พระขรรค์ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นเจริญลาภปราบไพรี- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย bat119, 20 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    ใส่กรอบ.jpg2.jpg


    #ตั้งจิตเสี่ยงสัจจ์อธิษฐาน..
    สมัยที่หลวงปู่พิศดูยังจำพรรษาอยู่กับท่านพ่อลีที่วัดป่าคลองกุ้ง ในช่วงแรกที่ยังบวชได้เพียงไม่กี่พรรษา ท่านพ่อลี(พระอาจารย์ของหลวงปู่) ได้เคี่ยวเข็นฝึกฝนลูกศิษย์ของท่านอย่างชนิดเข้มข้น จนหมู่พระรุ่นเดียวกับหลวงปู่พิศดูบางท่าน อดทนต่อความเข้มงวดและวิธีการสอนของท่านพ่อลีไม่ได้ ขอลาสิกขาไปก็หลายรูป อีกทั้งยังมาโน้มน้าวให้หลวงปู่ลาสิกขาตามกันไปอีกด้วย
    บางครั้งหลวงปู่ท่านก็เกิดคิดท้อแท้หมดกำลังใจ ทั้งที่ใจลึกๆก็ยังอยากอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ต่อไป แต่อีกใจก็รู้สึกเครียดที่ท่านพ่อลีเข้มงวดกวดขัน และดุมาก
    เมื่อคิดไม่ตกดังนั้น หลวงปู่จึงได้ตัดสินใจลองเสี่ยงสัจจ์อธิษฐาน โดยนำต้นโบตั๋นมาปลูก 2 ต้น แล้วอธิษฐานว่า..
    " ถ้าหากข้าพเจ้าจะได้ดีในทางพระพุทธศาสนาในกาลข้างหน้า ขอให้ต้นโบตั๋นทั้ง 2 ต้นนี้จงออกดอกภายใน 7 วัน
    แต่ถ้าภายใน 7 วันนี้ต้นโบตั๋น 2 ต้นนี้ยังไม่ออกดอกแล้ว ข้าพเจ้าก็จะขอลาสิกขา.."
    ปรากฏว่าผ่านไปได้ 7 วัน ต้นโบตั๋นทั้ง 2 ต้นก็ได้ผลิดอกออกมาจริงๆเป็นที่อัศจรรย์ ทำให้หลวงปู่มีกำลังใจ และมั่นใจว่า เราต้องได้บวชยาวและจะได้ดีอย่างแน่นอน..
    ขอขอบพระคุณข้อมูล โดย คุณแม่ชีเสมอจิต วัดป่าคลองกุ้ง ลูกศิษย์ท่านพ่อลีอีกรูป ที่ได้รู้เห็นเหตุการณ์ดังที่ได้เล่ามาครับ..
    (ข้อมูลคุณ sira pop)
     
  2. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,687
    ค่าพลัง:
    +14,072
    สวัสดียามเที่ยงครับป๋า ;););)
     
  3. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    34OH97osAcQmH195ruRMk2uU1ohRB6AtVfOt4L7Wevrg&_nc_ohc=cjV9tUfXmIcAX_0olP8&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.jpg

    #อาหารทิพย์..
    เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงของคุณอวยชัย สิงห์สาคร(หนวด) ลูกศิษย์อุปัฏฐากอีกคนของหลวงปู่ โดยส่วนตัวคุณอวยชัยมีประสบการณ์กับหลวงปู่พิศดูหลายเรื่องมากๆ วันนี้ขอนำมาเล่าให้ทุกท่านได้ฟังสักเรื่องหนึ่ง..

    มีอยู่วันหนึ่งคุณอวยชัยได้เดินทางไปค้างวัดเพื่ออยู่รับใช้องค์หลวงปู่ สมัยนั้นท่านยังจำวัดอยู่บนกุฏิไม้หลังเก่า โดยคุณอวยชัยได้นอนอยู่ชั้นล่าง เวลาประมาณตี 3 หลวงปู่จะตื่นขึ้นมาสวดมนต์เป็นประจำ เสียงสวดมนต์ของท่านจะดังไพเราะกังวาลจนได้ยินมาถึงข้างล่าง ท่านจะใช้เวลาสวดมนต์อยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อถึงเวลาประมาณตี 5 ท่านก็เปิดประตูหน้ากุฏิ คุณอวยชัยก็ได้ขึ้นไปอุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่ตามปกติ แต่วันนั้นคุณอวยชัยได้เห็นซาลาเปาลูกเล็กๆน่ารัก วางอยู่ในจานข้างที่นั่งหลวงปู่จำนวน 3 ลูก ก็ยังไม่ได้คิดเอะใจอะไร ก็คิดว่าอาจจะเป็นซาลาเปาที่มีผู้นำมาถวายตั้งแต่เมื่อวาน แล้วหลวงปู่ก็ได้เอ่ยขึ้นว่า
    " ให้ไปตามเพื่อนอีกคนมากินอาหารทิพย์พร้อมกัน.."

    คุณอวยชัยก็ได้เดินไปปลุกเพื่อนที่ยังนอนหลับอยู่ให้มาหาหลวงปู่ แต่ว่าเพื่อนไม่ยอมตื่น คุณอวยชัยจึงมาบอกหลวงปู่ว่า เพื่อนไม่ยอมตื่นครับ.. หลวงปู่หันมามองแล้วเอ่ยขึ้นว่า..
    " อืมม กรรมของสัตว์โลก(ไม่มีวาสนา) ไม่เป็นไร งั้นโยมหนวดกินคนเดียวก็ได้ นี่อาหารทิพย์นะ ให้อธิษฐานก่อนจะกิน.."

    คุณอวยชัยก็ได้ยกจานขึ้นมาอธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนาแล้ว ก็ได้หยิบซาลาเปานั้นเพื่อจะมากิน ก็ต้องแปกใจอย่างมากว่า ซาลาเปาทั้ง 3 ลูกนั้นยังร้อนๆอยู่เหมือนเพิ่งนำออกมาจากเตาใหม่ๆ ซึ่งในกุฏิหลวงปู่ก็ไม่ได้มีเตา หรือภาชนะที่จะใช้นึงซาลาเปาได้เลย จะว่าเพิ่งมีคนนำมาถวายก็ยิ่งจะไม่ใช่เพราะหลวงปู่ก็เพิ่งจะเปิดกุฏิยังไม่เห็นมีใครมาหาท่าน
    พอนำซาลาเปานั้นมาใส่ปากก็ได้กลิ่นหอมกรุ่นออกจมูก รสชาตินุ่มอร่อย ละมุนละมัยอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยได้กินซาลาเปาที่ไหนที่แสนอร่อยอย่างนี้มาก่อน เมื่อกลืนเข้าไปแล้วก็ลื่นคอ บังเกิดความซาบซ่าน กระชุ่มกระชวย และมีกำลังวังชาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ก็ได้แต่แปลกใจแบบหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมกินซาลาเปานี้เข้าไปแล้วจึงมีอาการประหลาดแบบนี้ ซึ่งตอนนั้นยังไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า อาหารทิพย์คืออะไร ก็ได้แต่เข้าใจว่า คงจะเป็นอาหารที่หลวงปู่ทำการสวดมนต์ปลุกเสกให้เป็นมงคลเท่านั้น และที่น่าแปลกอีกเรื่องก็คือเมื่อกินเข้าไปแล้วอิ่มท้องพอดี และอยู่ได้ทั้งวัน ไม่หิวไม่กระหายแม้กระทั่งน้ำ
    ตอนหลังจึงได้ทราบว่า ของที่ตนกินเข้าไปวันนั้น เป็นอาหารทิพย์ซึ่งแตกต่างจากอาหารของคนธรรมดา
    อาหารทิพย์เกิดได้ด้วยอำนาจ 2 อย่างคือ เกิดจากเทวดานำมาให้ 1 และเกิดจากอำนาจอภิญญาจิตเนรมิตขึ้นมา 1

    เรื่องอาหารทิพย์ของหลวงปู่นั้น มีลูกศิษย์หลายคนได้เคยกิน บางทีก็เป็นข้าวบ้าง เป็นน้ำปานะบ้าง เป็นผลไม้บ้าง ยิ่งถ้าเป็นลูกศิษย์ยุคแรกๆจะทราบกันดี..
    Sira Pop

    https://www.facebook.com/groups/Luangbhoopitsadoo/posts/1113004845566111
     
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,687
    ค่าพลัง:
    +14,072
    สวัสดียามดึกครับป๋า ;););)
     
  5. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,687
    ค่าพลัง:
    +14,072
    สวัสดียามสายครับป๋า ;););)
     
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,687
    ค่าพลัง:
    +14,072
    สวัสดียามสายครับป๋า ;););)
     
  7. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    wuJNh6pRGb-JKx-fiLFWVOgYOwn1MGKKfF-yxVcuyc7g&_nc_ohc=5bILeiP8rbMAX_xxmnu&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.jpg

    #พระปัจเจกที่มีบริวาร..
    หลายๆท่านก็คงทราบกันอยู่แล้วว่า องค์หลวงปู่พิศดูท่านบำเพ็ญบารมีเพื่อปรารถนาจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล มายาวนานนับหลายอสงไขยกัป บารมีธรรมของท่านถึงระดับปรมัตถ์ จริตวิสัยของท่านค่อนข้างเป็นอะไรที่เฉพาะตัวแบบชัดเจน โลดโผนในเรื่องอภิญญาสมาบัติแบบสุดขั้ว.. ก่อนที่จะจบภพชาติด้วยการถอนความปรารถนา สำเร็จพระอรหันต์เข้าพระนิพพานแล้วในชาตินี้..
    ส่วนมากผู้ที่ปรารถนาพระปัจเจกภูมิ ท่านจะบำเพ็ญบารมีธรรม น้อมเข้ามาใส่ตัวโดยถ่ายเดียว ไม่ค่อยได้ตามโปรดใคร จึงไม่ค่อยมีบริวาร เมื่อได้ตรัสรู้พระโพธิญาณเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว มีพระญาณอันกว้างไกล สว่างไสว แต่ไม่ค่อยได้ตรัสสอนธรรมที่ได้นั้นแก่บุคคลทั่วไปเป็นสาธารณะ เพราะไม่มีจริตจะสอนใคร แต่ท่านจะเลือกสอนแต่ผู้มีปัญญาที่พอจะรับธรรมเหล่านั้นได้เท่านั้น..
    แต่สำหรับองค์หลวงปู่พิศดู ท่านเคยเมตตาเปิดเผยความลับเรื่องหนึ่งให้ฟังว่า..
    " ส่วนใหญ่พระปัจเจกท่านจะไม่ค่อยมีบริวาร.. แต่เราเป็นพระปัจเจกที่มีบริวาร.."
    เหตุผลเรื่องนี้ ผมก็เคยได้ยินมาตอนที่มีผู้ปฏิบัติท่านหนึ่งพาคณะเดินทางมาสอบถามปัญหาธรรมกับองค์หลวงปู่ท่าน มีอยู่คำถามหนึ่งที่โยมผู้นั้นได้ถามหลวงปู่ท่านว่า..
    ในอดีตหลวงปู่เคยปรารถนาเป็นพุทธภูมิมาก่อนหรือเปล่า..??
    หลวงปู่อมยิ้ม แล้วตอบกลับไปว่า..
    " อืมมม.. ก็มีปรารถนามาบ้าง.."
    ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดเมื่อจับต้นชนปลายจากในหลายๆเรื่องราว ประกอบกับได้ทราบความจากครูบาอาจารย์ที่ผมนับถือที่สุดอีกองค์หนึ่ง ได้เมตตาบอกมา ก็ทำให้ตีแตกไขความลับในคำกล่าวที่องค์หลวงปู่ได้กล่าวไว้ว่า..
    " เราเป็นพระปัจเจกที่มีบริวาร.." ได้ดังต่อไปนี้..
    ก่อนที่ หลวงปู่ท่านจะตั้งความปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้านั้น ท่านเคยปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน(ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง) มายาวนานหลายภพชาติ ก่อนที่จะมาปรารถนาซึ่งพระปัจเจกพุทธภูมิในภายหลัง และได้ลาปัจเจกพุทธภูมิแล้วในชาตินี้ เป็นชาติภพสุดท้ายแห่งการเกิด ซึ่งเรื่องนี้ท่านครูบาอาจารย์ของผมจึงได้บอกว่า..
    " หลวงปู่พิศดูท่านเคยปรารถนาพุทธภูมิมา ก่อนที่จะปรารถนาพระปัจเจกภูมิ ท่านถึงมีบริวาร และผู้ที่เคารพศรัทธาในองค์ท่านมากมาย นับวันยิ่งเพิ่มขึ้นๆ..."
    ดังคำที่หลวงปู่มักกล่าวอยู่เสมอว่า..
    " เราไม่ได้อยากดัง แต่ก็ต้องดัง.. "
    " ถ้าเวลาจะดังไม่ต้องโฆษณา จะดังเดี๋ยวก็ดังเอง.. "
    หลวงปู่พิศดูถือเป็นพระยุคเก่า เรื่องราวของท่าน และวัตถุมงคลที่ท่านสร้าง สิ่งที่ท่านอธิษฐานธรรมไว้ให้ ก็ถูกนำมาเผยแพร่กันในยุคนี้ อันเป็นประโยชน์มากมาย ต่อพระพุทธศาสนา วัดในเครือ และศาสนิกชนทั้งหลาย จนมีผู้คนให้ความสนใจกันมากในปัจจุบัน และจะให้ความสนใจกันอีกมากในอนาคต..
    หลวงปู่พิศดูท่านไม่ใช่พระปัจเจกพุทธเจ้า แต่ก็ถือว่าเกือบจะบรรลุเป้าหมายสูงสุด หรือใกล้ความเป็นจริง(ถ้าท่านไม่ลาปัจเจกพุทธภูมิเสียก่อน) หลวงปู่ท่านจึงมีบารมีธรรมที่สูงสมบูรณ์พร้อมอยู่แล้ว เพราะได้บำเพ็ญสั่งสมบารมีพิเศษไว้แต่กาลก่อนมาก เมื่อถึงเวลาที่คนจะรู้จักท่าน อะไรก็ฉุดไม่อยู่ ด้วยประสบการณ์ต่างๆที่มีผู้เคยเจอกับท่านมา และประสบการณ์ของวัตถุมงคลของท่านที่มีผู้เอาไปใช้บูชาแล้วได้ผลดีตามมา หลายท่านชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจริงๆ บางท่านสามารถเปลี่ยนนิสัยส่วนตัว หรือลดอารมณ์ในด้านลบลงไปได้มาก ก็เพราะเข้ามาศรัทธาและบูชาองค์หลวงปู่ หรือใช้วัตถุมงคลของท่านก็มีมาก กล่าวได้ว่า #สามารถพลิกชะตาชีวิตได้จริงๆ ทุกอย่างสำคัญที่ศรัทธาเป็นที่ตั้ง จริงๆครูบาอาจารย์ท่านดีทุกองค์ ต่างแต่ว่าแต่ละองค์ท่านจะมีวาสนาบารมีไปในทางไหนเท่านั้น..
    แต่สำหรับผมที่ได้รับสัมผัสและรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับองค์หลวงปู่พิศดูมาเป็นเวลา 10 กว่าปี ผมว่าหลวงปู่พิศดู ท่านครบเครื่องทุกอย่างในองค์เดียวกันอย่างแท้จริง..
    Sira Pop
     
  8. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,687
    ค่าพลัง:
    +14,072
    สวัสดียามบ่ายครับป๋า ;););)
     
  9. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,687
    ค่าพลัง:
    +14,072
    สวัสดียามสายครับป๋า ;););)
     
  10. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    สวัสดียามบ่าย.jpg2.jpg
     
  11. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    8.jpg

    #พระแปลกๆ(#นี่แหล่ะพระอรหันต์..)
    สมัยก่อนๆ คนรุ่นเก่าแถวๆวัดบอกว่าองค์หลวงปู่ท่านเป็นพระแปลกๆ วันๆไม่เคยเห็นทำอะไร พระองค์ผอมๆ นุ่งผ้าสบงเก่าๆ ใส่อังสะตัวเดียว เอาแต่เดินรอบวัดทั้งวัน แรกๆใครไปหาก็โดนท่านดุ แต่ระยะหลังมา กว่าจะรู้ว่า ท่านเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงความบริสุทธิ์ ทรงฤทธิ์ ทรงอภิญญามหาศาล กว่าจะมากราบทำบุญกับท่านก็เกือบบั้นปลายชีวิตของท่านแล้ว ท่านปิดตัวมานาน ความแตกเอาก็เพราะเกิดอุทกภัยเขาคิชฌกูฏพัง พร้อมท่อนซุงร้อยนับพันถล่มลงมา ผ่านลำธารข้างวัด #ท่านก็มิได้ปฏิเสธแต่อย่างใด #เพราะในด้านมืด #ก็ย่อมมีด้านสว่างซ่อนอยู่เสมอเป็นของคู่กันอย่างนี้้เอง ถึงแม้ใครจะมองว่านี่ไม่ใช่ทางแห่งมรรคผลตามพุทธบัญญัติก็ตาม แต่หลวงปู่ท่านรู้ และแยกแยะได้อย่างสิ้นเชิง ท่านมองเห็นอะไรที่ละเอียดและกว้างไกลโดยไม่หักล้างความเชื่อ ในคุณประโยชน์ และญาณความรู้ของครูบาอาจารย์รุ่นเก่า หลวงปู่มักกล่าวอยู่เสมอว่า..
    " #วัตถุมงคล #หรือวิชาไสยศาสตร์ #ก็มีประโยชน์แบบไสยศาสตร์ #อยู่ที่เราจะเลือกใช้(#ใช้ในทางถูกก็เป็นบุญ #ใช้ในทางผิดก็เป็นบาป) #อย่างน้อยก็ช่วยเป็นกำลังใจในยามคับขันได้
    และในเรื่องวัตถุมงคลนั้น สังเกตุดูเวลาท่านแจกให้ใครไปท่านมักจะบอกเสมอว่า " ให้เอาไปใส่นะ.."หรือ " เอาไปเลี่ยมใส่เลย " หรือบางครั้งของนั้นมีสายสร้อยพร้อมใส่ท่านก็มักจะบอกว่า " เอ้า.. คล้องคอไปเลยไม่ต้องถอด " หรือ " โฮ๊ะ.. นี่หละมั่นใจได้เลย " หรือ " เราเสกให้อย่างสามารถ( วัตถุมงคลขององค์หลวงปู่นั้น มีครูบาอจ.ทรงญาณทรงอภิญญาหลายๆท่าน กล่าวว่าของหลวงปู่ท่านทำมาดีแล้ว พลังเต็มเสกไม่เข้าแล้ว บางองค์ถึงกับไม่ยอมเสกทับเลยก็มี)
    Fon Warinda อยู่กับ Sira Pop
     
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,687
    ค่าพลัง:
    +14,072
    สวัสดียามสายครับป๋า ;););)
     
  13. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,687
    ค่าพลัง:
    +14,072
    สวัสดียามดึกครับป๋า ;););)
     
  14. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    สวัสดียามบ่าย.jpg
     
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,687
    ค่าพลัง:
    +14,072
  16. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    ed633060330th จรเข้บัว
     
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,687
    ค่าพลัง:
    +14,072
    สวัสดียามสายครับป๋า ;););)
     
  18. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    สวัสดียามเช้า.jpg2.jpg
     
  19. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,687
    ค่าพลัง:
    +14,072
  20. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    C1vzuRh3oal-kHRtjF0xPrU15rlz7C1jYSNeCO41-7hV&_nc_ohc=liWRUAoa5msAX9oBlmK&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.jpg

    มีอยู่วันหนึ่ง ผมจำได้แม่นยำว่า เป็นช่วงเวลาเย็นของวันเสาร์ ต้นปี 2550 ผมอยู่กับหลวงปู่ 2 คนบนกุฏิหลังเก่า หลวงปู่ได้หยิบหนังสือประวัติของท่านที่ลูกศิษย์พิมพ์ถวายขึ้นมาเปิดอ่าน แล้วท่านได้พูดกับผมว่า..
    " ประวัติของเราเขาลงไว้น้อยไปหน่อย ต่อไปถ้าได้ทำหนังสือประวัติของเราอีก ให้ช่วยเขียนให้เยอะๆหน่อยนะ.."
    " แต่ยังไม่ต้องเขียนตอนนี้ ไว้ถึงเวลานั้น แล้วค่อยเขียน.."
    วันเวลาที่ล่วงผ่านมาร่วม 10 ปี คำกล่าวประโยคนี้ขององค์หลวงปู่ เป็นเสมือนคำสั่งที่ได้มอบหมายไว้ และประทับอยู่ในมโนจิต ผมยังจำได้ดี.. และมีความตั้งใจตั้งแต่บัดนั้น ว่าจะต้องรวบรวมประวัติของหลวงปู่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ตัวผมเองจะสืบค้นได้ โดยจะต้องรักษาเนื้อหาตามความเป็นจริงให้ผิดพลาดน้อยที่สุด เพื่อเผยแผ่เกียรติคุณของท่าน..
    คำกล่าวทิ้งท้ายของหลวงปู่ ที่กล่าวว่า..
    " แต่ยังไม่ต้องเขียนตอนนี้ ไว้ถึงเวลานั้น แล้วค่อยเขียน.."
    ผมตีความได้เอง ถึงคำว่า " ถึงเวลานั้น..." ก็คือ ถึงเวลาหลังจากหลวงปู่ท่านมรณภาพลงแล้ว จึงค่อยเริ่มเขียนเผยแผ่ เพราะผมทราบจริตของท่านดีว่า ท่านชอบอยู่แบบสงบ ไม่นิยมคลุกคลีกับคน แต่ถ้าใครศรัทธาท่านจริง ท่านจะช่วยทุกคนโดยไม่ลังเล..
    ซึ่งผมก็ได้เริ่มเขียนเรื่องราวของหลวงปู่ ตลอดถึงข้อมูลทำเนียบวัตถุมงคลที่ออกในนามวัด และนอกวัด มาตั้งแต่ต้นปี 2554 เป็นต้นมา สมัยนั้นเริ่มเขียนในเว็บพลังจิต ใช้ Username ว่า ทุเรียนทอด จนกระทั่งมาเขียนเผยแผ่ในเฟสบุ๊คผ่านมา 3 ปีเศษ ก็ยังคงทำหน้าที่หาข้อมูลและประสบการณ์ต่างๆจากลูกศิษย์มาเขียนเผยแผ่ปฏิปทาของท่านไว้อยู่ และช่วยทางวัดทำงานบุญมาโดยตลอด ร่วมกับสมาชิกที่อยู่ในเว็บพลังจิต และกลุ่มเฟสบุ๊ค ได้เงินเข้าวัดจำนวนหลายล้านบาทแล้ว
    ผมเห็นว่าเหตุปัจจัยในการเผยแผ่เรื่องราวของหลวงปู่พิศดู เกิดจากบารมีธรรมของท่านเอง หาใช่ตัวผู้เขียน เพราะผู้เขียนไม่มีอะไรดีเลย นอกจากความทรงจำที่ได้บันทึกเรื่องราวในอดีตของหลวงปู่ที่ล่วงมาแล้ว ส่งต่อให้สมาชิกได้ศึกษาเป็นสาธารณะเท่านั้น..
    ถึงทุกวันนี้หลวงปู่พิศดูจะละสังขารแล้ว แต่ก็เหมือนว่าท่านยังอยู่ดูแลลูกศิษย์ที่นับถือท่านอยู่ตลอดเวลา ยิ่งมีคนเข้ามาศึกษามาก เรื่องราวของท่านได้แผ่ขยายออกไปกว้างมาก วัดของท่านก็สามารถดำรงค์อยู่ได้ ผู้ที่รับเอาคำสอนตลอดการปฏิบัติ และวัตถุมงคลของท่านไปใช้ ก็ทำให้มีหลักใจ และกำลังใจในการดำเนินชีวิตในทางที่ดียิ่งขึ้น จึงเป็นสิ่งที่ผมต้องช่วยกันเผยแผ่เกียรติคุณของท่าน ในฐานะลูกศิษย์คนหนึ่งครับ..
    (ข้อมูลคุณสิรภพ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...