โลกใกล้อวสานเต็มทีแล้ว

!!!!วันสิ้นโลกจะมาถึงแล้ว!!!! น้ำท่วม พายุ การนองเลือด คนตาย ภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมาย สังเกตบ้างหรือเปล่า? ตั้งแต่ต้นปี 2547 ถ้าคุณติดตามข่าวคุณจะเห็นว่ามีภัยธรรมชาติ เหตุวุ่นวายต่างๆที่เกิดขึ้นมากมาย ทั้งไข้หวัดนกกลับมาระบาด การก่อการร้ายทั่วโลกซึ่งนำไปสู่การนองเลือดทั้งในอิรักและไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทยเอง แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด พายุเฮอร์ริเคนถล่มหลายประเทศ เช่นในเฮติจนมีคนตายเป็นพันๆคน ที่ฟลอริดาพายุเฮอร์ริเคนลง 4ลูกติดๆกัน รวมทั้ง_ี่ปุ่นและจีน ไทยเองก็โดนพายุ ทำให้น้ำท่วมภาคเหนือ กลางและอีสานในเวลาติดๆกัน ขณะนี้นานาประเทศไม่ไว้วางใจกัน มีการซ้อมรบและสะสมอาวุธนิวเคลียร์สำหรับการทำสงคราม ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่2สงบ เกิดสงครามกว่า150ครั้ง มีคนตาย25ล้านคน มีเพียง 26 วันเท่านั้นที่โลกสงบสุข! เชื่อไหมว่าเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้กำลังบอกว่า...วันสิ้นโลก...กำลังจะมาถึง กว่า2,000ปีมาแล้ว องค์พระเยซูทรงตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า

 

โลกใกล้อวสานเต็มทีแล้ว
หาคำตอบของคุณได้ที่นี่

http://www.chick.com/reading/tracts/0390/0390ญ01.asp

 

ผมหวังว่า ผมจะอวสานก่อนโลกครับ

อิอิ

 

มนุษย์ห่างไกลศาสนา คือไม่รู้จักศาสนาที่แท้จริง ก็ย่อมเกิดภัยธรรมชาติต่างๆเป็นธรรมดา
ผู้มาแก้ไขให้โลกสงบสุข มีอยู่แล้ว เมื่อธรรมะของเขาได้เผยแพร่ออกไปเมื่อไหร่ โลกก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ

 

http://www.chick.com/reading/tracts/0390/0390ญ01.asp

 

ตัว _ ในลิงค์ คือ ขีดล่าง (underscore) แล้วจะพบความหฤหรรษ์

 

เคยอ่านมาหลายทีแล้วเรื่องนี้ ไม่ค่อยจะโจมตีพระพุทธศาสนาเลยนะ

 

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
<a href="http://www.baddevil.net" target="ญblank">
<img border="0" src="http://www.baddevil.net/bd/bnd.gif" alt="baddevil.net!" width="88" height="31"></a>

 

อันนี้มันเรื่องแต่งขึ้นมาเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่าไปนับถือคริสต์แล้วดีกว่าถือพุทธ ศาสนาไม่เลวหรอกแต่ไอ้คนที่แต่งเรื่องเพื่อดึงคนไปเข้าโดยใช้วิธีเหยียบศาสนาพุทธนี่เลวแน่ มันยังไม่รู้จักศาสนาดีเท่าใดหรอก ถ้าว่าของกูดีของคนอื่นไม่ดีนี่แสดงว่าจิตยังไม่ไปไหน แถมคนเราตายครั้งเดียว โอ้โฮผมเชื่อคุณก็โง่แล้ว เพราะคนที่เกิดมาแล้วระลึกชาติได้มีเยอะ ว่าชาติก่อนเคยเป็นนักบวชในศาสนาคริสต์บ้าง เป็นพระเป็นเณรในศาสนาพุทธบ้าง เป็นอะไรต่างๆอีกมาก บางคนเกิดติดๆกันขนาด_าติยังไม่ตายก็มีจึงแสดงประจักษ์พยานเกี่ยวกับสิ่งที่จำได้ในชาติที่แล้วจนยอมรับกันได้ว่าเป็นจริงก็มี แสดงว่าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง ส่วนคำสอนของศาสนาก็เพื่อให้คนทำความดีจะได้หลุดพ้นไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด จะไปอยู่พระนิพพาน จะไปอยู่กับพระเจ้าหรือจะเป็นคำอื่นที่ใช้เรียกต่างๆกันไป แต่ผมว่ามันก็ที่เดียวกัน การนับถือศาสนานั้นเป็นสิ่งที่ดีแน่นอน วิธีปฏิบัติอาจจะแตกต่างกันไปให้เหมาะกับกลุ่มคนนั้นๆ หรือพื้นที่นั้นๆ จิตใจของคนในชุมชนนั้นๆ จึงได้มีศาสดาลงมาในเวลาต่างๆกันออกไปมีคำสอนให้เหมาะกับกลุ่มคน จริตของคนหรือสิ่งแวดล้อมต่างกันออกไป หรือให้เหมาะกับกำลังใจ การเผยแพร่ศาสนาใดๆก็ควรอยู่บนพื้นฐานของการนำเสนอวิธีคิดวิธีปฏิบัติเพื่อให้คนนำไปปฏิบัติแล้วจะสำเร็จตามเป้าหมายของศาสนาคือเพื่อหลุดพ้นจะเรียกอะไรก็ตาม แล้วผู้ฟังก็ใช้ปั__าตัดสินใจว่าจะถือปฏิบัติแบบใดจึงจะเหมาะกับจริตของเขาหรือเธอ แต่ไม่ควรเหยียบย่ำความเชื่อของศาสนาอื่น ผู้เผยแพร่นั้นจึงจะได้ชื่อว่าได้ยกระดับจิตใจของตนเองก่อนแล้วจึงเสนอตัวไปช่วยยกระดับจิตใจของผู้อื่น ถ้าของตัวเองยังทำไม่ได้แล้วจะไปช่วยคนอื่นได้อย่างไร แล้วไปก้าวล่วงคำสอนของศาสดาอื่นอีกมันไม่โม้ไปหน่อยหรือ ถ้าต้องโจมตีผู้อื่นก่อนตกลงคุณกำลังจะสอนศาสนาหรือคุณกำลังขายสินค้ากันแน่?

 

โลกจะแตกจะดับไปหรือไม่นั้น มันก็เป็นเรื่องของมัน จง อย่าเอาความกลัวในเรื่องโลกแตกมาขู่แล้วจูงจมูกคนดีๆ ให้ตกนรกตามกันไปเลย
สิ่งที่ต้องคิดตอนนี้ก็คือ ควรจะทำอย่างไร ให้อาสวะกิเลสในใจเราเบาบางลง ผมว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดนะครับ

 

กว่าโลกจะแตก หมดยุคพระศรีฯโน่นแน่ะ

หมดกัปป์โลกถึงจะแตกนะครับ อีกนานมาก
ถ้าจะเอาวิกฤตมนุษยชาติหรือกลียุค ก็อีกประมาณ 2,400 ปีนะ

 

โลกยังไม่อวสานนะครับ แต่จะเลวร้ายลงไปเรื่อย ๆ จนถึง ปี พ.ศ. 5000 ตอนนั้น พ่อ แม่ ลูก ก็ไม่รู้จักกันแล้วล่ะ ฆ่ากันตายไปมั่วเลย

เคยอ่านในพระสูตร น่ากลัวมาก พระสูตรชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว

แต่ไอ้บุชเป็นประธานาธิบดี อเมริกา ก็คงพอจะรู้สถานะการ์ณโลกในภายภาคหน้าแล้วนะครับ ว่าจะเป็นยังไง :'( :'( :'( :'( :'(

 

จะกลัวไปทำไหม
ถึงวาระสรรพสิ่งทั้งหลายก็ย่อมแตกดับเป็นเรื่องธรรมดามากๆ จะแตกวันนี้พรุ่งนี้หรือปีหน้า ปีโน้น หรือปีไหน ก็ไม่เห็นเป็นไร มันอยู่ที่ว่า ตอนที่พวกเราอยู่กันนี้แหละ มีลมหายใจเข้า-ออกกันเนี่ยะแหละ คิดดี ทำดี พูดดี กันแค่ไหน จรรโลงสังคมและโลกให้น่าอยู่ ให้เจอสันติสุขที่แท้จริงแค่ไหน หรือดีแต่ปาก ว่าทำทุกอย่างเพื่อทำให้เกิดสันติสุข และเอาข้ออ้างต่างๆ ไอ้นี้มานชั่ว ไอ้นี้ต้องกำจัดมันไป ไม่คิดบ้างว่า บรรพบุรุษของท่านเหล่าได้ก่อกรรมไว้กับเค้าจึงต้องตอบโต้ ส่วนอีกฝ่ายก็ไม่คิดอโหสิกรรมแก่กัน มันไม่มีจบหรอก ฆ่ากันไปฆ่ากันมา มันก็เป็นเรื่อง เพราะทั้งสองฝ่ายต่างมีกิเลสตัณหา ความไม่รู้ ความมั่วเมา ถึงรู้แต่ด้วยคำพูดว่า "ศักดิ์ศรี" ต้องฆ่ามัน
ศักดิศรี คืออะไร คือศีลธรรมประจำใจนั่นแหละ+มโนสำนึกที่ดีจริงๆ
ที่คนบางคนจะอ้างศักดิศรี เพราะความคิดเลวๆ ความไม่รู้ เข้าครอบงำจิตใจ พวกเราเกิดมาเพื่อรบมาฆ่าฟันกันเองหรือ นี่หรือ สันติสุข ที่บางฝ่ายต้องการ
พวกเค้าไม่รู้หรอกว่ามี สงครามที่แท้จริง ที่ทุกคนต้องเตรียมตัวเจอ
คือ การรบระหว่าง "เรา" กับ "พ_ามาร" นี่แหละคือ สงครามตัวจริง
หากทุกคนทุกฝ่ายทุกศาสนาทุกวัฒนธรรมทุกประเทศในโลก ทำตัวตามหลักคำสอนที่แท้จริงของแต่ละศาสนา และแน่นอนทุกศาสนา
ย่อมสอนให้เราเป็นคนดี ไม่คิดทำชั่ว สอนให้ทาน สอนให้มีศีล
สอนให้เจริ_ภาวนา ไม่สอนให้ทำอกุศลต่างๆ สอนให้รู้จักรักและอภัยแก่เพื่อนร่วมโลก ไม่สอนให้จองเวรกัน ไม่ใช่เหรอ
มีด้วยเหรอ!?
ศาสนาที่ไหนให้บอกฆ่าคนโน้น ฆ่าคนนี้ ต้องทำลายล้าง
ซึ่งกันและกัน ต่างชาติต่างศาสนาแล้ว องค์ศาสดานั่น ๆ ยินดี และจะรับไปอยู่ด้วย
ไม่มีหรอก!?
ใครคนไหนมันคิดเช่นนั่น หรือหมู่คณะใดๆ คิดเช่นนั่น
คือ ความคิดฝ่ายอกุศ เป็นความคิดของพ_ามาร และเป็นกบฎต่อศาสดาของท่านอย่างมหันต์

แค่หลักธรรมง่ายๆ ยังทำไม่ได้ จะไปทำอะไรได้

แค่หลักธรรมง่าย ๆ แค่ให้ทาน รักษาศีล เจริ_ภาวนา หากทำตามนี่
และยึดไว้ในจิตใจและกระทำออกมา จนบางคนถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิต เพียงแค่นี้จะตายวันนี้โลกแตกพรุ่งนี้ ก็จะตายก็ไม่เสียดาย หลับเป็นสุขล่ะ

 

โฮ่ โฮ่ จะรบกะพ_ามารรึ

อืมมมม จะรบกับพ_ามารรึ เหอะ เหอะ เหอะ จะขอรับไว้แต่ความหวังดีละกัน ( ถึงแม้จะเป็นความหวังดีที่ไร้ประโยชน์ แต่ก็เป็นความตั้งใจที่ดีนะ )

แต่จริงๆแล้วเนี่ยนะ กะอีแค่มันบอกให้คุณฆ่าไอ่นั่น คุณก็ไปฆ่าไอ่นั่นแล้ว แล้วถ้ามันบอกให้แย่งเมียไอ่นั่น คุณก็ไปแย่งเมียมันมาแล้ว อย่าเพิ่งคิดจะไปรบไปฆ่ากะมันเลย กะอีแค่ไม่ทำอย่างที่มันบอกให้คุณทำแค่นั้นน่ะทำให้ได้ก่อนเถอะ

 

ถ้ากลัวโลกอวสาน

ผมเชื่อว่า อย่างไรเสียโลกก็ยังไม่ถึงกาลอวสานหรอก เพราะว่าพระพุทธศาสนา จะต้องอยู่ถึง 5000 ปี ตอนนี้อย่าเพิ่งไปกลัวว่าโลกจะถึงกาลอวสานเลย จงกลัวว่า จะต้องไปเกิดในยุคที่โลกถึงกาลอวสานดีกว่า จะได้ตั้งหน้า ตั้งหน้า ทำบุ_ ทำทาน ปฏิบัติ ภาวนา จะได้ไม่ต้องมาเกิดในช่วงที่โลกถึงกาลอวสานนั้น อันนี้เป็นคติธรรมที่ใช้ได้ สำหรับทุกชาติ ทุกภาษา และทุกศาสนาน่ะครับ จริงๆแล้ว ศาสนาคริสต์ก็สอนให้คนเป็นคนดี แต่ผู้เผยแพร่ศาสนาของเขานี่สิ มักจะบอกว่าศาสนาของตนดีอย่างโน้นอย่างนี้ ศาสนาอื่นไม่ดี อันนี้ไม่ถูกต้องน่ะครับ

การที่จะให้ผู้อื่น นับถือศาสนา หรือปรัช_าของศาสนา หรือของลัทธิใดๆก็แล้วแต่ จะต้องให้ผู้อื่นนับถือ ในหลักธรรม หลักปรัช_า ว่าเป็นหลักธรรมที่เที่ยงแท้ เป็นหลักปรัช_าที่ให้เห็นความจริงทั้งหลาย เป็นหลักธรรม และหลักปรัช_าที่แสดงให้ถึง ทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ และวิธีดับทุกข์ทั้งหลาย

 

ยิ่งได้อ่าน ยิ่งไม่ศรัทธา

 

(||)
อุปปัชชิตวา นิรุชฌันติ
.............................เกิดขึ้นแล้วมันก็ดับไป
แต่ผมคงตายก่อนอยู่ดีอะครับ(kiss)

 

ก้อยว่าโลกจะอวสานตอนไหนไม่สำคัญหรอกค่ะ สำคัญที่ว่าวันนี้เราทำความดีหรือยัง จิตใจเราบริสุทธิ์หรือไม่ เพราะก้อยเชื่อว่ากรรมดีของเรา สักวันนึงไม่ชาตินี้ก็ตอนที่เราตายไป เราจะได้เสวยสุขอย่างแน่นอน แล้วก้อยไม่แน่ใจว่า คุณ gw ตั้งกระทู้ขึ้นมาเพื่อเตือนสติคนจริงๆหรือว่า เพื่อชักนำให้คนไปเข้าศาสนาคริสต์ ก้อยอยากจะบอกว่า ทุกศาสนานั้น แท้จริงแล้วคือหลักธรรมอันเดียวกัน คือศาสนาเดียวกัน แต่คนต่างหากที่พยายามจะแบ่งแยก ก่อให้เกิดการแตกแยก การไม่เข้าใจกัน แต่อย่างไรก็ตาม ก้อยก็รู้สึกดีที่ได้อ่านกระทู้นี้นะคะ เพราะอย่างน้อยก็เป็นการเตือนเราว่าทุกวันเราควรตั้งให้อยู่ในความไม่ประมาทค่ะ...

 

เอ่อ คือออออ จริงๆแล้วน่ะนะ ถ้าโลกแตกน่ะ สำคัญเลยน้องเอ๋ย นั่นแหล่ะเวรบรรลัยของแท้เลยน้อง แบบว่าจริงอยู่ที่ถ้าเราทำกรรมดีอะไรไว้ มันก็ย่อมจะต้องได้รับผลเป็นแน่แท้อย่างแน่นอนถูกต้องแล้ว แต่นั่นมันอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่ากรรมใดๆที่เราทำนั้น สามารถมีผลกรรมนั้นๆตอบสนองเราได้ อย่างเช่น ถ้าเราจีบสาวแบบโชว์พลัง จีบเหี้ยๆไม่ได้จีบดีๆ ( จีบดีๆต้องจีบด้วยใจ ) เราก็จะไม่รักแฟนเราอ่ะนะ ( รู้สึกว่าจะมีนะบาปนี้ ) แต่ถ้าแฟนเราทรงพลังสุดยอด เป็นแฟนที่ดีรักเดียวใจเดียวแม่บ้านแม่เรือน ไม่คาดหวังในตัวเรามากเกินกว่าที่เราเป็น เราต้องการอะไรก็หามาให้ไม่ขัดใจ ไม่เห็นแก่ตัวไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แบบนี้ถ้าจะติดบาปนี้อยู่แต่ก็จะไม่มีช่องทางที่จะให้บาปแสดงผลได้ บาปนี้ก็จะไม่แสดงผลออกมา ( แต่เมื่อใดที่แฟนเราโง่ลง เมื่อนั้น เวรกรรมอะไรๆที่ทำๆกันไว้ก็จะผุดออกมาตอนนั้นแหล่ะ )

พระศรีอารีย์ตอนจีบหญิงก็โชว์พลังเต็มที่ ไม่ได้เกรงกลัวเวรกรรมอะไรเลย ( เพราะถือว่าสวรรค์เป็นที่ๆรับเวรรับกรรมไม่ได้อ่ะนะ ) แล้วก็ลากเมียขึ้นไปบนสวรรค์แค่นั้นเรื่องมันก็จบ ( แต่ห้ามลงมาจวบจนฟ้าและดินจะสลาย -"- ลงมาเมื่อไหร่ล่ะเป็นเรื่อง มึงจะอยากลงมาขนาดไหนกูก็ไม่ให้มึงลงประมาณนั้น ) ( แล้วเสือกเอามันไปขังไว้ไม่ให้มันลงมาอีก มันอยากลงมาก็ไม่ให้มันลงอีก ติดบาปที่ไปขังมันไว้อีก บาปนี้จะทำให้มันจะคิดแต่จะแสวงหาอิสระเสรีภาพแล้วมองว่าเราเป็นตัวถ่วงห่วงผูกคอที่ถ้ามันมีเราอยู่จะทำให้มันดิ้นไปไหนไม่ได้ ซึ่งถ้ามันคิดยังงี้จะทำให้มันจะดิ้นรนที่จะไปกับคนอื่นให้ได้อย่างเดียว ต่อให้เราจีบมันจะเป็นจะตายยังไง มันชอบเราจะเป็นจะตายยังไง แต่ในสถานการณ์ที่เราจีบมันจะเป็นจะตาย และมีคนอื่นมาจีบมันเล่นๆ และมันก็ชอบเราจะเป็นจะตาย แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้น มันก็จะยังไปเลือกคนอื่นอยู่ดีอ่ะนะ )