เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๔

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 23 มิถุนายน 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,578
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๔


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • picture083.jpg
      picture083.jpg
      ขนาดไฟล์:
      184.3 KB
      เปิดดู:
      71
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 มิถุนายน 2021
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,578
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    วันนี้เป็นวันพุธที่ ๒๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ ผมมีภารกิจอยู่นอกวัดมา ๒ วัน วันแรกก็คือวันเกิดตัวเอง หมอดูหลายตำรากล่าวว่า "วันเกิดเราทำอะไร จะเป็นแผนผังคร่าว ๆ ในชีวิตไปทั้งปี" คราวนี้วันเกิดซึ่งเป็นวันที่ผมไม่ได้ให้ความสำคัญมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

    ปีนี้ผมไปรดน้ำศพหลวงพ่อถมยา ที่เรียกอย่างนี้ เพราะว่าสนิทสนมคุ้นเคยกันมานานเกิน ๓๐ ปี ตั้งแต่สมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชรัตนโสภณ (จันทร์ จนฺทสิริ) วัดสังเวชวิศยาราม ที่เป็นเพื่อนนักเทศน์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง เป็นขาประจำไปงานวัดท่าซุง ผมก็ทำหน้าที่ต้อนรับ หลวงพ่อถมยาท่านก็ติดตามไปด้วย

    จะว่าไปแล้ว สมณศักดิ์ของท่านก็คือ พระธรรมสิทธิเวที อดีตเลขานุการศูนย์ควบคุมพระภิกษุสามเณรเดินทางไปต่างประเทศ พูดง่าย ๆ ก็คือ พระเณรรูปใดจะไปต่างประเทศ เอกสารต้องผ่านมือท่านทุกรูป ถ้ายังงง ๆ อยู่ ท่านคือเจ้าของฐานานุกรม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ ที่มอบให้กับหลวงพ่อสมปอง บ้านสบายใจ

    หลวงพ่อถมยาเป็นพระเถระที่ให้ความเลื่อมใสหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นอย่างสูง เมื่อสิ้นหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเป็นหลักรูปหนึ่งที่ลูกศิษย์สายวัดท่าซุงพึ่งพาอาศัยได้ ก็มามรณภาพด้วยอายุ ๙๐ ปี มีกำหนดถวายน้ำสรงศพในวันเกิดของผมพอดี ก็เลยต้องรีบไป คือไม่ต้องคิดอะไรมาก

    ถ้าหากว่าในฐานะของพระสังฆาธิการระดับสูง ก็ต้องบอกว่า หลวงพ่อท่านเป็นที่รู้จักทั่วทั้งสังฆมณฑล ถ้าหากว่าในความสนิทสนมกันเป็นส่วนตัว ท่านก็เหมือนกับพ่อคนหนึ่ง ดังนั้น..ถ้าเขาบอกว่าวันเกิดเป็นแผนผังชีวิตคร่าว ๆ ของปีนั้น ปีนี้ผมอาจจะต้องเจองานศพทั้งปี..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,578
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    ส่วนงานเมื่อวานนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (อมฺพรมหาเถร) วางฎีกานิมนต์ให้ผมเป็น ๑ ใน ๒๘ รูปที่ไปปลุกเสกพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของพระองค์ แล้วก็วัตถุมงคลที่จะสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ฉลองพระชนมายุ ๙๖ พรรษาของท่าน ปีนี้สมเด็จพระสังฆราชของเราเจริญพระชนมายุ ๙๔ พรรษา มีญาติโยมถวายที่ดินไว้ที่คลอง ๙ จังหวัดปทุมธานี พระองค์ท่านอยากจะสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม

    คราวนี้ในเรื่องของการรบกวนปัจจัยญาติโยมจำนวนมาก ๆ ไม่ใช่วิสัยของพระอย่างพวกเราอยู่แล้ว พระองค์ท่านจึงใช้วิธีออกวัตถุมงคล แล้วก็นิมนต์พระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศที่พระองค์ท่านมั่นใจ ไปทำการปลุกเสก ก็ปรากฏว่ามีแปลกอยู่ ๔ รูป ก็คือตุ๊พ่อสิงห์ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวง ถ้ำนารายณ์ ตัวผม แล้วก็พระครูปลัดสมนึก วัดท่าซุง ที่บอกว่าแปลก ก็คือแปลกแยกจากรูปอื่น ๆ

    เนื่องจากว่าท่านอื่น ๆ เป็นพระธรรมยุต วัดราชบพิธฯ เป็นวัดธรรมยุต สมเด็จพระสังฆราชก็สังกัดนิกายธรรมยุต ต้องบอกว่า ด้วยคุณความดีที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงสั่งสอนอบรมมา ทำให้พระองค์ท่านมีความเชื่อมั่นในลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุง โดยเฉพาะท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) เลขานุการในพระองค์เชื่อมั่นสุด ๆ โดยเฉพาะจัดให้ท่านอื่น ไม่ว่าจะอยู่ในโบสถ์ก็ดี ในระเบียงเจดีย์ก็ตาม แต่ลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุง ๔ รูป ท่านให้ประจำอยู่ภายในองค์เจดีย์ ๔ ทิศ..เหมาไปเลย

    ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์บอกว่า "วัตถุมงคลอยู่ในโบสถ์ อยู่ในเจดีย์ และอยู่ข้างห้องพักที่หลวงพ่อทั้งหลายนั่งพักผ่อนก่อนเข้าพิธี รบกวนเสกให้ทั่วถึงนะครับ" และโดยเฉพาะ กำชับกับผมว่า "๑,๐๐๐,๐๐๐ องค์ ต้องขายหมดนะครับ..!" ไม่แพงครับ องค์ละ ๑๙๙ บาท..!

    ผมเองในเมื่อพระผู้ใหญ่ท่านให้ความเมตตากำชับมา โดยเฉพาะขอให้เสกอย่างน้อย ๑ ชั่วโมง ผมเองก็เข้ากรรมฐานตั้งเวลา คือกำหนดใจไว้ที่ ๑ ชั่วโมง แล้วก็ขึ้นไปกราบพระ ขอให้พระท่านสงเคราะห์ เห็นสมเด็จพระพุทธกัสสปท่านเสด็จมา สั่งว่า "ภาวนาพระคาถาเงินล้านไปก่อนเลย ๑๐๘ จบ..!" ถ้าหากว่าภาวนาออกเสียง จำนวน ๑๐๘ จบนี่น่าจะถึง ๒ ชั่วโมง..! แต่ภาวนาในใจจะเร็วกว่านั้น

    ผมก็ว่าไปเรื่อย ต่อด้วยพระคาถานั้น ต่อด้วยพระคาถานี้ตามที่รับสั่ง และท้ายที่สุดครูบาอาจารย์ตามสายกรรมฐานท่านก็มา ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดระฆังโฆสิตาราม หลวงปู่เนียม วัดน้อย หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หรือว่าหลวงพ่อวัดท่าซุง พอท่านบอกว่าได้เวลาแล้ว ผมก็คลายสมาธิออกมา ทิดเฟิร์สที่นั่งอยู่ข้าง ๆ บอกซ๋า "เป๊ะเว่อร์ ๖๐ นาทีไม่มีเกินแม้แต่วินาทีเดียว..!" แล้วก็กระซิบว่า "ท่านอื่นออกก่อนนานแล้วครับ มีหลวงพ่อเท่านั้นที่ทำได้ตามเวลา"
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,578
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    ผมบอกว่า เรื่องของการทรงฌาน ถ้าในสมัยที่อยู่กับหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นเรื่อง "ขนม" ของพวกผม เพียงแต่ใครจะขยันซักซ้อมมากน้อยกว่ากันเท่านั้น โดยเฉพาะผมเอง ถ้าอะไรไม่มีความคล่องตัว ผมจะไม่ปล่อยให้ผ่านไป ดังนั้น...ไม่ว่าจะเป็นการทรงฌานตามลำดับ ทรงฌานตั้งเวลา ทรงฌานสลับฌาน เข้าหรือออกฌาน ต้องได้อย่างใจทุกประการ

    เมื่อเสร็จพิธี กราบลาพระท่านแล้ว ผมเพิ่งจะเห็นว่าเป็นเวลาทุุ่มกว่า เพราะว่าตอนที่อยู่ในสมาธินั้นสว่างเจิดจ้ามาก โดยเฉพาะก่อนวันเกิด ๑ วัน ผมจับภาพพระเป็นปกตินะครับ ตั้งแต่ปฏิบัติธรรมแบบจริง ๆ จัง ๆ มาตอนอายุ ๑๖ ปีนี้ ๖๒ เต็ม ย่างขึ้น ๖๓ ปี

    ตอนแรกถ้าหากว่าไม่อาศัยบารมีพระพุทธเจ้า วงสมาธิของผมจะมืดมาก คำว่ามืดมากนั้น จริง ๆ ก็คือรู้เห็นได้ แต่เหมือนอย่างกับเวลากลางคืนแล้วเราตั้งใจมองอะไร อย่างเก่งก็เห็นเป็นเงาตะคุ่ม ๆ จากอายุ ๑๖ ปี ซักซ้อมแบบหัวไม่วางหางไม่เว้น จนคนรอบข้างว่า "บ้า" มาจนกระทั่งรับสังฆทานที่บ้านอนุสาวรีย์ชัยฯ หลายปี ก็น่าจะเกิน ๑๐ ปี

    มีอยู่วันหนึ่งผมกำหนดใจออกไปแล้วผมก็แปลกใจ เพราะว่าผมสามารถแยกใบอ่อนกับใบแก่ของต้นไม้ได้ ก่อนหน้านั้นแค่รู้ว่านี่คือต้นไม้ ในเมื่อสามารถแยกใบอ่อนกับใบแก่ของต้นไม้ได้ เมื่อความละเอียดของจิตมีมากขึ้น เวลาเจอพรหม เทวดา หรือพระท่าน ก็สามารถที่จะเห็นรายละเอียดได้มากขึ้น เวลาสอนพวกท่านทั้งหลายเจริญกรรมฐาน ผมถึงได้ย้ำหนักย้ำหนาว่า ฝึกใหม่ ๆ อย่าเพิ่งเอารายละเอียด พวกคุณต้องเห็นว่า ผมเองซักซ้อมแบบหัวไม่วาง หางไม่เว้น ทำจนทุกคนรอบข้างว่าบ้า ยังใช้เวลาหลายสิบปี กว่าที่จะแยกออกว่าใบไม้อ่อนกับแก่ต่างกันอย่างไร


    แต่มาปีที่อายุ ๖๒ ปีเต็ม วันนั้นเลย เพราะว่าถ้าเป็นวันที่ ๒๑ เมื่อไรก็เริ่มขึ้น ๖๓ ปี จากที่ผมเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมไม่เคยชัดเจนมาก่อน เพราะว่าพระองค์ท่านเหมือนอย่างกับเป็นกลุ่มพลังงานในรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สว่างเจิดจ้า เหมือนเรามองพระอาทิตย์ยามเที่ยง เอารายละเอียดไม่ได้

    วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๒ ผมสามารถแยกรายละเอียดได้ อายุ ๑๖ จน ๖๒ ทำแบบไม่เคยทิ้งเลยแม้แต่วันเดียว ถึงแยกรายละเอียดได้ แล้วประกอบไปทรงฌานตั้งเวลา ๑ ชั่วโมงเต็ม ๆ ตอนพิธีปลุกเสก ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ประมาณ ๓๐ ชั่วโมง ผมยังไม่ได้นอนเลย..! ใจสว่างโพลง ตื่นอยู่ตลอดเวลา ถ้าเหนื่อยมากก็ใช้วิธีเอนหลัง ภาวนาสัก ๒๐ นาที ๓๐ นาที แล้วก็ทำงานต่อ

    เรื่องนี้ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายทำถึงตรงจุดนี้ อย่าไปคิดว่าเราไม่ได้หลับ ถ้าร่างกายเอนลงไปนอนแล้ว ได้พักผ่อนแล้ว สภาพจิตของเรา ถ้าทำถึงจริง ๆ จะตื่นหรือหลับ จิตของเราจะตื่นรู้เท่ากัน อย่างที่เคยบอกไปหลายครั้งว่า แม้แต่เรากรน ยังรู้ว่าเรากรน แสดงว่าร่างกายหลับ แต่ใจของเราตื่น


    ในเมื่อเคยชินกับสภาพเช่นนี้ ผมก็เลยไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพียงแต่ว่าเรียนถวายท่านทั้งหลายและบอกกล่าวให้แก่ญาติโยมว่า ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น ถ้าเราตั้งใจทำจริง ๆ ความก้าวหน้าจะมีไปเป็นลำดับ ๆ ไม่ต้องมองอะไรมาก แค่มองไปว่า ก่อนหน้านี้ เรารักษาศีลได้ครบถ้วนหรือไม่ แล้วปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร ? แค่นั้น เราก็จะเห็นความก้าวหน้าแล้ว
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,578
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    ฉะนั้น..ในส่วนนี้ที่บอกกล่าว เพื่อเป็นกำลังใจแก่ท่านทั้งหลายที่อาจจะเห็นว่า เราทำอะไรไม่มีความก้าวหน้าเลย..ไม่ใช่ บางวาระ บางเวลา ต้องรอกำลังของเราเพียงพอ เหมือนอย่างกับน้ำโดนเขื่อนกั้นอยู่ ต้องค่อย ๆ สะสมตัวเองจนปริมาณเพียงพอ ถึงจะล้นไหลข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งได้ ต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่า เราปฏิบัติความดีทุกอย่างเพื่อเป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา ตายเมื่อไรเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว แล้วก็ลุยไปเลย ไม่ต้องไปใส่ใจเรื่องอื่น..!

    ถ้าใครมีเวลามาก เป็นนักบวช เป็นพระภิกษุ สามเณร แม่ชี ก็ว่าไปเต็มที่ได้เลย เพราะว่าสมัยที่ฝึกปฏิบัติหนัก ๆ คืนหนึ่งผมนอนอย่างเก่งก็แค่ ๒ ชั่วโมง แต่ถ้าหากว่าเป็นฆราวาส เราต้องตั้งเวลา อย่างเช่นว่า อาจจะเป็นเช้าครึ่งชั่วโมง กลางวันครึ่งชั่วโมง เย็นครึ่งชั่วโมง หรือว่าเช้าชั่วโมง เย็นชั่วโมง เพื่อจะได้มีเวลาทำหน้าที่การงานที่เรารับผิดชอบ

    เรื่องของการปฏิบัติธรรมต้องโลกไม่ช้ำ ธรรมไม่เสีย แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วที่ปรากฏก็คือ โลกช้ำมาก ต้องตัดสินใจให้ขาด เพราะว่ากิเลสคอยร้อยรัดเราอยู่ ถ้าไม่ตัดสินใจตูมเดียวจนโลกช้ำ ก็มักจะไปไม่รอด จึงเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา แล้วก็แจ้งแก่ญาติโยมทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ที่นี่และที่อยู่ทางบ้าน ทั้งในประเทศหรือต่างประเทศก็ดี เอาไว้คร่าว ๆ แต่เพียงเท่านี้


    และส่วนที่อยากจะเตือนทุกท่านก็คือ ถ้าเป็นไปได้เร่งขวนขวายฉีดวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ระลอก ๓ ของบ้านเรา นอกจากจะไม่จบง่าย ๆ แล้ว มีทีท่าว่าจะพุ่งสูงจนกระทั่งอาจจะต้องล็อกดาวน์กันอีกแล้ว..! ขอเจริญพร


    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพุธที่ ๒๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...