เอาอย่างหมา

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย pongio, 3 ตุลาคม 2015.

  1. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    เมื่อคนมีเรื่องทะเลาะกัน ผู้เฒ่าผู้แก่ก็มักสอนให้ใครสักคน เป็นฝ่ายยอมแพ้ เป็นที่มาของคำพังเพย แพ้เป็นพระชนะเป็นมารครับ

    แต่บางคนก็ยังไม่ยอม เอาเรื่องไปฟ้องให้ศาลตัดสิน แต่กว่าศาลท่านจะตัดสิน ก็ต้องฟังทั้งฝ่ายโจทก์ฝ่ายจำเลย...เรื่องยืดเยื้อยาวนาน เสียเงินทองมากมาย คนจีนดีดลูกคิดหักลบกลบหนี้แล้ว ส่ายหน้า สอนกันว่า เป็นความในศาลกินขี้หมาดีกว่า

    เอาเป็นว่า ถ้าไม่เหลืออดเหลือทนกันจริง...ทั้งคนไทยคนจีน ไม่อยากมีเรื่องขึ้นโรงศาล

    แต่หากเป็นเรื่องพระทะเลาะกัน...แพ้เป็นพระ ใช้ไม่ได้ เพราะพระเป็นพระอยู่แล้ว

    คำสอนของพระผู้ใหญ่จึงไปอีกอย่าง

    ในปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง เล่ม 1 พระสมเด็จ “ตรียัมปวาย” บันทึกเรื่องวัตรปฏิบัติ แบบไม่ธรรมดา ของขรัวโต หรือสมเด็จพระพุฒาจารย์โต วัดระฆัง เอาไว้หลายเรื่อง

    เรื่องหนึ่ง...พระอาจารย์เทศ ลูกวัดชนะสงคราม เกิดเรื่องทะเลาะกับ พระอุดมญาณ เจ้าอาวาส อย่างรุนแรง ถึงขั้นดำริว่า จะย้ายไปอยู่วัดอื่น ระหว่างคิดเรื่องย้ายวัด เหนื่อยหน่ายทุกข์ใจมาก บางครั้งก็อยากจะลาสึก

    เรื่องของชาววัด ถึงขั้นจะลาสึก ถือเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องเป็นเรื่องตาย

    สมัยนั้น ชื่อเสียงเรื่องทรงคุณธรรมของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต วัดระฆัง เลื่องลือระบือไปไกล อาจารย์เทศ ออกจากวัดชนะสงคราม ลงเรือข้ามฟากไปวัดระฆัง เข้าไปกราบท่านเจ้าประคุณ เล่าทุกข์ร้อนของท่านให้ฟัง

    “กระผมร้อนใจเหลือเกินขอรับ ขอพระเดชพระคุณ ได้กรุณาประทานโอวาทปฏิบัติแก่กระผม เพื่อนำไปสงบระงับความเดือดร้อน...”

    “อ้อ อย่างนั้นหรือ” สมเด็จพระพุฒาจารย์โตว่า “ถ้าอยากสบาย ก็เอาอย่างหมาซิจ๊ะ”

    เจอประโยคเด็ดเหมือนปริศนา ตีความไม่ได้ พระอาจารย์เทศ ก็งง ทำสีหน้าฉงน เจ้าประคุณสมเด็จฯ จึงถามว่า “เข้าใจไหม...” สีหน้าอาจารย์เทศ ก็ยังไม่เปลี่ยนจากเดิม เจ้าประคุณสมเด็จฯก็อธิบาย

    “คืออย่างนี้ ธรรมดาหมานั้น เมื่อมันกัดกันแล้ว ถ้าไอ้ตัวแพ้ ลงนอนหงายสิ้นท่า ปล่อยให้ไอ้ตัวชนะยืนจังก้าคร่อม ร้องขู่คำรามแฮ่ๆ ไอ้ตัวชนะ มันก็ไม่กัดตัวแพ้อีก”

    ฟังถึงตอนนี้ พระอาจารย์เทศ ก็ได้คิด ทบทวนเรื่องทะเลาะกับสมภารวัด...และเห็นว่า ตัวท่านเองก็ปฏิบัติรุนแรงแข็งกร้าว ตอบโต้ท่านเจ้าอาวาสเกินไป

    ความร้อนใจ แท้จริงเกิดจากใจตัวอาจารย์เทศเอง

    คลี่ปริศนาเจ้าประคุณสมเด็จโตออก จนเข้าใจกระจ่าง พระอาจารย์เทศ ไม่พูดอะไรต่อไปอีก ก้มลงกราบเจ้าประคุณสมเด็จฯ ด้วยท่วงท่าศรัทธาต่อการมากราบครั้งแรก

    “กระผมจะนำคติของพระเดชพระคุณ ไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ขอรับ”

    อาจารย์เทศกลับไปอยู่วัดชนะสงคราม...และเอาเรื่องนี้ เล่าให้ญาติโยมที่นับถือฟัง ว่าเมื่อท่านใช้หลัก “เอาอย่างหมา” ของสมเด็จพระพุฒาจารย์โตไปใช้ ท่านก็ได้รับแต่ความสงบร่มเย็นตลอดมา เรื่องร้อนใจอันใดไม่มีอีกเลย

    เรื่องหมากัดกัน แล้วตัวแพ้สิ้นท่า นอนหงายให้ตัวชนะคร่อมขู่แฮ่ๆ...เด็กบ้านนอกเห็นกันจนเจนตา

    แต่ผู้ใหญ่บางคนไม่รู้นิสัยหมา รำคาญเสียงทะเลาะกัน ก็เอาถังไปตักน้ำไปสาด เจอน้ำเข้าไป หมาก็แค่ย้ายที่กัดกันให้ไกลไปอีกหน่อย แล้วก็กัดกันต่อ จนตัวหนึ่งหมดกำลังยอมแพ้...เลิกรากันไปเอง

    หมามันใช้อาวุธประจำตัว แค่ปากและเขี้ยว...หนักหน่อยก็แค่เป็นแผลเลือดไหล...ผมยังไม่เคยเห็น หมาคู่ไหนกัดกันถึงตาย...และยังไม่เคยเห็นหมากัดกันแบบข้ามวัน ข้ามเดือน...

    ที่กัดกันจนน่ารำคาญ ตายไปนับสิบนับร้อย เจ็บกันเป็นพัน นั่นเป็นเรื่องกัดกันแบบคน.



    กิเลน ประลองเชิง

    เอาอย่างหมา - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...