เหตุ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย รสมน, 30 สิงหาคม 2010.

  1. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    เวทนา สัญญา สังขาร เป็นเจตสิก
    สังขารขันธ์ได้แก่เจตสิก ๕๐ ประเภท
    อภิสังขาร หมายถึง เจตนาเจตสิก
    อปุญญาภิสังขาร ได้แก่ เจตนาที่เกิดกับอกุศลจิต ๑๒
    ปุญญาภิสังขาร ได้แก่ เจตนาที่เกิดกับกามาวจรกุศล ๘ รูปาวจรกุศล ๕
    อเนญชาภิสังขาร ได้แก่ เจตนาที่เกิดกับอรูปาวจรกุศล ๔

    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ - หน้าที่ ๓๖๓

    ๖. ปฐมกาลสูตร

    (ว่าด้วยกาล ๔)
    [๑๔๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ กาล ๔ เป็นไฉน? คือ
    กาเลน ธมฺมสฺสวน การฟังธรรมตามกาล

    กาเลน ธมฺมสากจฺฉา การสนทนาธรรมตามกาล
    กาเลน สมโถ สมถะตามกาล
    กาเลน วิปสฺสนา วิปัสสนาตามกาล
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แล กาล ๔.
    จบปฐมกาลสูตรที่ ๖
    อรรถกถาปฐมกาลสูตร
    พึงทราบวินิจฉัยในปฐมกาลสูตรที่ ๖ ดังต่อไปนี้ :-
    บทว่า กาลา คือกาลที่เหมาะที่ควร. บทว่า กาเลน ธมฺมสฺสวนได้แก่ การฟัง
    ธรรมในเวลาที่เหมาะที่ควร. บทว่า ธมฺมสากจฺฉา ความว่า การสนทนาที่เป็นไปด้วย
    อำนาจการถามและการตอบปัญหา.
    จบอรรถกถาปฐมกาลสูตรที่ ๖.
    --------------------------------------------------------------------------------
    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ - หน้าที่ ๓๖๔ - ๓๖๕

    ๗. ทุติยกาลสูตร

    (ว่าด้วยกาล ๔)
    [๑๔๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็น
    ไปตามลำดับโดยชอบอยู่ ย่อมจะยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ กาล ๔
    เป็นไฉน? คือ การฟังธรรมตามกาล ๑ การสนทนาธรรมตามกาล ๑ สมถะตาม
    กาล ๑ วิปัสสนาตามกาล ๑ นี้แลกาล ๔ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปตาม
    ลำดับโดยชอบอยู่ ย่อมจะยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเมื่อฝนเม็ดหนาตกบนภูเขา น้ำไหลไป
    ตามที่ลุ่ม ยังซอกเขาและลำรางทางน้ำให้เต็ม ซอกเขาและลำรางทางน้ำเต็มแล้ว
    ย่อมยังหนองให้เต็ม หนองเต็มแล้ว ย่อมยังบึงให้เต็ม บึงเต็มแล้ว ย่อมยังคลองให้
    เต็ม คลองเต็มแล้ว ย่อมยังแม่น้ำให้เต็ม แม่น้ำเต็มแล้ว ย่อมยังทะเลให้เต็ม
    ฉันใด กาล ๔ นี้ เมื่อบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปตามลำดับโดยชอบอยู่
    ย่อมยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ ฉันนั้นแล.
    จบทุติยกาลสูตรที่ ๗

    อรรถกถาทุติยกาลสูตร
    พึงทราบวินิจฉัยในทุติยกาลสูตรที่ ๗ ดังต่อไปนี้ :-
    บทว่า กาลา นั่น เป็นชื่อแห่งกุศลธรรมที่เป็นไปด้วยอำนาจการฟังธรรม
    เป็นต้นในกาลนั้น ๆ กาลเหล่านั้น จักแจ่มชัด และจักเป็นไป. บทว่า อาสวานํ ขยํ
    ได้แก่ พระอรหัตต์.
    จบอรรถกถาทุติยกาลสูตรที่ ๗.


    เอาบุญมาฝากวันนี้ตั้งใจว่าจะถวายสังฆทาน
    กรวดน้ำอุทิศบุญ เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน รักษาศีล อาราธนาศีล เจริญวิปัสสนา ปฏิบัติธรรม ถวายข้าวพระพุทธรูป
    และสร้างบารมีครบทั้ง 10 อย่าง ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย
    ขอเชิญเป็นเจ้าภาพถวายพระประธานประดิษย์ฐานสาลาปฎิบัติธรรม
    ติดต่อพระสุพิน อตฺตสนฺโต ด่วน
    โทร 0856578676
     

แชร์หน้านี้

Loading...