เอกอร อนุกูล หนึ่งในอาสาสมัครมูลนิธิมายาโคตมี

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย paang, 15 มกราคม 2007.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    [​IMG]



    เส้นทางที่เลือกแล้ว

    เป้าหมายในชีวิตของคนเราแตกต่างหลากหลายกันไป บางคนวางไว้สูงสุดที่รถหรูหรือบ้านสวย แต่สำหรับ เอกอร อนุกูล หนึ่งในอาสาสมัครมูลนิธิมายาโคตมี วางไว้อีกแบบหนึ่ง มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น หากแต่จับต้องด้วยความรู้สึก
    ก่อนจะเข้ามาทำงานเป็นอาสาสมัครที่มูลนิธิ เธอทำงานเกี่ยวกับการส่งออกของเล่นกว่า 17 ปี ระหว่างนั้นเธอมีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมะ เริ่มจากอ่านหนังสือ ฝึกทำสมาธิ จนกระทั่งได้รู้จักการวิปัสสนากรรมฐาน ทำให้ได้ฝึกสติ เฝ้าสังเกตตัวเองในระดับลึกของจิตใจ และการเรียนรู้นั้นทำให้เกิดผลเปลี่ยนแปลงกับตัวเอง

    "การดูความรู้สึกตัวเอง ทำให้ได้เห็นการเกิด การดับ หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ได้เห็นมันเกิดขึ้นและสักพักก็จะหายไปเอง อย่างความโกรธ ถ้าเราไม่ทันเห็นว่ามันโกรธแล้ว มันก็จะหาย พอถึงเวลาโกรธปุ๊บ เราก็จะวี้ดเลย แต่ถ้าเราเรียนรู้ว่า เดี๋ยวก็จะดับไป แล้วเราจะวี้ดไปเพื่ออะไร ไม่มีประโยชน์ที่จะทำร้ายความรู้สึกตัวเอง"

    เอกอร ขยายความเพิ่มถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองหลังการฝึกเจริญสติว่า ก่อนหน้านี้เคยมีความทุกข์เรื่องความเจ็บป่วยของน้องสาว มีความกังวลว่าเมื่อไหร่อาการป่วยของเขาจะหาย เมื่อได้ฝึกจิตใจแล้วปัญญาที่เกิดขึ้น ทำให้แยกแยะได้ระหว่างปัญหากับความทุกข์ เมื่อน้องสาวป่วย การจัดการปัญหาคือการหาทางรักษา ไม่ใช่การนั่งทุกข์กังวล

    "ผลที่เกิดขึ้นกับจิตใจ ไม่ใช่แค่ทุกข์น้อยลง แต่มันมีความสุขมากขึ้น เรื่องที่เคยทำให้ทุกข์มาก่อน ตอนนี้ทำอะไรเราไม่ได้ ชีวิตมีแต่ความสุข อยู่เฉยๆ ก็มีความสุข สุขโดยไม่ต้องไปดูหนังหรือฟังเพลง" เอกอร เล่าถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นข้างใน

    เมื่อสภาพจิตใจเป็นอย่างนั้น ก็ทำให้เธออยากใช้เวลาในการปฏิบัติธรรมะให้มากกว่าการใช้วันหยุดเสาร์-อาทิตย์หรือรอช่วงเทศกาลเท่านั้น เธอเริ่มต้นจากขอลดเวลาทำงานลงครึ่งหนึ่ง โดยขอรับเงินเดือนเพียงครึ่งเดียว เพื่อจะมีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น ก่อนจะตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ทำมานานถึง 17 ปี

    "ตอนแรกก็ยังไม่รู้ใจตัวเองอย่างถึงที่สุด ลาออกมาแล้วก็กลัวเหงาเหมือนกัน ก็เลยทำธุรกิจไว้รองรับอย่างหนึ่ง พร้อมๆ กับการปฏิบัติธรรม แต่เมื่อทำไประยะหนึ่งแล้วคำตอบก็ค่อยๆ ชัดขึ้นว่า ชีวิตน่าจะมีอะไรมากกว่าการหาเงิน ถ้าเรารู้จักพอและไม่ได้ลำบาก ก็น่าจะหาอะไรทำที่มีประโยชน์มากกว่านี้" เอกอร เล่าถึงเหตุที่เลือกเข้ามาทำงานอาสาสมัครกับมูลนิธิมายาโคตมี

    เอกอรรู้จักมูลนิธิมายาโคตมีจากการไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าสุนันทวราราม จังหวัดกาญจนบุรี และในช่วงที่เกิดเหตุภัยพิบัติสึนามิ หลวงพ่อมิตซูโอะ คเวสโก ก็นำเรื่องการทอผ้าซาโอริ ซึ่งปกติใช้ช่วยฝึกสมาธิที่วัด ไปช่วยชาวบ้านที่พังงา ให้พวกเขาทอผ้า ทั้งเพื่อเลี้ยงชีวิตและผ่อนคลายความทุกข์

    งานอาสาสมัครของเธอคือ การเข้าไปทำหน้าที่ช่วยขายงานซาโอริ มีตั้งแต่การนำสินค้าไปเสนอตามร้านค้าต่างๆ เพื่อขอนำสินค้าไปวางขาย ปัจจุบันสินค้าดังกล่าวมีวางขายประจำที่ร้านเลมอนฟาร์ม สาขาแจ้งวัฒนะ และร้านภูฟ้า รวมทั้งการไปติดต่อตามบริษัทต่างๆ เพื่อไปขอตั้งบูธในบางโอกาส
    เป้าหมายของเอกอรไม่ได้มุ่งปลดสัมภาระเกินจำเป็นทางด้านทรัพย์สินหรือวัตถุเท่านั้น บางสิ่งบางอย่างที่ครอบงำจิตใจให้หม่นหมองก็เป็นเป้าหมายหนึ่งที่ต้องมุ่งหน้าขัดเกลาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่
    การทำงานอาสาสมัครไม่เพียงได้ทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น ยังเป็นผลดีต่อคนทำงานด้วย เป็นโอกาสได้ขัดเกลากิเลสคล้ายๆ กับการปฏิบัติธรรม

    "ที่มูลนิธิมีคนทำงานน้อย มีงานหลายระดับให้ทำ อย่างง่ายๆ การไปรับส่งของแบบเมสเซนเจอร์ก็มี อันนี้ทำแล้วดี จากเคยเป็นไดเร็คเตอร์ ทำแล้วลดอัตตาตัวเองได้เป็นอย่างดี เป็นการขัดเกลากิเลสตัวเอง ไม่ได้ยึดติดว่าทำไม่ได้แต่อย่างใด"

    คนที่อยากฝึกจิตฝึกใจตัวเอง ก็ไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานกันทุกคน สำหรับตัวเธอเลือกแบบนี้ เพราะรู้จิตใจตัวเองว่าอยากจะใช้จ่ายเวลาส่วนใหญ่ในชีวิตไปกับเรื่องใด

    เอกอร บอกว่า ในที่ทำงานเป็นสนามทดสอบได้เป็นอย่างดี อย่างเวลาที่มีคนมาต่อว่าอย่างใส่อารมณ์ การช่วยเหลือจิตใจของตัวเองไม่ให้ถูกกระทบกระทั่งบ่อยๆ นอกจากการหมั่นฝึกสติ เพื่อให้ทันเห็นเรื่องการเกิดการดับของความรู้สึกต่างๆ รวมทั้งความโกรธของตัวเองแล้ว ก็อาจจะคิดทางบวกหรือเลือกรับเฉพาะสารที่เขาต้องการสื่อ เช่น เขาอยากให้แก้ไขงานหรืออื่นๆ โดยไม่รับเสียงกระชากๆ ของเขามารู้สึกให้เปลืองหัวจิตหัวใจไปเปล่าๆ

    "ในแต่ละวันมีหลายเรื่องที่จะเข้ามากระทบจิตใจเรา มันมาทุกทาง เราห้ามไม่ได้ แต่เรามีสิทธิที่จะไม่กระเทือนได้ ทำหัวใจเราให้ไม่สะเทือนได้" เอกอร แบ่งปันวิธีรักษาหัวใจ




    ที่มา http://203.154.97.32/bodyheart/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2007

แชร์หน้านี้

Loading...