โวหารของท่านอาจารย์มั่น โดยพระอาจารย์หลุย

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 20 พฤษภาคม 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895
    *** ปัญญากับสติให้รู้เท่าทันกัน

    ***พิจารณากายจิต ความไม่เที่ยงของสังขารเป็นธรรมะส่อให้เห็นเรื่อยๆ ทำความรู้ ในนั้น เห็นในนั้น

    ***ในโลกนี้เป็นธาตุทั้งนั้น ให้รู้เท่าทันกับธาตุอย่าหลงตามธาตุ

    ***มหาสติเรียนกายจิตให้มากๆ

    ***ให้เห็นจริง ธรรมะจริง สมมติ อย่า หลงรูป เสียง กลิ่น รส ของอันนี้เต็มโลกอยู่ เช่นนั้น

    ***ให้เห็นปัจจุบันธรรม อย่าส่งจิตอนาคตและอดีต

    ***ธาตุ 84,000 ธาตุออกมาจากจิตหมด

    ***นิโรธเป็นของดับเพราะรู้เท่าแล้ว จิตไม่เกิดยินดียินร้าย ดับไปเช่นนี้ ชื่อว่านิโรธ

    ***แสดงฌานเป็นที่พักชั่วคราวแล้วเจริญจิตต่อๆไป

    ***ให้เอากายวาจาใจนี้ยกขึ้นพิจารณา อย่าเพิ่มอย่าเอาออก ให้เห็นเป็นปรกติ

    ***มรรค 8 นั้น สมาธิมรรคเป็นองค์ 1 นอกนั้นเป็นปริยาย

    ***ให้รู้ธรรมะ และ อาการของธรรมถึงชั้นละเอียดแล้วก็จะรู้เองเห็นเอง

    ***แสดงตนดูถูกท่านว่าท่านเป็นคนโกรธ เพราะผู้ฟังไม่เห็นตามความเป็นจริง เพราะยุ่งแต่จิตของตัวเท่านั้น

    ***เกิดตายเกิดแล้วตาย ชมแต่หนังของเก่า ไม่หันไปหาที่จะพ้นทุกข์

    ***ทำจิตให้เสมออย่าขึ้นอย่าลง อย่าไปอย่ามา ให้รู้เฉพาะปรกติของจิต

    ***แสดงฐานของธรรมะเป็นบ่อเกิดอริยสัจของจริง

    ***เกิดความรู้อย่างวิเศษแล้วย่อมหาอานิสงส์ประมาณไม่ได้

    ***อัตตาหิ...ฯลฯ เป็นของลึกลับเหลือที่สุด

    ***ถ้าส่งจิตรู้เห็นนอกกายเป็นมิจฉาทิฐิ ให้รู้เห็นอยู่ในกายกับจิตนั้นเป็นสัมมาทิฐิ

    ***นักปฏิบัติใจต้องเด็ดเดี่ยวกล้าหาญที่สุดจึงจะรู้ ธรรมเห็นธรรม

    ***ให้รู้ธาตุเห็นธาตุ จิตจึงไม่ติดทางราคะ

    ***คนเราจะดีจะชั่วต้องเกิดวิบัติเสียก่อน

    ***ท่านบอกว่าท่านเป็นคนราคะโทสะจริต แรงทางราคะ ทางโทสะกัดติดดังควาย นิสัยใจคอเด็ดเดี่ยวมาก

    ***แสดงแก้ตำราพราหมณ์ดีนัก หนังสือล้วนๆไม่มีบาลีอ้าง

    ***นิสัยของท่านอาจารย์มั่นเป็นคนใจคอเด็ดเดี่ยวดี มุ่งต่อมรรคผลจริง

    โวหารโปราณ ข้อวัตรหมดจดดี เป็นคนไม่มีอคติ พูดธรรมะถึงอริยสัจถึงพริกถึงขิงดี ไม่อนุโลม ตามบุคคล เป็นคนที่ใคร่ต่อความสันโดษดี ข้อวัตรเรียบร้อยหมดจดดี เป็น อาชาไนยดี รู้จริตของคนอื่นดี ท่านไม่พูดไปแล้ว ท่านไม่ถือ ธรรมของท่าน ท่าน สงเคราะห์เข้าปัจจุบันดี เป็นคนไม่เห็นแก่หน้าบุคคล โลกไม่เอียงไปทางกาม และ ทางโทสะ โมหะ ไปตามความรู้ความเห็นที่เกิดจากปฏิปทาของท่าน อ้างอิงของจริง เสมอ เป็นคนที่วางเฉยได้ ไม่ส่งจิตออกนอกกาย ท่านบริบูรณ์ทั้งมหาสติ มหา ปัญญา ไม่เพ่งลาภยศ สรรเสริญ อาชีพ บริสุทธิ์ด้วยสมาธิ ปัญญา ข้ามศีลไป เสียแล้ว จิตของท่านปรกติดี ไม่ลำเอียงไปอ้วย คติ กาย วาจา ใจ เป็น อาชาไนย พระอริยเจ้าเป็นผู้เลิศเป็นผู้วิเศษหาประมาณมิได้ ท่านอาจารย์มั่นเป็นผู้ขวนขวาย น้อย เป็นผู้ที่เลี้ยงง่าย สันโดษ ชอบสงัด เป็นผู้ทรมานตนเสมอ เป็นผู้ที่ไม่ละกาล จิตของท่านใหม่อยู่ในธรรมเสมอไม่เบื่อ ไม่ติดตระกูล ไม่ติดที่อยู่ ไม่ติดลาภยศ อ้างธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าว่าเป็นของจริงและข องเที่ยง ..นิสัยท่าน อาจารย์มั่น ถูกกับนิสัยเราเสียโดยมาก...

    ***ท่านแสดงไม่อ้างสวรรค์ นิพพาน ไม่อ้างทุคติ อ้างความเป็นไปทางปัจจุบันอย่าง เดียว เพราะชั่วดีก็ปัจจุบันที่ยังเป็นชาติมนุษย์

    ***ความรู้ของพระพุทธเจ้าเป็นอนันตนัย มากมายยิ่งกว่า 84,000พระธรรมขันธ์ เป็นอุบายที่จะทรมานสัตว์ พ้นวิสัยของสาวกที่จะรู้ตามเห็นตามได้ สาวกกำหนดรู้ แต่เพียง 84,000 เท่านี้ก็เป็นอัศจรรย์

    ***ท่านกำชับว่าอย่าให้จิตเพ่งนอก ให้รู้ในตัวเห็นในตัว เมื่อรู้ในตัวแล้วรู้ทั่วไป เพราะ ตัวเป็นต้นเหตุ

    ***ปฏิภาคนั้นอาศัยผู้ที่มีวาสนาจึงจะบังเกิดขึ้นได้ อุคหนิมิตนั้นเป็นของที่ไม่ถาวร พิจารณาให้ชำนาญแล้ว เป็นปฏิภาคนิมิต ชำนาญทาง ปฏิภาคแล้วทวนเข้ามาเป็น ตน ปฏิภาคนั้นเป็นส่วนวิปัสสนา

    ***ให้แก้ปัจจุบัน เมื่อแก้ปัจจุบันได้แล้ว ภพ 3 นั้นหลุดหมดไม่ต้องส่งอดีต อนาคต ให้ ลบอารมณ์ภายนอกให้หมด จึงจะเข้าอารมณ์ภายในได้ เพ่งนอกเป็นตัวสมุทัย เป็น ทุกข์ และเป็นตัวมิจฉาทิฎฐิ เพ่งในเป็นตัวสัมมาทิฐิ เพ่งในตัวเป็นสัมมาทิฐิ

    ***เล่นนิมิตก็ดี ยินดียินร้ายก็ดี เรียกว่าคุ้มเงาตน เชื่อนิมิตเป็นบ้า
    **********************************

    ที่มา คุณ ปางก่อน ลานธรรม
    http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/007088.htm
    <!-- / message --><!-- sig -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...