เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 23 กันยายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,540
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,538
    ค่าพลัง:
    +26,373
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,540
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,538
    ค่าพลัง:
    +26,373
    วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพหลังจากที่เจริญพระกรรมฐานและทำวัตรเช้าแล้ว ก็ได้ขอสัตตาหกรณียะในท่ามกลางสงฆ์ เพื่อที่จะได้ออกไปค้างในสถานที่อื่นนอกสถานที่จำพรรษา ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้มีพระบรมพุทธานุญาตเอาไว้ ก็คือว่า ถ้ามีเหตุจำเป็นในช่วงที่จำพรรษาอยู่ อย่างเช่นว่า พ่อป่วย แม่ป่วย อุปัชฌาย์อาจารย์ป่วย ให้ไปรักษาพยาบาลได้ เพื่อนสหธรรมิกที่อยู่ต่างวัดจะสึก ไปเพื่อห้ามปรามได้ วัดพัง ไปหาวัสดุต่าง ๆ มาเพื่อซ่อมวัดได้ ได้รับกิจนิมนต์ ไปเพื่อเจริญศรัทธาได้ เหล่านี้เป็นต้น

    ในช่วงนี้เมื่อมีงานคณะสงฆ์ประเดประดังเข้ามาติด ๆ กัน จึงต้องมอบหมายหน้าที่ให้กับผู้ช่วยเจ้าอาวาสบ้าง ครูพระสอนศีลธรรมบ้าง ลูกศิษย์ที่ไปเป็นเจ้าอาวาสที่อื่นบ้าง ได้ร่วมด้วยช่วยกันในงานการคณะสงฆ์ของอำเภอทองผาภูมิ ส่วนตนเองก็ต้องวิ่งไปทำหน้าที่ต่าง ๆ ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย หรือว่าตามที่ได้รับกิจนิมนต์เอาไว้

    ในเรื่องของกิจนิมนต์นั้น กระผม/อาตมภาพไม่รับกิจนิมนต์ที่เป็นการส่วนตัว เพราะว่าจะทำให้เสียเวลาจนไม่มีเวลาที่จะทำอะไรอย่างอื่น จะรับก็เฉพาะกิจนิมนต์ที่เป็นไปเพื่อการสงเคราะห์คนหมู่มากเท่านั้น ส่วนกิจนิมนต์อื่น ๆ นั้นไม่ได้อยู่ในความนึกคิด เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหาเงินประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งก็คือ ถ้าไปบ้านไหนเป็นการส่วนตัวแล้ว เวลาบ้านอื่นนิมนต์มาแล้วเราไปปฏิเสธ ก็จะกลายเป็นลักลั่นกัน จึงทำให้ต้องปฏิบัติแบบเดียวกัน เหมือน ๆ กัน โดยการที่ไม่รับกิจนิมนต์ใครเลยจะได้หมดเรื่องไป..!

    สำหรับงานของทางวัดในระยะนี้ นอกจากการก่อสร้างในส่วนของตลาดชุมชนริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย ซึ่งตอนนี้สามารถที่จะลงไปเดินชมสถานที่ได้แล้ว เหลือเพียงแต่ทางลงอีกด้านหนึ่งที่ติดสนามเด็กเล่นของทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ยังอยู่ในระหว่างที่ทำหนังสือขออนุญาต เพื่อที่จะต่อทางเดินผ่านสนามเด็กเล่นออกไป จะได้เปิดทางให้คนเข้าออกได้อีกด้านหนึ่ง ทางด้านเทศบาลตำบลทองผาภูมิเจ้าของพื้นที่ ยังไม่ได้แทงหนังสือลงมาให้

    อีกส่วนหนึ่งก็คือพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน ซึ่งญาติโยมส่วนใหญ่ไปเข้าใจว่าเป็นพิพิธภัณฑ์จัดวางสิ่งของ ขอบอกว่าพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุนนั้นไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ในการจัดวางสิ่งของ แต่ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ แสง สี เสียง ต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องราวในพระพุทธศาสนา และงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เกี่ยวกับเรื่องโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยศาสตร์พระราชา เป็นต้น

    ซึ่งงานนั้นได้ล่าช้ามาหลายเดือน เหตุเพราะว่าทางด้านผู้ออกแบบมีการแก้ไขอยู่เสมอ จนกระผม/อาตมภาพต้องสั่งให้หยุดการแก้ไข เพื่อที่ให้งานนิ่ง ทางด้านบริษัทรับเหมาจะได้ดำเนินงานต่อไปได้
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,540
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,538
    ค่าพลัง:
    +26,373
    อีกส่วนหนึ่งที่คิดไม่ถึงก็คือการบูรณะของเก่า ซึ่งต้องมีการทาสี ทาน้ำมันหมู่เรือนไทย และอีกส่วนหนึ่งก็คือการสร้างเรือนไม้ไผ่เป็นพิพิธภัณฑ์เชลยศึก อยู่ใกล้กับเส้นทางรถไฟสายมรณะบ้านท่าขนุน ซึ่งกระผม/อาตมภาพไม่มีเวลาไปดูแลทั้ง ๒ จุดนี้ อยู่ดี ๆ ทางผู้รับเหมาก็มาวางบิลว่างานเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงกลายเป็นว่ามีรายจ่ายส่วนเกินขึ้นมาอีกล้านกว่าบาทอย่างกะทันหัน..!

    แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะว่าเวลามีความจำเป็นที่จะต้องจ่ายเงิน ก็เหมือนกับมีเงินมาอยู่ข้างมือเสมอ ตรงนี้จึงไม่ได้มีความเครียดหรือว่าหนักใจอะไร โดยเฉพาะในส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่ต้องจ่ายเป็นงวด ๆ รวมแล้ว ๑๙ งวด รวมทั้งสิ้น ๑๕๕ ล้านบาทนั้น ก็ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถจะจ่ายให้เขาได้อย่างแน่นอน

    อีกส่วนหนึ่งก็คือที่ญาติโยมทั้งหลายรออยู่ก็คือ การสร้างสมเด็จองค์ปฐมพิมพ์นั่งบัวเสวยสุข เนื้อสเตนเลส ซึ่งงานนี้พระครูเทพ (พระครูปฐมสาธุวัฒน์) เจ้าอาวาสวัดสี่แยกเจริญพร ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจไปอย่างชนิดที่เรียกว่า น่าจะมีผมหงอกผมร่วงกันบ้าง..!

    เนื่องเพราะว่าในเรื่องของการสร้างวัตถุมงคลด้วยสเตนเลส โดยเฉพาะมีรายละเอียดมากนั้น เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน จึงต้องแก้ไขหน้างานเป็นระยะ ๆ ตลอดมา แม้กระทั่งในเรื่องของบล็อกต่าง ๆ ที่จะต้องใช้งาน ก็สามารถที่จะปั๊มได้อันละไม่กี่องค์ บล็อกก็แตก ทำให้มีบล็อกที่แตกแล้วเป็นเข่ง ๆ น่าจะเพียงพอใช้ในการถมที่แล้ว..! กระผม/อาตมภาพเอง ตอนแรกที่ตั้งใจว่าจะเอากำไรเพียงเล็กน้อย ก็คือจะจำหน่ายในราคาองค์ละ ๕๐๐ บาท จึงจำเป็นที่จะต้องขึ้นไปเป็นองค์ละ ๒,๐๐๐ บาท..!

    เหตุเพราะว่านอกจากทำยาก ตกแต่งยากแล้ว ยังมีการลงโค้ดลายเซ็นของกระผม/อาตมภาพเองด้วยการยิงเลเซอร์ ซึ่งกระผม/อาตมภาพเคยจ้างบรรดาโรงงานที่มีเลเซอร์ทำการยิงตัวหนังสือให้ เขาคิดราคาเป็นตัวอักษรเลย ยิ่งมากก็ยิ่งแพง ดังนั้น..ในส่วนนี้ถัวเฉลี่ยกันไปแล้ว ต้องเรียกว่าทำไปเพื่อเอาชื่อเสียง ประมาณว่า "ฉิบหายช่างมัน ต้องการชื่อเสียง" แต่ก็ไม่อยากที่จะขาดทุนมาก

    ดังนั้น..ท่านที่ตั้งใจจะทำบุญกฐินวัดท่าขนุน เพื่อที่จะรับเหรียญสมเด็จองค์ปฐม พิมพ์นั่งบัวเสวยสุข เนื้อสเตนเลส ซึ่งมีพิมพ์ใหญ่อย่างเดียวนั้น ขอให้ทุกคนทำใจเลยว่า ท่านจะต้องทำบุญกฐินกับทางวัดท่าขนุนกองละ ๒,๐๐๐ บาท นี่เป็นการบอกกล่าวให้ล่วงหน้า เพื่อที่ท่านทั้งหลายที่ขยักปัจจัยเอาไว้จะได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้แต่เนิ่น ๆ
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,540
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,538
    ค่าพลัง:
    +26,373
    ประการต่อไปก็คือ มีพรรคพวกเพื่อนฝูงก็ดี ญาติโยมก็ตาม ขออนุญาตนำวัตถุมงคลมาเข้าพิธีเข้ากรรมฐาน ๓ วัน ที่กระผม/อาตมภาพทำจนเป็นประเพณีในช่วงออกพรรษา เพื่อที่จะเพิ่มอานิสงส์ให้แก่ผู้ที่ตักบาตรเทโวและทอดกฐินนั้น ต่อให้สนิทสนมกันขนาดไหนก็ตาม กระผม/อาตมภาพปฏิเสธไปทั้งหมด เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าถ้าไม่ปฏิเสธ ท่านอื่น ๆ ก็อยากจะนำวัตถุมงคลไปเข้าพิธีบ้าง รับประกันได้ว่ากุฏิเจ้าอาวาสไม่พอวางของอย่างแน่นอน..!

    อีกอย่างหนึ่งก็คือพิธีการภาวนาพระคาถาเงินล้านที่วัดอุทยานนั้น ทางด้านพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยานท่านได้แจ้งมาว่า มีญาติโยมขอนำวัตถุมงคลมาเข้าพิธีด้วย เมื่อท่านปฏิเสธไป เขาก็บอกว่าจะขอวางไว้บนตักตนเอง กระผม/อาตมภาพได้ตอบกลับไปว่า ก็ได้วางเอาไว้เฉย ๆ เท่านั้นนั้นแหละ เพราะว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลย

    ในเรื่องของพิธีกรรมอื่น ๆ นั้น ถ้าหากว่าพระท่านไม่ได้อนุญาต วัตถุมงคลจะได้รับการปลุกเสกก็เฉพาะในที่ตั้งไว้บริเวณมณฑลพิธีเท่านั้น และแม้จะเป็นในบริเวณพิธีเท่านั้น แต่ก็มีตัวอย่างที่ว่าบุคคลบางประเภทที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ นำเอาวัตถุมงคลมายัดเข้าพิธี เพื่อที่จะหาประโยชน์เป็นการส่วนตน พระท่านก็แจ้งให้ทราบอย่างชัดเจนว่า วัตถุมงคลจำนวนนั้น ประเภทนั้น ของบุคคลนั้น ท่านไม่สงเคราะห์ให้ เมื่อ
    กระผม/อาตมภาพประกาศออกไปก็เป็นที่ฮือฮากันมาก

    มีตัวอย่างอยู่งานหนึ่ง ก็คือการปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ของพระเดชพระคุณหลวงพี่ของกระผมเอง ก็คือท่านพระครูสาครสิทธิวิมล หรือว่าหลวงพ่อชลอของทุกท่าน ท้าวเวสสุวรรณพร้อมกับท้าวมหาราชรวมแล้วทั้ง ๔ พระองค์ ประกาศชัดเจนว่า วัตถุมงคลชุดนั้นท่านไม่สงเคราะห์ให้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าทำรูปของท่านผิด

    ดังนั้น..ไม่ว่าจะเป็นวัตถุมงคลที่เป็นรูปหล่อขนาดใหญ่ก็ดี รูปลอยองค์ก็ตาม หรือว่าผ้ายันต์ ท่านไม่เสกให้ ตรงจุดนั้น กระผม/อาตมภาพเมื่อได้รับฟังจากท่านแล้ว ก็ประกาศออกไมโครโฟนให้ทุกคนในบริเวณงานได้ยินโดยทั่วถึงกัน เรียกง่าย ๆ ว่าได้รับความรู้อะไรมา ก็ประกาศบอกเป็นสาธารณะ ไม่มีการที่จะมากั๊กกันเอาไว้
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,540
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,538
    ค่าพลัง:
    +26,373
    ดังนั้น..ในเรื่องต่าง ๆ ที่ประกอบไปด้วยเหตุผลที่บางคนก็รับรู้ไม่ได้ ถ้าเราบอกไปก็เหมือนอย่างกับกีดกันคนอื่น แต่ถ้าท่านทั้งหลายสังเกต จะเห็นว่าในสมัยก่อนของวัดท่าขนุนนั้น ถ้าหากว่ามีการบวงสรวงไหว้ครูและพุทธาภิเษกทุกครั้ง เราจะรับฝากวัตถุมงคลเข้าพิธีชนิดไม่อั้น มีปัญญาขนมาเท่าไรก็ขนเข้าพิธีไปได้เลย จึงเห็นได้ชัดเจนว่า ของเราไม่ได้มีการกีดกันแบบเลือกที่รักมักที่ชัง

    แต่ว่าเหตุผลที่ให้ไปนั้นเป็นเหตุผลเฉพาะเรื่องจริง ๆ สงเคราะห์ได้ก็สงเคราะห์กันไป กระผม/อาตมภาพเองก็ไม่ต้องเหนื่อยยาก วิ่งไปยังวัดวาอารามต่าง ๆ เพื่อที่จะปลุกเสกให้ เนื่องจากว่าท่านทั้งหลายขนมาเข้าพิธีที่วัดท่าขนุนไปแล้ว แต่ในเมื่อไม่สามารถที่จะสงเคราะห์ให้ได้ ก็ต้องบอกว่าไม่สามารถที่จะสงเคราะห์ได้

    แม้แต่ในพิธีภาวนาพระคาถาเงินล้านก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับที่ว่าพระท่านจะสงเคราะห์หรือไม่ ? ถ้าหากว่าตั้งวัตถุมงคลเอาไว้เป็นคันรถ แต่ท่านไม่สงเคราะห์ให้ ก็ต้องใช้ศัพท์แสลงที่ว่า "สมหวัง" ไปตาม ๆ กัน

    สำหรับวันนี้ ก็เรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันศุกร์ที่ ๒๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...