

 

ท้าวเวสสุวรรณ ต้องของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน ครับ พุทธคุณเป็นที่สุด ลองserch หาประวัติและวัตถุมงคลท่านดูครับ มีประสบการณ์ดีมากๆ ขอบอก

 

ท้าวเวสสุวัณ ดีด้านไหนบ้างครับ เห็นพูดกันหลายกระแสมาก

 

สำหรับประวัติของ "ท้าวเวสสุวัณ" นั้นปรากฏอยู่ในคัมภีร์รามายณะ และมหาภารตบันทึกไว้ว่า ท้าวเวสสุวัณมีอีกชื่อหนึ่งคือ "ท้าวกุเวร" ซึ่งเป็นเทพแห่งยักษ์ เป็นเจ้าแห่งอสูรเทพทั้งมวล และเป็นอสูรที่ชาวบ้านชาวเมืองเคารพนับถือเป็นอันมาก จนมีรูปเคารพติดอยู่ตามบ้านเรือนทั่วไป เพื่อให้ท่านได้คุ้มครองดูแลปกป้องบ้านเรือนให้มีความสันติสุข
นอกจากนี้ ชาวอินเดียโบราณยังอีกว่า ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งทรัพย์สินด้วย ดังพระนามในบางคัมภีร์เรียกท่านว่า ท้าวเเสนโกฎิ ยักษราช มยุราช รากษสเสนทร์ และธนวดี หมายถึง ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์สิน

การที่คนในพุทธศาสนาได้ทำบุญแล้วอธิษฐานอุทิศส่วนกุศลให้ "เจ้ากรรมนายเวร" นั้น จริงๆ แล้วในความเชื่อของพราหมณ์หมายถึงท้าวเวสสุวัณ หรือท้าวจตุโลกบาล นั่นเอง

ตามหลักฐานในคัมภีร์ทางพุทธศาสนา ยืนยันว่าท้าวกุเวร หรือท้าวเวสสุวัณ เทวราชพระองค์นี้ได้สำเร็จเป็น "พระอริยบุคคลชั้นโสดาบัน" เมื่อครั้งจุลสุภัททะ ปริพาชก เกิดความสงสัยในความเป็นมาแห่งองค์สมเด็จพระพุทธเจ้า ท้าวเวสสุวัณก็ได้เสด็จไปร่วมต้อนรับด้วย และยังเป็นประจักษ์พยานเรื่องพระมหาโมคคัลลานะ ใช้เท้าจิกพื้นชยนตวิมาน จนเกิดการสั่นสะเทือนไปทั้งดาวดึงส์เทวโลก อันเป็นการเตือนสติสักกเทวราชอีกด้วย
ศาสนาพราหมณ์ถือว่าท้าวเวสสุวัณ (ท้าวกุเวร) เป็น ๑ ใน ๘ ของเทพผู้พิทักษ์รักษาโลกทั้งสาม หรือท้าวโลกบาล โดยมีเวสสุรรณ (ท้าวกุเวร) อยู่ประจำทิศเหนือ
ในขณะที่พุทธศาสนา ได้กล่าวถึงท้าวโลกบาลไว้เพียง ๔ ทิศ ที่เรียกว่า "ท้าวจตุโลกบาล" หรือท้าวจตุมหาราช ทั้ง ๔ อันได้แก่ ท้าวกุเวร เป็นโลกบาลประจำทิศเหนือ (เหมือนกับพราหมณ์) ท้าวธตรฐ เป็นโลกบาลประจำทิศตะวันออก ท้าววิรุฬหก เป็นโลกบาลประจำทิศใต้ และท้าววิรูปักษ์ ประจำทิศตะวันตก
สำหรับ ท้าวเวสสุวรรณที่หน้าอุโบสถวัดสามัคคีธรรมนั้น หลวงปู่หล่ำสร้างไว้เมื่อกว่าสิบปีก่อน ชาวบ้านที่มาทำบุญในวัด ต่างพากันมากราบไหว้บนบานศาลกล่าว หลายคนประสบความสำเร็จสมหวัง ได้รับโชคลาภอยู่เสมอๆ จึงกราบเรียนหลวงปู่ว่า น่าจะสร้างเทพที่เฝ้าอุโบสถอีก ๓ องค์ คือ ท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก และท้าววิรูปักษ์ จะได้ครบถ้วนเป็นท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ องค์
พอมีข่าวออกไปเท่านั้นเอง ก็มีผู้นำปัจจัยเงินทองมาร่วมทำบุญสมทบทุนสร้างองค์ท้าวทั้งสามอย่างต่อเนือง จนสามารถสร้างองค์ท้าวทั้งสามเสร็จสมบูรณ์ในเวลาอันรวดเร็ว แถมยังมีเงินเหลืออีกจำนวนหนึ่ง หลวงปู่จึงจัดสร้างองค์พระพิฆเนศขึ้นมาอีกองค์หนึ่ง ก็เสร็จสมบูรณ์ในระยะเวลาอันเช่นกัน ขณะเดียวกัน มีศรัทธาญาติโยม ขอให้หลวงปู่สร้างวิหารจีน เพื่อเป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม ไฉ่ซิ่งเอี้ย เจ้าพ่อกวนกู เจ้าพ่อเสือ เจ้าแม่ทับทิม นาจา ฯลฯ เพื่อชาวบ้านจะได้มากราบไหว้สักการบูชาได้อย่างครบวงจร ซึ่งหลวงปู่บอกว่า จะรับไว้พิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป


ที่มา : http://www.komchadluek.net/2008/02/20/x_phra_j001_190538.php?news_id=190538

 

ดีหลายด้านนะครับ
ท่านเป็นเจ้าแห่งยักษ์
ท่านเป็นเจ้าแห่งทรัพย์
อีกทั้งยังเป็นท้าวจตุโลกบาลด้วย

 

ขอแจ้งข่าวครับ

วัดสามัคคีธรรม ถนนลาดพร้าว แขวงวัง ทองหลาง กรุงเทพฯ เป็นวัดแห่งหนึ่งซึ่งมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง "หลวงปู่หล่ำ สิริธัมโม" ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านเป็นเจ้าตำรับเครื่องรางของขลังตุ๊กแกอันลือลั่น

ในวันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2551 เป็นวาระอันเป็นมงคล คณะศิษย์ได้จัดงาน "สรงน้ำมุทิตาจิตอายุมงคล 80 ปี หลวงปู่หล่ำ" ขึ้น เพื่อเป็นการแสดงมุทิตาสักการะในความดีของท่านที่มีต่อพระ พุทธศาสนาและพุทธศาสนิกชนทั่วไป

นายวิชิต ปิยกุละวัฒน์ อุปนายกฝ่ายวิทยุ-โทรทัศน์ สมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ศิษย์ใกล้ชิด เผยว่า เนื่องในโอกาสอันมงคลนี้ ทางวัดได้จัดพิธีเททองหล่อ "พระไภษัชคุรุพุทธเจ้า" ขนาดฐานกว้าง 47 เซนติเมตร สูง 80 เซนติเมตร ขึ้น 2 องค์ เพื่อนำขึ้นน้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และอีก 1 องค์ จะนำไปประดิษฐานยังสถานปฏิบัติธรรม (วิหารจีน) ภายในวัดสามัคคีธรรม

เริ่มพิธีเวลา 07.19 น. พิธีบวงสรวงเทพยดาทั่วท้องจักรวาล เวลา 08.09 น. หลวงปู่หล่ำนั่งปรกอธิษฐาน จากนั้นศิษยานุศิษย์และศรัทธาสาธุชนทำพิธีสรงน้ำมุทิตาจิต เวลา 13.19 น. พิธีเททองหล่อพระไภษัชคุรุพุทธเจ้า หลังจากนั้นหลวงปู่หล่ำทำพิธีเป่ายันต์พรหมวิหารมหาเสน่ห์ มหาอำนาจมหาบารมีมหาเศรษฐีครอบครองจักรวาลใหญ่

กล่าวสำหรับ "พระกริ่งจีนไภษัชคุรุพุทธเจ้า นับเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่มีผู้นิยมบูชาอาราธนาติดตัว ความเป็นมานั้นกล่าวกันว่า เดิมทีพระกริ่งไภษัชคุรุพุทธเจ้าอยู่ในความสนใจของเจ้านายชั้นสูง แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ต่อเนื่องมาจากประเทศจีน ปรากฏว่ามีชาวจีนที่มาจากประเทศจีนและชาวจีนที่อยู่ก่อนเก่าจากกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นทหารของพระเจ้าตากสิน รวมทั้งชาวจีนทั้งใหม่และเก่าที่มาจากเมืองอื่นในราชอาณาจักรสยาม ซึ่งพกพาพระกริ่งจีนไภษัชคุรุพุทธเจ้าติดตัวมาตามธรรมเนียมจีนที่นับถือพระไภษัชคุรุพุทธเจ้า ที่ย่อส่วนลงมาเป็นพระพุทธรูปองค์เล็ก เพื่อจะได้ช่วยปกป้องผองภัยพาลทั้งหลายในยามพลัดถิ่น"

พระกริ่งไภษัชคุรุพุทธเจ้า ซึ่งเชื่อกันว่ามีพุทธคุณอันศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถช่วยเหลือปกป้องคุ้มการดำรงชีวิตให้ได้อยู่เย็นเป็นสุข และพบกับความเจริญก้าวหน้า ต่างจึงถือกันว่าเป็นสุดยอดแห่งวัตถุมงคลจึงนิยมบูชาติดตัว

มีคำกล่าวว่า พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทั้งปวงก็คือ พระไภษัชคุรุพุทธเจ้าที่มีความเมตตากรุณาประทานธรรมโอสถแก่สรรพสัตว์ทั้งปวง เพราะการจะเข้าถึงพระไภษัชคุรุพุทธเจ้าก็เพียงโดยสรรเสริญภาว นาในนามของพระองค์ด้วยความเป็นที่สุดของใจ เช่นเดียวกัน ในพระสูตรระบุว่า หากสาธุชนหญิงชายใดๆ จดจำพระนามได้และภาวนาอ่านท่องพระสูตร พระธรณี และพระนามของพระไภษัชคุรุพุทธเจ้า โดยสม่ำเสมอแล้วไซร้ ผู้นั้นจะปราศจากโรคภัยร้ายแรงทั้งปวงจะไม่เป็นผู้พิกลพิการ ไม่ยากจนข้นแค้น มีอายุขัยยืนยาว และจะได้ไปอุบัติยังศุทธิไวฑูรย์พุทธเกษตร

ด้วยพุทธานุภาพแห่งพระไภษัชคุรุพุทธเจ้า ที่ทรงเปี่ยมด้วยมหาเมตตา มหากรุณาธิคุณในการปรารถนาให้สรรพสัตว์พ้นทุกข์ทางกาย เพื่อจะได้มีแรงกำลังมุ่งมั่นบำเพ็ญประโยชน์ต่อตนเองและสังคมอย่างไร้อุปสรรค เพื่อจะส่งผลให้โรคทางจิตวิญญาณหรืออวิชชาได้สิ้นไปด้วย

จึงขอเชิญลูกศิษย์ลูกหา พุทธศาสนิกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมงานมุทิตาจิตอายุมงคล 80 ปี สรงน้ำหลวงปู่หล่ำ สิริธัมโม เททองหล่อพระไภษัชคุรุพุทธเจ้า และพิธีเป่ายันต์พรหมวิหาร 4 พร้อมรับแจกฟรีพระผงชานหมาก อายุมงคล 80 ปี เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว


ที่มา : http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09DMHdOeTB5TlE9PQ==