แรงฤทธิ์อธิษฐาน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย พนมกุเลน, 14 สิงหาคม 2011.

แท็ก: แก้ไข
  1. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    www.handhoro.com/index.php/2010-10-04-10-11-37.html

    เมื่อประมาณ 15 ปีก่อน พ่อตาของผม พ.อ.ลิขิต สว่างวรรณ อาจารย์ ร.ร.นายร้อย จปร. ท่านชอบทำบุญ ถวายพระประธานมากถวายมาแล้วซัก 10 กว่าองค์ได้ และมักจะไปตามวัดที่กันดาร

    วันหนึ่ง มีวัดที่จังหวัดชัยภูมิ เป็นวัดที่สอนปริยัติธรรมด้วย เขียนจดหมายมาขอพระประธาน เนื่องจากได้สร้างโบสถ์ใหม่

    แต่....ที่สำคัญ ขอโต๊ะหมู่บูชาที่ใช้ประดับหน้าพระประธานด้วย แถมเน้นมาว่า อยากจะได้เป็นโต๊ะมุกด้วยนะ

    พ่อตาผม ท่านมาปรึกษาว่าสนใจมาก แต่ถ้าให้ถวายทั้งสองอย่าง ออกจะไม่ค่อยสะดวก เพราะพระประธานราคาประมาณ 50,000 บาทส่วนโต๊ะหมู่ไปเช็คราคาก็ประมาณ 45,000 บาท

    ปัญหาอีกอย่างคือ มีเวลาไม่เกิน 10 วันเท่านั้น จะถึงวันฉลองโบสถ์ใหม่ มีการตัดลูกนิมิตด้วย

    ผมเองก็คิดว่า.....โอ๊ย..อะไรกัน เวลาแค่ 10 วัน ทางวัดไม่คิดหรือว่าจะหาใครมีสตางค์ได้ทันกันนะ เกิดไม่ทันจะทำยังไงไม่แย่เหรอ....... แต่ภรรยาผมสนใจอยากร่วมทำบุญนี้มาก เลยปรึกษากันว่า ผมกับภรรยาจะรับเรื่องโต๊ะหมู่เอง

    ตอนนั้นบอกตรงๆ ว่าไม่ค่อยมั่นใจ เงินไม่ค่อยมี อยากทำ ก็อยากทำ ติดแค่เรื่องเงิน

    พ่อตาผมท่านก็บอกว่า คนเราต้องมีศรัทธาถ้าศรัทธาถึงก็จะทำได้ แล้วท่องให้ฟังว่า " มโนปุพพัง คมาธัมมา มโนเสรฐา มโนมะยา "และบอกว่าตั้งใจให้ดี แล้วไปอธิษฐานกับพระดูสิ....

    ผมก็ไปจุดธูปที่หิ้งพระ อธิษฐานขอให้สำเร็จเถอะผมอยากทำ แต่ไม่มีตังค์ ที่จริงเงินก็พอมี แต่เป็นเงินทุนการค้า เป็นเงินหมุน

    วันรุ่งขึ้นไปทำธุระ แล้วภรรยาชวนไปดูที่ขายโต๊ะหมู่กันไปที่เสาชิงช้า เลือกพระประธานได้ถูกใจมาก แต่ไม่ชอบโต๊ะหมู่เลย ไม่สวย ไม่เป็นศิลปะพอ

    เลยไปดูตามร้านเฟอร์นิเจอร์ไฮโซไปเจออยู่ชุดหนึ่งสวยมาก หมู่เก้า ขนาดกำลังดีสีน้ำตาลแดง ประดับมุก ลายเถาตำลึง อู๊ย...ย....ถูกใจ…สวยจริง ๆ แต่ ราคา 40,000 บาท ขาดตัว

    ผมกับภรรยา หันมามองหน้ากัน ทำตาปริบ ๆ แล้วเล่าเรื่องให้เจ๊ เจ้าของร้านฟัง เจ๊ บอกเอางี้ อยากช่วย 35,900 บาท ขาดตัว เราเลยวางมัดจำไว้ 5,000

    จากนั้น ก็กลับมานอนคิด....ทำยังไงดี พ่อตา ก็มาปลอบใจ บอกให้มีศรัทธา เลยขึ้นไปสวดมนต์ จะได้นอนหลับ

    วันรุ่งขึ้น มัวแต่ยุ่งกับเรื่องงานธุรกิจจนลืม ภรรยาผม ขายของเด็กเล่น เค้าจะไปเหมาตาม รง.ที่ผลิตส่งออกเหมาซื้อของที่ไม่ผ่าน Q.C. เป็นเกรด B แต่ปัจจุบันนี้ รง.พวกนี้ย้ายไปเมืองจีนหมดแล้ว

    ตอนบ่าย มีโทรศัพท์จากคนไม่รู้จัก ว่าที่ รง.ของเขามีของตกสต๊อกเหลืออยู่อีก 1 อย่าง เป็น ตุ๊กตาช้าง เย็บด้วยผ้าร่ม 5,000 ตัว เป็นของเกรด A ขนาดเท่าฝ่ามือ ผมถามว่า มีอย่างอื่นอีกมั้ย เขาบอกอย่างอื่นขายไปหมดแล้ว รง.เลิกแล้ว กำลังเก็บของย้ายไปจีน...

    เลยตกลงกันว่า วันพรุ่งนี้เช้าจะเข้าไปดู แต่ถามว่า ได้เบอร์โทรมาจากไหน เขาบอก ไม่รู้ใครให้มาเหมือกัน สินค้าก็เหลืออยู่แค่อย่างเดียวเท่านั้น...ไม่รู้ทำไมถึงยังมีไอ้ตุ๊กตานี่เหลืออยู่ได้ยังไง

    รุ่งเช้าผมกับภรรยา ก็ไปดูกัน รง.มันเลิกแล้วอ่ะ...มีแต่โกดังเปล่าๆ มีตุ๊กตาช้าง แพ๊คกองไว้กลางโกดังอย่างดีเลย

    ผมก็ตกลงซื้อมา ราคาไม่แพง ตัวละ 5 บาท เท่านั้น เรียกรถมาขนไปบ้าน กองพะเนิน แทบไม่มีที่เดิน ตอนบ่ายภรรยาผมเอาตัวอย่างไปให้ที่สำเพ็งดู ไปเจอคนรู้จักที่มีแผงอยู่ริมถนนด้านท่าน้ำราชวงศ์ อยู่หน้า ธ.กรุงศรีฯ ซึ่งเป็นทำเลทอง

    ทักทายกันตามประสาคนค้าขาย แล้วเอาตุ๊กตาให้ดูเขากลับบอกว่า ยังไม่เอาเพราะจะไปเที่ยวดูสินค้าที่เกาหลี ปกติตัวเจ้าของไปคนเดียว ปล่อยให้สามีหรือลูกน้องเปิดขายทุกวัน

    แต่เที่ยวนี้ไม่รู้เป็นไง อยากให้ลูกน้องได้หยุดไปเที่ยวซัก 2 วัน ซึ่งแปลกมาก เพราะไม่ใช่หน้าเทศกาล สำเพ็งค่าที่แพงมากถ้าไม่จำเป็นจะไม่หยุดขายกันหรอก แถมยังบอกให้ผมมาขายแทนได้ 2 วัน ไม่คิดค่าที่ด้วย....มหัศจรรย์

    วันรุ่งขึ้น จำได้ว่าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะ ธนาคารปิด ผมไปยืนร้องตะโกนขายที่แผงของเขา

    ขาย 5 ตัว 100 บาท ขายบ้าง แถมบ้าง.....ขายดีแฮะ เวลา 2 วันขายไปประมาณ 2,000 ตัวได้ แต่วันต่อมามีคนสนใจโทรมาขอซื้อไปขายต่อ

    จำได้ว่า เจ้าที่ซื้อเยอะที่สุดอยู่บางลำพู เป็นแผงกางเกงยีนส์ชื่อหมวย ที่เหลือก็ขายหมดภายใน 5 วัน ที่แปลกก็คือ ผมไม่มีเหลือซักตัวเลย

    ทั้งๆ ที่อยากจะเก็บไว้ดูเป็นที่ระลึก อย่างมาก แต่ตัวเดียวก็ไม่เหลือ ไปขอซื้อจากลูกค้า ทุกคนก็บอกว่าหมด ไม่เหลือ.....

    เมื่อมานับเงินดู ยิ่งขนลุกมาก..ก... ผมมีกำไรจากการขายตุ๊กตาช้าง เป็นเงิน 35,900 บาท พอดีเป๊ะ คืนนั้น สวดมนต์ซะยาว....เลย


    เมื่อถึงวันเดินทางนำพระประธาน กับโต๊ะหมู่ไปตอนเช้ามืด ช่วงนั้นเป็นหน้าหนาว ปีนั้นหนาวมากพอควร อีกอย่างที่น่าแปลก ก็คือ ผมหารถไม่ได้ต้องเอารถกระบะ มาสด้าสีขาว ที่ตั้งขายอยู่มาบรรทุกแทน

    ซึ่งรถคันนี้ มีประวัติไม่ค่อยดี น้าชายผมเคยเอาไปทำธุรกิจรับจ้างบรรทุกศพและต่อมาก็มาขายให้ผม ( ผมขายรถมือสอง )

    ไอ้รถคันนี้ สร้างความปวดหัวให้ผมบ่อย ๆ ขายไม่ออก ฟิตเครื่องใหม่ก็แล้ว ทำสีใหม่เอี่ยมก็แล้วมีปัญหาจุกจิกตลอดเวลา ลูกค้ามาดูแล้วก็ไม่เอา....

    ออกเดินทางตอนเช้ามืด ตกลงกันว่ารถมาสด้าที่มีพระประธาน กับโต๊ะหมู่ตั้งอยู่นำหน้า คนขับพร้อมกับคนที่รู้ทางไปด้วยกันผมและครอบครัวนั่งรถเก๋งตามหลัง ขับตามกันไปติดๆ พอไประหว่างทาง ประมาณ 7 - 8 โมงเช้า หมอกลงจัดมาก มองอะไรแทบไม่เห็น ผมก็ไม่ค่อยได้เจอหมอกหนาอย่างนี้มาก่อน


    มองไปได้ไม่เกิน 10 เมตร ต้องขับช้าๆ .... รถดันพลัดหลงกันผมเองก็ไม่รู้ทาง คนรู้ก็ไปกับรถกระบะซะด้วยแล้วจะทำยังไง..... ขับตามมองหากันอยู่ประมาณครึ่ง ชม.ก็ไม่เจอ พ่อตาผม ท่านบอกให้ใจเย็นๆ การทำบุญใหญ่ ต้องมีมารมาผจญทั้งนั้น ให้ตั้งจิตให้สงบ นึกถึงพระท่านก็แล้วกัน

    ผมก็สงบใจ ตั้งจิตอธิษฐานขอให้เจอกันเถอะ ถ้าหลงกันละแย่เชียว คันหน้าถึงจะรู้ทาง แต่ก็ไม่มีเงินเติมน้ำมัน

    ขณะนั้น รถอยู่กลางถนนที่ไหนไม่รู้ แต่แถวๆ สระบุรี หมอกลงหนามาก เพ่งมองถนนยังลำบากเลย จู่ ๆ....ก็มีแสง แว๊บ...แว๊บ....อยู่ข้างหน้า ห่างไปพอดู พ่อตาผมบอกให้ตามแสงนั่นไป ผมก็ต้องค่อยๆ ขับย่องตามแสงไป


    สักพักใหญ่ๆ เริ่มมีแดดบ้าง ไม่นานก็ตามกันทันปรากฎว่า เป็นแสงแดดที่สะท้อนองค์พระนั่นเอง ผมงี้...ขนลุกซู่เลย

    ถามคนขับ ก็ยังไม่รู้เลยว่าหลงกัน นึกว่าตามมาติดๆไปถึงวัดก่อนเที่ยง แต่ก่อนถึงวัดซัก 300 เมตร ได้ยินเสียง เฮ..เฮ.. พอถึงวัดถึงได้รู้ว่าเป็นเสียงชาวบ้านเขาร้องดีใจกัน เพราะเห็นแสงที่สะท้อนออกจากองค์พระมาแต่ไกล

    พอรถกระบะจอดหน้าวัดเท่านั้นแหละ คนทั้งหมู่บ้าน....ทั้งหมู่บ้าน...กรูกันเข้าไปช่วยกันยกพระประธาน และทุกอย่างเข้าไปในโบสถ์ใหม่ พระหนักมาก แต่เขายกกันปลิวเลย คนที่ไม่มีอะไรให้ยก ก็วิ่งตามกันไปเอิกเกริก แต่ไม่มีใครสนใจพวกผม เจ้าภาพ....เจ้าภาพ..นะเนี่ยะ

    เมื่อช่วยกันตั้งพระที่ฐานที่ทำเตรียมไว้...พอดี๊...พอดีเลย แล้วคนที่อยู่ในโบสถ์กันแน่นไปหมดรวมถึงคนที่เข้าไม่ได้ ก็ ก้มลงกราบพระพร้อมกัน กราบ.....กราบ.....กราบ

    ผมเอง ที่วิ่งตามพระไป ก็เข้าไม่ถึงยืนชะเง้ออยู่นอกโบสถ์เหมือนกัน ได้แต่ยืนดูภาพนั้น.....กัดฟันกรอด....กรอด....น้ำตาไหลไม่หยุด

    คืนนั้นกลับถึงบ้านอย่างปิติสุข สุด...สุด ตอนเช้า มีคนมากดกริ่งเรียก ขอซื้อรถกระบะคันนั้นเป็นใครก็ไม่รู้ บอกแต่ว่าเห็นแล้วอยากได้.....จะเอาไปทำมาหากิน

    เรื่องนี้ทำให้ผมกลับมาคุยกับภรรยา ถึงความมหัศจรรย์หลายครั้ง พ่อตาผมก็ได้แต่ยิ้ม ๆ ปัจจุบันท่านเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่ท่านเป็นผู้ชี้ทางสวรรค์ให้ผมเลยเชียวละ.............

    ผมเชื่อว่า ท่านต้องอยู่สวรรค์ ชั้นสูงๆ แน่เลย


    [​IMG]


    [​IMG]


    อ ธิ ษ ฐ า น ฤ ท ธิ์

    คือความสำเร็จอันเกิดจากพลังอธิษฐาน

    ปกติแล้วคนที่จะอธิษฐานสิ่งใดให้สัมฤทธิ์ผลได้นั้น
    ต้องมี สัจจะ สมบูรณ์ มี ความตั้งใจ ต้องเต็มเปี่ยม
    มี อุเบกขา เป็นฐาน และมี บารมี เป็นตัวกำกับอธิษฐาน
    หรือมีความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิเป็นองค์ประกอบ

    การอธิษฐานนั้นสามารถทำได้ที่
    อธิษฐานถาม อธิษฐานให้เกิดผล และการเปล่งวาจาสิทธิ์

    อ ธิ ษ ฐ า น ถ า ม

    เช่น ที่พระบรมโพธิสัตว์สิทธัตถะ ลอยถาดอธิษฐานว่า

    " หากเราพึงได้บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณด้วยการบำเพ็ญเพียรนี้
    ขอถาดนี้จงลอยทวนน้ำไป "


    ครั้นแล้วถาดนั้นก็ลอยทวนน้ำไป

    อ ธิ ษ ฐ า น ใ ห้ เ กิ ด ผ ล

    เช่น ที่พระองคุลีมาลอธิษฐานเพื่อหญิงที่หวาดกลัวจนลนลานว่า

    " ตั้งแต่เราเป็นอริยะ ไม่เคยแกล้งปลงชีวิตสัตว์ใดใดเลย
    ด้วยความสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมีแต่ครรภ์ของน้องหญิง "

    จากนั้นหญิงนั้นก็คลอดโดยสวัสดีไม่มีความเจ็บปวดเลย


    [​IMG]

    หรือการที่พระภิกษุหรือโยคีลอยตัว โดยการเข้าสู่จิตว่าง
    แล้วอธิษฐานให้ตัวเบา และลอยขึ้นมาแล้วเข้าสู่จิตว่างอีก
    จากนั้นตัวก็ลอยขึ้นมาตามอธิษฐาน

    หรือการที่ชาวคริสต์หลั่งศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า
    ชาวฮินดูหลั่งศรัทธาต่อพระพรหม
    ชาวพุทธหลั่งศรัทธาต่อพระพุทธเจ้า

    แล้วอธิษฐานเพื่อสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นในชีวิต
    ก็ใช้ความแน่วแน่ และความเชื่อมั่นเป็นพลังร้อยสิ่งต่างๆ
    ให้เป็นไปตามอธิษฐาน โดยมีพระ เทพ หรือพรหมของเขา
    คอยอนุเคราะห์ตามที่ท่านเห็นสมควร

    ว า จ า สิ ท ธิ์

    สำหรับคนที่มีสัจจะสมบูรณ์ มีความตั้งใจเต็มเปี่ยม
    ยามพูดจาบนพื้นฐานของอุเบกขา
    ทุกถ้อยคำของเขาคือความเป็นจริง เป็นวาจาสิทธิ์
    นี่คือฤทธิ์อันเกิดจากอธิษฐาน

    www.yantip.com/board/viewthread.php?tid=1474&extra=page%3D1
     
  2. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    อนุโมทนา....สาธุ กับ จขกท. ด้วย ครับ

    Nirvana หมดความสงสัยในเรื่องที่ท่านได้ยกมาโพสต์ครั้งนี้
    ว่าเป็นด้วยอานิสงค์แห่งอธิษฐานบารมี
     
  3. Sonaz

    Sonaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +348
    สาธุๅ อนุโมทนามิ อ่านแล้วปิติมากครับ

    ขออนุโมทนาบุญ ทั้งหลายทั้งปวงด้วยเถิด
     
  4. pgame

    pgame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +184
    อนุโมทนา สาธุ
    ได้รับทราบเรื่องราวนี้แล้ว ก็ได้เกิดมีปิติเกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้า
    ขอบุญกุศลที่ท่านได้ทำไว้ ส่งผลดลบันดาลให้ท่าน ได้พบแต่ความสุข ความเจริญเทอด
     
  5. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    อนุโมทนา...สาธุ ด้วยค่ะอ่านแล้วเกิดความปิติเป็นอย่างยิ่ง
     
  6. wacaholic

    wacaholic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +214
    อนุโมทนาด้วยอีกคนครับ ทำดีไม่เห็นยากเลย แต่ไม่ค่อยจะยอมรับทำ(ธรรม)กันสักเท่าไหร่เลย

    สมัยนี้คนทำดีกลับต้องอยู่หลบๆซ่อนๆ ไม่เข้าใจ+ละเหี่ยใจจริงๆครับ ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ครับ
     
  7. Tkkk

    Tkkk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +79
    ก็จิงนะ เรื่องแรงอฐิฐานน่ะ อย่างวันนี้ผมอฐิฐานขอ(ไม่เชิงว่าจะอฐิฐาน แต่อยากได้เท่านั้นเอง)อยากได้ลูกกรอกแมวมาเลี้ยงไว้ ช่วยค้าขาย ตื่นเช้ามา ได้เลย 3 ตัว ทำเอาผมงงมากเลย นี่ก็ตากแดดไว้อยู่ ถ้าไม่ติดว่าจะผิดกฎทางWEBก้จะเอารูปมาลงให้ดูนะเนี่ย
     
  8. บรม

    บรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,926
    ขออนุโมทนาครับ ด้วยแรงแห่งศรัทธา ตั้งมั่น ปาฏิหารย์เกิด
     
  9. manaeng

    manaeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +239
    อนุโมทนาค่ะ จขกท.ชื่อคุณ อณน โด่งดังมากในเว็ป พันทิพ เรื่องราวต่างๆที่คุณอณน เขียนได้มีการรวบรวมพิมพ์เป็นหนังสือ จำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อ ทุกเรื่องเขียนได้ดีมาก แฟนคลับคนนึงเหมือนกันค่ะ ดิฉันได้มีโอกาสทำบุญถวายระฆัง ที่วัดแห่งหนึ่งในจ.บุรีรัมย์ ซึ่งเพื่อนดิฉันได้เล่าให้ฟังว่า กลับไปทำบุญที่บ้าน (ที่บุีรีรัมย์) แล้วพระำไม่มีระฆังตี เพราะมีมารศาสนา มาโขมยไป ดิฉันอยากทำบุญมากเลยบอกเพื่อนว่า เดี๋ยวจะช่วยละกัน ต่อมาดิฉันได้ไปบอกบุญกับเพื่อนๆ พี่น้อง คนรู้จัก ฯลฯ แต่ว่าเป็นช่วงที่วิกฤตมาก เพื่อนๆที่เคยทำบุญด้วยกันได้เยอะๆ ก็พากันไม่มีรายได้ ทางญาติพี่น้อง ก็ำพากันช่วยตามกำลัง แต่ก็ยังขาดอยู่อีกประมาณ หมื่นกว่าบาท ดิฉันเครียดมาก เพราะกลัวว่าพระท่านจะไม่มีระฆังใช้ทันช่วงเข้าพรรษา (ที่ััผ่านมา) ก็นึกถึงคุณ อณน และคำปลอบใจของคุณพ่อตาที่ว่า "คนเราต้องมีศรัทธา ถ้าศรัทธาถึงก็จะทำได้" ดิฉันนั่งสวดมนต์ไหว้พระ ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยมาเป็นที่พึ่ง ขอให้ถวายระฆังเป็นผลสำเร็จด้วยเทอญฯ เชื่อมั้ยคะ อีก 2 วันต่อมาแม่แฟนโทรฯมาถามว่า อยู่บ้านรึเปล่า จะมาหา ดิฉันบอกว่า "อยู่" แกก็มาจริงๆ แถมเอาเงินใส่ซองมายื่นให้กับมือถึงบ้าน แกบอกว่า ให้เป็นของขวัญวันเกิด ของดิฉันและลูกๆ เพราะว่าดิฉันและลูกๆเกิดไล่ๆกัน พอแกกลับไปแล้ว ดิฉันมาเปิดซองดู ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แกให้เงินมาพอดีกับที่กำลังขาดพอดีเลย ดิฉันดีใจมาก ตอนนี้ระฆังก็ได้ถวายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยากบอกกับทุกๆคนว่า "ปาฏิหาริย์มีจริงขอเพียงทุกๆคนมีศรัทธา เชื่อมั่น และตั้งใจ ทุกอย่างก็สามารถเป็นไปได้"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2011
  10. พรหมพร

    พรหมพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    350
    ค่าพลัง:
    +457
    มี เรื่องตลก ส่วนตัว เกี่ยวกับการอธิฐานจิต มาเล่าสู่กันฟัง ขำๆน่ะ :d

    ที่บ้านติดจานดาวเทียม ก็จะได้ดูรายการต่างๆเยอะกว่าฟรีทีวี แต่จะไม่ค่อยติดตามเรื่องใดมากนัก
    สนใจรายการดูดวง แต่ก็งั้นๆ เพราะเราก็ศึกษาอยู่ เห็นคนดังผ่านจอบ่อยครั้ง ชอบรูปลักษณ์ของอาจารย์ หนู กันภัย
    เห็นว่าการที่มีผมขาวกระหย่อมนึงนั้นดูเท่ห์ดี ทำให้ดูเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ดูขลังดีว่างั้นเถอะ
    คิดกันเล่นๆในใจ เมื่อเรามีอายุมากขึ้น ถึงวัยที่เริ่มมีผมหงอก อยากมีผมขาวสักปอยโดดเด่นกลางกลุ่มผมที่ยังดำ
    เวลาเกล้ามวยผม ออกงาน...จะได้ดูเท่ห์ๆ ดูขลังอย่างอาจารย์มั่ง ก็แค่คิดเล่นๆ แล้วก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีก
    วันเวลา ผ่านไป หลังจากนั้นไม่นานเลย ตอนเย็นวันนึง ไปรับลูกชายที่เล่นกับเพื่อนอยู่ท้ายหมู่บ้าน
    วันนั้นครึ้มฟ้าครึ้มฝน ลมพัดแรงอย่างมาก เดินผ่านต้นลำใยหน้าบ้านใกล้จุดที่เด็กๆเล่นกันอยู่
    จู่ๆได้ยินเสียงดังหึ่งๆรู้สึกได้ว่ามีแมลงบินมาต่อยเข้าที่ศีรษะ รู้สึกเจ็บปวดมาก คิดว่าต้องไม่ใช่แตนอย่างแน่นอน
    รีบก้มหน้าลงพลางใช้มือปัดป่ายหวังจะให้แมลงบินออกไป ผลกลับออกมายิ่งแย่กว่าเดิม โดนต่อยเพิ่มขึ้น
    คิดว่าเป็นตัวต่อแน่แล้ว ตอนที่เจ็บปวดอย่างที่สุด ปากร้องตะโกนออกไป ใครไปทำอะไรกับรังต่อ
    เด็กบ้าอะไรไปรังแกทำร้ายรังต่อ มันถึงได้ออกมาไล่ต่อยคนอย่างนี้ คือใจไม่ได้โกรธตัวต่อเลยนะ
    ตัวต่อต่อยเสร็จแล้วก็บินหนีไป สุดท้ายก็ไปจบที่โรงพยาบาล โดนต่อต่อยสามจุดด้วยกันที่ศรีษะด้านบนซ้าย
    พิษนั้นร้อนแรงปานไฟแผดเผา ต้องฉีดยา กินยาแก้ปวดชนิดแรงสุดเท่าที่โรงพยาบาลจะจัดให้ได้
    เล่นเอาหัวโนบวมปูดเลยล่ะ รังต่อก็โดนชาวบ้านรมควันเอาตัวอ่อนไปกิน พรหัวปูดหน้าบวมอยู่ 3-4 วันจึงได้หาย
    เมื่อหายดีแล้ว จึงได้คิดได้ คนเฒ่าคนแก่เล่าไว้ ว่า ถ้าโดนต่อโดนแตนต่อยที่หัว ผมตรงที่โดนต่อยจะหงอก

    นึกได้ดังนี้แล้วก็หัวเราะในใจแบบ...ฮึ่ม!? แหม~ไม่จำเป็นต้องให้สำเร็จสมความต้องการทุกเรื่องก็ได้นะเจ้าคะ
    ในเมื่อเรื่องมันแล้วไปแล้ว มันก็ไม่สามารถแก้ไขให้กลับคืนมาได้ ตอนนี้พรยังไม่แก่อะไรมากมาย
    แต่เมื่อพรอายุมากขึ้น เส้นผมก็คงจะหงอกขาวกว่าเพื่อนอยู่กระหย่อมนึงสมใจ เฮ้อ~รนหาที่จริงๆเลยนะพรเอ๊ย~
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...