เหลาจื้อมีตัวตนจริงๆ หรือ ?

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 5 กรกฎาคม 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172
    [​IMG]



    หลังจากที่ พระอาจารย์ สวดบังสุกุลเสร็จได้กล่าวว่า " พระพุทธเจ้า ตรัสว่า สัตว์โลกเกิดเท่าไรก็ตายเท่านั้น แต่กว่าจะตายได้ก็ใช้ระยะเวลา โดยเฉพาะมนุษย์เรามีอายุหลายสิบปี

    เด็กที่เกิดมาใช้เวลาอยู่ในท้องไม่เกินสิบเดือน ยกเว้นพวกที่นอนเพลิน อยู่ในท้อง ๑๒ เดือนก็เคยเจอมาแล้ว แต่มีอีกรายหนึ่งอยู่ในท้อง ๓๙ ปีกว่าจะคลอดออกมา กลายเป็นหินไปเลย แต่ถ้า เหลาจื้อ อยู่ในท้องแม่ ๘๐ ปี แม่ยังสาวพริ้งเหมือนสาวอายุ ๑๖ แต่ลูกออกมาแก่ หนวดยาวลากพื้นเลย"

    ถาม : เป็นความจริงหรือคะ ?

    ตอบ : ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ยกเว้นเรายังไม่เคยเจอ ถ้าเจอเมื่อไรก็จะเป็นไปได้เอง

    ถาม : เหลาจื้อมีตัวตนจริงๆ หรือคะ ?

    ตอบ : ถ้าไม่มีแล้วเขาจะมาพูดถึงได้อย่างไร ? แล้วขงจื้อมีตัวตนไหม ? ขงจื้อเคยไปขอความรู้จากเหลาจื้อ

    ไม่ว่าเหลาจื้อก็ตาม พระพุทธเจ้าก็ตาม หรือนักปราชญ์ทางด้านกรีก อย่างเพลโตหรือโซเครตีส เกิดไล่ๆ กันหมด เหมือนกับโลกยุคนั้นท่านที่บำเพ็ญบารมีมาต่างคนต่างลงมาเกิด อยู่ในจุดที่ต้องสงเคราะห์คนหมู่มากเหมือนกัน เพียงแต่พระพุทธเจ้าทรงรู้ครบถ้วน จึงจบกิจเข้าพระนิพพานไปเลย คนอื่นรู้ไม่ครบก็ต้องแสวงหากันต่อไป


    สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔

    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard...?t=2637&page=2



    .
     
  2. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ไม่ว่าเหลาจื้อก็ตาม พระพุทธเจ้าก็ตาม หรือนักปราชญ์ทางด้านกรีก อย่างเพลโตหรือโซเครตีส เกิดไล่ๆ กันหมด เหมือนกับโลกยุคนั้นท่านที่บำเพ็ญบารมีมาต่างคนต่างลงมาเกิด อยู่ในจุดที่ต้องสงเคราะห์คนหมู่มากเหมือนกัน เพียงแต่พระพุทธเจ้าทรงรู้ครบถ้วน จึงจบกิจเข้าพระนิพพานไปเลย คนอื่นรู้ไม่ครบก็ต้องแสวงหากันต่อไป

    โมทนาสาธุครับ
     
  3. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    เมื่อครั้งที่ไปชลบุลีได้รับขันธ์ครู ที่ตำหนักขององค์พ่อจตุคามรามเทพได้มีการลงประทับญาณขององค์พ่อจตุคามรามเทพ และท่าน แนะนำเกี่ยวกับพระอรหันต์ขี่ควาย

    เห็นไหมลูกไปดูไปพระอรหันต์ขี่ควาย และ ก็เอาทองคำเปลวไปติดที่หน้าผาก
    ของควาย ควายเป็นสัญญาลักษณ์ของความอิจฉานะลูก เมื่อลูกติดแผ่นทองที่หน้าผากควายไปแล้วพระอรหันต์ขี่ควายจะนำเอาความอิจฉาออกไปเพราะลูกถูกคนอิจฉาในสิ่งที่คนอื่นเค๊าไม่มี แต่ลูกมีลูกเองก็รู้ดีว่าลูกมีอะไรที่คนอื่นเค๊าไม่มีอย่างลูก ผมประจักษ์แจ้งด้วยตาว่าท่านคือพระศาสดาเล่าจื้อที่ผมเองก็เลื่อมใสมากๆในพระธรรมอันลึกซึ้งของท่านก็เป็นไปเพื่อความหลุดพ้นเหมือนๆศาสดาทุกๆพระองค์ ผมจึงเทิดทูนคุณธรรมของท่านศาสดาเล่าจื้อยิ่งนัก.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2011
  4. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647

    [​IMG]


    [​IMG]

    ท่านเล่าจี้อโดยตำแหน่งไม่ถือว่าเป็นศาสดานะครับ....

    เป็นได้มากสุดคือเจ้าลัทธิ.......เพราะลัทธิเต๋านั้น.....เป็นแนวคิดครับ(เป็นลัทธิครับไม่ใช่ศาสนา)....ท่านเป็นปรัชญาเมธีจีนคนหนึ่งครับ....พวกพิธีกรรมอะไรต่างๆนั้นล้วนแต่คนยุคหลังคิดขึ้นแม้แต่เทพเซียนอะไรต่างๆก็ตามในจีน(สุดท้ายเขาก็ยกท่าน เล่าจื้อ เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่ง ชื่อว่า ไท่ช่างเล่าจุล(太上老君) ที่เราเห็นบ่อยๆในหนังเทพนิยายจีน)....โดยสมัยของท่านเล่าจื้อมีชีวิตอยู่นั้น...ไม่ได้มีอะไรอย่างที่เราเห็นในสมัยนี้หลอกครับ....ไปอ่านวรรณกรรมที่ท่านเขียนขึ้นได้ครับ...“道德经”นะครับ...

    ท่านจริงๆก็ไม่ต่างอะไรกับ อาจารย์สัญชัยปริพาชก ในอดีตนั่นหละครับ....แต่เผอิญว่าเกิดอยู่ที่จีน อาจารย์สัญชัยปริพาชกเกิดอยู่อินเดีย....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2011
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    เล่าจื้อ มีตัวตนจริงตามประวัติศาสตร์ครับ

    ท่านดำรงค์ชีวิตอยู่ประมาณช่วง ๔๗๑ ถึง ๕๗๑ ก่อนคริสต์กาล .

    เป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์หนึ่งในร้อยของโลกท่านหนึ่ง เป็นนักคิดและปรัชญาเมธีคนสำคัญของจีน เป็นเจ้าลัทธิเต๋า หนังสือสำคัญที่ท่านเขียนขึ้นคือ เต้า เต๋อ จิง (道德经).


    ข้อมูลแปลรวบรวมจากสารานุกรมเสรี(จีน) BAIDU .
    http://baike.baidu.com/view/2237.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2011
  6. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    เล่าจื๊อ

    <!-- /firstHeading --><!-- bodyContent --><!-- tagline -->จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    <!-- /tagline --><!-- subtitle -->
    <!-- /subtitle --><!-- jumpto -->ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    <!-- /jumpto --><!-- bodytext -->[​IMG] [​IMG]
    เล่าจื๊อ, จาก ไมท์แอนด์ลีเจนส์ออฟไชน่า, ค.ศ. 1922 โดย อี.ที.ซี. เวอร์เนอร์


    เล่าจื๊อ (จีน: 老子; พินอิน: Lǎo zǐ; อังกฤษ: Lao Zi หรือ Lao Tzu) นักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงชาวจีนที่สุดท่านหนึ่งของชนชาติจีน ที่เชื่อกันว่าอาศัยอยู่ในช่วง 400 ปี ก่อนคริสต์ศักราช ในช่วงของสงครามปรัชญา และสงครามการเมืองยุคชุนชิว เล่าจื๊อได้เขียนตำราอันเป็นแบบแผนในทางเต๋า นั่นคือ "เต๋าเต็กเก็ง" (Tao Te Ching) (道德經) ซึ่งเป็นผลงานทางลัทธิเต๋าที่ยังคงตกทอดมาถึงยุคปัจจุบันนี้ เล่าจื๊อเป็นนักปราชญ์ที่เชี่ยวชาญทางเต๋า ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ดาราศาสตร์
    <TABLE id=toc class=toc><TBODY><TR><TD>เนื้อหา

    [ซ่อน]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>[แก้] ประวัติ

    ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เรารู้จักเล่าจื๊อ (เหลาจื่อ)น้อยมาก แต่มีพงศาวดารจีนหลายชิ้นที่กล่าวถึงเล่าจื๊อ ในฐานะที่เป็นผู้แต่งคัมภีร์ เต๋าเต็กเก็ง หรือ เต้าเต๋อจิง ซึ่งเนื้อหาในคัมภีร์นี้ มีความสำคัญกับวัฒนธรรมจีนในรุ่นต่อๆมาอย่างมาก ถือได้ว่าเทียบเท่าได้กับ ขงจื๊อ ตามพงศาวดารระบุไว้ว่า เล่าจื๊อ เกิดในแคว้น Ku (苦縣 Kǔ Xiàn) ซึ่งในปัจจุบันคือบริเวณ Lùyì County (鹿邑) ของมณฑล Henan บางตำนานกล่าวไว้ว่าเล่าจื๊อเมื่อเกิดมามีผมสีขาว และอยู่ในครรภ์มารดานานถึง 8 ทศวรรษ หรือ 80 ปี ชื่อของเล่าจื๊อแปลโดยนัยได้ 2 แบบว่า "อาจารย์ผู้อาวุโส" หรือ "เด็กผู้อาวุโส" เกิดที่หมู่บ้านชีเหยินลี อำเภอขู่เสี้ยน แคว้นฉู่ เมื่อวันที่ 15 เดือนยี่ ก่อนค.ศ.ราว 576 ปี (ก่อนพ.ศ. 33 ปี)
    จากพงศาวดารของซือหม่าเซียน (Sima Qian) กล่าวว่า เล่าจื๊อมีอายุมากกว่าขงจื๊อ แต่อยู่ในยุคสมัยเดียวกัน และเคยได้พบปะเสวนากัน เล่าจื๊อได้ทำงานในราชวงศ์โจว ขงจื๊อและเล่าจื๊อได้มาพบเจอโดยบังเอิญกันในแคว้น Zhou (ปัจจุบันคือแถบเมืองลั่วหยาง) โดยขงจื๊อได้มาค้นหาตำราในห้องสมุด จากเรื่องเล่านี้ ทั้งสองได้แลกเปลี่ยนทรรศนะคติความเห็นในหลายๆด้าน เป็นเวลาหลายเดือน หลังจากการเสวนาในครั้งนี้ ขงจื๊อกล่าวว่า "การได้เสวนากับท่านเล่าจื๊อ ถือว่าเป็นการศึกษาที่ล้ำลึก และดีเยี่ยมกว่าหนังสือในห้องสมุดเสียอีก"
    [แก้] ผลงาน

    ผลงานที่สำคัญที่สุดของเล่าจื๊อคือ "คัมภีร์เต๋าเต็กเก็ง หรือ เต้าเต๋อจิง" เป็นคัมภีร์ที่มีอักษรจีน 5,000 อักษร ซึ่งมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมของประเทศจีนอย่างมาก โดยภายในคัมภีร์นั้น มีเนื้อหาในด้านปรัชญาบุคคล ความกลมกลืนต่อการใช้ชีวิตกับธรรมชาติ จนไปถึงปรัชญาการเมือง
    จากการตีความ คำว่า "เต๋า" ในคัมภีร์ มักจะหมายถึง มรรค หรือ หนทาง (The way) หรือ ธรรม ซึ่งมีความหมายกว้างๆและมักตีความหมายในแนวเป็นไปตามธรรมชาติ การกระทำที่สอดคล้องกับวิถีแห่งเต๋าใดๆ จะสามารถบรรลุมรรคผลได้โดยง่าย เล่าจื๊อเชื่อว่า ควรหลีกเลี่ยงความรุนแรงต่างๆเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่วนคำว่า "เต็ก หรือ เต๋อ" นั้นหมายถึง "คุณธรรม" คัมภีร์นี้แบ่งออกเป็น 81 บทด้วยกัน
    ถึงแม้ว่าเล่าจื๊อจะไม่ได้ปลูกฝังวัฒนธรรมหยั่งลึกได้เทียบเท่ากับ ขงจื๊อ ในอารยธรรมจีน แต่ท่านก็ยังเป็นที่เคารพนับถือโดยทั่วไป ทั้งแนวความคิดและการปฏิบัติตามหนทางแห่งเต๋า
    [แก้] อิทธิพลต่อปัญญาชนรุ่นหลัง

    ผู้ติดตามเล่าจื้อที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ จวงจื๊อ (Zhuang Zi) ได้เขียนตำราที่มีอิทธิพลต่อวงการวรรณกรรมของจีนมาก โดยให้ข้อคิดเกี่ยวกับ ปัจเจกนิยม, วิมุตติ และ ความปราศจากกังวล
     
  7. benz555

    benz555 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +4
    สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  8. ฮกหลงขงเบ้ง

    ฮกหลงขงเบ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,143
    ท่านเหล่าจื้อนั้นเป็นเจ้าของแนวคิดของเต๋า ท่านไม่ได้เป็นคนประกาศศาสนา จึงไม่ได้เรียกว่าศาสดา เพียงแต่ปราชญ์รุ่นต่อมาๆได้ศึกษาคัมภีร์ของท่านแล้วเกิดความเลื่อมใส จึงยกย่องท่านเป็นศาสดา แต่ยังคงเรียกว่าเป็นเจ้าลัทธิอยู่ดี เพราะท่านไม่ได้ประกาศศาสนา และไม่ได้ยืนยันตามแนวทางของท่านว่าเป็นจริงสามารถปฏิบัติได้แล้วเกิดผลจริง (นักพรตเต๋าเชื่อว่าที่ท่านไม่ประกาศศาสนาเพราะไม่ต้องการให้ยึดติดและนับถือในท่านเกินไป เพราะเต๋าไม่สอนให้ยึดติดกับอะไรทั้งนั้น) หากจะถามว่าท่านมีตัวตนจริงหรือไม่นั้นต้องลองตรวจสอบจากบันทึกโบราณหรือในพงศาวดารอาจจะมี เพราะท่านเคยรับตำแหน่งในวังเป็นผู้ดูแลห้องหนังสือ ในสมัยราชวงศ์โจว ก็คงพอจะเป็นหลักฐานได้ และสิ่งที่ยืนยันว่าท่านมีตัวตนอีกอย่างก็คือตำราเต๋าเต๋อจิงทั้ง 81 บทที่เป็นคำสอนอันเป็นหัวใจหลัก แม้กระทั่งในยุคสามก๊กราวๆปี พ.ศ. 200กว่าๆ เตี๋ยวก๊กหัวหน้ากบฏโพกผ้าเหลืองได้ตั้งตนเป็นเจ้านิกายอีกนิกายของเต๋า และได้ยกย่องเหล่าจื้อเป็นเทพผู้ใหญ่ของเต๋า ก็คงเป็นอีกข้อสันนิษฐานที่ยืนยันตัวตนของเหล่าจื้อได้
     
  9. ศิษย์ฤาษี

    ศิษย์ฤาษี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +257
    เตี๋ยวก๊กหัวหน้ากบฏโพกผ้าเหลืองได้ตั้งตนเป็นเจ้านิกายอีกนิกายของเต๋า และได้ยกย่องเหล่าจื้อเป็นเทพผู้ใหญ่ของเต๋า

    คงจะกล่าวได้ว่าเต๋าจึงเกิดกลายเป็นศาสนา ได้ เพราะ เตี๋ยวก๊ก นี่เอง ที่ปฏิรูป เต๋า ให้เป็นระบบใหม่ขึ้นมา

    โอ้ นำม่อ อ่อ หมี่ ท่อ ฝ่อ
     
  10. pawanakun

    pawanakun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    291
    ค่าพลัง:
    +181
    จำได้ว่าเมื่อสมัยที่ยังเรียนอยู่ เคยอ่านหนังสือที่เขียนโดย เหลาจื้อ ซึ่ง คุณพจนา จันทรสันติ (ขออภัยถ้าจำนามสกุลผิด) แปลไว้ดีมาก
    :cool::cool::cool:
    อาชีพเสริม รายได้เสริม งานทำที่บ้าน งานพิเศษ
     
  11. ฮกหลงขงเบ้ง

    ฮกหลงขงเบ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,143
    จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ จริงๆชาวจีนก่อนหน้านั้นก็นับถือเต๋ามาก่อนแล้ว แต่ไม่มีรูปแบบพิธีมากมาย มีการเซ่นไหว้ตามบ้านทั่วไป ก็ได้ท่านเตียวก๊กมาทำให้เกิดรูปแบบพิธีมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีอีกนิกายคือนิกายเจิ้นอี ที่ตั้งโดยปรมาจารย์อีกท่าน
     
  12. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852

    [​IMG]

    ถูกของท่าน ฮกหลงขงเบ้ง เพียงแต่ปราชญ์รุ่นต่อมาๆได้ศึกษาคัมภีร์ของท่านแล้วเกิดความเลื่อมใส จึงยกย่องท่านเป็นศาสดา แต่ก็จะรู้จักในนามพระองค์เหลาจื้อ และที่สำคัญผมพบคัมภีร์เล่นนี้เป็นไบเบิลเองมีคำว่าศาสดาเล่าจื้ออยู่ไต้ฐานที่ท่านนั่ง ภาพสี พร้อม ศาสดาของศาสนาใหญ่ ทั้งห้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...